หน้า 2 จากทั้งหมด 2

ถามความเห็น"หุ้นอาหาร"

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 06, 2005 8:52 am
โดย miracle
เคยโกรธกับพนักงานThe pizzaที่มาบุญครองชั้น 7 (ต้องเอ๋ยถึงร้านว่าอยู่ไหน เพราะยังจำติดตา และเลยกินร้านนี้ไปเลยแบนตลอดกาล)

แบบว่า เราไปกับเพื่อนอีกสองคน ก็สั่งแบบกินธรรมดาๆ
แต่ที่ผิดสังเกตเราต้องรอ รายการอาหารตัวหนึ่ง ซึ่งปกติ ร้านจำพวกนี้ไม่ค่อยหลุดรายการพวกนี้ เรานั่งคุยนั่งอ่านหนังสือรอ จนเรียกพนังานสองสามรอบแล้ว พนักงานก็แบบว่าพูดแบบว่า โกหกว่าอาหารจะได้ภายใน 15 นาที
ซึ่งจริงๆกว่าจะได้ ตั้งครึ่งชั่วโมง ซึ่งของมันหมดกว่าจะได้ของมา กว่าจะทำคิดดูเอาเองล่ะกัน(ตอนนั้นเราเข้าร้านประมาณเกือบทุ่มหนึ่ง กว่าจะออกจากร้านก็สามทุ่มเข้าไปแล้ว)

เราก็โกรธซิ เราเป็นลูกค้า และไม่ตามว่าอาหารได้ครบไหม การบริการห่วยแตกอีกต่างหาก

งานนี้เลย แบนร้านนี้ดีกว่า ไปกินpizza companyที่บริการดีกว่า

เนี่ยละ ร้านพวกนี้ต้องให้คำว่าบริหารด้วยใจ และบอกลูกค้าตรงไปตรงมาว่า ของหมดหรือไม่มีก็ได้อ่ะ เซ็งไหมล่ะท่าน

ถามความเห็น"หุ้นอาหาร"

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 06, 2005 5:54 pm
โดย ซาลาเปา
:wink:  :wink: ชอบmint คะ ในรสชาติอาหารของ the pizza น่าจะถูกปากคนไทยมากกว่า แม้บริการบางสาขาอาจจะแย่ แต่ปริมาณคนเข้าร้านมากนะคะ โดยส่วนตัวคิดว่าmint น่าจะดีกว่า centel นะคะ และswensen ถ้านึกถึงไอศครีม ก็ swensen นี่ละ   ..... :wink:  :wink: เคยถือ mint มาคาดว่าจะถือยาวแต่พอราคาขึ้น 22% อดใจไม่ไหวขายก่อน  ยังเสียใจ.... :cry:  :cry:  ตอนนี้จะเก็บทันไหมคะ พี่ๆๆช่วย แนะนำหน่อยคะ .... :roll:  :roll:  :roll:  :roll:

ถามความเห็น"หุ้นอาหาร"

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 3:17 pm
โดย ztep
:P   PR  ผมคงตัดออกไปเพราะรายได้หลักมาจากการขายข้าวซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่น่าสนใจเท่าไหร่ครับ

   อันนี้เขาขายธุรกิจค้าข้าวนี้ออกไปแล้วไม่ใช่หรือครับ  ตั้งแต่ตอนมีข่าว รมต. วัฒนา  แล้วไม่ใช่รือ    :lol:

หุ้นอาหารที่ชอบ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 3:48 pm
โดย worapong
ตัวหุ้นตอบยากหน่อยนะครับ เพราะมันมีเรื่องราคามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ถ้าถามว่าชอบธุรกิจอาหารอะไรบ้าง ตอนนี้ชอบ เอสแอนด์พีครับ เค้กเค้าอร่อยมากครับ ไอติมฮาเก้นดาสก็สุดยอดเลย ฟาร์มเฮาส์ก็ชอบเพราะขนมเค้าถูกดี เสริมสุขก็ดีครับถ้ามีการประกาศว่าโลกนี้ไม่มีเป๊บซี่และโค้กในอีก3วันข้างหน้า ผมว่าคงเกิดจราจลแย่งกันซื้อแน่นอนครับ มาม่าก็เป็นเพื่อนยามเศรษฐกิจตกต่ำ สเวนเซ่นก็ชอบครับ รสแมคคาดาเมียนี่ชอบมาก เคเอฟซีนี่เฉยๆนะ ยูเอฟเอ็มก็พอใช้ได้ ตอนนี้เริ่มกินน้ำผลไม้ทิปโก้มากขึ้นด้วยครับ เค้ามีภาพพจน์ดูทันสมัยกว่าทุกยี่ห้อเลย นึกออกแค่นี้แหละครับที่ชอบจริงๆคงเป็นเอสแอนด์พีครับ เค้าไม่มีคู่แข่งเกรดเดียวกัน เค้าผูกขาดตลาดกลุ่มเล็กๆของเค้าอยู่ และการเอาชนะเอสแอนด์พีในธุรกิจเบเกอรี่คงยากพอๆกับการยึดเพอร์ลฮาเบอร์ครับ หวังว่าราคามันจะลงมาอีกหน่อยนะครับ ถึงผมชอบเค้กของเค้ามาก แต่ผมก็อยากทำเงินมากๆด้วยเช่นกัน ขอดิสเค้าหน่อยเถอะครับ มิสเตอร์มาร์เก็ตที่รัก :twisted:  :twisted:  :twisted:

ถามความเห็น"หุ้นอาหาร"

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 3:59 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="ซาลาเปา"]:wink:

ถามความเห็น"หุ้นอาหาร"

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 7:52 pm
โดย harry
ไอติมฮาเก้นดาสของ เอสแอนด์พีเหรอครับ

ขอไปดู 56-1 ดีก่า น่าสนใจมากขึ้นหลายตัวเลย

ถามความเห็น"หุ้นอาหาร"

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 09, 2005 12:12 am
โดย adi
harry เขียน:ไอติมฮาเก้นดาสของ เอสแอนด์พีเหรอครับ

ขอไปดู 56-1 ดีก่า น่าสนใจมากขึ้นหลายตัวเลย
ใช่ครับ ถ้าจำไม่ผิดก็รู้สึกว่าจะหุ้นกับไมเนอร์นี่แหละ

ผมชอบเอสแอนด์พี แต่ขอรอหน่อยดีกว่าครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 10:31 am
โดย worapong
ธุรกิจอาหารยิ่งนับวันการแข่งขันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ จนเรียกได้ว่าใครหยุดนิ่งเป็นอันต้องเสียส่วนแบ่งตลาดไปอย่างแน่นอน

ล่าสุดค่ายที่มีการขยับตัวอย่างน่าจับตามองอีกแบรนด์ต้องยกให้กับ "เอสแอนด์พี" ผู้นำตลาดอาหารในไทยมาเนิ่นนาน ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญปีใหม่ Happy Cake... Happy Season Eat - Drink & Be Lucky เมื่อซื้อสินค้าหรือรับประทานอาหารครบทุก 200 บาท รับคูปอง 1 ใบ ลุ้นรับทองคำสัปดาห์ละ 10 บาท รวม 8 สัปดาห์ และรางวัลใหญ่ทองคำหนัก 100 บาท 1 รางวัลในสัปดาห์ที่ 9 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมาจนถึง 5 มกราคม ปีหน้า

การขยับตัวของเอสแอนด์พี น่าสนใจที่เป็นครั้งแรกที่ลุกขึ้นมาจัดทำแคมเปญชิงโชค แจกทอง สำหรับร้านอาหาร จากเดิมที่มีจัดแคมเปญในลักษณะนี้กับขนมไหว้พระจันทร์เท่านั้น

"ทุกปีเราจะจัดแคมเปญซื้อ 4 แถม 1 แต่ปีนี้พิเศษ เพราะเรารู้สึกว่าปีนี้ต้องทำอะไรกับลูกค้ามากขึ้น ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เห็นสัญญาณว่ากำลังใจการซื้อสินค้าของผู้บริโภคลดลงทั้งตลาด เห็นชัดจากเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ที่ผ่านมา ตัวเลขในช่วงแรกของเราเคลื่อนช้ามาก การจัดแคมเปญครั้งนี้ก็จัดขึ้นเร็วกว่าทุกปี เพราะต้องการให้กำลังซื้อกลับมาเร็ว" นายประเวศวุฒิ ไรวา กรรมการบริหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) อธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

การลุกขึ้นมาแจกทองของเอสแอนด์พี ดูจะเป็นตัวสะท้อนภาพกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาดได้อย่างดี นอกจากนั้น การแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารปัจจุบันที่รุนแรงมากขึ้นก็ถือเป็นตัวบีบให้ทุกค่ายต้องหันกลับมาปฏิวัติตัวเองมากขึ้น

"ภาวะตลาดปีนี้ไม่ดี ต้นทุนทุกอย่างขึ้น กำลังซื้อมีปัญหา ทุกค่ายต้องเผชิญกับปัญหานี้ ตอนนี้ทุกค่ายในวงการธุรกิจอาหารต่างจัดแคมเปญกันหมด อย่างเอ็มเคก็ทำ ตอนนี้หากเราไม่ทำอะไรคงไม่ได้" วิทูร ศิลาอ่อน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทเอส แอนด์ พี ระบุ

ปกติค่ายที่ถือว่ามีกิจกรรมในลักษณะนี้ออกมาเป็นประจำเกือบทุกปี คือเจ้าตลาดสุกี้ "เอ็มเค" ที่ล่าสุดได้ลอนช์แคมเปญ "มื้อนี้...มีลุ้นกับ MK" โดยลูกค้าที่ทานครบทุก 500 บาท จะได้รับคูปอง 1 ใบ สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลด รวมถึงส่งชิงโชคเพื่อลุ้นโชค 2 ชั้น

"วิทูร" มองว่า แต่ละปีสถานการณ์เปลี่ยนไป การจัดกิจกรรมต่างๆ ก็เปลี่ยนไป ต้องประเมินว่าสถานการณ์แบบนี้ต้องจัดกิจกรรมใดถึงจะได้ผล

"ถามว่าเสียภาพลักษณ์ไหม ผมว่าถ้าลดราคาจะเสียภาพลักษณ์มากกว่า เราก็ไม่รู้ว่าแคมเปญลักษณะนี้จะได้ผลหรือไม่ แต่ก็อยากทดลองดู"

จากแผนที่เปลี่ยนไป ยังส่งผลถึงบริหารงบฯการตลาดในปีหน้าด้วย

ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทเอส แอนด์ พี ชี้ว่า การบริหารงบฯในปีหน้าต้องให้เกิดการบาลานซ์ โดยโยกงบฯที่เน้นทำโปรโมชั่นลดราคา เปลี่ยนมาใช้กับการทำตลาดในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งการโฆษณาทางโทรทัศน์ การปรับปรุงร้าน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในแบรนด์มากขึ้น

"ระยะยาวร้านอาหารไม่สร้างแบรนด์จะอยู่ลำบากอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นแผนของเราอยู่แล้วในปีหน้า เพื่อรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่ไว้ให้ได้ แต่จากกำลังซื้อที่ลดลง จึงเป็นเหมือนตัวเร่งให้ต้องกลับมาเน้นเรื่องแบรนด์ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม รวมถึงปรับปรุงร้านให้เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย"

อย่างไรก็ตาม นอกจากหันมาปรับปรุงตัวเองแล้ว สิ่งสำคัญที่ธุรกิจร้านอาหาร ต้องคำนึงถึงอีกประการคือ การรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่ไว้ให้ได้ ซึ่งกลยุทธ์หนึ่งที่แต่ละแบรนด์นำมาใช้คือ CRM

แบรนด์ที่ลุกขึ้นมาทำเรื่องนี้อย่างจริงจังคือ "บ้านใร่กาแฟ" ที่แม้จะเงียบหายไปพอสมควร แต่แบรนด์ดังกล่าวก็ถือว่ามีลูกค้าอยู่ในมือพอสมควร

"เราจะกลับมาที่การบริการ และรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่มากขึ้น" รุ่งเรือง น้ำคำ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ธุรกิจ บริษัท ออกแบบไร่นา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ล่าสุดบ้านใร่กาแฟได้ประกาศรับสมัครสมาชิก โดยค่าสมัครบัตรสมาชิกอยู่ที่ราคา 490 บาท ซึ่งลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงส่วนลดจากสถานบริการที่ร่วมโครงการกับบ้านใร่กาแฟ

การลุกขึ้นมาขยับตัวของบ้านใร่กาแฟครั้งนี้ สะท้อนถึงภาพของธุรกิจที่แข่งขันอย่างรุนแรงได้เป็นอย่างดี

ก่อนหน้านี้ "โออิชิ" ก็ลงมือปฏิวัติแบรนด์ทุก แบรนด์ที่มีอยู่ในมือถึง 8 แบรนด์ เพื่อเตรียมรุกครั้งใหญ่ในปีหน้า นอกจากนี้ ยังเตรียมทำ Co-brand ด้วยการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ด เพื่อให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าของโออิชิอีกด้วย

"เราต้องการให้ value กับลูกค้ามากขึ้น เป็นกลยุทธ์ CRM ทำให้สร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี" นายไพศาล อ่าวสถาพร ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุ

โจทย์สำคัญของธุรกิจในวันนี้ จึงเป็นการกลับมาที่จุดแข็งของแบรนด์ตัวเอง เพื่อรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่เอาไว้ให้ได้ ก่อนที่จะขยายรุกสู่ลูกค้าในกลุ่มใหม่ๆ

ใครสามารถปรับตัวได้ก่อนคนนั้นก็จะได้เปรียบ