หน้า 2 จากทั้งหมด 3

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 1:57 pm
โดย ปรัชญา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา  รัฐไม่ได้ช่วยเหลือโชวห่วยเลยก็ว่าได้
เมื่อเปิดกันเกือบเต็มที่  ก็เริ่มบอกต้องสร้างห่างจากเมืองกี่กิโล

ลงจังหวัดไหนก็ก่อเรื่องตลอด
เจ้าบิ๊ก...ส่งคนไปสำรวจชั้นวางสินค้า  เจ้าโล

ได้ราคามา  ก็มาเฉือนราคาถูกกว่ยี่ห้าสตางค์  ห้าสิบสตางค์

เท่าที่เห็นขึ้นโรงพักเพราะ  รปภ.เจ้าโล  จับค้นตัว  เลยกระทืบกัน
เดือนร้อนจับเส้นจับสายกันไป

ก้างพวกนี้  ถ้าคนไม่มีรถไปใส่  ก็คงขายได้ไม่เท่าไหร่หรอก
หากไม่มีการตลาด  ตอนนี้มีบัตรของห้างอีก


คนจนๆ  ไม่ได้ใช้บริการหรอก  
นอกจากคนเมือง  คนมีเงินเดือน  คนมีบัตรเครดิต

เห็นแต่คนจน  ก็ยังต้องตั้งขวดน้ำปลาริมถนน  มีรถกะบะพูดไมค์โคโพน
วิ่งไปสุดถนน  แล้วขายแบบโชห่วยออกมา
น้ำปลาตราดีดีไม่มีปัญญาซดหรอก

.ซื้อแต่น้ำปลาขวดละ2-5บาท  เลิกพูดได้เลยว่าห้างเหล่านี้เพื่อคนจน

งานศพ  งานบวช  งานแต่ง  สารพัดงานวัด
ก็เซ็นโชห่วยมาจัดงาน  เก็บขันได้ถึงมีปัญญาไปจ่าย
เกษตกรไม่มีใบรับรองเงินเดือน  ทำบัตรเครดิตก็ไม่ได้

รัฐบาลยังไม่ได้อุ้นไม่เคยมาแจก  นโยบายยังไม่มีอะไรที่โชห่วยได้มาเลย

เพียงแค่ออกทีวีหนังสือพิมพ์หาเสียงเท่านั้น

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:04 pm
โดย โอ@
ถ้าเราสั่งให้ค้าปลีกข้ามชาติเลิกการขยายเลย
มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เอาเงินไปให้เขาเลยครับ
เราต้องให้ความรู้ และแนวทางในการปรับตัวซิครับ
จะได้โตไปด้วยกัน ในทุกด้าน

ถ้าค้าปลีกขนาดใหญ่เขาเน้นด้านราคา
แต่เขาก็คงไม่สามารถไปเปิดทุกซอกตึกได้ครับ
ที่ญี่ปุ่นได้ข่าวว่า 7-11 มีทุกๆหัวมุมตึกเลยทีเดียว

ส่วนจะสู้กับ 7-11 ยังไง ผมว่าก็ไม่ได้ยากมากนะครับ
ของ 7-11 คิดว่าถูกหรอครับ ผมว่าแพงนะ
ก็จัด CRM ดีดีหน่อย ราคาของถูกนิดนึง มีของแถมนิดๆ
เราเป็นเจ้าของ ย่อมสร้าง CRM ได้ดีกว่าพนักงานที่เราไปจ้างเขามาิคิดตังค์

แต่ที่น่ากลัวผมว่า Lotus express เนี่ยแหละ น่ากลัวมาก
มันเล่นราคาถูกแล้วก็เน้น ไปทั่วๆอีก
อันนี้หาแนวทางแก้ไม่เจอจริงๆ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:10 pm
โดย jeew
เห็นด้วยกับพี่ jeng

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:12 pm
โดย keng56
ยักษ์ค้าปลีกกำลังบิดเบือนกลไกตลาดเพื่อนำไปสู่การผูกขาดและมีอำนาจเหนือตลาดในท้ายที่สุด

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:19 pm
โดย woody
keng56 เขียน:ยักษ์ค้าปลีกกำลังบิดเบือนกลไกตลาดเพื่อนำไปสู่การผูกขาดและมีอำนาจเหนือตลาดในท้ายที่สุด
อ่า พอดีเลยครับพี่ keng56 ตอนนี้ผมกำลังพยายามหาข้อมูลตรงจุดนี้อยู่ ไม่ทราบว่ามี case study ที่ประเทศใดบ้างที่ตอนนี้เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอยู่บ้างครับ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:23 pm
โดย keng56
สินค้าหลายอย่างขายต่ำกว่าทุนหรือเท่าทุนเพื่อทำยอดไปเอาโบนัสปลายปี....อย่างนี้โชห่วยที่ไหนจะแข่งได้ล่ะ.....ให้ปรับตัวพูดง่ายแต่ทำไม่ง่ายนะครับ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:24 pm
โดย CK
อ่า คุณเก่งพูดสรุปที่ผมพูดได้สั้นดีครับ

ขอแถลงจุดยืนอีกครั้ง มีคนบอกว่าผมต่อต้านทุนนิยม

ผมเห็นด้วยกับการเปิดห้างใหญ่ และการแข่งขันเสรี

แต่รัฐควรมีหน้าที่ออกกฎหมาย และบังคับใช้กฎหมาย
ที่ทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างเสรีจริงๆ
และเป็นธรรมกับทั้งนายทุนผู้เปิดห้าง
กับประชาชนผู้บริโภค

กฎหมายที่เข้มแข็ง และศักดิ์สิทธิ์ในระดับโลคอล

เช่น

1. ห้ามขายต่ำกว่าทุนเด็ดขาด

2. ห้ามควบรวม ถ้าควบรวมแล้วทำให้ big player
   เหลือน้อยลง และกำหนดราคาตลาดได้

3. ต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค
  เช่นถ้าติดราคาผิด (ถูกลง) ห้างต้องรับผิดชอบ
  ไม่ใช่บังคับให้ลูกค้าจ่ายราคาเต็ม

4. ห้ามโฆษณาเกินความจริง

5. ห้ามนโยบายขายเหล้าพ่วงเบียร์ ฯลฯ

ฯลฯ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:36 pm
โดย keng56
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้ทำโชห่วยและก็ไม่มีญาติทำโชห่วย....แต่เห็นใจโชห่วยครับ.......บ้านผมที่กรุงเทพอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านหนองแขม  ในหมู่บ้านมี400กว่าหลังคาเรือน  มีโชวห่วยทุกประเภทประมาณ30ร้าน+แผงลอยขายของอีกหลายสิบเจ้า...ปีนี้โลตัสเอ็กเพรสมาเปิดกลางหมู่บ้านเลยได้3เดือนแล้ว....กลับไปดูอีกทีหมู่บ้านเงียบเหงาไปเยอะเลย...แผงขายของหายไปเยอะ..ร้านค้าทยอยปิดตัวเองไปเรื่อยๆ.....ถามพี่กับน้องผมที่อยู่ในหมู่บ้านบอกว่าช่วงเปิดใหม่ขายของถูกมากๆ..บางอย่างถูกไม่น่าเชื่อ..เรียกว่ากะฆ่าโชห่วยในหมู่บ้านให้หมด....พวกที่ยังอยู่ได้คือพวกที่มีรายได้จากทางอื่นด้วยครับหรือมีลูกหลานส่งเงินให้และไม่มีภาระอะไร :roll:

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:44 pm
โดย woody
keng56 เขียน:สินค้าหลายอย่างขายต่ำกว่าทุนหรือเท่าทุนเพื่อทำยอดไปเอาโบนัสปลายปี....อย่างนี้โชห่วยที่ไหนจะแข่งได้ล่ะ.....ให้ปรับตัวพูดง่ายแต่ทำไม่ง่ายนะครับ
อันนี้ผมสังเกตุได้จากงบการเงินของบางบริษัทได้เหมือนกันครับ แต่ไม่ทราบว่ามีที่ไหนบ้างไหมครับที่พวก discount store รวมตัวกันผูกขาดแล้วขึ้นราคาหลังจากไล่พวกร้านแบบ traditional ออกจากตลาดไปหมดแล้ว อยากจะลองเอาไปทำการศึกษาซักหน่อยครับ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:48 pm
โดย keng56
หน้าหมู่บ้านมีเซเว่นแต่คนไม่ต่อต้านเพราะขายของราคาปกติ...ไม่ได้ขายแบบทุ่มตลาด :roll:

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:56 pm
โดย keng56
ไม่ต้องไปดูที่ไหนหรอกครับ...ดูที่เมืองไทยนี่แหละ...ถ้าหากไม่มีอะไรควบคุม....ผมไม่ได้ห้ามเปิด...เปิดได้ครับแต่ควรมีอะไรควบคุมบ้างให้ค้าขายแบบเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.....ในเวทีการค้าโลกยังต่อต้านการทุ่มตลาดกันเลยครับ :roll:

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 2:57 pm
โดย jaychou
ผมซื้อของที่ Tops สาขาหนึ่งในจังหวัดที่ผมอยู่

การลดราคาระยะสั้นๆให้กับสมาชิก เช่น เป๊ปซี่ขวดใหญ่ 2 ลิตร เหลือ 30 บาท จะถือว่าทุ่มมั้ยครับ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 3:24 pm
โดย stockms
ผมได้ยินมาว่าบางเมืองในญี่ปุ่น เขาให้ประชาชนโหวตว่าจะอนุญาตให้ตั้งห้างใหญ่ในเมืองได้หรือไม่ และห้างใหญ่ในญี่ปุ่นก็ล้มละลายไปหลายห้าง แต่ร้านขายของชำแถวริมสถานีรถไฟที่อยู่ติดกับห้างก็เห็นว่าขายดิบขายดี แต่ส่วนใหญ่เห็นเขาเน้นขายผักผลไม้ กุ้ง ปลา และเนื้อสัตว์สดๆ ครับ อีกประมาณครึ่งหนึ่งของร้านก็ขายฃของแห้งเหมือนในห้างบางทีก็รับของที่ลดในห้างมาขายซะเลย สะดวกซื้อครับ ผมก็ชอบซื้อจากร้านแบบนี้มากกว่า

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 3:56 pm
โดย chatchai
ผมว่าความเห็นหลายคนไม่ตรงกันนะครับ

ข้อแรก  เรื่องทุนต่างชาติ  

หลายคนให้กีดกันเพราะเป็นทุนต่างชาติ  หมายความว่าถ้ากิจการค้าปลีกสมัยใหม่เหล่านั้นเป็นของคนไทยก็ไม่เป็นไรหรือเปล่าครับ

ข้อที่สอง  เรื่องกิจการที่ส่งผลร้ายต่อร้านโชห่วย

บางคนก็บอกว่า  MAKRO LOTUS BIGC เป็นผลดีต่อร้านโชห่วย  แต่ที่ส่งผลเสียคือร้านเล็กๆประเภท 7-11 LOTUS Express

ข้อแรก  ผมเห็นว่า  ไม่ว่าจะเป็นของใคร  ก็เหมือนกันครับ  ไม่แตกต่าง  ไม่ควรพูดถึงสัญชาติ

ข้อสอง  ผมว่า MAKRO  LOTUS  และ BIGC มีผลกระทบเยอะกว่า  เพราะในชีวิตประจำวันของผมนั้น  เข้าแต่ LOTUS ครับ  ซื้อไม่ว่าจะเป็นสบู่  ยาสีฟัน  มาม่า  ส่วน 7-11 แทบไม่ได้ซื้อเลยครับ  และเข้าใจว่าร้านโชห่วยก็คงขายสบู่  ยาสีฟัน  คงไม่ได้ขาย smokey bite จริงไหมครับ

ร้านโชห่วยนั้น  ผมเข้าใจว่าส่วนใหญ่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่รุ่นปู่ยาตายายอาซิ้มอาม่า  ว่าแต่ลูกๆหลานๆมีความสนใจที่จะทำต่อไหมครับ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 4:01 pm
โดย MisterK
CK เขียน: 5. ห้ามนโยบายขายเหล้าพ่วงเบียร์ ฯลฯ
อันนี้ไม่เกี่ยวกับค้าปลีกแล้วมั้ง   :lol:

ค้าปลีกถ้าแข่งกันเสรี   ก็ไม่ใช่จะทำอะไรได้ตามใจชอบนะ    อย่างญี่ปุ่น หรือจีน  ยักษ์ใหญ่เจอการแข่งที่ดุเดือดก็หงายเก๋งกันไปตาม ๆ กันมาแล้ว     ค้าปลีกเองก็ต้องดิ้นรนอย่างออกสินค้าแบรนด์ตัวเองเพื่อลดราคาแข่งกับรายอื่น   หาสินค้าใหม่ ๆ หา supplier ใหม่ ๆ นโยบายประกันราคาสารพัด    สุดท้ายคนได้ประโยชน์คือผู้บริโภค    แต่แน่นอนว่าต้องอยู่ใต้กรอบการค้าที่ไม่ชกใต้เข็มขัด   อย่างพวกขายต่ำกว่าทุน   หรือบังคับ supplier ให้ส่งเฉพาะห้างตัวเอง ฯลฯ  พวกนี้ต้องมีกฏหมายห้ามเด็ดขาด

ที่น่าเป็นห่วงคือกระแสต้านค้าปลีกอย่างนี้    รายเก่า ๆ จะสบายแต่จะทำให้รายใหม่ ๆ ไม่สามารถเกิดและขยายสาขาแข่งได้    สิ่งนี้สิที่จะทำให้เกิดการผูกขาดของไม่กี่เจ้า    ทำให้มีอำนาจต่อรองกับ supplier สูงและสามารถฮั้วราคากันได้ง่าย

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 4:43 pm
โดย naris
ปรัชญา เขียน:
เรื่องห้างกับร้านค้า  เล่าเท่าไหร่ก็ไม่จบ

เท่าที่จำได้  หลายปีก่อนโลตัสมาเปิดสาขา
ภาษีจ่ายส่วนกลางสมัยนั้น

เทศบาล  ต้องเข้าไปดูแลเก็บขนขยะ  วันละหลายตันช่วงเช้า  ช่วงเย็น
จนฝ่ายรับผิดชอบและพวกเรา  ต้องระดมความคิด

สุดท้ายการแก้ปัญหาครั้งนั้น
ทางเทศบาลเรียกร้องขอรถเก็บขยะจากทางโลตัส3คัน
เงินเดือนพนักงานเก็บขยะและคนขับรถ9คน
ค่าน้ำมันรถ  ที่ขอความร่วมมือไป  ได้มาเดือนละ3หมื่น
ก็แก้ปัญหากันไปเป็นเหตุการเฉพาะหน้า

ทุกอย่างมีต้นเหตุ  ต้องมีการจัดการวางระบบใหม่
ทุกคนต้องสนใจการเมืองระดับท้องถิ่น
เพื่อดำรงรักษาคนท้องถิ่นที่เสียประโยชน์  เพื่อความอยู่รอด

พูดได้คำเดียว  พ่อค้ารายย่อยถึงขนาดกลาง  ไม่พร้อมกับการแข่งขันตัดราคา
ทำต้นทุนให้ต่ำ  แผนการตลาดและอื่นๆ  แล้วแม็คโครก็มา  บิ๊กซีก็มา

เมื่อบิ๊กซีมา  เซ็นทรัล  ก็จะมากับบิ๊กซีในพื้นที่และโครงสร้างผู้ถือหุ้น

กำหนดยุทธศาสตร์ของ  ส่วนต่างจังหวัด
ต้องเริ่มต้นจาก  เรื่องการขออนุญาตก่อสร้าง

ฝ่ายเทศบาล  ต้องขยายการพิจารณาแบบก่อสร้าง
ไม่ให้ผ่าน  นี่ก็หลายปีแล้ว  ตอกเสาเข็มไม่ได้สักที
แต่สุดท้ายเชื่อเถอะ  เงินมันปิดตาคนได้หมดล่ะ

แล้วที่เมืองเลย  

โลตัส  สาขาเลย

คงต้องให้คุณนริศ  มาเล่าซะล่ะมั่ง
ว่ากลุ่มท้องถิ่น  ต่อสู้กับทุนใหญ่อย่างไร
ริ่มต้น  ตั้งแต่ก่อสร้าง  แล้วเปิดไม่ได้  
เพราะทุกคนเสียประโยชน์

พวกชาวไร่ชาวนาจนๆ  ไม่เคยเข้าไปหรอกห้างเหล่านี้

ห้างเหล่านี้รับใช้คนระดับกลางถึงระดับสูง
คือคนพอมีเงินเดือน  เจ้าของกิจการ  และเศรษฐี

ผมในฐานะพ่อค้า  ไม่เคยรับเงินเดือนจากทางราชการ  หรือบริษัท
เลยไม่ค่อยชอบ  รัฐบาลที่โรยยาหอม
ที่มาออกทีวีเรื่องนี้  เพราะใกล้เลือกตั้ง

ไม่นานหรอกเลือกตั้งเสร็จ  เรื่องก็จะจบแบบเงียบๆ  เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง

ตามตัวจังหวัด  แม้แต่อำเภอ  ก็มีกำลังซื้อน้อย
ข้างรั้วมหาลัยขอนแก่นห่างกัน10เมตร  มีเซเว่น2สาขา  ตั้งหน้าเข้าหากัน
ก็เพราะแฟรนด์ชายน์ไม่ถึง3ล้าน  ก็เปิดบริการได้

เรื่องความคิดว่าชอบไม่ชอบ  ก็มาเล่ากันตามทัศนคติ
อ่านแล้วก็จบ  อย่านำไปเป็นอารมณ์


แต่เรื่องปรับตัว  ในความคิดเท่าที่เห้นเปลี่ยนอาชีพ  
อย่าค้าขายสินค้าที่ทางห้างขาย  ไปทำอย่างอื่น
ที่จริงผมไม่อยากโพสท์เลยครับ เนื่องจาก คนจะมองว่าอยู่ในฐานะผู้ได้รับผลกระทบ แต่พี่ปรัชญาได้กล่าวถึง ก็ต้องอธิบายให้ฟังบ้าง
ก่อนอื่น ผมขอยอมรับนับถือพี่ปรัชญาจริงๆว่า ไม่ได้ทำโชว์ห่วย แต่พี่ล่วงรู้ถึงความน่ากลัวของโมเดอร์นเทรดพวกนี้

ผมขอสรุปเป็นข้อๆที่อ่านง่ายๆแล้วกันนะครับ ให้ไปฝากกันคิด

ผมขอออกตัวก่อนว่า ทำซุปเปอร์มาร์เก็ตแต่ผมไม่มีอคติส่วนตัวกับ ยักษ์ใหญ่เหล่านี้

-ผมขอบอกว่าที่กระทบกระเทือนนี้ จะโดนทุกวงการ หนักที่สุดเป็น แม่ค้าขายสินค้าสดตามตลาด (เพราะสินค้าเขาเสียเร็ว และ ต้องซื้อเข้าทุกวันไม่ว่าจะขายได้หรือไม่ได้ก็ตาม ) รองต่อมาคือ กลุ่มเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต
-ลักษณะของการทำธุริจ เป็นการทำตลาดเชิงรุกฆาต โดยการขายขาดทุนในบางตัวสินค้า และในสาขาที่เปิดใหม่ เช่นซอสหอยแม่ครัวขวดใหญ่ ราคาทุนร้านค้าระดับสั่ง 100ลัง จะมีราคาทุนอยู่ที่34.75-35.25 ต่อขวด แต่โลตัสจะขายอยู่ที่ 28-32 ต่อขวด(จำกัดซื้อต่อครั้งไม่เกิน3ขวด)เพื่อดึงลูกค้าเข้าห้าง โดยร้านค้าไม่สามารถทำอะไรได้ และเขาจะทำอยู่ประมาณ 50 ตัวสินค้า(ในกลุ่มซุปเปอร์)
-การทำตลาดในอนาคตที่แน่ชัดคือ การซอยตลาดลงไปจับกลุ่มลูกค้าที่เล็กลง โดยการออก  lotus express และตลาดโลตัส เจาะตามทำเลคนหนาแน่น (ตัวนี้ผมว่าน่ากลัวมากๆ)เพราะ
-การทำตลาดโดยการใช้ แบรนด์ เฮาส์ ของตัวเอง โดยการจ้างแบบประมูลแข่งขัน ใครให้ราคาถูกที่สุดก็ได้งานไป(ทำให้ต้นทุนต่ำมากๆจน ผู้ผลิตแทบไม่มีกำไร) การออกแบบฉลากก็ทำคล้ายๆ แบรนด์ของผู้นำ จนบางครั้งเกิดการฟ้องร้องกันขึ้นมา เพื่อที่จะฆ่าแบรนด์ผู้อื่น และสร้างแบรนด์ตัวเอง
-การทำการตลาดกับซัพพลายเออร์ ทำแบบกดขี่ขมแหง เขามองแบบไม่ใช่คู่ค้า แต่ มองเป็นคู่แข่งขันที่ต้องกดขี่ โดยดูจากนโยบายการนำสินค้าแรกเข้าตัวละ 200000-500000 บาท ถ้ายอด6เดือนไม่ดี ก็คืนสินค้า ทำให้ยี่ห้อกลางๆและเล็กๆ ไม่มีสิทธิเกิดได้ในอนาคต หรือ นโยบายการบีบบังคับเรื่องเครดิตเทอม จากปกติทั่วไป ประมาณ 30-45 วัน ทางห้างจะตีเช็คยาว 90-120 วัน โดยตั้งบริษัทลูกมาซื้อเช็คต่ออีกรอบหนึ่งเป็นต้น
-โดยความเห็นส่วนตัวผม ซึ่งคงไม่ทำซุปเปอร์อีกเกิน10ปี เพราะมันเหนื่อยมาก ถึงแม้นมันจะทำกำไรได้ก็ตาม เพราะผมมีทางเลือก แต่สำหรับคนไม่มีทางเลือก ผมขอให้กำลังใจให้สู้ต่อไปครับ

ปล.ขอฝอยด้วยว่า ที่ซุปเปอร์ของผมคงจะเป็นที่เดียวในโลกที่มีนโยบาย ไม่ขาย เหล้า เบียร์ บุหรี่ และเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิดครับ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 5:27 pm
โดย CK
naris เขียน:ปล.ขอฝอยด้วยว่า ที่ซุปเปอร์ของผมคงจะเป็นที่เดียวในโลกที่มีนโยบาย ไม่ขาย เหล้า เบียร์ บุหรี่ และเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิดครับ
:bow: ขอคารวะด้วยใจจริงครับ :bow:

ถ้ามากรุงเทพฯ ขอเลี้ยงเบียร์เอ้ยเลี้ยงข้าวมือนึงนะครับ

:lol:

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 6:42 pm
โดย สามัญชน
พี่ปรัชญาบอกว่า
คนจนๆ  ไม่ได้ใช้บริการหรอก  
นอกจากคนเมือง  คนมีเงินเดือน  คนมีบัตรเครดิต

เห็นแต่คนจน  ก็ยังต้องตั้งขวดน้ำปลาริมถนน  มีรถกะบะพูดไมค์โคโพน
วิ่งไปสุดถนน  แล้วขายแบบโชห่วยออกมา
น้ำปลาตราดีดีไม่มีปัญญาซดหรอก

.ซื้อแต่น้ำปลาขวดละ2-5บาท  เลิกพูดได้เลยว่าห้างเหล่านี้เพื่อคนจน
ขออนุญาตแย้งหน่อยนะครับ พอดีผมมีประสบการณ์โดยตรง  หวังว่าคงไม่ว่ากันนะครับ

ลูกน้องผมเงินเดือนๆละ 4,800 บาท(เมื่อสามปีก่อนอยู่ที่ 3,300 บาทด้วยซ้ำ) อย่างนี้น่าจะเรียกว่าจนได้นะครับ เพราะว่ามีลูกสองคน กินอยู่อย่างไรก็ลองจินตนาการดูนะครับ  ค่าใช้จ่ายทุกวันนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เอาแค่เดือนชนเดือนยังแทบไม่พอเลยครับ

เขาก็ใช้วิธีรวมกลุ่มกันได้สักสี่ห้าครอบครัวไปหาเพื่อนคนที่มีรถ(โดยช่วยออกค่าน้ำมันบ้างคนละนิดคนละหน่อย) ขับไปซื้อของที่ห้างเหล่านี้  เดือนหนึ่งเขาก็ประหยัดได้มากโข สำหรับเขาแล้วเงินร้อยสองร้อยมีค่ามากเลยนะครับ แถมยังถือโอกาสพาลูกๆไปเดินห้างแอร์เย็นๆเป็นการพักผ่อนในวันหยุดไปในตัว  เพราะเขามีโอกาสเที่ยวพักผ่อนน้อยมาก(เพราะไม่มีเงินเที่ยวเหมือนคนอื่นนั่นเอง) ก็ถือเป็นสันทนาการที่คนรายได้น้อยๆจะพอหยิบยื่นให้ลูกๆได้บ้าง

ชาวบ้านอื่นๆเขาก็ใช้วิธีนี้เหมือนกันครับ  ถ้าเห็นรถปิคอัพขับเข้าห้างแล้วมีคนนั่งกระบะหลังหลายๆคนก็ใช่เลยหละ  พวกเขาแหละ

ส่วนคนชั้นกลางที่มีเงินเดือนเช่นข้าราชการอื่นๆ  ไม่ว่าจะเป็นครู ตำรวจ สาสุข เกษตร ในสายตาของสังคมนั้นมองว่าเขาเป็นคนชั้นกลาง  แต่ในกระเป๋าตังค์นั้น  ฟ้องว่าเป็นคนจนก็เยอะนะครับ (ยิ่งถ้าไปดูบัญชีเงินเดือนอาจจะบอกว่าเป็นคนล้มละลายก็มีเยอะ อิอิ) ก็เงินเดือนปริญญาตรีเริ่มต้นที่ 7,200 บาทแล้วเขาจะรวยได้อย่างไร  ถ้ามีครอบครัวมีลูกอีกสอง  เงินเดือนสัก 12,000 บาท  ต่อให้ประหยัดอย่างไรก็แทบไม่มีเหลือถึงสิ้นเดือน  ไหนจะต้องจ่ายหนี้สหกรณ์ ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันแมงกะไซค์ฮ่างๆ

การประหยัดได้ทุกบาททุกสตางค์จากสินค้าดีกว่าถูกกว่าจึงดีกว่ากันเยอะเลย

ดังนั้น  ผมจึงสนับสนุนให้มี modern trade ขนาดเล็กขนาดจิ๋วแทรกเข้าไปทุกอำเภอทุกตำบล

ส่วนปัญหาเรื่องการผูกขาดโดยรายใหญ่สามสีจ้าวที่ท่านซีเคว่า  ก็เป็นเรื่องเป็นไปได้  แต่มีโอกาสที่จะเป็นน้อยตามที่เพื่อนๆพูดมานั่นแหละครับ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 9:09 pm
โดย ปรัชญา
:oops: คนจนของผม  ในที่นี้นะครับคุณหมอสามัญชน

เป็นคนที่มีรายได้น้อยกว่านั้นครับ
ปกติผมก็ทำงานร่วมกับชุมชน18ชุมชนที่นี่ครับ
ถ้ามีเงินขนาดนั้น  ไม่จนหรอกครับ
แต่อาจจะใช้จ่ายเกินรายได้ต่างหาก

เรื่องชาวบ้านเหมารถมาห้าง  เป็นจริงตามคุณหมอว่าครับ

เขาเดินทางมาเป็นหลายสิบกิโลเพื่อมาซื้อของ
โดยแชร์ค่ารถคนละ10-20บาทต่อคนช่วยกันออกค่าน้ำมันรถ
พอมาเจอของถูกก็ซื้อเพิ่มขึ้น  
ซื้อของไม่จำเป็นกับการดำรงชีวิตสำหรับคนเงินน้อย

อย่างมันทอดเลย์  น้ำส้มแพ็คคู่  ซิมมือถือที่แจกฟรี  หลายๆอย่าง

เป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย  ไม่ใช่การกินอยู่อย่างประหยัด
แล้วบางคนคิดว่ามาทั้งทีก็จะซื้อให้คุ้ม  ยิ่งซื้อก็ยิ่งจ่ายมากครับ

อย่างบัตรเครดิต  KTC  ใครใช้จ่ายบัตรกับบิ๊กซีเกิน2พันบาทจะได้กระเป๋าแถม
พอซื้อของไปได้สัก1,500บาท  ก็เลยต้องซื้อให้ครบเพราะอยากได้ของแถม
พอได้ไปสมอยาก  ก็เอาไปคุยอวดกัน  สุดท้ายแขวนไว้ข้างฝาบ้านให้ฝุ่นมันจับ

ที่ว่าเรื่องตั้งขวดน้ำปลาปัจจุบันยังมีอยู่  ใครอยากดูผมจะพาไปดู
หากอยู่แถวเมืองเลยลองไปแถวหมู่บ้านอีเลิศ  ภูกระดึงก็ยังมีให้เห็นครับ

ไม่ได้ดูถูกคนจน  แต่คนจนมักไม่ค่อยได้ใช้ความคิด
วางแผนชีวิต  หรือการใช้จ่ายเงิน  หามาได้วันละร้อยสองร้อย
รับจ้างได้เงินมาก็ใช้กันไป  ตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้  เขาว่าอย่างนั้น
เวลาผมไปนั่งร้านโชห่วยข้างถนนคุยกับชาวบ้านครับ

ผมอยู่บ้านนอกคงรู้จักคนจนมากกว่าคนในเมือง

ที่รู้จักคนจน  เพราะความหมายคำว่าจน  มันไม่เท่ากัน
คนจนที่คุณหมอพูดถึงนั่นมีเงินเดือนมีรายได้ประจำ

ส่วนคนจนที่ผมพูดถึงคนทำงานรับจ้างหาเช้ากินค่ำ  หาเช้ากินดึก

ผมเลยมองว่าคนจนในนิยามของคุณหมอ  เป็นคนจนแบบ  จนเทียมๆ

คนจนที่ผมว่าจน  เป็นคนจนจริงๆ  มีรายได้ไม่แน่นอน


หากไม่ถูกใจคุณหมอก็ขออภัยด้วยครับ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 9:12 pm
โดย ปรัชญา
คุณนริศ

เรื่องที่ผมได้ฟังมาไม่ทราบเป็นความจริงแค่ไหน

ที่ห้างใหญ่ก่อสร้างที่เมืองเลย  แล้วเปิดบริการขายไม่ได้
เพราะทางเทศบาลบอกว่าก่อสร้างผิดแบบแปลน
ทั้งที่รับสมัครพนักงานแล้ว  เรียงสินค้าเต็มแล้ว
และอื่นๆ  ข้าราชการการเมืองท้องถิ่นผมว่าแข็งแกร่งดีครับ

ปัจจุบันฟ้เองร้องกันหรือเปล่า  เปิดบริการได้หรือยังครับ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 9:28 pm
โดย MarginofSafety
ผมก็คนขอนแก่นคือกันครับพี่ปรัชญา ที่พี่เล่ามาผมเข้าใจและเห็นภาพเป็นอย่างดี
ของพี่หมอศรรามผมก็เห็นภาพ แต่ที่ผมได้ยินมาก็คือที่เขาเหมารถกันไปซื้อของในห้าง
ส่วนใหญ่แล้วเขาจะซื้อเพื่อมาขายต่อที่ร้านชำในหมู่บ้านมากกว่า
แต่ถ้ามันสามารถรุกคืบเข้าไปได้อย่างเสรีโดยไม่มีกฎเกณฑ์จริงๆ
ร้านชำพวกนี้ก็ต้องสูญพันธุ์หมดแน่นอน ส่วนแบบไหนจะดีกว่า
น่าจะมีมหาวิทยาลัยที่บริการวิชาการให้กับสังคม มีการวิจัยเรื่องนี้จริงๆจังๆ
ก็น่าจะดีเหมือนกัน คงดีกว่าการที่จะมาใช้ความรู้สึกตัดสินว่า มันดีหรือมันไม่ดี
โดยการวิจัยมีการวัดผลจากปัจจัยหลายๆด้านประกอบกัน รวมทั้งถามความเห็นของชุมชนด้วย ...

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 10:40 pm
โดย ปรัชญา
HVI เขียน:ผมก็คนขอนแก่นคือกันครับพี่ปรัชญา ที่พี่เล่ามาผมเข้าใจและเห็นภาพเป็นอย่างดี
ของพี่หมอศรรามผมก็เห็นภาพ แต่ที่ผมได้ยินมาก็คือที่เขาเหมารถกันไปซื้อของในห้าง
ส่วนใหญ่แล้วเขาจะซื้อเพื่อมาขายต่อที่ร้านชำในหมู่บ้านมากกว่า
แต่ถ้ามันสามารถรุกคืบเข้าไปได้อย่างเสรีโดยไม่มีกฎเกณฑ์จริงๆ
ร้านชำพวกนี้ก็ต้องสูญพันธุ์หมดแน่นอน ส่วนแบบไหนจะดีกว่า
น่าจะมีมหาวิทยาลัยที่บริการวิชาการให้กับสังคม มีการวิจัยเรื่องนี้จริงๆจังๆ
ก็น่าจะดีเหมือนกัน คงดีกว่าการที่จะมาใช้ความรู้สึกตัดสินว่า มันดีหรือมันไม่ดี
โดยการวิจัยมีการวัดผลจากปัจจัยหลายๆด้านประกอบกัน รวมทั้งถามความเห็นของชุมชนด้วย ...
คุณHVI  ผมมาเป็นคนขอนแก่นได้แค่20ปีครับ
20กว่าปีก่อนเป็นคนภาคกลางครับ

ที่ว่าซื้อมาขายต่อก็คงมีบ้างแต่ไม่มาก
เพราะของที่ลดราคา  จำพวกโปรโมชั่น
แบบโค๊ก1.25ลิตร  ขวดละ18บาท  จำกัดครอบครัวละไม่เกิน3ขวด
กว่าจะซื้อมาขายไม่ค่อยพอค่าน้ำมันรถครับ  คงต้องเวียนเทียนกันหลายรอบ

กรณีการซื้อมาขายต่อ  น่าจะต้องไปแม็คโคร  เพราะเน้นขายส่ง
แม็คโครเป็นห้างเดียวที่ลดต้นทุนอย่างทันตาเห็น
แต่ละวันประหยัดค่าภาชนะถุงใส่  ไปได้น่าจะนับได้ทุกสาขาขนาดเลข5-6หลัก
(ไม่มีให้ลูกค้า  แถมรับเงินสดบัตรเครดิตไม่รับ)

คือปัญหาโชห่วย  มันต้องมองหลายมิติ

คุณหมอศรราม  มองโดยเป็นผู้บริโภค
ตัวผมมองแบบผู้ประกอบการ-คู่แข็ง

(แต่ไม่มีอคติ  เพราะทุกอาทิตย์ก็ต้องไปโลตัส+บิ๊กซีทุกอาทิตย์
กลางวันไม่ว่าง  เย็นก็ไปทำธุรกรรมการเงิน  กับ  BBL  SCB  ที่เช่าพื้นที่ห้างบริืการลูกค้า)

ความเห็นต่างๆก็เลยออกไปคนละแบบ
การสื่อสารภาษา  คุณหมอศรรามก็พูดแบบนักวิชาการ
ส่วนผมภาษาชาวบ้าน  เลยออกจะดูไม่ดีเท่าที่ควร

โดยส่วนตัวไม่ถือเป็นอารมณ์  คุยไปบ่นไป
แล้วก็จบ  มาคุยกันต่อเรื่องอื่น  ก็ว่ากันอีกที

คุยกันทางเวปบอร์ดธรรมดาครับ  ความเห็นแต่ละความเห็น
ไม่จำเป็นต้องตรงกัน  มองต่างมุมดีครับ
จะได้เก็บสิ่งดีดี  ที่เรายังไม่รู้  นำมาใช้ประโยชน์ในวันหน้า
เห็นในสิ่งที่ยังไม่รู้  มองจุดอ่อนจุดแข็ง
เพื่อนำมาวางกลยุทธ  เพื่อยุทธศาสตร์ในโอกาสอื่นครับ

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 15, 2006 11:14 pm
โดย สามัญชน
HVI Wrote
ผมก็คนขอนแก่นคือกันครับพี่ปรัชญา ที่พี่เล่ามาผมเข้าใจและเห็นภาพเป็นอย่างดี
ผมเข้าไปเยี่ยมชมเว็บน้องหวีบ่อยๆครับ  เสียดายน้องหวีไม่ค่อยมาอัพเดท  ไม่รู้ว่าทิ้งเว็บไปหรือยังน่อ....  หรือแค่ไปฝากรูปเป็นครั้งคราว

อ้อ....ผมมีรูปงามๆอยู่เยอะเหมือนกันนะแต่ไม่รู้จะใส่เข้าไปยังไง  แบบที่น้องกั๊มต้องลืมตาโพลงเชียวหละ......


พี่ปรัชญาบอกว่า
ความเห็นต่างๆก็เลยออกไปคนละแบบ
การสื่อสารภาษา  คุณหมอศรรามก็พูดแบบนักวิชาการ
ส่วนผมภาษาชาวบ้าน เลยออกจะดูไม่ดีเท่าที่ควร
555  งั้นผมตีความเข้าข้างตัวเองเลยนะว่า  ความเห็นผมดูดี  อิอิอิ

แต่ที่จริงไม่ใช่หรอกครับ

ตัวจริงผมเป็นคนลูกทุ่งมากเลยครับ ง่ายๆ  ไม่ค่อยมีพิธีรีตองอะไร  เฮฮาไปเรื่อยๆทั้งมีสาระ(และไม่มีสาระ อันหลังนี้เยอะหน่อย)

ผมเป็นลูกชาวบ้านครับ  ติดดินเพราะอยู่กับดินโคลนกับทุ่งนามาตลอดตั้งแต่เด็ก  หน้าตาก็เป็นคนบ้านนอกขนานแท้เลยครับ ไม่มีมาดนักวิชาการเลย  รูปศรรามนั้นผมก็เอามาใส่เพราะว่าดูแล้วตรงกันข้ามกับตัวจริงผมมากๆเท่านั้นเองครับ.....

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 16, 2006 12:17 am
โดย สามัญชน
ที่จริงเมื่อก่อนที่บ้านผมก็เป็นร้านโชห่วยครับ  พ่อแม่เริ่มมีฐานะก็เพราะร้านโชห่วย  ส่งลูกเรียนหนังสือได้หมดก็เพราะร้านโชห่วย  ผมก็ควรจะอยู่ข้างร้านโชห่วย  แล้วผมไปคิดแนวอื่นได้อย่างไรเนี่ย.......งง

เป็นเพราะตอนที่ผมจบมานี่สิครับ  ผมทำงานเจอคนไข้ทุกระดับทั้งร่ำรวยและยากดีมีจนทุกชนิด  ในใจผมมันก็คิดแต่จะพัฒนาระบบสาสุข  ทำอย่างไรคนไข้จึงจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทางสาสุข  แต่ทำไปทำมาส่วนที่สำเร็จก็มีหลายเรื่องแต่ที่ไม่สำเร็จก็มีไม่น้อย

เรื่องที่ไม่สำเร็จนั้นผมก็พบว่าเราจะแก้ปัญหาสาสุขมิติเดียวไม่ได้  เพราะมันจะไม่ได้ผล  ต้องแก้ที่มิติอื่นๆด้วย  เพราะปัญหาในชีวิตจริงมันโยงใยถึงกันหมด  โดยเฉพาะปัญหาความยากจน  ผมก็เลยเริ่มคิดถึงหัวอกลูกน้องผม

ผมมีผลงานขึ้นมาได้ทำให้ใครๆก็ภูมิใจในตัวผมก็เป็นเพราะฝีมือลูกน้องทำงานให้ผมนั่นเอง  ถ้าผมทำคนเดียวมันจะสำเร็จได้ยังไง  ผมเป็นหนี้บุญคุณเขาเต็มๆ

ผมมีฐานะเพราะผมเป็นหมอแฟนก็เป็นหมอ  แม้ไม่ถึงขั้นร่ำรวยแต่ก็ถือว่าดีกว่าคนอื่นๆอีกเยอะ  ผมสบายแล้ว  ไม่ลำบากอะไร  แต่ลูกน้องผมหละ.... :oops:

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 16, 2006 12:18 am
โดย สามัญชน
ลูกน้องผมที่เป็นลูกจ้าง เขายากลำบากจริงๆ  รายได้ก็น้อย พอแต่งงานมีลูกก็ยิ่งไม่พอจ่าย  ลำพังแค่ค่านมลูกก็ไม่รู้เท่าไหร่แล้ว  พ่อแม่แทบจะไม่เหลืออะไรกินเอง

โรงครัวทำอาหารเลี้ยงโดยคิดมื้อละยี่สิบบาท  เขายังไม่มีปัญญาผูกกับข้าวเป็นรายเดือนเลยครับ  เขาห่อข้าวมากินเองแล้วก็ชวนกันไปแอบๆกินตามมุมห้องด้วยความอายคนอื่นๆเขา (นี่ก็คนจนเทียมๆตามนิยามพี่ปรัชญา  อิอิ ขอแซวหน่อยนะครับ )

ถัดจากลูกน้องผมก็มองปัญหาไปถึงชาวบ้านที่ยากจนอื่นๆ  ยังเป็นปัญหาเดิมครับ  คือทำอย่างไรคุณภาพชีวิตเขาจึงจะดีขึ้น  แต่ผมต้องมองในมิติอื่นๆร่วมด้วย

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 16, 2006 12:19 am
โดย สามัญชน
เมื่อผ่านกระบวนการคิดก็มีการสะสมความรู้ และความไม่รู้มากมาย  เช่น

1. คนจนเองก็มีทั้งที่ควรจะจนเพราะทำตัวเอง  เช่น เกียจคร้าน  มักง่าย  ชอบสบาย  ฟุ้งเฟ้อ  ติดเหล้า  เล่นการพนัน  และอีกสารพัดปัญหา

2. จนเพราะมีข้อจำกัด  เป็นข้อจำกัดเหมือนที่ร้านโชห่วยเจอตอนนี้แหละครับ  คือ ไม่รู้จะดิ้นรนอย่างไร  ดิ้นยังไงก็ไม่รอด  ดิ้นยังไงก็ไม่มีทางไปและไม่มีทางออก  ทั้งๆที่เป็นคนดี  คนขยัน  คนซื่อสัตย์ คนเก่ง คนมีน้ำใจงาม

กลุ่มที่สองนี้ไม่สมควรจะจน  แต่ก็ต้องจน  และปัญหาที่เขาเจอนั้นหนักกว่าโชห่วยหลายเท่า  โชห่วยถือว่ามีฐานะร่ำรวยเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับคนจนเหล่านี้  แม้ว่าเมื่อเทียบกับคนรวยกลุ่มอื่นโชห่วยอาจจะไม่ได้ชื่อว่ารวยก็ตาม

ดังนั้นระหว่างสองกลุ่มนี้  ผมจึงเห็นว่าควรจะช่วยกลุ่มที่ลำบากมากกว่าก่อน ยิ่งถ้าได้โมเดิร์นเทรดรุ่นจิ๋วไปเปิดทุกอำเภอทุกตำบลยิ่งดี

แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นความรู้สึกล้วนๆ  และผมก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของน้องหวีที่ว่า
น่าจะมีมหาวิทยาลัยที่บริการวิชาการให้กับสังคม มีการวิจัยเรื่องนี้จริงๆจังๆ
ก็น่าจะดีเหมือนกัน คงดีกว่าการที่จะมาใช้ความรู้สึกตัดสินว่า มันดีหรือมันไม่ดี
โดยการวิจัยมีการวัดผลจากปัจจัยหลายๆด้านประกอบกัน รวมทั้งถามความเห็นของชุมชนด้วย ...
เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่อยู่บนพื้นฐานของปัญญา  ไม่ใช่ใช้อำนาจทั้งอำนาจรัฐและอำนาจม็อบ.....

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 16, 2006 7:50 am
โดย ปรัชญา
[quote="สามัญชน"]
พี่ปรัชญาบอกว่า

[quote]ความเห็นต่างๆก็เลยออกไปคนละแบบ
การสื่อสารภาษา

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 16, 2006 5:26 pm
โดย naris
CK เขียน: :bow: ขอคารวะด้วยใจจริงครับ :bow:

ถ้ามากรุงเทพฯ ขอเลี้ยงเบียร์เอ้ยเลี้ยงข้าวมือนึงนะครับ

:lol:
ยินดีครับพี่ และถ้าพี่มาเมืองเลยเมื่อไหร่บอกนะครับ จะพาไปจับไก่เอ้ย กินไก่งวงครับ :lol:

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 16, 2006 5:40 pm
โดย naris
[quote="ปรัชญา"]คุณนริศ

เรื่องที่ผมได้ฟังมาไม่ทราบเป็นความจริงแค่ไหน

ที่ห้างใหญ่ก่อสร้างที่เมืองเลย

ทุนต่างชาติ ควรต่อต้านหรือสนับสนุนกันแน่ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 16, 2006 8:35 pm
โดย chatchai
Discount Store เจริญเติบโต  ขยายสาขา  ครองส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ

มีแต่ร้านโชห่วยเล็กๆเท่านั้นหรือครับที่ลำบากขึ้น

บริษัท  โรงงาน  ผู้ผลิตสินค้าทั้งหลาย  ก็ถูกบีบซะจนหน้าเขียว  

แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายจะออกหน้าเองก็กระไร  คงไม่ค่อยได้ความเห็นใจเท่าไร