
นึกภาพต่อไป
ถ้าน้ำมันขึ้นราคาอีกรอบ
แล้วต้องไปติดngv
แล้วต้องไปเข้าคิวคงสนุกพิลึก
อิจฉาเที่ยวเยอะจังJeng เขียน:
แจ่ม ขอบคุณมากครับ พี่สบายดี เรื่อยๆ เที่ยวตลอดครับ เกาะช้าง เสม็ด นี่กำลังจะไปเกาหลี วันที่ 20 นี้ครับ เห็นว่า -5 องศา
ลูกๆน่าโตแล้วเนอะ หายเหนื่อยไปเยอะ ตอนเด็กๆจะเหนื่อยหน่อย ไม่ได้นอน อิอิ
ผมคุยกับเพื่อนสนิทๆที่เล่นหุ้นด้วยกันถึงวิบูลย์บ่อยๆVIB007 เขียน: พี่ por_jai
เข้าตลาดอีกทีเมื่อไหร่ บอกกันด้วยนะพี่ อิ อิ
ช่วงนี้ต้องอาศัยลักจำ
บุญหรือฟลุ๊คนี่ตอบยากครับpor_jai เขียน: ผมคุยกับเพื่อนสนิทๆที่เล่นหุ้นด้วยกันถึงวิบูลย์บ่อยๆ
เวลาคุยกันเรื่องพี่เทพ กับเรื่องบุญ
คนที่ซื้อเกือบlowแล้วขายเกือบhighนี่
พวกผมสรุปกันว่านอกจากเ่ก่งแล้วยังต้องทำบุญมาเยอะๆอีกตะหากครับ
เรื่องเก่งผมพอสู้พอค้นคว้าได้
แต่เรื่องบุญกรรม วาสนานี่
สุดที่จะแ่ข่งจะพายสู้
ผมว่าวิบูลย์นะต้องให้สัญญาณผมซะละมากกว่า
เพราะพวกผมก็เล็งๆปิโตรกันไว้เหมือนกันในรอบหน้า
ยอมให้ผมเกาะชายผ้าเหลืองไปซะดีๆ ดีกว่า
เอาเลยครับพี่por_jai เขียน:ส่วนที่ตอบพี่โอซามา(บินลาเดนหรือเปล่าไม่รู้)ข้างบนนั่น
ขออนุญาติcopyเก็บไว้คำนวณหน่อย
กระจ่างดั่งวันเพ็ญจริงๆ(นี่เป็นศัพท์ของคุณเล็กนะ แต่คาดว่าคงไม่สงวนลิขสิทธิ์)
อันนี้ไม่รู้ว่า Settrade ใช้แบบนี้หรือเปล่าapiwatw เขียน:สอบถาม p'viboon หน่อยครับว่า สูตรในการคิด PE ใน settrade เค้าคำนวณจากอะไรครับ ส่วนใหญ่ก็สมเหตุสมผลครับ แต่หุ้นบางตัวอย่าง TIPCO ราคา 4 บาทกว่าๆ กำไรต่อหุ้น 9 เดือน 55 สตางค์ P/BV 1.2 แต่ทำไม P/E แค่ 2.99 เองครับ .... หรือว่าเค้าเอาผลกำไรของไตรมาสเทียบต่อไตรมาส พอได้เป็น % เติบโตก็เอาไปคูณกับผลกำไรรวมของปีที่แล้ว (หรือย้อนหลังมากกว่านั้นครับ) ถึงได้ตัวเลขนี้ออกมา
อ่านจากบอร์ดร้อยคนร้อยหุ้นเห็นบอกว่า ที่ PE ต่ำน่าจะเพราะ Q4/2007 มีการรับรู้กำไรจากการขายบริษัทลูก
1. อยากทราบครับว่ามีสูตรในการคิด PE อย่างไรบ้างครับ
2. จากข้อที่ 1 หุ้นแต่ละตัวใช้สูตรในการคิด PE ต่างกันไหมครับ
เคยได้ยินมั๊ยครับศิษย์เซียน007 เขียน:คุณพี่หมอเงิน คมชัดลึก ในหุ้นที่ลงทุนเซียนจริงๆบนับถือๆ มีข่าวมาฝากครับผมฟังเซียนนักวิเคราะห์คนหนึ่งกล่าวทางวิทยุว่ามี่เพื่อนที่เชียวชาญในวงการน้ำมันบอกว่าราคาน้ำมันอาจลดลงไปอยู่แถว30-40ต่อบาร์เรลได้ครับ คุณพี่หมอเงินช่วยวิเคราะห์หุ้นที่ถือลงทุนอยู่บ้างสิครับเพราะพี่เทพหมอขายไปแล้วเนี่ยครับแถวจุดสูงสุดเลยนับถือๆ
ต้องยอมรับว่าการซื้อขายของต่างชาติมีผลกับตลาดหุ้นไทยfrog2 เขียน:พี่ว่าวีไอ ต้องดูฟันด์โฟลว ด้วยไหม
ไปอ่านหนังสือพี่สุมาอี้มาเล่มล่าสุดมา เขียนถึงฟันด์โฟลว เอาไว้ดีมาก
ซึ่งผมเห็นด้วยอย่างมาก หากเป็นวีไอที่อเมริกา คงไม่ต้องดูฟันด์โฟลว
แต่หากมาลงทุนในไทยผมว่า ต้องดู เพราะตลาดเราเล็กมากเมื่อเทียบ
กับเงินลงทุนของต่างชาติ
การเข้าออกของเม็ดเงินต่างชาติ มีผลอย่างมากกับตลาดประเทศเรา
frog2 เขียน: ซึ่งพอผมมีความคิดว่า วีไอควรรดูฟันด์โฟลวขึ้นมา
ก็เริ่มเกิดปัญหาขึ้นมาเช่นกันครับ
เนื่องมาจากว่า สมองซีกวีไอ บอกให้ซื้อ เพราะมีของถูกมากมายในตลาด
แต่สมองอีกฝั่งที่ดูฟันด์โฟลวอยู่ บอกให้รอ ฝรั่งหยุดขายก่อน
ตอนนี้ก็เลยไม่รู้เอาอย่างไรดี
พี่มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
ลองหาเล่มนี้มาอ่านดูnortuss เขียน: สวัสดีคับพี่วิบูลย์
ผมติดตามอ่านกระทู้นี้มาก้อซัก2 เดือนกว่า ถึงจาอ่านจบได้ ผมอยากถามเรื่องหนังสือดีๆ(สำหรับมือใหม่) เรื่องเกี่ยวกับการหามูลค่าหุ้น
ผมเห็นพี่แนะนำของคุนสุมาอี้ แต่มานานมากแล้ว ไม่ทราบว่ามีหนังสือเล่มใหม่จาแนะนำหรือป่าว หรือว่าเล่มนี้ดีอยู่แล้วไม่ต้องเปลี่ยน
ตอบได้ครับnortuss เขียน:อีกคำถามคับไม่แน่ใจว่าพี่จาตอบให้ได้รึป่าว
ถามว่า พี่ยังถือพี่เทพอยู่รึป่าวคับ
ขอบคุนล่วงหน้าคับ
ตอบแบบกำปั้นทุบดินnortuss เขียน:ขอบคุนมากคับสำหรับคำตอบเรื่องหนังสือ
รบกวนอีกคำถามนะคับ
ข้อมูลในเวป settrade.com ข้อมูลต่างๆมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
-หน้าภาพรวมบริษัท ที่เค้าหา ROE ROA ฯลฯ
-งบการเงิน
ขอบคุนคับ
ไม่เข้าใจคำถามnortuss เขียน:ขอบคุนคับพี่วิบูลย์ สำหรับตอบคำตอบเรื่องเวป settrade
แหะๆ พอดีอัดอั้นอยากถามคำถามมานานแล้ว แต่คิดว่าอ่านกระทู้ให้จบแล้วค่อยถามจาดีก่า พออ่านจบปุ๊บเลยถามปั๊บเลย
คือผมเพิ่งจาเข้ามาในตลาดอยากจาเก็บข้อมูลตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อเอาไว้วิเคราะห์ ดูผลตอบแทน และแก้ไข้ปรับปรุงพอร์ต
พี่วิบูลย์มีตารางการเก็บข้อมูลเกี่ยวหุ้นมั๊ยคับ
-การซื้อ-ขาย หุ้น ว่าวันที่เท่าเมื่อเริ่มลงทุน
-เงินปันผลแต่ละตัวจ่ายให้เท่าไหร่ เมื่อไหร่ในแต่ละปี
-ซื้อถั่วเฉลี่ย ลดต้นทุนแล้วเหลือต้นทุนเท่าไหร่
-วัดผลตอบแทนในระหว่างปี
หรือข้อแนะนำอย่างอื่นก้อได้คับที่ตรงจุดความต้องการของผม
รบกวนหน่อยนะคับพี่วิบูลย์
ถ้าตามหลักของการคิด DCFBHT เขียน:แวะมาถามพี่วิบูลย์ครับ โพสต์ไปแล้วไม่มีใครตอบเลย
พอดีไปอ่านงานเก่าๆ เจอเค้าเขียนว่า เบน เกรแฮม บอกว่าอัตราคิดลดสำหรับหุ้นควรเป็นอย่างน้อยสองเท่าของพันธบัตรเกรดสูง
อยากรู้ว่า อัตราคิดลดนี้เป็น cost of equity หรือ wacc ครับ
ถ้าตอบตามหลักของวีไอapiwatw เขียน:ผมขอสอบถาม p'viboon หน่อยครับเกี่ยวกับการกระจายการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงครับ
อ่านเจอในหนังสือ คิดอย่างวอเรน บัฟเฟท ว่าถึงการเลือกหุ้นเข้ามาอยู่ใน port ของตัวเองโดยให้ค่าสัมประสิทธิ์น้อยที่สุด เช่นถ้าเราต้องการถือหุ้น 3 ตัวก็ไม่ใช่ซื้อกลุ่ม Bank ทั้ง 3 ตัวเป็นต้น
ค่า 1 คือแปรผันตามกัน ขึ้นลง ในอัตราเท่าๆกันเสมอเช่น KBANK, SCB
-1 คือผกผันกัน ตัวนึงขึ้น ตัวนึงลงในอัตราเท่ากัน
0 คือไม่เกี่ยวข้องกัน
ดังนั้นช่วงจะมีได้ตั้งแต่ 1 ถึง -1
คำว่าน้อยที่สุดในหนังสือเค้าต้องการจะสื่อถึงว่าเราควรเลือกหุ้นที่ผกผันกันมาอยู่ใน port ค่าเข้าใกล้ -1 หรือตัวที่ค่าสัมประสิทธิ์เข้าใกล้ 0 ครับคือเลือกแบบที่ไม่เกี่ยวกันเลย p'viboon มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ