Thai VI

เงินลงทุมีรายการดังนี้
6.1 กองทุนเปิดทหารไทยธนบดี 1,488,814 11,321,801 1,488,814 11,321,801
บวก : กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน 59,676 7,777 59,676 7,777
มูลค่าสุทธิทางบัญชี 1,548,490 11,329,578 1,548,490 11,329,578

6.2 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ตราสารหนี้ 57,121,526 223,271 32,121,526 223,271
บวก : กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน 199,523 4,402 108,730 4,402
มูลค่าสุทธิทางบัญชี 57,321,049 227,673 32,230,256 227,673

6.3 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เกษียณสุข 60,000,000 - 60,000,000 -
บวก : กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน 93,386 - 93,386 -
มูลค่าสุทธิทางบัญชี 60,093,386
- 60,093,386 -

6.4 เงินฝากประจำธนาคาร (อัตราดอกเบี้ย  5.25% ต่อปี) 340,000,000 - 340,000,000 -

6.5 เงินลงทุนระยะสั้น SCB QUANT 1,443 - 1,443 -
458,964,368 11,557,251 433,873,575 11,557,251
แถวแรก-แถวสองเป็นงบรวม แถวแรกคือ 2549 แถว 2 คือ 2548
แถวสามและแถวสี่ เป็นงบเดี่ยว แถว3คือ 2549 แถว4 คือ 2548


จากหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อที่6
จะเห็นได้ว่าต้องไปตรวจสอบต่อว่า กองทุนที่ลงทุนไปนั้นเป็นกองทุนประเภทอะไร
แต่ที่น่าสนใจว่า เงินลงทุนมีอยู่ในรูปเงินฝากประจำธนาคาร แถมมีดอกเบี้ย5.25%ต่อปี แต่ไม่บอกว่าฝากประจำกี่เดือนหรือกี่ปี
ต้องให้เดากันอีก

หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อที่7
เมื่อดูแล้วจะเห็นได้ว่า ตั้งสำรองเกือบ 100%กับลูกหนี้ที่มากกว่า 12 เดือน
หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อที่8
งบเดี่ยวจะเห็นว่ารายได้จากการรับจ้างผลิต มีมูลค่า262.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรายได้ 748,555,555 บาท
คิดได้ประมาณ 1 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท (ในงบเดี่ยว)

ที่สงสัยเพิ่มเติม
ในระหว่างปี 2549 บริษัทฯได้รับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมจากการช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินงานจากบริษัท คลัฟ ซิโน-ไทย จำกัด (บริษัทย่อย) เป็นเงินจำนวนรวมประมาณ 63.8 ล้านบาท
งานนี้ส่งให้บริษัทลูกใช้เงินในการทำกิจการหรือเปล่าเนี่ย แถมบริษัทนี้จะเกี่ยวจ้องกับซิโน-ไทยหรือเปล่าเนี่ย

ประเด็นนี้แหละ ชัดเจนมาก ถ้าตอบไม่เคลีย ก็ผ่องถ่ายแน่นอน

หากผู้บริหารตอบว่า  เงิน 120 ล้าน  รวมอยู่ในเงินลงทุนระยะสั้น
เีรียบร้อยแล้ว     เรามีอะไรจะแย้งได้หรือเปล่าครับ ว่าไม่ถูกต้อง

รอผลก่อน ค่อยคิดดีกว่า ครับ มีหุ้นอื่นให้ดูอีกเยอะ

พี่เจ๋งกับพี่มิราเกิ้ลเปิดคลาสแล้ว  :o
ผมจะรอติดตามต่อนะครับ

เงินดังกล่าวเอาไปฝาก Bank ค่ะซึ่งจะ Present อยู่ในหัวข้อ เงินลงทุนชั่วคราวเนื่องจากเป็นเงินฝากประจำระยะเวลามากกว่า 3 เดือน และ ให้ผลตอบแทนดีแต่ความเสี่ยงต่ำค่ะ



ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

ขอขุดกระทู้นี้ขึ้นมาครับ

อย่าทะเลาะกันเลย มาเคลียร์เรื่องนี้ต่อดีกว่า

เงินดังกล่าวเอาไปฝาก Bank ค่ะซึ่งจะ Present อยู่ในหัวข้อ เงินลงทุนชั่วคราวเนื่องจากเป็นเงินฝากประจำระยะเวลามากกว่า 3 เดือน และ ให้ผลตอบแทนดีแต่ความเสี่ยงต่ำค่ะ



ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

ผมฟันธงได้มั้ยครับ ว่าเงิน120Mนั่นหายไปแล้ว

จาก net profit ( หักออก 120 ไปแล้ว)
CFO (บวก120กลับ และ หัก120ออกไปอีกรอบ เท่ากับ 0 )
ที่เหลือ ก็ไม่เกี่ยว
ดังนั้น ณ. ปลายงวด 2006, เงินสดและรายการเที่ยบเท่าเงินสดทั้งหลายที่บันทึกใว้ น้อยกว่าเงินสดที่มีจริงไปแล้วหล่ะครับ จะโอนเข้ากระเป๋าใครไปก็คงได้แล้ว

การตอบของ quote ข้างบนไม่ได้ช่วยทำให้อะไรกระจ่างได้เลย เพราะยังไงๆก็ระบุไม่ได้ว่าที่มาที่ไปมันเป็นยังไงอ่ะ

เอ หรือทุกคนรู้กันนานแล้วหว่า

ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ไม่นานมานี้มีโบรกนึงออกบทวิเคราะห์ของ Stpi โดยเขียวว่ามีเงินสดในมือ 600 กว่าล้าน ผมคิดว่าเค้าอาจจะคิดเหมือนคุณ jeng ครับ

ดูเหมือนกับว่า ใน q4   ไม่ได้เกิดกำไรเพิ่มขึ้นเลย

อย่าลืมเก็บไปถามในที่ประชุม นะครับพี่น้อง  8)  ...

วันนี้เพิ่งมีเพื่อนชวนอ่านงบตัวนี้

ผมพยายามหาสาเหตุเข้าข้างบริษัทว่างบถูกต้อง แต่ยังๆก็หาไม่เจอนะครับ อยู่ดีๆเงินหายไปไหน 120 M ไม่น่าจะทำการกรอกรายการใน OCF แบบนี้นะครับ

อยากให้ช่วยกันดูนะครับ เพราะงบนี้ผมจำได้ว่า STPI จ้าง E&Y มาตรวจ แถมคนตรวจก็ให้ผ่านซะงั้น มันน่าจะไม่มีเรื่องน่าสงสัยระดับที่ คนธรรมดาก็สามารถตั้งข้อสังเกตุได้อยู่เลย

ผมว่า มันมีรายการหายไปอันนึ้ง เพราะถ้าคิด กรณีที่บริษัทไม่ได้ตั้งสำรอง กำไรก็ต้องเพิ่มขึ้น 120 M และ รายการอื่นๆจะไม่มี
ดังนั้นถ้าคิดว่ามีการตั้งสำรอง กำไรจะลด หนี้เพิ่ม แต่ไม่ส่งผลต่อ Cash แต่นี่กลายเป็น Cash หายไป 120 M เยอะนะเนี่ย

กรณีนี้น่าสนุกมาก ถึงไม่มีหุ้นแต่ขอเข้ามาแจม

120 ล้านนี่เท่ากับปันผล 50ตังค์เลยนะครับเนี่ย

ผมไม่เคยตั้งแง่เรื่องธรรมาภิบาลของstpiมาก่อน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้เห็นอย่างชัดเจนครับ

ผมเห็นด้วยครับคุณ jody งบนี้มีมั่วให้เห็นครับ ผมลองเทียงกับ บริษัทที่มีการตั้งสำรองหนี้อย่าง ck แล้วพบว่า ในงบกำไรขาดทุนมีการหักออกไปแล้ว งบกระแสเงินสดช่องหนี้สิน จะไม่มีการหักออกซ้ำ

หรือดูตามความจริงง่ายๆ ตั้งสำรอง เงินสดยังคงอยู่ที่บริษัท มันจะหายไปจากงบกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานได้อย่างไร

สงสัยคือผู้ตรวจสอบ รับรองได้อย่างไร ไม่ได้จบบัญชีผิดถูกอย่างไรขออภัย
แต่อยากรู้ว่าโทรไป บริษัท e&y คุยกับคนรับรองได้หรือไม่

ถ้ากันสำรอง กรณีที่ควรจะเกิดคือ

กำไรลดลง 120M จนอาจขาดทุน ถูกต้องแล้ว
หนี้เพิ่มขึ้น 120M เพราะเป็นหนี้ที่อาจต้องจ่าย ถูกต้องแล้ว
แต่ สินทรัพย์ ไม่ควรลดลง ครับ

งบ stpi Q4 นี้ สินทรัพย์ส่วนนี้หายไปเพราะความไม่ถูกต้องครับ

net profit เป็นตัวตั้ง ของ งบกระแสเงินสด
การลดลงของ net profit เพราะการกันสำรอง ทำให้เงินสดเกิดจริงจากงวดควรมีมากกว่า net profit
ก็มีการบวกกลับใน cashflow from operation ก่อนการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สิน ก็ถูกต้องแล้ว ฌ บรรทัดนี้ ได้สะท้อนเงินสดที่เกิดจากงานจริงเรียบร้อยแล้ว
แต่ เกิดหักออกในช่องของการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สิน ของ CFO ฌ บรรทัดนี้ เงินสดที่บรรทึก น้อยกว่าความเป็นจริงไปแล้ว 120M
จนบรรทัดสุดท้ายของงบกระแสเงินสด ไม่มี item อะไรมาบวกกลับอีกเลย
ดังนั้น จำนวนเงินนี้ ถูกนำไปบรรทึกที่ช่อง สินทรัพย์ ในงบดุลที่ผม highlight แดงใว้ข้างบน

ดังนั้น งบในงวดนี้
สินทรัพย์ ลดลงเกินจริง 120M
หนี้สิน เพิ่ม ตามจริง 120M
กำไรขาดทุน ลด ตามจริง 120M

ครับ

ผิดถูก ชี้แนะด้วยครับ

ผมไม่ใช่เซียนซะด้วย

phobenius เขียน:เงินดังกล่าวเอาไปฝาก Bank ค่ะซึ่งจะ Present อยู่ในหัวข้อ เงินลงทุนชั่วคราวเนื่องจากเป็นเงินฝากประจำระยะเวลามากกว่า 3 เดือน และ ให้ผลตอบแทนดีแต่ความเสี่ยงต่ำค่ะ



ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

คุณ phobenuis พอจะบอกได้มั้ยครับ ใครเป็นคนชี้แจงเรื่องดังกล่าว ถ้ามีการผ่องถ่ายเงินจริง ผมว่าเราต้องเอาเรื่องแล้วล่ะครับ

ปันผลจ่าย 0.05 x250Mหุ้น = 12.5 ล้าน
ในขณะที่บรรทึกเงินหายไป 120 ล้าน , 10 เท่าเลยนะครับ ผู้บริหารไม่กี่คนรับปันผลใต้โต๊ะกันเองแบบนี้

ส่วนนี่ ชื่อ auditor ครับ

ศุภชัย  ปัญญาวัฒโน
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 3930
บริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด

เป็นอีกคนที่ต้องเอาเรื่องครับ

ไปดูมาแล้วครับเงินขนาดนั้นคงไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ
เค้าอาจจะลงผิดหรือเราไม่เข้าใจเอง..

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดบวกกลับครั้งแรกเพราะเงินไม่ได้ออกจริง เป็นกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงาน

หลังจากนั้นไปบวกอยู่ในลูกหนี้การค้าที่ลดลง และไปลบอีกครั้งที่สำรองหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น ในกระเงินสดหลังการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สิน บวกและลบเท่ากับศูนย์พอดี

เท่ากับว่ามีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวก 120 ล.

แต่ทำไมต้องบวกและลบอีกครั้งในกระแสเงินสดหลังฯ ไม่เข้าใจเหมือนกัน..

ผมหาเงิน 120 ล้านเจอแล้วครับ สังเกตบรรทัด ต้นทุนงานก่อสร้างที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ ระหว่างงบดุล กับงบกระแสเงินสด จะต่างกัน 120 ล้านพอดีครับ แต่ผมยังไม่เข้าใจงบกระแสอยู่ดี ฝากคุณโจ มาแถลงต่อ

charnengi เขียน:ผมหาเงิน 120 ล้านเจอแล้วครับ สังเกตบรรทัด ต้นทุนงานก่อสร้างที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ ระหว่างงบดุล กับงบกระแสเงินสด จะต่างกัน 120 ล้านพอดีครับ แต่ผมยังไม่เข้าใจงบกระแสอยู่ดี ฝากคุณโจ มาแถลงต่อ

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด "ต้นทุนงานก่อสร้างที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ" จะเป็นมูลค่าของที่สั่งซื้อมาเพื่อทำงานแล้วยังไม่ได้จ่ายเงินให้ supplier นะครับ ดังนั้นส่วนนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกัน

2006-Q4 = 86,661,014
2006-Q3 = 131,065,000

ลดลง QoQ =  44,403,986

ควรจะหมายถึงว่า ของที่สั่งซื้อมาเหลือส่วนที่ยังไม่ได้จ่ายให้ supplier ณ Q3 = 131M และได้ทะยอยจ่ายหักกับที่สั่งไปใหม่แล้ว จ่ายไปมากกว่าสั่งเพิ่มช่วงQ4 = 44.4M ครับ

สรุปอีกทีว่าไม่น่าจะเกี่ยวนะครับ

ลูกอิสาน เขียน:ไปดูมาแล้วครับเงินขนาดนั้นคงไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ
เค้าอาจจะลงผิดหรือเราไม่เข้าใจเอง..

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดบวกกลับครั้งแรกเพราะเงินไม่ได้ออกจริง เป็นกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงาน

หลังจากนั้นไปบวกอยู่ในลูกหนี้การค้าที่ลดลง และไปลบอีกครั้งที่สำรองหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น ในกระเงินสดหลังการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สิน บวกและลบเท่ากับศูนย์พอดี

เท่ากับว่ามีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวก 120 ล.

แต่ทำไมต้องบวกและลบอีกครั้งในกระแสเงินสดหลังฯ ไม่เข้าใจเหมือนกัน..

พึ่งเข้าใจวิธีคิดของเค้าครับ ในรายการ ลูกหนี้การค้าที่ลดลง ในกระแสเงินสดหลังฯ

ถ้าลองดูชื่อรายการนี้เต็มๆในCFหลังฯ จะชื่อว่า ลูกหนี้การค้าและรายได้ที่ยังไม่เรียกชำระ
หมายความว่ามันไม่ได้มาจากการเปลี่ยนแปลงของรายการเดียวของงบดุลครับ มาจาก การเปลี่ยนแปลงของ
1. ลูกหนี้การค้าสุทธิ
2. รายได้ที่ยังไม่เรียกชำระ

ข้อ 1 YoY = -375M
ข้อ 2 YoY = -119M

ดังนั้น ใน CFO หลังฯ จะได้ ลูกหนี้การค้าและรายได้ที่ยังไม่เรียกชำระ = -375M - 119M = -494M
ซึ่งตรงกับที่ใส่ใว้จริงๆครับ

สรุป ไม่น่าจะเกี่ยวกับการสำรองครับ ถ้าดูงบ Q3 ด้วยแล้วจะเห็นว่าเปลี่ยนแปลงมาค่อนข้างคงที่ครับ

jody4003 เขียน:

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด "ต้นทุนงานก่อสร้างที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ" จะเป็นมูลค่าของที่สั่งซื้อมาเพื่อทำงานแล้วยังไม่ได้จ่ายเงินให้ supplier นะครับ ดังนั้นส่วนนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกัน

2006-Q4 = 86,661,014
2006-Q3 = 131,065,000

ลดลง QoQ =

ผมอธิบายไม่ค่อยเก่ง จะงงๆหน่อย ถ้าไม่สนใจก็อ่านผ่านๆนะครับ แต่ถ้าสนใจจริงๆ แนะนำว่าให้กางงบปีและQ3 ดูไปด้วย
ไม่งั้น อ่านที่ผมพิมพ์อย่างเดียวคงไม่เข้าใจแหงๆๆ  :roll:

เย้ๆ หาเงินเจอแล้วจริงๆด้วย

ผมลองเอา "ต้นทุนงานก่อสร้างที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ" จาก Dec-49 - Dec-48 จะได้ -125.458 M แต่ใน CFO จะเห็นว่า

หนี้สินจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น (ลดลง): ต้นทุนงานก่อสร้างที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ มีค่าแค่  -5.458 M ลบน้อยไป 120M พอดีเป๊ะๆ

ยอดไปเลยคุณ jody4003 Welcome back

แบบนี้ถ้าต่อไปเราเจอกรณีที่น่าสงสัยว่าเงินหาย ต้องมาลองคำนวณ CF เอง แล้วเทียบรายการกับงบจริง ฮ่วย แต่ว่างานนี้ก็หายากจริงๆนะ ไม่ได้ทำงบเองใครจะไปรู้ฟ่ะ

    ขอบคุณครับ คุณjody4003  

สรุปว่า เงิน 120 ล้านบาทนี้ ยังอยู่ในงบ อืมม

นึกว่าผ่องถ่ายไปไหนแล้ว ทำเอาขนลุกเลย  :x

ตอนประชุมคงสนุกนะครับแบบนี้

ป.ล. เห็นราคา 2.xx นำหน้าแล้ว โว้วเย!