100 ล้านบาทแรกในชีวิต

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
neuhiran
Verified User
โพสต์: 815
ผู้ติดตาม: 0

Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต

โพสต์ที่ 271

โพสต์

picatos เขียน:
RoMEAotZ เขียน:สำหรับผมเองก็มีเป้าหมายจะไปให้ถึงและเกินกว่านั้นด้วยครับ แต่ต้องตั้งอยู่บนความปลอดภัย ความเสี่ยงต้องน้อย

ถามว่าจะเอาเงินไปทำอะไร คำตอบก็ง่ายๆครับมีเงินมากเท่าไรมันก็คือหลักประกันของครอบครัวเท่านั้น ผมคิดว่าถ้าผมอยากมี100ล้านผมก็ต้องทำเงินเป็น200ล้าน เผื่อมันลงมาครึ่งนึงผมก็ยังอยู่ได้แบบสบายๆ "เพราะยังไงเราต้องเจอวิกฤตใสตลาดหุ้นแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง"

ส่วนอีกส่วนคือถ้าผมมีเงินมากขึ้น ผมก็บริจาคหรือคืนกลับไปให้สังคมมากขึ้น เช่น แฟนผมเป็นแพทย์อยู่ รพ ชุมชน บางทีอุปกรณ์ขาด ถ้าผมมี100ล้านบาทถามว่าผมบริจาคสักปีละ1ล้านผมเดือดร้อนไหม ผมบอกเลยว่าผมไม่เดือดร้อน สมมติผมจะบริจาคปีละ1.5%ของพอร์ท ถ้าผมมี200ล้านผมก็บริจาคไปปีละ3ล้านบาทแล้ว ลองมองออกไปข้างนอกไกลๆดูครับเราจะเห็นว่าความขาดแคลนมันมีมากมายมหาศาล ซึ่งผมคิดว่าผมมีศักยภาพพอและจะมีศักยภาพมากขึ้นไปอีก ทำไมผมต้องหยุดหาเงินครับ พอไปถึงรุ่นลูกพอร์ทอาจจะมี1,000ล้าน(สมมตินะครับ) ถ้าลูกผมบริจาคปีละ1.5%เหมือนเดิมก็15ล้านแล้ว และทำได้ทุกปีแบบไม่เดือดร้อน

คุณภาพชีวิตคนอื่นๆที่ได้รับเงินตรงนี้ช่วยเหลือจะเป็นยังไงครับ? แถมส่งต่อความมั่งคั่งและอุดมการณ์จากรุ่นสู่รุ่นด้วย

ทุกวันนี้ผมกับแฟนก็มาอยู่ รพ ชุมชนของรัฐบาล อยู่มาเป็นปีแล้วและคงอยู่ไปเรื่อยๆ ถ้าผมอยากได้เงินมากขนาดนั้นผมคงบังคับแฟนให้ลาออกไปทำงานที่เงินดีกว่าแล้ว หมอ รพ รัฐกับเอกชนนี่คุณภาพชีวิต รายได้ต่างกันเยอะครับแต่ผมกับภรรยาไม่ได้ทำ ก็อยู่ รพ รัฐนี่แหละ แต่ด้านการลงทุนผมตั้งเป้าไว้สูงมาก ก็ตามเหตุผลข้างต้นนั่นแหละครับ

ถ้าตัวผมเองเปล่าๆทำอะไรมากไม่ได้หรอกครับ แต่เงินมากๆน่ะทำได้
เคยมีประสบการณ์บริจาคเงินหลักล้านให้ รพ. ต่างจังหวัด บริจาคซื้อพวกเครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ทางการแพทย์ บางทีก็เพลียกับกระบวนการจัดซื้อ และการบริหารจัดการของ รพ ต่างจังหวัด เหมือนกันนะครับ บริจาคไป กว่าจะจัดซื้อเสร็จ ใช้งานได้ ผ่านไปเกือบปี และระหว่างกระบวนการความโปร่งใสมากน้อยขนาดไหนนี่ไม่รู้เลย

บางทีมีเงินพร้อมบริจาค แต่กลับหาผู้ที่พร้อมรับบริจาคที่เหมาะสมกับการทำทานได้ยากเหมือนกัน

ใครพอจะมีมูลนิธิ ที่มีความโปร่งใส บริหารงานมีประสิทธิภาพ ที่จะให้ผมกับภรรยาบริจาคเงินให้ไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ไปแก่ที่ๆ ขาดแคลนแนะนำไหมครับ?

ผมคิดว่าไปถามถึงความต้องการของ รพ.เป้าหมายก่อน ต่อจากนั้นเราก็ซื้อไปให้เขาเลยครับ พร้อมกับหนังสือบริจาค
ต่อจากนั้นเขาจะไปทำหมายเลขครุภัณฑ์หรืออะไรก็แล้วแต่เขาเลย ไม่ยากครับ :D :D
วัวทะโมน
Verified User
โพสต์: 222
ผู้ติดตาม: 0

Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต

โพสต์ที่ 272

โพสต์

ช่วงปีก่อนๆตั้งเป้าไว้ว่ากรอบเวลาจากนี้สัก1-2ปีจะแตะ9หลัก(ตอนนี้8หลักกลางๆ) แต่พอมาปีนี้ ถอดใจเลยครับ รู้สึกว่าหาหุ้นแบบตีแตกไม่ได้..และคิดว่าปีนี้เป็นปีที่สูญเปล่า(สำหรับตัวเองนะครับ..คนอื่นอาจไม่ใช่)แต่ก็เป็นปีที่จะต้องวางแผนเพื่อปีต่อไปและรอบครอบขึ้นกระจายความเสี่ยงมากขึ้น.........ไม่รู้คนอื่นรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่าดูๆไม่เห็นทางไหนที่ตลาดจะขึ้น(ซึ่งจะเป็นตัวเร่งในหุ้นรายตัวด้วย)เหมือนรออะไรแย่ที่กำลังจะเกิด
Suphat
Verified User
โพสต์: 464
ผู้ติดตาม: 0

Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต

โพสต์ที่ 273

โพสต์

วัวทะโมน เขียน:ช่วงปีก่อนๆตั้งเป้าไว้ว่ากรอบเวลาจากนี้สัก1-2ปีจะแตะ9หลัก(ตอนนี้8หลักกลางๆ) แต่พอมาปีนี้ ถอดใจเลยครับ รู้สึกว่าหาหุ้นแบบตีแตกไม่ได้..และคิดว่าปีนี้เป็นปีที่สูญเปล่า(สำหรับตัวเองนะครับ..คนอื่นอาจไม่ใช่)แต่ก็เป็นปีที่จะต้องวางแผนเพื่อปีต่อไปและรอบครอบขึ้นกระจายความเสี่ยงมากขึ้น.........ไม่รู้คนอื่นรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่าดูๆไม่เห็นทางไหนที่ตลาดจะขึ้น(ซึ่งจะเป็นตัวเร่งในหุ้นรายตัวด้วย)เหมือนรออะไรแย่ที่กำลังจะเกิด
เห็นด้วยเลยครับ ปีนี้ในความคิดผมหาหุ้นได้ยากจริง ๆ บางตัวถ้าพลาด ก็ขาดทุนหลายสิบเปอร์เซ็น ง่ายๆ เลย
(eps ของหุ้นไม่ลด แต่ pe ของหุ้นลดครับ)
Green
Verified User
โพสต์: 2606
ผู้ติดตาม: 0

Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต

โพสต์ที่ 274

โพสต์

วัวทะโมน เขียน:ช่วงปีก่อนๆตั้งเป้าไว้ว่ากรอบเวลาจากนี้สัก1-2ปีจะแตะ9หลัก(ตอนนี้8หลักกลางๆ) แต่พอมาปีนี้ ถอดใจเลยครับ รู้สึกว่าหาหุ้นแบบตีแตกไม่ได้..และคิดว่าปีนี้เป็นปีที่สูญเปล่า(สำหรับตัวเองนะครับ..คนอื่นอาจไม่ใช่)แต่ก็เป็นปีที่จะต้องวางแผนเพื่อปีต่อไปและรอบครอบขึ้นกระจายความเสี่ยงมากขึ้น.........ไม่รู้คนอื่นรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่าดูๆไม่เห็นทางไหนที่ตลาดจะขึ้น(ซึ่งจะเป็นตัวเร่งในหุ้นรายตัวด้วย)เหมือนรออะไรแย่ที่กำลังจะเกิด
ผมว่า พอพอร์ตเราเพิ่มขึ้น ความจำเป็นที่เราต้อง "เสี่ยง" เพื่อให้ผลตอบแทนที่มากขึ้น มันจะน้อยลง
พฤติกรรมการลงทุน มันก็จะเปลี่ยนไปเยอะด้วย
ยิ่งจะตีแตกหุ้นตัวใดตัวนึง เพื่อหวังผลตอบแทนเป็นเด้งๆ เป็นเมื่อก่อนไม่เคยกลัว แต่ตอนนี้ก็กลัวจะ ถูกตีแตก ซะมากกว่า
คิดว่า กว่าเราจะแก่ อีกหลาย 10 ปี เราจะต้องมีครั้งที่เราคิดผิด แน่นอน แต่เราผิดแบบไหน ที่จะทำให้เราไม่ตาย อยู่รอดได้

ไม่รู้นะ ผมว่า เพราะมักจะพูด ว่า จะทำไงให้ได้ผลตอบแทนเยอะๆเร็วๆ กันมากกว่า ที่จะทำอย่างไรให้พอร์ตเราอยู่รอดไปเรื่อยๆในหลายๆ 10 ปี เช่นถ้าเราคิดจะลงทุนทั้งชีวิต เริ่มต้นที่ อายุ 20 สมองฝ่อที่ 90 มันก็มีเวลา 70 ปีที่เราต้องอยู่รอด แล้วมันต้องทำอย่างไรบ้าง หล่ะ ?