Thai VI

หรือจะให้เปลี่ยนชื่อดัชนีเป็นอย่างไรก็ได้นะครับ

ถาม จขกท
1.หุ้นทั้งหมด 320 ตัว
มันคือหุ้นที่ผ่านขบวนการจัดเรียงมาแล้วทั้งหมด
คือเอาตัวที่มันเบี่ยงออกจากMD มากไป 20 ตัวจากกลุ่ม
และเบี่ยงออกจากเส้นMD ไปอีก 65 ตัว
(กระจายตัวโดยที่มากไปสุดโก่งไม่เข้าพวก) เหมือนกราฟประชากรที่มี
บ้างกลุ่มที่กระจายตัวใกล้ๆๆ 100 แต่ไม่มีนัยสำคัญของข้อมูลใช่ไหม
2. หุ้นที่นำมาทั้งหมด ไม่สนใจว่าmarket capเท่าไร มีflowจำนวนหุ้นมากน้อยขนาดนั้น ซื้อขายกันหรือเปล่า ไม่สนใจใช่ไหม สนใจว่าเราเปิดกับราคาเปิดที่มาคำนวณดัชนี (มาจากตัวหุ้นนั้นๆๆที่ทำการซื้อขาย)
3. ไม่เข้าใจสูตรที่นำมาweightนิดหน่อย
ในจุดที่ว่าเอาราคาprice weighted indexแทน อันนี้ยัง งง มองภาพไม่ออก

มาถามแค่นี้ก่อน

ปล ถ้ามีหนังสือที่อ้างอิงได้ กรุณาบอกด้วย ถ้ายิ่งมีให้ห้องสมุดมารวยจะokอย่างยิ่ง จะได้ไปนั่งศึกษาดู

1) ถูกต้องหุ้นทั้งหมดได้มาจากการจัดเรียง
ตัวที่ราคาสูงที่สุดประมาณ 100 บาท
ตัวที่ราคาต่ำที่สุดประมาณ 3 บาท

2) ถูกต้องไม่สนใจว่าจะมี Mkt cap จะเท่าใด
แต่หุ้น big caps หลายตัวที่ราคาไม่เกิน 100 บาทยังอยู่กลุ่มคำนวณ
เช่น KBANK KTB SCB ADVANC SHIN TOP THAI RATCH TOC ATC EGCOMP ฯลฯ

3) คำว่า Weighted ก็คือตัวที่มีราคาสูงจะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีสูง
อย่างไรก็ตามหุ้นใน THAI VI Index ก็ยังเบี่ยงเบนได้อยู่ดี โดยตัวที่ราคา 90-100 บาท
แต่เบี่ยงเบนน้อยกว่าเอาหุ้นทั้งหมดมาคำนวณดัชนี เพราะราคาหุ้นบางตัว 300-400 บาท

ดูได้จากค่า Standard deviation ของกลุ่มข้อมูลที่นำเสนอไว้ข้างต้นแล้ว

หุ้นราคาสูง 20 ตัวที่ถูกตัดออกจากการคำนวณ

...ชื่อหุ้น..ราคา
1 GYT 472
2 TR 356
3 PTTEP 348
4 OHTL 316
5 TF 282
6 SCCC 278
7 RAM 250
8 SCC 226
9 BKI 218
10 METCO 216
11 TPP 200
12 BANPU 162
13 DVS 142
14 PKA 134
15 STANLY 132
16 NPC 120
17 CHOTI 105
18 SAUCE 101
19 TWFP 101
20 BBL 99

จำนวนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ถูกนำมาคำนวณ


AGRICULTURE 15
BANK 11
BUILDING 20
CHEMISTRY 10
COMMERCE 11
CONNUNICATION 14
ELECTRIC 9
ELECTRONICS 7
ENERGY 13
ENTERTAINMENT 14
FINANCE 30
FOOD 19
HEALTH CARE 10
HOTTEL 9
HOUSEHOLD GOODS 7
INSURANCE 19
MINING 1 (ก็มันมีแค่ตัวเดียวในกลุ่ม)
PACKAGING 14
PHAMACEUTICAL 4
PRINTING 7
PROFESSIONAL 2
PROPERTY 27
PAPER 3
TEXTILE 22
TRANSPORTATION 7
VEHICLE 11
WAREHOUSE 4

รวม 320

หุ้นราคาเล็กที่ถูกตัดออก

CFRESH 3.28
SNC 3.26
KMC 3.26
SSF 3.2
MLINK 3.2
MPT 3.2
KTP 3.2
UMI 3.16
DISTAR 3.1
LEE 3.06
LPN 3.04
TGCI 2.96
SIRI 2.86
VIBHA 2.84
KH 2.84
SPPT 2.78
HTX 2.78
SPORT 2.74
LOXLEY 2.64
HGI 2.6
SIAM 2.58
MSC 2.56
TVI 2.54
TKT 2.42
PRO 2.42
SIS 2.38
SPALI 2.3
TRAF 2.22
GRAND 2.2
BSBM 2.18
AMARIN 2.18
BTC 2.16
PATKOL 2.14
SMC 2.1
SSI 2.06
MK 2.04
NCH 1.96
SSEC 1.95
SAMCO 1.95
KWH 1.92
LST 1.86
STPI 1.68
DE 1.66
SMM 1.64
UV 1.63
MS 1.52
THANI 1.42
GEN 1.34
ASIMAR 1.33
NVL 1.32
SVOA 1.27
TNX 1.24
TFD 1.17
QH 1.16
NPK 1.1
BNT 0.98
IEC 0.97
N-PARK 0.93
HEMRAJ 0.86
GENCO 0.8
SUSCO 0.79
ESTAR 0.55
JAS 0.54
BLAND 0.48
TFI 0.4

วิธีนี้

จะทำค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานและค่า CVของดัชนี.... ต่ำลง

มาเล่นที่นี่ก็ดีแล้วครับท่านพี่ดัชนี หมู่บ้านเก่าใกล้จะร้างแล้ว เล่นไม่หนุก ...

ยังไงจะได้มีเซียน ด้านดัชนี มาช่วยทำดัชนีในฝันของชาว TVI ครับ

17 CHOTI 105
18 SAUCE 101
19 TWFP 101
20 BBL 99 ไม่ถูกคำนวณดัชนี
_____________________________
21 ALUCON 96 ถูกคำนวณดัชนั
22 ADVANC 95
23 TBSP 91
24 TAF 90


การแย่งตำแหน่งกัน ระหว่างหุ้นราคาสูง
อันดับที่ 17 18 19 20 (ไม่ถูกคำนวณดัชนี) กับ
กับอันดับที่ 21 22 23 24 (ถูกคำนวณดัชนี)
ย่อมเกิดขึ้นได้

หากหุ้นที่ราคา 17 18 19 20 ตกลง
และราคาหุ้นอันดับที่ 21 22 23 24 ราคาสูงขึ้น

แต่จะไม่ทำให้ตัวเลขของดัชนีกระโดดแต่อย่างใด
เนื่องจากราคาไม่แตกต่างกันมาก

ดังนั้นคนที่จะปั่นดัชนีตัวนี้ต้องไล่ราคาหุ้นอ้นดับที่ 17 18 19 20 ขึ้นไป
แต่หากปั่นราคาขึ้นไปมากๆ มันก็จะหลุดขึ้นไป... ทำให้ไม่ถูกคำนวณ

แล้วหุ้นอันดับที่ 17 18 19 20 จะตกลงมาแทนที่
ก็ต้องปั่นพวกนี้ขึ้นมาใหม่
คนปั่นลิ้นห้อยแน่

นั่นคือจะปั่นดัชนี TAHI VI Index ยากมาก ต้องไล่ทั้งตลาด
แต่ปั่น SET Index ไล่ราคาหุ้นเพียงไม่กี่ตัว.. ดัชนีก็แกว่งแรงแล้ว

การปั่น SET Index
1) ไล่ราคา PTT ADVANC SCC BBL PTTEP SHIN ขึ้นหรือลงเท่าใด.. ก็ได้เท่านั้น(สุดๆ) จึงทำให้ดัชนีขึ้น-ลงตามกำหนดได้
2) มันทำเกิดแนวร่วมได้ง่าย..ไม่ต้องออกแรงมาก
เมื่อเห็นดัชนีตกแรง ..ก็จะมีแนวร่วมช่วยขาย
เมื่อเห็นดัชนีขึ้นแรง ..ก็จะมีคนมาช่วยซื้อ

ตลาดหุ้นจึงอยู่ในกำมือรายใหญ่อย่างเดียว
และที่ใหญ่จริงคือ Hedge Fund
หลอกล่อ.. ตบตานักลงทุนท้องถิ่นแต่อย่างเดียว

ใครเคยดู TISCO Index บ้าง
เอาราคาหุ้นทั้งตลาดมาคำนวณดัชนี....
จะเห็นว่า Technical pattern ของ TISCO Index ดูดีกว่า SET Index

เพราะเขาดันราคาหุ้นตัวที่สูงๆไม่กี่ตัวไว้นั่นเอง

เห็นไหมครับ

http://www.geocities.com/indexthai/tvi.htm

เปิดตัววันที่ 29 เมษายน 2548 ที่ 1,000 จุดเท่ากัน
ขึ้นติดต่อกัน 4 วัน
SET100 Index ขึ้นมา 57.24 จุด
THAI VI Index ขึ้นมา 19.70 จุด
ผิดกันเยอะนะครับ

ก็เวลามันตก.. มันก็ตกแรงกว่า

นี่คือข้อมูลที่ชี้บอกว่า "ดัชนีเบี่ยงเบนสูง-เบี่ยงเบนต่ำ" เป็นอย่างไร

บรรดา Hedge Fund เขารู้ตั้งแต่ก่อนสร้างดัชนี SET100 Index แล้ว ...ว่า
มันย้งเบี่ยงเบนสูงกว่า SET Index เสียอีก

ดัชนีตลาดหุ้นเป็นตัวเลขทางจิตวิทยา มันจะเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
ดังนั้นการที่จะสร้างดัชนีตลาดหุ้น.. ไม่ควรคิดถึงแต่ด้านศาสตร์และด้านmarketing เท่านั้น

แต่ควรคำนึงถึงด้านศิลป์และ R&D ด้วย

ขอบคุณท่านที่สะกิดให้สร้างดัชนี

เป็นดัชนีแบบเดียวกับดัชนีที่คนรู้จักมากที่สุดในโลก
คือ............................. DJIA30(อเมริกา) และ NIKKEI225(ญี่ปุ่น)

ทำให้ย้อนหลังไปไปสร้างดัชนีในวันที่ 29 เมษายน 2548 พร้อมกับ SET100 Index ได้

หากช้ากว่านี้... จะยากมาก

:lol:

มันเป็นดัชนีในฝัน..
............ หากเข้าใจมันจะเป็นสุดยอดของดัชนี
ปกป้องรายย่อย
ปกป้องคนไทย
ปกป้องประเทศไทย
ปกป้องสภาพคล่อง
ปกป้องค่าเงินบาท
ปกป้องอัตราดอกเบี้ย

บอกให้ทราบก่อนนะครับ...
แม้เราจะมีดัชนีที่ดีแค่ไหนไว้ในระบบก็ตาม
มันก็ไม่ช่วยอะไรได้มาก

หากในระบบยังคงมีดัชนีที่เบี่ยงเบนสูงอยู่

ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีดัชนีมากมายมาก
ส่วนใหญ่ก็เบี่ยงเบนปานกลาง

แต่พอ NASDAQ Index เริ่มเบี่ยงเบน ..และเบี่ยงเบนแรงด้วย

เป็นผลให้ตลาดหุ้น NASDAQ ถูกโจมตีอย่างรุนแรง.. และทันที

แล้วอเมริกาก็เกิดวิกฤติมาถึงกระทั่งทุกวันนี้

USD พังทลาย อัตราดอกเบี้ยก็ตกต่ำตามมา

_________________

วิกฤติที่เกิดขึ้นกับอเมริกา(2000)... เกิดหลังประเทศไทย 6 ปี(1994)
แต่ก็มีรูปแบบคล้ายกันกับประเทศไทยทุกประการ

..ตลาดหุ้นพังทลายก่อน ..ค่าเงิน ..และอัตราดอกเบี้ย ก็พังทลายตามมา

ท่าน จขกท ตอบได้ละเอียดยิบเลย
แต่สงสัยอยู่
แล้วตัวหลังๆๆที่ติดคือ 80 ตัวสุดท้าย
ตำแหน่งที่ 331-340 ราคาดันไปอยู่แถว 341-350
แล้วตัว 341-350 ขยับขึ้นมาแทน
จะเหมือนกันกับ กรณี 20 ตัวแรกหรือเปล่า

อันนี้ถามให้ชัวร์หน่อย

miracle เขียน:ท่าน จขกท ตอบได้ละเอียดยิบเลย
แต่สงสัยอยู่
แล้วตัวหลังๆๆที่ติดคือ 80 ตัวสุดท้าย
ตำแหน่งที่ 331-340 ราคาดันไปอยู่แถว 341-350
แล้วตัว 341-350 ขยับขึ้นมาแทน
จะเหมือนกันกับ กรณี 20 ตัวแรกหรือเปล่า

อันนี้ถามให้ชัวร์หน่อย

ก็คล้ายๆกัน...
แต่ไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีมากนัก
เป็นการออกแบบทางเทคนิค
แม้ช่วง real time(หากมีใครเอาไปนำเสนอนะครับ)
ถ้าตัวล่างขึ้นไป.. ตัวบนก็ตกลงมาแทน
ทำให้ดัชนีเปลี่ยนแปลงได้ยาก

ดัชนีตลาดหุ้นมีคนคิดปั่นตลอดเวลา
ปั่นได้ทั้งนั้นทุกดัชนี ..แต่ตัวนี้ปั่นยากครับ...

เราต้องปกป้องตลาดของเรา.. นักลงทุนของเรา.. และประเทศของเรานะครับ..

THAI VI Index... ตอนนี้
รายงานได้เฉพาะหลังตลาดปิดไปแล้วเท่านั้นนะครับ

ขอบคุณคุณ Idexthai มากเลยครับ กระทู้ก่อนนี้และกระทู้นี้ทำให้เข้าใจเรื่อง index มากขึ้นเยอะเลย นับถือ นับถือ

เอ๋มีอีกเรื่องหนึ่ง
ที่ต้องถาม
ค่าคงที่ที่ใช้คูณในสูตรคำนวณนั้นใช่ตอนนั้น

ตอนแรกที่อ่านคือใช้แค่ครั้งแรกที่ตอนเริ่มindexเท่านั้นใช้ไหม
หรือใช่ทุกครั้งที่สร้างindex ขึ้นมา

miracle เขียน:เอ๋มีอีกเรื่องหนึ่ง
ที่ต้องถาม
ค่าคงที่ที่ใช้คูณในสูตรคำนวณนั้นใช่ตอนนั้น

ตอนแรกที่อ่านคือใช้แค่ครั้งแรกที่ตอนเริ่มindexเท่านั้นใช้ไหม
หรือใช่ทุกครั้งที่สร้างindex ขึ้นมา

ใช้คำนวณทุกครั้งที่ต้องคำนวณดัชนีในแต่ละวันครับ

ถกกันเรื่อง index อีกแล้ว อิอิ ป๋ม ไม่รู้เรื่อง สบาย ไม่ต้องโต้แย้ง

ถามเพิ่มเติม
ถ้าสมมุติว่า
เมื่อคำนวณ ใหม่หมด
ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน มันดันตัดน้อยกว่าที่สร้างไว้ครั้งแรก
ค่าCV มันน้อยกว่าที่ จขกท ทำเมื่อครั้งแรก
มันจะมีผลกระทบอะไรบ้าง
(อันนี้ถามเพราะว่ามันน่าจะมีโอกาสเกิดได้ แถมเปอร์เซ็นต์การเกิด มักจะเกิดกับพวก 80 ตัวสุดท้ายที่ท่านเจ้าของกระทู้ตัดทิ้ง )
แล้วถ้าเกิดเป็นแบบนี้ค่าคงที่ที่ จขกท สร้างขึ้นมามันต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า
เพราะว่าจำนวนหุ้นที่นำมาคิดในดัชนีมันมากขึ้น

เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย
ถ้าหุ้นมันมีอันดับซ้ำกันในช่วงเส้นที่ตัดออกทั้งล่างและบนจะทำอย่างไง
เช่น ที่ 80 (ขอบบน) มีอยู่สามตัว และที่ 81 มีอยู่ 1 ตัว จะตัดสามตัวของที่80ทิ้งหมดหรือเปล่า ถ้าหากทุกอย่างยังเหมือนเดิม


ปล พี่jeng ที่ถก เนื่องจากต้องการความรู้ เนื่องจาก ดัชนีมันเป็นตัววัดอะไรได้หลายอย่าง เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นของเอกชน ดัชนีผู้บริโภค มันบอกถึงแนวโน้มได้อย่างชัดเจนเลยว่า มันจะ do or die (เป็นหรือตาย)

ถกกันดีแล้วครับคุณ miracle จะตามอ่านห่างๆ

มันดีเเหะ ความรู้ใหม่ ที่ทำให้รอยหยักในสมองมันมี่เพิ่มขึ้นอีก

ทั้งหมดทำความเคราพ
ขอบคุณคร้าบ ความรู้ใหม่ๆ ที่หาอ่านได้ยากส์

เวลาลงทุนไม่เคยดูดัชนีเลยจริงๆ เลยไม่รู้ว่าดัชนีราคาของตลาดหลักทรัพย์มีประโยชน์อะไรในการลงทุน

ดัชนีมีไว้แทงเลขท้ายสองตัวครับ วันละสองรอบ รอบละสองชุด
(คือทศนิยมสองตัวของดัชนี และยอดเปลี่ยนแปลง)

ของหลวงมีแค่เดือนละ 2 รอบเอง น้อยกว่าเยอะ

สมัยทำงานธนาคาร พอใกล้ตลาดปิดเที่ยง กับปิดเย็น

เพื่อนๆพนักงาน ตั้งแต่คนเดินเอกสาร มานั่งเฝ้าโทรทัศน์ดูดัชนีกันเพียบเลย

คนอื่นคงคิดว่าพนักงานธนาคารนี้เล่นหุ้นกันเยอะ แต่ที่ไหนได้

ดัชนีมันสะท้อนถึงความกล้าและความกลัว