หน้า 2 จากทั้งหมด 4

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 24, 2006 8:35 pm
โดย ปรัชญา
ปุย เขียน:
จริงหรือเปล่า ผมว่า เค้าไม่ได้ให้ทุกคนหรอก พี่

เพราะผมก็ถือบัตรทอง KTC อยู่
เมื่อต้นปี ตอนกลับเมืองไทยฉุกเฉิน ไม่ได้เอาบัตรติดตัวไป เลยไปขอทำใหม่
ใช้เวลาไม่ถึงอาทิตย์ เค้าให้ไปรับ ที่ สนง.ตรงตึก UBC II

ถามเค้า เรื่องบัตรแพลตินัม เค้าบอก ต้องฐานเงินเดือน 70.000 บาท
ส่วน ไทเทเนียม ต้อง 40.000 บาท ครับ

ส่วนผม ถือว่าเป็นลูกค้าที่ไม่ดีเลยของ บริษัท
1. รูดน้อย ปีนึง รูดแค่ 1-2 เดือน แถมต้องแบ่งกับ บัตรกรุงศรี
2. จ่ายเต็มจำนวน ตลอด

ส่วนหุ้น มีติดพอร์ตไว้รับ รายงานประจำปี
:wink:

แฮ่ะๆ ผมเป็นคนว่างงาน รับจ้างภรรยาเป็นเถ้าแก่ ไม่มีเงินเดือนเลยครับ
มีแต่ บ/ช OD (เสียดอกเบี้ย)
ไม่มี บ/ช ออมทรัพย์หรือประจำเลย

มีเงินก็ไปฝาก BBL ดอกเบี้ยงาม

บัตรแพลตินัม ก็ให้/06 หมดอายุ 09
ทำไมให้ถือตั้ง3ปี น่าจะเปลี่ยนให้ปีละครั้ง จะได้รูปบัตรทันสมัย
บัตรก็เป็นสีเงินหรือจะเรียกสีเทาดี มีหนังสืออังกฤษกลางบัตรสะท้อนแสง
Platinum คู่มือ1กล่อง แต่ไม่ค่อยได้ใช้เหมือนกัน รหัสกดเงินจำไม่ได้
ไม่เคยกดเลยครับ กลัวค่าธรรมเนียม

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 24, 2006 8:42 pm
โดย jaychou
คาที่แบงค์ วันนี้เละ

คาที่การ์ด ยังยืนได้แฮะ :cool:

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 26, 2006 11:01 pm
โดย nanchan
Jeng เขียน:แหม น่าจะบอกหน่อยว่า ยกเลิกเพราะอะไร

ทั้งคุณ Oatarm และ ท่าน nanchan

ใส่มาเลย ผมอยากฟังข้อไม่ดีจริงๆ
ต้องโทษที เพิ่งมาเห็น

คือว่าผมก็ใช้ktc มาก่อน เพราะเห็นว่า
เอามาเป็นส่วนลดในการเติมน้ำม้นปตท.ได้
ที่ใช้scb เพราะมันเบิ้ลPoint นะ และว่าจะทำ scb king powerด้วย

บัญชีก็ใช้แบบตัดผ่านบัญชีเงินฝากออมทรัพย์

แต่..

ธนาคารกรุงไทยดันไม่มีใน เซ็นทรัลพระราม2 ก็เลยเลิกใช้เพราะเกิดความยุ่งยากในการโอนเงินและเช็คบัญชี แต่พี่ผมยังใช้อยู่ เพราะเค้าออกไปข้างนอกบ่อย

จะว่าไปผมชอบ Amex นะ เพราะ สามารถเช็คยอดรายการในinternet ได้
แต่เสียที่ร้านค้าไม่ค่อยรับ และต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 27, 2006 9:44 am
โดย uI7J3w
เคทีซีจับมือห้าง โรบินสัน-ตั้งฮั่วเส็ง เปิดแคมเปญสินเชื่อบุคคล
เพื่อการศึกษารับเปิดเทอม

          นางสาวสุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสาย Personal Loans
Business 'เคทีซี' หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 'ในช่วงเปิดเทอม ผู้
ปกครองจะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาให้กับบุตรหลานเป็นจำนวนมาก ทั้งค่าเล่า
เรียน เสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน เคทีซี ต้องการช่วยแบ่งเบา
         ภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ จึงได้จัดแคมเปญสินเชื่อบุคคลเพื่อการศึกษาขึ้น โดยร่วมกับห้าง
สรรพสินค้าชั้นนำ 2 แห่งคือ โรบินสันและตั้งฮั่วเส็ง เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้
สำหรับใช้จ่ายเพื่อการศึกษา โดยให้ข้อเสนอที่พิเศษและเป็นประโยชน์กับลูกค้า ด้วยอัตรา
ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินต่ำเพียง 19% ต่อปี ค่าดำเนินการอนุมัติเงินกู้เพียง 500
บาท รวมทั้งสามารถเลือกการผ่อนชำระแบบขั้นต่ำ 5% หรือสูงสุดถึง 60 เดือนตามกำหนด โดยผู้
สมัครสามารถทราบผลการพิจารณาเบื้องต้นได้ภายใน 60 นาที'
        'กลุ่มเป้าหมายของสินเชื่อเพื่อการศึกษา คือ ผู้ที่ต้องการศึกษาต่อด้วยตนเอง หรือขอสิน
เชื่อเพื่อบุตรหลานที่กำลังศึกษาอยู่ วิธีการสมัครก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงเตรียมบัตรประจำตัว
ประชาชน สำเนาสลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3 เดือน
สำเนาบัญชีธนาคารที่ต้องการให้โอนเงิน และสำเนารับรองการเป็นนักศึกษาหรือนักเรียนของ
บุตร อาทิ ใบระเบียนการศึกษา (รบ.) หรือสำเนาบัตรนักเรียนหรือนักศึกษาพร้อมตราประทับจาก
สถาบันการศึกษา สมัครได้ที่บูธเคทีซีภายในงาน ระหว่างวันจันทร์-เสาร์ โดยกิจกรรมดังกล่าวจะ
จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 1 เดือน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 21 พ.ค. 2549 สำหรับห้างโร
บินสัน สาขาซีคอน รัตนาธิเบศร์ รังสิต ศรีราชา ราชบุรีและจันทบุรี และถึงวันที่ 23 พ.ค. 2549
สำหรับห้างตั้งฮั่วเส็งสาขาธนบุรี' นางสาวสุดาพรกล่าว
     
ที่มา : หนังสือพิมพ์ แนวหน้า

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 27, 2006 1:00 pm
โดย uI7J3w
KTC ยอมรับปีนี้กำไรไม่โตเหมือนเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เหตุปัจจัยดอกเบี้ยพุ่ง-น้ำมันแพงกดดัน

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) กล่าวถึง การ
ทำกำไรของบริษัทฯในปีนี้ว่า จะไม่เติบโตเหมือน 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่ม
ขึ้น ทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ทำให้การใช้จ่ายของ
ประชาชนมีความระมัดระวังมากขึ้น
อย่างไรก็ตามจำนวนสมาชิกบัตรของบริษัทฯ ในปีนี้ยังมีการเติบโต โดยคาดว่าสิ้นปีจะ
มีผู้ถือบัตร 1.5 ล้านใบ จากสิ้นปี 48 ที่มีประมาณ 1.2 ล้านใบ
นายนิวัตต์ กล่าวว่า ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา จำนวนสมาชิกบัตรก็ยังเพิ่มขึ้น ขณะที่สิน
เชื่อบุคคลยังมีการเติบโตขึ้น แต่การใช้จ่ายของประชาชนก็เริ่มมีความระมัดระวังตามค่าครองชีพ
ที่ปรับเพิ่มขึ้น

ที่มา : EFT

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 27, 2006 1:06 pm
โดย uI7J3w
KTC  เพิ่มทีมวิเคราะห์สินเชื่ออีก 35 คน  เพื่อรองรับการขยายฐานบัตรที่ยังเติบโตติดตาม

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC)  กล่าวว่า
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ในการวิเคราะห์ข้อมูลสินเชื่ออีก 35 คน เพื่อ
นำมาวิเคราะห์ลูกค้าที่มีการขอบัตรนอกเหนือจากระบบเครดิต สกอริ่ง  นอกจากนี้บริษัทฯ ก็ยังมี
ความระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้น โดยมีการปรับลดค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น จะเห็นได้จาก
หนังโฆษณาที่ปรับลดลง และจะเน้นการรับผิดชอบในการรับชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก
'ผลจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับ
สูง บริษัทฯ ก็เพิ่มระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น รวมทั้งระมัดระวังในการขยายฐานบัตรให้กับ
ลูกค้า เนื่องจากปัจจุบันความต้องการกู้เงินของลูกค้าเพิ่มขึ้น แต่ความสามารถในการชำระเงิน
เริ่มปรับลดลง เมื่อเทียบกับในช่วงปี 2548 และสัดส่วนที่ลูกค้าเบิกเงินสดจากบัตรเครดิตก็เพิ่ม
ขึ้น  ทำให้บริษัทฯ ต้องมีความระมัดระวังเพื่อไม่ให้มีผลกระทบ'นายนิวัตต์ กล่าว

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 27, 2006 1:08 pm
โดย uI7J3w
ผู้บริหาร KTC  เผยต้นทุนการเงินเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 4.9% เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับสิ้นปี
48 หวังธปท.เพิ่มดบ.บัตรให้สอดคล้องกับต้นทุนใหม่

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) กล่าวถึง ต้น
ทุนทางการเงินของบริษัทฯ ในปีนี้ ว่า เฉลี่ยสิ้นปีน่าจะอยู่ที่ 4.9% เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับสิ้น
ปี 2548 ที่อยู่ที่ 3.4% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ก็ทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนเพิ่มขึ้น  
ขณะที่อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตไม่สามารถปรับขึ้นได้ โดยอยู่ที่ 18% ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ
ได้มีการขอให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตในนามของ
สมาคม ซึ่งหากธปท. อนุมัติให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยบัตรเครดิตได้ ก็จะส่งผลดีต่อการใช้จ่ายของลูกค้า
เพราะจะเป็นประโยชน์ในด้านการคุมค่าใช้จ่ายของลูกค้ามากขึ้น
นายนิวัตต์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้มีการไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด 5,000 ล้านบาทด้วยวิธี
การ ซินดิเคท โลน โดยมีต้นทุนอยู่เฉลี่ยที่ 6.5%
'สิ้นปีนี้ NIM ของบริษัทฯ จะอยู่ที่ประมาณ 12-13% บริษัทฯรักษาให้ใกล้เคียงกับปี
48 ที่อยู่ในระดับนี้'นายนิวัตต์ กล่าว




ที่มา : EFT

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 27, 2006 8:45 pm
โดย artvr4
วันนี้รุ่นน้องของแฟน โทรมา บอกว่าช่วยคิดให้หน่อย ลดต้น ลดดอกจะจ่ายเท่าไหร่ ดอกจะลดเท่าไหร่ท่าจ่ายยอด1500 ต่อเดือน เพราะรุ่นน้องจะกู้ personal loan ของ ktc  ดอกเบี้ย 27% ต่อปี(ผมไม่ค่อยได้ตามไม่รู้ว่าเค้าเปลี่ยนแปลงดอกใหม่หรือยัง)

 ผมถามว่าจะกุ้ไปทำอะไร   บอกว่าเอาไปซ่อม มอเตอร์ไซด์ให้แฟนหนุ่ม (หลายหมื่นอยู่) :?   ผมถามต่อว่าทำไมเอาที่นี่  ก็บอกว่าดอกถูกกว่าที่อื่น และเงื่อนไขไม่จุกจิกเท่าไหร่

 มาคิดดู  กิจการpersonal loan นี่คงโตได้เรื่อยๆ คงต้องแย่งกับ  ok capital   easy buy  aeonts ฯลฯ  แค่ให้ลูกค้าจ่ายดอกอย่างเดียวก็คุ้มแล้วแต่คนที่ไปกุ้มาน่ะสิ ทำงานหาเงินใช้ ดอกเบี้ยจ่ายก็กระอักแล้ว :cry:

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 27, 2006 8:48 pm
โดย artvr4
ขอถามเพิ่มอีกนิดครับ
สรุป  ดอกเบี้ย บัตรเครดิต 18% ต่อปี
 แล้ว personal loan นี่เท่าไหร่ครับ  28% ต่อปีหรือเปล่า
 เพราะผมก็ไม่แน่ใจบอก รุ่นน้องแฟนไปว่า ผมว่ามันสุงไปมากนะ เพราะผมคลับคล้ายว่ามัน 18% ต่อปี   นี่ครับ

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 27, 2006 9:59 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

มาคิดดู  กิจการpersonal loan นี่คงโตได้เรื่อยๆ คงต้องแย่งกับ  ok capital   easy buy  aeonts ฯลฯ  แค่ให้ลูกค้าจ่ายดอกอย่างเดียวก็คุ้มแล้วแต่คนที่ไปกุ้มาน่ะสิ ทำงานหาเงินใช้ ดอกเบี้ยจ่ายก็กระอักแล้ว 
เห็นด้วยครับ ว่าอย่าไปกู้

อืม คนเรานี่มันก็บ้าจิงๆ ดอกก็แสนจะแพง กู้กันอยู่ได้

อืม จะว่าไปก็เหมือนรถเบนซ์นะ แพงก็แพง ซื้อกันอยู่ได้

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 28, 2006 8:37 am
โดย uI7J3w
Jeng เขียน:

โค้ด: เลือกทั้งหมด

มาคิดดู  กิจการpersonal loan นี่คงโตได้เรื่อยๆ คงต้องแย่งกับ  ok capital   easy buy  aeonts ฯลฯ  แค่ให้ลูกค้าจ่ายดอกอย่างเดียวก็คุ้มแล้วแต่คนที่ไปกุ้มาน่ะสิ ทำงานหาเงินใช้ ดอกเบี้ยจ่ายก็กระอักแล้ว 
เห็นด้วยครับ ว่าอย่าไปกู้

อืม คนเรานี่มันก็บ้าจิงๆ ดอกก็แสนจะแพง กู้กันอยู่ได้

อืม จะว่าไปก็เหมือนรถเบนซ์นะ แพงก็แพง ซื้อกันอยู่ได้


มีเรื่องสงสัยอยู่ว่า ในยุกที่ภาวะดอกเบี้ยแพงเนี่ย
คนจะกู้น้อยลงหรือเปล่าครับ

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 28, 2006 8:46 am
โดย uI7J3w
แจ้งมติการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 428/04/2549 07:58

     KTC : แจ้งมติการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4
ที่ KTC 00392/2549
                                                            27 เมษายน 2549


เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


เรื่อง แจ้งมติการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4


    ด้วยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่4 ของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประชุมในวันที่27
เมษายน 2549 เวลา 9.00น.ณ ห้องประชุมพลาซ่า แอทธินี 1 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ได้มีมติซึ่งสรุปได้ดังต่อไปนี้


    1.รับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 3 ประชุมเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2548
    2.รับทราบรายงานคณะกรรมการบริษัทฯ เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทฯ ในรอบปีที่ผ่านมา
    3.อนุมัติงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนของบริษัทฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 และรับทราบ
      รายงานผู้สอบบัญชี
    4.(1) อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
          ในวันที่ 7 เมษายน 2549 ในอัตรา 1.50 บาทต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  
          385,657,699.50 บาท โดยการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2548 จะดำเนินการภายใน
          วันที่ 26 พฤษภาคม 2549
      (2) อนุมัติให้จัดสรรกำไรสุทธิสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2548เป็น ทุนสำรองตามกฎหมาย
          จำนวนเงิน 32,700,000 บาท
    5.(1) อนุมัติการแต่งตั้งกรรมการที่ต้องออกจากตำแหน่งตามวาระตามรายชื่อดังต่อไปนี้
          กลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทฯ อีกวาระหนึ่ง
          1) นายนิวัตต์ จิตตาลาน
          2) นายอัครรัตน์ ณ ระนอง
          3) นางสาวชนาทิพย์ โปษยานนท์
      (2) กำหนดค่าตอบแทนของกรรมการของบริษัทฯ ดังนี้
          (ก) สำหรับค่าตอบแทนกรรมการตามปกติสำหรับปี 2549 ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติให้ใช้อัตราเดิม
              ซึ่งเป็นอัตราที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่3 เมื่อวันที่ 26เมษายน 2548
              และยังมีผลใช้บังคับได้อยู่ในปัจจุบัน
          (ข) อนุมัติค่าตอบแทนพิเศษกรรมการ สำหรับผลประกอบการปี 2548 จำนวน 4,000,000บาท
              และมอบอำนาจให้คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนเป็นผู้พิจารณาจัดสรรเงิน
              ค่าตอบแทนดังกล่าวให้แก่กรรมการแต่ละท่าน
    6.แต่งตั้ง ดร. ศุภมิตร เตชะมนตรีกุล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 3356 และ/หรือ นายนิติ จึงนิจนิรันดร์
      ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3809 และ/หรือ นางสาวธนาวรรณ อนุรัตน์บดี ผู้สอบบัญชี รับอนุญาต
      เลขที่ 3440 แห่งบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ
      ประจำปี 2549 โดยให้ผู้สอบบัญชีคนใดคนหนึ่งมีอำนาจในการตรวจสอบ และแสดงความเห็นต่อ
      งบการเงินของบริษัทฯ (รวมทั้งงบการเงินรวม) และในกรณีที่ผู้สอบบัญชีตามรายนามข้างต้นไม่สามารถ
      ปฏิบัติหน้าที่ได้ให้บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด เป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งผู้สอบบัญชี
      รับอนุญาตคนอื่นของบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนได้
      และอนุมัติจ่ายค่าสอบบัญชีส่วนที่เพิ่มขึ้นสำหรับปี 2548 จำนวน 240,000 บาท และกำหนดค่าสอบบัญชี
      ประจำปี2549 รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 2,640,000 บาท ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้สอบบัญชีต้องทำงานเพิ่ม
      หรือต้องใช้เวลาในการปฏิบัติงานเกินกว่าที่ประมาณการไว้ เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป
      ผู้สอบบัญชีอาจเรียกเก็บค่าสอบบัญชีเพิ่มเติมจากเดิมที่กำหนดไว้ได้ โดยให้คณะกรรมการเป็นผู้มีอำนาจ
      ในการอนุมัติเพิ่มเติมค่าสอบบัญชีเพิ่มเติมดังกล่าวได้เป็นคราว ๆ ไป แต่ทั้งนี้ จำนวนเงินค่าสอบบัญชีที่
      เพิ่มขึ้นนั้นรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 300,000 บาท
     
      จึงเรียนมาเพื่อทราบ




                                                      ขอแสดงความนับถือ






                                                     (นายปกรณ์ มาตระกูล)
                                                รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส
                                                    ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ

----------------------------------------------------

ที่มา : EFT

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 29, 2006 5:05 pm
โดย Willpower
คุณ Jeng ขอร่วมแทงด้วยคน

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 29, 2006 5:55 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

คุณ Jeng ขอร่วมแทงด้วยคน
555 จะไปแทงใครครับ

อิอิ

ktc นี่ ซื้อวันนี้ 23 บาท กำไร 2.55 ก็ได้ 11 % ที่มีโอกาสโตขึ้น 15 %

ก็น่าซื้อน่าถือซัก 3 ปี ขึ้นไปนะครับ

โดยเฉพาะเห็นข่าวบอกร่วมมือกับ jcb ที่มี 56 ล้านบัตร ใน 19 ประเทศ

เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่เกียวข้องกับ ญี่ปุ่น ซึ่ง ktc จะออกบัตรอีก 1 ล้านใบ โห

น่าสนใจ เชียร์ ๆ

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 29, 2006 10:43 pm
โดย Scorpio
ข้อเสีย ทำไมอิอนรูดจัง จะเกี่ยวกันไม๊เนี่ย?

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 29, 2006 10:52 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ข้อเสีย ทำไมอิอนรูดจัง จะเกี่ยวกันไม๊เนี่ย?
stcok market correction เป็นเรืองปกติในตลาด

ที่สำคัญ คือ อิออน มี roe 35 % 4 ปีซ้อนแล้วครับ

ทุน 250 ล้านบาท ไม่เคยเพิ่มทุน ปีที่ผ่านมา กำไร 980.5 ล้านบาทครับ

ราคาที่ลง เป็นโอกาสในการซื้อครับ แต่เราจะรู้ราคาที่เหมาะสมในการซื้อได้อย่างไร

ว่าควรซื้ออิออนที่เท่าไร

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 02, 2006 11:36 am
โดย Scorpio
http://www.naewna.com/news.asp?ID=6546#news
ไม่รู้อันนี้จะมีผลบ้างหรือเปล่า สังเกตุจากเพื่อนๆที่ทำงานมีบัตรกันหลายใบ
ส่วนใหญ่เกือบเต็มวงเงินทั้งนั้น หากมีไรขึ้นมาหรือตกงานก็เสร็จเลยครับ

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 02, 2006 1:40 pm
โดย pae2020
ผมใช้สองใบครับ KTC กับ SCB เพราะวันตัด บ/ช ไม่ตรงกัน

ข้อเสียของ KTC เมื่อเทียบกับบัตรอื่นๆ ก้อ ระยะปลอดดอกเบี้ยครับ ผมนับไปนับมาได้ประมาณ 45 วัน ขณะที่บัตรอื่นๆจะอยู่ราว 50 วันแถมหากวันชำระตรงกับวันหยุด บัตรอื่นจะกำหนดให้ชำระในวันทำการถัดไป

แต่ KTC ไม่สนใจครับ ต่อให้ตรงวันหยุด ก้อ เป็นหน้าที่ของผู้ใช้บัตร ต้องชำระ่ก่อนเอง ซึ่งหากวางแผนทางการเงินไม่ดี ก็ลำบากเหมือนกัน

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 02, 2006 3:59 pm
โดย tt
เออ แปลกดีแฮะ ผมก็เปลี่ยนมารูด ปรื๊ด เหมือนกัน ผมว่า double point นี่
มีผลมากเลยนะ แล้วก็แต้มที่ใช้แลกของนี่ใช้น้อยกว่าของที่อื่น
KTC ต้องปรับปรุงจุดนี้ เมื่อก่อนผมก็ใช้แต่ KTC แต่แต้มที่ได้มันแลกได้น้อยจริง แต่ KTC ดีตรงที่เพิ่มวงเงินให้ตลอด นี่บัตรทอง KTC ผม 250,000 แต่
Platinum SCB ผมได้ 100,000 เอง ตลกดีเหมือนกัน อย่างน้อยผมกับแฟนก็รูดเดือนละ 2 หมื่น กลายเป็นของ SCB หมด KTC ต้องปรับปรุงจริงๆ

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 02, 2006 4:06 pm
โดย tummeng
นี่ครับ ที่ pantip มีเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์บัตรเครดิต ให้ดู

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 74693.html

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 02, 2006 9:48 pm
โดย uI7J3w
tt เขียน:เออ แปลกดีแฮะ ผมก็เปลี่ยนมารูด ปรื๊ด เหมือนกัน ผมว่า double point นี่
มีผลมากเลยนะ แล้วก็แต้มที่ใช้แลกของนี่ใช้น้อยกว่าของที่อื่น
KTC ต้องปรับปรุงจุดนี้ เมื่อก่อนผมก็ใช้แต่ KTC แต่แต้มที่ได้มันแลกได้น้อยจริง แต่ KTC ดีตรงที่เพิ่มวงเงินให้ตลอด นี่บัตรทอง KTC ผม 250,000 แต่
Platinum SCB ผมได้ 100,000 เอง ตลกดีเหมือนกัน อย่างน้อยผมกับแฟนก็รูดเดือนละ 2 หมื่น กลายเป็นของ SCB หมด KTC ต้องปรับปรุงจริงๆ

ผมกลับชอบที่เค้าไม่ค่อยแถมนะแปลกจัง

คือไม่ค่อยแถมแต่ก็มีลูกค้ามาเรื่อยเนี่ย น่าจะเป็นผลดีนะครับ

คือไม่ต้องเสียงบกับค่ารางวัลไงครับ น่าจะประหยัดดี

แต่คงไม่ถูกใจลูกค้าสักเท่าไหร่  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 02, 2006 10:16 pm
โดย 007-s
ตามความรู้สึกส่วนตัว
ดิฉันว่า บัตรที่เวลารูดแล้ว ได้ส่วนลด จากร้านค้า หรือพวก มีโปรโมท ผ่อน 0% บ่อยๆ โคกะสินค้า หรือร้านค้า ที่เราต้องไปซื้อ หรือไปกินบ่อยๆ
น่าสนใจกว่าได้ของแถม

เรื่องหาร้านรูดได้ง่ายหรือไม่ ก็มีส่วน (แต่เดี๋ยวนี้ ก็น่าจะพอๆกัน)

เรื่องความสะดวก ในการหาสถานที่ชำระเงิน อันนี้ สำคัญนิดหน่อย แต่ไม่คิดว่าสำคัญมาก
เพราะเข้าใจว่า คนที่ได้รับอนุมัติบัตร โดยส่วนใหญ่ ก็จะเปิดบัญชีไว้ ให้ตัดเงินอยู่แล้ว ,ถ้าไม่ได้ทำเรื่องตัดไว้ เดี๋ยวนี้ ก็มีพวก เทเลแบงค์กิ้ง หรือไปสั่งจ่ายที่ตู้ เอทีเอ็ม จากบัญชีที่ได้เปิดไว้ กะแบงค์นั้นๆ ก็ไม่เสียค่าธรรมเนียมอะไร

ถ้ามุมมอง เรื่อง รูดเงินสด ก็มองที่ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม ในการใช้วงเงิน ว่าบัตรไหน จ่ายดอกถูกกว่ากัน
(การได้จ่ายดอกถูกกว่า แต่รอบบัญชีอาจสั้นกว่า ดิฉันว่า ตามความรู้สึกผู้กู้ น่าจะชอบดอกถูกไว้ก่อน)
(เพราะรอบบัญชี ที่ว่าได้นานกว่า มันจะรุ้สึกได้เปรียบอยู่แค่รอบเดือนแรก เดือนถัดไป มันก็คือว่า นับไปอีก 30วัน ก็ต้องจ่ายเงินออกจากกระเป๋า มันก็จะรู้สึกว่าต้องจ่ายทุก 30วัน อยู่ดี)

ที่น่าสนใจมอง ดิฉันว่า ใครจะหาลูกค้าได้ เก่งกว่ากัน ใครอนุมัติเร็วกว่า ง่ายกว่า (ในกรณีใดก็ตาม อย่างเช่นเป็นกลุ่มลุกค้า ที่วางใจในเครดิตกันได้อยู่ก่อนแล้ว แบบเป็นลูกค้าแบงค์อยู่แล้ว เงินเดือนผ่านแบงค์แน่นอนอยู่แล้ว),ใครมี และรักษาฐานลูกค้าไว้ได้เหนียวแน่น กว่า ...อันนี้ น่าพิจารณา น่าสนใจที่สุด ...ตลาดที่ยังกว้างอยู่ มาก น่าจะเป็น นอก กทม. ใครรุกเร็ว และพร้อมในการอนุมัติลูกค้า ได้เร็ว และเป็นลูกค้าที่มั่นคง ปลอดภัยด้วยนะ

อย่างงี้อ่ะ ก็น่าจะได้เปรียบ คู่แข่งอื่น ในระยะยาวๆ ไกลๆ

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 02, 2006 11:18 pm
โดย uI7J3w
ผมเห็นด้วยครับ ธุรกิจใดๆ ถ้ารักษาฐานลูกค้าไว้ได้ จะได้เปรีบยในระยะยาวครับ

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 03, 2006 12:09 am
โดย sittc
ผมก็คนหนึ่งครับที่
หยุดใช้ KTC และ UOB (BOA เดิม)
มารูดปึ๊ด กับ SCB
เพราะ double point ครับ
ผมใช้มาก ทุกเดือน point ต่างกันมากครับ
(แม้ว่า KTC จะเป็น Cash back คิดแล้ว double point คุ้มกว่า)

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 03, 2006 3:01 am
โดย Rocker
วินัยการเงิน ย้ำแบรนด์เคทีซี แคช

แม้การแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลจะคึกคัก แต่ในสถานการณ์ที่คนขาดวินัยในการใช้เงิน กลับก่อให้เกิดปัญหาหนี้เสียเป็นจำนวนมาก ทางเคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จึงออกหนังโฆษณาชุด My Mom มาตอกย้ำภายใต้คอนเซปต์ รู้จักใช้คืน ใช้ชีวิตอย่างรับผิดชอบ


มณีรัตน์ บัณฑุกัมพล ครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ บริษัท คอนแทร็คท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง (ประเทศไทย) ผู้สร้างสรรค์โฆษณาให้กับเคทีซี กล่าวว่า เรื่องสินเชื่อบุคคลโดยภาพรวมคู่แข่งส่วนใหญ่จะเน้นนำเสนอสิทธิพิเศษต่างๆ กับลูกค้า แต่สำหรับเคทีซีเลือกที่จะเสนอทัศนคติใหม่ให้ผู้บริโภคมีวินัยทางการเงิน เพื่อสร้างความแตกต่างจากรายอื่น

โดยเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ครั้งที่เปิดตัว เคทีซี แคช ได้มีหนังโฆษณาออกมาแล้วชุดหนึ่ง นำเสนอเรื่องราวผ่านพี่น้องคู่หนึ่ง พร้อมคีย์แมสเสจที่ต้องการสื่อถึงในประเด็นที่ว่า "หากต้องการกู้เงิน เมื่อถึงเวลาต้องใช้คืน" ซึ่งครั้งนั้นเป็นการนำเสนอที่ให้ข้อมูลตรงๆ กับผู้ชมเป็นหลัก

สำหรับหนังโฆษณาชุด My Mom นี้ แม้จะยังคงมีธีมนำเสนอในแนวทางเดียวกัน แต่ครั้งนี้เลือกที่จะเน้นสื่อสารทางอารมณ์ (Emotional) ที่แฝงความหมายให้ตีความ ถ่ายทอดผ่านเรื่องราวของแม่กับลูกชายที่ฝ่ายแม่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ลูกก่อนเสมอ โดยเธอหาคำตอบสำหรับการดำเนินชีวิตของครอบครัวในแต่ละช่วงที่จำเป็น ด้วยการใช้บริการสินเชื่อบุคคลของเคทีซี แคช

จนกระทั่งเมื่อลูกชายเติบโตมีงานทำ ก็ตระหนักถึงความรับผิดชอบที่ควรจะตอบแทนบุญคุณและช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ ด้วยการมอบเงินเดือนที่ตนเองทำงานได้เดือนแรกให้แม่ได้นำไปชำระคืนได้ตามจำนวน และตรงเวลา สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตอย่างรับผิดชอบ

ก่อนจะปิดท้ายด้วยคำพูดที่เป็นแกนไอเดียของโฆษณาชุดนี้ "รู้จักใช้คืน ใช้ชีวิตอย่างรับผิดชอบ"

เรายังใช้แนวทางเดิมๆ จุดหนึ่งเป็นการย้ำเตือนให้ผู้บริโภคมีวินัยทางการเงิน จากปัจจุบันที่พบว่าปัญหาจากหนี้เสียของสินเชื่อส่วนบุคคลมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก อีกส่วนเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

โดยหนังชุดนี้ใช้เวลาถ่ายทำ 2-3 วัน เพราะต้องถ่ายทำในหลายโลเคชัน และต้องมีความต่อเนื่องของเรื่องราวตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ทำให้ต้องถ่ายหลายซีน

โฆษณาชุด My Mom มีความยาว 45 วินาที เป็นผลงานสร้างสรรค์ของ บริษัท คอนแทร็คท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง (ประเทศไทย) ซึ่งนอกจากหนังโฆษณาแล้ว ยังมีสื่อสิ่งพิมพ์ที่เน้นให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณประโยชน์ของโปรดักท์มาเป็นสื่อเสริม

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 03, 2006 10:13 pm
โดย david
007-s เขียน:
ที่น่าสนใจมอง ดิฉันว่า ใครจะหาลูกค้าได้ เก่งกว่ากัน ใครอนุมัติเร็วกว่า ง่ายกว่า (ในกรณีใดก็ตาม อย่างเช่นเป็นกลุ่มลุกค้า ที่วางใจในเครดิตกันได้อยู่ก่อนแล้ว แบบเป็นลูกค้าแบงค์อยู่แล้ว เงินเดือนผ่านแบงค์แน่นอนอยู่แล้ว),ใครมี และรักษาฐานลูกค้าไว้ได้เหนียวแน่น กว่า ...อันนี้ น่าพิจารณา น่าสนใจที่สุด ...ตลาดที่ยังกว้างอยู่ มาก น่าจะเป็น นอก กทม. ใครรุกเร็ว และพร้อมในการอนุมัติลูกค้า ได้เร็ว และเป็นลูกค้าที่มั่นคง ปลอดภัยด้วยนะ

อย่างงี้อ่ะ ก็น่าจะได้เปรียบ คู่แข่งอื่น ในระยะยาวๆ ไกลๆ
Agree.That's y KTC concentrate in provinces this year.Actually,most of all vi think about moderntrade,there r in KTC too, not the exact but similar.

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 04, 2006 11:33 pm
โดย เล่าปี่
ถ้าเจ๊งกันขึ้นมาก็ตัวใครตัวมันนะ

NPL ประเทศไทยรู้กันๆอยู่ถ้าลูกหนี้ๆเยอะจะมีอํานาจมากกว่าเจ้าหนี้นะ
เพราะถ้าbankกลัวสูญอาจให้ลูกหนี้ประนอมหนี้ครับ


ผมมองว่าราคาที่มีmargin of safty กําลังดีอยู่ราวๆ17-18 บาท
แต่จะได้กันหรือเปล่าต้องคอยดู ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นเยอะ
น่าจะได้เห็นในเร็ววัน  ซื้อราคานั้นแนวโน้มเด้งมีสูงกว่า
ซื้อแถวๆ 23 บาทครับ

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 04, 2006 11:38 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ผมมองว่าราคาที่มีmargin of safty กําลังดีอยู่ราวๆ17-18 บาท 
เหอๆ ว่าไปเรือย ไม่ทราบว่าคำนวณจากไร

ถ้าเดา

ผมวา margin of safty แถว ๆ 13 - 14 อัพไซ แจ๋วกว่า อีก

อิอิ

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 04, 2006 11:41 pm
โดย เล่าปี่
ผมเคยเป็นผจกฝ่ายอนุมัติสินเชื่อของบมจ.แห่งหนึ่งเลยพอทราบ
siutation ตอนนี้
อย่าง KTC มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ KTB พฤติกรรมผู้บริหารก็รู้กันอยู่ไม่โปร่งใส
อย่าง......... เกริกเกียต ชาลิจรรล์ ก็เคยทําอยู่ทั้งมีhistoryจาก BEC
ยัง....มาเป็นผู้บริหารอีก แต่ดีโดนตรจับไปแล้วพร้อมกับ ใย รูดป๊ดๆๆSCBนั่นอะอีกทั้งผู้บริหารส่วน1ในKTBก็เป็นคนของรัฐบาลบอกตรงๆครับเห็นแล้วเสียวครับ ถ้าใครจะลงKTCดูอนาคตเดียวไม่พอลองดูดีๆว่ามีการไซฟ่อนใหม

มาเชียร์ ktc ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 04, 2006 11:46 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ผมเคยเป็นผจกฝ่ายอนุมัติสินเชื่อของบมจ.แห่งหนึ่งเลยพอทราบ 
siutation ตอนนี้ 
ขอบคุณ ถ้าคุณเคยเป็นจริง

แต่ก็รับฟังไว้ก่อนนะ

เพราะไม่รู้ว่าคุณเป็นจริง แล้วพูดไปเพื่ออะไร ของอย่างนี้ต้องดูนานๆ

ไม่โกรธนะ

มันเปงเรืองเครดิต ทางเว็บ

ต้องดูการโพสของคุณ นานกว่า นี้