Thai VI

ผมไม่ชอบธุรกิจโรงพยาบาลตรงที่เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วมากครับ

และไม่แน่ใจเรื่องต้นทุนครับ ซึ่งน่าจะค่อนข้างสูง

ถ้ามีการขยายตัวมาก ๆ แล้วไม่สามารถ break even ได้ ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องลบมากกว่าบวกนะครับ

จะ marketing เพื่อ create demand ก็ไม่ได้ มีแต่แย่งเค้กก้อนเดียวกัน

และอนาคตคนน่าจะรักษาสุขภาพมากขึ้น ไม่แน่ใจว่า growth ของอุตสาหกรรมนี้รวมเป็นเท่าไหร่

นี่แหละครับ ที่ทำให้ผมชอบ BH มาก ต้องฉายหนังซ้ำอีกแล้ว...

BH ไม่มีนโยบายเปิดสาขา เพราะการเปิดสาขาทำให้ต้องซื้อเครื่องมือแพทย์จำนวนมาก เงินจม ในขณะที่การเปิดสาขาออกไปยังต่างจังหวัด ลูกค้าจากเบาบาง กำลังซื้อก็น้อย โอกาสถอนทุนแทบไม่มี

BH จึงใช้วิธีเติบโตด้วยการส่งออก ให้ลูกค้าต่างประเทศเหาะมารักษาที่นี่ วิธีนี้คืนทุนได้อย่างรวดเร็ว รพ.นี้มีเครือข่ายการตลาดต่างประเทศที่เข้มแข็งที่สุดเพราะทำมานานแล้วตั้งแต่ตอนเกิดวิกฤต

คนน่าจะรักษาสุขภาพมากขึ้นเป็นข้อคิดที่ดีและผมก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นครับ และผมก็ว่าจะส่งผลดีต่อ หุ้นในกลุ่มนี้ด้วย เนื่องจากคนอายุยืนขึ้น การดูแลรักษาสุขภาพคืออีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่นการตรวจเช็คร่างกาย มากไปกว่านั้นถ้าสังเกตุดีๆ โรคภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่ที่ต้องใช้เงินกันมากนั้นก็เป็นโรคที่เกิดกับคนอายุมาก ไม่ว่าจะเป็นกระดูก หัวใจ ความดัน ฯลฯ ในระยะสั้นๆ นี่อาจยังไม่เห็น growth มากเท่าไหร่ แต่ผมว่าระยะยาวก็จะเติบโตได้เรื่อยๆ

เสียอยู่อย่างเห็น p/e แล้วผมไม่กล้า....

อืม คนเรา รถยนต์ไปทุกที ต้องเช็ค ตามระยะทางที่กำหนด

ว่าแต่ใครไปเช็คระยะทาง อายุ 40 ปีกันบ้างหรือยังฮิ

Linzhi เขียน:ผมไม่ชอบธุรกิจโรงพยาบาลตรงที่เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วมากครับ
และไม่แน่ใจเรื่องต้นทุนครับ ซึ่งน่าจะค่อนข้างสูง
ถ้ามีการขยายตัวมาก ๆ แล้วไม่สามารถ break even ได้ ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องลบมากกว่าบวกนะครับ
จะ marketing เพื่อ create demand ก็ไม่ได้ มีแต่แย่งเค้กก้อนเดียวกัน
และอนาคตคนน่าจะรักษาสุขภาพมากขึ้น ไม่แน่ใจว่า growth ของอุตสาหกรรมนี้รวมเป็นเท่าไหร่

เรื่องเทคโนโลยีทางการแพทย์ไม่ได้เปลี่ยนเร็วถึงขนาดล้างบางอย่างที่โทรศัพท์มือถือทำให้เพจเจอร์ตกยุคภายในไม่ถึงสิบปีครับ เครื่องมือที่ถึงจุดคุ้มทุนแล้วอาจจะถูกขายต่อไปยังโรงพยาบาลอื่น ๆ ได้
และเราเป็นเพียงผู้ใช้เทคโนโลยี ไม่ได้หมดเงินทองไปกับการวิจัยเทคโนโลยีหรือเครื่องมือใหม่ ๆ
ประเด็นนี้ผมคิดว่าไม่น่าเป็นห่วง

เรื่องของการรักษาสุขภาพ มันก็ไม่ได้ทำให้จำนวนคนเป็นโรคลดลงสักเท่าไรหรอกครับ
เวลามีการทำวิจัยทางการแพทย์ใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับการป้องกันโรค ไม่ว่าจะเป็น primary prevention หรือ secondary prevention นวัตกรรมใหม่ ๆ ไม่ได้ลดจำนวนผู้ป่วยแบบฮวบฮาบยี่สิบสามสิบเปอร์เซนต์หรอกครับ เมื่อคิดเทียบกับอัตราการเพิ่มประชากรแล้วผมว่าจำนวนผู้ป่วยอย่างไรก็ต้องเพิ่มขึ้น
อีกอย่างหนึ่ง กำไรขั้นต้นจากการให้บริการรักษาสุขภาพหรือ primary prevention นั้นไม่น้อยหรอกนะครับ
การตรวจประจำปีที่เจาะเลือดและตรวจอย่างอื่นอะไรต่ออะไรมากมาย ถึงจะบอกว่า มาเป็นแพกเกจ ถูกลงตั้งเยอะ แต่โรงพยาบาลก็ยังกำไรอื้ออยู่ดีครับ

hot เขียน:อืม แต่นางพยาบาลหน้าใหม่ใหม่เพิ่มขึ้นเยอะเหมือนกันคับแปลกจัง
งานนี้แบบนี้ต้องใช้นางพยาบาลมากขึ้นด้วยหรือ

จำนวนคนมาใช้บริการโรงพยาบาลเพิ่ม ก็ต้องมีพยาบาลเพิ่มแหละครับ เหมือนกับร้านค้าที่ขายดีมาก ๆ ก็ต้องเพิ่มพนักงานขายนั่นแหละครับ

อืม ธุรกิจสุขภาพ นี่ต้องบริษัทยานะครับ ข้อมูลที่ได้รับมาคือ บริษัทยา 5 บริษัทใหญ่ ใน 100 บริษัทที่ติดอัน fortune 500 ในปี 2002

บริษัทยายักใหญ่ 5 บริษัทกำไรรวมกันมากกว่า อีก 95 บริษัทยักใหญ่ รวมกัน

แต่ไม่ปรากฎว่าโรงพยาบาลไหน ติด 1 ใน 100 ใน fortune 500 อืม ผมอาจจะอ่านไม่ทั่วถึง ข้อมูลผิดช่วยแก้ด้วย

อืม น่าสนใจประเด็นนี้ครับ

ถ้าธุรกิจนี้ไม่ได้เป็น chain เกรงว่าจะทำให้อำนาจการต่อรองจะลดลงไปมากครับ

ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ธุรกิจยาจะทำกำไรสูงมา ถ้าธุรกิจโรงพยาบาลยังคงเป็นเบี้ยหัวแตก แล้วถ้ามองในระยะยาว กำไรจะไปกองอยู่ที่ธุรกิจต้นน้ำ

สำหรับเรื่องกระแสสุขภาพ ผมยังมองว่าน่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจอื่น ๆ มากกว่าโรงพยาบาลครับ

รพ.กรุงเทพมีเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่บำรุงราษฏร์กลับคิดค่ายาถูกกว่ารพ.กรุงเทพ
บำรุงราษฏร์ใช้วิธีจับมือกับโรงพยาบาลที่เป็นพันธมิตรแบบหลวม 12 แห่ง เพื่อสั่งซื้อยาพร้อมกัน

สิ่งที่คนทั่วไปนึกไม่ถึงก็คือ รพ.กรุงเทพซึ่งเป็นเชนรพ.ขนาดใหญ่ แต่กลับมีรายได้น้อยกว่ารพบำรุงราษฎร์แห่งเดียวเสียอีก

BH 5700 ล้าน
BGH 5274 ล้าน ถ้ารวมสมิตเวชด้วยก็ 7500 ล้าน

อำนาจต่อรองในการซื้อยาจึงไม่ได้แตกต่างกันมาก

ธุรกิจโรงพยาบาลทั่วไปคงสู้ธุรกิจยาแบรนด์เนมไม่ได้ แต่ธุรกิจยาแบบ generic drug ก็สู้ธุรกิจโรงพยาบาลแบรนด์เนมไม่ได้เช่นกัน

mey เขียน:**แหม...ถ้าหมอหล่อๆเก่งๆและพยาบาลสวยๆ  คนไข้ต้องแยะแน่ๆ
  ช่วยลากไปให้สัก 20 หน่อยเท้ออออ.....แบบทำลายสถิติ.อิอิ **

ลากมาส่งที่ 20 ให้แล้วนะครับ วันนี้เอง

ตอนแรกวิ่งตีคู่กันมากับ BGH ดีๆ ตอนนี้ BGH แผ่วไปแล้วครับท่านผู้ชม  :mrgreen:

อือม บริษัทยาบ้านเราน่าจะมีมาเข้าตลาดบ้างนะ
มียาอยู่หลายตัวทีเดียวที่ผลิตในประเทศ

ผมลองค้นๆในตลาดหลักทรัพย์ไม่เจอหรือว่าดูไม่ละเอียดก็ไม่รู้

 :mrgreen:  :mrgreen:  :mrgreen:  :mrgreen:

มีแต่บริษัทพลาสเตอร์ยาของเฮียสองคอพอใช้ได้ไหมครับ

สุมาอี้ เขียน: ลากมาส่งที่ 20 ให้แล้วนะครับ วันนี้เอง

ขึ้น 21 แล้ว เขาลากกันขึ้นไปติดดอยหรือเปล่าครับ งง

 :B  :B  :B  :B  :B  :B  :B  :B สุดยอดดดดด.....หิมาลัยเลยก็ได้ค่ะ

ไตรมาส 2 ปีนี้ไม่น่าจะกำไรดีนัก

KDH ดีมั้ยครับ มันถูกดี ผมถืออยู่ :lol:

แล้ว KH นี่ น่าลงทุนมั้ยครับ?
เห็นล้างขาดทุนสะสมหมดแล้ว (ตอนนี้มีกำไรสะสมอยู่ 14 ล้าน)
ถ้าไม่มีสถานการณ์อะไรเลวร้าย น่าจะปันผลได้สำหรับปีนี้
สาขาก็เยอะ โดยเฉพาะรอบๆเมือง
ผมว่าคนจำนวนมากอาศัยอยู่รอบเมือง และเลือกใช้โรงพยาบาลใกล้บ้าน
(ถ้าโรงพยาบาลบริการดีพอสมควร)

ท่าน CK ที่บอกว่ามีสองตัว มันตัวไหนครับ พอดีผมไม่ค่อยไดัตามครับ จะได้ลองมาดูหน่อย

new high 23.8 แล้วครับ ใครเป็นเจ้ามือลากขึ้นไป โปรดเผยตัว แล้วจะไม่ไปบอก กลต.  คุณสุมาอี้พอทราบเปล่าครับ ?     ทำไมเขาทำอย่างนี้กัน

มานซื้อดุเดือดเหมือนจะ takeover เลยวุ้ย

ขึ้นเร็วก็ลงเร็วนะครับ