Thai VI

โรงภูมิแพ้  นี่เรื่องเล็ก  
กินยาคุมได้24ชั่วโมง    วันละเม็ด

ไม่ตายง่ายๆหรอก  อิอิ

Lady เขียน:อายุ 45 เหรอ  ป่านนั้นคงตายไปแล้วล่ะ

ขออยู่ถึงแค่ 30 ปลาย ๆ ก็พอ เต็มที่ไม่เกิน 45 นั่นแหละ

ขอให้วันนั้น เราทำงานเก็บเงินให้ คุณพ่อ คุณแม่ เต็มที่แล้ว

ถึงเวลาที่เราไป อย่างน้อยได้ตอบแทนด้วยการที่มีทรัพย์.สมบัติ

พอที่ พ่อ-แม่ เราไม่ต้องลำบากตอนแก่ ก็พอใจแล้ว

ขออยู่อีก 20 ปี เศษ ๆ ก็พอ ขอแค่ได้เห็น พ่อ-แม่ ไม่ลำบาก ก็ตายตาหลับแล้ว

8) จิตใจคุณเป็นกุศลมาก
    คิดเลี้ยงพ่อแม่ให้ได้รับความสดวกสบาย
    ยอดครับยอด
    ส่วนมากมีแต่พ่อแม่จะห่วงลูก มากกว่า
    เรื่องภูมิแพ้ นี่ออกกำลังสม่ำเสมอก็หายเหมือนกันครับ
    อย่าท้อแท้ กับชีวิตครับ
    คิดบวกเยอะๆเข้าไว้
    ลองเอาจิตใจของพ่อแม่มาใส่ใจคุณดูบ้าง
    คุณจะรู้ว่าท่านก็อยากให้คุณอยู่กับท่านไปให้นานที่สุดเช่นกันครับ
    เชื่อไหมครับ ถ้าให้แลกชีวิตกันได้
    ท่านยอมตายเพื่อคุณได้นะ

กระทู้อมตะ เหอๆ คงโพสต์ไดเรื่อยๆ จนกว่าจะถึง 45  :lol:

ขอเป็นกำลังใจให้ คุณ Lady อีกคนครับ เพราะว่าเดี่ยวนี้วิทยาการทางการแพทย์มีแต่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เช่น stemcell   พอตอนที่คุณอายุ 45 ปี ร่างกายอาจแข็งแรงกว่าปัจจุบันก็ได้นะครับ

รักษาได้หรือไม่ได้ไม่กลัวหรอกค่ะ

กลัวตรงที่ว่า ยืดเวลาการตายไปเรื่อย ๆ ให้ทรมาณ นี่สิ ทุกข์ยิ่งกว่า

คุณ lady เป็นคนที่เข้มแข็งมาก จิตใจดี มีความกตัญญู
ผมดูดวงแล้ว อย่างน้อยต้องมี 80 ปี

มาสวัสดีคุณ เลดี้

แล้วก็มาแนะนำให้ออกกำลังโดยเริ่มจากเดิน

ผมเมื่อก่อนเดินแค่ 200 เมตรก็หอบแล้ว
ตอนนี้ วิ่งได้บ้างแล้วครับ

คิดเป็นกุศล รับประกันว่าชีวิตมีความสุขแน่นอน

เข้ามาอ่านคะ...เป็นหัวข้อกระทู้ที่น่าสนใจมากคะ
คนเรา..ถ้าไม่มีอะไรทำหรือสิ่งที่ทำดูเหมือนเป็นคนที่ไม่มีค่าอะไร
คงเหมือนที่ใครๆพูด..อายุเป็นเพียงตัวเลขนะคะ....
อยู่ที่การมองหาสิ่งที่ทำแล้วตัวเองรู้สึกว่าเป็นคนที่มีค่าและมีความสุข...
แค่นั้นคงพอแล้วมังคะ

ถึงตอนนั้น ลูกผมคง 10 ขวบ ผมคงนั่งเฝ้าธุรกิจของครอบครัว พร้อมบริหารพอร์ตระดับ 6 ล้านไปแล้วมั้ง

ขอให้คุณ Lady หายเร็วๆๆ คะ ถ้าจิตใจเข้มแข็ง ชนะได้ทุกโรคคะ ..ถ้าหนุอายุ 45 หนูก้อคงเป็นอาจุมม่า เลี้ยงหลานๆๆเพราะคงไม่มีใครขอแต่งงาน เศร้า ...  แต่ตอนนี้ขอศึกษา ลงทุน เก็บเงินเลี้ยงตัวเอง ไปจนแก่...หรือเลี้ยงต้อย ถ้าหาได้  8)

bmw2681 เขียน:ถึงตอนนั้น ลูกผมคง 10 ขวบ ผมคงนั่งเฝ้าธุรกิจของครอบครัว พร้อมบริหารพอร์ตระดับ 6 ล้านไปแล้วมั้ง

8) ไม่ถึง6ดีนี่ครับ แค่ 5,593,347.95

     ผมชอบlifeplan ของพี่บีเอ็มมากครับ

     เท่าที่ตามดูน่าจะทำไ้ด้ดีกว่านั้นด้วยซ้ำ

     พี่บีเอ็ม35แล้วหรือครับ ผมเพิ่ง28








     28ปีกับอีกสองร้อยกว่าเดือน น่ะ

อายุ 40 แต่ไม่มีเงิน ทำการค้าแล้วเจ๊งหมดตัว มีภาระเลี้ยงลูกเล็กๆ จะหางาน หาเงินอย่างไรดีครับ

แนะนำหน่อย

ปล.เรื่องจริง ซีเรียส เพราะมาจากคนใกล้ตัว

BHT เขียน:อายุ 40 แต่ไม่มีเงิน ทำการค้าแล้วเจ๊งหมดตัว มีภาระเลี้ยงลูกเล็กๆ จะหางาน หาเงินอย่างไรดีครับ

แนะนำหน่อย

ปล.เรื่องจริง ซีเรียส เพราะมาจากคนใกล้ตัว

เค้ามีจุดเด่นอะไรบ้าง
มีความถนัดด้านไหนครับ...

อ่านแล้วเครียดแทน

แนะนำกว้างๆก่อนก็ได้ครับ ถ้าอะไรน่าสนใจค่อยลงลึก แล้วแต่สะดวก

BHT เขียน:อายุ 40 แต่ไม่มีเงิน ทำการค้าแล้วเจ๊งหมดตัว มีภาระเลี้ยงลูกเล็กๆ จะหางาน หาเงินอย่างไรดีครับ

แนะนำหน่อย

ปล.เรื่องจริง ซีเรียส เพราะมาจากคนใกล้ตัว

ไม่เก่งพอที่จะแนะนำหรอกนะคะ
ไม่เคยรับการกดดันแบบคุณข้างบนที่คุณ BHT มาเขียนไว้ด้วย
อ่านเจอมา เลยฝากบอกผ่านไปด้วยค่ะ

"แพ้เพื่อชนะ"

บางครั้งการพ่ายแพ้  ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ชีวิตรู้สึกแย่เสมอไป
เพราะหากเคยได้รับแต่ชัยชนะเพียงอย่างเดียว
เราย่อมไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกอีกด้านหนึ่ง
ที่เป็นความผิดหวัง ด้วยเหตุที่ไม่เคยแพ้

เมื่อวันหนึ่งความผิดหวังมาเยือน
ย่อมทำให้เราระทมตรมตรอมจากภาวะที่แพ้พ่ายนั้น
แต่หากเรียนรู้ที่แพ้บ้างในบางโอกาสที่เหมาะสม
เพื่อยอมรับที่จะแก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้ดีขึ้น
เมื่อได้ชัยชนะชนิดใหม่มาครอบครอง
เราย่อมรู้จักรสชาติของความสมหวังอย่างรู้คุณค่ะ

อายุ 40 ถือว่ายังน้อยอยู่เลย เริ่มต้นใหม่ได้ถ้าใจสู้นิ
อาชีพที่แทบจะใช้ต้นทุนน้อย margin สูง
แต่เวลาส่วนตัวหายหมด ถ้าประสบความสำเร็จ
น่าจะเป็น ตัวแทนประกัน (ชีวิต/ภัย)
จริงๆ พอศึกษาเรื่องประกันลึกๆ แล้ว น่าสนใจพอควรเลยค่ะ
(คงไม่โดนลบนะคะ กล้วยทอดไม่เคยขาย และก็ไม่ได้มาขายของนิ อิอิ)

8) มาอ่านที่กล้วยโพสนิ..
    ไปละนิ..ฮิ..ฮิ..

อายุสัก 45 จะไปทำอะไร

นั่งตะบันหมาก

คงไปนั่งดูสาวที่ ริโอ

เห็นลุงๆ ไปเรียน หมอดูกันครับ  :lol:

มีความสุขกับการสอนลูก

มีความสุขกับคนที่เรารัก

มีเวลา ที่เราอยากทำสิ่งดีๆให้กับคนอื่นๆ โดยไม่ต้อง care เรื่องเงิน



เป็นความฝัน และ อยากให้มันเป็นความจริงจังเลยอ่ะ

จะพยายามเด้อ

ของผมก็ คิดว่าจะเป็น vi ไปจนอายุ 60 กว่า
 นู้นแหนะ ถ้าร่างกายและ จิตใจเรา ยังได้อยู่
 ไม่มีถอยแล้วครับชั่วโมงนี้..

  ปล.. เป็นกำลังใจให้คุณ LADY ด้วยครับ
  คุณจะต้องอดทน เพื่อคนรอบๆ ข้างคุณน่ะ
  ใจแข็งๆ หน่อย แล้วอย่างอื่น
  เป็นเรื่องเล็ก ครับ..

อายุ 45 ปี  
เลี้ยงลูก  เลี้ยงหุ้น  
อ่านหนังสือ  

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

เป้าเกษียณผมอยู่ที่ 45 ครับ สงสัยก็นี่ละครับ retire หมดแล้ว

ยังไม่ทันคิดอีกตั้งเกือบ 30 ปี :lol:

พี่มนสอนว่าต้องเดบิตไว้ก่อน :lol:

:lol: สร้างความสุขให้ลูก
และแบ่งปันให้เด็กด้อยโอกาสครับ

สุมาอี้ เขียน:สังเกตไหมว่าบริษัทเอกชนไม่มีค่อยมีพนักงานที่อายุเกิน 45 หลงเหลืออยู่ ยกเว้นผู้บริหารระดับสูง ซึ่งตำแหน่งระดับสูงมีนิดเดียวเหมือนยอดปิรามิด แล้วพวกที่เหลือที่ขึ้นไม่ถึงอีกตั้งเป็นกระบุงพออายุเกิน 45 เขาหายไปไหนกันหมดครับ สงสัยจัง

คนอายุ 45 ขึ้นไป กินเงินเดือนสูงๆ แต่ผลิตงานช้า ไม่ทันกิน กับความไวของโลกสมัยนี้
แต่เจอคนรุ่นใหม่มา คุณภาพเท่ากันหรือดีกว่า กระหายกว่า มุ่งมั่นกว่า ที่สำคัญค่าแรงถูกกว่ามาก
คนอายุมาก กินเงินเดือนแพงๆ ก็โดนเขี่ยไงครับ

ก็เหมือนไทย (อายุ 45) กับ เวียดนาม(หนุ่ม30ไฟแรง)ตอนนี้ครับ

ผมมองต่างนะครับ

สำหรับคนทำงานoffice
ผมมองว่าคนอายุ 40-60 ปีตอนนี้มันมีคนจบป.ตรีเป็น 0.2 เท่า (5 แสนคน)
ของคน 20-40 ปีนะครับ(2.5 ล้านคน)
คนที่อายุ 40-60 มันถึงมีตำแหน่งเพียงพอ


แต่อีก 20 ปีข้างหน้าซิครับ
ผมว่าคนอายุ 40-60ปี(20-40 ปี)ที่จบป.ตรีจะมี 2.5 ล้านคนแต่มีตำแหน่งให้แค่ 7 แสนคน

พี่สาวผม อายุสี่สิบต้น เคยทำงานกับบริษัทฝรั่ง
แล้วถูกบีบให้ออก ตอนนี้พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง
แต่ต้องหาอะไรทำสักอย่างเพราะลูกยังเล็ก
พอมีคำแนะนำบ้างไหมครับ

หาความถนัดของตัวเองให้เจอครับ
หางานที่เราชอบทำครับ
ทำอะไรต้องทำสิ่งที่เราชอบ