Re: กระทู้ถามตอบวิเคราะห์เชิงบัญชี ผสมผสานการเงิน การลงทุน
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 09, 2013 2:30 pm
[quote="TissueThiti"]เรียนถามอาจารย์ทุกท่านนะครับ
1) จำนวนหุ้นที่มีผลต่อส่วนแบ่งผลประโยชน์ เช่น ปันผล หรือกำไรสุทธิ โดยปกติเราสามารถดูได้จากส่วนไหนของงบครับ อย่างเช่นของ SKR ผมดูในส่วนของงบดุล ทุนที่ออกและชำระแล้ว หุ้นสามัญ 100,000,000 หุ้น แต่พอไปดูในงบกำไรขาดทุน กำไรสุทธิต่อหุ้น1.28บาท ทั้งๆที่กำไรสุทธิ 120,507,993 จึงเหมือนมีจำนวนหุ้นน้อยกว่า 100,000,000 หุ้น
2) กำไรต่อหุ้นปรับลด หมายถึงกำไรต่อหุ้นเมื่อคำนวณจำนวนหุ้นที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมดจากการแปลงสภาพหุ้นกู้และหุ้นบุริมสิทธิมาเป็นหุ้นสามัญใช่ไหมครับ
3) นโยบายการจ่ายปันผลของบริษัท
"ถ้าปีใดผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิได้รับแจกเงินปันผลถึงร้อยละ 15 ของทุนของบริษัทที่เป็นหุ้นบุริมสิทธิแล้ว กำไรส่วนที่เหลือจะแจกให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ตามมติที่ประชุมใหญ่
ถ้าปีใดบริษัทสามารถแจกเงินปันผลได้เกินกว่าร้อยละ 15 ของทุนของบริษัท ให้ผู้ถือหุ้นทั้งสองชนิดได้รับแจกเงินปันผลเท่ากัน"
ในทีนี้ คำว่าทุนของบริษัทคือส่วนของเจ้าของหรือทุนเรือนหุ้นส่วนของหุ้นสามัญครับ
4) กรณีการจ่ายปันผลหรือดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นกู้ จะถือเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทก่อนคิดอัตราภาษีหรือไม่ครับ และถ้าใช่อยู่ในส่วนใดของรายจ่ายครับ
5) ผมได้อ่านของอาจารย์ sun_cisa2 ในกระทู้นี้ตอนหนึ่งว่า
เช่น ABC มีกำไร 1,000 บาท โดย A ถือหุ้นมาตั้งแต่ต้นปี 800 หุ้น ส่วน B เข้ามาถือหุ้นเพิ่มทุนีหลังระหว่างปีนั้น 400 หุ้นเมื่อตอนกลางปี
เงินจาก A ทำมาหากินมา 1 ปีเต็ม ส่วนเงิน B เอามาใช้หากินแค่ครึ่งปี ถ้าถือว่าตลอดปีทำมาหากินสม่ำเสมอ 500 บาทแรก A ควรได้เต็มๆ ส่วน 500 บาทหลังถึงจะเอามาแบ่งระหว่า A กับ B ตามสัดส่วนที่ลงทุน 2:1 A ได้ไป 500x2/3 = 333.33 ส่วน B ได้ไป 500/3 = 166.67
รวมทั้งปี A ได้ส่วนแบ่งกำไรไป =500+333.33 = 833.33 A ถ้าเทียบแล้วลงทุน 1ปี ได้ผลตอบแทนต่อหุ้น = 0.3125+0.2083 =0.5208
รวมทั้งปี B ได้ส่วนแบ่งกำไรไป = 166.67 0.2083
. แต่ในทางบัญชีจะแสดง EPS ขั้นพื้นฐานที่ 1000/(800x12/12 + 400x6/12) = 1.00 ดูแล้วเหมือนกับว่าได้คนละ 1 บาท ความจริงไม่ใช่เลย แค่บอกว่าถ้ามาคิดผลตอบแทนตามระยะเวลาลงทุนแล้ว โดยเปรียบเทียบให้หุ้นทั้งหมดเทียบเท่ากันได้บนฐานเวลาที่ปรับสัดส่วนให้เท่ากัน จะเหมือนว่าได้คนละ 1 บาท
. ผมสงสัยครับ ปกติ EPS ไม่ได้เกิดจากกำไรสุทธิทั้งปีหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญหรือครับ แล้วข้อความข้างต้นผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ อยากรบกวนให้อาจารย์ช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยครับ
ขอโทษนะครับที่คำถามอาจยาวนิดนึง
ขอบคุณมากครับผม[/quote]
1. ถ้าหุ้นออกครบปี จำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วจะเท่ากับจำนวนหุ้นที่นำมาคำนวณ EPS แต่ถ้าหุ้นออกไม่ครบปีหรือเรียกชำระไม่เต็มราคาหุ้น จำนวนหุ้นที่นำมาคำนวณ EPS จะเป็นจำนวนหุ้นถัวเฉลี่ย ถ้าบริษัทมีหุ้นบุริมสืธิ์ กำไรสุทธิที่นำมาคำนวณต้องหักปันผลหุ้นบุริมสิทธิ์ก่อน
2. โดยหลักการเป็นเช่นนั้น แต่ต้องรวมรายการทุกรายการที่สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญทั้งหมด เช่น วอร์แรนด์ ไม่ใช่เฉพาะหุ้นกู้หรือหุ้นบุริมสิทธิเท่านั้น
3. ไม่ทราบค่ะ ต้องถามคนอื่นที่ทราบ
4. ถ้าเข้าข่ายเป็นปันผล ต้องหักออกจากกำไรสะสม ไม่เข้างบกำไรขาดทุน แต่ถ้าถือเป็นดอกเบี้ยต้องหักรวมกับดอกเบี้ยจ่าย แสดงก่อนภาษีเงินได้
5. อาจารย์ sun_cisa2 ไม่สามารถ login เข้าใน web ของ thaivi นานมาแล้วค่ะ เลยมาตอบให้คุณไม่ได้ แต่ EPS มีสูตรการคำนวณคือ
EPE หุ้นสามัญ = กำไรที่เป็นของหุ้นสามัญ (หักกำไรที่เป็นส่วนของหุ้นบุริมสิทธิออก หรือบวกกำไรของหุ้นเทียบเท่าถ้าสมมุติว่ามีการแปลงหุ้นเกิดขึ้น) /จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (ตามเวลาในการออกหุ้น รวมไปถึงหุ้นสามัญที่เกิดจากการแปลงถ้าคำนวณ EPS ปรับลด)
ดังนั้น การหยิบตัวเลขที่เห็นมาหารกัน อาจไม่ได้เท่ากับจำนวน EPS ที่บริษัทคำนวณได้ โดยเฉพาะเมื่อมีเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ทำให้การคำนวณตัวเลขเบี่ยงเบนจากที่แสดงในงบการเงินค่ะ
1) จำนวนหุ้นที่มีผลต่อส่วนแบ่งผลประโยชน์ เช่น ปันผล หรือกำไรสุทธิ โดยปกติเราสามารถดูได้จากส่วนไหนของงบครับ อย่างเช่นของ SKR ผมดูในส่วนของงบดุล ทุนที่ออกและชำระแล้ว หุ้นสามัญ 100,000,000 หุ้น แต่พอไปดูในงบกำไรขาดทุน กำไรสุทธิต่อหุ้น1.28บาท ทั้งๆที่กำไรสุทธิ 120,507,993 จึงเหมือนมีจำนวนหุ้นน้อยกว่า 100,000,000 หุ้น
2) กำไรต่อหุ้นปรับลด หมายถึงกำไรต่อหุ้นเมื่อคำนวณจำนวนหุ้นที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมดจากการแปลงสภาพหุ้นกู้และหุ้นบุริมสิทธิมาเป็นหุ้นสามัญใช่ไหมครับ
3) นโยบายการจ่ายปันผลของบริษัท
"ถ้าปีใดผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิได้รับแจกเงินปันผลถึงร้อยละ 15 ของทุนของบริษัทที่เป็นหุ้นบุริมสิทธิแล้ว กำไรส่วนที่เหลือจะแจกให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ตามมติที่ประชุมใหญ่
ถ้าปีใดบริษัทสามารถแจกเงินปันผลได้เกินกว่าร้อยละ 15 ของทุนของบริษัท ให้ผู้ถือหุ้นทั้งสองชนิดได้รับแจกเงินปันผลเท่ากัน"
ในทีนี้ คำว่าทุนของบริษัทคือส่วนของเจ้าของหรือทุนเรือนหุ้นส่วนของหุ้นสามัญครับ
4) กรณีการจ่ายปันผลหรือดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นกู้ จะถือเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทก่อนคิดอัตราภาษีหรือไม่ครับ และถ้าใช่อยู่ในส่วนใดของรายจ่ายครับ
5) ผมได้อ่านของอาจารย์ sun_cisa2 ในกระทู้นี้ตอนหนึ่งว่า
เช่น ABC มีกำไร 1,000 บาท โดย A ถือหุ้นมาตั้งแต่ต้นปี 800 หุ้น ส่วน B เข้ามาถือหุ้นเพิ่มทุนีหลังระหว่างปีนั้น 400 หุ้นเมื่อตอนกลางปี
เงินจาก A ทำมาหากินมา 1 ปีเต็ม ส่วนเงิน B เอามาใช้หากินแค่ครึ่งปี ถ้าถือว่าตลอดปีทำมาหากินสม่ำเสมอ 500 บาทแรก A ควรได้เต็มๆ ส่วน 500 บาทหลังถึงจะเอามาแบ่งระหว่า A กับ B ตามสัดส่วนที่ลงทุน 2:1 A ได้ไป 500x2/3 = 333.33 ส่วน B ได้ไป 500/3 = 166.67
รวมทั้งปี A ได้ส่วนแบ่งกำไรไป =500+333.33 = 833.33 A ถ้าเทียบแล้วลงทุน 1ปี ได้ผลตอบแทนต่อหุ้น = 0.3125+0.2083 =0.5208
รวมทั้งปี B ได้ส่วนแบ่งกำไรไป = 166.67 0.2083
. แต่ในทางบัญชีจะแสดง EPS ขั้นพื้นฐานที่ 1000/(800x12/12 + 400x6/12) = 1.00 ดูแล้วเหมือนกับว่าได้คนละ 1 บาท ความจริงไม่ใช่เลย แค่บอกว่าถ้ามาคิดผลตอบแทนตามระยะเวลาลงทุนแล้ว โดยเปรียบเทียบให้หุ้นทั้งหมดเทียบเท่ากันได้บนฐานเวลาที่ปรับสัดส่วนให้เท่ากัน จะเหมือนว่าได้คนละ 1 บาท
. ผมสงสัยครับ ปกติ EPS ไม่ได้เกิดจากกำไรสุทธิทั้งปีหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญหรือครับ แล้วข้อความข้างต้นผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ อยากรบกวนให้อาจารย์ช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยครับ
ขอโทษนะครับที่คำถามอาจยาวนิดนึง
ขอบคุณมากครับผม[/quote]
1. ถ้าหุ้นออกครบปี จำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วจะเท่ากับจำนวนหุ้นที่นำมาคำนวณ EPS แต่ถ้าหุ้นออกไม่ครบปีหรือเรียกชำระไม่เต็มราคาหุ้น จำนวนหุ้นที่นำมาคำนวณ EPS จะเป็นจำนวนหุ้นถัวเฉลี่ย ถ้าบริษัทมีหุ้นบุริมสืธิ์ กำไรสุทธิที่นำมาคำนวณต้องหักปันผลหุ้นบุริมสิทธิ์ก่อน
2. โดยหลักการเป็นเช่นนั้น แต่ต้องรวมรายการทุกรายการที่สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญทั้งหมด เช่น วอร์แรนด์ ไม่ใช่เฉพาะหุ้นกู้หรือหุ้นบุริมสิทธิเท่านั้น
3. ไม่ทราบค่ะ ต้องถามคนอื่นที่ทราบ
4. ถ้าเข้าข่ายเป็นปันผล ต้องหักออกจากกำไรสะสม ไม่เข้างบกำไรขาดทุน แต่ถ้าถือเป็นดอกเบี้ยต้องหักรวมกับดอกเบี้ยจ่าย แสดงก่อนภาษีเงินได้
5. อาจารย์ sun_cisa2 ไม่สามารถ login เข้าใน web ของ thaivi นานมาแล้วค่ะ เลยมาตอบให้คุณไม่ได้ แต่ EPS มีสูตรการคำนวณคือ
EPE หุ้นสามัญ = กำไรที่เป็นของหุ้นสามัญ (หักกำไรที่เป็นส่วนของหุ้นบุริมสิทธิออก หรือบวกกำไรของหุ้นเทียบเท่าถ้าสมมุติว่ามีการแปลงหุ้นเกิดขึ้น) /จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (ตามเวลาในการออกหุ้น รวมไปถึงหุ้นสามัญที่เกิดจากการแปลงถ้าคำนวณ EPS ปรับลด)
ดังนั้น การหยิบตัวเลขที่เห็นมาหารกัน อาจไม่ได้เท่ากับจำนวน EPS ที่บริษัทคำนวณได้ โดยเฉพาะเมื่อมีเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ทำให้การคำนวณตัวเลขเบี่ยงเบนจากที่แสดงในงบการเงินค่ะ