หน้า 79 จากทั้งหมด 160
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2008 4:48 pm
โดย u4321603
ลูกอิสาน เขียน:
ขอตัดหน้าพี่วิบูลย์หน่อยครับ
บริษัทที่สอบถามนี่ลืมมันไปซะครับ
ถ้าให้ดีแจ้งไปที่แบงค์ชาติให้เค้าพาตำรวจไปจับด้วยก็ดี
ขอบคุณครับ คุณลูกอีสาน
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2008 4:50 pm
โดย VIB007
[quote="Pekko"]พี่วิบูลย์ครับตังค์ผมหมด ขอ(ยืม)ตังค์ไปช้อนซื้อ PTTEP ได้ไหมครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2008 5:11 pm
โดย Amadeus
[quote="VIB007"][quote="Pekko"]พี่วิบูลย์ครับตังค์ผมหมด ขอ(ยืม)ตังค์ไปช้อนซื้อ PTTEP ได้ไหมครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 3:18 pm
โดย VIB007
[quote="Amadeus"]
เวลาห้างมันลดราคา
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 4:19 pm
โดย Pekko
[quote="VIB007"][quote="Pekko"]พี่วิบูลย์ครับตังค์ผมหมด ขอ(ยืม)ตังค์ไปช้อนซื้อ PTTEP ได้ไหมครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 6:29 pm
โดย VIB007
[quote="Pekko"]
เห็นมั้ยพี่วิบูลย์ ไม่ให้ผมยืมเมื่อวาน วันนี้ PTTEP ขึ้นเลย ใจร้ายที่สุด
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 3:05 pm
โดย an99
จะดีใจหรือเสียใจดี เล่นหุ้นมาเจอมา 2 ครั้งแล้ว
และมีหุ้นอยู่เต็ม port 100% ทุกครั้ง
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 3:54 pm
โดย VIB007
an99 เขียน:จะดีใจหรือเสียใจดี เล่นหุ้นมาเจอมา 2 ครั้งแล้ว
และมีหุ้นอยู่เต็ม port 100% ทุกครั้ง
ช่วยเล่าประสบการณ์ให้ฟังหน่อยครับ
ว่าครั้งแรกเจออย่างไรและ"รอด"มาได้อย่างไร
เป็นวิทยาทานให้รุ่นน้องๆนะครับ
ส่วนผมรอบแรกตายคาสนามครับ
BBL ซื้อ 110 ขาย 30
รอบสองกำลังเจออยู่ตอนนี้
ท่านอื่นๆแชร์ได้เลยนะครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 4:23 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ดีครับคุณพี่หมอเงิน ผมมีข่าวดีมาบอกครับ ไม่กี่เดือนที่แล้วผมจำได้ว่าดร.นิเวศน์เคยบอกว่าหุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีBนำหน้าต่ำกว่า30 ดร.สนใจครับ ส่วนเรื่องmartrixผมขอกลับไปดูอีกรอบก่อนนะครับคุณพี่หมอเงิน ตอนนี้ผมกำลังจดจ่ออยู่กับหุ้นครับ ถ้าคุณพี่มีเงินเหลือมาร่วมลงทุนกับผมก็ได้ครับผมยินดีเสมอครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 4:29 pm
โดย VIB007
ศิษย์เซียน007 เขียน: ดีครับคุณพี่หมอเงิน ผมมีข่าวดีมาบอกครับ ไม่กี่เดือนที่แล้วผมจำได้ว่าดร.นิเวศน์เคยบอกว่าหุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีBนำหน้าต่ำกว่า30 ดร.สนใจครับ
ตอนนี้อาจบอกว่าต่ำกว่า 20 ถึงจะน่าสน อิ อิ
ศิษย์เซียน007 เขียน:ส่วนเรื่องmartrixผมขอกลับไปดูอีกรอบก่อนนะครับคุณพี่หมอเงิน ตอนนี้ผมกำลังจดจ่ออยู่กับหุ้นครับ ถ้าคุณพี่มีเงินเหลือมาร่วมลงทุนกับผมก็ได้ครับผมยินดีเสมอครับ
ตังค์หมด ขอดูนอกเวทีแล้วกัน
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 11, 2008 7:29 pm
โดย Stock Broker
มานึกขึ้นได้ครับ เรื่องหุ้นที่ชอบแตกพาร์ให้เหลือราคาต่อหุ้นไม่เต็มบาท
สงสัยเจ้าของอยากให้มันทุบลงง่ายๆ รายย่อยจะได้กลัวขายลงมาต่ำสุดๆ ง่ายๆ เพราะหุ้นต่ำบาท จะไม่มีราคา Floor ครับ จะกำหนดไว้ที่ 1 สตางค์
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 15, 2008 8:44 pm
โดย VIB007
เอามาลงให้เข้ากับบรยากาศตอนนี้
Value Way ฉบับวันที่ 13 ตุลาคม 2551
ฤา โลกกำลังจะแตก
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงเวลาของความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับตลาดหุ้นทั่วโลก ดัชนีดาวโจน์ของตลาดหุ้นนิวยอร์คลดลงต่ำกว่า 9,000 จุดหรือลดลงมากกว่า 20% ภายในสัปดาห์เดียว ตลาดหุ้นยุโรปและเอเซียต่างลดลงกันอย่างถ้วนหน้า ดัชนีนิเคอิลดลงต่ำกว่า 10,000 จุด ดัชนีหุ้นไทยก็หนีไม่พ้นจากหายนะครั้งนี้ แรงขายของนักลงทุนต่างชาติทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยลดลงกว่า 100 จุดภายในเวลาเพียง 3 วันทำการจาก 590 จุดในวันที่ 3 ตุลาคม 2551 เหลือเพียง 490 จุดในวันที่ 8 ตุลาคม
ถ้านับจากจุดที่ดัชนีสูงสุดในปีนี้ที่ 884 จุดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมจนถึงปัจจุบัน ดัชนีตลาดหุ้นไทยลดลงไปแล้วถึง 44.5% และยังไม่มีสัญญานว่าจะหยุดลดลงเมื่อไหร่ นักลงทุนรายใหญ่ รายย่อย หรือแม้แต่นักลงทุนสถาบันต่างขาดทุนกันอย่างมาก ที่ทนไม่ได้ต้องตัดขาดทุนถือเงินสดออกจากตลาดไป ส่วนที่ยังถือหุ้นอยู่ต้องทนดูราคาหุ้นลดลงไปทุกๆวันอย่างน่าใจหาย ยังไม่นับถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนรวมต่างๆที่มูลค่าการลงทุนต้องลดลงไปตามภาวะตลาดหุุ้น
สาเหตุสำคัญของเหตุการณ์ครั้งนี้เนื่องมากจากนักลงทุนต่างเห็นว่า เหตุการณ์วิกฤตซัพไพร์มที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาจะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลก เพราะสหรัฐอเมริกามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด ถ้าสหรัฐอเมริกาถดถอยจะทำให้ประเทศอื่นๆที่พึ่งพึงอเมริกาในการส่งออกแย่ไปด้วย รวมไปถึงตลาดโภคภัณท์ที่ปรับตัวลดลงกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ถ่านหิน และแร่โลหะต่างๆ จากการคาดการณ์ถึงปริมาณความต้องการที่ลดลง
อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงทั่วโลก เนื่องจากสถาบันการเงินต่างๆทั้งในอเมริกาและยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากซัพไพร์ม ต้องการเงินสดเพื่อไปเสริมสภาพคล่องของบริษัทแม่ในต่างประเทศ จึงขายหุ้นที่บริษัทถืออยู่ในตลาดหุ้นทั่วโลกออกมา ตลาดประเทศเกิดใหม่จะเป็นแหล่งแรกๆที่ถูกขายออกมา ทำให้ตลาดหุ้นทั้งเอเซียลดลงเกือบ 50% นับจากต้นปี รวมถึงตลาดหุ้นในรัสเซีย อเมริกาใต้ และยุโรปะตวันออก
สำหรับประเทศไทยคงหนีไม่พ้นเรื่องของความไม่สงบทางการเมืองที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศจึงขายหุ้นที่ถืออยู่ รวมทั้งทำให้นักลงทุนใหม่ๆยังลังเลที่จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย จนถึงปัจจุบันนักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยไปแล้วกว่า 1.3 แสนล้านบาท นับว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ตั้งตลาดหลักทรัพย์เป็นต้นมา
วิกฤตซัพไพร์มครั้งนี้ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่วโลก นักลงทุนต่างขายหุ้นออกมาราวกับไม่มีวันพรุ่งนี้ เป็นที่น่าสังเกตุว่าหุ้นหลายๆตัวถูกขายออกมาโดยไม่สนใจปัจจัยพื้นฐาน ราคาปัจจุบันเมื่อเทียบกับพื้นฐานกิจการแล้วถือว่าถูกมากๆ แต่ยังไม่มีใครกล้าซื้อเพราะไม่รู้ว่าจะตกลงไปอีกเท่าไหร่ ผิดกับเหตุการณ์วิกฤตเศรษฐกิจไทยเมื่อปี 2540 ที่พื้นฐานกิจการของบริษัทจดทะเบียนของไทย ได้รับผลกระทบจากการลดค่าเงินบาทและเศรษฐกิจถดถอยโดยตรง ราคาหุ้นที่ลดลงในช่วงนั้นเป็นผลสะท้อนของกิจการที่แย่ลง แต่ในทางกลับกันวิกฤติเศรษฐกิจที่อเมริกาคราวนี้ ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทในตลาดหุ้นอื่นทั่วโลกลดลงไปด้วย
ช่วงนี้ถือว่าเป็นการมองโลกในแง่ร้ายสุดๆของนักลงทุนทั่วโลก นักลงทุนไทยไม่ต้องน้อยใจเพราะในต่างประเทศเจอสภาพเดียวกับเราเช่นเดียวกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนหน้าใหม่ๆตั้งคำถามกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าว่าใช้ได้จริงๆหรือ เพราะนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่ถือหุ้นอยู่ในพอร์ตต้องขาดทุนกันถ้วนหน้า คำตอบของคำถามนี้อยู่ที่ว่าเราเชื่อมั่นในพื้นฐานกิจการของบริษัทและหลักการลงทุนของเรามากน้อยแค่ไหน ถ้าเราเชื่อมั่นว่าหุ้นที่ถือเป็นกิจการที่ดีมีผลประกอบการดีเยี่ยมจนถึงอนาคตในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ในระยะสั้นราคาหุ้นอาจแกว่งตัวไปมา แต่ในระยะยาวราคาหุ้นจะสะท้อนพื้นฐานของกิจการนั้นๆ อยู่ที่ว่าใครจะรอได้ไม่ได้แค่นั้นเอง และสุดท้ายโลกคงไม่แตกอย่างแน่นอน
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 15, 2008 8:46 pm
โดย VIB007
Financial Engineer เขียน:มานึกขึ้นได้ครับ เรื่องหุ้นที่ชอบแตกพาร์ให้เหลือราคาต่อหุ้นไม่เต็มบาท
สงสัยเจ้าของอยากให้มันทุบลงง่ายๆ รายย่อยจะได้กลัวขายลงมาต่ำสุดๆ ง่ายๆ เพราะหุ้นต่ำบาท จะไม่มีราคา Floor ครับ จะกำหนดไว้ที่ 1 สตางค์
ขอบคุณครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 16, 2008 5:13 pm
โดย oilpaint
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนหน้าใหม่ๆตั้งคำถามกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าว่าใช้ได้จริงๆหรือ
ไม่มีคำถามค่ะ ว่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ใช้ได้จริงๆ หรือ
แต่ว่า
มีคำถามคือ การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เค้าทำยังไงบ้างค่ะ
อืมมมม :oops: พึ่งอ่าน Page ตะแกรงร่อนพี่วิบูลย์ ไป 5 page แล้วก็ข้ามมาหน้าสุดท้าย อิอิอิอิ ( ปล.ตั้งใจจะอ่านให้จบทุกหน้าค่ะ)
ประสบการณ์
อ่านหนังสือ เริ่มต้นลงทุน TSI
อ่านหนังสือ ดร.นิเวศน์แทบทุกเล่มยกเว้น ตีแตก
อ่าน Buffetology
ไป TVI แทบทุกเดือน
Internet web
หนังสือพิมกรุงเทพธุรกิจ
Radio
:o รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 16, 2008 7:15 pm
โดย VIB007
[quote="oilpaint"]
แต่ว่า
มีคำถามคือ การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เค้าทำยังไงบ้างค่ะ
อืมมมม
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 16, 2008 10:30 pm
โดย oilpaint
ถึง หน้า 7 แล้วค่ะ
อิอิอิ ถึงเวลาดู ทีมดราก้อน แล้วแระ
งอ งู 2 ตัว :arrow:
ต้องศึกษาROE, DCF, FCF, Income Statement,Intirnsic Value,Consumer monopoly ต้องมีเพิ่มอีกในหน้าถัดไป :o
หาอ่านหนังสือ
-Creative Accounting
-งบกระแสเงินสด งบการเงิน
-Value Investing made easy
-ราคาหุ้นและการปรับโครงสร้างของการเงิน
แล้วก้อบ้า VI อิอิอิ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 9:02 am
โดย VIB007
ใจเย็นๆ
มีศึกษาอีกหลายปี
ตลาดหุ้นไม่หนีไปไหนหรอกครับ
มัน crash อยู่เรื่อยๆแหละ
ไม่ต้องกลัวตกรถ
สู้ๆ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 9:05 am
โดย oilpaint
แหม แหม :P
ขอบคุณค่ะ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 9:09 am
โดย VIB007
ไม่เป็นไรครับ
มีปัญหามาถามได้ตลอดเวลา
ขอมีส่วนร่วม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 2:38 pm
โดย ziannoom
จากที่ได้อ่านคุณวิบูลย์มาหลายหน้า(20 หน้าแรกๆ) พอดีช่วงนี้หุ้นลดกระหน่ำเลยอยากรู้ว่า คุณ CHATCHAI, Jeng, ปรัชญา1, Mon Money, ยังอยู่ป่าว แต่ที่เห็นหน้าหลังๆนี่เหลือแต่คุณ VIB007 กับหน้าใหม่ ทั้งนั้นเลยอ่ะ หายไปไหนกันเหรอครับ หรือไปเที่ยวตปท
Re: ขอมีส่วนร่วม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 4:04 pm
โดย VIB007
ziannoom เขียน:จากที่ได้อ่านคุณวิบูลย์มาหลายหน้า(20 หน้าแรกๆ) พอดีช่วงนี้หุ้นลดกระหน่ำเลยอยากรู้ว่า คุณ CHATCHAI, Jeng, ปรัชญา1, Mon Money, ยังอยู่ป่าว แต่ที่เห็นหน้าหลังๆนี่เหลือแต่คุณ VIB007 กับหน้าใหม่ ทั้งนั้นเลยอ่ะ หายไปไหนกันเหรอครับ หรือไปเที่ยวตปท
ยังอยู่ในเวปครบครับ
แต่ท่านอื่นๆไม่ค่อยได้เข้ามาในกระทู้นี้เท่าไหร่
นานๆเข้ามาที
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 4:11 pm
โดย VIB007
Buy American. I am.
By Warren E. Buffett
This is the text of an opinion piece written by Warren Buffett and published in the New York Times on Friday, October 17, 2008
The financial world is a mess, both in the United States and abroad. Its problems, moreover, have been leaking into the general economy, and the leaks are now turning into a gusher. In the near term, unemployment will rise, business activity will falter and headlines will continue to be scary.
So ... Ive been buying American stocks. This is my personal account Im talking about, in which I previously owned nothing but United States government bonds. (This description leaves aside my Berkshire Hathaway holdings, which are all committed to philanthropy.) If prices keep looking attractive, my non-Berkshire net worth will soon be 100 percent in United States equities.
Why?
A simple rule dictates my buying: Be fearful when others are greedy, and be greedy when others are fearful. And most certainly, fear is now widespread, gripping even seasoned investors. To be sure, investors are right to be wary of highly leveraged entities or businesses in weak competitive positions. But fears regarding the long-term prosperity of the nations many sound companies make no sense. These businesses will indeed suffer earnings hiccups, as they always have. But most major companies will be setting new profit records 5, 10 and 20 years from now.
Let me be clear on one point: I cant predict the short-term movements of the stock market. I havent the faintest idea as to whether stocks will be higher or lower a month or a year from now. What is likely, however, is that the market will move higher, perhaps substantially so, well before either sentiment or the economy turns up. So if you wait for the robins, spring will be over.
A little history here: During the Depression, the Dow hit its low, 41, on July 8, 1932. Economic conditions, though, kept deteriorating until Franklin D. Roosevelt took office in March 1933. By that time, the market had already advanced 30 percent. Or think back to the early days of World War II, when things were going badly for the United States in Europe and the Pacific. The market hit bottom in April 1942, well before Allied fortunes turned. Again, in the early 1980s, the time to buy stocks was when inflation raged and the economy was in the tank. In short, bad news is an investors best friend. It lets you buy a slice of Americas future at a marked-down price.
Over the long term, the stock market news will be good. In the 20th century, the United States endured two world wars and other traumatic and expensive military conflicts; the Depression; a dozen or so recessions and financial panics; oil shocks; a flu epidemic; and the resignation of a disgraced president. Yet the Dow rose from 66 to 11,497.
You might think it would have been impossible for an investor to lose money during a century marked by such an extraordinary gain. But some investors did. The hapless ones bought stocks only when they felt comfort in doing so and then proceeded to sell when the headlines made them queasy.
Today people who hold cash equivalents feel comfortable. They shouldnt. They have opted for a terrible long-term asset, one that pays virtually nothing and is certain to depreciate in value. Indeed, the policies that government will follow in its efforts to alleviate the current crisis will probably prove inflationary and therefore accelerate declines in the real value of cash accounts.
Equities will almost certainly outperform cash over the next decade, probably by a substantial degree. Those investors who cling now to cash are betting they can efficiently time their move away from it later. In waiting for the comfort of good news, they are ignoring Wayne Gretzkys advice: I skate to where the puck is going to be, not to where it has been.
I dont like to opine on the stock market, and again I emphasize that I have no idea what the market will do in the short term. Nevertheless, Ill follow the lead of a restaurant that opened in an empty bank building and then advertised: Put your mouth where your money was. Today my money and my mouth both say equities.
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 7:28 pm
โดย VIB007
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 20, 2008 11:03 pm
โดย kornjackrit
จริงๆผมเป็นสมาชิกเว็บนี้นานมากแล้วครับ
ช่วงแรกสมัครไม่ค่อยได้เข้ามาโพสต์
ี้หลังจากไปตั้งหน้าตั้งตาศึกษาหาความรู้มานิดหน่อย
เลยมีโอกาสได้เข้ามาโพสต์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับท่านอื่นๆ รวมถึงได้อ่านกระทู้นี้ ซึ่งผมได้อ่านไปเพียง 10 กว่าหน้า
แต่รู้สึกสนุก และได้ความรู้มากครับ
เลยอยากจะขอขอบคุณคุณ VIB007 คุณ Chatchai คุณ Monmoney
คุณ ปรัชญา คุณ Jeng และท่านๆอื่นที่ไม่ได้กล่าวถึงแต่มีส่วนรวมให้ความรู้ดีๆ
ปล.ผมจะติดตามอ่านต่อไปเรื่อยๆครับ ตอนนี้ติดงอมแงมละครับ
ต้องเข้ามาอ่านกระทู้นทุกครั้งที่เข้าเว็บ Thaivi

:D :D
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 23, 2008 1:19 am
โดย King_Krimson
:lol:
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 26, 2008 12:03 am
โดย osama
หลังจากเริ่มซื้อหุ้น set 650 ตอนนั้นธนาคารมันยังไม่ล้มอะนะครับ ตอนนี้เหลือ 430 โดนศุกร์ 13 ฝันหวาน มา 2 รอบละครับ :( เลือดท่วมจอมันเป็นงี้นี่เอง

ท่าทางจะแย่ซะแล้วครับ ติด - ไปแล้ว 23% ตอนแรกก็ทำใจไว้แล้วว่าจะถือซัก 2-3 ปี แต่ยิ่งดูยิ่งเศร้า ถ้ารู้เรื่องธนาคารเมืองนอกจะล้มซะหน่อยจะได้รอมาซื้อซักตอน 500 จะได้ไม่เจ็บเยอะ เซ้งตัวเองฟายจิงๆเลย ตอนนี้กำลังเล็ง major ktc อยุ่อะครับ ใครเห็นเป็นเช่นใดบ้างรบกวนช่วยแสดงความเห็นหน่อย ktc นี่ผมไปหาอ่านเอา เห็นนักวิเคราะห์เค้าเขียนให้รอ กะ ขาย ไม่เห็นบอกให้ซื้อเหมือนตัวอื่น แต่ผมลองเปิดดูกำไรหลายๆปีย้อนหลังมันก็ดูดีนะ พี่ๆเห็นเป็นยังไงครับ เจ้าตัวนี้
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 26, 2008 1:30 pm
โดย kornjackrit
osama เขียน:ตอนนี้กำลังเล็ง major ktc อยุ่อะครับ ใครเห็นเป็นเช่นใดบ้างรบกวนช่วยแสดงความเห็นหน่อย
ลองเข้าไปอ่านและเข้าไปคุยกันนะครับในกระทู้ร้อยคนร้อยหุ้น

:D :D
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 12:27 am
โดย osama
ใน major นี่ก็เข้าไปดูครับ แต่ ktc นี่ผีหลอกครับ ไม่มีผู้อยู่อาศัยเลย ==" :? สงสัยจะไม่ค่อยมีคนนิยม
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 5:53 pm
โดย Pekko
พี่วิบูลย์ครับ ตอนนี้ผมไม่อยาก
ขอเพียงแค่รายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนจากพี่แล้ว
แต่ตอนนี้ผมอยากขอ(ยืม)ตังค์พี่วิบูลย์เพิ่มอีกต่างหาก :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
หวังไว้ผมจะได้รับความเมตตากรุณาจากพี่..เอ้ย....ท่านเสี่ยวิบูลย์นะครับ

(ห้ามคิดดอกฯนะ)
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 8:30 pm
โดย ปรัชญา
รบกวน อาจารย์วิบูลย์ มาเจิมกระทู้นี้หน่อยครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=35823
ขอพาดพิง ด้วยครับ หุ้นกำลังตกเละเทะ