หน้า 84 จากทั้งหมด 160
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 01, 2009 10:58 am
โดย ...
สวัสดีปีใหม่ครับพี่วิบูลย์ ขอให้พี่และครอบครัว เฮงๆรวยๆ สุขภาพแข็งแรงตลอดปีเลยนะครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 03, 2009 10:58 am
โดย VIB007
ขอบคุณสำหรับทุกคำอวยพรครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 03, 2009 11:00 am
โดย VIB007
[quote="เพียงพอ=พอเพียง"]สวัสดีคับพี่วิบูลย์
อยากสอบถามว่า ในแต่ละบริษัทมีอัตราภาษีจ่ายคงที่ทุกๆปีหรือป่าวคับ (เช่น 25% หรือ 30%) ผมลองหาแต่ละปีทำไมอัตราภาษีจ่ายในแต่ละปีไม่เท่ากันคับ (บริษัทเดี่ยวกัน) มันมีเหตุผลอันใดรึป่าวคับ หรือว่าผมทำอะไรผิด
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 03, 2009 11:02 am
โดย VIB007
nortuss เขียน:ผมอยากรู้ว่าทำไม่วอร์เรน ทำไมถึงเลือกโค้ก ไม่เลือกเปปซี่คับ
เดาว่าเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว
ที่วอร์เรนซื้อโค๊ก
โค๊กน่าจะแข็งแกร่งกว่าเป๊ปซี่มาก
ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์หรือมาร์เกตแชร์
แต่ถ้าเป็นตอนนี้ราคาเป๊ปซี่ลงมามากๆ
วอร์เรนอาจสนใจเหมือนกัน
เพราะเป๊ปซี่แข็งแกร่งขึ้นเยอะ
จากการขยายกิจการไปด้านอาหารมากขึ้น
เช่น มันฝรั่งเลย์และอื่นๆ
ถึงแม้น้ำดำยังแพ้โค๊ก
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 05, 2009 7:50 pm
โดย yuttana3152
เรียนถามคุณ วิบูลย์
ช่วงนี้ค่อยๆทยอยเก็บหุ้นดี
หรือรอให้ตลาดวายก่อนดี
จริงๆเคยถามไปแล้ว
รอเท่าไหร่ไม่เห็นตลาดจะวายเลยครับ
และถ้ารอตลาดวายนี่
คุณวิบูลย์คิดว่า มูลค่าซื้อขายต่อวัน
ควรประมาณเท่าไหร่ นานแค่ไหน ถึงจะเรียกว่า ตลาดวายครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 06, 2009 1:37 pm
โดย VIB007
yuttana3152 เขียน:เรียนถามคุณ วิบูลย์
ช่วงนี้ค่อยๆทยอยเก็บหุ้นดี
หรือรอให้ตลาดวายก่อนดี
จริงๆเคยถามไปแล้ว
รอเท่าไหร่ไม่เห็นตลาดจะวายเลยครับ
และถ้ารอตลาดวายนี่
คุณวิบูลย์คิดว่า มูลค่าซื้อขายต่อวัน
ควรประมาณเท่าไหร่ นานแค่ไหน ถึงจะเรียกว่า ตลาดวายครับ
สวัสดีปีใหม่ครับคุณยุทธนา
ที่ผมบอกว่าตลาดวายนะ
คือคาดว่าจะเหมือนกับช่วงปี 43-44
ที่ตลาดค่อยๆซึมลงๆ
จนวอลุ่มหดหาย
นักลงทุนหนีหมด
เรียกว่าเป็นช่วงเวลาของความหดหู่ สิ้นหวัง
แต่ดูเหมือนว่าปีพศ 51-52 นี้
มันไม่ซึมอย่างนั้นแหะ
กลายเป็นว่าตลาดมาเร็ว เคลมเร็ว ไปเร็ว
เลยไม่มีช่วงเวลาให้ถอดใจ
เอาเป็นว่าจะซื้อตอนไหน
ตามสะดวกแล้วกันครับ
อย่าไปคาดเดาตลาดเลย
มันคาดกันผิดกันไปหมดแล้ว
ไม่ว่าโบรกไหน ลองหาบทวิเคราะห์เก่าๆมาดู
เพื่อนเล่นลดประมาณดัชนีกันเป็นว่าเล่น
จากต้นปี 51 จาก 900 จุดลงมาเรื่อยๆ 800 700 600 500
จนสุดท้ายผมเห็นของโบรกไหนไม่รู้ให้ที่ 200 จุดกว่าๆ
เอากันเข้าไป
ปีนี้ก็คงเหมือนกัน
เดากันมั่วสุ่มไปหมด
หรือจะเอาแบบท่าน Web ในเวปเราก็ได้
ปีที่ผ่านมาคนอื่นขาดทุนบักโบรก
ท่าน Web เรากำไรบาน
ยิ่มแฉ่งอยู่คนเดียว
ทั้งๆที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลานะ
(เก่งหรือเฮงหว่า อิ อิ)
ท่านสอยหุ้นตอน 300 หว่าๆเขาพอร์ตเป็นว่าเล่น
สลับขาไปมา
สุดท้ายตอนนี้รอรับหุ้นบางตัวกำไรเกือบ 100%
ไม่ต้องไปเดาตลาดให้เมื่อยตุ้ม
เอาแบบบัฟเฟตที่บอกว่า
"เราไม่ได้คาดเดาตลาด แต่เราคาดเดาแต่ราคา"
"We won't know how to time the market, but we know the price thing"
โชคดีครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 07, 2009 9:30 am
โดย por_jai
มาเร็ว เคลมเร็ว
ให้ไป2ตัว
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 23, 2009 3:24 pm
โดย nathapon_m
nortuss เขียน:ผมอยากรู้ว่าทำไม่วอร์เรน ทำไมถึงเลือกโค้ก ไม่เลือกเปปซี่คับ
จำได้ว่า ตอนเด็กๆวอร์เรนชอบดื่มโค้กมากกว่าเป๊ปซี่ครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 23, 2009 3:53 pm
โดย MO101
ผมอยากรู้ว่าทำไม่วอร์เรน ทำไมถึงเลือกโค้ก ไม่เลือกเปปซี่คับ
ตอนซื้อโค๊กช่วงนั้น เมกามีปัญหา ศก ครับ แล้วก็ บ.โค๊กตอนนั้นก็มีปัญหา(จำไม่ผิดเรื่องสหภาพ)
ซื้อครั้งที่สองเมกามีปัญหา ศก ตกต่ำอีกรอบแล้ว บ.ก็มีการปลด CEO
ครั้งที่สอง วอเร็นนี่แหละที่ให้ โรเบอโต้ กัวซูเอลากลับมาบริหารอีกรอบ
(ช่ือผิดขออภัย เนื่องจากใช้หน่วยความจำในสมอง)
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 08, 2009 4:07 am
โดย earthtorres
:? :? :?
:? :? :?
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 16, 2009 10:45 pm
โดย hongvalue
สวัสดีครับ พี่วิบูลย์
ไม่รู้พี่จำผมได้ไหม ที่เคยขอลายเซ้นที่มารวย
และเคยเจอกันตอนไป visit cpall
ผมเป็นมือใหม่หัดลงทุน
มีเรื่องอยากถามความเห็นหน่อยครับ
ผมพอทราบมาว่าพี่ซื้อ pttep เกือบทั้ง port ตัวเดียว
(ไม่แน่ใจว่าถูกไหม)
และผมคิดว่าพี่ไม่เคยสนใจระบบ cutloss อะไรทั้งนั้น
เพราะลงทุนในหุ้นมองที่มูลค่าที่แท้จริง
ประเด็นที่ผมอยากถามพี่ก็คือว่า
อีกหน่อยพี่จะยังเล่นหุ้นตัวเดียวกับทั้ง port อีกไหม
ถ้าพี่ยังเล่นแบบนั้นต่อ มันเหมือนกับพี่คิดว่า
พี่ต้องเลือกหุ้นถูกต้องทุกครั้งหรือป่าวครับ
เพราะว่า มั่นใจแล้วก็อัดหนักๆ แล้วไม่สนเรื่อง cutloss
แบบนี้ถ้าวันไหนเราคิดผิดขึ้นมาเราจะทำอย่างไร
ขนาด peter lych ยังบอกว่า หุ้นถือซื้อ 5 ตัว ต้องมีที่ไม่เป็นอย่างที่คิด
1-2 ตัว ดีกว่าที่คิด และแย่กว่าที่คิด
แล้วเราจะเล่นหุ้นตัวเดียวเกือบทั้ง port ไปเรื่อยๆ
มันเหมือนกับว่าเรามั่นใจในตัวเองเกินไปหรือครับ ว่าชั้นเลือกถูกแน่นอน
ป.ล.ด้วยความเคารพ คำถามนี้อยากถามคนที่เล่นหุ้นตัวเดียวน่ะครับ
ไม่ได้เป็นการท้าทายหรือลองภูมิอะไรทั้งนั้นนะครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 10:35 am
โดย VIB007
hongvalue เขียน:สวัสดีครับ พี่วิบูลย์
ไม่รู้พี่จำผมได้ไหม ที่เคยขอลายเซ้นที่มารวย
และเคยเจอกันตอนไป visit cpall
ผมเป็นมือใหม่หัดลงทุน
มีเรื่องอยากถามความเห็นหน่อยครับ
จำได้ครับน้องhong
เรานั่งติดกันตอนไป Visit CPALL
นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมทำ Company Visit นะ
พี่อ่านกระทู้น้องถามตอบกับพี่พอใจแล้วสนุกมาก ดีมากๆ ถามไปเรื่อยๆนะอย่าหยุด พี่พอใจจะได้คายออกมาเยอะๆ
hongvalue เขียน: ผมพอทราบมาว่าพี่ซื้อ pttep เกือบทั้ง port ตัวเดียว
(ไม่แน่ใจว่าถูกไหม)
และผมคิดว่าพี่ไม่เคยสนใจระบบ cutloss อะไรทั้งนั้น
เพราะลงทุนในหุ้นมองที่มูลค่าที่แท้จริง
ประเด็นที่ผมอยากถามพี่ก็คือว่า
อีกหน่อยพี่จะยังเล่นหุ้นตัวเดียวกับทั้ง port อีกไหม
ถ้าพี่ยังเล่นแบบนั้นต่อ มันเหมือนกับพี่คิดว่า
พี่ต้องเลือกหุ้นถูกต้องทุกครั้งหรือป่าวครับ
เพราะว่า มั่นใจแล้วก็อัดหนักๆ แล้วไม่สนเรื่อง cutloss
แบบนี้ถ้าวันไหนเราคิดผิดขึ้นมาเราจะทำอย่างไร
ขนาด peter lych ยังบอกว่า หุ้นถือซื้อ 5 ตัว ต้องมีที่ไม่เป็นอย่างที่คิด
1-2 ตัว ดีกว่าที่คิด และแย่กว่าที่คิด
แล้วเราจะเล่นหุ้นตัวเดียวเกือบทั้ง port ไปเรื่อยๆ
มันเหมือนกับว่าเรามั่นใจในตัวเองเกินไปหรือครับ ว่าชั้นเลือกถูกแน่นอน
ป.ล.ด้วยความเคารพ คำถามนี้อยากถามคนที่เล่นหุ้นตัวเดียวน่ะครับ
ไม่ได้เป็นการท้าทายหรือลองภูมิอะไรทั้งนั้นนะครับ
ไม่ได้คิดว่าลองภูมิอะไรหรอกครับ
มีอะไรก็ถามมาได้
ผมไม่ได้ซื้อพี่เทพครั้งเดียวตัวเดียวหรอกครับ
ตอนแรกก็ถือหลายตัว
แล้วเราก็ดูไปดูมา
ใช้เวลาเหมือนกันนะ
พบว่าพี่เทพดีที่สุด
เลยเปลียนมาถือพี่เทพตัวเดียว (ในช่วงแรก)
จากนั้นผมก็เพิ่มหุ้นตัวอื่นเข้ามาในพอร์ตด้วย
แต่พี่เทพเป็นหุ้นที่มีมูลค่ามากที่สุดในพอร์ตมากกว่า
ถ้าจะพูดกันให้ถูกต้อง
โดยส่วนใหญ่แล้ว
ผมจะถือหุ้นแค่สามบริษัท
ถ้าจะเอาตัวไหนออกก็ต้อง Overvalue มากๆ
หรือไม่ก็มีตัวดีกว่าถึงขายตัวเก่า
ผมเคยถือหุ้น 5 บริษัท
แต่รู้สึกว่าเยอะเกินไป
เลยกลับมาอยู่ที่สามบริษัทเท่าเดิม
เพราะเราคิดว่าเราพิจารณาแล้ว
แล้วเราก็ค่อยๆซื้อ
ไม่ได้ตูมเดียวหมด
ถ้าหุ้นดีจริงราคาลดลงก็"หวานหมู"เรา
แล้วผมไม่ได้ลงทุน 100% ตลอดเวลา
เพราะผมถือว่ามีเงินสดก็มีโอกาส
แต่นักลงทุนบางท่านมักคิดว่าถือเงินสดคือเสียโอกาสการลงทุน
แต่ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น
เงินไม่เน่าไม่เสีย
ถือไว้รอโอกาสดีๆไม่มีอะไรน่ากังวล
ถ้าหาอะไรซื้อไม่ได้ก็อยู่เฉยๆ
แต่นักลงทุนส่วนมากมักคันไม้คันมือ
อยู่เฉยๆไม่เป็น
เวลามีเงินต้องรีบซื้อหุ้น
แต่ผมผมรอได้ กี่ปีก็รอได้ ไม่มีปัญหา
ถ้าถือหุ้นน้อยตัว
ก็ต้องคอยติดตามผลการดำเนินงาน
ว่าเป็นไปอย่างที่เราคิดหรือไม่
ผมว่าเอาง่ายๆก็คือ
ก่อนซื้อหุ้นนั้นให้คิดว่า
ถ้าตลาดหุ้นปิดไปสัก 3 ปี
เราจะยังถือหุ้นนั้นอยู่หรือเปล่า
ถ้าใช่ก็นอนหลับสบาย ไม่ต้องกังวล
ถ้าตอบตัวเองว่าไม่ใช่ ก็ไม่ต้องซื้อ
ง่ายๆอย่างนี้หละ
ใครสนใจลองอ่านในสถานีนักลงทุน
เขาสัมภาษณ์ผมลงในหนังสือพิมพ์ทุกวันช่วงนี้
จะได้รู้หลักการและแนวคิด
คงได้คำตอบที่น้องHongมาด้วย
ถ้าอยากอ่านย้อยหลังให้พิมพ์วันที่ย้อนหลังในลิงค์เอานะ
http://202.57.163.70/investor_station/f ... 160209.pdf
โชคดีครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 1:01 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
จำได้ครับน้องhong
เรานั่งติดกันตอนไป Visit CPALL
นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมทำ Company Visit นะ
พี่อ่านกระทู้น้องถามตอบกับพี่พอใจแล้วสนุกมาก ดีมากๆ ถามไปเรื่อยๆนะอย่าหยุด พี่พอใจจะได้คายออกมาเยอะๆ
(ชวนพี่คุยนะครับ)
หลังๆพอทำหน้าที่ตะเวณถามเซียนหุ้นทั่วราชอาณาจักรน่ะครับ
ทั้งพี่ ih พี่สุมาอี้ พี่พอใจ พี่ลูกอีสาน พี่ mprandy
ผมคิดว่าถ้าเราอยู่ในตลาดหุ้นไม่นานเราควรจะพูดน้อยๆ
ถามเยอะๆ เพราะว่าความคิดเราจะยังแคบๆอยู่เพราะเราเห็นมาน้อย
เมื่อก่อนผมเคยตั้งกระทู้ประมาณว่า
mos รอไปจะได้ซื้อไหมเนี้ย ตอนนั้น mint bh ราคาแพงมาก
แล้วก็แพงอยู่อย่างนั้นเป็นปีๆ
ต่อมาพอเกิดวิกฤติเมื่อปีที่แล้ว มันก็ทำให้ผมรู้ว่า
คนที่เห็นอะไรมาน้อยมุมมองจะยังล่ะอ่อนยิ่งนัก
หลังจากนั้นผมก็รู้ตัวว่าจริงๆแล้ว ผมคือ gu not ru หรือ กูไม่รู้ อะไรเลย
ผมคิดว่าการตกผลึกทางความคิดต้องดื้นรนด้วยตัวเองเยอะมาก
และ ไม่ใช่แค่การอ่าน แต่ต้อง อ่าน คิด ฟัง ถาม
แล้วนำไปปฏิบัติในสนามจริงก่อน
หลายอย่างที่เคยอ่านในหนังสือ ตอนแรกเราจะคิดว่า
เฮ้ย เจอสูตรเด็ดแล้วเฟ้ย อ้อ นี้ไงเคล็ดลับ
แต่การลงทุนนั้น เป็น uncertainty ที่ไม่มีอะไรยืนยันได้
ไม่มีอะไรแน่นอน การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ
ผมเคยอ่านเจอว่า เมื่อก่อนพี่ก็เคยขาดทุนหนักมาก่อน
และก็ดิ้นรนศึกษาด้วยตัวเอง จนแตกฉาน และซื้อหุ้นได้กำไรเป็นสิบๆเท่า
จะมีกี่คนทำได้ครับ
นับถือนับถือ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 1:18 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
(ชวนพี่คุยนะครับ)
หลังๆพอทำหน้าที่ตะเวณถามเซียนหุ้นทั่วราชอาณาจักรน่ะครับ
ทั้งพี่ ih พี่สุมาอี้ พี่พอใจ พี่ลูกอีสาน พี่ mprandy
ผมคิดว่าถ้าเราอยู่ในตลาดหุ้นไม่นานเราควรจะพูดน้อยๆ
ถามเยอะๆ เพราะว่าความคิดเราจะยังแคบๆอยู่เพราะเราเห็นมาน้อย
โฮ โฮ โฮ
กลัวว่าน้องHongจะถามจนจนแต้ม
ที่ให้ถามเยอะๆนะ ถามพี่Porjaiนะครับ อิ อิ
ก็ถือว่าน้องได้เปรียบพวกพี่มาก
เพราะมีผู้รู้ให้คำปรึกษาเยอะ
ทั้งสุมาอี้ พี่พอใจ IH etc
พวกพี่ๆสมัยก่อนต้องดิ้นรนค้นคว้ากันเอง
เวปก็ไม่มี
หนังสือภาษาไทยก็ไม่มี
ต้องแกะเอาจากภาษาอังกฤษ
หนังสือบางเล่มอ่านสองรอบยังงงอยู่เลย
(ไม่เชื่อลองอ่าน security Analysis)
แถมปรึกษาใครก็ไม่ได้
คนหาว่าเรา"บ้า"
ทุกคนที่พี่ปรึกษาอย่างเพื่อนที่ลงทุนมาหลายปี
พี่น้องที่เคยซื้อหุ้น
ต่างบอกว่า"วิธีการของหุ้นอเมริกาใช้กับตลาดหุ้นไทยไมได้หรอก"
โชคดีที่เราไม่เชื่อ
ต้องลองด้วยตัวเอง
ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่า
ไม่ว่าตลาดหุ้นไหนๆก็เหมือนกันทั่วโลก
เพราะเต็มไปด้วยความโลภและความกลัวเหมือนกัน
หลักการแบบวีไอนี้ลงทุนได้ในตลาดหุ้นทุกที่ทั่วโลก
ไม่จำกัดภูมิศาสตร์แต่อย่างใด
บทสัมภาษณ์ในสถานีนักลงทุนก็ฉายหนังซ้ำ
เพราะพูดกี่ครั้งก็เหมือนเดิม
เราสนใจใน"วิธีการ"มากเกินไป
แต่ให้ความสำคัญกับ"หลักการ"น้อยเกินไป
ถ้าหลักการถูก
ที่เหลือก็เป็นเรื่องของแต่ละคน
"วิธีการ"อาจต่างกัน
แต่"หลักการ"เดียวกัน
เอาใจช่วยนะครับน้องhong
ขอให้เก่งๆ
อายุน้อยๆมีเวลาลงทุนอีกนาน
ไม่ต้องรีบครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 2:30 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
โฮ โฮ โฮ
กลัวว่าน้องHongจะถามจนจนแต้ม
ที่ให้ถามเยอะๆนะ ถามพี่Porjaiนะครับ อิ อิ
ก็ถือว่าน้องได้เปรียบพวกพี่มาก
เพราะมีผู้รู้ให้คำปรึกษาเยอะ
ทั้งสุมาอี้ พี่พอใจ IH etc
พวกพี่ๆสมัยก่อนต้องดิ้นรนค้นคว้ากันเอง
เวปก็ไม่มี
หนังสือภาษาไทยก็ไม่มี
ต้องแกะเอาจากภาษาอังกฤษ
หนังสือบางเล่มอ่านสองรอบยังงงอยู่เลย
(ไม่เชื่อลองอ่าน security Analysis)
แถมปรึกษาใครก็ไม่ได้
คนหาว่าเรา"บ้า"ทุกคนที่พี่ปรึกษาอย่างเพื่อนที่ลงทุนมาหลายปี
พี่น้องที่เคยซื้อหุ้น
ต่างบอกว่า"วิธีการของหุ้นอเมริกาใช้กับตลาดหุ้นไทยไมได้หรอก"
พี่ครับ เรื่องนี้ผมเคยอ่านเจอมาว่า
มีบางคนอยากทำธุรกิจ เพราะเป็นลูกจ้างจนเบื่อ
พอไปคุยกับเพื่อนว่า เฮ้ย "guจะเปิดร้านขายของว่ะ"
guจะโน่น จะนี้
เพื่อนก็บอกว่า บ้า เมิงทำไม่ได้หรอก
ใครจะมาซื้อจากเมิง เมิงจะขายให้ใคร
อะไรต่างๆ
ผมมาลองคิดดูแล้ว คนส่วนใหญ่เป็นคนจน
ถ้าเราเชื่อคนส่วนใหญ่ เราก็จน
ประมาณนี้ครับ
ไม่ได้หมายความว่าเราทำตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่แล้วจะรวยแน่นอน
แต่ก็ยังพอมีโอกาศรวยมั้งล่ะฟะ :lol:
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 2:35 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
โชคดีที่เราไม่เชื่อ
ต้องลองด้วยตัวเอง
ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่า
ไม่ว่าตลาดหุ้นไหนๆก็เหมือนกันทั่วโลก
เพราะเต็มไปด้วยความโลภและความกลัวเหมือนกัน
หลักการแบบวีไอนี้ลงทุนได้ในตลาดหุ้นทุกที่ทั่วโลก
ไม่จำกัดภูมิศาสตร์แต่อย่างใด
พี่ครับ เรื่องนี้ผมอยากถามพี่ประมาณนี้นะครับ
บางคนบอกว่าบริษัทใน usa ส่วนใหญ่
โตได้ทั่วโลก แต่ของไทยมีกี่บริษัทที่โตนอกประเทศได้
อย่างหุ้น wal-mart ,dell ,microsoft , starbuck
อะไรต่างๆไม่ใช่หุ้น cyclical แต่เป็นหุ้น growth
แต่อย่างหุ้นที่พี่เล่นเป็นหุ้น cyclical
หรือย่างอาจารย์ วิกรมบอกว่า scc เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเยอะมากๆ
ก็เป็นหุ้น cyclical สรุปว่า หุ้นในเมืองไทยที่จะทำให้เราถือนานๆแล้ว
wealth เยอะส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนี้ปะครับ
เงื่อนไขคือเราต้องขายให้ถูกจัวหวะ
เหมือนที่ขาย pttep ที่ 200 กว่าบาท
คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่คนอื่นจะไปขายได้ใกล้เคียงจุดสูงสุดขนาดนั้น
หรืออย่าง ท่านด.ร.นิเวศน์ ก็ได้หลายเท่าตัวจาก
stanley ซึ้งเป็น economy cyclical เหมือนกัน
ถ้าผมจะสรุปว่าหุ้นที่สร้าง wealth ให้ vi ของเมืองไทยไม่เหมือนกับ usa
แต่หลักการใช้ได้เหมือนกันถูกต้องไหมครับ
ผมรู้สึกว่าความรู้ทางอุตสาหกรรมสำคัญมากเลยนะครับพี่
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 2:43 pm
โดย hongvalue
ขอถามนิดหน่อยได้ไหมครับ
ว่าปกติพี่จะเหลือ เงินสดเอาไว้ซักกี่ % ของ port เหรอครับ
ถ้าหุ้นไม่ตกหนักมากๆ พี่ก็จะมีเงินสดเหลือไว้แก้เกมส์ตลอดเวลาใช่ไหมครับ
2.ผมว่าการเล่นหุ้นนี้น่าแปลกมากนะครับ
ผมเจอคนที่มีแนวทางการลงทุนต่างกันจนชนิดที่ว่า
สุดขั้วเลย
แต่ว่ารวยได้ทั้งคู่ ตอนแรกๆก็แปลกใจ
ผมเลยทำบันทึกขึ้นมาเล่มนึง
จากการที่ได้พูดคุยและสอบถามคนที่เล่นแนวทางต่างๆ
ว่ามีจุดคิด หลักคิดยังไงบ้าง
ผมพยายามหาคำตอบว่า ทำไมคนที่คิดต่างๆกันมากๆ
ที่เล่นหุ้นสำเร็จได้เหมือนกัน
การถามพี่เรื่องถือหุ้นตัวเดียว ก็เป็น project ที่ผมอยากเก็บข้อมูล
เป็น case study
ผมลองสรุปว่าอย่างนี้ไม่รู้ว่าถูกไหมน่ะครับ
การถือหุ้นตัวเดียวไม่เสี่ยงในความหมายของพี่ก็คือว่า
ระยะยาวแล้วหุ้นทุกตัวจะต้องสัมพันธ์กับกำไรของมัน
ในเมื่อเราซื้อในราคาที่มีส่วนเราแล้ว เราจะกลัวอะไร
ถ้ากำไรโตไปเรื่อยๆ เราก็ถือไป ยกเว้นว่าบริษัทไม่ดีอย่างที่เรา
เราถึงขาย ซึ้งเราก็จะไม่เจ็บหนักอยู่ดีเพราะเราซื้อในราคาที่มี mos สูง
สรุป สิ่งสำคัญที่สุด ของสุดๆ คือ mos ไม่ใช่ซื้อกี่ตัว หรือ cutloss หรือไม่
ผมถูกไหมครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 4:26 pm
โดย VIB007
[quote="hongvalue"]
พี่ครับ เรื่องนี้ผมเคยอ่านเจอมาว่า
มีบางคนอยากทำธุรกิจ เพราะเป็นลูกจ้างจนเบื่อ
พอไปคุยกับเพื่อนว่า เฮ้ย "guจะเปิดร้านขายของว่ะ"
guจะโน่น จะนี้
เพื่อนก็บอกว่า
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 4:41 pm
โดย VIB007
รู้สึกคำถามจะมาเป็นชุดเลยนะ
เอา......ค่อยๆทยอยตอบไป
hongvalue เขียน:
พี่ครับ เรื่องนี้ผมอยากถามพี่ประมาณนี้นะครับ
บางคนบอกว่าบริษัทใน usa ส่วนใหญ่
โตได้ทั่วโลก แต่ของไทยมีกี่บริษัทที่โตนอกประเทศได้
อย่างหุ้น wal-mart ,dell ,microsoft , starbuck
อะไรต่างๆไม่ใช่หุ้น cyclical แต่เป็นหุ้น growth
เคยได้ยินไหมที่เขาบอกว่า
"โลกคือตัวเรา"
"We are the world"
เราคิดอย่างไร โลกรอบตัวเราก็เป็นอย่างนั้น
เรื่องนี้ก็เช่นกัน
ถ้าเรา"คิด"ว่าบริษัทในเมืองไทยไม่มีหุ้นgrowth อย่างเมืองนอก
มันก็จะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
แต่ถ้าเราคิดว่ามันเป็นไปได้
ก็จะมีหุ้นgrowthในเมืองไทยให้เราเลือกเยอะแยะ
ข้อสำคัญ
สิ่งต่างๆที่คนอื่นพูดขึ้นมานั้น
มันเป็น"ความเชื่อ"หรือเป็น"ความจริง"
เพราะ"ความเชื่อ"อาจไม่ใช่"ความจริง"
ต้องแยกให้ออก
เช่นสมัยก่อน
คนเชื่อว่าโลกแบน
ใครบอกว่าโลกกลมคงถูกจับเผาทั้งเป็น
แต่สุดท้ายความจริงก็คือโลกไม่ได้แบน
โลกกลมต่างหาก
แต่นั่นก็เป็นแค่"ความเชื่อ"อยู่ดี
เพราะความเป็นจริงโลกไม่ได้กลม
.....เออ
ทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน
ก่อนที่จะอ่านต่อไป
Hong คิดว่ายังไงเรื่องนี้
(ตอบนี้ก่อน พี่ถึงจะตอบคำถามอื่นๆต่อไป)
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 4:57 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
เพราะ"ความเชื่อ"อาจไม่ใช่"ความจริง"
ต้องแยกให้ออก
Hong คิดว่ายังไงเรื่องนี้
(ตอบนี้ก่อน พี่ถึงจะตอบคำถามอื่นๆต่อไป)
อืม ความเห็นผมอาจจะผิดหรือถูกก็ได้นะครับ เพราะประสบการณ์น้อย
คือผมลองนึกๆดูว่าในเมืองไทยมีหุ้นอะไรบ้างเป็นหุ้นโตเร็ว
และได้ผลตอบแทนระยะปานกลาง ถึงยาวใช้ได้
ก็มีประมาณนี้นะครับ shin advanc ก็โตมาเยอะ
เพราะว่าสมัยก่อนคนใช้มือถือน้อยมาก
จนเดี่ยวนี้เป็นปัจจัยที่ห้าของชีวิต
se-ed เท่าที่รู้ก็โตมาเยอะ จากหลายสิบปีที่แล้ว
ยอดขายมีกี่ล้านบาท มีสาขานิดเดียวเอง
แล้วก็มีเครือ mint minor ที่ดูย้อนหลังแล้วก็ถือว่าสร้าง wealth ให้ผู้ถือหุ้นได้
เยอะ และไม่เป็น cyclical
cpall ก็โตเยอะ แต่ว่าเข้าตลาดปี 46 ราคาจองไม่แน่ใจน่าจะประมาณ
50-60 ถ้า par ปัจจุบันก็ 5-6 บาท
ทึ่เหลือน่าจะมี drt dcc cpn
ผมพอนึกออกแค่นี้เองครับ
นึกๆดูแล้วก็มีหลายตัวเหมือนกันนะครับ
อืม ชักไม่แน่ใจว่าเป็นข้อเท็จจริง หรือว่า เป็นความเชื่อซะแล้วสิครับ
สงสัยจะเป็นความเชื่อมากกว่านะ
เห่อเห่อ :D
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 5:17 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
อืม ความเห็นผมอาจจะผิดหรือถูกก็ได้นะครับ เพราะประสบการณ์น้อย
คือผมลองนึกๆดูว่าในเมืองไทยมีหุ้นอะไรบ้างเป็นหุ้นโตเร็ว
และได้ผลตอบแทนระยะปานกลาง ถึงยาวใช้ได้
ผมพอนึกออกแค่นี้เองครับ
นึกๆดูแล้วก็มีหลายตัวเหมือนกันนะครับ
อืม ชักไม่แน่ใจว่าเป็นข้อเท็จจริง หรือว่า เป็นความเชื่อซะแล้วสิครับ
สงสัยจะเป็นความเชื่อมากกว่านะ
เห่อเห่อ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 5:29 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
สงสัย hong จะโฟกัสไปที่ตัวหุ้นมากไปหน่อย
ลองดูในด้าน"นามธรรม"บ้าง
คืออย่างนี้
บริษัททุกบริษัทในโลกนั้นมี cyclical อยู่ในตัวอยู่แล้วทุกบริษัท
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทในประเทศอะไรก็ตาม
อุตสาหกรรมอะไรก็ตาม
อยู่อเมริกาหรือเปล่าไม่สำคัญ
เป็น cyclical ทั้งนั้น
แต่บริษัทที่สามารถอยู่อย่างยั่งยืนได้นั้น
มีความสามารถอย่างหนึ่งที่บริษัทอ่อนแอไม่มี
นั่นคือความสามารถในการ"ทำลาย"ตัวเอง
เอาละหยุดแค่นี้
hong ลองจินตนาการดูนะว่า
ถ้า microsoft ยังขายแต่ Windows 3.1
มาจนถึงปัจจุบันนั้น
บริษัท microsoft จะเป็นอย่างไร
ลองคิดดู
ไว้พรุ่งนี้มาต่อนะ
โอ้ ได้เปิดหูเปิดตามากมายจริงๆ
ผมขอทำการบ้านส่งเลยนะครับ
แน่นอนว่า microsoft ถ้าขายแต่
windows 3.1 ต่อก็จะไม่สามารถ
คงสถานภาพการเป็นหุ้น growth ไว้ได้
ผมพูดอย่างนี้ถูกไหมครับ
บริษัทจะ growth ไม่ growth นอกจากจะอยู่ที่
อุตสาหกรรมแล้ว
อยู่ที่การมี innovation การปรับตัวเข้ากับยุคสมัยและ
vision ของผู้นำ ซึ้งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะยึดอายุ
การเติบโตขึ้นไปได้นานกว่าบริษัทอื่นๆ
ผมสรุปถูกไหมครับพี่
ป.ล. ผมชอบสไตล์การถามตอบแบบนี้ครับ
ได้ฝึกคิด ฝึกใช้สมองตอบ มีประโยชน์ดีมากเลยครับ
55 ผมได้เพื่อนคุยคนใหม่แล้ว
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 9:44 pm
โดย por_jai
น่าอ่านมากครับ
ผมเคยบอกคนทั้งเวบแล้วว่าวิบูลย์น่ะระดับอาจารย์ผมอีกทอดนึง
เจ้าฮงนี่ก็เหมือนกัน
คุยไปคุยมารู้สึกว่าจะได้มากกว่าให้ไปซะอีก...แฮ่...
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 11:40 pm
โดย i_sarut
hongvalue เขียน:ผมมาลองคิดดูแล้ว คนส่วนใหญ่เป็นคนจน
ถ้าเราเชื่อคนส่วนใหญ่ เราก็จน
คมมากเลยคำนี้ ขอยืมไปใช้ต่อนะพี่
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 17, 2009 11:50 pm
โดย hongvalue
i_sarut เขียน:
คมมากเลยคำนี้ ขอยืมไปใช้ต่อนะพี่
คิดตังค์ค่ายืมนะ
7000 บาทจ่ายมาซะดีๆ :lol:
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 18, 2009 8:58 am
โดย VIB007
[quote="por_jai"]
น่าอ่านมากครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 18, 2009 9:21 am
โดย VIB007
[quote="hongvalue"]
โอ้ ได้เปิดหูเปิดตามากมายจริงๆ
ป.ล. ผมชอบสไตล์การถามตอบแบบนี้ครับ
ได้ฝึกคิด ฝึกใช้สมองตอบ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 18, 2009 11:33 am
โดย VIB007
อย่าลืมตอบคำถามที่แล้วนะ
เอาล่ะ ลองกลับมาที่หุ้นไทยบ้าง
[quote="hongvalue"]
แต่อย่างหุ้นที่พี่เล่นเป็นหุ้น cyclical
หรือย่างอาจารย์ วิกรมบอกว่า scc เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเยอะมากๆ
ก็เป็นหุ้น cyclical สรุปว่า หุ้นในเมืองไทยที่จะทำให้เราถือนานๆแล้ว
wealth เยอะส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนี้ปะครับ
เงื่อนไขคือเราต้องขายให้ถูกจัวหวะ
เหมือนที่ขาย pttep ที่ 200 กว่าบาท
คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่คนอื่นจะไปขายได้ใกล้เคียงจุดสูงสุดขนาดนั้น
หรืออย่าง ท่านด.ร.นิเวศน์
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 18, 2009 5:13 pm
โดย zesar
คุณ hong ไม่มาตอบซะทีครับ รออ่านอยู่ อิอิ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 18, 2009 8:26 pm
โดย hongvalue
วันนี้ไปเที่ยวทั้งวันเพิ่งกลับมาเปิดดู
ก็ปาไป 2 ทุ่มแล้ว ผมคำตอบทีละวรรคนะครับ
เฮียวิบูลย์ ถามว่า
อย่างนี้
ย้อนกลับไปเรื่อง"โลกคือตัวเรา"
"เราคิดอย่างไร โลกก็เป็นอย่างนั้น"
hong เชื่อในความคิดนี้หรือไม่??
ผมว่าเรื่องนี้เป็นจริง เพราะว่าคนเราจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเอง
อยากจะเชื่ออย่างนั้นอยู่แล้ว
อย่างเช่น ถ้าเราคิดว่าแฟนเรานอกใจ เราก็จะคิดว่าทุกการกระทำของเขา
จ้องจะนอกใจ หรือ เราคิดว่าหุ้นตัวนึง เจ้าของจะต้องไม่ดีแน่เพราะว่า
ใครๆก็บอกแบบนั้น ซึ่งจริงๆแล้วบางทีเขายังไม่ได้ทำอะไรไม่ดี
เป็นหลักฐานออกมาให้เราเห็นเลยด้วยซ้ำ
ส่วนอีกคนเรามองว่าดีอยู่แล้ว พอทำดีนิดหน่อย เราก็จะบอกว่า
โอ้ มันยอดมาก ดีจริงๆ
ต่อมาพี่วิบูลย์ก็ถามว่า
หุ้นตัวเดียวกัน
ถ้าเรามองเป็น Cyclical มันก็เป็น Cyclical
ถ้าเรามองเป็น Growth มันก็เป็น Growth
ถ้าเรามองเป็น Dividend มันก็เป็น Dividend
hong คิดว่ายังไง??
เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจ ผมยกตัวอย่างว่า
สมมุติว่าผมลงทุนหุ้นตัวนึงที่มันแทบไม่มีปันผล แต่กำไรโต
เยอะมาก แบบนี้มันก็เป็น growth stock ครับ
ถ้าผมได้ปันผลซัก 1-2% แต่ราคาหุ้นขึ้นไป 25%
ผมจะมองว่าเป็น dividend ได้อย่างไร
ผมว่าเรื่องนี้อยู่ที่ช่วงเวลาของหุ้น
ช่วงตะก่อนที่ advanc ยังมียอดใช้มือถือน้อย ยังไม่ปลดล็อค emi
ก็คงเป็น growth แต่หลายปีนี้ ปันผล 100% ของกำไรแต่
กำไรไม่ค่อยเติบโต แบบนี้คงเป็น dividend ครับ
ผมคิดว่าหุ้น 1 ตัวเป็นได้หลายอย่างอยู่ที่ว่ามันอยู่ในช่วงไหน
ของธุรกิจของเขาครับ
สรุปว่าหุ้น 1 ตัวเป็นได้หลายอย่าง อยุ่ที่มันอยู่ตรงไหนของวงจรธุรกิจครับ