WG ปันผล 2.50 บาท แถมมี ESOP ซะด้วย
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 11:24 pm
ขออนุญาติ แสดงความเห็นนิดนึง พร้อมกับการยกตัวอย่างหุ้นในอดีต 10 กว่าปีมาแล้ว นะครับ ในเรื่องการปันผลออกมามากๆ
ผมว่าถ้ารัก WG อยากอยู่กับเขานานๆ จริงๆ ให้เขาเก็บเงินไว้บ้างเถิดครับ
Once upon a time........
เมื่อปี 2537-38 ตอนนั้น มีหุ้นอยู่ตัวนึง ชื่อว่า sanyo
ที่จำได้เพราะว่าตอนนั้นเริ่มเล่นหุ้น แบบมั่วๆ ตอนนั้น NTV ยัง 20 บาท เองมั๊ง ตอนนั้นแฟนเป็นมาร์....อยู่ในเครือ ฟินวัน ครับ
เรื่องนี้จำได้ดี เพราะอ่านบทสัมภาษณ์เจ้าของคนไทยด้วย
ตอนนั้น sanyo กำไรดี มีเท่าไรปันผลหมดเลย( มั๊ง ถ้าจำไม่ผิด ) คือปันผลดีมากๆ เจ้าของก็เจตนาปันผลออกมามากๆ แล้วเจ้าของก็ให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทไม่เป็นไร หรอก ปันผลมาแล้ว ทุกคนได้ ถ้าเราต้องการลงทุนเพิ่ม เราก็เพิ่มทุน ใครๆก็อยากเพิ่มทุน ร่วมลงทุนด้วยอยู่แล้ว....ซึ่ง ตอนนั้นมันก็จริงอย่างที่เขาพูดแหล่ะครับ
ก็จริงครับ ทีนี้ พอมีเงินสดอยู่ในบริษัทน้อย พอเจอวิกฤตเข้าไปเท่านั้นแหล่ะครับ ไม่มีเงิน แล้วจะหาใครมาเพิ่มทุนหล่ะ ไม่มี จะหากู้เหรอ ไม่มีใครปล่อยเงินมาให้ ท้ายที่สุด ญี่ป่นเข้ามาเพิ่มทุนเอาไปหมดเลย แล้วเอาออกจากตลาด.....
ใครจะนึกว่าจะมีเรื่องปี 2540 เข้ามาได้ ตอนนั้นปี 2537 - 2538 เอง
ถ้าอย่างคุณ akekarat ต้องการเงินมากๆ ต้องหาเงินมาเยอะๆมาซื้อ WG. แล้ว จะได้เข้าไปมีส่วนบริหารบริษัท แล้วมีสิทธิ์ยกมือ ให้ปันผลเยอะๆ
หรือไม่ก็ฉีกบริษัทออกเป็นชิ้นๆ แล้วแยกขาย อาจจะกำไรกว่าเยอะครับ อิอิอิ
อันหลังนี่ ล้อเล่นนะครับ
ดังนั้นอยากบอกว่า ถ้ารักกันจริง ก็อย่าโลภมากเลยครับ อย่าเด็ดกิ่งมะม่วงแบบยับเยินเพียงเพื่อเอาผลมะม่วง จนต้นมะม่วงตายเลยนะครับ
ผมว่าถ้ารัก WG อยากอยู่กับเขานานๆ จริงๆ ให้เขาเก็บเงินไว้บ้างเถิดครับ
Once upon a time........
เมื่อปี 2537-38 ตอนนั้น มีหุ้นอยู่ตัวนึง ชื่อว่า sanyo
ที่จำได้เพราะว่าตอนนั้นเริ่มเล่นหุ้น แบบมั่วๆ ตอนนั้น NTV ยัง 20 บาท เองมั๊ง ตอนนั้นแฟนเป็นมาร์....อยู่ในเครือ ฟินวัน ครับ
เรื่องนี้จำได้ดี เพราะอ่านบทสัมภาษณ์เจ้าของคนไทยด้วย
ตอนนั้น sanyo กำไรดี มีเท่าไรปันผลหมดเลย( มั๊ง ถ้าจำไม่ผิด ) คือปันผลดีมากๆ เจ้าของก็เจตนาปันผลออกมามากๆ แล้วเจ้าของก็ให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทไม่เป็นไร หรอก ปันผลมาแล้ว ทุกคนได้ ถ้าเราต้องการลงทุนเพิ่ม เราก็เพิ่มทุน ใครๆก็อยากเพิ่มทุน ร่วมลงทุนด้วยอยู่แล้ว....ซึ่ง ตอนนั้นมันก็จริงอย่างที่เขาพูดแหล่ะครับ
ก็จริงครับ ทีนี้ พอมีเงินสดอยู่ในบริษัทน้อย พอเจอวิกฤตเข้าไปเท่านั้นแหล่ะครับ ไม่มีเงิน แล้วจะหาใครมาเพิ่มทุนหล่ะ ไม่มี จะหากู้เหรอ ไม่มีใครปล่อยเงินมาให้ ท้ายที่สุด ญี่ป่นเข้ามาเพิ่มทุนเอาไปหมดเลย แล้วเอาออกจากตลาด.....
ใครจะนึกว่าจะมีเรื่องปี 2540 เข้ามาได้ ตอนนั้นปี 2537 - 2538 เอง
ถ้าอย่างคุณ akekarat ต้องการเงินมากๆ ต้องหาเงินมาเยอะๆมาซื้อ WG. แล้ว จะได้เข้าไปมีส่วนบริหารบริษัท แล้วมีสิทธิ์ยกมือ ให้ปันผลเยอะๆ
หรือไม่ก็ฉีกบริษัทออกเป็นชิ้นๆ แล้วแยกขาย อาจจะกำไรกว่าเยอะครับ อิอิอิ
อันหลังนี่ ล้อเล่นนะครับ
ดังนั้นอยากบอกว่า ถ้ารักกันจริง ก็อย่าโลภมากเลยครับ อย่าเด็ดกิ่งมะม่วงแบบยับเยินเพียงเพื่อเอาผลมะม่วง จนต้นมะม่วงตายเลยนะครับ