Thai VI

[quote="Mr. Boo"][quote]สงสัยว่า การขายหุ้นนี่ เค้าไม่ต้องแจ้ง ทุกครั้งที่ขายเหรอครับ

[quote]มีข้อมูลอย่างนึงที่ผมได้ จากการโทรไปคุยกับทาง UMS คำถามของผมก็คือว่า มีลูกค้าที่ซื้อถ่านหินอยู่ แล้วเปลี่ยนไปเลิกซื้อไหม เค้าบอกว่ามี แต่คู่แข่งไม่ใช่บริษัทขายถ่านหิน แต่เป็น บริษัทที่ขาย พวก กาก ถ้าผมจำไม่ผิดคือ การมะพร้าวหรือ อ้อย นี่แหละครับ คนที่ผมคุยด้วยเค้าบอกว่า พวกนี้ถูกกว่าถ่านหินอีก แล้วก็ นำเข้าไปเผาในเตาถ่านหินได้เหมือนกัน แต่ต้องปรับเปลี่ยนนิดหน่อย

CK เขียน: ได้ยินว่า ums มีโครงการทดลองเอาถ่านหินมาบดเป็นผง
เพื่อให้เอาไปใช้ในเตาเผาชานอ้อยได้ เป็นเชื้อเพลิงทดแทน
ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้แค่ไหน

ที่อเมริกา มีโครงการส่งถ่านหินถึงเตาลูกค้าโดยใช้ท่อส่ง
ด้วยการบดถ่านหินแล้วผสมน้ำ ส่งตามท่อไปถึงลูกค้า
ซึ่งมีเครื่องแยกถ่านหินออกมาต่างหาก

ที่อเมริกา ราคาต่อ megawatt ในการผลิตไฟฟ้าจาก source ต่างๆ
การใช้ natural gas แพงกว่าน้ำมันเตาอยู่หลายสิบเปอร์เซ็นต์

ความจริงโครงการนี้มีไว้สำหรักการขยายตลาดไปในกลุ่ม โรงพยาบาล และโรงแรมครับ

CK เขียน:ได้ยินว่า ums มีโครงการทดลองเอาถ่านหินมาบดเป็นผง
เพื่อให้เอาไปใช้ในเตาเผาชานอ้อยได้ เป็นเชื้อเพลิงทดแทน
ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้แค่ไหน

เรื่องที่ควบคุมไม่ได้ของ ums ก็คือการส่งถ่านหินจากอินโดครับ

สามารถมีถ่านผงที่ไม่ได้ขนาดปนมาด้วย มากถึง 20-50 %

แต่ละ lot ไม่เท่ากัน ควบคุม และเคลมไม่ได้

ปัจจุบัน ถ่านผงที่มาก็ต้องไปขายแบบราคาถูก ไม่ใช่ราคาคัดขนาดที่ได้มาร์จิ้น


เป็น factor สำคัญอีกอย่างที่ ums จะทิ้งห่างคู่แข่งได้

เมื่อสามารถจัดการ cost ส่วนนี้ได้

วิธีการก็คือ นำมาบด แล้วอัดเป็นก้อน ส่งขายลูกค้าประเภทโรงแรม โรงพยาบาลได้ครับ

ถ้าทำสำเร็จ ส่วนนี้ก็จะส่ร้างรายได้เพิ่ม ลด cost

ที่สำคัญ คู่แข่งเจ้าอื่น อาจทำได้ยาก ถ้าปริมาณถ่านผงมีไม่มากเพียงพอครับ

นอภ.บ้านแพ้วนำทีมต้าน "โกดังถ่านหิน"


   นายไกรลาศ รัตนโอฬาร นายอำเภอบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นำชาวบ้าน ต.สวนส้ม ต.อำแพง ต.บางยาง และ ต.ท่าเสา ประมาณ 200 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายธีระบูลย์ โพบุคดี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อให้ระงับการก่อสร้างอาคารเก็บถ่านหินของบริษัทยูนิคไมนิ่งเซอร์วิสเซลล์ จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ต.สวนส้ม และให้ขนถ่ายถ่านหินทั้งหมดออกไปจากพื้นที่ หลังเปิดดำเนินการมาแล้ว 1 ปี ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายให้นายแก่นเพชร ช่วงรังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้แทนรับเรื่อง นายวิเชียร วงษ์วรรณรัตน์ กำนัน ต.อำแพง กล่าวว่า ที่ประชาชนรวมตัวกันมาร้องเรียน เนื่องจากโรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนบ้านคลองสำโรง เด็กนักเรียนและชาวบ้านต้องทนสูดฝุ่นละอองถ่านหินลิกไนต์ที่ฟุ้งกระจายไปปนเปื้อนกับน้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร ผลผลิตการเกษตร อาทิ กล้วยไม้ ผลไม้ ปลาสลิดตากแห้ง ได้รับความเสียหาย อีกทั้งอยากให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานของ อบต.สวนส้ม ในข้อหาเพิกเฉยต่อหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทดังกล่าวด้วย





เลขที่ข่าว 439611  
วันที่ 22/3/2549  
หนังสือพิมพ์[หน้า] มติชน [9]

เป็นจริงรึเปล่าไม่รู้แฮะ?

ขอนี่แหละครับ คุณ สมบูรณ์เป็น กรรมการ แต่ดูใน รายงาน ทั้ง 59-2 และ 246-2 แล้ว ไม่เห็นมีการแจ้งอย่างต่อเนื่องเลย อยู่ ก็กลายเป็น ขายเหลือ 9.9 % ซะงั้น

As of :  28/02/2005    
Major Shareholders # Shares Shares (%)
นาย ไพบูลย์ เฉลิมทรัพยากร 26,429,260 37.76
นาย สมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ์ 12,550,460 17.93
นาย ชัยวัฒน์ เครือชะเอม 11,020,160 15.74

ข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2)
ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส บมจ.(UMS)

สมบูรณ์  สิริไพบูลย์พงศ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 30/09/2548 29/09/2548 500,000 16.10 ขาย  
สมบูรณ์  สิริไพบูลย์พงศ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 15/08/2548 11/08/2548 500,000 16.00 ขาย

แบบรายงาน หลักทรัพย์ ชื่อผู้ได้มา/จำหน่าย

246-2 UMS นาย สมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ์  sell หุ้น -0.10 9.98 07/04/2549  
246-2 UMS นาย สมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ์  sell หุ้น -0.14 14.93 17/02/2549

ถูกต้องมั๊ยครับ????  ฝากช่วยดูหน่อย

Mr. Boo เขียน:

เป็นจริงรึเปล่าไม่รู้แฮะ?

แค่ชนิดถ่านหินก็ผิดแล้วครับ

ได้ติดตามถ่านหินได้สักพักแล้ว ตั้งแต่ราคา12 กว่าแต่ไม่ได้ซื้อจนไปที่ 17 เพิ่งได้มาซื้อนิดหน่อยตอนก่อน xd ที่แถว 15 ก็ได้เริ่มศึกษาบ้าง

ที่น่ากลัวสำหรับ ums ก็คือใครก็สั่งเข้ามาขายได้ แม้ว่าจะขายไม่เป็น สุดท้ายยอมขายขาดทุน ก็น่าจะกระเทือนถูก ums โดยเฉพาะอย่าง ผู้ซื้อในไทยที่เขี้ยว ๆ ก็เยอะ รอฟังหัวพวกนี้อยู่มาก

ที่ผมเห็นก็มีอยู่ที่หนึ่งที่พระราม 2 เลย big C ไปหน่อย มีโรงงานทำผงธูป อยู่ ติดป้ายหราหน้าโรงงานว่า มีถ่านหินนำเข้าขาย ผมยังเก็บเบอร์โทรฯไว้เลย

อีกเจ้าหนึ่ง เพื่อนผมเอง ไม่เคยทำเลยครับ อยู่ดี ๆ ก็นำเข้า มา 8000 ตัน แล้วขายไม่เป็น เพียงเพราะมีเพื่อนมีเหมืองอยู่ที่อินโด ต้นทุนค่อนข้างถูก เก็บอยู่ 7/8 เดือน ที่เสียหาย คือ KCAL ลดลงเนื่องจากระอุ ตอนเข้าใหม่ ๆ ก็ไม่รู้ว่าต้องร่อน เห็นว่าใหม่ ๆ ขายได้ 2 บาทกว่า ๆ แต่ขายได้น้อย ตอนหลังก็เลยขายเหมาไปที่ 1.50 - 1.90 ต่อ กก. เห็นว่าขาดทุนบานเลย

อันนี้ก็น่าจะกระเทือน ums เพราะลูกค้าส่วนหนึ่งคงหันไปซื้อของถูก ๆ จากพวกนี้  นี่ที่รู้แค่ 2 รายเท่านั้นนะ  ผมเชื่อว่าต้องมีอีก  นี่ยังไม่นับ lanna

เรื่องถ่านหิน ผมเองยังอยากนำเข้ามาขายเลย เพราะเห็น G.P ของ UMS ดีเหลือเกิน แต่คิดไปคิดมา ซื้อหุ้นเขาเลยดีกว่า มีคนช่วยบริหารด้วย และยังเป็นห่วงปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะคู่แข่งหน้าใหม่  ถ้าพวกนี้ตั้งใจทำตลาด ผมว่าไม่ยาก  วันนี้ ถ้าผมอยากนำเข้ามา 8000 ตัน ผมทำได้เลยครับ ต้นทุนไม่แพงด้วย เพียงแต่ผมยังไม่เคยลงมือ ผมมีแหล่งครับ

ไม่ทราบราคาถ่านหินที่ ums ขายราคาเท่าไรครับ ที่กี่ kcal และความชื้นเท่าไร

คู่แข่งที่น่ากลัวอีกตัวหนึ่งก็คือกะลาปาล์มจากมาเลย์ และ อินโด ราคาถูกทีเดียว ประมาณ 2บาทกว่า ๆ อุปทานที่โน่นมีมากจริง ๆ เพียงแต่ช่วงนี้ราคาน้ำมันขึ้น ต้นทุนขนส่งในประเทศเขาเลยขึ้น ทำให้ราคากะลาปาล์มแพงขึ้น แต่ตัวนี้ดีคือเป็น green energy พวกยุโรปซื้อไปมากครับ ในไทยก็มีคนใช้มากครับ มีคนชวนให้ผมนำมาขายแต่ดูตัวเลขราคา แล้ว ไม่คุ้นเหนื่อย เพราะมีงานอื่น ที่ให้เวลาเท่ากัน น่าจะได้ผลตอบแทนดีกว่า  อีกอย่างหนึ่ง ถ้านำเข้ามา ผิดพลาดด้านค่าใช้จ่ายไม่ได้เลย และต้องส่งจากเรือไปให้โรงงานลูกค้าเลย ไม่งั้นขาดทุน อีกอย่างหนึ่ง โรงงานที่เคยคุยแบบเล่น ๆ ขนาดของในนี้ขาด ๆ มันอย่างกดราคาเราซะเละเลย เลยไม่ยุ่งดีกว่า

ผมนำกากปาล์มเข้ามาครับ กำไรอยู่หลายเดือน แต่ตอนนี้ของในออก และออกมากซะดัวย ราคาลงจาก 4.20 มาที่ 3.10 ส่งกรุงเทพ และปริมณฑล เลยทำให้ขาดทุนเลือดซิบ ๆ เลย

เพราะปัญหาที่กล่าวมา เลยทำให้ไม่กล้าเข้า ums เต็มที่

อีกหนึ่งสุดยอดกระทู้ครับ
ข้อมูลแน่น และหลากหลายจริงๆ
คงหาข้อมูลแบบนี้จากที่อื่นยากนะครับ

ยังไม่มีโอกาสเจอคุณเสือตัวจริงซักทีเลย...หวังว่าอีกไม่นานคงได้พบกันนะครับ.... :lol:

เรื่องการแข่งขันกับ lanna ผมคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องวิตกครับเรื่งการแข่งขัน

ตอนนี้ตลาดเป็น oligopoly และ ยังเป็นตลาดใหม่

หมายถึงว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือการเปิดตลาดเสียก่อนที่จะมีการแข่งขันครับ

ดังนั้นเวลานี้ ums lanna และ vendorเจ้าอื่น(ไม่นับรวมรายย่อยที่ทำเอง)

ไม่น่าจะแข่งกันเองในเวลาแบบนี้

อีกอย่างเนื่องจาก ตลาดระดับกลาง และระดับล่าง ไม่มีอำนาจในการต่อรองมากนัก
เพราะไม่ได้ทำการ order สินค้าครั้งละมากๆ ดังนั้น lanna ไม่มีความจำเป็นที่จะขายของราคาถูก เพื่อตัดราคากันครับ

ดังนั้นจากสมมติฐานนี้ ราคาขายคงไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ครับ
เป็นการเปิดโอกาสให้ lanna สามารถทำกำไรในตลาดระดับล่างลงมาได้ด้วย

อย่างไรก็ดีในระยะสั้น ผมเข้าใจว่า ทั้ งums และ lanna และเจ้าอืนๆ จะค่อยๆขยายฐานของตัวเอง  แต่จะไม่แย่งลูกค้ากันครับ

ต่างคนต่างขยายว่างั้นเถอะ

การสั่งสินค้าจากอินโดนิเซีย เรือขนาดใหญ่จะไม่ได้เปรียบเรือเล็กนะครับ หากตลาดเรือสูงขึ้น เรือขนาดใหญ่จะเสียเปรียบ

ถ่านหินมีมากในกะลิมันตัน ซึ่งเป็นเกาะ และ เหมืองก็อยู่กระจัดกระจาย ฉะนั้น ท่าเรือขนาดใหญ่มีน้อย และ สินค้าต้องขนส่งโดยเรือลำเลียงจากเหมือง ซึ่งอยู่ท่าเล็กภายใน มาขึ้นเรือใหญ่ เรือขนาดใหญ่จะเหมาะสำหรับตลาดใหญ่ปลายทางที่อยู่ใกลหน่อย เช่นจีน เกาหลี ไต้หวันญี่ปุ่น  

แต่สำหรับไทยแล้ว มีการขนส่งโดยเรือลำเลียงขนาด 7000-10000 ตัน ซึ่งสามารถขนส่งจากท่าเรือเล็กที่อยู่ใกล้เหมือง มาเกาะสีชังโดยตรง ทำให้ค่าส่งรวมกันแล้ว พอ ๆ กันกับเรือ handymax / handy และสำหรับผู้นำเข้านั้น ผลประโยชน์อีกอย่างคือใช้ทุนน้อยกว่า อันนี้ผมว่าน่ากลัว  เพียงแต่ว่า คนที่รู้ธุรกิจนี้มีน้อยในเมืองไทย และ ต้องเป็นเรื่อง logistic  ในขณะโบร๊คเกอร์มีมาก โดยเฉพาะสิงคโปร์

มีการขายถ่านหินให้โรงงานปูน หรือ ไฟฟ้า ที่ขนส่งโดยเรือลำเลียงดังกล่าวทุกเดือนครับ

UMS เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ซื้อของเป็นราคา $US  แล้วขายเป็นเงินบาท  ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องแบบนี้  ยิ่งเป็นแรงส่งให้ผลประกอบการปีนี้น่าจะออกมาดีครับ

-=spider=- เขียน:UMS เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ซื้อของเป็นราคา $US  แล้วขายเป็นเงินบาท  ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องแบบนี้  ยิ่งเป็นแรงส่งให้ผลประกอบการปีนี้น่าจะออกมาดีครับ

อืมมมม งั้นคาดว่างบ Q1 จะได้กำไรจากอัตราการแลกเปลี่ยนมากยิ่งขึ้นด้วยสินะครับ
ดีจัง  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

lychee เขียน:
แต่สำหรับไทยแล้ว มีการขนส่งโดยเรือลำเลียงขนาด 7000-10000 ตัน ซึ่งสามารถขนส่งจากท่าเรือเล็กที่อยู่ใกล้เหมือง มาเกาะสีชังโดยตรง ทำให้ค่าส่งรวมกันแล้ว พอ ๆ กันกับเรือ handymax / handy และสำหรับผู้นำเข้านั้น ผลประโยชน์อีกอย่างคือใช้ทุนน้อยกว่า อันนี้ผมว่าน่ากลัว  เพียงแต่ว่า คนที่รู้ธุรกิจนี้มีน้อยในเมืองไทย และ ต้องเป็นเรื่อง logistic  ในขณะโบร๊คเกอร์มีมาก โดยเฉพาะสิงคโปร์

มีการขายถ่านหินให้โรงงานปูน หรือ ไฟฟ้า ที่ขนส่งโดยเรือลำเลียงดังกล่าวทุกเดือนครับ

ในอนาคต UMS มีการลงทุนทำท่าเรือเอง
อันนี้น่าจะทำให้ cost ลดลงได้นะครับ
และ ต้นทุน ถ่านหินถ้าเทียบกับบริษัท
ที่มี business scale พอๆกัน จะถูกกว่า

ในอนาคต UMS มีการลงทุนทำท่าเรือเอง
อันนี้น่าจะทำให้ cost ลดลงได้นะครับ
และ ต้นทุน ถ่านหินถ้าเทียบกับบริษัท
ที่มี business scale พอๆกัน จะถูกกว่า[/quote]

ค่าผ่านท่าที่ ums จ่ายอยู่วันนี้ที่มหาชัย คงตกตันละ 10-15 บาท สำหรับค่าผ่านท่าเรือคนอื่น และ ค่าตาชั่งตกตันละ ประมาณ 3 บาท

ซึ่งเมื่อมีท่าเรือเอง ก็ประหยัด 13 บาทต่อตันครับ แต่ก็ต้องลงทุนสร้างท่าเรือ และตาชั่ง

อันนี้ ทำให้ ums ประหยัดค่าใช้จ่ายปีละประมาณ ห้าล้านบาท

หากผู้นำเข้ารายใด อยากจะลองทำตลาดดู คงไม่สนใจค่าใช้จ่ายตัวนี้  จุดหนึ่งที่ทำให้เริ่มยากคือ คนรู้ตลาด จะไม่มีทุน คนมีทุน จะไม่รู้ธุรกิจ และมันเป็นสินค้าจำนวนมาก แต่มูลค่าต่ำ เลยไม่ค่อยน่าสนใจ

โรงงานทีพีไอ หรือ โรงไฟฟ้าที่มาบตาพุดหลายรายก็มีท่าเรือของตัวเอง