หน้า 92 จากทั้งหมด 160
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 3:49 pm
โดย AuI_a VI
dome@perth เขียน:
หนังสือเล่มนี้น่าอ่านนะครับ
The Winning Invesment Habits of Warren Buffett & George Soros" Hareness the Investment Genius of the World's Richest Investors"
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 4:25 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ขอบคุณที่แนะนำครับ คุณdome@perth
คุณAuI_a VI ขอบคุณที่แบ่งปันให้ได้ศึกษากันครับ แต่ผมเป็นโรคภาษาไทยแข็งแรงภาษาเดียวถ้าจะไม่ไหว :lol:
ผมลองหาในgoogle แล้วเจอบทความของปู่โซรอสที่พี่ๆที่นี่ได้แปลไว้นานแล้วครับอ่านตอนแรกก็จะมีอาการแบบที่เฮียเสือบอกไว้เลย :lol: ชื่อหนังสือมีปู่บัฟเฟตต์ด้วย( Buffett & George Soros ) ยังงี้มีลุ้นว่าดร.นิเวศน์จะแปลkub แฮะๆรอเลย
ถ้านักลงทุนท่านใดผสมผสานปรัชญาในการลงทุนของทั้ง2ผู้ยิ่งใหญ่ได้ลงตัว อาจจะเป็นนวัตกรรมการลงทุนใหม่แน่เลยครับ :)
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 7:05 pm
โดย hongvalue
[quote="AuI_a VI"]
เล่มนี้ผมมีครับ ใครจะยืมอ่านก็ได้นะครับจะได้ไม่ต้องเสี่ยงไปซื้อมา แล้วอ่านไม่จบไม่คุ้มค่าหนังสือแบบเจ้าของ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 8:26 pm
โดย VIB007
[quote="hongvalue"]
The Winning Invesment Habits of Warren Buffett & George Soros" Hareness the Investment Genius of the World's Richest Investors" เขียนโดย Mark Tier
[quote="AuI_a VI"]
เล่มนี้ผมมีครับ ใครจะยืมอ่านก็ได้นะครับจะได้ไม่ต้องเสี่ยงไปซื้อมา แล้วอ่านไม่จบไม่คุ้มค่าหนังสือแบบเจ้าของ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 8:29 pm
โดย VIB007
[quote="hongvalue"]
ท่าทางพี่วิบูลย์ขจะชอบอ่าน ดารา gossip นะครับ
ใครกิ๊กใครก็รู้หมด มีแหล่งข่าวให้เช็คว่า
ว่าแต่สรุป หมอกฤษ์ ฟ้องกลับแม่ลิเดีย
ไปถึงไหนแล้วครับ
มารอฟังพี่ update
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 8:34 pm
โดย VIB007
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 8:34 pm
โดย hongvalue
ปกติแล้วหนังสือใน amazon
ที่ได้ 5 ดาวนี้เชื่อถือได้แค่ไหนครับ
มีฮั้วกันไหมครับว่าใต้โต๊ะแล้วให้ดาวหลายๆดาว
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 8:36 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:ปกติแล้วหนังสือใน amazon
ที่ได้ 5 ดาวนี้เชื่อถือได้แค่ไหนครับ
มีฮั้วกันไหมครับว่าใต้โต๊ะแล้วให้ดาวหลายๆดาว
ไอ้สามดาวครึ่งนะ พี่ให้เอง
เชื่อถือได้
ส่วนในอเมซอนนั้น
มันต่างจิตต่างใจ
บางเล่มได้ห้าดาวแต่ไม่ได้เรื่องก็มี
เพราะคนรีวิวน้อย
และหนังสือมันถูกใจเค้า
แต่ไม่ถูกใจเรา
แต่ถ้าได้ดาวน้อยก็มั่นใจได้ว่าไม่ดีชัวร์
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 8:49 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
คือ สำหรับผมก็บอกเลยว่าจำเป็นครับ
เพราะว่าเศรษฐกิจไม่ดี demand หดตัว
คนบริโภคน้อยลงส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน
ให้ลดลง ผมเคยเอากราฟมาลงไว้ว่าเวลา nominal gdp หดตัว
มีอุตสาหกรรมที่มีรายได้โตน้อยมาก (อยู่ในกระทู้พี่ลูกอีสาน)
จะมีแค่ 4 กลุ่มที่มีรายได้ perform กว่าตลาดบ่อยครั้งเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี
ก็คือ ค้าปลีก โรงบาล อาหาร สื่อสาร
แนวการลงทุนของผมก็คือว่า
ถ้าเศรษฐกิจยังไม่ดีและมีแนวโน้มแย่ลงไป ผมจะถือเงินสด
เพราะว่าจะมีหุ้นที่สามารถสวนตลาดได้น้อยมากๆ
ผมคิดว่าไม่น่าเกิน 10-15% ที่แข็งแกร่งกว่าตลาด
ผมไม่มั่นใจว่าผมจะสามารถหาหุ้นที่สวนตลาด 10-15% นั้นได้
และต่อให้หาได้ ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าหุ้นที่มีรายได้ดีกว่าราคาจะไม่ลง
สิ่งที่เราเจอส่วนใหญ่ก็คือ คนจะขายหุ้นที่ไม่ค่อยลงไปซื้อหุ้นที่ลงเยอะ
ผมคุยมาหลายคน เป็นแบบนี้เยอะมากๆๆ
หุ้นที่สวนกระแสขาลงนี่่น่าจะจริง
เท่าที่สังเกตดู
หุ้นพวกที่ว่ามาดูเหมือนจะลงน้อยกว่าตลาด
hongvalue เขียน: สรุปคือสำหรับผมจำเป็น ทุกวันนี้ผมใช้หลักการวิเคราห์หุ้นและกิจการของ vi
แต่แนวคิดและปรัชญาลงทุนของผมไม่เหมือนกับ vi (พันแท้)
ผมให้ความสำคัญกับจังหวะลงทุนและการบริหารความเสี่ยง
และ probability ที่ผมต้องเป็นต่อสุดๆ ผมถึงจะเล่นเท่านั้น
เอาละ พี่เห็นช่องทางถามเอาความรู้จากฮงบ้างแล้ว
ข้อสรุปข้างบนนี้อยากรู้ว่าฮงเอาไปใช้งานจริงๆบ้างหรือยัง
หรือเป็นสิ่งที่ฮง"คิด"ว่ามันเป็นแนวคิดที่ Work แต่ยังไม่ได้ลอง
ถ้าเคยลองแล้ว ช่วยยกตัวอย่างให้หน่อย
แต่ถ้ายังเป็นแค่แนวคิด
พี่ก็อยากจะลองทำ Simulation ทดสอบสมมุติฐานในแนวคิดนี้สักหน่อย
คือตอนนี้ดัชนีอยู่ที่ 430 จุด
ถ้าดัชนีลดลงเหลือ 380 จุด
ฮงจะทำอย่างไร??
เมื่อไหร่ฮงจะซื้อหุ้น??
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 8:50 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
นี่ยังถามไม่หมดหรือนี่?????
ถามหน่อยนะว่าฮงไปถามใครมาบ้าง
อยากรู้น่ะ
เอาเฉพาะที่เป็นนักลงทุนนะ ผู้บริหารบริษัทไม่นับ
ถามใครบ้างเหรอ
ที่ถามเยอะสุดๆก็เป็นพี่ ih มั้งครับประมาณ 250 คำถามได้นะ
พี่สุมาอี้ก็ประมาณเกือบ 200 ได้มั้ง
พี่พอใจก็ประมาณเฉียด 30-40
พี่สายลับก็หลายโหล
คุณ visit ก็ตามถามหลายปีประมาณเกือบ 100
ด.ร.นิเวศน์ตอนเจอที่งานจิบเบียร์และสัมนาและเขียนไปถามถามออกไมค์
ก็น่าจะหลายๆโหลอยู่
แล้วก็ใน email ที่คุยกับคนต่างประเทศตาม research แล้วก็ถามคนทำงาน
เศรษฐศาสตร์และนักวิเคราห์ไรพวกนี้อีก
รวมกันก็น่า จะประมาณ 150 คำถาม
แล้วก็มีถามพี่วิบูลย์น่าจะซัก 5-7 คำถาม
ประมาณนี้ครับ
จริงๆก็ถามจบแล้วแหละครับ
ยังไงรบกวนท่านอื่นเข้ามาถามพี่วิบูลย์ต่อด้วยนะครับ
ผมจะรออ่านครับ
อิอิ ไว้โอกาศหน้าผมจะมาถามอีกซักชุดนะครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 8:53 pm
โดย hongvalue
อ้าว เพิ่งเห็นพี่วิบูลย์ถามกลับมา
ดันโยนให้คนอื่นถามแทนไปแล้ว :oops:
โทษทีพี่
มันโพสพร้อมกันเลยอะ
8 :49 นาที กับ 8:50 นาที
เหมือนเสียมรรยาทเลย
เดี่ยวตอบให้เลยนะพี่
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 9:01 pm
โดย VIB007
[quote="hongvalue"]อ้าว เพิ่งเห็นพี่วิบูลย์ถามกลับมา
ดันโยนให้คนอื่นถามแทนไปแล้ว
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 9:05 pm
โดย hongvalue
[quote="VIB007"][quote="hongvalue"]
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 9:06 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
ถามใครบ้างเหรอ
ที่ถามเยอะสุดๆก็เป็นพี่ ih มั้งครับประมาณ 250 คำถามได้นะ
พี่สุมาอี้ก็ประมาณเกือบ 200 ได้มั้ง
คุณ visit ก็ตามถามหลายปีประมาณเกือบ 100
สามท่านนี่ต้องอดทนน่าดูเลยเนอะ อิ อิ
hongvalue เขียน:
แล้วก็มีถามพี่วิบูลย์น่าจะซัก 5-7 คำถาม
ประมาณนี้ครับ
จริงๆก็ถามจบแล้วแหละครับ
ยังไงรบกวนท่านอื่นเข้ามาถามพี่วิบูลย์ต่อด้วยนะครับ
ผมจะรออ่านครับ
อิอิ ไว้โอกาศหน้าผมจะมาถามอีกซักชุดนะครับ
แซวเล่นนะฮง
เข้ามาคุยกันได้นะ
(กลัวไม่มีคนปั่นกระทู้ ฮา)
จริงๆเดาว่าคงมีคำถามในใจอีกหลายสิบ
แต่เกรงใจ
ก็ค่อยๆคุยกันก็ได้
ไม่ต้องรีบ
เปลี่ยนบรรยากาศไปคุยกันเรื่งอื่นก่อน
แล้วค่อยกลับมาเรื่องหุ้นก็ได้
เหมือนคั่นโฆษณา
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 9:12 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
จริงๆแนวคิดเรื่อง fundflow ยังมีอีกหลายอย่างที่อยากแชร์ แต่ว่าผมขอแชร์
ในส่วนของประสบการณ์ปีที่แล้วก่อนนะครับ
ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเราดูเม็ดเงินเป็นหลักเราก็จะ
follow smart money ได้ จริงๆแล้วตลาดหุ้นคนเราคาดการณ์ไม่ได้
fundflow จึงเป็นการลดความเสี่ยงเวลาเราเข้าซื้อหุ้นแล้วจะโดนฝรั้งเทกระจาดสวนออกมาครับ
สำหรับผมนับว่าใช้ได้ผลมากๆครับ
แสดงว่าฮงให้ความสำคัญกับ fundflow เป็นหลัก
นี่ลูกศิษฐ์อาจารย์วิสิษฐ์เลยนะนี่
ถามต่อว่า fundflow ดูอย่างไร
ดูแค่ปริมาณซื้อขายรายวันของต่างชาติแค่นั้น
พอไหม
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 9:12 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
แต่ถ้ายังเป็นแค่แนวคิด
พี่ก็อยากจะลองทำ Simulation ทดสอบสมมุติฐานในแนวคิดนี้สักหน่อย
คือตอนนี้ดัชนีอยู่ที่ 430 จุด
ถ้าดัชนีลดลงเหลือ 380 จุด
ฮงจะทำอย่างไร??
เมื่อไหร่ฮงจะซื้อหุ้น??
อืม คำถามนี้คงใช้ตัวแปรประกอบหลายตัว
ผมถือคติว่า จงลงมือให้ช้ากว่าตลาดเล็กน้อยจะป้องกันความเสี่ยงได้ดีที่สุด
จากข้างบนผมพูดเรื่อง ted-spread ผมคิดว่าผมไม่เคย ตั้ง target ว่าเท่าไหร่ ผมถึงจะซื้อเพราะว่าถ้าตอนนั้นผมดูตัวแปรจากตลาดเงิน
จิตวิทยามวลชนแล้วยังไม่ดีผมก็ไม่ซื้อ
จริงๆถ้าถามผมตอนนี้ set index มีความเสี่ยงขาลงระดับปานกลาง
ก็คือ 50-80 จุด ผมมองว่าไม่น่าเกินระดับนี้ใน 1 h52
เหตุผล support ของผมก็คือว่า
ตอนนี้ ted-spread ลงมาเยอะ อยู่ในระดับที่ตลาดเงินไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนต่างของ set dividend yield มากกว่า deposit 1 เดือน เยอะเป็น
ประวัติการณ์
เดี่ยวมาต่อรอซัก 5 นาทีนะ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 9:16 pm
โดย hongvalue
ผมขอเอาที่ผมไปสรุปไว้ในที่แห่งนึง
ประมาณ 1 เดือนที่แล้วมา
paste หน่อยนะ
คือ ข้อมูลล่าสุดก็ทีละประเด็นดังนี้ครับ
1.ยอดเงินใน money market fund สูงมาก
ซึ้งเป็นสัญญาณที่ดี เพราะเป็นที่พักเงินระยะสั้น สำหรับกลับเข้ามาลงทุน
2.bond yiled 10 ปี อ่อนตัวอย่างรวดเร็วจากประมาร 2.2 มาถึง 3 ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
หมายถึงเงินออกจากตลาด bond แล้ว
3.ตัวเลข earningyield gap ที่สูงระดับ 2 digit ที่ไม่เห็นมาหลายปีมาก
4.ตัวเลข ted-spread เริ่มทรงตัวในระดับ 1% เศษๆเป็นสัญญาณที่พอใช้
5.การติดลบของ real fed fund rate มากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี จะเป็นผลบวกตัวหุ้น asia
6.ส่วนต่าง spread ในรูปของ corporate bond - goverment bond สูงบ่งบอกว่าข่าวร้ายสะท้อนไปแล้ว
สรุปจากประเด็นต่างๆก็คือว่า ตอนนี้คนยัง underweight หุ้นอยู่เมื่อเทียบกับพันธบัตร และถือเงินสดกันเยอะ
แต่ความเชื่อมันไม่ได้หายไปเมื่อช่วงที่ lehman ล้ม และข่าวร้ายสะท้อนไปแล้ว
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 9:19 pm
โดย hongvalue
ต่อไปเป็นของใหม่ เมื่อกี้เอาที่โพสไว้
ที่นุ่นที่นี้มาแปะ
ตอบพี่วิบูลย์ ดูยอดซื้อขายฝรั่งไม่พอครับ
บางคนเม็ดเงินก็มาจากคนในประเทศ
บางครั้งก็มาจากสถาบันในไทยครับ
ถ้าได้ดูสถิติย้อนหลัง 15 ปี จะเห็นว่า
มีหลายครั้งที่ไอ้หรั่งลากหุ้นไม่ขึ้นครับ
ยอดเงินในประเทศ ต้องดูเว็บ แบงค์ชาติเป็นหลัก
ของสถาบันส่วนใหญ่ 70-80% เข้ามาสองเดือนสุดท้ายของปีอยู่แล้ว
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 9:28 pm
โดย hongvalue
คือ ในปี 51 มีเงินกองทุนไทยไหลเข้าไปลงทุนพันธบัตรเกาหลีสูงเกือบ 2 แสนล้านบาท เพื่อรับ
ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง กองทุนเหล่านี้มีระยะเวลาครบกำหนดอายุสั้น จากการคำนวณ
พบว่า จะมีพันธบัตรเกาหลีครบกำหนดและมีเงินลงทุนไหลกลับเข้ามาในประเทศไทย
ประมาณ 6 หมื่นล้านบาทในช่วงเดือน มี.ค. เม.ย. ไม่แน่เงินลงทุนส่วนหนึ่งในนี้อาจกลับเข้า
ลงทุนในหุ้นปันผล
นี้ก็เป็นปัจจัยบวกเหมือนกัน
แต่จะเข้าตลาดหุ้นมากหรือน้อยก็ต้องดูกันต่อไป
ผมตัดมาจาก research แห่งนึงที่ไปเจาะข้อมูลมาได้ลึกมาก
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 9:30 pm
โดย hongvalue
พ่นจบแล้วนะครับ
พี่วิบูลย์ถามาต้องจัดให้เต็มที่ :lol:
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 11:14 pm
โดย ก้อนหิน
ถามบ้างครับ เป็นคำถามที่ผมสงสัยมาซักพักแล้วอะครับ
อยากรู้ว่า vi พันธ์แท้ เนี่ย เค้าใช้อะไรในการทำ risk management ของการลงทุนอะครับ ในกรณีที่คิดผิดนะครับ
พวกเด็กเทคนิค เค้าก็ money management ทำการ cut loss หรือดู แนวรับแนวต้านของเค้าไปอะครับ คือ ถ้าเป็นคนที่มีวินัย เค้าจะไม่ขาดทุนที่ละเยอะๆอะครับ
ส่วน vi นี่ เท่าที่ถาม บางคนเค้าใช้ความเข้าใจในบริษัทในการลดความเสี่ยง ซึ่งจริงๆก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ แต่ถ้าคิดผิดหละครับ ผมกลัวว่า การขาดทุนเพียงครั้งเดียว อาจจะทำให้ที่กำไรมาทั้งหมดของเราหายไปหมดเลย แล้วผมก็เห็นหลายๆคนพลาดทำนองนี้ครับ ประมาณว่า หุ้นลง ก็คิดว่าเราคิดถูกพื้นฐานดี ซื้อเพิ่ม เรื่อยๆๆๆๆ จน ณ เวลานึง ความจริงก็ปรากฏ ว่า บลาๆๆๆๆๆ
พี่มีวิธีการจัดการกับอะไรแบบนี้มั้ยครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 11:19 pm
โดย VIB007
[quote="hongvalue"]พ่นจบแล้วนะครับ
พี่วิบูลย์ถามาต้องจัดให้เต็มที่
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 11:23 pm
โดย VIB007
[quote="ก้อนหิน"]ถามบ้างครับ เป็นคำถามที่ผมสงสัยมาซักพักแล้วอะครับ
อยากรู้ว่า vi พันธ์แท้ เนี่ย เค้าใช้อะไรในการทำ risk management ของการลงทุนอะครับ ในกรณีที่คิดผิดนะครับ
พวกเด็กเทคนิค เค้าก็ money management
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 28, 2009 11:34 pm
โดย hongvalue
[quote="VIB007"][quote="hongvalue"]พ่นจบแล้วนะครับ
พี่วิบูลย์ถามาต้องจัดให้เต็มที่
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 01, 2009 12:01 am
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
พี่ก็อยากจะลองทำ Simulation ทดสอบสมมุติฐานในแนวคิดนี้สักหน่อย
คือตอนนี้ดัชนีอยู่ที่ 430 จุด
ถ้าดัชนีลดลงเหลือ 380 จุด
ฮงจะทำอย่างไร??
เมื่อไหร่ฮงจะซื้อหุ้น??
ผมว่าตัวเลข 380 350 300 250
อะไรพวกนี้ไม่ใช่ตัวตัดสินใจเลยครับ
เหมือนกับเราบอกว่าถ้าหุ้น a ลงมาที่ 5 บาทเราจะซื้อ
แต่จริงๆแล้วพอวันนึงมันลงมาถึง มันก็มาพร้อมกับ สถานการณ์และปัจจัย
ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งรายใหม่ การแทรกแซงจากภาค
รัฐ เศรษฐกิจไม่ดี เกิดเรื่องshock เช่นสึนามิ
สำหรับผมไม่เคยมีจุดซื้อเลยที่ตัวเลขเท่าไหร่
ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้นหรือดัชนีตลาด
ว่าแต่เมื่อไหร่พี่วิบูลย์จะเล่าเรื่องพี่เทพแบบละเอียดๆให้ฟังครับ
ผมรอมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ :lol:
ขอประเด็นแรกก่อนแล้วกัน
จุดแข็งของพี่เทพที่พี่ชอบที่สุดคืออะไรครับ
เขาบริหารเก่งยังไง ทำไมเราถึงเชื่อมั่นว่าธุรกิจนี้
เป็น star แน่ ณ.ตอนพี่ซื้อที่ราคา 24 บาท
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 01, 2009 8:45 am
โดย por_jai
ก้อนหิน เขียน:ถามบ้างครับ เป็นคำถามที่ผมสงสัยมาซักพักแล้วอะครับ
อยากรู้ว่า vi พันธ์แท้ เนี่ย เค้าใช้อะไรในการทำ risk management ของการลงทุนอะครับ ในกรณีที่คิดผิดนะครับ
พวกเด็กเทคนิค เค้าก็ money management ทำการ cut loss หรือดู แนวรับแนวต้านของเค้าไปอะครับ คือ ถ้าเป็นคนที่มีวินัย เค้าจะไม่ขาดทุนที่ละเยอะๆอะครับ
ส่วน vi นี่ เท่าที่ถาม บางคนเค้าใช้ความเข้าใจในบริษัทในการลดความเสี่ยง ซึ่งจริงๆก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ แต่ถ้าคิดผิดหละครับ ผมกลัวว่า การขาดทุนเพียงครั้งเดียว อาจจะทำให้ที่กำไรมาทั้งหมดของเราหายไปหมดเลย แล้วผมก็เห็นหลายๆคนพลาดทำนองนี้ครับ ประมาณว่า หุ้นลง ก็คิดว่าเราคิดถูกพื้นฐานดี ซื้อเพิ่ม เรื่อยๆๆๆๆ จน ณ เวลานึง ความจริงก็ปรากฏ ว่า บลาๆๆๆๆๆ
พี่มีวิธีการจัดการกับอะไรแบบนี้มั้ยครับ
จากประสบการณ์
ถ้าผ่านมาเยอะๆ เรียกว่าชั่วโมงบินสูงๆ
อย่างแรกฟิกซ์ไอเดีย เคยชนะมาไงก็ทำอย่างนั้น
ส่วนมากสู้ตลาดไม่ได้
เพราะบางทีที่ชนะก็ชนะมาอย่างฟลุ๊กๆ
ต่อมาโชคไม่เข้าข้างแล้ว
มักโดนกินจนหมดหรือแพ้จนขยาดก็เลิกกัน
ส่วนอีกพวกไม่ฟิกซ์ไอเดีย
ขวนขวายหาความรู้ ลองเทรดมั่ง ถือยาวมั่ง ลับมีดลับไอเดียไปเรื่่อย
ต่อสู้กับความโลภความกลัวได้ดี
การลงทุนเล่นหุ้นจะยืดหยุ่นขึ้นมากเองตามเวลาที่ผ่านไป
ต่อให้เป็นวีไอ ก็คัทลอสเป็นครับ ไม่ดื้อ
พวกนี้ก็จะเป็นส่วนน้อยที่อยู่ในตลาดได้
อย่างสบายมาก
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 01, 2009 8:51 am
โดย por_jai
VIB007 เขียน:
อันนี้ต้องไปถาม"ซ้อเจ็ด"เอาเองนะ (ฮา)
ซ้อเจ็ดผมได้ข่าวว่าโดนดักตีหัว
ได้เลือดไปเรียบร้อยแล้ว...ฮ่า...
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 01, 2009 9:55 am
โดย naris
ฮง หาข้อมูลได้เก่งจริงๆ แสดงว่า ฮงนี่เชื่อและยึดในเรื่องการเคลื่อนไหวของเงินเป็นหลัก เรื่องการดูรายบริษัทเป็นรอง
และพี่ขอถามสักหน่อยว่า ถ้ายึดหลักการนี้ ควรซื้อสัญญาล่วงหน้าหรือซื้อหุ้นดีกว่ากัน หรือถ้ามีการเลือกหุ้นมีหลักในการเลือกหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับfundflow หรือหุ้นพื้นฐาน.
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 01, 2009 10:16 am
โดย ก้อนหิน
[quote="VIB007"][quote="ก้อนหิน"]ถามบ้างครับ เป็นคำถามที่ผมสงสัยมาซักพักแล้วอะครับ
อยากรู้ว่า vi พันธ์แท้ เนี่ย เค้าใช้อะไรในการทำ risk management ของการลงทุนอะครับ ในกรณีที่คิดผิดนะครับ
พวกเด็กเทคนิค เค้าก็ money management
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 01, 2009 11:54 am
โดย dome@perth
อยากรู้ว่า vi พันธ์แท้ เนี่ย เค้าใช้อะไรในการทำ risk management ของการลงทุนอะครับ ในกรณีที่คิดผิดนะครับ
พวกเด็กเทคนิค เค้าก็ money management ทำการ cut loss หรือดู แนวรับแนวต้านของเค้าไปอะครับ คือ ถ้าเป็นคนที่มีวินัย เค้าจะไม่ขาดทุนที่ละเยอะๆอะครับ
ส่วน vi นี่ เท่าที่ถาม บางคนเค้าใช้ความเข้าใจในบริษัทในการลดความเสี่ยง ซึ่งจริงๆก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ แต่ถ้าคิดผิดหละครับ ผมกลัวว่า การขาดทุนเพียงครั้งเดียว อาจจะทำให้ที่กำไรมาทั้งหมดของเราหายไปหมดเลย แล้วผมก็เห็นหลายๆคนพลาดทำนองนี้ครับ ประมาณว่า หุ้นลง ก็คิดว่าเราคิดถูกพื้นฐานดี ซื้อเพิ่ม เรื่อยๆๆๆๆ จน ณ เวลานึง ความจริงก็ปรากฏ ว่า บลาๆๆๆๆๆ
พี่มีวิธีการจัดการกับอะไรแบบนี้มั้ยครับ
ผมตามอ่านมาตลอดครับ เจอประเด็นนี้ ของคุณก้อนหิน ผมสนใจมากซึ่งผมว่าเพื่อนๆ
วีไอ หลายท่านกำลังประสพอยู่ ผมขอแสดงความคิดเห็น
จากความรู้อันน้อยนิดของผมหน่อยนะครับ
ผิดถูกพร้อมที่จะยอมรับคำแนะนำครับ
ผมเอ็งพยายามที่จะตามรอยท่านอาจารย์ของผมทุกท่าน
ใน"หลักการลงทุน แบบ VI" แล้วก็มาค้นหา "วิธีการ การลงทุน"
แบบของเราเอง ซึ่งเราอาจจะได้มา โดยการลักจำ เลียนแบบ
อาจารย์ นังลงทุนรุ่นพี่ หรือ เพื่อนๆ นักลงทุนด้วยกัน หรือ การเลือกวิธีที่คิดเองไม่ว่า จะเป็น
การประเมินภาพรวม เศรษฐกิจ และ อุตสาหกรรม
การวิเคราะห์และประเมินมูลค่าของบริษัท
การเลือกหุ้น จำนวนหุ้นที่ถือในพอร์ต
สัดส่วนของหุ้นแต่ละตัว
จังหวะการเขาซื้อ หรือ ขาย
อื่นๆ
มาประเด็นของคุณก้อนหิน ว่าเมื่อทั้งตลาด"โดนไฟไหม้"" Market Crash" วีไอ ถือหุ้นส่วนใหญ่ 3-5 ตัว แล้วคิดผิดเช่น อาจคิด 50% คือ 1-3 ตัว ราคาหุ้นลด50% แล้วซื้อเพิ่ม แล้วหุ้นที่ซื้อเพิ่มราคานิ่งไม่ขยับเลย หรือขึ้นน้อยมาก
(ผมก็คนหนึงนะ
)
ความคิดเห็น และ เป็นวิธีการ ของผมนะครับ ผมยังมั่นใจใน"หลักการ" ของ
Value Investor ครับ
1.ถ้าคิดว่าคิดผิด วิเคราะห์และประเมินอีกรอบ แล้วยังยืนยันว่าคิดผิด อันนี้ต้องยอมรับง่ายๆเลยครับ
เป็นกรรมของเราครับ เอาควมผิดพลาดเป็นบทเรียนราคาแพง(มาก)
2.ถ้าหุ้นตัวนั้นลง50% ถ้าคิดว่าพื้นฐานไม่เปลี่ยน
แต่โดนกระทบทางเศรษฐกิจ
ตัวนี้ต้องมาประเมินและวิเคราะห์ใหม่ ว่า
ถ้าโดนกระทบมาก และ เป็นเวลานานกว่าจะพื้น
ขายออก ยอมขาดทุน ไม่ยอมเสียโอกาศ เงินทุนส่วนที่เหลือ
ถ้าโดนกระทบมาก และ เป็นเวลาสั้น มีหนทางพื้นตัวเร็ว
ไม่ซื้อเพิ่ม แต่ถือ ติดตาม และ รอ
ถ้าโดนกระทบน้อยถึงน้อยมาก น่าจะทรงตัวไปได้ในทิศทางบวก
ซื้อเพิ่มครับ ดีซะอีก เกิดเหตุที่ทำให้เราได้ซื้อของถูกหลังไฟ
ซึ่งสภาพของยังดี 100%
3. กระจายความเสี่ยง............เดี๋ยวมาต่อนะครับ