Thai VI

ฟังคุณ ธาริสา ผู้ว่า ธปท.ให้สัมภาษณ์ รายการ สรยุทธ์ ช่อง  3 พอสรุปได้ว่า

ในตอนแรกไม่ทราบว่าสามารถแยกเงินที่มาลงในตลาดตราสารหนี้ กับ

ตลาดทุนได้  จึงประกาศรวมไปก่อน  หลังจากประชุมหารือกับโบรคเกอร์  

บอกสามารถแยกเงินที่นำมาลงทุนในตลาดทุนทำได้ จึงได้ยกเลิกมาตรการนี้

ในตลาดทุน  ซึ่ง สรยุทธ์ก็ถามต่อว่า ทำไมไม่หารือก่อนประกาศครั้งแรก  เธอ

ก็ตอบว่า ถ้าหารือแล้วข่าวจะรั่ว  สรยุทธ์ ถามต่อ ทำไมไม่ใช้มาตรการลด

ดอกเบี้ย เธอก็ตอบว่า ลดดอกเบี้ย มีผลได้ทั้งสองทาง อาจทำให้เงินทุนไหล

เข้ามาเพิ่มอีก กดค่าเงินบาทให้ยิ่งแข็งทำให้เรียลเซกเตอร์ ยิ่งแข่งขันส่งออก

ไม่ได้ สุดท้ายก็จะเฉาไปทั้งระบบ

  ผมฟังดูก็โอเคนะ  มีเหตุผล

วันนี้ (21 ธ.ค.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาทของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก่อนจะมีการประกาศยกเลิกในเวลาต่อมา ว่า เป็นวิธีการที่ผู้ว่าการ ธปท.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้พิจารณาร่วมกันว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการดำเนินการ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องทันเวลา เพื่อไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเกินไปตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งการประกาศใช้มาตรการดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่เกิดขึ้นจริง
มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบทั้งบวกและลบ เป็นเรื่องปกติของการดำเนินการ นโยบายไม่ได้กลับไปกลับมา นโยบายแน่นอนชัดเจนเพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งค่ามากเกินไป และกระทบต่อเศรษฐกิจของเรานายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวด้วยว่า มาตรการที่ธปท.ประกาศใช้นั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่ได้รายงานให้ทราบก่อน เนื่องจากเข้าใจนโยบายหลักร่วมกัน ที่ไม่ต้องการให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไปอยู่แล้ว
[/b]
โปรดใช้วิจารณาญาณในการอ่านนะครับ...

สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ยังเรียกร้องรัฐบาลดูแลค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงอีก โดยต้องการเห็นค่าเงินบาทอยู่ที่ 38-39 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ พร้อมเสนอรัฐลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อลดผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่ยอดการส่งออกอัญมณีตลอดปี 2549 คาดว่าจะส่งออกได้ตามเป้าหมาย 150,000 ล้านบาท


(ไปอ่านต่อเองใน Link)

http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000156039

คิดดู จะเอา 38-39 บาท

สรุป เอาไงดี ....

ถ้าจะให้อ่อนขนาด 38-39บาท ผมไปซื้อดอลลาร์ไว้เก็งกำไรด้วยดีกว่า  แหมแต่อยากให้มีคนมาบอกก่อนจังว่าจะทำให้เมื่อไหร่

[quote="Kuruni"]ถ้าจะให้อ่อนขนาด 38-39บาท ผมไปซื้อดอลลาร์ไว้เก็งกำไรด้วยดีกว่า

[quote="chatchai"]ตอนนี้ใครๆก็มองดูการเก็งกำไรเป็นเรื่องเลวร้าย

ธาริสา

สรยุทธ์ ถามต่อ ทำไมไม่ใช้มาตรการลดดอกเบี้ย เธอก็ตอบว่า ลดดอกเบี้ย มีผลได้ทั้งสองทาง อาจทำให้เงินทุนไหลเข้ามาเพิ่มอีก กดค่าเงินบาทให้ยิ่งแข็งทำให้เรียลเซกเตอร์ ยิ่งแข่งขันส่งออกไม่ได้ สุดท้ายก็จะเฉาไปทั้งระบบ

จินตนาการแบบนี้ผมตามไม่ทัน  ทำไมลดดอกเบี้ยแล้วทำให้เงินไหลเข้ามาเพิ่มอีก  งง.......

โอเคว่าคุณใช้คำว่า อาจทำให้เงินทุนไหลเข้ามาเพิ่มอีก ซึ่งอาจจะนั้อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้  แล้วอาจจะของคุณมันมีโอกาสมากแค่ไหน เพราะใครๆเขาก็คิดไปถึงขั้นยกมาเป็นทางออกการแก้ปัญหานี้โดยการลดดอกเบี้ยด้วยซ้ำไป

แล้วโอกาสแค่น้อยแต่นี้คุณถึงกับเลือกที่จะใช้ทางเดินอีกทางเลยหรือ  แล้วทางที่คุณเลือกมันไม่อาจจะเสียหายรุนแรงกว่าเดิมหรือ ......

ขอออกความเห็นด้วยคนครับ

ในส่วนตัวผม ผมเชื่อว่ารัฐบาลนี้ ได้ทำอะไรแหวกแนวดีนะครับ เป็นการแก้ปัญหาที่ค่อนข้างตรงจุด ถึงรากเหง้าของโครงสร้างตลาดทุนในเมืองไทย คือเราค่อนข้างเพิ่งเม็ดเงินต่างชาติค่อนข้างจะมาก ทำให้ขาดเสถียรภาพในตลาด ว่าง่ายๆ ต้องพึ่งพา หรือ Bargaining Power ค่อนข้างต่ำนะครับ หรือจะว่าง่ายๆ คือแนวๆ อาณานิคมเงินทุนนะ

ทีนี้มันเกี่ยวกับ นโยบายนี้ยังไง คือนโยบายนี้เชื่อว่าตั้งใจจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพ ลดความผันผวนให้ลดลง เนื่องจากมุ่งผลบังคับให้เงินทุนมาอยู่ในระยะยาวขึ้นนั่นเอง พร้อมทั้งจะช่วยให้ลดความร้อนแรงของเงินทุนต่างชาติ และลดการแข็งค่าของเงินบาทได้ไปในตัว

คือๆ ดูๆไปก็ดีนะครับ เพียงแต่ว่า >_<

คงทำเร็วไปหน่อย โดยที่ปัจจัยภายในประเทศยังไม่ดีพอ ทั้งอาจจะยังศึกษาถึง Reaction ของนโยบายต่ำเกินไป เลยทำให้ได้อย่างที่เห็น ที่ไม่ดีคือ ถ้าไม่มีเงินทุนข้างนอกเข้ามาอีกในระยะสั้น พร้อมเงินไหลออก เราจะเอาเงินจากไหน เพราะว่าปัจจุบันประชาชนที่มีความรู้ และพร้อมจะมาลงทุนในตลาดทุนก็มีค่อนข้างจำกัด ประกอบกับ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ออกมาเพื่อเน้นเศรษฐกิจ (จนไม่รู้ว่า ใช้คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงฟุ่มเฟือยไปหรือเปล่า ไม่เข้าการเมืองดีกว่า กลับมาใหม่ ...)  การเมืองไม่นิ่ง อัยการศึกก็ยังมีอยู่ ว่าง่ายๆ คือความเสี่ยงยังค่อนข้างสูงอยู่ครับ แบบนี้ ใครจะก็ลงยาวละครับ ถ้ามองง่ายๆ ตลาดบ้านข้างเคียงแม้จะแพงกว่านิด แต่น่าจะคุ้มกว่า ตลาดไทยที่รวมความเสี่ยงต่างๆนี้แล้ว ผลก็แบบที่เห็น

นโยบายนี้น่าจะดีกว่านี้ หากค่อยๆเริ่มทีละนิด พร้อมพยายามปรับโครงสร้าง ลดความเสี่ยง และสนับสนุกการลงทุนทางธุรกิจไปด้วยอย่างชัดเจน และทำได้จริง เช่น อาจเริ่มจากการทำระยะสั้นที่ 3 เดือน แทนที่จะ 1 ปีเป็นต้น

โดยรวม นโยบายตรงประเด็น แต่เร็วไปหน่อย นะผมว่า

อีกประเด็นคือ เมื่อรู้ว่า นโยบายไม่เวิ้ก ละ Take Action ทันทีนี่ก็โอเคนะครับ (เพียงแต่จะดีกว่านี้ถ้าค่อยๆทำ) แต่ผมว่าน่าจะสื่อสารได้ดีกว่านี้ เข้าใจนักลงทุนทั้ง "ใน" และ "ต่าง" ประเทศมากกว่านี้นะผมว่า เท่าที่เห็นจากสื่อดูไม่ค่อย Take Care เท่าที่ควรเลย    เหมือนระบบเงินทุนเป็นความชั่วร้าย ไม่ต้องสนใจ แต่อยากได้เศรษฐกิจดีซะงั้น ในเมื่อนักลงทุนในประเทศยังไม่ได้รับความใส่ใจ จะให้ต่างชาติเชื่อได้ไงหว่า .... อย่าน้อยน่าจะแสดงความเสียใจบ้าง

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวครับ รู้สึกจะเป็นครั้งแรกที่ตอบซะด้วย ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยครับ

มีอะไร Comment ได้นะครับ

แบบนี้จินตนาการบ้าง

เฮจด์ฟัน เห็นช่อง
ขนดอลมาซื้อบาท เอาให้แข็งสัก 30 เลยก็ได้

แล้วปั่นตลาดหุ้น เอา 2 เด้ง
กลับมาพายเรือในอ่างเหมือนเดิม
แต่ตอนเฮจด์ฟันกลับมา
คนขายให้คือใครละเนี่ยะ

comment ว่าคุณเป็นคนพูดน้อยจริงๆ

Chain เขียน:ขอออกความเห็นด้วยคนครับ
คือๆ ดูๆไปก็ดีนะครับ เพียงแต่ว่า >_<

โดยรวม นโยบายตรงประเด็น แต่เร็วไปหน่อย นะผมว่า

คงไม่เร็วหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะมาตรการที่ไม่ได้เปิดเผยมากนัก
ก่อนหน้านี้จัดการไม่ได้ผล & จนขาดทุนเป็นหมื่นกว่าล้านหรือเปล่า
เลยจำต้องใช้วิธีเบรคหัวคะมำโดยด่วน
บาทไม่ได้พึ่งจะมาแข็ง วันสองวันนี่คะ

พูดน้อยจิงๆ ค่ะ  :lol:

ไม่ชื่นชม  และไม่ด่าครับ

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:

ขอบคุณครับ

คือว่า สมัครไว้นานละ แต่เพิ่งจะมาดูจริงๆ ก็สามเดือนที่ผ่านมานะครับ

แฮะ แฮะ

สรยุทธ์ ถามต่อ ทำไมไม่ใช้มาตรการลดดอกเบี้ย เธอก็ตอบว่า ลดดอกเบี้ย มีผลได้ทั้งสองทาง อาจทำให้เงินทุนไหลเข้ามาเพิ่มอีก กดค่าเงินบาทให้ยิ่งแข็งทำให้เรียลเซกเตอร์ ยิ่งแข่งขันส่งออกไม่ได้ สุดท้ายก็จะเฉาไปทั้งระบบ

เคยแต่เห็นในภาวะไม่ปกติ เงินทุนมีมาก อัตราดอกเบี้ยลดลง ตรงนี้เป็นไปได้

แต่อันนี้ เราลดอัตราดอกเบี้ย จะไปกระทบเงินลงทุนให้มากขึ้น
ยัง งงๆ เหมือนกัน ใครรู้อธิบายให้กระจ่างหน่อย

สามัญชน เขียน:ธาริสา

จินตนาการแบบนี้ผมตามไม่ทัน  ทำไมลดดอกเบี้ยแล้วทำให้เงินไหลเข้ามาเพิ่มอีก  งง.......
โอเคว่าคุณใช้คำว่า อาจทำให้เงินทุนไหลเข้ามาเพิ่มอีก ซึ่งอาจจะนั้อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้

การเพิ่มดอกเบี้ยจะเป็นการคงเงินไว้ครับ และนโยบายการเงินก็ควรเล่นผ่านอัตราดอกเบี้ย

อย่าง FED ที่ผ่านมา มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย มาเป็นระยะๆ เพื่อคงเงินไม่ให้ไหลออกนอกประเทศ เพื่อประกาศหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปริมาณดอลล่าก็มากขึ้น เงินดอลล่าก็อ่อนลง

และที่สำคัญ บอกว่าจะไปกระทบเรียลเซกเตอร์ ก็คือภาคการผลิต และที่ท่านเล่นลดเงินลงทุน ยิ่งไม่ไปกระทบ real sector เหรอครับ

แต่ก็ยอมรับน่ะ เล่นแบบนี้ stop ได้เยี่ยมเลย

เงินทุนที่ไหลมา มี ระยะสั้น , ระยะยาว

ก็เข้าใจเจตนาน่ะ ต้องการหยุดเงินทุนระยะสั้น ที่เข้ามาเก็งกำไร

และมาตราการที่ท่านทำ กระทบกับความเชื่อมั่นอย่างสุดๆเลย ต่อไปผมเดาว่าเงินลงทุนระยะยาว ก็น้อยลงเต็มที ผลที่ตามมาก็การเติบโตที่เชื้องช้า

คงเข้าแนวเศษรฐกิจ พอเพียง มั้ง  

:lol:  :lol:  :lol:

                 แล้วมาตราการต่อๆๆไป คลังหรือ ธปท จะเป็นคนออกกัน  :?:

สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศครับ
ครั้งก่อนเมืองไทยก็เป็นต้นเหตุวิกฤติไปแล้วครั้งหนึ่ง
มาเจอนโยบายรายวันที่ทำให้ตลาดทุนภูมิภาคนี้ต้องออกมาแถลงว่า มาเลย์ ฟิลิปปินส์ อินโดไม่ตามไทยนะ

ได้ขึ้นสำนักข่าวต่างประเทศด้วย
ขนาดที่ดาวโจนส์ ที่ว่าแน่ยังต้องรูดลงตาม SET ไทย

วันหลังเขาไม่ฟังปู่อลัน กรีนสแปนแถลงแล้วครับ
ต้องมาที่เมืองไทยเวลาที่ ผู้ว่า BOT หรือ รมต คลังแถลง

ผมขอชื่นชมหม่อมด้วยคนครับ เพราะทำให้หุ้นราคาถูกลงมากๆ เลยได้เก็บหุ้นแล้ว อิอิ

ถ้าหม่อมไม่ประกาศนโยบายออกมา จะได้เห็นโอกาสแบบนี้อีกเมื่อไหร่ครับ

คุณ jeng กับแม่ทัพสุมาอี้ ก็มาใบ้บอกไว้ก่อนแล้วด้วย แม่นจริงๆ หรือว่าจะปราชญ์แห่งยุคเกิดขึ้นแล้ว ที่สามารถหยั่งรู้ ดินฟ้า มหาสมุทร ได้จริงๆ  

เรื่องลดดอกแล้วอาจทำให้ทุนนอกไหลเข้า  เธอว่า เศรษฐกิจเราพื้นฐานดี  ลดดอกยิ่งดึงเงินทุนระยะสั้นเข้ามามาก  อยากให้ได้ฟังเอง  ผมกลัวตกหล่นจัง  
  เดาเอาว่า ลดดอกแล้วฝรั่งอาจเอาเงินมาทุ่มลงในตลาดหุ้นอีกหรือเปล่า  เงินบาทเลยจะยิ่งแข็ง
 
   ที่คุณ lekmak ว่าไว้

และที่สำคัญ บอกว่าจะไปกระทบเรียลเซกเตอร์ ก็คือภาคการผลิต และที่ท่านเล่นลดเงินลงทุน ยิ่งไม่ไปกระทบ real sector เหรอครับ

 
 ผมเองก็ความรู้น้อย  อยากทราบจริง การลงทุนของต่างชาติใน ตลท.  จะกระทบกับภาคการผลิตได้อย่างไร  ฝรั่งจะซื้อ-ขาย หุ้น  บริษัทจดทะเบียนจะมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นหรือลดลงไหม

สมัครไปทำงานเป็นผู้บริหารสูงสุดกับบริษัท ท่านนังจังดีกว่า

และหาทางทำอะไรก็ได้ ให้เกิดเรื่องผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงกับกิจการของท่าน

เอาให้เจ๊งเลย

เพราะอะไรถึงต้องทำเช่นนั้น

เพราะท่านจะขออนุญาติชมเรา

555

Jeng เขียน:สมัครไปทำงานเป็นผู้บริหารสูงสุดกับบริษัท ท่านนังจังดีกว่า

และหาทางทำอะไรก็ได้ ให้เกิดเรื่องผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงกับกิจการของท่าน

เอาให้เจ๊งเลย

เพราะอะไรถึงต้องทำเช่นนั้น

เพราะท่านจะขออนุญาตชมเรา

555

เอางั้นเลยเหรอพี่เจ๋ง  :shock:

ถ้าจะยากครับพี่ Jeng บริษัทท่านนานจัง พื้นฐานแข็งแกร่ง ขอรับครับกระผม

พื้นฐานแข็งเหรอ

อืม งั้นผมขอเป็นประธานกรรมการ แล้วอยู่ดีๆ ประกาศว่า เงินเดือนของพนักงานทุกคน เพื่อความมั่นคงของพนักงานทุกคน ผมขอเก็บเงินเดือนของพนักงานทุกคนไว้ 50 % ทุกเดือน เป็นระยะเวลา 1 ปี

เพื่อทุกคนจะได้ มีความร่ำรวย มีเงินเก็บกัน

เพราะได้ศึกษามาแล้วว่า ไม่ว่าจะได้เงินเดือนมากแค่ไหนก็ตาม แต่ไม่ค่อยมีเงินเก็บกัน ชอบเอาไปซื้อบ้านซื้อรถ กัน

และนโยบายเพื่อบริษัท ที่เจริญก้าวหน้าขึ้น อื่นๆ กำลังจะตามมาอีกอย่างมาก เช่น

ฝ่ายการตลาด หากมียอดขาย เพิ่มขึ้น เท่าไร ก็ตาม เดือนต่อไปต้องทำยอดขายเพิ่มขึ้นอีกสองเท่าตัว

ยกตัวอย่าง เดือนนี้มียอดขาย 2 แสน ต่อมามียอดขาย 3 แสน เท่ากับเพิ่ม 1 แสน เดือนต่อไป ต้องทำยอดขายเพิ่มเป็น 5 แสน

เมื่อพนักงานขายทุกคน ขายได้เพิ่มแบบนี้ บริษัทก็จะเจริญก้าวหน้า และถ้าใครทำไม่ได้ ให้ลดเงินเดือนละ 50 % เพื่อจะได้ตั้งใจทำ

เฮ

เอาอย่างนั้นเลยหรือครับพี่ Jeng

 :shock:  :shock:  :shock:  :shock:

สงสัยวันประกาศนโยบายต้องเช่ารถ SECURIOR ไปรับแล้วครับ


8)  8)  8)  8)  8)

สงสัย นางธาริษา คงกลัวว่า ถ้าลดดอกเบี้ย จะเป็นผลดีกับตลาดหุ้นแล้วเงินจะเข้ามาที่ตลาดหุ้น

เพิ่งจะเข้าใจว่าทำไมตลาดของเราถึงมี PE. ถูกที่สุด
เพราะมีคนคอยสกัดนี่เอง

สรยุทธ์ ถามต่อ ทำไมไม่ใช้มาตรการลดดอกเบี้ย เธอก็ตอบว่า ลดดอกเบี้ย มีผลได้ทั้งสองทาง อาจทำให้เงินทุนไหลเข้ามาเพิ่มอีก กดค่าเงินบาทให้ยิ่งแข็งทำให้เรียลเซกเตอร์ ยิ่งแข่งขันส่งออกไม่ได้ สุดท้ายก็จะเฉาไปทั้งระบบ  



จินตนาการแบบนี้ผมตามไม่ทัน  ทำไมลดดอกเบี้ยแล้วทำให้เงินไหลเข้ามาเพิ่มอีก  งง.......
โอเคว่าคุณใช้คำว่า อาจทำให้เงินทุนไหลเข้ามาเพิ่มอีก ซึ่งอาจจะนั้อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้  แล้วอาจจะของคุณมันมีโอกาสมากแค่ไหน เพราะใครๆเขาก็คิดไปถึงขั้นยกมาเป็นทางออกการแก้ปัญหานี้โดยการลดดอกเบี้ยด้วยซ้ำไป

แล้วโอกาสแค่น้อยแต่นี้คุณถึงกับเลือกที่จะใช้ทางเดินอีกทางเลยหรือ  แล้วทางที่คุณเลือกมันไม่อาจจะเสียหายรุนแรงกว่าเดิมหรือ ......

อ้อ ตอนเช้าผมนั่งฟังท่านพูดอยู่เหมือนกัน ท่านว่าการลดดบ. อาจเป็นการส่งสัญญาณผิดว่า ประเทศเรากำลังจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจกำลังจะดีขึ้น ต่างชาติก็จะยิ่งนำเงินเข้ามาเก็งกำไรมากขึ้นไปอีก

ประมาณนี้นะครับ

เดาว่าคุณ nanchan อ่านบทความนี้แล้ว เลยชื่นชม หม่อมอ๋วย

http://www.bangkokbiznews.com/viewOpini ... sid=141467

ตอนอ่านผมนึกว่าผมเข้า link ผิดไป manager ซะอีก

อ่านแล้วครับ หาแพะตามเคย

งานนี้ไปโทษคนมีเหลี่ยมอีก

ละครไทย นี่แสดงได้ทุกวันจริงๆ

ท่านอุ๊ย เค๊าจะสั่งอะไร คนมีเหลี่ยมจะรู้ได้ไง

อืม