การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 7:32 pm | 0 คอมเมนต์
:lol: :lol: :lol: :lol:
ท่านคัดท้ายบอกว่า
ปัญหาคือ จะรู้ได้อย่างไร มากกว่าที่จะรู้แล้วทำยังไง มากกว่า .. ผมว่าพวกเราชาว TVI น่าจะมาถึงขั้นที่คุยกันว่าทำอย่างไรถึงจะรู้แล้วนะ
อืม......ดีมากๆเลยครับ
:lol: :lol: :lol: :lol:
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 7:32 pm | 0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
นั่นดิพี่ ... ถ้าวันนั้น มีคนมาบอกผมว่า BigC จะมีผลตอบแทน 25% ต่อปี ... ผมซื้อครับ ... แล้วผมเชื่อด้วยว่าคนใน TVI จะแห่นางแมวซื้อกันหมดแน่ๆ
แต่ถามว่าใครจะรู้? และทำยังไงจะรู้ ?
แล้วอีก 10 ปีข้างหน้า จะได้กี่ % ต่อปีครับ ?
ปัญหาคือ จะรู้ได้อย่างไร มากกว่าที่จะรู้แล้วทำยังไง มากกว่า .. ผมว่าพวกเราชาว TVI น่าจะมาถึงขั้นที่คุยกันว่าทำอย่างไรถึงจะรู้แล้วนะ
พอเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อมั้ยครับ ?
คือถ้าคำนวณจาก ROE รู้สึกว่ามันพอคำนวณได้นะครับ ว่าอีกกี่ปี จะได้ผลตอบแทน 25 %
เพียงแต่เป็นการตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่ายอดขาย และกำไรต้องโตอย่างในอดีต
ซึ่งตอนนั้น ไม่มีใครเชื่อ ว่า bigC จะทำได้ครับ ทั้งๆที่อดีตทำได้
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 7:39 pm | 0 คอมเมนต์
วอเรน คิดว่ากำไรสะสมของบริษัท เป็นผลตอบแทนของเขา
แต่ในเมืองไทยไม่แน่ครับ :lovl:
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 7:40 pm | 0 คอมเมนต์
ผมเล่น TVI มาเป้นปีแล้ว ผมอ่าน TVI ทุกวัน ... ผมอ่านว่าลุงบัฟสอนยังไงจนตาลายแล้ว ...
แต่ผมเห็นคุยกันค่อนข้างน้อย คือคำถามที่เจาะลงไปจริงๆ เช่น
- BigC มีความสามารถในการแข่งขันตรงไหนบ้าง
- BigC มีจุดอ่อนยังไงบ้าง
- สถาพปัจจุบันเป็นอย่างไร
- BigC มีโอกาสในการขยายตัวในอนาคตยังไงบ้าง อีก 5 ปี คุณมองภาพ BigC ในวันนั้นยังไงมั่ง
- อะไรเป็นสิ่งที่จะมาทำให้ BigC โตก้าวกระโดด
- อะไรที่จะทำให้ BigC อาจป่วยหนักได้
- ผู้บริหาร BigC เป็นใคร น่าเชื่อถือแค่ไหน ประวัติ เค้าทำอะไรมาอย่างไร เค้าเชื่อใจได้หรือไม่ เค้าทำเพื่อผู้ถือหุ้นหรือไม่
- มีใครอยากถามอะไรผู้บริหาร BigC หรือไม่
- เราจะมีใครที่พอจะไปถามคำถามเหล่านั่นได้หรือไม่
ฯลฯ
ไม่ใช่แค่หวัง อย่าง METCO เนี่ย ก็แค่หวังว่า พรุ่งนี้มันจะดีขึ้นหรือเปล่าหว่า ? หรือว่ามันจะแย่ชั่วคราว เป็นโอกาสซื้อหว่า ?
คือเรายังไม่ได้คุยกันเลย ว่า METCO เป้นอย่างไร มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้บริษัทเติบโต ปัจจัยเสี่ยงคืออะไร ปัจจัยที่ทำให้บรัษัทมันไม่ดีตอนนี้เนี่ย คืออะไร ?
แล้วในฐานะ เจ้าของบริษัท (หวังว่า VI คงจะคิดเหมือนเป็นเจ้าของบริษัทจริงๆ) ควรจะแก้ไขอย่างไร ? และมีโอกาสฟื้นตัวแค่ไหน ?
ผมว่าน่าจะคุยกันแบบนี้นะครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 7:46 pm | 0 คอมเมนต์
ba_2l เขียน:
รบกวนพี่คัดท้ายช่วยขยายความตรงส่วนนี้หน่อยครับ ไม่ทราบว่าพี่หมายถึงว่าเราควรจะเปิดเป็น Training course คล้ายๆของ fpm หรือเปล่าครับ
อย่างที่บอกไปในข้อความข้างบนครับ ... เราชาว TVI มาจากคนหลายกลุ่มหลายอาชีพนะครับ
ถ้าเราช่วยกัน เราต้องทำได้ดีกว่าคนแค่ 1 คน ... ถ้าเราช่วยกัน 10 คน เราก็จะมี ตา 10 คู่ หู 10 คู่ โอกาสในการรับรู้ การคิดน่าจะเพิ่มขึ้นมากนะครับ
ไหนๆเราก็มารวมกันแล้ว มารวมเป็นกลุ่มคนโลภหวังรวยเหมือนกัน ผมว่าเราน่าจะช่วยกันหาข้อมูล และคุยกันในเรื่องที่เป้นการเจาะลงไปถึงข้อมูลคุณภาพต่างๆของบริษัท
เพราะผมมองว่า ข้อมูลทางปริมาณนั้นเราดูจากงบได้ แต่ข้อมูลด้านคุณภาพ หลายๆอย่าง คงทำจากคน คนเดียว ได้ยากครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 7:50 pm | 0 คอมเมนต์
ผมว่าน่าจะคุยกันแบบนี้นะครับ
เห็นด้วยครับ
คือพี่ว่า bigC ดี lotus ก็ดี carrefoure ก็ดี ด้วยเหตุผลส่วนตัว คือ
1. เมืองไทยร้อนครับ จะไปเดินตลาดแบบเดิมๆ ก็ไม่ค่อยอยากไป ก็เลยไป คาร์ฟู โลตัส bigC
2. การตลาดเขาทำให้คนเชื่อครับ ว่าของถูก ซึ่งจริงๆ ปลาทูใน คาร์ฟู 2 ตัว 29 บาท ข้างนอก 2 ตัว 15 บาท แต่คนเขาเชื่อกันไปแล้วว่าถูก ถูก ถูก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ขับรถเก๋งกลับบ้าน ก็ไม่ค่อยแวะตลาดกัน ชอบแวะ ห้างพวกนีมากกว่า
3. พฤติกรรมคนเปลี่ยน คือ รวยแบบไม่ค่อยรวยครับ คือพ่อแม่ลูก ไม่มีคนใช้ มีรถ มีบ้าน มีบัตรเครดิต แต่ก็ต้องไปเป็นกรรมกรแบกหามของกินของใช้กลับบ้านเอง คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แถมซื้ออย่างบ้าคลั่งด้วย
4. ตลาดยังไปได้อีกเยอะ พี่คิดว่า ยังไงก็ตาม ถ้าแต่ละจังหวัดที่ยังไม่มีห้างเหล่านี้เปิด ก็แสดงว่า ตลาดยังไม่อิ่มตัว และปัญหาของ bigC จะมาชนกับคาร์ฟู โลตัส ก็จะไม่เกิดขึ้น เหมือนกับว่าต่างคนต่างขาย
5. ผลงานในอดีตก็ดีครับ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งยอดขาย กำไร
6. ตอนบริษัทมีปัญหา บริษัทแม่ก็เอาจริงครับ คาสิโนกรุ๊ปก็เพิ่มทุนเข้ามา คาสิโน นี่ไม่ได้เป็นบ่อนนะ แต่เป็นแบบ bigC อยู่ต่างประเทศ
7. กำไรน้อยไม่น้อย เนื่องจาก สินค้าฝากขาย หนี้สินที่มีส่วนใหญ่ก็เป็นหนี้สินค้าที่ขายไปแล้ว
8. ข้างบนนั้นนั่งคิดเล่นๆนะ เห็นถามแบบซีเรียส
น่าจะไปถามดร.นิเวศน์นะแกถือตั้งเยอะ พี่ไม่ได้ถือแล้ว
nana
Verified User
โพสต์: 209
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 7:56 pm | 0 คอมเมนต์
เสี่ย buffett บอกว่า
...Good investment ideas are rare, valuable and subject to competitive appropriation just as good product or business acquisition ideas are. Therefore we normally will not talk about our investment ideas.
เอามาจาก an owner's manual ข้อ 13
่ข้าเจ้าเลยเห็นว่า ถึงมีคนรู้ว่า บริษัทไหนดี ราคาเหมาะสม เค้าจะมาบอกเหรอ แฮะๆๆ
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:00 pm | 0 คอมเมนต์
ผมพูดมาเนี่ย ไม่ได้ว่าพี่เจ๋งนะ กลัวพี่เจ๋งเข้าใจผิดครับ ... คือผมพูดมาเนี่ย ตั้งใจจะบอกว่าอยากจะให้พวกเรา คุยกันในอีกแบบนึงบ้าง บังเอิญกระทู้พี่มันเหมาะพอดี ... :lol: :lol: :lol:
คือ อยากให้เราคุยกันแบบเจาะมั่งครับ อย่าง BigC ผมว่ามันใกล้ตัวค่อนข้างมาก ถ้าเทียบกับตัวอื่นๆ เช่น TR TCB METCO PTL TICON ADVANC UCOM PSL TTA RCL UMS พวกแบบนี้จะไกลตัวหน่อย
ปกติ ปัจจัยเสี่บง ก็จะเขียนไว้ใน Form56-1 ไว้ส่วนนึงแล้วครับ อาจเอาตรงนั้นมาวิเคราะห์กันก็ได้ว่าที่บอกนั่นหนะ จริงหรือเปล่า ครบหรือเปล่า
อีกอย่างผมว่าทำให้หลายๆคนเริ่มขยันอ่าน 56-1 ด้วยนะครับ และข้อมูลที่พอจะหาได้ น่าจะเอามาแชร์กันเยอะๆ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:04 pm | 0 คอมเมนต์
9. ตอนนี้ bigC ขายได้ 5 หมื่นล้าน มีอำนาจต่อรองมาก ทำให้ซื้อได้ถูก ผู้ผลิตที่เคยผลิตขายให้พ่อค่าขายส่ง เดี๋ยวนี้ออเดอร์ล้นมือ ส่งแต่ bigC คาร์ฟู โลตัส ก็ผลิตไม่ทัน ถ้าอีกหน่อย bigC ขายได้แสนล้าน จะเป็นไง
10. การผลิตสินค้าที่คล้ายๆกัน ออกมาขาย ทำให้บางคนก็เลือกซื้อเพราะถูกกว่าจริงๆ คือ ถูกแล้ว มีถูกกว่า
11. แต่ก่อนพี่ไปซื้อของที่คาร์ฟู ชอบมาก เพราะถ้ากลับบ้านแล้วเปิดดูแล้วไม่พอใจ พี่ก็นำไปเปลี่ยนอันใหม่ได้เลย ภายใน 7 วัน
12. คงต้องยอมรับกันแล้วว่า เอา makro + bigC + Hmpro + cp7-11 ยอดขายปาเข้าไป เกือบ 2 แสนล้านบาท ธุรกิจเหล่านี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ
ไว้ให้ได้ราคาเหมาะสมแล้วค่อยว่ากันเนอะ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:06 pm | 0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมพูดมาเนี่ย ไม่ได้ว่าพี่เจ๋งนะ กลัวพี่เจ๋งเข้าใจผิดครับ ... คือผมพูดมาเนี่ย ตั้งใจจะบอกว่าอยากจะให้พวกเรา คุยกันในอีกแบบนึงบ้าง บังเอิญกระทู้พี่มันเหมาะพอดี ...
ไม่ต้องกลัวเข้าใจผิด แรกๆพี่ก็ว่าลุงบัพนี่ก๊อปปี้ไม่ได้ ต่อมา พี่ว่าก๊อปปี้ได้
ต่อมาพี่ก็ว่าก๊อปไม่ได้
สรุปตอนนี้ พี่ว่าก๊อปปี้ได้บางส่วน
เฉพาะบางส่วนที่ก๊อปปี้ได้ พี่ก็ว่าพอแล้ว
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:10 pm | 0 คอมเมนต์
สามัญชน เขียน:
สมมติว่าผมผ่อนเดือนละหมื่นทุกเดือนเข้ากองทุนการลงทุนของผม ถ้าการทำแบบนี้ไม่ทำให้ชีวิตผมเดือดร้อนนักเพราะมีเงินใช้อีกเหลือเฟือ ก็เยี่ยมไปเลย
แต่ถ้าทำให้ชีวิตยากลำบาก ผมก็ไม่รู้จะทรมานสังขารตัวเองไปเพื่ออะไร แม้พออายุ 60 จะทำให้ผมมีเงินถึง 29 ล้าน พอผมเอาไปซื้ออะไรกิน ไอ้ลิ้นเจ้ากรรมของผมมันก็เสื่อมจนไม่ค่อยจะรู้รส ครั้นจะไปท่องเที่ยวทั่วโลก ไอ้ร่างกายเจ้ากรรมก็ทำท่าจะไปไม่ไหว ครั้นจะชำเลืองมองเอ๊าะๆ โอ้...พระเจ้า ยิ่งคิดยิ่งทรมาน ด้วยสังขารไม่สู้
สุดท้ายผมก็เหลือเพียงสังขารเหี่ยวๆกับเงิน 29 ล้านอยู่ข้างเตียงใกล้ๆกับเสาน้ำเกลือ เตรียมจ่ายค่าหมอค่าพยาบาล แล้วก็รำพึงกับตัวเอง อืม.....โลกหนอโลก......ตอนที่มีแรงมีกำลังเราก็ไม่มีเงิน สู้อดมื้อกินมื้อ อดความอยากทุกอย่าง ทรมานเหลือเกิน..........ครั้นพอมีเงินเราก็ไม่มีแรง....เวรกรรมจริงจิ๊งลูกหลานเอ๊ย.....
ผมว่ามีคนคิดอย่างนี้เยอะเหมือนกันนะ โลกเราถึงเป็นอย่างนี้
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมเห็นด้วยกับความคิดนี้มากครับ
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:14 pm | 0 คอมเมนต์
ผมว่าเราคุยกันใน Various Question เยอะๆหน่อยน่าจะดีนะพี่ ผมมองว่า ร้อยคนร้อยหุ้น มันมีจุดเสียอยู่คือ เวลาคนเข้า Web ปกติก็เข้ามาที่ Various Question ไม่ได้เข้าไปที่ ร้อยคนร้อยหุ้น ดังนั้นคนเข้าที่นั่นน้อย และหุ้นก็มีเยอะหลายตัว เราไม่มีเวลาไปไล่ว่าตัวไหนมีข้อมูล Update แต่การคุยใน Various Question ผมว่าคนทุกคนอ่านนะ แล้วถ้ากลัวข้อมูลหายไปไม่มีคนเห็น เราแค่เอา Link ของกระทู้นั้นไป แป๊ะใน ร้อยคนร้อยหุ้น น่าจะพอครับ
อีกอย่าง .. ถ้าเราแป๊ะใน ร้อยคนร้อยหุ้น จะมีเฉพาะคนที่สนใจหุ้นตัวนั้นๆเค้าไปหาข้อมูล แต่ว่าถ้าอยู่ใน Various Question บางคน ที่อาจไม่เคยสนใจหุ้นตัวนั้นๆ อาจจะเริ่มสนใจ หรือ คนที่รูตอบของคำถาม แต่อาจไม่ชอบหุ้นตัวนั้นอยู่ จะเห็นได้ง่ายกว่า และอาจให้ คอมเมน ที่มีประโยชน์ได้ครับ
คิดว่าไงมั่งครับ ...
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:16 pm | 0 คอมเมนต์
พี่ว่านะคัดท้าย ธุรกิจดีๆเต็มตลาดเลย
แต่ราคามันไม่เหมาะที่จะลงทุน
พี่พูดในฐานะคนทำธุรกิจนะครับ
ยกตัวอย่าง โรงหนัง โรงพยาบาล โรงแรม เรือ โรงงาน ค้าส่ง ค้าปลีก ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ก็ล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่ดีๆทั้งนั้น
แต่ส่วนใหญ่ ปัญหาคือการเรียกราคาขายครับ ราคามันสูง แถมออกข่าวให้ความคาดหวังว่ากำไรจะดี ทำให้ราคายิ่งสูงขึ้นไป
พอซื้อเข้าไปแล้ว กำไรไม่ได้ตามนั้น ราคาตก พวกเราก็มามองว่ามันไม่ดี
นี่คือปัญหา ที่วอเรน ทะลุทะลวงไปแล้ว
......................................................................
ถ้าพี่เป็นเจ้าของธุรกิจ ที่ลงทุนไปแล้ว คืนทุนไปแล้ว บางปีกำไร 50 ล้าน บางปี กำไร 100 ล้าน บางปีกลับมากำไร 50 ล้าน แต่ไม่เคยขาดทุนเลย ในฐานะเจ้าของธุริกิจ พี่ก็ไม่เห็นว่า ชีวิตพี่จะแย่ตรงไหน
แต่ถ้าบริษัทพี่เข้าไปในตลาด รับรองเลย มีคนขาดทุนกันบานเลย ถ้ากำไรบริษัทขึ้นๆลงๆแบบนี้ แต่พี่เองในฐานะเจ้าของก็ยังสบายเหมือนเดิม
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:26 pm | 0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ถ้าพี่เป็นเจ้าของธุรกิจ ที่ลงทุนไปแล้ว คืนทุนไปแล้ว บางปีกำไร 50 ล้าน บางปี กำไร 100 ล้าน บางปีกลับมากำไร 50 ล้าน แต่ไม่เคยขาดทุนเลย ในฐานะเจ้าของธุริกิจ พี่ก็ไม่เห็นว่า ชีวิตพี่จะแย่ตรงไหน
ถ้าเราได้ซื้อธุรกิจข้างบนนี้ ที่ราคา 250 ล้าน กำไร 50 ล้าน pe 5
แต่ถ้าเราไปซื้อ ตอนที่กำไร 100 ล้าน แล้วดันให้ pe 10 คือไปซื้อที่ 1000 ล้านนี่ซิ มันจะมีปัญหา ตอนธุรกิจมันกลับมาทำกำไรได้ 50 ล้าน
เพราะฉะนั้นธุรกิจ cycle พี่ว่าถ้าจะให้ได้อย่างวอเรนก็ต้องซื้อตอนมันตกมากๆ เช่นซื้อ gfpt ตอน 10 บาทไง
แต่วอเรนก็ยังไม่ชอบซื้อพวกนี้เพราะเป็น price competitve นะ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:36 pm | 0 คอมเมนต์
what to buy and at what price
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:46 pm | 0 คอมเมนต์
Jeng เขียน: what to buy and at what price
พูดยากครับพี่ บางที่เราซื้อต่ำ เช่น PAP นะผมยกตัวอย่าง แล้วพองบออกมาไม่ดี PE ก็เพิ่มเองอัตโนมัติ ... แล้วราคาก็ลง ...
พอราคาลง ... ก็ถามตัวเองว่า ถือดีมั้ย ... ต่อไปผู้บริหารจะทำให้ดีกลับมาได้มั้ย .... แล้วตอนนั้นจะตอบไงครับ ? มีอะไรมั่นใจมั่ง ?
ราคาหุ้นมันสะท้อนอนาคต มันไม่ได้สะท้อนปัจจุบัน ต่อให้ซื้อได้ถูก (ถูกไม่พอ เพราะนึกว่ามันดีกว่านั้น) ถ้ามันอนาคตไม่มี หรือ มืดมน ก็แย่อยู่ดีครับ
แล้ว PE ที่ต่ำ ก็สูงขึ้นได้นี่ครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:52 pm | 0 คอมเมนต์
เรื่อง pap นี่ถ้าจะซื้อก็คงไม่ใช่หลักการของลุงบัพนะ เพราะเรายังไม่เห็นผลงาน 10 ปี การซื้อไว้นิดหน่อย เพื่อติดตามผลงานไปเรื่อยๆ ซัก 10 ปี ก็น่าซื้อนะ
และพี่ว่า การก่อสร้างที่จะมีอีกมากมาย ในอนาคต น่าจะทำให้งบออกมาสวย
พี่ว่ากำไรที่ลดลง เป็นโอกาสในการซื้อนิดหน่อย เพื่อติดตามครับ
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:54 pm | 0 คอมเมนต์
Jeng เขียน: เรื่อง pap นี่ถ้าจะซื้อก็คงไม่ใช่หลักการของลุงบัพนะ เพราะเรายังไม่เห็นผลงาน 10 ปี การซื้อไว้นิดหน่อย เพื่อติดตามผลงานไปเรื่อยๆ ซัก 10 ปี ก็น่าซื้อนะ
และพี่ว่า การก่อสร้างที่จะมีอีกมากมาย ในอนาคต น่าจะทำให้งบออกมาสวย
พี่ว่ากำไรที่ลดลง เป็นโอกาสในการซื้อนิดหน่อย เพื่อติดตามครับ
... ปัจจัยเสี่ยงของ PAP มีอะไรบ้างครับ ? ทำไมไตรมาศก่อนขายได้มากขึ้น แต่ต้นทุนเพิ่มครับ ?
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:56 pm | 0 คอมเมนต์
ใครจะไปรู้หละ ยังไม่ได้ไป company visit เลย แล้วในเว็บเราไม่มี engineer แถว pap เลยหรือ
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 8:59 pm | 0 คอมเมนต์
Jeng เขียน: ใครจะไปรู้หละ ยังไม่ได้ไป company visit เลย แล้วในเว็บเราไม่มี engineer แถว pap เลยหรือ
นั่นดิครับ บางอย่างมันซับซ้อนนะ อย่าง PAP เนี่ย ผมมีด้วยนะตอนนั้น แล้วโดนเยอะที่สุดเลย เพราะไม่เชื่อ Technical Analysis มีสัญญาณขายในกราฟแล้วไม่เชื่อ
เพราะผมไปสืบข้อมูลจากพี่ที่รู้จักเค้าขายเหล็ก ขายของ PAP ด้วย เค้าก็บอกขายได้เยอะขึ้น ... แล้วพองบกออก ผมก็คาดไม่ผิด คือ ขายได้เยอะขึ้นมากจริงๆ ครับ
แต่ที่ไม่ได้คาด คือ มองข้ามไปคือ ต้นทุน ไม่คิดว่าทำไมมันจะมีค่าขายออกมาบานตะไทขนาดนั้น ...
จริงๆ ลุงบัฟ พูดถูกนะ คือจะลงทุนอะไร ต้องเข้าใจธุรกิจนั้น มากๆๆๆๆๆ แต่ทำยังไงเราจะเข้าใจได้มากขึ้นครับ ก็ต้องแลกข้อมูลกันนะผมว่า
แก้ไขล่าสุดโดย
คัดท้าย เมื่อ อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:00 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:00 pm | 0 คอมเมนต์
ท่านคัดท้ายบอกว่า
Quote:
ปัญหาคือ จะรู้ได้อย่างไร มากกว่าที่จะรู้แล้วทำยังไง มากกว่า .. ผมว่าพวกเราชาว TVI น่าจะมาถึงขั้นที่คุยกันว่าทำอย่างไรถึงจะรู้แล้วนะ
อืม......ดีมากๆเลยครับ
เสริมอีกนิดครับ
ปัญหาที่หนักอกที่สุดของคนเป็นหมอ
ไม่ใช่อยู่ที่ว่าเราจะรักษาโรคยังไง แต่อยู่ที่
เราจะวินิจฉัยโรคได้อย่างไรมากกว่า ถ้าเราวินิจฉัยได้แล้ว การรักษาโรคก็ไม่ยากเท่าไหร่ เปิดตำราเล่มใหนก็มีบอกครับ
:lol: :lol: :lol: :lol:
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:01 pm | 0 คอมเมนต์
:lol: :lol: :lol: :lol:
ไม่ต้องกลัวเข้าใจผิด แรกๆพี่ก็ว่าลุงบัพนี่ก๊อปปี้ไม่ได้ ต่อมา พี่ว่าก๊อปปี้ได้
ต่อมาพี่ก็ว่าก๊อปไม่ได้
สรุปตอนนี้ พี่ว่าก๊อปปี้ได้บางส่วน
เฉพาะบางส่วนที่ก๊อปปี้ได้ พี่ก็ว่าพอแล้ว
เห็นด้วยเต็มๆครับพี่เจ๋ง
ผมฟังนิทานท่านคัดท้ายแล้วรู้สึกห่อเหี่ยว เราจะไปเหาะแบบเทวดาได้ยังไงเนี่ย
แต่พอนึกถึงอดีตของบัฟเฟตต์ก็เลยได้คิดว่า เขาไม่ใช่เทวดา เขาเป็นเพียงนักลงทุนที่ประสบผลสำเร็จมาแล้วเท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้เขาก็ล้มลุกคลุกคลานเหมือนเราๆท่านๆ เพียงแต่ถ้าเรามองเขา ณ. เวลานี้เราก็จะรู้สึกว่าทำตามได้ยากเหลือเกิน ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องยาก เพราะเขาสะสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่าจะได้ขนาดนี้
ย้อนมาดูคำแนะนำของเขานะครับ
ประเด็นในการตรวจสอบหุ้น 10 ข้อของวอร์เรน
1.ROE สูงๆ หรือไม่
2.ROA สูงๆ หรือไม่
3.ประวัติการทำกำไรที่ดีเยี่ยมหรือไม่
4.มีหนี้สินน้อยๆหรือไม่
5.สินค้าหรือบริการมีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืนหรือไม่
6.ไม่มีปัญหาที่เกิดจากสหภาพแรงงานหรือไม่
7.บริษัทสามารถปรับสินค้าหรือบริการตามสภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่
8.ต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสมหรือไม่
9.บริษัทสามารถซื้อหุ้นคืนจากตลาดได้หรือไม่
10.กำไรสะสมสามารถทำให้มูลค่าตลาดสูงขึ้นได้หรือไม่
ดูแล้วก็ไม่พบคุณสมบัติที่จะเกิดได้เฉพาะที่อเมริกา เป็นคุณสมบัติทั่วๆไป ใช้ได้อย่างเป็นสากลทุกประเทศนะ เพียงแต่อาจจะปรับบ้างในบางสิ่ง เช่นธรรมาภิบาล ความสามารถเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืนของพริกขี้หนู เป็นต้น ผมก็เลยคิดว่าเราสามารถก็อปปี้มาใช้ได้มากทีเดียว
:lol: :lol: :lol: :lol:
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:01 pm | 0 คอมเมนต์
สามัญชน เขียน:
เสริมอีกนิดครับ
ปัญหาที่หนักอกที่สุดของคนเป็นหมอ ไม่ใช่อยู่ที่ว่าเราจะรักษาโรคยังไง แต่อยู่ที่ เราจะวินิจฉัยโรคได้อย่างไรมากกว่า ถ้าเราวินิจฉัยได้แล้ว การรักษาโรคก็ไม่ยากเท่าไหร่ เปิดตำราเล่มใหนก็มีบอกครับ
:lol: :lol: :lol: :lol:
เห็นด้วยครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:04 pm | 0 คอมเมนต์
เห็นด้วยกับคุณหมอสามัญชนครับ
และที่สำคัญที่สุด คือต้องซื้อตอนราคาต่ำๆ
ซึ่งพวกเราเองต่างหากที่ทนรอไม่ไหว 1. และเมื่อราคาต่ำๆ มักจะมาควบกับ สภาพที่ไม่น่าซื้อ เช่น ข่าวร้ายต่างๆ ทำให้ไม่กล้าซื้อ 2.
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:07 pm | 0 คอมเมนต์
สามัญชน เขียน: :lol: :lol: :lol: :lol:
เห็นด้วยเต็มๆครับพี่เจ๋ง
ผมฟังนิทานท่านคัดท้ายแล้วรู้สึกห่อเหี่ยว เราจะไปเหาะแบบเทวดาได้ยังไงเนี่ย
แต่พอนึกถึงอดีตของบัฟเฟตต์ก็เลยได้คิดว่า เขาไม่ใช่เทวดา เขาเป็นเพียงนักลงทุนที่ประสบผลสำเร็จมาแล้วเท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้เขาก็ล้มลุกคลุกคลานเหมือนเราๆท่านๆ เพียงแต่ถ้าเรามองเขา ณ. เวลานี้เราก็จะรู้สึกว่าทำตามได้ยากเหลือเกิน ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องยาก เพราะเขาสะสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่าจะได้ขนาดนี้
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมมองอย่างนี้ครับพี่สามัญชน ...
คือ เราต้องมองเป็นข้อๆ ว่าลุงบัฟ ทำอะไรบ้าง และเราทำได้ข้อใดบ้าง และถ้าบางข้อ เราทำไม่ได้ในบางข้อ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นแค่ไหน อย่างไรบ้าง
บัฟเฟตไม่ใช่เทวดาครับ แต่ต้องยอมรับบางข้อว่า พื้นที่หากินบัฟเฟตอุดมสมบูรณ์กว่าที่เราหากิน ผมหมายถึงตัวเลือกที่เรามี ต่ำกว่าที่ลุงบัฟมีมากๆ ถ้าใช้หลักเกณฑ์ของลุงบัฟ ... เราจะเหลือหุ้นที่เล่นได้กี่ตัว และเมื่อไหร่เราจึงจะมีโอกาสได้ซื้อในเวลาที่เหมาะสม ?
ผมเพียงแต่ไม่อยากให้เราแค่ทำเหมือน แต่อยากให้เราคุยกันแบบเข้าใจ ใช้เหตุผล ประยุกต์เข้ากับสถานที่ สภาพแวดล้อมของเรา และความสามารถของแต่ละคนครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:08 pm | 0 คอมเมนต์
Jeng เขียน: เห็นด้วยกับคุณหมอสามัญชนครับ
และที่สำคัญที่สุด คือต้องซื้อตอนราคาต่ำๆ
ซึ่งพวกเราเองต่างหากที่ทนรอไม่ไหว 1. และเมื่อราคาต่ำๆ มักจะมาควบกับ สภาพที่ไม่น่าซื้อ เช่น ข่าวร้ายต่างๆ ทำให้ไม่กล้าซื้อ 2.
คำถามครับ ทำไมช่วงหลังๆมานี่ ลุงบัฟ ไม่ค่อยซื้อหุ้น แต่เอาเงินไปเล่นแร่ ทองแดง เล่นแร่เงินครับ หรือว่าเก็บเงินเป็นสกุลเงินตราอื่นที่ไม่ใช่ US ครับ ?
ไหนว่าลุงบัฟ ไม่เก็งกำไรไงครับ ...
อเมริกามีข่าวร้าย ลุงบัฟ ทำไมไม่กล้าซื้อหุ้นครับ ? กลัวอะไรครับ ลุงบัฟบอกว่าไม่สนใจเศรษฐกิจไม่ใช่เหรอครับ ไหนบอกสนใจแต่หุ้น
แก้ไขล่าสุดโดย
คัดท้าย เมื่อ อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:09 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:09 pm | 0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมเพียงแต่ไม่อยากให้เราแค่ทำเหมือน แต่อยากให้เราคุยกันแบบเข้าใจ ใช้เหตุผล ประยุกต์เข้ากับสถานที่ สภาพแวดล้อมของเรา และความสามารถของแต่ละคนครับ
ประเทศไทย ถ้าจำไม่ผิดตลาดเพิ่งเปิดปี 18 ซึ่งปัจจุบัน แค่ 30 ปี เอง
วอเรนลงทุนก่อนประเทศไทยเปิดอีก
พี่เชื่อเลย ว่าถ้าศึกษาวอเรนจริงๆ พวกเราได้ประโยชน์แน่นอน แต่ต้องใจเย็นๆ
เย็นจริงๆ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:10 pm | 0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
คำถามครับ ทำไมช่วงหลังๆมานี่ ลุงบัฟ ไม่ค่อยซื้อหุ้น แต่เอาเงินไปเล่นแร่ ทองแดง เล่นแร่เงินครับ หรือว่าเก็บเงินเป็นสกุลเงินตราอื่นที่ไม่ใช่ US ครับ ?
อเมริกามีข่าวร้าย ลุงบัฟ ทำไมไม่กล้าซื้อหุ้นครับ ?
ลุงบัพเฟต เขาชอบพักเงิน ไปลงทุนในจุดที่คุ้มค่า ลุงบัพเฟต กำลังคิดว่า เมกาจะแย่กว่านี้ อย่างแน่นอน ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ประมาณ 2 - 3 ปี แต่ไม่รู้จะเปลี้ยง บึ้ม วันไหน
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:11 pm | 0 คอมเมนต์
Jeng เขียน: โค้ด: เลือกทั้งหมด
คำถามครับ ทำไมช่วงหลังๆมานี่ ลุงบัฟ ไม่ค่อยซื้อหุ้น แต่เอาเงินไปเล่นแร่ ทองแดง เล่นแร่เงินครับ หรือว่าเก็บเงินเป็นสกุลเงินตราอื่นที่ไม่ใช่ US ครับ ?
อเมริกามีข่าวร้าย ลุงบัฟ ทำไมไม่กล้าซื้อหุ้นครับ ?
ลุงบัพเฟต เขาชอบพักเงิน ไปลงทุนในจุดที่คุ้มค่า ลุงบัพเฟต กำลังคิดว่า เมกาจะแย่กว่านี้ อย่างแน่นอน ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ประมาณ 2 - 3 ปี แต่ไม่รู้จะเปลี้ยง บึ้ม วันไหน
งั้นแสดงว่า ลุงบัฟ โกซิก ซิครับ .... ไหนบอกว่าไม่ต้องสนใจเศรษฐกิจ ?
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 9:13 pm | 0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
งั้นแสดงว่า ลุงบัฟ โกซิก ซิครับ .... ไหนบอกว่าไม่ต้องสนใจเศรษฐกิจ ?
ลุงบัพแกเป็นคนแบบนั้นแหละ ถ้าครั้งนี้แกถูก แกจะได้เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก ก่อนตาย