Thai VI

โอโห้  หลายคนตั้งอายุ Retire หนุ่มจัง
ส่วนตัวผมไม่รีบร้อน ผมคิด Retire ตอนอายุ 65-70 ปี
(ถ้าอยู่ถึง)  
 ตอนนี้ทำงานถึง 3-4 ทุ่มทุกวันอย่างคุณ drsp
ไม่เว้น เสาร์ อาทิตย์ เคยเบื่อเหมือนกัน  แต่พอหยุด
พักผ่อนสัก 2-3 วันจะรู้สึกเหงามาก รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเรา
 เรื่องเที่ยวก็เที่ยวตลอดเวลาทั้งในและต่างประเทศ
  ดังนั้นผมเห็นด้วยกับหลายๆคนที่ว่าระยะเวลาไปสู่
เป้าหมายสำคัญกว่าเป้าหมาย

เห็นด้วยกับคุณหมอครับ

เงินสำคัญตอนที่มีไม่พอกับกิเลสเท่านั้น

ส่วนเกินกิเลส มีมากก็เท่านั้น

ถ้าลดกิเลส ส่วนจำเป็นก็น้อย

ถ้ากิเลส หนาๆ มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ

ส่วนที่จำเป็นในชีวิตต่อวัน

ผมว่า ไม่เท่าไหร่หรอก วันละ 500 ก็มากแล้ว

***********************************

ผมออกจากงานมา เพราะไม่รู้จะทำงานมาร์ต่อเพื่ออะไร

แนวทางการทำงานที่ดีต่อบริษัท

มันขัดกับ แนวทางการช่วยเหลือผู้คนด้านลงทุนที่ดี

และการที่เราออกมา ได้ช่วยให้เพื่อนร่วมงานที่จะตกงาน

ได้มียอดซื้อขาย มีลูกค้า มีรายได้(เพราะเราโอนให้)

ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องใช้รายได้ส่วนนี้แล้ว

***********************************

คำว่า Retire ผมจึงคิดว่า ไม่ใช่ หยุด ไม่ทำงาน

แต่เป็นการทำงานที่อยากทำจริงๆ

ตอนนี้ผมทำงานที่อยากทำ จริงๆ

คือการลงทุน หาข้อมูลเพื่อลงทุนอย่างเต็มที่

โดยกำหนดเวลาได้เอง เข้างาน ออกงานเมื่อไหร่ก็ได้

ไม่ต้องให้บริษัทมากำหนดว่าต้องเสร็จเมื่อไหร่

สอนหรือแนะนำ การลงทุน ไปเรื่อยเพื่อความสุขใจที่ได้ทำอะไรให้ผู้อื่น

ออกกำลังกาย ทำบุญตามโอกาศ เพื่อความสุขใจและกาย ของตนเอง


***********************************

เต่ลึกๆในใจ คิดเสมอว่า มันแค่นั้น ไม่มีค่าอะไร

ทุกสิ่ง เหมือนแค่ฝัน พอเหตุการณ์ ผ่านไป ก็ทิ้งไว้แค่ความทรงจำ

กิน กาม เกียรติ ทำให้มีความสุขแค่ตอนได้มา และไม่ทุกข์ที่ไม่ได้มา

แต่ได้มาแล้ว ก็แค่นั้น ต้องวิ่งไขว่คว้าที่ดีขึ้นต่อ เพราะ เฉยๆกับสิ่งที่ได้แล้ว

ขอฝาก อย่าเห็นเงินเป็นเรื่องใหญ่ คำว่าพอเพียงพึงควรระลึกไว้เสมอ ที่วุ่นวายกันทุกวันนี้ก็เพราะความโลภ ไม่รู้จักพอ ปลูกฝังยกย่องเทิดทูนคนมีเงิน มีหมื่นล้านแสนล้านก็ไม่มีความสุขอย่างที่เห็นๆ แม้แผ่นดินเกิดยังไม่มีที่ให้ยืนน่าเห็นใจในความไม่รู้จักพอของเขา

ผมคิดว่าสังคมชาววีไอ

มีความหวังและเป้าหมาย
เพิ่มเป็นกรอบ แบบแผน และ วินัย
ให้เราได้เดิมตาม ไม่หลงระเริง ใช้เงิน ใช้เวลา ใช้ชีวิต
ไปในทางที่ผิด

การลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่ง ความร่ำรวยที่แท้จริงต้อง

ร่ำรวยอย่างพอเพียง ไม่โลภจนเกิดทุกข์
ร่ำรวยด้วยความสุข อย่าดายที่จะใช้เงินให้ความสุขกับชีวิต
ร่ำรวยด้วยการให้ แลกเปลี่ยน give and take แบ่งปันผู้ด้อยกว่า
ร่ำรวยด้วยใจส่วนลึก เต็มเปี่ยมด้วยไมตรีไม่แบ่งแยกไฮโซ-โลโซ
ร่ำรวยด้วยเวลาที่พอเพียง ให้เวลาที่พอเพียงสำหรับทุกกิจกรรม ที่ชีวิตหนึงพึงมี ครับ

ตอนนีั อายุ 30 กว่าๆ คงต้องจัดระเบียบ วินัย ทางการเงิน หลังจากที่ เสียไป 6 ปี  ขอพักจริงๆ เที่ยว อยู่กับครอบครัว ดูหุ้น ช่วยงานบ้านเกิด สักอายุ 45 ครับ  ตอนนี้ก็ทำ MLM ให้เครือข่ายเยอะๆ  พร้อมทั้งนำรายได้มาลงทุนต่อยอด  หวังไว้ 5 ปีต่อแต่นี้ ลงทุนปีละล้าน  อายุ 45 พอร์ทซัก 20 ล้าน   ปันผลบวกกับรายได้ mlm สัก 3 แสน/เดือน (กรณีรายได้ mlm ไม่เพิ่มเลย) เท่านี้ก็พอแล้วครับ  :D

เป้าหมายผมคือ ได้ผลตอบแทนเท่าที่ร้านครับ
ที่บ้านผมทำธุรกิจ SME อยู่ กำไรปีละ 2 ล้าน
กำไรก็ถือว่ามากพอสมควรที่จะอยู่กินได้ ไม่มีปัญหาเรื่องเงินทอง
แต่ปัญหาคือ...
ไม่ค่อยมีเวลาเลยครับ ต้องทำงาน ต้องเฝ้าร้านทุกวัน ไม่มีวันหยุด  
เป้าหมายผมก็ขอให้ได้ผลตอบแทนเท่าร้าน
เมื่อถึงวันนั้น ครอบครัวผมก็คงมีเวลามากขึ้น ใช้เวลาด้วยกันได้มากขึ้น
ไปเที่ยวได้มากขึ้น โดยไม่ต้องห่วงร้านแล้ว
หวังว่าจะทำได้ก่อน อายุ  40 ปี ครับ (ตอนนี้ 22)

ไม่มีเกษียณแต่ทำงานที่รักไปเรื่อยๆและเป็นระโยชน์กับสังคม
โดยไม่ต้องพะวงและมีห่วงทางการเงินครับผม
ขนาดพอร์ตไม่สำคัญอยู่ที่ใจมากกว่า

[quote="ซุนเซ็ก"]เป้าหมายผมคือ ได้ผลตอบแทนเท่าที่ร้านครับ
ที่บ้านผมทำธุรกิจ SME อยู่ กำไรปีละ 2 ล้าน
กำไรก็ถือว่ามากพอสมควรที่จะอยู่กินได้ ไม่มีปัญหาเรื่องเงินทอง
แต่ปัญหาคือ...
ไม่ค่อยมีเวลาเลยครับ ต้องทำงาน ต้องเฝ้าร้านทุกวัน ไม่มีวันหยุด

อยากทราบว่า นักลงทุน VI full time มีกิจวัตรประจำวันอะไรบ้าง  คือกำลังเป็นนักลงทุน full time

หวังไว้ลึกๆที่ 30 ปีครับ แต่คงไม่ไปคาดครั้นอะไรกับผลตอบแทนมาก

หวังให้มันวิ่งไปเรื่อยๆ และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ  :D

1997  เรียนจบ  ตั้งเป้าหมายว่าจะหาเงินเอง ไม่ขอพ่อ แม่.....ผลคือ.. ไม่มีงานทำเนื่องจาก ฟองสบู่แตก
1999 แต่งงาน  ตั้งเป้าหมายว่าจะทำกับข้าว รีดผ้าให้คุณสามี..... ..ผลคือ.. คุณสามีเป็นคนทำกับข้าว รีดผ้า ไปรับ-ส่ง เนื่องจากทำงานเลิก 4 ทุ่ม จันทร์ ถึง เสาร์ วันอาทิตย์ไปสอนหนังสือ
2000 ทำงานธนาคารตั้งเป้าหมายว่าจะกลับบ้านก่อน 2 ทุ่ม..... ผลคือ.. พี่รปภ.มาที่โต๊ะเกือบทุกวันตลอด 9 เดือนและบอกว่า.. น้องครับ ทั้งชั้นไม่มีใครอยู่แล้ว น้องกำลังท้อง กลับบ้านพักเถอะครับ (ทุกวันนี้มีพี่เค้าเป็นเพื่อนสนิทคนนึงค่ะ)
2004 ลูกสาวเข้าอนุบาล ตั้งเป้าหมายว่า จะกลับบ้านให้ทันก่อนลูกเข้านอน อาทิตย์ละ 1 วัน ..... ผลคือ.. เดือนละ 1 วัน ยังยากเลย
2009 ย้ายงาน เลิกตั้งเป้าหมาย....ลองดูซิว่าจะเป็นยังไง

23 May 2010 วันสุดท้ายก่อนจะต้องกลับๆไปทำงาน หลังจากที่การชุมนุมประท้วงยุติ  ถามลูกสาวว่า หนูอยากได้อะไรอีกมั๊ยคะ  เราจะได้ไปซื้อกันวันนี้ เพราะพรุ่งนี้คุณแม่ต้องไปทำงานแล้วค่ะ คำตอบของลูกสาวคือ...หนูอยากได้คุณแม่ค่ะ  หนูอยากให้คุณแม่อยู่บ้านกับหนู

June 2010 ตั้งเป้าหมายว่า...จะยื่นใบลาออกวันที่ 2 August 2010
August 2010 ตั้งเป้าหมายว่า...ขายบ้าน ไปหาบ้านหลังเล็กๆ ....เอาเงินที่เหลือลงทุนในหุ้น

ไม่ตั้งเป้าหมายจะ retire เมื่อไหร่ และขนาดของสินทรัพย์เป็นเท่าไหร่ เพราะสินทรัพย์ส่วนแรก เพื่อลูกสาว  
ส่วนที่สองเพื่อลูกคนอื่น ที่ทุกข์ยาก  ลำบาก เยอะแยะ
...คืออยากทำโรงเรียนให้เด็กๆ ยากจนเรียนฟรี แต่ต้องเป็นโรงเรียนที่สอนให้เด็กได้เห็นภาพ ได้ทดลอง เพราะจะทำให้เด็กมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แทนที่จะอธิบายแต่ทฤษฎี สอนให้เด็กได้เห็นของจริงและปฏิบัติมากทีสุด สอนในสิ่งที่ซึมซาบเข้าไปในตัวเด็ก ให้เด็กพร้อมจะดึงออกมาใช้เมื่อถึงเวลา สอนให้เด็กต้องการเรียนรู้ ให้เด็กรู้จักคิด และศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง  และเผื่อว่า เด็กเหล่านี้จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่คิดดี ประพฤติดี เก่งดนตรี มีศิลปะในหัวใจ
ทั้งหมดนี้  ไม่มีค่าใช้จ่าย และมีอาหารกลางวันทาน

แหม่มหวังว่าจะมี passive income อย่างเงินปันผล (หักภาษีแล้ว) เข้ามาปีละ 12 ล้านบาท ไม่เกินอายุ 40 ปีค่ะ
ฉะนั้น อีก 19 ปี สู้เค้า อิอิ

madam เขียน:แหม่มหวังว่าจะมี passive income อย่างเงินปันผล (หักภาษีแล้ว) เข้ามาปีละ 12 ล้านบาท ไม่เกินอายุ 40 ปีค่ะ
ฉะนั้น อีก 19 ปี สู้เค้า อิอิ

200 ล้านเท่านั้นครับ สู้ ๆ  :cheers:

ตั้งใจว่าภายใน 10 ปีนี้คับ

ไม่เคยคิดกษียณครับ ถึงแม้นว่าเริ่มแก่แล้ว เพราะรู้สึกมีความสุข กับการทำงาน  ผมทำงานเกือบทุกวัน และเมื่อยิ่งอายุมากขึ้น คือคนเราก็จะมีความรู้ และประสบการณ์ทำงานมากขึ้น จะได้สอนคนรุ่นหลังๆ ให้เก่ง ๆ กว่าคนรุ่นก่อนครับ  เพราะประเทศไทยเราจะพัฒนาได้คนรุ่นหลังต้องเก่งกว่าคนรุ่นก่อน  ส่วนขนาดพอร์ตอยุ่ที่ความพอใจครับ เพราะ คนเราจะไม่เคยพอ แบบว่าพอถึงเป้า  เป้าก็เปลี่ยนสูงขึ้นไปอีก  ผมว่าสุดท้าย ก้อมาอยู่ที่สุขภาพครับ ทานอาหารมีประโยชน์  ออกกำลังกาย พักผ่อนมาก ๆ และขอให้ไม่เป็นความดัน เบาหวาน ไขมันสูง โรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด โรคลำไส้  โรคกระดูกเสื่อม  โรคมะเร็ง โรคเครียด :lol:   สาธุ

[quote="neangs"]23 May 2010 วันสุดท้ายก่อนจะต้องกลับๆไปทำงาน หลังจากที่การชุมนุมประท้วงยุติ

มื่ออายุ 35 ในปี 2551ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากจะเกษียณก่อนกำหนดที่อายุ สัก 50 ผมเคยเข้าใจผิดไปตั้งสองปีว่า การมีอิสรภาพทางการเงินคือการเกษียณ แต่เพิ่งจะเข้าใจว่าเป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช่การเกษียณก่อนกำหนดแต่เป็นการมีอิสรภาพทางการเงินต่างหาก

ส่วนตัวผมเอง ยังรักงานที่ทำและอยากที่จะทำงานอยู่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่ไหว แต่ว่าขณะที่ทำงานนั้นไม่อยากมีห่วง โดยเฉพาะเรื่องรายได้ เป้าหมายในปัจจุบันจึงเข้าใจว่าคือเรื่องการมีอิสรภาพทางการเงิน

มีเงินเย็นที่ลงทุนต่าง ๆ ราว 1.5 ล้านบาท (ไม่รวมบ้าน กับ คอนโดที่ผ่อนอยู่) หวังว่าอีก 13-15 ปีข้างหน้าจะมี passive income ได้ปีละ 1.5 ล้านบาทครับ (หวังมากไปหรือเปล่าเนี่ย)

[quote="mike9"]ไม่เคยคิดกษียณครับ ถึงแม้นว่าเริ่มแก่แล้ว เพราะรู้สึกมีความสุข กับการทำงาน

ซัก 30 ล้านครับ เกษียณ 55 จากธุรกิจในครอบครัว ไปไปิดร้าน อาหารเช้าเล็ก กับ ภรรเมียครับ ตออนี้ 29 ครับ Port 1 ล้านครับ

สำหรับผมนะครับผมว่าไม่มีเกษียณอะครับ
ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบได้ทำไปเรื่อยๆเราจะเลิกทำไม
ผมไม่ได้มองว่าportต้องใหญ่ขนาดไหนแต่มองว่าเรามีความสุขขนาดไหน
บางคนportใหญ่แต่ไม่มีความสุข คนรอบข้างไม่มีความสุขก๊ไม่มีความสุข
ก็ไม่มีประโยชน์  :D
สนุกกับการลงทุนบนความไม่ประมาทครับ

อยากเข้าอธิบายคำว่า"เกษียณ" จากซื่อกระทู้หน่อยครับ
หลายๆท่านคงไม่ได้อ่านมาตั้งแต่ต้น

การเกษียณอายุการทำงาน ในที่นี่ผมหมายถึงการหยุดทำงานที่เราไม่อยากทำ
หรือ เราจำเป็นต้องทำ  
ประจำเช่น พนักงานบริษัท ข้าราชการ
หรือ ทำกิจการของตัวเอง ที่ต้อง หาเงิน เป็นรายได้หลัก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินชีวิต และ งานที่ทำมีเป็นภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบปล่อยวางได้ไม่นาน
มีเวลาเป็นกติกาที่ต้องปฏิบัติตามกำหนด

ท่านใดที่ไม่มีเวลาทำงานที่แน่นอน ไม่มีใคร หรือภาระหน้าที่มากำหนด ไม่ไปทำก็ได้
หยุดทำเป็นเวลานานก็ได้ และที่สำคัญ ท่านไม่ได้เอางานนั้นเป็นรายได้หลัก

เป้าหมายขนาดของพอร์ตลงทุนใหญ่เท่าไหร่ ที่ท่านคิดว่าพอเพียง
กับการดำเนินชีวิตอย่างมีความสูขของท่าน และครอบครับในอนาคตจนชั่วอายุท่าน โดยไม่ต้องทำงานประจำแล้ว

สำหรับผมแล้ว ยังไม่ได้บอกว่าพอร์ตต้องโตขนาดไหน
ผมเอาเวลาเป็นตัวตั้ง เป็นเป้าหมายหลัก ขนาดพอร์ตเป็นรอง
เอาไว้เป็นเป้าหมายในใจของผมไปก่อน ถึงวันเกษียณ
จริงๆก่อนจะมาเฉลยนะครับ อีก 3-4 ปีครับ

ที่ผมคิดว่าเวลาเป็นหลักเพราะ ผมไม่รู้ว่าผมมีอายุยืนขนาดไหน ผมอยากมีเวลาที่เป็นอิสระมากเท่าที่ผมจะมีได้
ขนาดพอร์ตที่เป็นเป้าหมายรอง เพราะ
ผมสามารถลดความต้องการ เพื่อลดค่าใช้จ่าย
ให้สมดูลกับรายได้จากพอร์ตนั้น ครับ
 :D  

ขอให้ทุกท่านมีความสูขขณะเดินทางและ
ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายครับ

lovebanana_45 เขียน:ก่อนจะมาเล่นหุ้นก็มีคนมาบอกผมเหมือนกันครับว่า ทำไม ไม่หาิอิสระภาพทางการเงิน แต่กลับกันตรงที่ว่า คนที่มาบอกผม มาชวนผมทำ amway

อ่านคอมเม้นต์แล้วผม ต้องแอบอมยิ้มเลย ครับ โดนมาเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ

ผมน้องใหม่ของ ThaiVI ขอ share ความเห็นด้วยคับ

ผมอายุ 23 เพิ่งทำงานมาได้ 1 ปี

เมื่อเรียนจบ ที่บ้านฐานะค่อนข้างยากจน โดยมีเงินเก็บทั้งหมดตั้งแต่เด็กต้องให้น้องเพื่อเอาไว้เรียนต่อมหาวิทยาลัย โดยเหลือเงินเก็บในบัญชีย่อยๆ กับเงินที่ได้รับเป็นของขวัญรับปริญญาประมาณ 50,000 บาท (ไม่มีสินทรัพย์อื่นๆเพิ่มเติม แม้แต่บ้าน, คอนโด หรือคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ตอนนี้ใช้ของบริษัทคับ)

ตอนนี้ก็เริ่มลงทุนในหุ้นประมาณ 6 เดือน บวกกับใส่เงินเข้าไปด้วยตอนนี้พอร์ตประมาณ แสนกว่าบาท (อันนี้ดีใจมาก)

เป้าหมาย Retire สำหรับผมนั้นยังอีกไกลมาก เป้าหมายแรกตอนนี้คืออยากได้ passive income สำหรับจ่ายค่าเช่าหอพักทั้งปีคือ 78,000 บาท ยังห่างไกลเลยคับ T^T

แต่ผมคิดว่ายังมีคนที่ลำบากกว่าผมอีกมากครับ เลยเป็นแรงผลักดันให้ผมมาตลอด แต่ผมก็ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย พี่ๆใน ThaiVI มีคำแนะนำอะไร ขอคำชี้แนะด้วยคับ  

[quote="BELFEGOR"]ผมน้องใหม่ของ ThaiVI ขอ share ความเห็นด้วยคับ

ผมอายุ 23 เพิ่งทำงานมาได้ 1 ปี

เมื่อเรียนจบ ที่บ้านฐานะค่อนข้างยากจน โดยมีเงินเก็บทั้งหมดตั้งแต่เด็กต้องให้น้องเพื่อเอาไว้เรียนต่อมหาวิทยาลัย โดยเหลือเงินเก็บในบัญชีย่อยๆ กับเงินที่ได้รับเป็นของขวัญรับปริญญาประมาณ 50,000 บาท (ไม่มีสินทรัพย์อื่นๆเพิ่มเติม แม้แต่บ้าน, คอนโด หรือคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ตอนนี้ใช้ของบริษัทคับ)

ตอนนี้ก็เริ่มลงทุนในหุ้นประมาณ 6 เดือน บวกกับใส่เงินเข้าไปด้วยตอนนี้พอร์ตประมาณ แสนกว่าบาท (อันนี้ดีใจมาก)

เป้าหมาย Retire สำหรับผมนั้นยังอีกไกลมาก เป้าหมายแรกตอนนี้คืออยากได้ passive income สำหรับจ่ายค่าเช่าหอพักทั้งปีคือ 78,000 บาท ยังห่างไกลเลยคับ T^T

แต่ผมคิดว่ายังมีคนที่ลำบากกว่าผมอีกมากครับ เลยเป็นแรงผลักดันให้ผมมาตลอด แต่ผมก็ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย พี่ๆใน ThaiVI มีคำแนะนำอะไร ขอคำชี้แนะด้วยคับ

[quote="Skyforever"]
เป็นกำลังใจให้ครับ เพิ่งจบเอง ยังมีเวลาอีกมาก ถ้าเราตั้งใจจริงและไม่ท้อไปก่อน ต้องได้เห็น Passive income 78,000 บาทแน่ๆครับ

ขอแค่คิดออมเงิน ก็เป็นอิสระภาพทางการเงินได้ครับ มากน้อยไม่สำคัญ

madam เขียน:แหม่มหวังว่าจะมี passive income อย่างเงินปันผล (หักภาษีแล้ว) เข้ามาปีละ 12 ล้านบาท ไม่เกินอายุ 40 ปีค่ะ
ฉะนั้น อีก 19 ปี สู้เค้า อิอิ

 อายุแค่ 21 เอง มีพอร์ต 7 หลักแล้ว ไม่ธรรมดาเลย

ผมมันคน Low Profile

ใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท ก็อยู่ได้สบายๆ

จริงๆ แล้วรวมกับเงินที่ให้แม่เดือนละ 10,000

ที่เหลือให้ผมใช้จริงๆ ก็แค่ 15,000 บาทเอง

ฉะนั้นปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายของการทำงานประจำ

ตามที่ผมเคยโพสไว้เมื่อต้นปี........................

ครึ่งปีหลังจากนี้ผมทำตัวสบายๆ สอน น้องๆ ที่จะมารับงานต่อ

ถ้าสังเกตุดีๆ login ผมจะอยู่ใน TVI ตลอดเพราะผมไม่ค่อยมีอะไรทำแล้ว



อยากจะรู้เหมือนกันว่ารสชาติชีวิตที่เป็นนักลงทุนอย่างเดียวมันจะเป็นยังไง

แค่จินตนาการว่าตื่นแต่เช้าเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตรงหุบเขา อาบน้ำแต่งตัว

ออกไปวิ่ง สูดโอโซน กลับมาเล่นฟิตเนสเล็กน้อย กินข้าวที่แม่เตรียมไว้

(เจริญจริงๆ ) อาบน้ำ เตรียมตัวไปนั่งอ่านงบการเงิน ค้นหาหุ้นเงา เบื่อก็ลง

มาเดินดูต้นไม้ หมู หมา กา ไก่


หลังมื้อกลางวันก็หลับสักงีบใหญ่ๆ ก็ไม่มีใครว่า ตื่นพร้อมกับตลาด 14.30 น.

มาอ่านหนังสือต่อ เข้าเว็ป TVI และอื่นๆ ตกเย็นๆ เริ่มมึนๆ ก็ออกไปขี่จักรยาน

ไปหาซื้อกับข้าวมาทำอาหารเย็น (ให้แม่ทำให้กินอีก)


นั่งดูทีวีกับครอบครัวสักพัก 20.30 น. ก็เริ่มอ่านหนังสือต่อ ช่วงค่ำก็แล้วแต่

ว่าใจอยากจะอ่านอะไรก็อ่าน ก่อนนอนสวดพาหุงฯ หรือเดินจงกรมสักสิบนาที

ก็เข้านอน.....

ทั้งหมดคือภาพที่ผมจินตนาการไว้ และมันกำลังจะเป็นจริงในอีกไม่กี่เดือน

ข้างหน้านี้ แต่ก็เผื่อใจไว้บ้าง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็พร้อมจะกลับมา

ทำงานประจำเพราะเรี่ยวแรงยังเหลือ ผมเริ่มจากศูนย์จริงๆ จะกลับไปศูนย์

ใหม่ก็ไม่แปลก ชีวิตเคยอยู่กลางดิน กินกลางทราย ได้แค่นี้ก็บุญนักหนา


ผมเคยไปจับฉลากเข้าปฎิบัติธรรมที่สวนสันติธรรมไว้ ได้เข้าพักปี 54 เมื่อปี

51 ยังคิดๆ ว่าตรูจะหาเวลาไปได้ยังไงว้า....งานก็เยอะ ยุ่งก็ยุ่ง ลูกค้าโทร

ตามจะทำไง งานมีปัญหาใครจะดูแล......ฯลฯ


ตอนนี้คงไม่ต้องกังวลแล้ว

ขอให้นักลงทุนทั้งหลายจงสู้ต่อไปครับ

อนัตตา เขียน:ผมมันคน Low Profile

ใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท ก็อยู่ได้สบายๆ

จริงๆ แล้วรวมกับเงินที่ให้แม่เดือนละ 10,000

ที่เหลือให้ผมใช้จริงๆ ก็แค่ 15,000 บาทเอง

ฉะนั้นปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายของการทำงานประจำ

ตามที่ผมเคยโพสไว้เมื่อต้นปี........................

ครึ่งปีหลังจากนี้ผมทำตัวสบายๆ สอน น้องๆ ที่จะมารับงานต่อ

ถ้าสังเกตุดีๆ login ผมจะอยู่ใน TVI ตลอดเพราะผมไม่ค่อยมีอะไรทำแล้ว



อยากจะรู้เหมือนกันว่ารสชาติชีวิตที่เป็นนักลงทุนอย่างเดียวมันจะเป็นยังไง

แค่จินตนาการว่าตื่นแต่เช้าเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตรงหุบเขา อาบน้ำแต่งตัว

ออกไปวิ่ง สูดโอโซน กลับมาเล่นฟิตเนสเล็กน้อย กินข้าวที่แม่เตรียมไว้

(เจริญจริงๆ ) อาบน้ำ เตรียมตัวไปนั่งอ่านงบการเงิน ค้นหาหุ้นเงา เบื่อก็ลง

มาเดินดูต้นไม้ หมู หมา กา ไก่


หลังมื้อกลางวันก็หลับสักงีบใหญ่ๆ ก็ไม่มีใครว่า ตื่นพร้อมกับตลาด 14.30 น.

มาอ่านหนังสือต่อ เข้าเว็ป TVI และอื่นๆ ตกเย็นๆ เริ่มมึนๆ ก็ออกไปขี่จักรยาน

ไปหาซื้อกับข้าวมาทำอาหารเย็น (ให้แม่ทำให้กินอีก)


นั่งดูทีวีกับครอบครัวสักพัก 20.30 น. ก็เริ่มอ่านหนังสือต่อ ช่วงค่ำก็แล้วแต่

ว่าใจอยากจะอ่านอะไรก็อ่าน ก่อนนอนสวดพาหุงฯ หรือเดินจงกรมสักสิบนาที

ก็เข้านอน.....

ทั้งหมดคือภาพที่ผมจินตนาการไว้ และมันกำลังจะเป็นจริงในอีกไม่กี่เดือน

ข้างหน้านี้ แต่ก็เผื่อใจไว้บ้าง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็พร้อมจะกลับมา

ทำงานประจำเพราะเรี่ยวแรงยังเหลือ ผมเริ่มจากศูนย์จริงๆ จะกลับไปศูนย์

ใหม่ก็ไม่แปลก ชีวิตเคยอยู่กลางดิน กินกลางทราย ได้แค่นี้ก็บุญนักหนา


ผมเคยไปจับฉลากเข้าปฎิบัติธรรมที่สวนสันติธรรมไว้ ได้เข้าพักปี 54 เมื่อปี

51 ยังคิดๆ ว่าตรูจะหาเวลาไปได้ยังไงว้า....งานก็เยอะ ยุ่งก็ยุ่ง ลูกค้าโทร

ตามจะทำไง งานมีปัญหาใครจะดูแล......ฯลฯ


ตอนนี้คงไม่ต้องกังวลแล้ว

ขอให้นักลงทุนทั้งหลายจงสู้ต่อไปครับ

อ่านดูแล้ว ชีวิตแบบนี้ตรงกับจริตผมสุดๆ

ตั้งเป้าไว้ว่าอีก 9 ปี จะเดินตามแนวทางนี้บ้างครับ

[quote="BELFEGOR"]ผมน้องใหม่ของ ThaiVI ขอ share ความเห็นด้วยคับ

ผมอายุ 23 เพิ่งทำงานมาได้ 1 ปี

เมื่อเรียนจบ ที่บ้านฐานะค่อนข้างยากจน โดยมีเงินเก็บทั้งหมดตั้งแต่เด็กต้องให้น้องเพื่อเอาไว้เรียนต่อมหาวิทยาลัย โดยเหลือเงินเก็บในบัญชีย่อยๆ กับเงินที่ได้รับเป็นของขวัญรับปริญญาประมาณ 50,000 บาท (ไม่มีสินทรัพย์อื่นๆเพิ่มเติม แม้แต่บ้าน, คอนโด หรือคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ตอนนี้ใช้ของบริษัทคับ)

ตอนนี้ก็เริ่มลงทุนในหุ้นประมาณ 6 เดือน บวกกับใส่เงินเข้าไปด้วยตอนนี้พอร์ตประมาณ แสนกว่าบาท (อันนี้ดีใจมาก)

เป้าหมาย Retire สำหรับผมนั้นยังอีกไกลมาก เป้าหมายแรกตอนนี้คืออยากได้ passive income สำหรับจ่ายค่าเช่าหอพักทั้งปีคือ 78,000 บาท ยังห่างไกลเลยคับ T^T

แต่ผมคิดว่ายังมีคนที่ลำบากกว่าผมอีกมากครับ เลยเป็นแรงผลักดันให้ผมมาตลอด แต่ผมก็ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย พี่ๆใน ThaiVI มีคำแนะนำอะไร ขอคำชี้แนะด้วยคับ