Thai VI

ขอปักหมุดครับ

กำลังตามไปอย่างช้าช้าครับ

เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ต้องใช้เวลาและความมุ่งมานะอย่างไม่ย่อท้อ

xsutt เขียน:

xsutt เขียน:Port ยังไม่ถึงแปดหลัก แต่วันนี้ขอมาปักหมุด ได้ milestone มูลค่าในพอร์ตโตขึ้นมาจนเท่ากับหนี้บ้านที่เหลืออยู่ครับ เมื่อห้าปีที่แล้วพอร์ตวิ่งมาจากหลักแสน หนี้บ้านลงมาจากห้าล้านกว่า วันนี้เท่ากันแล้ว เป้าต่อไป หวังว่าพอร์ตจะแซงหนี้บ้านไปเยอะ ๆ จนเอาออกมาโปะบ้านได้หมดและเหลือเงินในพอร์ตครึ่งของแปดหลักครับ

ปล. ยังไม่นับหนี้คอนโดที่ซื้อไว้ให้เช่า แพงกว่าบ้านอีก

พิมพ์ด้วยมือถือ ผิดหลายคำเลย ขอแก้คำผิดหน่อยครับ

555 ยินดีด้วยครับพี่ พึ่งเห็นว่ามาปักหมุดด้วยเหมือนกัน ขอให้สมหวังโดยไว ร่ำรวย สุขสันต์มากๆนะครับ

เห็นช่วงนี้ จะมีกระทู้ส่วนใหญ่จะเตือนเกี่ยวกับตลาดมาก และเดี๋ยวนี้มีคนเข้ามาสนใจลงทุนกันมาก กระทู้จากคนเก่ง ๆ ก็ไม่ค่อยได้เห็นแล้ว เข้าใจว่าเก็บตัวเงียบ สงบ และรออะไรบางอย่างอยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นบทความจากกูรูเอามาลงกัน
ผมว่าง ๆ อยู่เพราะใกล้ปีใหม่ ก็เลยขุดกระทู้นี้ขึ้นมา อยากโชว์บ้าง บวกให้กำลังใจ และอยากให้นักลงทุนรุ่นใหม่มองการลงทุนระยะยาว ๆ เป็นสิ่งที่น่าสนใจ มากกว่าการเก็งกำไร
ผมเริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 2544 หุ้นตัวแรก คือ ptt จนปัจจุบันก็ประมาณ 13 ปี จากเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 17,500 บาท จอง ptt ได้ 1,000 หุ้น ราคา 35 บาท ต่อหุ้น แต่ลงทุนคนละครึ่งกับแฟน นั่นคือที่มาของเงินลงทุนดังกล่าว
เรียกได้ว่าผ่าน 1 รอบของการลงทุนมาแล้ว ผ่านช่วงเวลาที่ทดสอบจิตใจที่โหดร้ายที่สุดมาแล้ว ช่างสนุกเสียนี่กระไร จนปัจจุบันพอร์ตก็ทะลุตามหัวข้อกระทู้แหละครับ
ผมยังมีเวลาในการลงทุนอีกเยอะ อายุก็ยังไม่ถึง 40 ปี ผมเชื่อว่าตลาดก็จะต้องเจอสภาวะที่เลวร้าย และก็จะเจอช่วงที่ดีอีกหลายต่อหลายครั้ง
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน สิ่งสำคัญ คือ เป้าหมายที่ต้องตั้งให้ชัดเจน ส่วนวิธีการก็เป็นรายละเอียดที่แตกต่างกันในแต่ละคน
สุขสันต์วันปีใหม่ครับ


fewcentsport
[email protected]

เห็น graph ของคุณ fewcentsport แล้วต้องบอกว่า graph สวยมากครับ ไม่มีลดเลยสักปีเดียว เก่งจังเลย

10  เท่าใน 6 ปี ยินดีด้วยนะครับสุดยอดมากๆ

ลงทุนมาตั้งแต่ปี 53 เงินต้น 200000 ทำงานเอาเงินมาลงเพิ่มทุกเดือน มากบ้างน้อยบ้าง ไม่ได้ลงแต่หุ้นอย่างเดียว ลงอย่างอื่นด้วย พันธบัตร LTF ประกัน ฝากประจำ แต่หุ้นเยอะที่สุด ~70% ปีนี้ก็มาถึงหลักที่แปดแล้ว แง่คิดมุมมองก็ได้มาอยากเอามาแบ่งปัน ผมขอสรุปเป็นข้อๆนะครับ แต่คงไม่ได้เจาะลงไปในรายละเอียดเรื่องหุ้นนะครับ

1. เก็บให้เยอะ ใช้ให้น้อยเท่าที่จำเป็น อย่าฟุ้งเฟ้อ ผมมีครอบครัวมีลูกแล้ว ผมเก็บเงินได้เกิน 50%ของรายได้รวม อย่าตามกระแสสังคมมากไปเพราะมันจะทำให้เราเกิดความอยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ใช้เลยนะครับมันอึดอัด 55

2. มีบ้านให้ได้ก่อน ผมเคยอ่านหนังสือบางเล่มเขาจะแนะนำให้มีบ้านก่อนลงทุน ของผมเองมีบ้านก่อนลงทุน เข้าใจเลยว่าทำไม เพราะเวลาเราลงทุนมันจะสบายตัวมาก มันมีผลต่ออารมณ์ในการลงทุนจริงๆ เพื่อนผมบางคนลงทุนอยู่ ตอนหลังมีเหตุต้องซื้อบ้าน ผมคุยกับเขาแล้วผมรู้สึกว่าเขาจะใจร้อนมากขึ้น พยายามจะทำให้ตลาดมัน easy money ซึ่งมันไม่ใช่ มันจะส่งผลต่อการตัดสินใจเราอย่างมาก

3. นอกจากมีบ้านแล้ว พยายามก่อหนี้ให้น้อยที่สุด ทุกๆทาง รวมถึงการเล่นมาจิ้นด้วย แต่อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิกแต่ละคน บางคนเก่งทำได้ก็ดีครับ

4. เปิดใจยอมรับการลงทุนแนวทางอื่น นำมาประยุกต์ให้เข้ากับตัวเอง ให้มันตรงจริตตัวเอง ต้องยอมรับว่าไม่มีวิธีการลงทุนใดๆที่จะชนะได้ทุกตลาด แม้กระทั้งว่าในบางครั้งการถอยออกมาจากตลาดก็เป็นกลยุทธ์ที่ดี

5. การกระจายลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆที่ช่วยสร้างกระแสเงินสด นอกจากหุ้น มันก็ช่วยทำให้เราสบายตัวสบายใจมากขึ้น อันนี้ก็แล้วแต่คนอีกเช่นกัน บางคนลงหุ้น 100%แล้วสบายใจก็โอเค แต่สำหรับคนที่ต้องถือหุ้น 100% แล้วรู้สึกไม่สบายตัว เป็นกังวล ผมก็ฝากไว้คิด เพราะส่วนตัวผมมันทำให้ผมสบายใจในการลงทุนในหุ้นมากขึ้น

ผมก็มีเป้าหมายคร่าวๆ คือ พยายามสร้างกระแสเงินสดให้เพียงพอค่าใช้จ่ายเท่านั้น ก็เป็นอย่างที่ทุกๆคนตั้งเป้าไว้เหมือนกัน ผมไม่เคยกำหนดเป้าหมายว่าต้องถึง 7หลัก 8หลัก หรือ9หลัก เพราะการใช้ชีวิตผมก็เหมือนเดิม ตอนนี้มี8หลัก วิถีชีวิตก็เหมือนกับตอนไม่มี จริงอยู่ว่าชีวิตมันดีขึ้น ไม่ติดๆขัดๆ สิ่งที่แตกต่างมากขึ้นก็คือเวลา ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าผมโชคดีและดีใจมากที่มีเวลาให้ลูกและครอบครัวได้มากอย่างที่ควรจะเป็น
ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้ผมมารู้จักกับคำว่าลงทุน ขอบคุณพี่เพื่อนนักลงทุนที่คอยช่วยเหลือ แม้ผมจะรู้จักใครๆน้อย แต่มีพี่อยู่ท่านนึงที่ผมรักและเคารพมาก ที่คอยช่วยเหลือแนะนำ ผมเสมอตลอดเวลา 3 ปีที่ผมได้รู้จัก
ปล.อยู่ดีๆก็อยากมาแชร์ สวัสดีปีใหม่ทุกคนนะครับ

ผมอยากให้พอร์ตโตไปถึงอย่างน้อย 1 million USD ครับ
แล้วจะถอนไปฝากสหกรณ์ กินดอกร้อยละ 3.75% (ไม่เสียดอกเบี้ย)
ก็ตกได้เงินสดใช้หรือเก็บ ประมาณ 100,000+ บาท/เดือน

หลังจากนั้น ก็ยังทำงานเดิมไปด้วย เพราะรักงานที่ทำมากครับ
แต่จะวอนขอให้ภรรยาเลิกทำงาน มาพักผ่อนสบายๆ เสียที
(ตอนนี้ก็ขอให้เลิกทำงานอยู่ แต่ภรรยาคงกลัวว่ายังมี security ไม่เพียงพอ)