Thai VI

ส่วนกรณีของ SITHAI นั้น เงินสดที่นำไปชำระหนี้ ก็มาจากการดำเนินงานเป็นหลักครับ ก็คือกำไรสุทธิและค่าเสื่อมราคา

พิจารณารายละเอียดของงบกระแสเงินสดของบริษัทครับ

ขอถามต่ออีกหน่อยครับ งั้นแสดงว่าเงินสดจากการดำเนินงานมีสูงมากซิครับ ปี47 จำนวน 651.5ลบ.
แล้วบ. มีรายได้จากการขายและงานรับจ้างในปี47 4500 ลบ. และในส่วนนี่ต้นทุนการขายและงานรับจ้าง คือ 3555ลบ. เราสามารถดูได้จากตรงไหนว่าจ่ายเงินสดไปเท่าไหร่และติดหนี้เท่าไหร่สำหรับต้นทุนการขายและงานรับจ้าง ดูจากเจ้าหนี้การค้าในงบดล ในส่วนของเครดิตและดูในกระแสเงินสดสำหรับในส่วนที่จ่ายเป็นเงินสด ผมเข้าใจถูกไหมครับ

ย้อนกลับไปดูงบเก่าๆของ SITHAI ตัวที่ช่วยฟื้นเกี่ยวกับเรื่องหนี้ น่าจะเป็นการแปลงหนี้เป็นทุนนะครับ


งบการเงิน
งบการเงินรวม ของบริษัท
(ปรับใหม่) (ปรับใหม่)
พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542
หมายเหตุ บาท บาท บาท บาท

ข้อมูลกระแสเงินสดเพิ่มเติม
จ่ายดอกเบี้ยสำหรับปี 348,217,981 332,105,707 331,530,999 314,697,901
จ่ายภาษีสำหรับปี 11,753,891 7,934,848 7,198,244 6,211,571
รายการที่ไม่ใช่เงินสด
การแปลงหนี้เป็นทุน 3,377,359,382 - 3,377,359,382 -
เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกันเพิ่มขึ้น
เนื่องจากการขายทรัพย์สินและเงินลงทุน 965,909,401 - 965,909,401 -

ทำให้ หนี้สินลด จาก 7,697 ล้านมาเป็น 4,419 ล้านบาท
ทุนเรือนหุ้น จาก 400 ล้านกลายเป็น 2,857 ล้านบาท


และส่วนหนึ่งมาจากความสามารถในการชำระหนี้ของ SITHAI ด้วย
ตอนนี้เหลือไม่มากสำหรับหนี้ระยะยาว

เอ ถ้าเกิดใช้หมดตามคุณ YOYO ว่า ก็จะมีเงินสดเหลือมากขึ้นสินะนี่เพราะไม่ต้องใช้หนี้อีกแล้ว

ผู้ถือหุ้น

2 เมษา 2542

1 นาย สุมิตร เลิศสุมิตรกุล 7,909,015 19.77
2 นาง ศรีสุดา เลิศสุมิตรกุล 3,206,400 8.02
3 นาย สนั่น อังอุบลกุล 2,716,400 6.79
4 นาง ศรีสุดา เลิศสุมิตรกุล 2,300,000 5.75
5 BANK OF TOKYO-MITSUBISHI (LUXEMBOURG) S. 2,288,000 5.72
6 THE BANK OF NEW YORK NOMINEES LTD 1,664,000 4.16
7 นาย เดชา เลิศสุมิตรกุล 1,321,000 3.3
8 นาย ณพล เลิศสุมิตรกุล 1,120,000 2.8
9 นาย สมเกียรติ เลิศสุมิตรกุล 1,120,000 2.8
10 น.ส. บุญนภา เลิศสุมิตรกุล 1,120,000 2.8
11 น.ส. มิตรดา เลิศสุมิตรกุล 1,120,000 2.8
12 นาง มยุรี ศิริวัจนางกูร 1,065,940 2.66
13 นาย ทวี คงยั่งยืน

----------------

สิงหาคม 2545 ...(หาปี 2543 ไม่เจอ)
1 ING SECURITIES (SINGAPORE) PTE LTD. 58,936,504 20.63
2 นาย สนั่น อังอุบลกุล 27,430,786 9.6
3 WESTDEUTSCHE LANDESBANK GIROZENTRALE 13,627,135 4.77
4 นาย สุมิตร เลิศสุมิตรกุล 13,623,301 4.77
5 BANK OF AMERICA, NATIONAL ASSOCIATION 11,126,606 3.89
6 ALBOUYS NOMINEES LIMITED 10,728,337 3.75
7 THE CHASE MANHATTAN BANK 7,142,857 2.5
8 นาย ประสงค์ ศิริวัจนางกูร 7,127,609 2.49
9 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 7,098,700 2.48
10 BANK OF TOKYO - MITSUBISHI (LUXEMBOURG) 6,759,000 2.37
------------------
ปัจจุบัีน

1 นาย สนั่น อังอุบลกุล 33,287,928 11.65
2 นาย สุมิตร เลิศสุมิตรกุล 16,490,444 5.77
3 UBS AG HONG KONG BRANCH 12,056,692 4.22
4 HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD 11,975,163 4.19
5 นาย สมเกียรติ เลิศสุมิตรกุล 11,500,000 4.02
6 WESTDEUTSCHE LANDESBANK GIROZENTRALE 11,127,135 3.89
7 BANK OF AMERICA, NATIONAL ASSOCIATION 9,626,606 3.37
8 MR. FRANK TANAMAS TAN 8,051,330 2.82
9 นาย ประสงค์ ศิริวัจนางกูร 7,357,909 2.58
10 MR. THOMAS GRICHTING 7,000,000 2.45

ไปแคะดูงบ 2543 แล้วเทียบย้อนขึ้นมาดีกว่า

กลัวจะเหมือนโดน PAP (แป๊บ) ตีหัวหลังจาก Q1 ประกอบการออก

ต.หยวนเปียว เขียน: ลองปล่อยไก่ดูครับ :lol:

แตกต่างกันครับ
ผมมักดูทั้งสองตัว จะชอบถ้าสูงทั้งคู่ โดยROAใกล้กับROE
เท่าไหร่แสดงว่าหนี้น้อย และROEที่เห็นก็น่าเชื่อถือกว่าเพราะ
ไม่ได้สูงเพราะหนี้มาก

ผิดพลาดขออภัย ชี้แนะด้วยครับพี่ :lol:

เห็นกำลังคุยเรื่องการตีมูลค่าสินทรัพย์กันอยู่นะครับ

เลยอยากให้ชี้ว่า ถ้าบริษัทต่างๆ เช่น SCC ไม่มีการปรับมูลค่า

ROE และ ROA ก็คงจะสูงมากเลย

ซึ่งอาจจะเป็นกับดักได้สำหรับเพื่อนๆที่ชอบลงทุนโดยการพิจารณา ROE และ ROA เพราะบริษัทนั้นอาจจะมีผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น หรือสินทรัพย์ไม่ได้มากมายนัก เพราะแต่ว่าสินทรัพย์ในงบดุลได้ลงมูลค่าไว้ต่ำกว่าความเป็นจริง

เข้าใจแล้วครับพี่ฉัตรชัย :lol:

Eak71 เขียน: ขอถามต่ออีกหน่อยครับ งั้นแสดงว่าเงินสดจากการดำเนินงานมีสูงมากซิครับ ปี47 จำนวน 651.5ลบ.
แล้วบ. มีรายได้จากการขายและงานรับจ้างในปี47 4500 ลบ. และในส่วนนี่ต้นทุนการขายและงานรับจ้าง คือ 3555ลบ. เราสามารถดูได้จากตรงไหนว่าจ่ายเงินสดไปเท่าไหร่และติดหนี้เท่าไหร่สำหรับต้นทุนการขายและงานรับจ้าง ดูจากเจ้าหนี้การค้าในงบดล ในส่วนของเครดิตและดูในกระแสเงินสดสำหรับในส่วนที่จ่ายเป็นเงินสด ผมเข้าใจถูกไหมครับ

สมมุติตัวเลขง่ายๆนะครับ

ณ.วันที่ 31 ธ.ค. 46 บริษัทติดหนี้การค้าอยู่จำนวน 80 ล้านบาท

เราก็สามารถดูได้จากงบดุล รายการเจ้าหนี้การค้า 80 ล้านบาท

ในช่วงปี 2547 บริษัทมีการซื้อวัตถุดิบต่างๆจำนวน 400 ล้านบาท และมีการชำระหนี้ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 47 ถึง 31 ธ.ค. 47 จำนวน 380 ล้านบาท

ดังนั้น ณ.วันที่ 31 ธ.ค. 47 บริษัทจะมีหนี้การค้าจำนวน ( 80 +400 - 380) 100 ล้านบาท

ในงบดุล ณ.วันที่ 31 ธ.ค. 47 บริษัทจะมีเจ้าหนี้การค้าจำนวน 100 ล้านบาท และในงบกระแสเงินสด รายการเจ้าหนี้การค้าจะติดบวก 20 ล้านบาท

แต่ต้นทุนในงบกำไรขาดทุนนั้นมีหลายรายการที่ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายเงินสด บริษัทไม่ได้จ่ายเงินสดออกจากบริษัท เช่น ค่าเสื่อมราคา ดังนั้นถ้าจะพิจารณาจากต้นทุนในงบกำไรขาดทุนคงไม่ได้อะไรครับ

ขอบคุณสำหรับความรู้จากทุกท่าน เดีํยวมีอะไรสงสัยจะกลับมาถามใหม่

เอาขึ้นมาหน่อยครับ

ว่าแต่เฮียเคลี่ไม่มีความเห็นตัวนี้บ้างหรือครับ แหะๆ อยากฟังบ้าง

ว่าแต่เฮียเคลี่ไม่มีความเห็นตัวนี้บ้างหรือครับ แหะๆ อยากฟังบ้าง

มารอศึกษาด้วยครับ

เอาขึ้นมาหน่อยครับ

ว่าแต่เฮียเคลี่ไม่มีความเห็นตัวนี้บ้างหรือครับ แหะๆ อยากฟังบ้าง

เห็นด้วยครับ อยากฟังเหมือนกันครับ

เฮียคลายเครียดมาแล้ว :lovl: ตัวจริงเสียงจริง รอมานานครับ