Thai VI

วันอาทิตย์คือวันที่ 8 ไม่ใช่เหรอครับ

คลายเครียด เขียน:

เกล้า เขียน:ว้าว..นี้ผมถือเป็นข้อมูลระดับพีเมียลีกเลยนะเนี่ย
ขอบคุณมากๆครับ..คุณอาคลายเครียด

แฮะ แฮะ พี่เมียลีกตรงไหนครับ
ก็แค่หนุ่มไชน์ไรส์ออกความเห็นไว้ในวงสนทนา
ตามที่อาจารย์ไพบูลย์ได้กรุณาเลี้ยงอาหารญี่ปุ่น ที่โรงแรมเซนทรัลลาดพร้าว
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๗ พฤษภาคมว่า

เท่าที่รวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง
มีคนเชื่อว่าหุ้นจะขึ้น สามสิบเปอร์เซนต์
มีคนเชื่อว่า หุ้นจะว่าลงแบบแพนิก เจ็ดสิบเปอร์เซนต์

หนุ่มไชน์ไรส์เลือกเชื่อว่า จะลงแบบแพนิกครับ
เลยขายหมดพอร์ตล้างมาร์จิ้น
และได้ถามขึ้นมาลอยๆ ในวงสนทนาว่า

จะซื้อกลับหลังแพนิกเซล ดีหรือเปล่า ?

ก็เลยเป็นที่มาของคำถาม ที่ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน

ถ้าอย่างนั้น ผมเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่คนคนเดียวแน่นอน ที่ทุ่มขายล้างพอร์ตพร้อมมาร์จิ้น
ต้องมีการคุยกันในกลุ่มเดียวกันเพื่อสร้าง snow ball effect คงไม่ใช่การปั่นหุ้น
แต่การทำอย่างนี้มันคือการเล่นทุ่มซื้อมาร์จิ้น แล้วทิ้งหุ้นกันอย่างหนัก ต้องทำกันเป็นกลุ่มด้วย
ในขณะที่หลายท่านกำลังรอผลประกอบการ Q1 ผมว่าเป็นการกระทำที่ขาดธรรมาภิบาลของ
ผู้ถือหุ้นนะครับ

pockiee เขียน:วันอาทิตย์คือวันที่ 8 ไม่ใช่เหรอครับ

ขอบคุณที่ช่วยทักท้วงครับ

ที่ถูกต้อง คือวันอาทิตย์ที่ ๘ พฤษภาคมครับ


http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 14780.html

ชักหลงลืมวันแล้วเรา

[quote="
ถ้าอย่างนั้น ผมเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่คนคนเดียวแน่นอน ที่ทุ่มขายล้างพอร์ตพร้อมมาร์จิ้น
ต้องมีการคุยกันในกลุ่มเดียวกันเพื่อสร้าง snow ball effect คงไม่ใช่การปั่นหุ้น
แต่การทำอย่างนี้มันคือการเล่นทุ่มซื้อมาร์จิ้น แล้วทิ้งหุ้นกันอย่างหนัก ต้องทำกันเป็นกลุ่มด้วย
ในขณะที่หลายท่านกำลังรอผลประกอบการ Q1 ผมว่าเป็นการกระทำที่ขาดธรรมาภิบาลของ
ผู้ถือหุ้นนะครับ[/quote]


งงกับคำว่า ขาดธรรมาภิบาลของผู้ถือหุ้นครับ ???
เคยได้ยินแต่ขาดธรรมาภฺิบาลของเจ้าของบริษัท

คงต้องบอกว่า ในวงสนทนาวันนั้น
มีเพียงหนุ่มไชน์ไรส์เท่านั้น ที่ตัดสินใจขายทิ้ง
ส่วนผมไม่เคยแตะหุ้นที่ ซื้อขายกันที่ราคาอนาคต เพื่อรอผลประกอบการที่อนาคต
ก็เลยได้แต่นั่งฟัง

ในวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการร่ายเวทขั้นสูงสุดเวทหนึ่งหรือท่าไม้ตายนั่นเองของพ่อมดหุ้นอย่างเจ้าผมให้ชื่อว่า"โชว์floorให้เม่าคลายหุ้นด้วยฤทธิ์force sell " สวนนักปราชญ์หุ้นอย่างวีไอก็นำวิชาขั้นสุดยอดที่มีชื่อว่า"นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว"มาต้านทานเอาไว้

คลายเครียด เขียน:ผมว่า จริงๆแล้ว

ราคาเป้าหมายที่เหมาะสม หาค่าแน่นอนไม่ได้
เพราะ

มันเป็นราคาหุ้นที่ใครก็ได้จะเป็นคนซื้อ นอกจากคนที่บอก


ฝากคุณลีดเดอร์ฯ ถามหนุ่มไชน์ไรส์เพื่อนซี้ด้วยครับ

เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว หนุ่มไชน์ไรส์บอกไว้ตอนเจอตัวกันว่า
ได้ล้างพอร์ตไปแล้ว
แต่จะรอซื้อหุ้นกลับ หลังจากเกิด "แพนิกเซล"

ตกลงว่า หนุ่มไชน์ไรส์กลับขึ้นขับรถแจ๊สหรือยังครับ

แหมเฮียๆๆ เพราะเฮียถาม ผมเลยตอบนะครับ
สำหรับจังหวะนี้กำลังรอนะครับ

ย้อนกลับไปตอนขาย

ตอนที่ขาย มีเหตุผลดังนี้นะครับ

1. ราคาอยู่ในช่วง Fair price ของปีนี้ (ไม่ขอตัวเลข ทั้งตรงนี้และ หลังไมค์)
2. รายย่อยซื้อ ซื้อกันมาก บางเว็บเชียร์กันหน้าเกลียด มีเพื่อนโทรถามว่า ปีนี้จะมีลูกค้า 5 ล้านรายหรอ
ผมถามว่าไปรู้ข่าวมาจากไหน เพื่อนบอก S2M ...
2.1 ผมกลับไปวิเคราะห์ต่อว่า คนที่ซื้อ JAS ที่ราคา 3.7-3.9 เป็นใคร ซื้อทำไม หวังอะไร
ผมพบว่าส่วนใหญ่เป็นรายย่อย ฟังมาว่าราคาไป 6 บาท ?
2.2 ผมคิดต่อว่า ราคาที่ว่า มัน fair price ปีไหน ? คนซื้อหวังเดือนหน้า เค้าซื้อหุ้นราคาแถวๆใกล้ๆ Fair price
เพื่อไปขายเกิน Fair price ในปีนี้ ? ฟองสบู่
2.3 ผมวิเคราะห์ต่อว่า ถ้าไปที่ 6 บาท ใครจะซื้อ ? มีหรอ ?
2.4 ผมวิเคราะห์ฟังซื้อ ถึงสภาพวะจิตใจ คำตอบคือ ตกใจง่าย !
2.5 ข่าวดีเต็มตลาดๆๆๆๆๆ


3. ฝั่งขายๆๆ ใคร ?
แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่รายย่อย ไม่ใช่ VI
ข้อนี้คือฟางเส้นสุดท้าย

คิดไปคิดมา ตันๆๆๆ

โอกาสขึ้น 30% โอกาสลง 70% ถ้าขึ้นต่อ โอกาสลงก็จะกลายไปเป็น 80%
ถ้าขึ้น มีสิทธิ์ได้กำไร 30-50% ถ้าลงก็มีโอกาสขายทุน 30-50%
สรุปคือ เกมส์นี้ เสี่ยงๆ ได้ไม่คุ้มเสียครับ

ก็เลยคิดว่า
อย่างมากก็หมู ผมก็เลยขาย


ผลลัพธ์

หมูเต็มพิกัด
ราคาวิ่งต่ออีก 10%
แต่รู้สบายใจ โล่ง ล้างหนี้
หมูไป เดี๋ยวไปซื้อหมูที่อื่นก็ได้หวะ

สำหรับจังหวะซื้อ..
ยังไม่รู้ครับ อยู่ในช่วงคิด รอ ดู
ถามคนเก่งเทคนิคให้วิเคราะห์จิตวิทยาให้ กลับมาดูพื้นฐาน
คุยกับหลายๆคน คงหาจังหวะต่อไป

เพราะกองหน้า ช้อนหักไปแล้วคราบๆๆ 555
เลยป๊อดครับ 555

ด้วยความเคารพ
หากท่านยังใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ สิ่งที่ท่านเห็น สิ่งที่ทำย่อมขาดสติ

เมื่อวันศุกร์ ที่ JAS ลงไป 20% ถ้าไม่ได้ VI บางท่านช่วยซื้อ ป่านนี้ ราคาคงปิด floor
และหาก VI รายใหญ่ขายตามที่ท่านเชื่อ ราคาคงจะ floor 3 วันซ้อน
ที่เกิดขึ้น มันน้อยไป

ผมคุยเรื่องนี้กับเพื่อนในกลุ่ม ไม่มีใครตามผมซักคน
เพื่อนผมยังบอก ม..ง หมูแน่ๆ
ผมสวนกลับ ผมมันพวก contrarian อย่าเชียร์ผมซื้อมากๆ ผมหนีๆๆๆ

คลายเครียด เขียน:[quote="
ถ้าอย่างนั้น ผมเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่คนคนเดียวแน่นอน ที่ทุ่มขายล้างพอร์ตพร้อมมาร์จิ้น
ต้องมีการคุยกันในกลุ่มเดียวกันเพื่อสร้าง snow ball effect คงไม่ใช่การปั่นหุ้น
แต่การทำอย่างนี้มันคือการเล่นทุ่มซื้อมาร์จิ้น แล้วทิ้งหุ้นกันอย่างหนัก ต้องทำกันเป็นกลุ่มด้วย
ในขณะที่หลายท่านกำลังรอผลประกอบการ Q1 ผมว่าเป็นการกระทำที่ขาดธรรมาภิบาลของ
ผู้ถือหุ้นนะครับ

งงกับคำว่า ขาดธรรมาภิบาลของผู้ถือหุ้นครับ ???
เคยได้ยินแต่ขาดธรรมาภฺิบาลของเจ้าของบริษัท

คงต้องบอกว่า ในวงสนทนาวันนั้น
มีเพียงหนุ่มไชน์ไรส์เท่านั้น ที่ตัดสินใจขายทิ้ง
ส่วนผมไม่เคยแตะหุ้นที่ ซื้อขายกันที่ราคาอนาคต เพื่อรอผลประกอบการที่อนาคต
ก็เลยได้แต่นั่งฟัง


[/quote]
ก็คิดไปเรื่อยๆ ครับ หลังวงสนทนาวันนั้น ใครจะรู้ว่ามีการหลังไมค์ตามกันมาหรือไม่
ท่านคลายเครียดไม่มีหุ้นอยู่ ก็อาจจะไม่รู้ในกลุ่มที่ถือ JAS และเล่นมาร์จิ้นกันก็ได้
ว่าหลังไมค์กันหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นผมก็เลย บอกว่า ขาดธรรมาภิบาลของผู้ถือหุ้น
เพราะ ผมคิดว่าถ้าขายทิ้งกัน คน 2 คน ไม่เกิดหรอกครับวันเดียว 2x% ต้องร่วมด้วยช่วยกัน
และ ทฤษฎีสมคบคิด ว่าจะต้องตก 70% อาจคิดหลายๆ คนได้ แต่คิดพร้อมกันมันบังเอิญไปนิสสนุง
vi รายใหญ่คงไม่เทขายหรอกครับ เพราะ กว่าจะหาหุ้นที่คิดว่าจะได้หลายเด้งกินไปหลายปีมันหายาก
แล้วจะย้ายเงินไปลงที่ไหน ในตลาดตอนนี้

แต่อย่างว่า กรณีนี้ทำให้เกิด ปัญหาธรรมาภิบาลของผู้ถือหุ้น นักลงทุนน่าจะเข็ดขยาดกับกลุ่มนักลงทุน
ที่เรียกว่า VI สายพันธ์ มาร์จิ้น กันละทีนี้

dragonrider เขียน:ถ้าอย่างนั้น ผมเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่คนคนเดียวแน่นอน ที่ทุ่มขายล้างพอร์ตพร้อมมาร์จิ้น
ต้องมีการคุยกันในกลุ่มเดียวกันเพื่อสร้าง snow ball effect คงไม่ใช่การปั่นหุ้น
แต่การทำอย่างนี้มันคือการเล่นทุ่มซื้อมาร์จิ้น แล้วทิ้งหุ้นกันอย่างหนัก ต้องทำกันเป็นกลุ่มด้วย
ในขณะที่หลายท่านกำลังรอผลประกอบการ Q1 ผมว่าเป็นการกระทำที่ขาดธรรมาภิบาลของ
ผู้ถือหุ้นนะครับ

ทุกคนที่มีประสบการณ์และมีความรู้ ไม่เชื่อตามใครกันง่ายๆหรอกครับ

เวลาไปฟังข้อมูลมา การตัดสินใจจะซื้อหรือขายก็ขึ้นวิจารญาณของแต่ละคน ไม่มีการซื้อหรือขายตามกันแน่นอนครับ

ขอบคุณที่ช่วยตอบครับ

ฝากบอกหนุ่มไชน์ไรส์ด้วยว่า
รุ่นน้องที่เคยอยู่ข้างบ้านผม
และชอบเข้ามาลอกการบ้านจากเซียนหุ้นในร้อยคน ร้อยหุ้น
เขาบอกมาทางโทรศัพท์ว่า
หลังจากผมบอกว่า คุณไชน์ไรส์โละขายหมดพอร์ต
จากการพูดคุยโทรศัพท์กับผม เมื่อเช้าวันจันทร์ที่แล้ว

เขาก็เลยตัดสินเทขายหมดพอร์ต ในตอนบ่ายของวันจันทร์ที่ ๙ พฤษภาคม
ซึ่งถ้าจะกลับมาซิ้อหุ้นคืน
ก็น่าจะเป็นการชอร์ตอะเกนส์พอร์ต ที่ชนะอย่างขาดลอยครับ


ถ้าเอาความเห็นแบบงูๆปลาๆของผม ที่ไม่มีข้อมูลวิชาการอะไรหนุนหลัง


ผมว่า jas = inet + psl

ตอนไอเนทเข้าตลาดใหม่ๆ
ความเร็วเนต ๕๖ เค ถือว่าเป็นสุดยอดเนตความเร็วสูง
ชั่วโมงเนตตามร้านเนตก็ต่ำสุดชั่วโมงละ ๔๐ บาท
นักวิเคราะห์เชียร์ซื้อกันทุกโบรก ราคาเป้าหมายจะไปเท่านั้นเท่านี้

ตอนนี้ไอ้สุดหรูห้าสิบหกเค
ราคาเหลือแค่บาทเดียว
โดยเอาใส่ซองให้คนไปขูดรหัส
ใช้เล่นแก้ขัดตอนไวไฟเจ๊ง

สำหรับคนที่ให้ราคาเป้าหมายที่เหมาะสมของแจ๊สไว้
ได้ลองใส่ค่าบริการที่แตกต่างกัน คูณจำนวนผู้ใช้เข้าไปหรือยังครับ
ว่าผลกำไรมันจะออกมาแตกต่างกันขนาดไหน ??

ส่วนที่ว่า เป็น psl ก็คือ
psl เล่นกันจากไม่ถึงบาท ไปพีคที่เจ็ดสิบบาท ?
แบบคนทั้งเวบบอร์ด คุยกันแต่หุ้นเพียงตัวเดียวเท่านั้น

ลงท้าย คนที่มี margin of safety แตกต่างกันสูงที่สุด
ระหว่างราคาเข้าซื้่อ
ตอนที่ยังไม่มีใครสนใจหาผลประกอบการในอนาคต
กับ
ราคาที่ซื้อขายกันที่อนาคต เพื่อดักรอผลประกอบการในอนาคต

ก็คือผู้ชนะตัวจริงเสียงจริงครับ

ผมขอเรียกเซียนหุ้นเหล่านี้ว่า

เซียนวีไอ สไตล์ไฟทเตอร์

dragonrider เขียน:ก็คิดไปเรื่อยๆ ครับ หลังวงสนทนาวันนั้น ใครจะรู้ว่ามีการหลังไมค์ตามกันมาหรือไม่
ท่านคลายเครียดไม่มีหุ้นอยู่ ก็อาจจะไม่รู้ในกลุ่มที่ถือ JAS และเล่นมาร์จิ้นกันก็ได้
ว่าหลังไมค์กันหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นผมก็เลย บอกว่า ขาดธรรมาภิบาลของผู้ถือหุ้น
เพราะ ผมคิดว่าถ้าขายทิ้งกัน คน 2 คน ไม่เกิดหรอกครับวันเดียว 2x% ต้องร่วมด้วยช่วยกัน
และ ทฤษฎีสมคบคิด ว่าจะต้องตก 70% อาจคิดหลายๆ คนได้ แต่คิดพร้อมกันมันบังเอิญไปนิสสนุง
vi รายใหญ่คงไม่เทขายหรอกครับ เพราะ กว่าจะหาหุ้นที่คิดว่าจะได้หลายเด้งกินไปหลายปีมันหายาก
แล้วจะย้ายเงินไปลงที่ไหน ในตลาดตอนนี้

แต่อย่างว่า กรณีนี้ทำให้เกิด ปัญหาธรรมาภิบาลของผู้ถือหุ้น นักลงทุนน่าจะเข็ดขยาดกับกลุ่มนักลงทุน
ที่เรียกว่า VI สายพันธ์ มาร์จิ้น กันละทีนี้

คิดเองจะจินตนาการอย่างไรก็ได้ครับ แต่การนำมาโพสต์กล่าวหาบุคคลอื่น โดยอาศัยจินตนาการเพียงอย่างเดียวก็คงไม่ยุติธรรม

ถ้าลองเกิดขึ้นกับตัวคุณเองจะรู้สึกอย่างไร

สังคมจะดีก็ไม่ควรจะกล่าวหากันลอยๆ

chatchai เขียน:

dragonrider เขียน:ก็คิดไปเรื่อยๆ ครับ หลังวงสนทนาวันนั้น ใครจะรู้ว่ามีการหลังไมค์ตามกันมาหรือไม่
ท่านคลายเครียดไม่มีหุ้นอยู่ ก็อาจจะไม่รู้ในกลุ่มที่ถือ JAS และเล่นมาร์จิ้นกันก็ได้
ว่าหลังไมค์กันหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นผมก็เลย บอกว่า ขาดธรรมาภิบาลของผู้ถือหุ้น
เพราะ ผมคิดว่าถ้าขายทิ้งกัน คน 2 คน ไม่เกิดหรอกครับวันเดียว 2x% ต้องร่วมด้วยช่วยกัน
และ ทฤษฎีสมคบคิด ว่าจะต้องตก 70% อาจคิดหลายๆ คนได้ แต่คิดพร้อมกันมันบังเอิญไปนิสสนุง
vi รายใหญ่คงไม่เทขายหรอกครับ เพราะ กว่าจะหาหุ้นที่คิดว่าจะได้หลายเด้งกินไปหลายปีมันหายาก
แล้วจะย้ายเงินไปลงที่ไหน ในตลาดตอนนี้

แต่อย่างว่า กรณีนี้ทำให้เกิด ปัญหาธรรมาภิบาลของผู้ถือหุ้น นักลงทุนน่าจะเข็ดขยาดกับกลุ่มนักลงทุน
ที่เรียกว่า VI สายพันธ์ มาร์จิ้น กันละทีนี้

คิดเองจะจินตนาการอย่างไรก็ได้ครับ แต่การนำมาโพสต์กล่าวหาบุคคลอื่น โดยอาศัยจินตนาการเพียงอย่างเดียวก็คงไม่ยุติธรรม

ถ้าลองเกิดขึ้นกับตัวคุณเองจะรู้สึกอย่างไร

สังคมจะดีก็ไม่ควรจะกล่าวหากันลอยๆ

ด้วยความนับถือพี่ ฉัตรชัย ที่ให้อะไรกับพี่ๆ น้องๆ ในที่นี้เยอะมากนะครับ
ถือว่าเป็น เรื่องบังเอิญ ก็ได้ครับ พี่ แต่ขอชี้แจงหน่อยครับพี่
มีการขายหุ้นจริง จากการเล่น มาร์จิ้น ด้วย อันนี้ไม่ใช่กล่าวหา
การบอกต่อกันไป ทำให้เกิดการลดลงของราคาอย่าง เกิดจริง ไม่ใช่การกล่าวหา
วันเดียว 2x% เป็น เรื่องบังเอิญหรือ เป็น การทำขึ้น คงแล้วแต่จะคิดนะครับ
ขอยืนยันว่าไม่ได้กล่าวหา คุณ ไชน์ไรส์ หรือ ใครในทีนี้ นะครับ เป็นการตั้งข้อสังเกตุ
กับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ หากทำให้ท่านใดเสียหาย ขออภัยมา ณ ที่นี้ ครับ

ด้วยความเคารพ อีกครั้ง

บางทีโลกเรามันมีทั้งสิ่งที่จริง และลวงมากมายจนยากจะแยกแยะครับ

แม้กระทั่งความคิดของตัวเราเอง เรารู้หรือเปล่าว่า
อะไรคือสิ่งที่เป็นความจริงสำหรับตัวเรา หรือ อะไรคือสิ่งที่เรากำลังหลอกตัวเอง
เราแน่ใจได้อย่างไรว่า สิ่งที่เราคิดอยู่ขณะนี้ เรากำลังหลอกตัวเอง หรือหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า

พิสูจน์ง่ายๆครับ ถ้าเหตุการณ์กลับกัน
JAS พุ่งขึ้นวัน ละ 30% จนราคาไป 6 บาท
ความคิดเราเปลี่ยนมั้ย ?

สำหรับผม ผมไม่เปลี่ยน เพราะนั่นคือความคิดผม ผมผิด ๆๆๆๆ
เพราะผมขายหมู ๆๆๆๆๆๆๆๆ

แต่ถ้าผมเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนทัศนคติ ?
แสดงว่า ความคิด และทัศนคติแง่ร้ายในขณะนี้ของเราเกิดจากอารมณ์
เป็นความคิดที่เราหลอกตัวเอง และเกิดจากการหาเหตุผลเข้าตัวเอง

โดยส่วนตัว ถ้าถือหุ้นแล้วเครียด ผมก็เลือกที่จะขายดีกว่า
สำหรับตอนนี้ ผมคงจัดพอร์ตใหม่ ให้กระจายความเสี่ยง
แทนที่จะถือตัวเดียวถึง 80%
สำหรับ JAS ตอนนี้ก็มีบ้าง แต่ไม้แรกดอยไปแล้ว ช้อนเร็วไป (เมื่อวันศุกร์)
อาจจะซื้อเพิ่ม แต่คงรอ ไม่กล้าครับ อารมณ์ตลาดรุนแรงมากๆ รอให้นิ่งๆดีกว่า
แต่คิดว่าคงซื้อไม่มากเท่าเมื่อก่อน (ยกเว้นพื้นฐานเปลี่ยน)

ถามต่อว่า การปรับพอร์ต มันผิดมั้ย ?
โดยส่วนตัวมองเหมือนผมเป็นกองทุน ที่ทำการปรับพอร์ตธรรมดา

leaderinshadow เขียน:ด้วยความเคารพ อีกครั้ง

บางทีโลกเรามันมีทั้งสิ่งที่จริง และลวงมากมายจนยากจะแยกแยะครับ

แม้กระทั่งความคิดของตัวเราเอง เรารู้หรือเปล่าว่า
อะไรคือสิ่งที่เป็นความจริงสำหรับตัวเรา หรือ อะไรคือสิ่งที่เรากำลังหลอกตัวเอง
เราแน่ใจได้อย่างไรว่า สิ่งที่เราคิดอยู่ขณะนี้ เรากำลังหลอกตัวเอง หรือหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า

พิสูจน์ง่ายๆครับ ถ้าเหตุการณ์กลับกัน
JAS พุ่งขึ้นวัน ละ 30% จนราคาไป 6 บาท
ความคิดเราเปลี่ยนมั้ย ?

สำหรับผม ผมไม่เปลี่ยน เพราะนั่นคือความคิดผม ผมผิด ๆๆๆๆ
เพราะผมขายหมู ๆๆๆๆๆๆๆๆ

แต่ถ้าผมเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนทัศนคติ ?
แสดงว่า ความคิด และทัศนคติแง่ร้ายในขณะนี้ของเราเกิดจากอารมณ์
เป็นความคิดที่เราหลอกตัวเอง และเกิดจากการหาเหตุผลเข้าตัวเอง

โดยส่วนตัว ถ้าถือหุ้นแล้วเครียด ผมก็เลือกที่จะขายดีกว่า
สำหรับตอนนี้ ผมคงจัดพอร์ตใหม่ ให้กระจายความเสี่ยง
แทนที่จะถือตัวเดียวถึง 80%
สำหรับ JAS ตอนนี้ก็มีบ้าง แต่ไม้แรกดอยไปแล้ว ช้อนเร็วไป (เมื่อวันศุกร์)
อาจจะซื้อเพิ่ม แต่คงรอ ไม่กล้าครับ อารมณ์ตลาดรุนแรงมากๆ รอให้นิ่งๆดีกว่า
แต่คิดว่าคงซื้อไม่มากเท่าเมื่อก่อน (ยกเว้นพื้นฐานเปลี่ยน)

ถามต่อว่า การปรับพอร์ต มันผิดมั้ย ?
โดยส่วนตัวมองเหมือนผมเป็นกองทุน ที่ทำการปรับพอร์ตธรรมดา

ไม่ผิดครับ อาจมีความเข้าใจว่า ผมมีเจตนาต่อว่าท่านที่คิดว่า JAS จะลง แล้วปรับพอร์ต
โดยขายทิ้ง แต่ผมอยากชี้แจงว่า ผมกำลังพูดถึง Black Friday วันเดียว นะครับ
ไม่ใช่ทั้งก่อนหน้า และ หลังจากนั้น

ไม่มีหุ้นตัวนี้ครับ แต่จะเก็บเอามาเป็น Case Study ครับ

ว่าต้องเข้าใจพื้นฐานจริงๆ อย่าซื้อตามผู้อื่นโดยไม่ลืมหูลืมตา

ผมก็ขอโทษพี่ dragonrider นะครับ
อาจจะเข้าใจผิดว่าพี่พาดพิง ^^

ผมอ่านกระทู้นี้แล้วบอกได้เลยว่ามีภาค2แน่นอน
หุ้นturnaroundใช้peวัดความถูกแพงไม่ได้
แต่ถ้าอยู่ในกลุ่มtechnoที่เปลี่ยนแปลงได้ไวอย่างนี้
peตั้ง27-28เท่า(epsแค่0.09)
อย่างนี้mosอาจน้อยมากๆถ้าเข้าตอนนี้

โดยปกติแล้ว หลังpanic sell ก็มักจะมี panic buy ตามมา

หวังเพียงแค่ว่า คนที่จะตามซื้อ ได้วิเคราะห์อย่างดีแล้วว่าเป็นราคาที่เหมาะสม

ไม่ใช่ซื้อเพราะคิดว่าราคาลงมาเยอะ หรือเซียนยังอยู่

กลัวจิงจิง ว่าจะเกิดpanic buy ตามมาแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว....

prajuvb เขียน:ผมอ่านกระทู้นี้แล้วบอกได้เลยว่ามีภาค2แน่นอน
หุ้นturnaroundใช้peวัดความถูกแพงไม่ได้
แต่ถ้าอยู่ในกลุ่มtechnoที่เปลี่ยนแปลงได้ไวอย่างนี้
peตั้ง27-28เท่า(epsแค่0.09)
อย่างนี้mosอาจน้อยมากๆถ้าเข้าตอนนี้

JAS ครั้งนี้เป็นมาม่าครั้งที่3แล้วนะ ไตรภาคแล้ว แต่เม่าinvestorยังเขียนการ์ตูนแค่สองครั้งหลัง

dragonrider เขียน:

คลายเครียด เขียน:

เกล้า เขียน:ว้าว..นี้ผมถือเป็นข้อมูลระดับพีเมียลีกเลยนะเนี่ย
ขอบคุณมากๆครับ..คุณอาคลายเครียด

แฮะ แฮะ พี่เมียลีกตรงไหนครับ

เป็นข้อมูลระดับพีเมียลีกตรงที่
ให้คนในเวบคนอื่นๆรู้ว่า
มีการเก็งกำไรด้วยมาร์จิ้นจริงๆและหนักมากตั้งแต่แรก จนเป็นหุ้นร้อนที่ไม่ควรถือยาว
การขายลดความเสี่ยงบ้าง เมื่อเวลาหุ้นขึ้นสูงๆ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหุ้นแบบนี้

ก่อนซื้อหุ้นVI คราวหน้าต้องดู%marginว่าโดนเงินเทียมยกราคาให้เฟ้อมากเกินไปหรือยัง

รู้สึกเหมือนว่า
อารมณ์จะเปลี่ยนตามราคาหุ้น

หลังจากผมบอกว่า คุณไชน์ไรส์โละขายหมดพอร์ต
จากการพูดคุยโทรศัพท์กับผม เมื่อเช้าวันจันทร์ที่แล้ว

เขาก็เลยตัดสินเทขายหมดพอร์ต ในตอนบ่ายของวันจันทร์ที่ ๙ พฤษภาคม

พี่โพสตอน 11 โมงว่าขายตอนบาย พี่มาจากโลกอนาคตหรือเปล่าครับ

ถ้าผมซื้อตัวนี้แล้วขาดทุน ไม่โทษใครอ่ะ
โทษตัวเองที่ประเมินมูลค่าไม่เป็น หา Fair Valueไม่เป็นและหาราคาเป้าหมายไม่ได้
โทษตัวเองที่ซื้อหุ้นโดยไม่มี Margin of safetyเพียงพอ

สุดท้ายขอนับถือคุณleaderinshadow คุณเก่งทั้งจิตวิทยามวลชนและวิเคราะห์พื้นฐานจริงๆ
ถ้าหุ้นขึ้น เราจะได้เท่าไหร่ เสียเท่าไหร่ หุ้นลงได้เท่าไหร่ เสียเท่าไหร่ เจ๋งมาก
รับผมเป็นศิษย์ด้วยฮับ อิอิ

บางทีมันก็มีดวงมาเกี่ยวข้องแบบฟลุ๊กๆครับ

ผมถูกสั่งมาให้ล้างมาร์จิ้น
เฮียแกรู้ครับ ว่าใครสั่งมา

มีหลายสิบเหตุผลที่กดดันให้ขายครับ
ผมเลยทำคลายเครียดเรโชครับ
ถือไปแล้วเครียด ถือเงินสดดีกว่า
แต่คลายเครียดวิธีผม คือ ขาย JAS ออกหมด (ไม่ถึงกะล้างพอร์ต เพราะตัวอื่นยังอยู่ครบ)

ใครอยู่ใกล้ๆผมช่วงนั้น ผมจะบ่นว่าขายหมู
เช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอน

dragonrider เขียน:

chatchai เขียน:

dragonrider เขียน:ก็คิดไปเรื่อยๆ ครับ หลังวงสนทนาวันนั้น ใครจะรู้ว่ามีการหลังไมค์ตามกันมาหรือไม่
ท่านคลายเครียดไม่มีหุ้นอยู่ ก็อาจจะไม่รู้ในกลุ่มที่ถือ JAS และเล่นมาร์จิ้นกันก็ได้
ว่าหลังไมค์กันหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นผมก็เลย บอกว่า ขาดธรรมาภิบาลของผู้ถือหุ้น
เพราะ ผมคิดว่าถ้าขายทิ้งกัน คน 2 คน ไม่เกิดหรอกครับวันเดียว 2x% ต้องร่วมด้วยช่วยกัน
และ ทฤษฎีสมคบคิด ว่าจะต้องตก 70% อาจคิดหลายๆ คนได้ แต่คิดพร้อมกันมันบังเอิญไปนิสสนุง
vi รายใหญ่คงไม่เทขายหรอกครับ เพราะ กว่าจะหาหุ้นที่คิดว่าจะได้หลายเด้งกินไปหลายปีมันหายาก
แล้วจะย้ายเงินไปลงที่ไหน ในตลาดตอนนี้

แต่อย่างว่า กรณีนี้ทำให้เกิด ปัญหาธรรมาภิบาลของผู้ถือหุ้น นักลงทุนน่าจะเข็ดขยาดกับกลุ่มนักลงทุน
ที่เรียกว่า VI สายพันธ์ มาร์จิ้น กันละทีนี้

คิดเองจะจินตนาการอย่างไรก็ได้ครับ แต่การนำมาโพสต์กล่าวหาบุคคลอื่น โดยอาศัยจินตนาการเพียงอย่างเดียวก็คงไม่ยุติธรรม

ถ้าลองเกิดขึ้นกับตัวคุณเองจะรู้สึกอย่างไร

สังคมจะดีก็ไม่ควรจะกล่าวหากันลอยๆ

ด้วยความนับถือพี่ ฉัตรชัย ที่ให้อะไรกับพี่ๆ น้องๆ ในที่นี้เยอะมากนะครับ
ถือว่าเป็น เรื่องบังเอิญ ก็ได้ครับ พี่ แต่ขอชี้แจงหน่อยครับพี่
มีการขายหุ้นจริง จากการเล่น มาร์จิ้น ด้วย อันนี้ไม่ใช่กล่าวหา
การบอกต่อกันไป ทำให้เกิดการลดลงของราคาอย่าง เกิดจริง ไม่ใช่การกล่าวหา
วันเดียว 2x% เป็น เรื่องบังเอิญหรือ เป็น การทำขึ้น คงแล้วแต่จะคิดนะครับ
ขอยืนยันว่าไม่ได้กล่าวหา คุณ ไชน์ไรส์ หรือ ใครในทีนี้ นะครับ เป็นการตั้งข้อสังเกตุ
กับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ หากทำให้ท่านใดเสียหาย ขออภัยมา ณ ที่นี้ ครับ

ผมอ่านแล้วก็เกิดความสงสัยว่า ถ้าเกิดมีกลุ่มนักลงทุนแนว VI ใช้มาร์จิ้น มีการปรึกษากัน แล้วบางคนก็คิดที่จะขายหุ้นพร้อมกัน มีความผิดด้วยหรือครับ

รู้สึกว่าตอนนี้บ้านผีรอบ 2 เริ่มเปิดให้บริการแล้วครับ

ผู้เล่นรอบแรกเริ่มออกจากบ้านให้ ผู้กล้ารอบต่อไปเริ่มเข้าบ้านแทน

leaderinshadow เขียน: แหมเฮียๆๆ เพราะเฮียถาม ผมเลยตอบนะครับ

แหม คนที่ถามแล้วไม่ได้คำตอบ ไม่น้อยใจเหรอครับ
แต่ก็อย่างว่า เซียนก็คงมีเวลาน้อย ผมเข้าใจ

อ่านหลักการตอนขายแล้ว นับถือเลยครับ
ทำให้ผมได้ความรู้แนวพื้นฐานเพิ่มขึ้นอีกเป็นกอง

ว่าแต่ว่า เราจะรอดูผลประกอบการณ์
ที่พี่ว่าไว้ก่อนหน้านี้
มีนัยยะว่าอะไรเหรอครับ
1. มีหุ้นอยู่ รอดูแล้วกัน ผลประกอบการณ์น่าจะดี เดี๋ยวราคาก็ขึ้น
2. มีหุ้นอยู่ รอดูแล้วกัน ผลประกอบการณ์น่าจะไม่ดี ติดดอยแน่ๆ
3. ขายไปแล้ว รอดูแล้วกัน ผลประกอบการณ์น่าจะดี ขายหมูแน่ๆ
4. ขายไปแล้ว รอดูแล้วกัน ผลประกอบการณ์น่าจะไม่ดี ราคาน่าจะลงต่อ

ชี้แนะข้าน้อยด้วย

อ้าว หายกันไปหมดเลย

อารมณ์เปลี่ยนตามตลาดหุ้นจริงๆด้วย

ถ้าพรุ่งนี้ลงอีก คงมีคนมาบอกว่า

เห็นมั้ยล่ะ บอกแล้ว...

ถ้าขึ้นต่อ คงไม่มีคนมาคุยกระทู้นี้กันอีก...

บททดสอบว่า คนซื้อหุ้น มั่นใจในการวิเคราะห์ตัวเองหรือเปล่า
ผมขายตัวที่ราคาขึ้นเยอะ ๆวันก่อน ไปซื้อตอน jas ขาลงวันศุกร์ ดอยเลยครับ
เข้าใจคำว่า ขายหมูไปซื้อควายเลยอ่ะ เพราะวันนี้ตัวนั้นวิ่งเป็นกระทิงเปลี่ยว

เข้ามา เดจาวูอีกรอบ