Twilight Zone

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

Twilight Zone

โพสต์ที่ 31

โพสต์

แก้ว
บรรยากาศในตอนเย็นๆของช่วงปลายฝนต้นหนาวของจังหวัดลำปางมันชดชื่นเอามากๆเลยครับ ผม ลำยงค์และ ปิยะเด็กรุ่นน้องได้มีโอกาสขึ้นมาพบลูกค้าที่แม่เมาะ และตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทในตัวเมืองหนึ่งวัน ในวันพรุ่งนี้เราจะต่อไปพบลูกค้าที่เชียงใหม่ แล้วจะกลับมานอนที่ลำปางเพื่อที่ว่าวันต่อไปจะต้องขึ้นไปเชียงรายและตั้งใจจะค้างที่เชียงรายสักคืนและลงกลับมาทำงานต่อที่ลำปางให้เรียบร้อยค้างอีกหนึ่งคืนเราจะกลับกรุงเทพฯกัน
เรามาถึงลำปางในตอนบ่ายๆและแวะพบลูกค้าคู่แข่งของเราหนึ่งราย และแวะพบตัวแทนจำหน่ายในตัวจังหวัด เสร็จก็ตอนบ่ายแก่ๆ เรามีนัดทานข้าวเย็นกับตัวแทนจำหน่ายของเราในตอนค่ำ แน่นอนต้องเป็นอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือ
เสร็จจากการพูดคุยธุรกิจแล้วเราก็เข้าไปติดต่อเข้าพักในโรงแรมในตัวเมือง บริเวณหน้าโรงแรมเห็นมีรถม้าจอดรอนักท่องเที่ยวอยู่หลายคัน ผมคิดในใจว่าต้องลองนั่งรถม้าสักครั้งหนึ่ง มาหลายครั้งล้วไม่เคยลองสักครั้งเดียว
ผมเปิดห้องพักห้องเดียวกับปิยะ ส่วนลำยงค์เป็นผู้หญิงจึงเปิดห้องให้นอนคนเดียวต่างหาก ต่างก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่าพักผ่อนกัน รอเวลาค่ำๆที่นัดหมายกันคุณชิดชัยจะมารับไปทานอาหารค่ำ
คุณชิดชัยเป็นคนพื้นที่ เกิดและเรียนที่นี่จบมาก็ทำงานอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม ส่วนเจ้าปิยะนั้นรุ่นน้องผมสองปี จบมาจากที่เดียวกัน  เมื่อถึงเวลาคุณชิดชัยมารับตรงเวลา เขาพาพวกเรานั่งรถวิ่งไปตามถนนลัดเลาะไปทางซอยเล็กซอยน้อยไม่นานก็มาถึงร้านอาหาร เรานั่งทานอาหารไปคุยกันไปจนได้เวลาประมาณสามทุ่ม คุณชิดชัยก็จัดการค่าอาหารตามแบบฉบับเจ้าภาพ แล้วส่งเรากลับโรงแรม เราทั้งสามคนเดินเข้าห้อง ผมกับเจ้าปิยะวางแผนการเอาไว้แล้วว่าเดี๋ยวเข้าไปสักเดี๋ยวจะออกไปท่องราตรีกันสักหน่อย ปล่อยให้เจ้าลำยงค์นอนอยู่ที่โรงแรมคนเดียวให้รู้ไม่ได้เดี๋ยวคนทั้งบริษัทรู้หมด
ประมาณใกล้ๆสี่ทุ่มผมเดินออกมาหน้าโรงแรมกับปิยะ เรียกรถม้าหน้าโรงแรมนั่นแหละให้ไปส่งที่ผับที่ดังที่สุดในจังหวัด ในลำปางนี้ถึงจะเป้นจังหวัดเล็กๆเป็นแค่ทางผ่านไปเชียงใหม่ก็ไม่ล้าสมัยมีที่เที่ยวกลางคืนอยู่พอใช้ รถม้าพาเรามาที่ผับไม่ไกลจากโรงแรมนัก เราสองคนก็เข้าไปนั่งในร้าน ในร้านก็มีที่นั่งโซฟาจัดไว้ให้ลูกค้ามานั่ง เราสั่งเบียร์มาดื่มอุ่นเครื่องกันก่อน จากนั้นก็มีคนมาแนะนำน้องๆให้มานั่งคุยเป็นเพื่อน เราก็ว่าดีเหมือนกันจะได้ไม่เหงา
ปิยะได้เพื่อนคุยแล้วก็เลยแยกออกไปนั่งคุยกระหนุ่งกระหนิงอีกมุมหนึ่ง ส่วนผมก็นั่งคุยกับน้องที่เดิม สาวที่มานั่งคุยกับผมเธอชื่อแก้ว ยังเรียนหนังสืออยู่ปวส.ในวิทยาลัยแถบนั้น กลางคืนมาหารายได้พิเศษ เธอพักอยู่กับครอบครัวเธอไม่ไกลจากที่ทำงานนัก แก้วเป็นเด็กน่ารักมากจนผมไม่กล้าไปทำมือปลาหมึกเหมือนก่อนๆ เรานั่งคุยเรื่องเกี่ยวกับจังหวัดนี้ เธอถามผมว่ามาจากไหน มาทำอะไร ผมก็คุยไป คุยกันเรื่องจิปาถะได้สักพักหนึ่งเจ้าปิยะก็มาบอกว่าคืนนี้ไม่กลับไปนอนกับผมนะ ผมก็รู้ความในของมันดีก็เลยพยักหน้ารับรู้
พอเวลาเลิกร้านผมขอไปส่งแก้วที่บ้าน เธอก็ไม่ปฎิเสธอะไรดีเสียอีกจะได้ไม่เหงา ผมเลยเรียกสามล้อแล้วให้แก้วบอกทางไป สามล้อวิ่งไปตามทางที่แก้วบอกลัดไปตามถนนในซอยจนถึงปากทางเข้าบ้านซึ่งห่างจากบ้านประมาณยี่สิบเมตร และรถเข้าไม่ถึง แก้วขอเดินเข้าบ้านเอง เรานัดกันว่าคืนพรุ่งนี้แก้วจะพาผมไปเที่ยวทั่วเมือง แก้วจะลางานให้ผมรอที่ล๊อบบี้โรงแรมสองทุ่มจะมาหา ผมก็เลยให้สามล้อรอจนแก้วเดินเข้าประตูบ้านไป รถจึงออกมาส่งผมที่โรงแรม
เสียงเคาะประตูหน้าห้องประมาณหกโมงเช้าของเจ้าปิยะปลุกผมขึ้นมา ผมเดินมาเปิดประตูให้มันเข้าห้อง ท่าทางมันสดชื่นดีพิลึก
เอ้า...เฮีย ไม่มีใครมานอนเป็นเพื่อนหรือ มันมองสำรวจทั่วห้อง
ไม่มีหรอก เมื่อคืนแค่ไปส่งที่บ้าน แต่คืนนี้มีนัดโว้ย ผมตอบมัน ล้วก็เดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำ
ผมไม่รอปิยะที่ห้อง ผมเดินมาที่ห้องอาหารเห็นลำยงค์นั่งรออยู่แล้ว แม่นี่จ้องมองหาพิรุธว่าลูกพี่ตัวแสบแอบไปเที่ยวมาหรือเปล่า
เมื่อคืนพี่ไปไหนกันมา ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันต้องถาม
ไปนั่งรถม้าเล่นกับไอ้ปิยะมัน...มาไม่เคยนั่งเลยว่ะ ก็ไปนั่งมาจริงๆนี่หว่า
ผมไม่รอตอบคำถามของมันอีกต่อไปเดินไปตักอาหารมานั่งกิน พอดีปิยะลงมาก็เลยบอกมันให้เงียบๆไว้ว่าไปนั่งรถม้ากันมาเท่านั้น
ประมาณแปดโมงเช้าเราขึ้นรถไปทำงานที่เชียงใหม่ เสร็จธุระก็ราวๆสี่โมงเย็น เดินทางกลับมาถึงโรงแรมที่ลำปางก็ราวห้าโมงเย็น ผมเก็บของเข้ากระเป๋าเดินทางเพราะพรุ่งนี้จะต้องออกไปเชียงรายและแวะนอนที่นั่นหนึ่งคืนถึงจะกลับมาลำปางอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเจ้าปิยะล้มตัวลงนอนเอาแรง คืนนี้ต่างคนต่างฉายเดี่ยวครับ
สองทุ่มผมลงมานั่งรอแก้วที่ล๊อบบี้ เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มแก้วก็ยังไม่มาส่วนเจ้าปิยะเดินลงมาแล้วทักว่าทำไมยังนั่งอยู่ หรือว่ารอเก้อ จะไปกับมันไหม ผมว่าผมไม่ไปหรอก ไม่มาก็ขึ้นไปนอน ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รอจนสี่ทุ่มแก้วก็ยังไม่มาก็เลยเตรียมตัวจะกลับห้องพัก ได้ยินเสียงแก้วเรียกที่หน้าโรงแรม
พี่ๆ...ขอโทษทีพี่พอดีที่บ้านหนูมีงานเลยมช้า เธอรีบบอกมาแต่ ผมซึ่งหงุดหงิดอยู่ก็เลยค่อยเบาลง
เอ้า เหรอ ผมตอบไป
ปะ... เราไปเที่ยวกันดีกว่า เธอพูดยิ้มๆเอามือมาดึงมือผมจะจูงไป
พี่ว่ามันดึกมากแล้วคืนนี้ เอาเป็นว่าพี่ไปส่งแก้วที่บ้านละกัน พรุ่งนี้พี่ไปเชียงรายคืนนึงแล้วจะกลับมาเราค่อยเที่ยวกัน ผมตอบไปเพราะมันดึกแล้วและหมดอารมณ์เที่ยวแล้วด้วย
แก้วบอกว่าถ้าอย่างงั้นเราเดินคุยกันไปก็แล้วกัน บ้านแก้วไม่ไกลมากเดินไปก็พอไหว เราจึงเดินกันไปเรื่อยๆ คุยกันไปตลอดทางจนมาถึงปากทางเข้าบ้านของแก้ว วันนี้แปลกกว่าเมื่อวานที่ไม่มีแสงไฟ แก้วบอกว่าพ่อแม่ไปงานกันหมดคงกลับมาดึกหน่อย ไม่เป็นไรหรอกแก้วอยู่ได้ ผมก็เลยยืนรอจนแก้วเดินเข้าบ้านแล้วหันหลังจะเดินกลับ เดินไปได้สองสามก้าวก็ได้ยินเสียงชายแก่เรียกมาข้างหลัง หันกลับไปมองแกเดินออกมาจากบ้านของแก้ว
ไอ้หนุ่มๆ เอ็งมาหาใคร? เสียงของแกได้ยินชัดเจน
ผมมาส่งแก้วครับ แล้วตาเป็นอะไรกับแก้วหรือ ผมตอบและถาม
เฮ้ย...พูดหมาๆ นังแก้วมันตายแล้ว เอ็งมาส่งมันได้ไง? แกตอบ ผมรู้สึกว่าอีตาคนนี้แกคงหวงหลานแกแน่ๆเลยออกมาพูดอย่างนี้ แกคงเห็นผมไม่เชื่อ
นังแก้วมันเป็นหลานข้า มันตายเมื่อบ่ายนี่เอง...ไม่เชื่อเอ็งไปดูที่วัดได้เลย ว่าแล้วแกก็เดินเข้าบ้านไปไม่หันกลับมาพูดอะไรอีก
ส่วนผมก็ส่ายหัวเดินออกไปกะว่าจะไปเรียกรถสามล้อกลับโรงแรมแต่ยังไม่เห็นสักคันจึงเดินมาเรื่อยๆ กำลังจะผ่านสถานที่หนึ่งมีแสงไฟสว่างอยู่ เป็นที่ที่คนทางเหนือเขาใช้ตั้งศพทำพิธีกัน ผมนึกถึงคำตาแก่นั่นเลยเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ยังมีคนอยู่ในงานกันอยู่ คนพวกนั้นเห็นผมเข้าก็เลยเดินเข้ามาถามว่ามางานหรือทำไมมาดึกจัง ผมเดินเข้าไปใกล้ๆตั้งใจจะไปดูรูปคนตาย ในภาพกรอบรูปนั้นทำให้ผมขาอ่อนลงทันที หลายคนตกใจวิ่งมาพาผมออกมานั่งที่เก้าอี้
ในรูปนั่นใช่แก้วหรือเปล่าครับ ผมถามออกไป
ใช่ซิ แก้วมันซ้อนท้ายมอไซค์เพื่อนประสานงาเมื่อตอนบ่ายๆนี่เอง เสียงชายกลางคนตอบผมออกมา
ผมเป็นพ่อแก้ว แล้วคุณรู้จักแก้วมันด้วยหรือ? พ่อของแก้วถาม
ผมเพ่งส่งแก้วกลับบ้านมานี่เองครับ ผมตอบไปพร้อมๆกับอาการขนลุกขนชัน จากนั้นผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ญาติแก้วในงานฟัง
ก่อนกลับมีตาแก่ๆมาบอกว่าแก้วตายแล้วด้วย ผมยังนึกโกรธแกอยู่เลย ผมบอก
แอะ...ที่บ้านไม่มีใครอยู่นี่นา แล้วตาแก่คนนั้นรูปร่างอย่างไง พ่อของแก้วทำท่าตกใจ ผมก็ได้เล้าถึงรูปร่างหน้าตาของตาแก่นั่นให้ฟังหมด
ผมว่าคุณโดนดีเข้าสองครั้งซ้อนแล้วละ...ตาแก่นั่นรูปร่างคล้ายพ่อผมที่ตายไปหลายปีแล้ว พ่อแก้วพูดขึ้น

โอย...ผมจะเป็นลมให้ได้...นี่โดนผีหรอกคืนเดียวสองครั้งเลยหรืออย่างไงวะนี่
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

Twilight Zone

โพสต์ที่ 32

โพสต์

อ่านเรื่องพี่ที่ไรระทึกทุกที  :shock:  สนุกตอนท้ายๆนี่แหละครับ  :D  ผีคุณตานี่คิดได้ยังไง ผีซ้อนผี!    :bow:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

Twilight Zone

โพสต์ที่ 33

โพสต์

สุภาพบุรุษ
               วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมและลูกน้องต้องอยู่จัดการกับงานกันจนค่ำมืด งานติดตั้งถังบรรจุปูนขนาดใหญ่กำลังใกล้จะเสร็จเต็มแก่แล้ว นายต้องการให้เราสรุปความก้าวหน้าของงานเพื่อเก็บเงิน
ไอ้ทองมา โฟร์แมนตาขาวมันไม่ค่อยอยากอยู่จนดึกหรอกครับ อย่างที่รู้กันไอ้นี่มันกลัวอยู่สองอย่างคือเมียกับผี ผมและพวกลงความเห็นว่ามันกลัวเมียมากกว่าผีแน่นอน
ผมเครียร์งานชิ้นสุดท้ายเสร็จในเวลาราวๆสี่ทุ่มครึ่ง กำลังเก็บของเพื่อจะกลับที่พัก หันมองหาไอ้ทองมาตัวแสบว่ามันอยู่ไหน
ช่าง...เสร็จแล้วใช่ไหม?...แหม ผมเอารถมารอนานแล้ว เหมือนรู้เวลา ทองมาเอารถมาจอดรอที่หน้าตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้เป็นสำนักงานชั่วคราว แต่คราวนี้ไม่ใช่รถกระบะที่เคยใช้ กลับเป็นรถมอเตอร์ไซต์ที่เอาไว้ให้พวกพนักงานขี่ไปซื้ออาหาร หรือของใช้ที่ขาดเหลือ
รถกระบะมันเสียน่ะช่าง...พรุ่งนี้คงซ่อมเสร็จ มันแจ้งผมทั้งๆที่ยังไม่ได้ถาม
ช่างเป็นคนขับนะ มันเสนอ ซึ่งปกติผมจะเป็นคนขับเองตลอดเพราะไม่ไว้ใจใคร
เดี๋ยวไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า...หิวฉิบเลยว่ะ ผมบอก ซึ่งทองมาไม่เคยปฎิเสธเรื่องกินอยู่แล้ว
ผมขี่มอเตอร์ไซต์ซ้อนท้ายทองมาผ่านทางที่มืดและเปลี่ยว สองข้างทางเป็นภูเขาลูกเตี้ยๆซึ่งอีกไม่นานมันก็คงเตียนเป็นเพราะโดนระเบิดไปทำปูนเป็นแน่ ในช่วงแล้งอย่างนี้หญ้าที่ขึ้นอยู่สองข้างทางก็พากันยืนต้นเหลืองไปหมด ยิ่งมีลมพัดยิ่งโบกสะบัดดูแล้วน่าวังเวงชะมัด ไอ้ทองมามันไม่ชอบหรอกครับ มันว่ากลัวใครจะมายืนโบกรถแถวๆหัวโค้ง แต่ที่ยอมนั่งมากับผมเพราะเห็นแก่กินและเห็นว่ามีผมเป็นเพื่อน
ตลาดที่ในตัวเมืองนั้นค่อนข้างสว่างและมีชีวิตชีวาหน่อยครับ เราสองคนหาอาหรใส่ท้องกันจนอิ่มและนั่งจิบเบียร์เย็นๆให้สบายใจก่อนจะกลับเข้าที่พัก ซึ่งผมจะต้องย้อนเข้าไปส่งทองมาที่แคลมป์ก่อน มันไม่ยอมไปค้างที่อื่นแน่ครับ ก็อย่างที่บอก มันกลัวเมียครับ
ตอนที่ผมจ่ายเงินค่าเบียร์และกับแกล้มเรียบร้อยแล้ว ทองมาก็อยู่ในสภาพเมาได้ที่พอดีเช่นกัน ผมติดเครื่องรถ เจ้าทองมาก็กระโดดขึ้นซ้อนท้าย เราต้องขับรถผ่านป่าหญ้าแห้งตามเนินเขาที่เราขับออกมาจากไซต์งานเพื่อเข้าแคลมป์
จากถนนใหญ่แสงไฟก็สว่างดี การขับขี่ก็สะดวกเพราะดึกแล้วไม่ค่อยมีรถวิ่งกันคึกคักเหมือนตอนกลางวัน เลยหัวโค้งข้างหน้าก็จะเป็นจุดที่ผมต้องเลี้ยวเข้าถนนลูกรังวิ่งเข้าสู่ถนนที่สองข้างทางเป็นป่า แล้วเราจะต้องวิ่งอ้อมเขาเตี้ยๆเหล่านั้นไปอีกหลายโค้งทีเดียว
พอผมขับมาถึงจุดที่ตัดเขาถนนลูกรังก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนโบกรถให้จอดมาแต่ไกล มองไกลๆคาดว่าอายุประมาณ 25-26 ผมคิดในใจว่าจะจอดรับไปได้อย่างไง รถมอเตอร์ไซต์แถมมีไอ้ทองมานั่งซ้อนท้ายมาด้วย
ช่างจอดดูหน่อยดิ เห็นสาวๆเข้าหน่อยมันชักไม่กลัวผีซะแล้ว หรือว่ามันเมาได้ที่
พอเราวิ่งเข้าไปใกล้ๆก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงท้องแก่ โบกรถให้เราจอด ไอ้ทองมามันรีบบอกก่อนเลย
ช่างไปเหอะ...คนท้องแก่...เสียเส้นหมด ดูมันซิ
ผมไม่ฟังมันหรอกครับ ผมจอดและถามผู้หญิงคนนั้นว่าจะไปไหน
หนูจะเข้าไปที่แคลมป์จ๊ะ...หนูมาหาแฟน เธอตอบมาชัดเจนดีครับ
เอ...ผมก็จะเข้าไปส่งลูกน้องในแคลมป์เหมือนกัน... เธอยิ้มอย่างดีใจ ผมคิดว่าเธออยากจะติดรถเราไปด้วย
...เออ...แต่ว่าจะไปกันอย่างไงละ รถมอไซต์เสียด้วย ดูเธอผิดหวัง
ผมเองก็คิดหนักจะปล่อยผู้หญิงท้องแก่ยืนมืดคนเดียวก็ไม่ดี แต่ไอ้ทองมาน่ะซิมันไม่ยอมลงมายืนคอยแทนแน่ๆ
เอาอย่างนี้ละกัน...เอ็งพาน้องเขาซ้อนท้ายไปแล้วกลับมารับผม ผมยอมเสียสละยืนคอยแทน
ไม่ไหวครับช่าง...ผมเมาจะแย่...ขับไม่ไหว เห็นสภาพมันแล้วก็ไม่น่าจะไหว ซึ่งมันก็มีอยู่ทางเดียว คือให้ผู้หญิงคอยแล้วผมจะกลับมารับ เมื่อส่งไอ้ทองมาเรียบร้อยแล้ว
เอาอย่างนี้นะ น้องยืนรอผมอยู่ที่นี้ก่อน ผมไปส่งลูกน้องเสร็จแล้วก็จะกลับมารับ ไม่นานหรอก เธอก็ยิ้มตอบเป็นทำนองว่าขอบคุณแล้วจะรอ
เมื่อตกลงกันได้แล้วผมก็บอกให้เธอยืนหลบๆ และระวังๆหน่อย ผมขับรถมุ่งตรงเพื่อกลับไปที่แคลมป์ ให้เร็วๆเพื่อจะได้กลับมารับเธอ
ผมขับมอเตอร์ไซต์วิ่งเข้าโค้งอ้อมเขาลูกแรกที่สองข้างทางรกไปด้วยพงหญ้าสูงท่วมหัว อากาศที่เย็นอยู่แล้วเมื่ออยู่บนรถมอเตอร์ไซต์ที่กำลังวิ่งอยู่ก็ยิ่งหนาวเข้าไปอีก
เมื่อผมเลี้ยวเข้าโค้ง พอจะพ้นโค้งแรกนั้น ไอ้ทองมาก็เอามือมาจับที่ไหล่ผมแน่น
เฮ้ย...จะอ๊วกหรือไงวะ... ผมร้องถามมันไป
................ ไม่มีเสียงตอบ สงสัยมันมันพะอืดพะอมอยู่แน่ๆ
จะอ๊วกก็บอกนาโว้ย...เดี๋ยวเลอะกู ผมตะโกนบอกมัน
ผมไม่ได้สนใจอะไรมันอีก ผมยังคงขับรถไปตามทางของผม แต่ทุกครั้งที่เข้าโค้งไอ้ทองมาจะยึดไหล่ผมแน่นไปเสียทุกครั้ง จนกระทั่งโค้งสุดท้ายคราวนี้มันเอามือมากอดเอวผมแน่นไปหมด
เฮ้ย...ไอ้ทองมาเป็นอะไรของมึงวะ ผมชักรำคาญ
ช่างเอาผมไปส่งที่แคลมป์ก่อนเถอะ... มันพูดเสียงสั่น
ผมขับรถเข้าประตูแคลมป์ ส่งไอ้ทองมาลง มันทำท่าว่าจะเดินไม่ไหวเอา ไอ้เรื่องเมาคงไม่ใช่แล้วละครับ หน้ามันซีดๆอย่างไงชอบกล
กลัวเมียด่าหรือไงวะ... ผมกระเซ้ามัน
ช่างไม่เห็นอะไรเลยหรือไง มันถามขึ้นมาดื้อๆ และมองหน้าผมอย่างสงสัย
เห็นอะไรวะ...ไม่เห็นมีอะไรเลยวะ ผมตอบแบบยิ้มๆ
ไม่ขำนาช่าง...ทุกโค้งที่เลี้ยวมาเนี่ยผมเห็นผู้หญิงท้องแก่คนนั้นมายืนโบกให้จอดทุกโค้งเลย มันพูดเอาจริงเอาจังมาก
เฮ้ย...เมาเปล่าวะ...กูไม่เห็นอะไรเลยวะ ผมยังไม่เชื่อ
โธ่...ช่าง...ถ้าผมไม่เห็นจริงๆหลายๆครั้งผมไม่เกาะช่างแน่นอย่างนั้นหรอก หน้าตามันจริงจังมาก
คิดไปคิดมาก็จริงของมันนะ ทุกครั้งที่เข้าโค้ง ไอ้ทองมามันจะยึดหลังไหล่ผมแน่นไปทุกครั้ง แต่เอ...ผู้หญิงคนนั้นตอนหยุดคุยกันก็เป็นคนปกตินี่นา เสียงพูดจาก็ธรรมดาเหมือนคน แต่ เอ...ทำไมถึงได้มีผู้หญิงท้องแก่มายืนโบกรถตอนดึกๆด้วยนะ ผมอยู่มาก็หลายปีไม่เคยเห็น
แล้วนี่ช่างจะวนกลับไปรับเธอหรือเปล่าล่ะ มันพูดอย่างได้ที
ส่วนผมนั้นรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ถ้าเกิดรับนั่งซ้อนท้ายมาพอหันหลังไปเจอเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไง แต่ถ้าไม่ใช่ผี ผมก็มิเสียคนหรือนี่
แล้วผมควรจะวนกลับไปรับเธอดีไหมครับ?........
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

Twilight Zone

โพสต์ที่ 34

โพสต์

8) เป็นผมคงไปไม่ได้ครับ
    คงนึกในใจบอกน้องเขาไปว่าไม่ว่างครับ ติดนัดเพื่อน จิง จิ๊ง...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

Twilight Zone

โพสต์ที่ 35

โพสต์

น่าจะลองดูนะป๋า อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้  :lol:

เรื่องสั้นสยองขวัญนี่ ป๋าเขียนมือระดับปากกาทองจริงๆ


 :bow:  :bow:  :lovl: