Thai VI

MisterK เขียน:

ต่างกันอีกอย่างครับ  คือ ATC/ATO อาจถูกยกเลิกได้ถ้าไม่สามารถ execute ที่ราคาปิด/เปิด เพราะปริมาณหุ้นที่ราคานั้นไม่พอ     แต่ถ้าเสนอที่ celing/floor มันจะกวาดทุก step มาคิดถ้ายังมีหุ้น bid/offer เหลืออยู่

ถ้ากรณีนี้ จะเกิดความต่างขั้นมา กรณี ตั้งจำนวนหุ้น bid/offer ที่ ATC/ATO มากกว่า จำนวนหุ้นที่เสนอซื้อหรือเสนอขายขณะนั้นๆ หมดเลย ซึ่งจะว่าไปแล้วมันเกิดได้อย่างมากเลยนะครับ   แล้วก็ ถ้า Volume ของ ATC/ATO น้อยกว่า หุ้นที่วางเสนอซื้อเสนอขายทั้งหมด ราคา ที่เป็นราคา project ที่แสดงขณะนั้นๆ ก็จะไม่นำเอา ATC/ATO มาคิดรึเปล่า ?? ถ้าเป็นอย่างนี้ฟังดูแล้ว งงๆ ดูบิดเบือนนะครับ

ขอแก้คำผิดนะครับ  ที่เขียน เกิดขึ้นได้อย่างมาก เป็น ยากมาก

ไปทดสอบมาแล้วครับ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น :lol:

เป็นอย่างที่คุณ Ent ว่าครับ



จะเห็นว่า Pre-Open2 อยู่ที่ 3.20 บาท

ไม่ใช่ 3.12 บาท

สรุปว่า ATO/ATC มีผลต่อราคาเปิด/ปิด

ที่ไม่มีผลคือ การจัดลำดับว่า ATO/ATC
จะอยู่ "ก่อนหรือหลัง" limited orders

มันมีอีก factor นึงเข้ามาคือ FOK (fill or kill)   ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดฟันหลอตอนปิด (มี bid สูงกว่าราคาปิดค้างอยู่)    ไม่แน่ใจว่าวิธีการคำนวณของตลาดตอนนี้จะนับปริมาณ FOK เข้ามาด้วยหรือเปล่า

ATC ดูบ่อยๆ นึกว่าคุยเรื่อง Aromatic ไปซะเเล้ว อิอิ

เจ๋งมากเลยครับพี่ CK

CK เขียน: ถ้างั้น กรณีนี้ จะเป็นอย่างไรครับ

มีคน bid ATC 1,000,000 หุ้น
และมี bid ที่ 10 บาท 1 แสนหุ้น

ส่วน offer มีที่ 10 บาท ถึง 11 บาท step ละ 1 แสนหุ้น
และมี offer ATC อยู่ 1 แสนหุ้น

ถ้า ATC ไม่มีผล จะปิดที่ 10 บาท ถูกไหมครับ

และคนที่ได้คือคนที่ bid ATC เข้าไป
แต่ได้แค่ 1 แสนหุ้น

ส่วนคน offer ที่ ATC ก็ขายได้ 1 แสนหุ้น คนอื่นอดหมด

วอลลุ่มแค่ 1 แสนหุ้นเอง

แต่ถ้าปิดที่ 10.80 บาท

คนที่ซื้อ ATC 1 ล้านหุ้น จะได้ครบหมด
คนที่ bid 10 บาท ไม่ได้อะไร

ส่วนคนขาย ATC 1 แสน และคนที่ตั้ง order
ไว้ที่ 10.00 - 10.80 จะขายได้หมด รวม 1 ล้านหุ้นพอดี

เกิด volume 1 ล้านหุ้น

ถ้าตามการคำนวณว่า ราคาปิดคือราคาที่ทำให้เกิดปริมาณการซื้อขายสูงสุด

ราคาปิดต้องเป็น 10.80 บาท

ไม่ใช่หรือครับ

ลองกลับไปอ่านดูใหม่ ประกอบกับตัวอย่างจริงที่พี่ CK เอามาลงให้ดู
Scenario ที่พี่ CK ให้มาน่าจะเป็นแบบกรณีที่ 2 หรือปิดที่ 10.8 บาท
ตอนแรกผมเข้าใจผิดคิดว่าไม่ได้รวม Volume ของ ATO/ATC ในการคำนวณหา Volume สูงสุด
แต่ที่จริงแล้วต้องนำไปรวมคำนวณด้วย

เริ่มต้น Bid Offer เป็นแบบนี้

จะเห็นว่า ราคาที่เกิด Volume สูงสุดคือ 0.93 ที่ 30,000 หน่วย

หลังจากนั้นลองส่ง ATO ไป 1 แสนหุ้น

จะเห็นว่า ราคาที่เกิด Volume สูงสุดคือ 0.94 ที่ 100,000 หน่วย

ลองเปลี่ยนจาก ATO เป็นคำสั่งที่ระบุราคา (limit price order)
และส่งราคาสูงๆ ประมาณ ceiling

จะเห็นว่า ราคาที่เกิด Volume สูงสุดคือ 0.94 ที่ 100,000 หน่วย

มองผิวเผินอาจจะดูว่า ATO กับการระบุราคาที่ ceiling มีผลเหมือนกันทุกประการ

แต่ลองพิจารณาในแง่นี้นะครับ
สมมติว่าผมเป็นฝั่งขายแล้วผมเห็นคน Bid รอ 100,000 หุ้น
ที่ราคาประมาณ 1.2 ผมอาจจะ cancel ราคาที่ผมเคย offer ไว้ก่อนหน้านี้
แล้ว Offer ที่ราคาสูงขึ้น
คนขายมีความต้องการขายที่ราคาสูงขึ้นเมื่อเห็นผู้ซื้อต้องการซื้อที่ราคาสูงขึ้นและมีการระบุราคาไว้ด้วย

แต่ถ้าฝั่งต้องการซื้อส่งคำสั่งในลักษณะ ATO
คนที่ Offer ราคาสูงๆ เช่นมีคน Offer ที่ราคา 1 บาท 100,000 หุ้น
คงขายไม่ได้ใช่มั้ยครับ เพราะราคา 0.94 มันใกล้เคียงกับราคาซื้อขายก่อนหน้านี้มากกว่า

(กรณีที่ผมบอกว่า เป็นการชี้นำราคา หมายถึงแบบนี้ครับ)

[quote="ba_2l"]คุณHVIเล่นตั้งคำสั่งให้เห็นเป็นตัวอย่างแบบนี้ ไม่กลัว cancel ไม่ทันหรือ Settrade แฮงค์ตอนปิดเหรอครับ

มีอีก Case นึงที่น่าลอง (แต่พอดีวงเงินผมเต็มแล้วลองไม่ได้)

ก็คือว่า ที่ ตลาดบอกว่า ในกณีที่ Volume ของ ATC/ATO มากกว่า จำนวน หุ้นทั้งหมดที่เสนอซื้อหรือขาย คำสั่งมันจะไม่ Execute   ต้องดูว่า ความเข้าใจอันนี้ถูกต้องรึเปล่า โดยลองตั้ง Bid ATC volume เยอะๆ ในหุ้นที่มี volume offer น้อยๆ ดูอะครับ   เช่น ตั้ง bid ไปเลย ที่ ATC ซัก 1 ล้านหุ้น แต่หุ้นที่เราทดลองดูต้อง สภาพคล่องน้อยมากๆ ไม่น่ามีคน offer volume ทุกๆช่องไปถึง ceiling price เท่ากับ 1 ล้านหุ้น

[quote="Ent'"]มีอีก Case นึงที่น่าลอง (แต่พอดีวงเงินผมเต็มแล้วลองไม่ได้)

ก็คือว่า ที่ ตลาดบอกว่า ในกณีที่ Volume ของ ATC/ATO มากกว่า จำนวน หุ้นทั้งหมดที่เสนอซื้อหรือขาย คำสั่งมันจะไม่ Execute   ต้องดูว่า ความเข้าใจอันนี้ถูกต้องรึเปล่า โดยลองตั้ง Bid ATC volume เยอะๆ ในหุ้นที่มี volume offer น้อยๆ ดูอะครับ

ไปลองมาแล้วครับ สมมิตฐานว่า ตั้ง volume bid ATC เยอะกว่า จำนวน offer ทั้งหมด

ผลปรากฎว่า เหมือนตั้ง bid ที่ Ceiling price เลย คือราคา project ขึ้นมา เป็น max  price
รูปก่อนตั้ง bid ATC นะครับ


ทีนี้ตั้ง bid ที่ ATC ไป  50,000 หุ้น (คือในรูปนี้ที่ capture มาได้เป็นตอนพึ่งถอน ATC ออกนะครับ ผมรีบไปเลย capture ตอนมี ATC อยู่ไม่ทัน สังเกตว่า project price ยังคาอยู่ที่ 0.50)



ปล. ไม่แนะนำให้ลองกันนะครับ เพราะอย่างวันนี้ ปิดตลาดเร็วมากๆ ผมก็เกือบ โดนจับ execute เลย order ผม

ยังไม่มีใครลองกับหุ้นที่มี FOK ผสมโรงด้วยบ้างเหรอครับ    หุ้นที่มี FOK ส่งมาจะมีโอกาสที่มี bid ค้างสูงกว่าราคาปิดของหุ้น

แต่ทดลองทำกันเยอะ ๆ จะโดนข้อหาปั่นหุ้นมั้ยนี่  

[quote="Ent'"]มีอีก Case นึงที่น่าลอง (แต่พอดีวงเงินผมเต็มแล้วลองไม่ได้)

ก็คือว่า ที่ ตลาดบอกว่า ในกณีที่ Volume ของ ATC/ATO มากกว่า จำนวน หุ้นทั้งหมดที่เสนอซื้อหรือขาย คำสั่งมันจะไม่ Execute

ถ้าผมเป็นคนลองนี่คง ร้องไห้เลยละครับ  ซื้อแพงขึ้น ประมาณ 5 แสนบาทได้มั้ง เพราะวันนี้ตลาดปิดเร็วด้วย อาจจะมีคนลองจริงๆ แล้วเค้าถอน order ไม่ทัน

ไม่แน่อาจจะเป็นกองทุนลอง

ลองกันมากๆ ระวังด้วยค่ะ
อาจจะเชื่อมั่นในความไว ว่าถอนทัน
แต่ถ้าเกิด ไฟดับ หรือเครื่องรวนไรขึ้นมา ....เจ๊ง แอนด์ จุก ได้ค่ะ

:lol:  :lol:  :lol:

สรุปว่า ATO เหมาะสำหรับ คนที่หัวเด็ดตีนขาดต้องซื้อหุ้นตัวนั้นในวันนั้นให้ได้ ได้หรือไม่ครับ ส่วนคนที่ไม่ฉุกเฉินขนาดนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ ATO เลย

และ ATO ช่วยส่วนรวมในการป้องกันคนทำราคาปิด แต่ไม่ได้มีข้อดีอะไรกับคนที่ใช้โดยตรง

ยังงั้นหรือเปล่า