มั่งคั่งด้วยหุ้น ลงทุนอย่างมีคุณค่า

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2761

โพสต์

2BOK เขียน:ดูโฆษณา dream แล้วน้ำตาซึม

ขอบคุณพี่มุขและพี่ป้อม ที่นำสิ่งดีๆ มาแบ่งปันกัน

อีก 40 ปี เจอกันแบบนั้นนะพี่มุข ถ้าโชคดีอายุยืนอย่างในหนัง Let's ride :cheers:

เข้าใจความรู้สึกเลยครับ ความรู้สึกนี้

ช่วงนี้ก็เริ่มชอบคิดถึงความหลังบ้างแล้ว :|

อายุยืนแล้วต้องมีความสุขด้วยจริงมั้ยครับ หมอศร

คนเราอยู่ได้ส่วนหนึ่งต้องมีแรงผลักดันจาก ความหวัง และ ความฝัน

จึงจะมีพลังมากพอที่จะเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้า

บางครั้งยังเคยคิดอยู่เลยว่า ชีวิตที่เราต้องการนี้ จริงๆ เราต้องการอะไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2762

โพสต์

ขออนุญาตหมอแป๊ะ เอาบทความมาลงครับ เห็นเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของหุ้น

ผมเคยเลือกหุ้นแบบสไตล์หลับตาข้างหนึ่งเหมือนกันกับบางเรื่องซึ่งมีคนทัก เราก็ลุย

พบว่าผลตอบแทนจากตัวนี้ 2 เด้ง :mrgreen:


หลับตาหนึ่งข้าง - Reiter
ในฐานะ แวลู อินเวสเตอร์ บริษัทในฝันที่ผมอยากลงทุนด้วยก็คือบริษัทที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน มีการบริหารจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีผบห.ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีธรรมาภิบาลในระดับสูง และจะต้องมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไปนัก

แนวทางการเลือกหุ้นที่ผมกล่าวถึงในข้างต้นเป็นแนวทางที่สุดยอดนักลงทุนของโลกอย่างวอร์เรน บัฟเฟต์ใช้มาตลอดชีวิตการลงทุนของเขา จนทำให้เขากลายเป็นบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดอันดับสองของโลก ซึ่งคงไม่มีใครปฎิเสธถึงแนวทางที่บัฟเฟต์ใช้ แต่เมื่อเราย้อนกลับมามองที่ตลาดบ้านเราเอง เราอาจจะเกิดคำถามขึ้นมาว่าบ้านเราซึ่งมีคุณภาพของกิจการในตลาดหลักทรัพย์ที่ด้อยกว่า จะสามารถยึดหลักการแบบบัฟเฟต์อย่าง”เคร่งครัด”ได้หรือไม่

ความเห็นของผมก็คือ เราอาจจะจำเป็นที่จะต้อง”หลับตาข้างหนึ่ง”เพื่อที่จะมองข้ามจุดบกพร่องบางอย่างของบริษัท เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว เราอาจจะหา”กิจการแบบบัฟเฟต์”ไม่เจอเลยแม้แต่บริษัทเดียว ( ผมเชื่อว่าตอนที่ดร.นิเวศน์ท่านลงทุนกับ cpall ท่านก็”แกล้ง”ทำเป็นมองไม่เห็น ข้อน่าสงสัยบางอย่างของบริษัทไปเช่นกัน ) และยิ่งโดยเฉพาะ ถ้าแนวทางการลงทุนของเราเป็นการลงทุนใน good company ในราคาที่มีส่วนลดมากๆ มากกว่าการลงทุนใน great company ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เราก็อาจจะจำเป็นที่ต้องแกล้งหลับตาข้างเดียวบ่อยครั้งขึ้น

ข้อชวนสงสัยที่ผมอาจจะต้องแกล้งทำเป็นหลับตาอยู่บ่อยๆ มีดังต่อไปนี้

1.ธรรมาภิบาล สำหรับนักลงทุนหลายท่าน ( รวมทั้งผมเอง ) มักจะให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาลเป็นลำดับต้นๆ ในการที่จะเลือกลงทุน หรือไม่ลงทุนกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่เอาเข้าจริงการหาข้อมูลเรื่องธรรมาภิบาล มักเป็นสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างลำบากและพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ยาก ข้อมูลเกี่ยวกับธรรมาภิบาลที่เราหาได้ ก็มักจะเป็นเพียงข่าวลือ หรือข่าวซุบซิบนินทา ซึ่งก็มักจะเป็นข้อคิดเห็นมากกว่าข้อเท็จจริง ดังนั้นสำหรับผม ถ้าหากผบห.ไม่ได้มีประวัติการ”เอาเปรียบ”นักลงทุนรายย่อยอย่างชัดเจน ผมก็มักจะแกล้งหลับตามองไม่เห็นคำซุบซิบนินทาเหล่านั้นเสีย

2.การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมในระยะยาว บัฟเฟต์เคยบอกไว้ว่า เขาจะไม่ลงทุนกับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี เพราะเขาคาดเดาไม่ได้ว่าในอีก 10 ปี 20 ปี ข้างหน้า เทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และบริษัทที่เขาครอบครองจะสูญสิ้นความสามารถในการแข่งขันไปโดยสิ้นเชิงหรือไม่ ข้อนี้ผมเห็นด้วยกับบัฟเฟต์ โดยเฉพาะอย่ายิ่งในสถานการณ์ที่ตลาดมีกิจการที่ดีกว่าให้เลือกลงทุนอย่างที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ว่ากันตามจริง เมื่อประมาณสักปลายปีที่แล้ว ผมก็เลือกลงทุนกับบริษัทเทคโนโลยีบริษัทหนึ่ง ทั้งๆที่ผมเองแทบจะไม่มีความรู้เชิงเทคนิคเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนั้นเลย และผมก็มองไม่ออกว่าอีก 5 ปี 10 ปี จะมีเทคโนโลยีอะไรมาทดแทนเทคโนโลยีของบริษัทที่ผมลงทุนหรือไม่ แต่ผมก็หลับตาเสียข้างหนึ่ง เพื่อที่จะมองไม่เห็นข้อจำกัดเหล่านั้น เพราะผมเชื่อว่าอย่างน้อยภาพในระยะกลางนั้น ผมสามารถมองออกได้ค่อนข้างชัด และถึงแม้ว่าในระยะยาวจะมีเทคโนโลยีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมก็น่าจะสามารถขายหุ้นได้แบบไม่เจ็บตัวนัก เนื่องจาก ณ ราคาวันที่ผมเริ่มลงทุนมี margin of safety มากพอสมควรเมื่อเทียบกับผลประกอบการ และปันผลที่จะเกิดขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง

3.บริษัทอาจจะอยู่ในอุตสาหกรรมที่การแข่งขันสูง และอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ เช่น บริษัทในกลุ่มยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ โภคภัณฑ์ ปัญหาข้อนี้ผมก็อาจจะมองเห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง และผมมักจะมองไม่เห็นเมื่อเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเฟื่องฟู อุตสาหกรรมนั้นๆขยายตัวตาม และผู้เล่นทุกรายต่าง enjoy กับยอดขายและผลกำไร

แต่อย่างไรก็ดี หากเมื่อใดก็ตามที่เศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณถดถอย เราคงจะต้องเปิดตาสองข้างกว้างๆ เพื่อประเมินข้อดีข้อเสียให้ออก

4.อัตราส่วนทางการเงินบางตัว บางครั้งบางคราว เราอาจจะพบบริษัทที่มีคุณสมบัติตามที่ผมกล่าวข้างต้น แต่เราอาจจะพบความไม่สบายใจบางอย่างจากงบดุล หรืองบกำไรขาดทุน เช่น บริษัทอาจจะมีสัดส่วนของหนี้สินต่อทุนในระดับสูง หรืออาจจะมีอัตราส่วน ROE, ROA สูงไม่มากเท่าที่เราอยากจะให้เป็น หรืออาจจะดูแล้วว่าแพงจากการมี price per book ที่สูง ปัญหาข้อนี้สำหรับแวลู อินเวสเตอร์ที่มีประสบการณ์ อาจจะมองข้ามไปโดยไม่ต้องหลับตาเสียด้วยซ้ำ เพราะเขาเหล่านั้นมักจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่าอัตราส่วนทางการเงินเป็นเรื่องของอดีต และราคาของหุ้นจะถูกกำหนดด้วยผลการดำเนินงานในอนาคตต่างหาก แต่อย่างไรก็ดีปัญหาข้อนี้มักจะพบได้เสมอๆ กับแวลู อินเวสเตอร์ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมอยากจะฝากไว้ก็คือว่า แม้การ”หลับตาข้างหนึ่ง” จะเพิ่มโอกาสในการลงทุน แต่นั่นก็เพิ่มความเสี่ยงให้กับเราด้วย เราต้องแน่ใจให้ได้ว่าปัญหาที่เราแกล้งมองไม่เห็น ไม่ได้กระทบกับคุณภาพของกิจการ และ valuation อย่างมีนัยยะสำคัญ และที่สำคัญเราต้องแน่ใจด้วยว่า เรากำลังหลับเพียงข้างเดียว ไม่ได้หลับตาทั้งสองข้างจนมองไม่เห็นสิ่งที่”คนทั้งตลาด”เห็นกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
reiter
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2308
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2763

โพสต์

บทความนี้ เขียนเพราะเห็นน้องๆ ข้างตัวบางคนมีปัญหายังมองภาพใหญ่ไม่ออก บางทีไปมองแต่จุดเล็กๆ จนมองไม่เห็นประเด็นในการลงทุน
Our favorite holding period is forever.

Blog การลงทุนของผม

http://reitertvi.wordpress.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2764

โพสต์

วันนี้เป็นวันที่ต้องเรียกว่า ลุ้นกันสนุกวันนึง โดยเฉพาะ jas เห็นซัดกันลงหนักตั้งแต่ 3.60 แล้ว

แล้วก็เตรียมรับมือกระทู้ร้อนได้เลย

ทำเอาหุ้นยอดนิยมหลายตัวเป๋กันเลยล่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
erickiros
Verified User
โพสต์: 415
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2765

โพสต์

ขอบคุณพี่หมอแป๊ะที่เขียนบทความดีๆ ขอบคุณพี่หมอมุขที่นำบทความดีๆมาฝากค่ะ :D
ว่างๆแวะไปเยี่ยมชม blog ของซันได้นะคะ Economics Blog
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2766

โพสต์

เอารูปสวยๆมาฝากชมรมหมอ VI ครับ

สาวสวยกับ Ipad2 ในไทย

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorn adis
Verified User
โพสต์: 295
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2767

โพสต์

สีขาวสวยมากๆครับ พี่มุข

อยากได้สักคนหรือเครื่องก็ได้ :D :D
คาถาลงทุน
BuVaPiCaMos
ภาพประจำตัวสมาชิก
kotaro
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1495
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2768

โพสต์

ขาวสวย :oops:

วันนี้ สั่งหนังสือเข้าพอร์ตทีเดียว 5 เล่มรวดเลยครับ
book.jpg
เล่มซ้ายมือสุดเป็นเล่มที่ยากอ่านมากสุด ตามหาซื้อตั้งนาน

อ่านจบแล้วจะมา แชร์ นะครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2769

โพสต์

kotaro เขียน: เล่มซ้ายมือสุดเป็นเล่มที่ยากอ่านมากสุด ตามหาซื้อตั้งนาน

อ่านจบแล้วจะมา แชร์ นะครับ

ขอบคุณล่วงหน้า หมอโคทาโร่ :bow:

ดูแล้วเล่มซ้ายหน้าอ่านจริงๆด้วยครับ เป็นเศรษฐีผู้มั่งคั่งความสุข

เป็นเป้าหมายของชีวิตที่ดีจริงๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2770

โพสต์

เมื่อวานไปโฉบดูมาแล้ว

กิเลสบังเกิดจริงๆ Ipad 2 สีขาวเนี่ย น่าจับจอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
jek ae
Verified User
โพสต์: 899
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2771

โพสต์

ติดดอยไอแพดอยู่ครับ ซื้อตัวแรกเมื่อต้นปีปุ๊บ คุณจ๊อบส์เปิดตัวรุ่น 2 ทันที
เหลือขุนเขาแมกไม้ มิต้องวิตกไร้ฟืนไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2772

โพสต์

jek ae เขียน:ติดดอยไอแพดอยู่ครับ ซื้อตัวแรกเมื่อต้นปีปุ๊บ คุณจ๊อบส์เปิดตัวรุ่น 2 ทันที
สถาณการณ์อย่างนี้คงลงดอยยาก :mrgreen:

ว่าแต่รถแจ๊ส หมอเอ๋ เป็นไงบ้างครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
jek ae
Verified User
โพสต์: 899
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2773

โพสต์

ผมลงรถแจ๊ซไประยะหนึ่งแล้วครับ ตั้งแต่ก่อนที่หุ้นจะเป็นที่สนใจของมวลชนในรอบนี้ จุดที่ตัดสินใจตอนนั้นคือ total assaet ในพอร์ทเพียงพอกับการมีอิสรภาพทางการเงิน ก็เลยตัดสินใจขายทั้งพอร์ทเลยครับ แบ่งเงินส่วนนึงไปชำระหนี้สินทุกอย่างที่มี ส่วนที่เหลือก็กระจายการลงทุนใน ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ แล้วก็พยายามลงทุนในหุ้นปันผลที่เป็น defensive

2ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นโอกาสทองซึ่งคาดว่าในชีวิตนี้คงไม่มีทางได้เจอะเจอแบบนี้อีกแล้ว ผลตอบแทนที่ได้มามันเกินความรู้ความสามารถของตัวผมเองไปเยอะ โชคชะตาและความกล้าได้กล้าเสียที่บ้าบิ่นเกินตัวเลยทำให้มันเกิด outcome อย่างนี้ได้ ต่อไปนี้คงมุ่งมั่นศึกษาแนวทางการลงทุนเน้นคุณค่าอย่างจริงจังครับ และคงไม่มีความจำเป็นที่จะไปสุ่มเสี่ยงใดๆเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว
เหลือขุนเขาแมกไม้ มิต้องวิตกไร้ฟืนไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2774

โพสต์

เยี่ยมครับ หมอเอ๋มีจุดยืนที่เด่นชัดขึ้นมากครับ

สำหรับผมก็เหมือนเดิมเป็นพวกกลัวเสียเงินต้นสุดๆ ก็จะ conservative ตลอด

จะว่าไปช่วงนี้ก็ไม่ค่อยทำอะไรกับพอร์ตแล้วครับ เหมือนกับพอใจกับผลตอบแทนที่เป็นอยู่

แต่ก็พยายามหาหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าอยู่โดยตลอด แต่ตอนนี้ก็หายากขึ้นทุกวัน

ผมก็อาจจะเก้บในรูปหลักทรัพย์สภาพคล่องสูงแทน รอวันที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ซึ่งจะมาหรือไม่มา ไม่มีใครคาดหมายได้แม่นยำ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2775

โพสต์

ตอนเช้ามี จนท. แบงก์โทรมาหาผมชวนฝากเงิน แล้วให้ ipad2 ด้วยครับ

น่าสนอยู่เหมือนกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorn adis
Verified User
โพสต์: 295
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2776

โพสต์

jek ae เขียน: ต่อไปนี้คงมุ่งมั่นศึกษาแนวทางการลงทุนเน้นคุณค่าอย่างจริงจังครับ และคงไม่มีความจำเป็นที่จะไปสุ่มเสี่ยงใดๆเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว
ดีครับ ต่อไปจะได้มีตัวดีๆ ให้เพื่อน ได้ลอกการบ้านอีก
คาถาลงทุน
BuVaPiCaMos
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorn adis
Verified User
โพสต์: 295
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2777

โพสต์

Paul VI เขียน:เยี่ยมครับ หมอเอ๋มีจุดยืนที่เด่นชัดขึ้นมากครับ

สำหรับผมก็เหมือนเดิมเป็นพวกกลัวเสียเงินต้นสุดๆ ก็จะ conservative ตลอด

จะว่าไปช่วงนี้ก็ไม่ค่อยทำอะไรกับพอร์ตแล้วครับ เหมือนกับพอใจกับผลตอบแทนที่เป็นอยู่
พี่ทั้งสองคนดูสงบนิ่งและมีความสุขกับการลงทุนมากครับ

ทุกวันนี้ผมยังขายหมู ซื้อควายกลับบ้านอยู่บ่อยๆครับ :cry:
คาถาลงทุน
BuVaPiCaMos
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorn adis
Verified User
โพสต์: 295
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2778

โพสต์

Paul VI เขียน:ตอนเช้ามี จนท. แบงก์โทรมาหาผมชวนฝากเงิน แล้วให้ ipad2 ด้วยครับ

น่าสนอยู่เหมือนกัน
ไม่น่าสนหรอกครับพี่มุข เสียดายโอกาส

ระดับพี่เอาเงินฝากนั้นไปลงทุน ได้กำไรไปซื้อ ipad ได้เป็นโหลๆครับ
คาถาลงทุน
BuVaPiCaMos
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2779

โพสต์

2BOK เขียน:
jek ae เขียน: ต่อไปนี้คงมุ่งมั่นศึกษาแนวทางการลงทุนเน้นคุณค่าอย่างจริงจังครับ และคงไม่มีความจำเป็นที่จะไปสุ่มเสี่ยงใดๆเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว
ดีครับ ต่อไปจะได้มีตัวดีๆ ให้เพื่อน ได้ลอกการบ้านอีก

ลอกด้วยคน :mrgreen:

ว่าแต่ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ตัวหนึ่งเหมือนกัน ขอดูยาวๆอีกซักพักนึงนะครับ
navapon
Verified User
โพสต์: 760
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2780

โพสต์

พี่อย่าลืมสะกิดผมด้วยนะครับ แต่ผมขี้เซานะ :mrgreen: (แซวครับ)
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2781

โพสต์

2BOK เขียน:
Paul VI เขียน:ตอนเช้ามี จนท. แบงก์โทรมาหาผมชวนฝากเงิน แล้วให้ ipad2 ด้วยครับ

น่าสนอยู่เหมือนกัน
ไม่น่าสนหรอกครับพี่มุข เสียดายโอกาส

ระดับพี่เอาเงินฝากนั้นไปลงทุน ได้กำไรไปซื้อ ipad ได้เป็นโหลๆครับ
ขอบคุณครับ หมอศร

แฟนพี่เค้าอยากได้ของฟรีน่ะ :mrgreen:

แต่พี่บอกไปแล้วว่าจะซื้อเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2782

โพสต์

รร. ที่เชียงใหม่ ที่กำลังตกเป็นข่าวดังตอนนี้

ผมไปพักมาเมื่อปีใหม่ปีที่แล้ว ว่าไปก็สะดวกมากเลยนะ อยู่ตรงกลางดาวนทาวน์ของเชียงใหม่เลย

ข้างหน้าซอยก็มี แมคโดนัลด์ด้วยสะดวกมากๆ

เจ้าหน้าที่ก็อัธยาศัยดีนะครับ

ตกเป็นข่าวแบบนี้ น่าเห็นใจทุกฝ่าย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2783

โพสต์

จากบทความที่ว่าหลับตา 1 ข้างที่เอาบทความของหมอแป๊ะมาลงเมื่อคราวก่อน

ค้นพบว่า การที่เลือกกิจการที่ว่าไม่ผิดหวังจริงๆ หุ้นตัวนั้นปรับตัวขึ้นและเติบโตมาโดยตลอดเลย

บางครั้งเราค้นพบว่าแม้เราอาจไม่เก่งเรื่องตัวเลข หรืองบดุลมากมายนัก แต่เราชดเชยด้วยเรื่องอื่น

ซึ่งทำให้การลงทุนของเราก็สมารถประสบความสำเร็จได้ :D
aonanfield
Verified User
โพสต์: 365
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2784

โพสต์

จากบทความที่ว่าหลับตา 1 ข้างที่เอาบทความของหมอแป๊ะมาลงเมื่อคราวก่อน

ค้นพบว่า การที่เลือกกิจการที่ว่าไม่ผิดหวังจริงๆ หุ้นตัวนั้นปรับตัวขึ้นและเติบโตมาโดยตลอดเลย

บางครั้งเราค้นพบว่าแม้เราอาจไม่เก่งเรื่องตัวเลข หรืองบดุลมากมายนัก แต่เราชดเชยด้วยเรื่องอื่น

ซึ่งทำให้การลงทุนของเราก็สมารถประสบความสำเร็จได้ :D
คอมเมนต์พี่หมอมุข ตรงจุดนี้ โดนผมมากเลยครับ ตั้งแต่วันแรกที่ผมเริ่มลงทุนแนว VI มา 3 ปีก่อนนี้ ผมเครียดกับเรื่องบัญชี งบดุล มาตลอด พยายามอ่านและศึกษาเรื่องบัญชีอย่างหนัก แต่มันก็ไม่เข้าสมองผมสักเท่าไรเลย จนถึงจุดนึง ผมได้รู้และยอมรับว่าสมองผมในเรื่องบัญชีและตัวเลขมีขีดความสามารถจำกัดเพียงแค่ระดับนึง ผมต้องไม่เครียดเพียงจุดนี้เพียงจุดเดียว

หลังจากนั้น ผมจึงเริ่มหาความรู้และชดเชยด้วยด้านอื่นๆแทน เลยทำให้ผมรู้ว่าทุกคนสามารถลงทุนแนว VI ได้ทุกคนครับ เพียงแต่เราต้องรู้จักตัวเราให้มากที่สุดและพยายาม อย่าโลภเกินความรู้ของตัวเราเอง (คำหลังนี้ขออนุญาตเฮียคลายเครียดนะครับ) และลงทุนอย่างมีความสุข (อันนี้ก็ขออนุญาตพี่หมอนุ่นนะครับ)

ขอบคุณพี่หมอมุขอีกครั้งครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
reiter
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2308
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2785

โพสต์

Paul VI เขียน:จากบทความที่ว่าหลับตา 1 ข้างที่เอาบทความของหมอแป๊ะมาลงเมื่อคราวก่อน

ค้นพบว่า การที่เลือกกิจการที่ว่าไม่ผิดหวังจริงๆ หุ้นตัวนั้นปรับตัวขึ้นและเติบโตมาโดยตลอดเลย

บางครั้งเราค้นพบว่าแม้เราอาจไม่เก่งเรื่องตัวเลข หรืองบดุลมากมายนัก แต่เราชดเชยด้วยเรื่องอื่น

ซึ่งทำให้การลงทุนของเราก็สมารถประสบความสำเร็จได้ :D

ช่วงนี้วุ่นๆเรื่องเตรียมไปเมกา เลยไม่ได้อัพเดตบทความใหม่ๆ แต่จริงๆ มีไอเดียในหัวสามสี่เรื่องแล้วครับ :D :D
Our favorite holding period is forever.

Blog การลงทุนของผม

http://reitertvi.wordpress.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2786

โพสต์

reiter เขียน: ช่วงนี้วุ่นๆเรื่องเตรียมไปเมกา เลยไม่ได้อัพเดตบทความใหม่ๆ แต่จริงๆ มีไอเดียในหัวสามสี่เรื่องแล้วครับ :D :D
ยังไม่ได้เลี้ยงข้าวหมอแป๊ะเลยอ่ะ :oops:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2787

โพสต์

aonanfield เขียน:
จากบทความที่ว่าหลับตา 1 ข้างที่เอาบทความของหมอแป๊ะมาลงเมื่อคราวก่อน

ค้นพบว่า การที่เลือกกิจการที่ว่าไม่ผิดหวังจริงๆ หุ้นตัวนั้นปรับตัวขึ้นและเติบโตมาโดยตลอดเลย

บางครั้งเราค้นพบว่าแม้เราอาจไม่เก่งเรื่องตัวเลข หรืองบดุลมากมายนัก แต่เราชดเชยด้วยเรื่องอื่น

ซึ่งทำให้การลงทุนของเราก็สมารถประสบความสำเร็จได้ :D
คอมเมนต์พี่หมอมุข ตรงจุดนี้ โดนผมมากเลยครับ ตั้งแต่วันแรกที่ผมเริ่มลงทุนแนว VI มา 3 ปีก่อนนี้ ผมเครียดกับเรื่องบัญชี งบดุล มาตลอด พยายามอ่านและศึกษาเรื่องบัญชีอย่างหนัก แต่มันก็ไม่เข้าสมองผมสักเท่าไรเลย จนถึงจุดนึง ผมได้รู้และยอมรับว่าสมองผมในเรื่องบัญชีและตัวเลขมีขีดความสามารถจำกัดเพียงแค่ระดับนึง ผมต้องไม่เครียดเพียงจุดนี้เพียงจุดเดียว

หลังจากนั้น ผมจึงเริ่มหาความรู้และชดเชยด้วยด้านอื่นๆแทน เลยทำให้ผมรู้ว่าทุกคนสามารถลงทุนแนว VI ได้ทุกคนครับ เพียงแต่เราต้องรู้จักตัวเราให้มากที่สุดและพยายาม อย่าโลภเกินความรู้ของตัวเราเอง (คำหลังนี้ขออนุญาตเฮียคลายเครียดนะครับ) และลงทุนอย่างมีความสุข (อันนี้ก็ขออนุญาตพี่หมอนุ่นนะครับ)

ขอบคุณพี่หมอมุขอีกครั้งครับ
ตอนแรกพี่ก็ท้อครับ

นึกว่ายังไงการลงทุนแนว VI คงไม่เหมาะกับเรา
navapon
Verified User
โพสต์: 760
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2788

โพสต์

รบกวนสอบถามวิธีคิดค่า CWC (change in working capital) จากพี่ๆด้วยครับ

พอดีอ่านจากหลายที่ แต่ยังไม่มั่นใจตัวเอง ขอเป็น choiceให้เลือกนะครับว่าข้อไหนถูกจริงๆ

a. ผลต่างของ (สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน) ระหว่าง "ปีนี้" กับ "ปีที่แล้ว"

b.วิธีของคุณสุมาอี้
โดยคำนวณ "เงินทุนหมุนเวียน" จาก
"สินทรัพย์หมุนเวียนที่ใช้ในการดำเนินงานจริง หักลบด้วย หนี้สินหมุนเวียนที่ไม่มีภาระดอกเบี้ย" และ
> สินทรัพย์หมุนเวียนที่ใช้ในการดำเนินงาน
ประกอบด้วย ลูกหนี้การค้า, สินค้าคงคลัง, ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า, สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น (จะไม่เอาเงินสดมาคิด)
> หนี้สินหมุนเวียนที่ไม่มีภาระดอกเบี้ย
ประกอบด้วย เจ้าหนี้การค้า, หนี้สินหมุนเวียนอื่น

วิธีนี้ไม่เอาเงินสดและหนี้สินที่มีดอกเบี้ยมาคิด (จริงๆแล้วผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้)
จากนั้น CWC ก็คิดจากผลต่างของWC ปีนี้กับปีที่แล้วอีกที

c. จากงบกระแสเงินสด
โดยยึดหลัก working capital คือ สินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงาน -สุทธิ
คิดจากผลรวมของ 2 บรรทัดล่าง
>สินทรัพย์ดำเนินงาน (เพิ่มขึ้น) ลดลง
>หนี้สินดำเนินงาน เพิ่มขึ้น (ลดลง)
จากนั้น CWC ก็คิดจากผลต่างของ WC(ซึ่งคิดโดยวิธีนี้) ระหว่างปีนี้กับปีที่แล้วอีกที

ถ้าอธิบายเหตุผลในแต่ละข้อด้วยว่าทำไมถึงผิด ก็จะขอบคุณมากครับ จากเด็กน้อยอ่อนประสพการณ์
(ผมอยากทราบจริงๆครับ ขอบคุณล่วงหน้า) :bow: :bow:
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2789

โพสต์

เบื่อคำพูดนักวิเคราะห์จริงๆเลย
เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว การถือหุ้นข้ามวันหยุดยาว 4 วัน เป็นความเสี่ยง


เฮ้อ :roll:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมหมอ VI

โพสต์ที่ 2790

โพสต์

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ไต้หวัน

ทอร์นาโด กลางเมือง