Gondar เขียน: ถามคุณ VIB007 หน่อยครับ
ตามหลักการลงทุนในหุ้นเราจะต้องหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นแต่วิธีการได้มา
ต้องเสียเวลามากต้องศึกษาพื้นฐานบริษัทจากหลายๆทางเช่น 56-1,
รายงานประจำปี,ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์,บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร และยังต้อง
ศึกษางบการเิงินย้อนหลังหลายปีกว่าเราจะรวบรวมข้อมูลได้ครบและวิเคราะห์
หามูลค่าออกมาเสียเวลาไปก็ไม่ใช่น้อยผมเลยสงสัยว่าเราจะมีหลักยังไงที่จะ
เลือกหุ้นได้ถูกตัวคือได้หุ้นที่เราวิเคราะห์ออกมาแล้วราคาตลาดอยู่ต่ำกว่า
มูลค่าที่แท้จริง
เราเข้าใจธุุรกิจนั้นแค่ไหน
การอ่านข้อมูลต่างๆนั้น
ไม่ใช่แค่เอามาหามูลค่ากิจการอย่างเดียว
แต่เป็นการทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจนั้นอย่างถ่องแท้
ทำไมต้องเข้าใจกิจการ
เพราะการลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้น
เหมือนกับการซื้อกิจการ
เราซื้อกิจการ เราไม่ได้ซื้อหุ้น
ถ้าเราจะซื้อกิจการอะไร
แล้วเราไม่เข้าใจกิจการนั้นเลย
ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
เราก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า
สิ่งนั้นจะมีผลกับธุรกิจของเราหรือไม่
สุดท้ายเราก็ตื่นตระหนกไปกับเหล่าฝูงชนในตลาดหุ้น
ยกตัวอย่างเช่นปัจจุบันนี้เป็นต้น
ดัชนีลดลงจากต้นปีประมาณ 870 จุด
เหลือเพียง 550 จุดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2551
ลดลงไปกว่า 300 จุดหรือ 37% ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
หุ้นจำนวนมากถูกเทขายออกมาอย่างมาก
บางตัวราคาลดลงกว่าครึ่งจากจุดสูงสุด
ถ้าเราไม่เข้าใจธุรกิจของเราจริงๆ
คงคิดว่าเหตุการณ์ซัพไพร์มคงมีผลกระทบห้นทั่วโลก
ทำให้เราตกใจไปกับตลาดหุ้นไปด้วย
แต่ถ้าเรามีความรู้ในธุรกิจของเรา
วิเคาระห์ธุรกิจของเราได้อย่างละเอียด
เราจะเข้าใจเองว่าบริษัทของเราได้รับผลกระทบหรือไม่
ถ้าใช่ก็เป็น"วิกฤต"
ถ้าไม่ใช่ก็เป็น"โอกาส"
แต่คนส่วนใหญ่ซื้อหุ้นก็คาดว่า"ราคาหุ้น"จะเพิ่มสูงขึ้น
แต่จริงๆแล้วโลกอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้
สิ่งที่ต่างๆที่ถามมาข้างบนว่าใช้เวลาเยอะนั้น
จริงๆแล้วไม่เยอะหรอก
ถ้าเราคิดว่ามันเป็น"ความสนุก"ที่ได้เรียนรู้
ถ้าเราคิดว่ามันเป็น"งานที่ต้องทำ"ก็คงเบื่อในเวลาไม่นาน
เรายอมเสียเวลาหาความรู้ในตอนแรก
ดีกว่าซื้อหุ้นแล้วขาดทุน(ถาวร)ดีกว่า
Gondar เขียน: เท่าที่ผมลองอ่านหนังสือแนว vi ดูแล้วสับสนเพราะบ้างทีก็ให้ใช้พวก ratio
roe roa สูงๆ แต่บ้างเล่มก็บอกในอดีตหุ้นที่ ratio พวกนี้ต่ำๆจะให้ผลตอบแทน
ที่สูงกว่า คือ ดาวเด่นในวันนี้จะเป็นดาวร่วงในวันหน้าผมก็เลยสับสนไม่รู้จะ
ใช้วิธีไหนในการกรองหุ้นแล้วนำมาศึกษาต่อช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
การลงทุนในหุ้นคือการลงทุนโดยมองไปข้างหน้า
คนส่วนใหญ่ลงทุนโดยมองแต่กระจกหลัง
ก็คือดูแต่ผลงานในอดีต
แต่ความจริงราคาหุ้นจะขึ้นกับผลประกอบการในอนาคต
ไม่ใช่ผลประกอบการในอดีต
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า
ทำไมแค่มีเรื่องเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้น
ราคาหุ้นถึงขึ้นหรือลงได้อย่างมากมาย
เพราะคำคำเดียว "Expectation" หรือความคาดหวัง
ถ้าเราเข้าใจธุรกิจที่จะลงทุน
มองเห็นอนาคตของบริษัทได้
Ratio ต่างๆเป็นแค่ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเท่านั้นครับ
ไม่มีสูตรสำเร็จในตลาดหุ้นหรอกครับ
ลองศึกษาบริษัทที่จะลงทุนมากๆ
ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง
มองอนาคตบริษัทให้ออกในอีก 5-10 ปีข้างหน้า
ถ้ามองไม่ออกก็หาบริษัทใหม่ศึกษา
ดังคำพูดของท่านอาจารย์ ดร.นิเวศน์นะครับที่ว่า
"หุ้นถ้าไม่ถือห้าปี ห้านาทีก็ไม่ถือ"
ส่วนบัฟเฟตบอกว่า"ถ้าไม่คิดจะถือสิบปี สิบนาทีก็ไม่ถืิอ"
โชคดีครับ