หน้า 8 จากทั้งหมด 11
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 8:06 am
โดย imerlot
ต่อ เรื่อง หินๆบ้าง
100 metal models
เรื่อง ดิน น้ำ ลม ไฟ ไปแล้ว
model ไม่ได่เรียง หา หินก้อนเล็กง่ายๆก่อน MATH
..
1. model ด้าน คณิตศาสตร์ - ย่อยลงมา
คือ "decision tree" model
คุณ humdrum (อีกหนึ่ง supermind ของ thaivi) เคยเขียนไว้ใน
Post subject: Expected value analysis
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=38833
Warren Buffett คิดเรื่องการลงทุนเป้น decision tree ตลอดเวลา
พูดอีกอย่างคือ เขาคิดเป็น expected value analysis ตลอดเวลาครับ
http://www.valueplays.net/wp-content/up ... 4-2011.pdf
Many educational institutions - although not nearly enough - have realized this. At Harvard
Business School, the great quantitative thing that bonds the first-year class together is what they
call
decision tree theory. All they do is take high school algebra and apply it to real life
problems. And the students love it. They're amazed to find that high school algebra works in
life...
แปลว่า สมองเรามันคิดเป็น แมท อีลีเมนตาลี่ แอลยีบ้า ตลอดเวลา ไปซ้าย ไปขวา
ในการ เลือก นั้นเอง.
****
บางที เราก็ เรียกว่า กฏ บ้าง ทฤษฎี บ้าง ปรมัติสัจจะ บ้าง
แต่เหตุที่ ลุงชาลี มังเจอร์ ชอบเรียกว่า เมนทอล โมเดล เพราะ ท่านดูดเอา ทฤษฎีที่มีในโลกทั้งหมด มาสรุปใช้ ในการอธิบายพรรมติกรรมมนุษย์ psychology models .. เป็นส่วนใหญ่เพื่อ จะมา apply ในการอธิบาย โมเดล ธุรกิจ
***
ต่ออีกนิด
..
ต.ย
The iron rule of life: Only 20% of us can be in the top 5th.
Math model?
มันเห็นชัดอยู่แล้ว แต่บางที เราก็ไม่เห็น 20/100 เท่ากับ 1ใน5
ตรงนี้ ลุงชาลีเอาไว้ ค้าน ทฤษฎี ตลาด(ไร้)มีประสิทธิภาพ
.
.
top5.PNG

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 3:56 pm
โดย imerlot
แก้ไข
100 metal models
เป็น
100 me
ntal models
..................
"the
latticework{ a network-interconnect} of mental models"

.400

how
the science of hitting ted williams
become a model in Value Investing..
....
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 4:52 pm
โดย imerlot
“ Nature goes on her way, and all that to us seems an exception is really according to order. ”
— Johann Wolfgang von Goethe
เอาหินก้อน
เล็กๆ
เรื่องง่ายๆก่อน
MATH models
.....................
จะเข้าใจ 100 เมนทัลโมเดล เร็วที่สุด ง่ายที่สุด คือเข้าใจ แมทโมเดล ก่อน เพระว่า ตัวแปรน้อย..
ขอถอยไปไกลหน่อย
ปู่เบจามินแกรมแฮมผู้ให้กำเนิด Value Investing
ในปี 1949
http://www.princetonantiques.com/pab/pr ... s_id=24395
นั้น

ได้วาง
โมเดลใหญ่
ไว้
3 โมเดล
คือ
..........
1.
investment vs speculation
Post subject: Investor VS Speculator
http://203.150.20.122/~thaivi/board/vie ... =7&t=43938
2.
mr. market
3.
Margin of safety
.....
50ปี ต่อมา
ลุงบัฟ บทความได้เขียน ครั้งแรก
ที่ไม่ใช่ annual letter
และได้นำตีพิมพ์รวมอยู่ใน Intelligent Investor ฉบับหลังๆ
คือ "SuperInvestor of Graham and Dodgville"
พูดถึง
"การแข่งขันโยนเหรียญ หัว-ก้อย ระดับประเทศ"
ก็เป็นอีกโมเดลย่อย ที่อธิบาย MATH: Probability model กับ Speculative Model ของการชนะการโยนเหรียญ คือต่อให้ชนะ
มา 7 ครั้งซ้อน ติดๆกัน โอกาสในการ ชนะ:แพ้ ในครั้งที่แปด ไม่ได้มากขึ้น คือยัง 50:50 เหมือนเดิม เพียงแต่เดิมพันใหญ่ขึ้น
.....
แปลว่า
concept ที่ 1 ของ VI
ซึ่ง คือ "investment vs speculation" โดยปู่เบน
ต่อยอดโดย
ลุงบัฟ ด้วย "การแข่งขันโยนเหรียญ หัว-ก้อย ระดับประเทศ"
นั้น
อยู่ภายใต้
MATH model: ที่เรียกว่า ทฤษฎีความน่าจะเป็น ถูกคิดค้นขึ้น ครั้งแรกในโลก โดย พาสแคลและเฟอร์แมท 1623-1662
.............
http://ycombinator.com/munger.html
And it's not Fermat/Pascal.
It uses a very crude, shortcut-type of approximation. It's got elements of Fermat/Pascal in it. However, it's not good.
So you have to learn in a very usable way this very elementary math and use it routinely in life—just the way if you want to become a golfer, you can't use the natural swing that broad evolution gave you.
You have to learn—to have a certain grip and
swing in a different way to realize your full potential as a golfer.
If you don't get this elementary, but mildly unnatural,
mathematics of elementary probability into your repertoire, then
you go through a long life like a onelegged man in an asskicking contest. You're giving a huge advantage to everybody else.
One of the advantages of a fellow like Buffett, whom I've worked with all these years, is that he automatically thinks in terms of decision trees and the elementary math of permutations and combinations....
......
probability
ฮา ฮา..อย่าคิดมาก..

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 7:38 pm
โดย imerlot
สมมติว่าเรา
เป็นเจ้าของเรือ 1 ลำ
ออกทะเลไป แล้วเกิดล่ม
=ความเสี่ยง 100%
เปรียบเหมือนทั้ง มีหุ้นตัวเดียว
..
เรามี 10ลำ่ ออกทะเลไป 10 ทะเล
ล่มไป 1 ลำ เรา ศูนย์เสีย แค่ 1/10 หรือ 10%
..
กลายเป็น portfolio theory
คือการกระจายความเสี่ยง ที่ดี และเหมาะสม โดยการจัดสรร หุ้นอยู่ใน หลายอุตสากรรม
ช่วงลดความเสี่ยงของ port ได้
...
แต่ portfolio theory มันไม่ได้เป็น จริง เสมอไป
ปี 2008 มันลงทุกตลาด ทุก sector
คงเหมือนเป็น tsunami ใหญ่ ไปได้ หลายทะเลมั้ง
...
อย่างรูป

ดูดี ตรงมุมขวา
จะมีสีเขียว finance
เรือสีเขียวลำใหญ่สุด เลย คือ lehman(2008) ใหญ่กว่า enron(2005)สีเหลือง ถึง 10x
นับเรือ สีเขียวได้ถึง 7 ลำ ถ้าดูรูปนี้แล้ว port ก็ไม่ควรมี sector FIN เกินกว่า 20%
จำปี 1997 ได้ไหม ปิดที 56 financeเลย.
....
โมเดล อีลิเมนตาลี่ โปรเบบิ่ลิตี้ จึงสามารถ ใช้ได้ กับ การลงทุนอย่างดียิ่ง
อยู่ที่ ว่า เรามาใช้ อย่างไร
...
นี้คือจุดเด่น ของ แนวคิด ของลุงชาลี มังเกอร์ worldly wisdom
speech เต็ม
อ่านไปซัก ไป 20-30รอบ ถึงจะเข้าใจ ศัพย์เฉพาะแก มีมาก...ต้องไปหาพื้นมาก่อน.
A Lesson on Elementary, Worldly Wisdom As It Relates To Investment Management & Business
Charles Munger, USC Business School, 1994
http://ycombinator.com/munger.html

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 8:47 pm
โดย imerlot
Use Probability Model
to avoid
High probablility of failure..
..................................................
ในทาง
บัญชี หรือ บีสกูล
มี professor
คิด ค่าชี้วัด
มา 2 ตัว ซึ่ง ค่อนข้าง
แม่นยำ
on the bottom side
หมายถึง predict failure
1. z-score
The Z-Score or Altman Z Score was produced by Edward I. Altman in 1968.
If any company had a score less than 2.675
http://www.gurufocus.com/news/171580/a- ... the-zscore
2. f-score
ถ้าต่ำกว่า 2 มีโอกาสไปสูง
Post subject: มารู้จัก Piotroski F-score
http://203.150.20.122/~thaivi/board/vie ... =1&t=55815
..
screening criteria ของ Global100.org เมื่อปี 2013 นั้น เขาตัด บ. ที่มี F score ต่ำกว่า 5 ออก
Second screen: Eliminate all companies with an F score below 5.
แปลว่า เราอาจะตั้ง checklist ไว้ว่า หุ้นของเราต้องแข็งแกร็ง มี f score 3ปี ต่อเนื่องสูงกว่า 7 เป็นต้น
...
หรือใน
Post subject: ถ้าอยากทราบว่าบริษัทมีการ Reinvest ควรใช้ดัชนีตัวใดวัดครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=55989
จะมี ต.ย. ค่า ROIC เช่นจาเดิม double digit ลดลง เหลือ single digit
หรือบางอุตสาหกรรม ที่มี ค่าROIC ทั้ง อุตสากรรม ติดลบ เช่น airline
เท่ากับ เราควรมีหุ้น ในส่วนนี้ แต่น้อยของ พอร์ต
****
กลับกัน
เมื่อกี้ ดู downside
ลองดู ถ้า port มี แต่ superstock อันดับ 1-2
กลายเป็นว่า
เรา test แบบ
3. ลม
Creating Questions out of Thin Air
เลยว่า
"โอกาสที่หุ้นsuperstockเบอร์ 1-2 ของเราจะ moat หรือ market share ใน10ปี ลดลงหรือเพิ่มขึ้น มีกี%" เพราะอะไรบ้าง?
เป็น ต.ย. คิดแบบ Porbability model อีกวิธี
...

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 8:53 pm
โดย imerlot
ลุงบัฟ นั้น
เป็นผู้เชี่ยวชาญ
ในการใช้ model probability อย่างยิ่ง
ลองตามไปอ่านเรื่องยาวๆใน
Actually, The Odds Of Winning Warren Buffett's Billion Dollar Bracket Challenge Are Way Better Than 1 In 9,223,372,036,854,775,808
Read more:
http://www.businessinsider.com/odds-of- ... z33roIJUDF
...
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 9:31 pm
โดย imerlot
โมเดล ของ แชมป์ .400
the science of hitting ted williams

คุณ เท็ด วิเลี่ยม จดสถิติในการตีลูกเบสบอล
โดยเขา สร้างโมเดลไว้ใน สมองเป็นตาราง
และจะ รอ
เลือกที่จะีตีลูกที่เขา ทำได้ดีที่สุดเท่านั้น
สุดลูกยากๆ โอกาส น้อย เท็ด จะปล่อยผ่านไป
http://www.hardballtimes.com/ted-willia ... erception/
Black indicates areas where Williams hits the best, white indicates areas where he hit the worst.
As you can see, he was very confident about his abilities on pitches in the middle of the zone and on pitches up in the zone, and was very bearish on his ability to hit pitches low and away. The differential is extreme. In his best zones he hits .400, and in his worst zone he hits just .230, for a difference of .170.
ลุงบัฟ..
http://www.businessinsider.com/warren-b ... all-2012-3
"Ted Williams described in his book, "The Science of Hitting," that the most important thing—for a hitter—is to wait for the right pitch," he said. "And that's exactly the philosophy I have about investing... Wait for the right pitch, and... wait for the right deal. And it will come... It's the key to investing."

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 10:11 pm
โดย imerlot
probability นี้
บางครั้ง ก็อยู่ใน
physic ไม่ใช่ math
ก่อนข้าง ไป physic
เอา math อีกอันคือ
..
compound..
ภาษไทย
มีคุณ taratantara
Post subject: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=49480
เขียนไว้ดีมาก แล้ว จะไม่เขียนเพิ่ม
ส่วนในวิด๊โอ ของคุณ มอนิช แพบไบร์ ตอนที่สอนที่ โคลัมเบีย ลงไว้ก่อนหน้า
ที่เป็นตารางหมากรุก
แล้ว มี เมล็ดข้าว 2 4 8 16 แกเปิดวนตั้ง 2 รอบ
ผมจดโน๊ตได้ว่า
1. take simple idea seriosly
2. compound 8th wonder of the world
3. clone the best
4. license plate COMLB26
.....
ส่วน Compound
ได้ว่า
ก. move to next square in less than 3 years
ข. foucus absolut target 26%
ค. 1.26x1.26x1.26=2x
.......
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 10:39 pm
โดย imerlot
ข้ามมา
physic
กฏของ นิวตัน ข้อ1
An object at rest will remain at rest unless acted on by an unbalanced force.
An object in motion continues in motion with the same speed and in the same direction unless acted upon by an unbalanced force.
This law is often called
"the law of inertia".
http://teachertech.rice.edu/Participant ... /law1.html
What does this mean?
This means that there is a natural tendency of objects to keep on doing what they're doing. All objects resist changes in their state of motion. In the absence of an unbalanced force, an object in motion will maintain this state of motion
แปลว่า
ปั้มน้ำมัน อันที่ 2 เขาไม่ตอบสนอง เพราะ
natural tendency of objects to keep on
doing what they're doing. All objects
resist changes in their state of motion.
...
หรือสงสัยอยู่ว่า ทำไม คู่แข่ง อันดับ 1-2 ไม่ copy model ของ Geico บ้าง
ปล่อยให้กิน ตลาดเพิ่มขึ้นๆ เรื่อย
หรือทำไม คนอื่นไม่ copy WFC บ้าง เพราะยังไม่เข้าใจ ไม่เห็น หรือ น่าจะเป็นที่สุดคือ ข้อนี้
ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงนั่นเอง.
***********
อีกโมเดลหนึ่ง
ของ นิวตัน คนอังกฤษ ชอบ มากขนาดพิมพ์ไว้ ใน เหรียญ 2 ปอนด์ เลย
:"If I have seen further it is by standing on the shoulders of giants."
ผมก็ชอบมากเหมือนกัน
เมื่อ 30ปี ก่อน
ผมไม่มีโมเดลทีดี
หลงไปfollow-modelเกี่ยวกับหุ้น คือเทคนิคคัล เขียนโดยนักเต้น
ผมซื้อ หุ้นโดย ซื้อ valueline สมัยนั้น อาทิตย์ตีพิมพ์ครั้ง แล้วก็ดู กราฟเบรคเอ้า ก็ซื้อ สุดท้ายเจ้ง
เลยหยุดออกจากตลาดไป 20-30ปี เสียโอกาสไปเปล่า เพิ่งจะมารู้จักปู่เบนเมื่อปี 2009 ก่อนสมัคร thaivi 6 เดือน
จึงเปิดโลกใหม่..
เรียนรู้จาก fire
โมเดลนี้ขอเรียกว่า
"Only learn from the Great and Right proven master; follow wrong master loss your life"
...
หลังจากอ่านปู่เบน
หนังสือหุ้นที่ผมทิ้งไปมี 3 เท่าอันนี้
ตอนนี้เป้าหมายคือ อ่าน annual letter ให้หมด
อ่าน ลุงชารลี ให้ หมด
แกะ transcript วิดีโอ ลุงบัฟให้หมด
และสุดท้าย Security Ananlysis อย่างน้อยเท่าลุงบัฟ 4 รอบ
..
ch49.jpg

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 10:53 pm
โดย imerlot
ต่อด้วย
ิีbusiness/economics metal models
Economics
- Utility
- Diminishing Utility
- Supply and Demand
- Scarcity
- Opportunity Cost
- Marginal Cost
- Comparative Advantage
- Trade-offs
- Price Discrimination
- Positive and Negative Externalities
- Sunk Costs
- Moral Hazard
- Game Theory
- Prisoners’ Dilemma
- Tragedy of the Commons
- Bottlenecks
- Time value of Money
และขอเพิ่ม
ของลุงบัฟเอง เรียกว่า
MOAT
เคนเขียนไว้ใน
Post subject: 'Wide Economic Moat'
http://203.150.20.122/~thaivi/board/vie ... =1&t=52403
......
กับที่เรา วิเคาระห์ กันในห้องนี้
เช่น
model หมอผ่าตัดเมร็ง ของ Geico
model IOS close loop ของ Amex
model toll bridge to Shale oil ของ BNSF
model ธนาคารเพื่อการลงทุน ของ WFC
............
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 10:55 pm
โดย imerlot
ตกไป
model
2m to 2tillion ของ COKE
...
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 11:06 pm
โดย imerlot
เรื่อง
ของ
ted william
มีอยู่ใน annual letter
ปี 1994
:
http://www.berkshirehathaway.com/letters/1994.html
Nevertheless, we will stick with the approach that got us
here and try not to relax our standards. Ted Williams, in
The Story of My Life, explains why: "My argument is, to be
a good hitter, you've got to get a good ball to hit. It's the
first rule in the book. If I have to bite at stuff that is out
of my happy zone, I'm not a .344 hitter. I might only be a .250
hitter." Charlie and I agree and will try to wait for
opportunities that are well within our own "happy zone."
............
In the words of Charlie Munger
“I didn’t become a billionaire by chasing after mediocre opportunities.”
Read more:
http://www.oldschoolvalue.com/blog/inve ... z33sLr7Yse
....
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 11:15 pm
โดย imerlot
เรื่อง
fallacy
หรือ เหตุผลวิบัติ นั้น
ไม่ได้ อยู่ ใน
100 + mental model
แต่จุดประสงค์ของ latticework ก็คือดูดเอาความรู้ จาก multiple disciplines
ผมจำเอามาลงด้วย
ชอบมากอันนี้
บทละคร
นิทานสอนใจการใช้เหตุผล
เรื่อง ไปเป็นนายอำเภอ
มีตัวละคร 3 คน
คนที่หนึ่ง เป็น ผู้เล่าเรื่องบนเวที ให้ยืนที่มุมเวทีด้านใดด้านหนึ่งตลอดเวลา พูดว่า
“ฮุ่ยจื้อ เป็นบัณฑิตสอบจอหงวนได้ และกำลังเดินทางไปรับตำแหน่งนายอำเภอที่เมืองเหลียง เขาเดินทางมาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง จึงว่าจ้างคนแจวเรือ ให้ช่วยพาข้ามแม่น้ำ”
คนที่สอง เป็น ฮุ่ยจื้อ ทำท่าร้อนรนเดินทาง พูดว่า
“เดี๋ยวไม่ทัน ไม่ทัน จะต้องไปรับตำแหน่งให้ทันก่อนพระอาทิตย์ตก”
ฮุ่ยจื้อ เดินมาพบคนแจวเรือ จึงพูดว่า “พาข้าข้ามไปฝั่งโน้นหน่อย รีบๆ นะ”
คนที่สาม เป็น คนแจวเรือ พูดว่า “เชิญเลยท่าน ค่อยๆ ก้าวลงเรือมา”
ฮุ่ยจื้อ ทำท่าก้าวลงเรือ แต่ด้วยความรีบร้อน ทำให้ตกน้ำ น้ำลึกพอสมควร ฮุ่ยจื้อช่วยตัวเองไม่ได้ คนแจวเรือต้องช่วยฉุดขึ้นจากน้ำ แล้วพูดว่า “ทำไมท่านจึงรีบร้อนนัก”
ฮุ่ยจื้อ “ข้าจำเป็นต้องเดินทางไปรับตำแหน่งนายอำเภอเมืองเหลียง”
คนแจวเรือ “ท่านนะหรือ จะไปเป็นนายอำเภอ แค่ตกลงไปในน้ำเมื่อครู่ ยังช่วยตัวเองไม่ได้ หากข้าไม่ช่วยขึ้นเรือ ก็คงยังอยู่ในน้ำ แล้วเช่นน้ำจะให้ไปเป็นนายอำเภอได้อย่างไร”
ผู้เล่าเรื่องบนเวที พูด
“เอ๊ะ คนแจวเรือ เขาอ้างเหตุผลผิดนะ สงสัยเหลือเกินว่าท่านฮุ่ยจื้อจะตอบอย่างไร”
ฮุ่ยจื้อ “แม้ว่าข้าพเจ้าจะว่ายน้ำไม่คล่อง แต่ก็ไม่ใช่สาเหตุสำคัญที่จะทำให้ข้าพเจ้าเป็นนายอำเภอไม่ได้นะ ท่านคนแจวเรือ ที่ข้าพเจ้าเป็นที่ยอมรับของทางบ้านเมืองให้รับผิดชอบหน้าที่นี้ เพราะข้าพเจ้ามีความรู้เรื่องการปกครอง การทำนุบำรุงบ้านเมืองนะท่าน”
คนแจวเรือ “ต้องขอโทษด้วยนายท่าน ข้าพเจ้าทราบแล้ว”
คนแจวเรือ ทำท่าแจวเรือจนถึงฝั่ง ฮุ่ยจื้อจ่ายค่าตอบแทน ขณะนั้นเอง ฮุ่ยจื้อเห็นต้นไม้ (คนเล่าเรื่อง ทำตัวเป็นต้นไม้)
ฮุ่ยจื้อ “ท่านๆ คนแจวเรือ ต้นไม้นี้มีคาคบไม้ที่มีน้ำขังอยู่เต็ม มีปลาว่ายน้ำอยู่ด้วย อัศจรรย์แท้ เร็วๆ มาดูกัน”
คนแจวเรือ ทำท่าผูกเรือ แล้วเดินไปสบทบกับฮุ่ยจื้อ ที่ต้นไม้
ฮุ่ยจื้อ “แปลกแท้ๆ ปลาที่ไหนจะมาอยู่ในแอ่งน้ำที่คบไม้นี้ได้ ท่านว่าไหม ท่านคนแจวเรือ ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นเลย ข้าพเจ้าว่าปลาตัวนี้จะต้องเป็นมัจฉาศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน”
คนแจวเรือ “มิได้ท่าน ปลาตัวนี้เป็นปลาธรรมดา มิได้เป็นมัจฉาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อคืนนี้ฝนตก น้ำก็ขังอยู่ในคาคบไม้นี้ ข้าพเจ้าเองที่นึกสนุก เอาปลาเป็นๆ ตัวหนึ่งปล่อยลงไป กะว่าเย็นนี้จะนำกลับไปทำอาหารรับประทานที่บ้าน”
คนเล่าเรื่อง ซึ่งทำตัวเป็นต้นไม้ พูด
“เอาล่ะสิ ฮุ่ยจื้อไปอ้างเหตุผลผิดๆ แบบนั้น แล้วจะตอบคนแจวเรืออย่างไรล่ะนี่”
ฮุ่ยจื้อ “ข้าพเจ้านี้ ขาดความรอบคอบนัก ขอขอบคุณท่านคนแจวเรือ ที่เตือนสติข้าพเจ้า”
คนแจวเรือ “ข้าพเจ้าหรือ? ข้าพเจ้ามิกล้าเช่นนั้น!”
ฮุ่ยจื้อ “ท่านได้เตือนสติข้าพเจ้า โดยที่ท่านมิได้ตั้งใจ บัดนี้ข้าพเจ้ารู้แล้วว่า ตนเองยังขาดคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการเป็นนายอำเภอ เพราะไปอ้างความไม่รู้ แล้วสรุปว่าปลาต้องเป็นมัจฉาศักดิ์สิทธิ์”
คนแจวเรือ “ท่านอ้างความไม่รู้ ไม่เคยเห็น ไม่เคยมีประสบการณ์ แล้วสรุปไปต่างๆ นาๆ นั้นเป็นความเห็นที่ผิด ที่บกพร่องแน่นอน แต่ถึงอย่างไร ข้าพเจ้าก็เห็นว่าท่านยังสามารถเป็นนายอำเภอได้”
ฮุ่ยจื้อ “ทำไมล่ะท่าน”
คนแจวเรือ “เพราะเมื่อท่านรู้ข้อเท็จจริงมากขึ้นแล้ว ท่านก็ยอมรับผิด และพร้อมจะเปลี่ยนความเข้าใจให้ถูกต้องไงล่ะ คุณสมบัตินี้ก็สำคัญเหมือนกันสำหรับผู้ปกครอง ข้าพเจ้าเห็นว่า บัดนี้เวลาล่วงมามากแล้ว ขอให้นายท่านรีบเดินทางเถิด จะได้ไปทันรับตำแหน่ง อย่าได้เปลี่ยนใจล้มเลิกการเดินทางเลย”
ฮุ่ยจื้อ ทำท่าลา แล้วเดินทางต่อ คนแจวเรือเดินไปอีกทางหนึ่ง ทำท่านั่งในเรือ
คนเล่าเรื่อง หยุดทำตัวเป็นต้นไม้ แล้วพูดว่า
“นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าใครก็สามารถอ้างเหตุผลผิดได้ ดังนั้น เราทุกคนควรระวังเรื่องการใช้เหตุผลให้มากขึ้น”
ผศ.พกุล แองเกอร์ สรุปและเรียบเรียงจาก เรื่องสั้นของจีน
source:
http://math1.snru.ac.th/UserFiles/File/ ... 20%202.doc

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 11:23 pm
โดย imerlot
เป็นเรื่องที่ อ่านสนุก และได้ ข้อคิดไป ในตัว
ไปอ่านใน
http://w2.pdamobiz.com/FORUM/printer_fr ... TID=653193
บางส่วนจาก "หลายรักของโดบี้" ตอน ความรักไม่ต้องหลักตรรกวิทยา (Love is Fallacy) แปล: เทศภักดิ์ นิยมเหตุ
ต.ย.
"ดิคโต้ ซิมปลิซิตี้ หมายถึงข้อโต้เถียงที่ตั้งอยู่บนหลักเกณฑ์ของข้อคิดเห็นที่คลุมเครือ ไม่มีอะไรเจาะจง ยกตัวอย่างอย่างเราพูดว่า...กายบริหารเป็นของดี เพราะฉะนั้นทุกๆ คนควรออกกำลังกาย"
"แหม ฉันเห็นด้วยค่ะ" พอลลี่พูดด้วยความจริงใจ "ฉันหมายความว่ากายบริหารเป็นของวิเศษ ช่วยทำให้ร่างกายสมสัดสมส่วน และยังอะไรต่ออะไรอีกมาก"
"พอลลี่" ผมชี้แจงอย่างอ่อนโยน "คำพูดที่ยกตัวอย่างไม่มีทางที่จะถูกหลักตรรกวิทยาได้ การพูดว่ากายบริหารเป็นของดี เป็นการแสดงความเห็นที่คลุมเครือ ดูง่ายๆ ก็ได้ว่า ถ้าหากคุณเป็นโรคหัวใจ กายบริหารจะเป็นของดีไปได้ยังไง
...
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 11:43 pm
โดย imerlot
business/economics mental models
อีกแบบนึง..มีซ้ำบ้าง
source:
https://sites.google.com/site/kpinvesti ... tal-models
business
Scale
Distribution
5 Forces of Porter
Pricing Power
Brand
Business Model
Business Metric (Hedgehog concept)
Max/Min of 1 or 2 variables:
"Early Bird" / "surfing":
Specialization
Disruptive Technology.
Experience Curve
Moat.
Economies and Dis-economies of scale
.............
econ
Opportunity Cost
Creative Destruction
Gresham’s Law
Comparative Advantage
Invisible Hand
Tragedy of Commons
Tobin’s Q
....

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 06, 2014 11:46 pm
โดย imerlot
จบ
แล้ว
๏ ความรู้ผู้ปราชญ์นั้น นักเรียน
ฝนทั่งเท่าเข็มเพียร ผ่ายหน้า
คนเกียจเกลียดหน่ายเวียน วนจิต
กลอุทกในตระกร้า เปี่ยมล้นฤามี๚ะ๛

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 07, 2014 8:18 am
โดย chaitorn
imerlot เขียน:เรื่อง
fallacy
หรือ เหตุผลวิบัติ นั้น
ไม่ได้ อยู่ ใน
100 + mental model
แต่จุดประสงค์ของ latticework ก็คือดูดเอาความรู้ จาก multiple disciplines
ผมจำเอามาลงด้วย
ชอบมากอันนี้
บทละคร
นิทานสอนใจการใช้เหตุผล
เรื่อง ไปเป็นนายอำเภอ
มีตัวละคร 3 คน
คนที่หนึ่ง เป็น ผู้เล่าเรื่องบนเวที ให้ยืนที่มุมเวทีด้านใดด้านหนึ่งตลอดเวลา พูดว่า
“ฮุ่ยจื้อ เป็นบัณฑิตสอบจอหงวนได้ และกำลังเดินทางไปรับตำแหน่งนายอำเภอที่เมืองเหลียง เขาเดินทางมาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง จึงว่าจ้างคนแจวเรือ ให้ช่วยพาข้ามแม่น้ำ”
คนที่สอง เป็น ฮุ่ยจื้อ ทำท่าร้อนรนเดินทาง พูดว่า
“เดี๋ยวไม่ทัน ไม่ทัน จะต้องไปรับตำแหน่งให้ทันก่อนพระอาทิตย์ตก”
ฮุ่ยจื้อ เดินมาพบคนแจวเรือ จึงพูดว่า “พาข้าข้ามไปฝั่งโน้นหน่อย รีบๆ นะ”
คนที่สาม เป็น คนแจวเรือ พูดว่า “เชิญเลยท่าน ค่อยๆ ก้าวลงเรือมา”
ฮุ่ยจื้อ ทำท่าก้าวลงเรือ แต่ด้วยความรีบร้อน ทำให้ตกน้ำ น้ำลึกพอสมควร ฮุ่ยจื้อช่วยตัวเองไม่ได้ คนแจวเรือต้องช่วยฉุดขึ้นจากน้ำ แล้วพูดว่า “ทำไมท่านจึงรีบร้อนนัก”
ฮุ่ยจื้อ “ข้าจำเป็นต้องเดินทางไปรับตำแหน่งนายอำเภอเมืองเหลียง”
คนแจวเรือ “ท่านนะหรือ จะไปเป็นนายอำเภอ แค่ตกลงไปในน้ำเมื่อครู่ ยังช่วยตัวเองไม่ได้ หากข้าไม่ช่วยขึ้นเรือ ก็คงยังอยู่ในน้ำ แล้วเช่นน้ำจะให้ไปเป็นนายอำเภอได้อย่างไร”
ผู้เล่าเรื่องบนเวที พูด
“เอ๊ะ คนแจวเรือ เขาอ้างเหตุผลผิดนะ สงสัยเหลือเกินว่าท่านฮุ่ยจื้อจะตอบอย่างไร”
ฮุ่ยจื้อ “แม้ว่าข้าพเจ้าจะว่ายน้ำไม่คล่อง แต่ก็ไม่ใช่สาเหตุสำคัญที่จะทำให้ข้าพเจ้าเป็นนายอำเภอไม่ได้นะ ท่านคนแจวเรือ ที่ข้าพเจ้าเป็นที่ยอมรับของทางบ้านเมืองให้รับผิดชอบหน้าที่นี้ เพราะข้าพเจ้ามีความรู้เรื่องการปกครอง การทำนุบำรุงบ้านเมืองนะท่าน”
คนแจวเรือ “ต้องขอโทษด้วยนายท่าน ข้าพเจ้าทราบแล้ว”
คนแจวเรือ ทำท่าแจวเรือจนถึงฝั่ง ฮุ่ยจื้อจ่ายค่าตอบแทน ขณะนั้นเอง ฮุ่ยจื้อเห็นต้นไม้ (คนเล่าเรื่อง ทำตัวเป็นต้นไม้)
ฮุ่ยจื้อ “ท่านๆ คนแจวเรือ ต้นไม้นี้มีคาคบไม้ที่มีน้ำขังอยู่เต็ม มีปลาว่ายน้ำอยู่ด้วย อัศจรรย์แท้ เร็วๆ มาดูกัน”
คนแจวเรือ ทำท่าผูกเรือ แล้วเดินไปสบทบกับฮุ่ยจื้อ ที่ต้นไม้
ฮุ่ยจื้อ “แปลกแท้ๆ ปลาที่ไหนจะมาอยู่ในแอ่งน้ำที่คบไม้นี้ได้ ท่านว่าไหม ท่านคนแจวเรือ ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นเลย ข้าพเจ้าว่าปลาตัวนี้จะต้องเป็นมัจฉาศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน”
คนแจวเรือ “มิได้ท่าน ปลาตัวนี้เป็นปลาธรรมดา มิได้เป็นมัจฉาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อคืนนี้ฝนตก น้ำก็ขังอยู่ในคาคบไม้นี้ ข้าพเจ้าเองที่นึกสนุก เอาปลาเป็นๆ ตัวหนึ่งปล่อยลงไป กะว่าเย็นนี้จะนำกลับไปทำอาหารรับประทานที่บ้าน”
คนเล่าเรื่อง ซึ่งทำตัวเป็นต้นไม้ พูด
“เอาล่ะสิ ฮุ่ยจื้อไปอ้างเหตุผลผิดๆ แบบนั้น แล้วจะตอบคนแจวเรืออย่างไรล่ะนี่”
ฮุ่ยจื้อ “ข้าพเจ้านี้ ขาดความรอบคอบนัก ขอขอบคุณท่านคนแจวเรือ ที่เตือนสติข้าพเจ้า”
คนแจวเรือ “ข้าพเจ้าหรือ? ข้าพเจ้ามิกล้าเช่นนั้น!”
ฮุ่ยจื้อ “ท่านได้เตือนสติข้าพเจ้า โดยที่ท่านมิได้ตั้งใจ บัดนี้ข้าพเจ้ารู้แล้วว่า ตนเองยังขาดคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการเป็นนายอำเภอ เพราะไปอ้างความไม่รู้ แล้วสรุปว่าปลาต้องเป็นมัจฉาศักดิ์สิทธิ์”
คนแจวเรือ “ท่านอ้างความไม่รู้ ไม่เคยเห็น ไม่เคยมีประสบการณ์ แล้วสรุปไปต่างๆ นาๆ นั้นเป็นความเห็นที่ผิด ที่บกพร่องแน่นอน แต่ถึงอย่างไร ข้าพเจ้าก็เห็นว่าท่านยังสามารถเป็นนายอำเภอได้”
ฮุ่ยจื้อ “ทำไมล่ะท่าน”
คนแจวเรือ “เพราะเมื่อท่านรู้ข้อเท็จจริงมากขึ้นแล้ว ท่านก็ยอมรับผิด และพร้อมจะเปลี่ยนความเข้าใจให้ถูกต้องไงล่ะ คุณสมบัตินี้ก็สำคัญเหมือนกันสำหรับผู้ปกครอง ข้าพเจ้าเห็นว่า บัดนี้เวลาล่วงมามากแล้ว ขอให้นายท่านรีบเดินทางเถิด จะได้ไปทันรับตำแหน่ง อย่าได้เปลี่ยนใจล้มเลิกการเดินทางเลย”
ฮุ่ยจื้อ ทำท่าลา แล้วเดินทางต่อ คนแจวเรือเดินไปอีกทางหนึ่ง ทำท่านั่งในเรือ
คนเล่าเรื่อง หยุดทำตัวเป็นต้นไม้ แล้วพูดว่า
“นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าใครก็สามารถอ้างเหตุผลผิดได้ ดังนั้น เราทุกคนควรระวังเรื่องการใช้เหตุผลให้มากขึ้น”
ผศ.พกุล แองเกอร์ สรุปและเรียบเรียงจาก เรื่องสั้นของจีน
source:
http://math1.snru.ac.th/UserFiles/File/ ... 20%202.doc

ผมชอบบทสรุปเรื่องนี้มากเลยครับ อ. Imelot
มันสะท้อนใน 2 เรื่องที่สำคัญของมนุษย์
1. สิ่งที่เห็น อาจไม่เป็นเหตุเป็นผลกับเป้าหมาย เราต้องมีความสามารถที่ต้องแยกเหตุผลที่ตรงกับเป้าหมายหลักให้ถูก กับบางเหตุการณ์ที่ไม่ได้เป็นเหตุที่ทำให้้เราไม่ถึงเป้าหมายให้ได้
2. สิ่งที่เห็น อาจมีการอ้างเหตุที่ผิด เราต้องมีความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ตามข้อเท็จจริง โดยไม่ยืดมั่นกับความยึดมั่นถือมั่นเดิมที่มีอยู่ หรือ อัตตา และเมื่อรู้แล้วตามข้อเท็จจริงใหม่ ต้องกล้ายอมรับ ต้องหาทางแก้ไข อย่าแก้ตัว และปรับปรุงตามความเห็นที่ถูกต้องโดยไม่ลังเล

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 07, 2014 8:10 pm
โดย Nevercry.boy
อ. Imerlot. ดู clip buffett. ที่ๆหนเป็นหลักครับ
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 07, 2014 8:26 pm
โดย imerlot
เข้า
youtube
seach
buffett
UGA terry
speech นี้
สมบูรณ์
กว่า florida
เคยแปะไว้ใน กระทู้นี้แล้ว
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 07, 2014 8:29 pm
โดย imerlot
[youtube]2a9Lx9J8uSs[/youtube]
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 07, 2014 8:42 pm
โดย imerlot
studebaker dow30
มีพูดถึง บ. รถยนต์ 2000 บ ตอนหลังเหลือ 3 บ.
studebaker เป็นหนึ่งใน นั้น และ studebaker เคยอยู่ใน dow 30 ด้วย
studebaker มีพูดถึงใน Security Analysis หลายบท
"So how you pick three winner out of 2,000"
มีพูดถึง อีสป ผมเขียนไว้ก่อนหน้า
พูดถึง dow 100 ปี ใน 8 นาที
ดูจนเกือบจะท่องได้แล้วครับ
...
ดูใหม่แต่ละครั้ง ก็เพิ่งเข้าใจ บางอย่างขึ้น
ความรู้ ลุงบัฟ เยอะ ครับ
ฟังจาก original นี้ไม่มี ตกหล่นครับ
...
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2014 12:12 am
โดย imerlot
ช่วงนี้
เป็น ช่วง
ANNUAL MEET NOTEs
จะมีคนทำแล้วปล่อย ออกมาเยอะต้องรีบ save เพราะนานไปอาจหายได้
อย่างของปี 2010 นี่ พูด ถึง "Buffett spent a great deal of time discussing the Goldman Sachs"
.....
อันนี้ล่าสุด ยังไม่ได้อ่านเหมือนกัน ของ GuruFocus..22หน้าครับ
berkshire-hathaway-2014-annual-meeting-notes
http://www.gurufocus.com/news/258073/be ... ting-notes
http://www.scribd.com/document_download ... urce=embed
....
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2014 3:43 pm
โดย kraikria
อ. imerlot เป็นนักปราชญ์ จริงๆ ผมนึกถึง Charlie Munger เลย
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2014 3:58 pm
โดย chaitorn
ยินดีต้อนรับครับคุณkraikria ครับ มาร่วม แจมได้นะครับในกระทู้นี้ครับ

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2014 4:03 pm
โดย kraikria
ขออ่านก่อนครับ
คุณ Chaitorn สรุปทุกอย่างได้ดีมากเหมือนเคยครับ ผมมั่นใจว่าถ้าผมนั่งข้างคุณ Chaitorn สมัยเรียน ผมต้องขอ Note ของคุณ Chaitorn ไป Copy อ่านแน่นอน

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2014 4:07 pm
โดย Nevercry.boy
kraikria เขียน:ขออ่านก่อนครับ
คุณ Chaitorn สรุปทุกอย่างได้ดีมากเหมือนเคยครับ ผมมั่นใจว่าถ้าผมนั่งข้างคุณ Chaitorn สมัยเรียน ผมต้องขอ Note ของคุณ Chaitorn ไป Copy อ่านแน่นอน

Welcome to the jungle. ครับ อ. ไกล่เกลี่ย
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2014 10:40 pm
โดย imerlot
สุ จิ ปุ ลิ แค่ "หัวใจ" พอได้ ...ส่วน "นัก" ปราชญ์ หรือ "อจ."
(จิ้วกุ้ย) ปีศาจสุรา..อย่างผม ได้แต่พยายาม ขอใ้ห้อย่าเรียกเลย
...
เคยอ่าน ของ (อดีต ประธาน VI) "สามัญชน"
Post subject: <<< ประโยชน์ของการตอบกระทู้บ่อยๆ >>>
http://203.150.20.122/~thaivi/board/vie ... =35&t=7876
สมัยเด็กๆคุณครูเคยสอนว่า หัวใจนักปราชญ์ ประกอบด้วย สุ จิ ปุ ลิ ได้แก่
1. สุ ( ตัวเต็มจำไม่ได้ครับ ) หมายถึง การฟัง( ปัจจุบันผมขอเพิ่มการอ่านเข้าไปด้วย ) ผมคิดว่าผมฟังแล้วก็ไม่ได้เข้าใจทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สมมติว่าได้สักห้าส่วน เพราะหลายอย่างผมฟังแล้วก็ไม่เข้าใจ จึงต้องต่อด้วยข้อ 2.
2. จิ ( ตัวเต็มจำไม่ได้แล้วเดาว่าเป็นจิตตะ อ้อ..ตัวแรกเดาว่าสุตะครับ ผู้รู้ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ ถ้าผิด ) จิ หมายถึงจินตนาการ หรือคิดนั่นแหละครับ ความรู้ที่ได้จาก สุ มาห้าส่วนเมื่อผ่าน จิ อาจจะเพิ่มเป็นหกส่วน ถ้าอยากได้มากขึ้นต้องตามไปทำข้อ 3. ครับ
3. ปุ ( อันนี้จำแม่นครับ ย่อมาจาก ปุจฉาครับ ) หมายถึงตั้งคำถาม ถ้าไม่เข้าใจก็ถาม ความรู้เพิ่มมาเจ็ดส่วนเลยครับ และอาจจะเพิ่มถึงแปดส่วนก็ได้ สำคัญที่ข้อสุดท้ายครับ ผมมองข้ามมานาน
4. ลิ ( ย่อมาจากลิขิตที่แปลว่าเขียนนี่แหละครับ ) เดิมทีผมเข้าใจว่าการเขียนมีประโยชน์ในแง่การบันทึกความจำ ซึ่งจริงๆแล้วก็ใช่ครับ แต่ผมรู้สึกบ่อยๆว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น
ถ้าประโยชน์มันเป็นแค่บันทึกความจำก็หมายความว่าความรู้เจ็ดถึงแปดส่วนมันก็ยังคงอยู่อย่างนั้น และไม่มากกว่านั้น ถ้าเราไม่บันทึกนี่สิ ความรู้อาจจะลดลงเหลือสี่ส่วนหรือไม่เหลือเลย แต่กลายเป็นว่าช่วงที่บันทึกเจ้าตัวความรู้มันเพิ่มขึ้นเป็นแปดส่วนครึ่ง หรือเพิ่มเป็นเก้าส่วนเลย ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
ผมเดาเอาว่า ระหว่างที่เราเขียน สมองของเราได้ทบทวนความรู้เก่าๆ หลายสิ่งหลายอย่างที่ยังคลุมเครือ หาข้อสรุปไม่ได้ว่ามันเป็นยังไงแน่ แต่เมื่อเราเริ่มเขียน มันกลับเริ่มชัดขึ้นๆ ของมันเอง แปลกไหมครับ .???... สุดท้าย..บางทีเราได้ความรู้ใหม่ๆที่เราคิดไม่ถึงก็มี
ผมก็เลยสรุปและขอเสนอแนะเพื่อนๆว่า การได้มาเขียนโพสท์ในกระทู้บ่อยๆ นอกจากจะได้แลกเปลี่ยนความรู้กันแล้ว มันยังช่วยให้เราสะสางความคิดของเราเองด้วย
~~~
..
ชอบมากครับจำไว้ใช้ ครับ...ทุกครั้งที่เขียนได้ ความรู้ มาใหม่ 9 ส่วนอย่างที่ คุณหมอสามัญชน ว่าจริงๆครับ
ยิ่งมีเพื่อนๆพี่ๆน้องมาแจม ถามบ้างตอบบ้าง ช่วยสรุปให้ชัดบ้าง ความรู้มัน ได้ภาพชัดขึ้น ครับ ...
.....
welcome k. kraikria n very thank for good word ครับ.
...

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2014 11:12 pm
โดย imerlot
ขอต่อ เรื่องใหม่

ขึ้น เรื่อง
Long lasting companies: why some sectors last longer than other?
จะพาไปรู้จักกับ (จะอย่างย่อที่สุด)
"studebaker"ซึ่งเป็น บ. ที่ ลุงบัฟ พูดบ่อย และใน Security Analysis ก็มีหลายที่
จะได้เพิ่ม พื้นความรู้
Studebaker had enjoyed earlier success and was the first independent automaker to produce a V8 engine,[9] a 232.6 cubic inch, 120 hp unit, the first low-priced V8. The company's peak year was 1950, when it produced and sold 329,884 units.[10] Studebaker struggled during the first half of the decade. The cars had styling ahead of their time but were overpriced when compared to the offerings of the Big Three. Low sales and financial difficulties led to a merger with Packard in 1954, itself in financial trouble.[10] The new company, Studebaker-Packard Corporation, retired the Packard name in July 1958,[11][12] but continued marketing automobiles under the Studebaker name until 1966.[13]
"studebaker" เคยอยู่ใน dow30 ฉลองครบรอบ 100ปี เมื่อ ปี 1952 หลังจากนั้นประมาณ 10กว่าปี ปิดไป ว่ากันว่า
"studebaker"เป็นผู้ผลิต เครื่องยนต์ v8 รายแรก และเป็น automaker ที่คนงานมี ค่าแรงสูงที่สุด
เคยเป็นผู้ผลิต รถยุธโธปรกรณ์ ให้กองทัพใน ช่วงสงครามโลกด้วย
ภาพประกอบมีใน
http://www.stude100.com/stu/Pg4/pg4.php
.....
ส่วนแบ่งตลาดปี 1950s
en.wikipedia.org american auto indus 50.png
...
"studebaker" อยู่ในตลาด ที่มัน มี การแข่งขันสูง คู่แข่งๆ ก็เก่งทุกราย
...
INDUSTRY CONSOLIDATION
*****
http://en.wikipedia.org/wiki/American_a ... _the_1950s
In American automobile parlance, the Big Three refers to General Motors (GM), Ford and Chrysler, each of which had bought out other companies to become conglomerates earlier in the 20th century. Together they accounted for 70 percent of auto sales.[4] Their combined market share grew over the following decades, declining only slightly after World War II, but the
Big Three soon came to dominate the industry, claiming 94 percent of all automobile sales in 1955, 1956 and 1959.[5] The industry grew at a pace never before seen, and the broader industry soon employed one-sixth of the entire American workforce.[6]
...
ช่วงบูม
ดูยอดขาย หลังสงคราม รถใหม่ 1:3 ประชากร (ช่วงนั้น ยางพาราบ้านเราขายดี ระเบิด)
A total of almost 58 million cars were produced and sold during the 1950s by the American manufacturers. Compared to the total population of the United States by the end of the decade, 179,323,175,[15] that is almost one new vehicle for every three living persons of all ages.
...
ที่มหาลัยโคลัยเบีย ยังเหลือ ตึก ชื่อ "studebaker building" วันนี้ ซื้อมาจากตึกร้าง..
http://www.columbia.edu/cu/computinghis ... lding.html
ที่ ดีทอย studebakerที่รวมกับpackard ภายหลัง packard กลายเป็น argest-abandoned-factory-in-the-world-the-packard-factory-detroit จนถึงทุกวันนี้ก็ยังร้างอยู่
http://sometimes-interesting.com/2011/0 ... y-detroit/
..
..
Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2014 11:20 pm
โดย kraikria
อ่านแล้ว ย่อยไม่ค่อยทัน คงต้องอ่านอีกหลายๆรอบ
- The most stable business. น่าสนใจมากครับ คำตอบของปู่บัฟ Surprise ผมพอควรเลย ตอนแรกคิดว่าแกซื้อ GEICO เพราะ GEICO มี Business Model ที่ดีแถมปู่บัฟยังเอาเงินไปเล่นต่อได้ ไม่น่าเชื่อว่าแกให้เครดิต GEICO มากกว่า Coke เสียอีก
- Runway กับ Moat ผมเอามารวมกันเพราะ Moat ที่กว้างและลึกก็จะทำให้ Runway ยาว (ตัวแปรเดียวกันนั่นเอง) การหาบริษัทที่ Runway ยาวๆคงไม่ใช่แค่ ดูอดีตว่ามี Runway มายาวขนาดไหนอย่างเดียว แต่เราคงต้องเข้าใจด้วยว่าเค้าสร้าง Runway ต่อไปในอนาคตอีกได้อย่างไร วิธีเดิมๆยังจะใช้ได้อีกไหม? มนุษย์ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบันมีความต้องการปัจจัย 4 มีแรงขับทางเพศ มีความต้องการตามลำดับขั้นของ Maslow สิ่งนี้คงไม่เปลี่ยน แต่ผมคิดว่าพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นช้าหรือเร็วก็อาจเปลี่ยนได้เสมอ ดังนั้นบริษัทที่ใช้วิธีเดิมๆเพื่อครองใจผู้บริโภคนั้นต้องแน่ใจจริงๆว่าวิธีเดิมๆดังกล่าวยังได้ผลอยู่ตลอด ผมคิดว่าแม้แต่ Coke เองก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่เฉย ถ้าอยู่กับความคิดเดิมๆอย่างเดียวทำการตลาดเดิมๆ Product เดิมๆ มันจะอยู่มาเป็นร้อยปีและครองตลาดส่วนใหญ่ของโลกได้อย่างไร
- การเดินทางไกลและเส้นชัยของนักลงทุนที่ อ.NB พูกถึง ผมคิดว่ามันไม่มีหรอกครับเส้นชัยหน่ะ มันเป็นเส้นที่เราขีดเองต่างหาก ถ้าเราคิดว่าเราถึงเส้นชัยแล้วเราก็ถึง ถ้าเราไม่คิดว่ามันถึง มันก็ไม่ถึง ปู่บัฟลงทุนตลอดชีวิตและยังทำอยู่โดยไม่เกษียณแสดงว่าแกไม่ได้มองเส้นชัย แต่การเดินทางของปู่เต็มไปด้วยความสุขในสิ่งที่ชอบ ผมคิดว่าการลงทุนนั้นผู้ประสบความสำเร็จต้องมี Passion มากกับการลงทุน ปู่บัฟอ่าน Annual report วันละหลายๆเล่มในขณะที่คนอื่น (รวมผมด้วย) อ่าน Playboy ดังนั้นเราไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเราเข้าใกล้ปู่หรือยัง ผมเองศึกษาหุ้นได้ลึกๆอย่างมากเดือนละตัวเท่านั้น เป็นเด็กประถมดีๆนี่เอง แต่ผมก็สนุกไปกับมันนะเพราะเด็กประถมอย่างผมมักจะตื่นตาตื่นใจกับเรื่องใหม่ๆที่อ.ทั้งหลายเขียนให้ผมอ่าน
- Charlie Munger "ทั้งหมดที่ผมอยากจะรู้ก็คือที่ไหนที่ผมจะไปแล้วตาย ผมก็จะไม่ไปที่แห่งนั้น" ผมแปลง่ายว่า "อย่าเสี่ยงตาย" ครับ เรามีค่าพอที่จะไปเสี่ยงแบบนั้น ถ้าเรารู้แน่ๆว่าไปแล้วตายแน่นอน ก็ไปทางอื่นหรือนอนตีพุงเฉยๆยังดีซะกว่า ประโยคนี้น้องคนหนึ่งได้ยินจากท่านนายกโจเหมือนกัน นายกของเราเก่งครับ เชื่อท่านเราไม่ผิดหวัง
- "The Science of Hitting", "Wait for the right pitch" ผมพยายามเดินตามคำนี้อย่างที่สุดใน 6-7 ปีที่ผ่านมา ความยากมันไม่ได้อยู่ที่การอดทนรออย่างเดียว แต่เป็นการค้นหาลูกบอลให้มากที่สุดเพื่อสร้างโอกาสด้วย ปู่บัฟเล่นอ่าน Annual Report ซะขนาดนั้นแต่ไม่ได้ตีลูกบ่อยๆ ส่วนผมก็ไม่ได้ตีลูกบ่อยๆเหมือนกันแต่ดัน(เสือก) ไม่ค่อยอ่านแบบปู่บัฟ พยายามอยู่ครับถึงแม้รู้ว่ามันยาก
- There is no elevator to success. You have to take the stairs. ขอบคุณ อ. Imerlot สำหรับภาพสวยๆกับคำเตือนสติครับ ผมเชื่อเสมอว่าความสำเร็จที่เกิดจากความยากลำบากและการทุ่มเท มีค่ามากกว่าการสำเร็จจากโชคหรือผู้อื่นช่วยนับเป็นพันๆเท่า ผมชอบทำเอง ไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร อย่างไรเราเกิดมาก็ไม่ได้มีอะไรมาด้วยอยู่แล้ว
- AMEX กับ Wells Fargo ผมขอไปอ่านก่อนนะครับ ย่อยไม่ทัน
ขอบคุณ อ.NB กับคำถามอันมีค่า ขอบคุณ อ.Imerlot กับความรู้อันมากมาย ขอบคุณ คุณ Chaitorn กับบทสรุป Copy ที่ให้ลอก

Re: 10 Questions to Ask Before You Buy a Stock
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2014 11:22 pm
โดย imerlot
..ต.ย.เล็ก จาก note วิเคราะห์ของ ผู้อ่าน security-analysis
source:
http://www.joshuakennon.com/im-working- ... -analysis/
An excellent illustration is the detailed discussion concerning the measurement of
safety of preferred stock dividends.
Simply calculating the number of times the earnings cover the dividend
is not sufficient.
A business earning $10 million with $1 million in preferred stock dividends is not necessarily more secure than another business earning $3 million with $1 million in preferred stock dividends, even though the margin of safety appears larger in the former.
The authors draw a real-world case study from
First National Stores vs. Studebaker. Between 1922 and 1930, a fairly long time period,
Studebaker enjoyed preferred dividend coverage of 26.2x, while First National Stores only 6.3 times.
Yet, First National Stores was a large retail operation with a diversified geographic footprint, a diversified retail mix, and a diversified customer base.
Studebaker designed and sold cars, with the fashion of a particular model having a great influence on the profits in any given fiscal year. When the Great Depression hit, First National Stores continued to service its preferred stock dividend, with the owners’ wealth remaining fully intact despite some large quotation losses in the interim,
while Studebaker ended up resulting in a near total loss of principal.
...
ผู้จัดทำโน๊ต ..ให้ ต. ย. ข้อคิด สำหรับปัจจุบัน เกียวกับ
ความเสี่ยงของ บ. ผลิตไฟฟ้า ถ้ามี แค่ single facility
Today,
you see investors repeat this mistake in ways that might not seem evident at first.
Consider the utility industry. Every intelligent analyst in the utility sector knows that a diversified power generating company, with multiple plants operating under multiple regulatory agencies, is inherently safer than a rock-solid, single-power generating facility that could be wiped out in a natural disaster or catastrophic accident, even if the former has a higher debt load and a lower net worth per share, yet the shares of each will often trade at roughly the same valuation.
In this case, the more profitable, financially stronger enterprise is actually a riskier holding because it contains within it the possibility of wipe-out risk. (Some, but not all, of this can be explained by the investor’s ability to diversify himself across multiple utility companies.)
...