หน้า 8 จากทั้งหมด 14

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2008 3:40 pm
โดย hongvalue
noooon010 เขียน:พระอาจารย์ mac ของพี่พอใจเค้าดูจากกราฟน่ะครับ
(มาตอบแทนครับ) :D

มันกว้างไปครับ

ผมอยากได้ที่ specific กว่านี้หน่อย

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2008 3:56 pm
โดย por_jai
:8) พอดีผมออกมาข้างนอก พิมพ์ไม่ค่อยสะดวก
     ไว้กลับบ้านตอนเย็นๆจะค่อยๆมาเรียบเรียงให้อ่านกัน

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2008 4:16 pm
โดย hongvalue
[quote="por_jai"]:8) พอดีผมออกมาข้างนอก พิมพ์ไม่ค่อยสะดวก

55

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2008 4:31 pm
โดย fsuitra
อ้าว   อ่านไปอ่ามาหมดซะ กะลังเพลินเลยครับพี่  ผมเด็กใหม่ เป็นเด็กแว๊นครับ


กลับใจหันมาเพาะกาย และศึกษาการลงทุนอย่างจริงจัง  ฝากเนื้อฝากหนังด้วย

ครับ :oops:  :oops:  :oops:

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2008 11:01 pm
โดย hongvalue
พี่พอใจปายหน้านนนนนนนนนนนนนนนยยยยย


รอฟังอยู่น้า

อิอิ :lol:

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2008 8:53 am
โดย por_jai
hongvalue เขียน:
มันกว้างไปครับ

ผมอยากได้ที่ specific กว่านี้หน่อย
:8) ขอโทษด้วยครับฮง

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2008 11:02 am
โดย hongvalue
por_jai เขียน: :8)       ส่วนเรื่องที่ฮงถาม
     ผมก็ไม่ทราบจะตอบได้specificหรือเปล่า
     ลองคุยๆกันดู
     ผมว่าฮงถามได้เข้าเป้าดีนะุ แต่ตอบยากจิ๊บเป๋ง
     ใครจะรู้อนาคตได้
     เพียงแต่ถ้าอ่านแล้วว่าสถานการณ์ไม่ดี
     เล่นโดยใช้วิธีตั้งรับ แม้ไม่ได้ แต่ก็ไม่เสีย
     ผมเองคุยกันทุกวันก็เลยไม่ค่อยได้จำชัดๆว่าตอนไหน
         
   ...
อืมเข้าใจครับว่าตอบยากจริงๆ คำถามนี้
แต่ผมเห็นพี่เก่งน่ะ เลยถามยากๆ
กลัวถามง่ายๆแล้วเหมือนประเมินพี่ต่ำเกินไป

por_jai เขียน:      กราฟระดับmonth กับกราฟระดับQuater
     ...
นี้แหละ ที่อยากได้ ขอบคุณมาก

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2008 12:47 pm
โดย hongvalue
ผมมีเรื่องจะถามหน่อยครับ

บทที่13 ของเฮียวิ

ชื่อตอน วิลุ่มพีค ราคาพีค

เขาอธิบายว่าตอน ปตท 190 สมัยก่อนวอลุ่มสูงปรี๊ด
แต่พอหุ้นลงวอลุ่มลดไม่แปลก แต่ rebound แล้ว
วอลุ่มน้อย เขาเลยมองว่าจบรอบ


คือเขาจะสื่อว่า volume มาพร้อมราคา


แต่ตอนที่ 14 บอกว่า
หุ้นขึ้น วอลุ่มหาย
เขาบอกว่า ถ้าหุ้นขึ้นแล้ว volume หาย หมายความว่า
รายใหญ่เก็บของแล้วไม่ปล่อยหุ้นออกมาทำให้สภาพ
คล่องน้อยลง

และมีวรรคนึงเขียนว่า

ถ้าเราไปเจอ หุ้นขึ้น volume หาย นี้คือสุดยอดหุ้น
ใครหาพบคนนั้นรวย



พี่คับ คือผมงง ว่ามันขัดกันปะครับ
ตกลง volume มาเยอะๆ หรือขึ้นแล้วหายไปดีกว่ากันครับ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2008 1:05 pm
โดย krisy
ขอบคุณพี่พอใจมากค่ะ ที่เล่าให้ฟัง

รู้สึกจะเป็นส่วนผสมของ technical และภาพรวมเศรษฐกิจของโลก


เรื่องราคากับ volume ถ้าราคาขึ้น Vol ไม่มา นั่นมันทำราคาไม่ใช่เหรอค่ะ เท่าที่อ่านมา ให้ปล่อยไม่ใช่ให้ตาม (พี่ได้แต่อ่าน แต่พี่ยังดูไม่เป็นนะคะ) ถ้ารายใหญ่เก็บของ ราคาจะไม่ขึ้น แต่ Vol จะเรื่อยๆ ไม่หนาแน่น ไม่กระโตกกระตาก ให้สังเกต OBV จะค่อยๆเพิ่ม แต่ราคาไม่เพิ่ม แต่พอเก็บจนแห้งแล้ว ถึงค่อยุมีโยนกันไปมาหรือเปล่า เพราะถ้าราคาไม่มา Vol ไม่มา ย่อยไม่กล้าเข้า

อันนี้แชร์หนุกๆนะคะ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2008 7:57 pm
โดย hongvalue
ขอบคุณพี่กบครับ


ระหว่างรอพี่พอใจ

ผมขอฝอยคั่นรายการแล้วกันครับ

ใครชอบมีสาระก็อย่าอ่านเลยครับ

เพราะบอกแล้วว่าฝอย


ผมเคยคิดนะครับว่าสิ่งที่สำคัญที่นักลงทุนต้องมีคืออะไร
ผมว่าสิ่งนั้นก็คือ

คุณต้องประยุกต์วิชาให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันเป็น

ช่วงนี้ผมได้คุยกับนักลงทุนเยอะมาก

ทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่ และมือใหม่

สิ่งที่ผมเห็นว่า รุ่นเก่ามี

แต่รุ่นใหม่ กับ มือใหม่ไม่มี

นั้นคือการประยุกต์แนวคิดในตำรา ในบทเรียน
ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

นักลงทุนจำนวณมากคิดว่านักลงทุนที่เก่งกว่า
มีสูตรสำเร็จในการลงทุน

ว่า ถ้าคุณ xxx yyy zzz แล้วคุณจะชนะตลาด

แต่ความเป็นจริงตลาดหุ้นเป็นยังไงครับ

มันมักจะมีเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นเสมอ

ซึ้งบางทีคนผ่านร้อนผ่านหนาวมาจะไม่ยึดติดกับหลักการใดๆจนเกินไป



แต่สิ่งที่มือใหม่หลายคนทำก็คือ

ก็ในหนังสือมันบอก gu ว่า xxx(ชื่อคน)มันทำ yyy(วิธีการ) มันทำแบบนี้แล้วมันรวยนี้หว้า

gu ก็เลย yyy ตามมัน ทำไม gu ขาดทุนหนักขนาดนี้ว่ะ

เหตุผลน่าจะมีหลายอย่างเป็นเพราะ

1.คุณไม่ได้เข้าใจไอ้ yyy อย้างท่องแท้
2.เหตุการณ์ปัจจุบันหลายๆอย่างไม่เหมาะกับจะใช้
yyy อีกต่อไป
3.คุณยังไม่ให้ระยะเวลานานพอที่วิธี yyy จะออกดอกออกผล


เดี่ยวจะมีคนรำคาญว่าทำไมต้อง yyyy zzz ก็เพราะว่า
ของแบบนี้มัน sensitive พูดไปอาจจะทำให้มีคนโกธรแค้นได้ ก็เลยไม่เอ๋ยชื่ออะไรทั้งนั้น


เช่นสมมุติ ผมประเมินว่าหุ้น prop หลายตัวน่าลงทุน
ถ้าผมยึดติดกับตำราผมก็บอกว่า เฮ่ย ถูกแล้วซื้อไปเถอะ

"ไอ้บอลมึงเชื่อกูซื้อไปเลย กูวัด valuation มาแล้ว"
ปรากฏว่าผมลืมไปเรื่องนึง

หุ้น prop เจ้ามือคือฝรั้ง

ถ้าคุณไม่เชื่อ ลองดู หลายตัวที่ presale newhigh
profit newhigh แต่หุ้น new low

นั้นเท่ากับว่าถ้าฝรั้งเข้าคุณก็ทำ valuation ได้
เพื่อดูว่าตัวไหนน่าจะขึ้นมากสุด
แต่ไม่ใช่คนหลับหูหลับตาทำ valuation
แล้วฝรั้งก็โยนให้จนคุณแหลกเป็นโจ๊ก


แบบนี้ผมก็คิดว่าคุณปรับตัวไม่เป็น


ฝอยจบแล้ว สำหรับพี่พอใจไม่ได้อะไรหรอกเพราะเซียน
แต่มือใหม่บางคนอาจจได้ข้อคิด :lol:

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 12:14 am
โดย por_jai
hongvalue เขียน:ผมมีเรื่องจะถามหน่อยครับ

บทที่13 ของเฮียวิ

ชื่อตอน วิลุ่มพีค ราคาพีค

เขาอธิบายว่าตอน ปตท 190 สมัยก่อนวอลุ่มสูงปรี๊ด
แต่พอหุ้นลงวอลุ่มลดไม่แปลก แต่ rebound แล้ว
วอลุ่มน้อย เขาเลยมองว่าจบรอบ


คือเขาจะสื่อว่า volume มาพร้อมราคา


แต่ตอนที่ 14 บอกว่า
หุ้นขึ้น วอลุ่มหาย
เขาบอกว่า ถ้าหุ้นขึ้นแล้ว volume หาย หมายความว่า
รายใหญ่เก็บของแล้วไม่ปล่อยหุ้นออกมาทำให้สภาพ
คล่องน้อยลง

และมีวรรคนึงเขียนว่า

ถ้าเราไปเจอ หุ้นขึ้น volume หาย นี้คือสุดยอดหุ้น
ใครหาพบคนนั้นรวย



พี่คับ คือผมงง ว่ามันขัดกันปะครับ
ตกลง volume มาเยอะๆ หรือขึ้นแล้วหายไปดีกว่ากันครับ
บทที่13นี่ชัดเจน(ไม่ใช่เพลงใหม่ของโต้ชีริกกับนิโคลนะ)
เพราะเคยถามมาเอง
หุ้นที่ถือมาจาก(สมมุติว่า)70ผ่านไปปีนึงขึ้นไปมั่งหล่นมามั่งเป็นคลื่น
ขึ้นไปถึง190ซึ่งอาจเป็นนิวไฮด้วย
แถมโวลุ่มมาอีกอาจเป็นโวลุ่มไฮด้วย
(แถมให้อีกข้อ ออกบทวิเคราะห์ทุกนสพ.และทุกโบร๊กว่าจะไปต่อ250)
ให้ขายได้แล้ว(ครับ)
เฮียเขาว่า

ส่วนบทที่14นี่ผมเดาเองนะ ถ้ามีโอกาสเจอจะถามให้แล้วจะมาบอกอีกรอบ
บทที่13นี้หมายถึงหุ้นขึ้นไปแล้ว มองหาสัญญาณที่จะขายทำกำไร
ส่วนบทนี้หมายถึงตอน70บาทกระมังครับ
ตอนที่เก็บครบแล้ว กำลังจะดันขึ้นไป
น่าจะเป็นคนละช่วงเวลาของหุ้น
เพราะในบทความก็บอกเองว่า  หาเจอแล้วรวย

แต่เรื่องนี้ทฤษฎีของพระอาจารย์ผมบอกตอนกลางระหว่าง13กับ14ให้ด้วย
ซึ่งผมรู้อยู่เพราะเคยฟังมา
แต่ฮงยังไม่ได้ถามก็เลยยังไม่ได้ตอบ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 12:38 am
โดย hongvalue
por_jai เขียน:

แต่เรื่องนี้ทฤษฎีของพระอาจารย์ผมบอกตอนกลางระหว่าง13กับ14ให้ด้วย
ซึ่งผมรู้อยู่เพราะเคยฟังมา
แต่ฮงยังไม่ได้ถามก็เลยยังไม่ได้ตอบ

บอกหน่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

สิ

อยากรู้

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 10:55 am
โดย hongvalue
จริงๆแล้วบทความของเฮียวิเนี้ย

มีคำพูดหลายอย่างที่ผมชอบมากนะ

ผมชอบคำพูดที่บอกว่า

เงินนี่มันแปลก เงิน 1 ล้านบาท คุณจะเพิ่มให้เป็น 2 ล้านบาท ช่วงนี้จะยากมาก
แต่จาก 2 เพิ่มเป็น 4 เริ่มง่าย จาก 4 เพิ่มเป็น 8 ยิ่งง่ายกว่า...นี่เรื่องจริง


ผมเองคำเจอคำนี้จากหนังสือพ่อรวยสอนลูก

แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินคำนี้จากคนเล่นหุ้น

ผมว่าสัจธรรมข้อนี้เป็นจริง

เพราะว่า ถ้าเราหาล้านแรกได้แล้ว เราจะเข้าใจวิธีการหา
เงินล้านแล้ว ต่อให้เราขาดทุน มันก็ไม่ยากที่จะกลับมาใหม่ เพราะว่าเราเคยได้แล้ว

แต่บางคนไม่เคยได้เลยมาถึงขาดทุน
ก็อยากเป็นกำลังใจว่า คุณอาจจะยังไม่สามารถหาล้านแรกได้

แต่เมื่อได้ปุ๊ปมันจะติดลม

ส่วนตัวเคยเห็นคนที่เป็นแบบนี้มานักต่อนัก

แต่หลายๆคนเล่นแล้วขาดทุนก็เลิกไปเลย

ไม่ได้ลิ้มรสชาติแบบนี้ น่าเสียดายเหมือนกัน

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 11:00 am
โดย hongvalue
กูรูหุ้นพันล้าน : ตอนที่ 5 ทางลัดของมือใหม่

มีวรรคนึงบอกว่า

...สมัยก่อนจะนับถือ "เฮียชัยโรจน์" มาก แกเป็นนักลงทุนธรรมดาๆ ที่เล่นหุ้นจนร่ำรวย
แสดงว่าเขาเก่งจริง เท่าที่สังเกตนิสัย เฮียชัยโรจน์ จะต่างจากนักเล่นหุ้นคนอื่น พอ
ตลาดหุ้นปิด นักเล่นหุ้นคนอื่นจะชวนกันไปกินเหล้าสังสรรค์เฮฮา แต่เฮียชัยโรจน์จะนั่ง
อ่านงบการเงิน..ศึกษาข้อมูลหุ้นตลอด
สมัยที่พอร์ตยังเล็กๆ วิชัยบอกว่า จะพยายามเข้าไปตีสนิทกับนักลงทุนกลุ่มนี้ เวลาจะไป
รับประทานข้าวเที่ยง แถวๆ ริมคลองด้านหลังอาคารสินธร (ตลาดหลักทรัพย์เก่า) ก็จะ
รีบออกไปจองโต๊ะอาหารให้กลุ่มนี้นั่ง แล้วเรียกให้ เฮียชัยโรจน์ มานั่งด้วยกัน
"ผมพยายามจะเอาใจเขาวิ่งไปซื้อโอเลี้ยงให้ อยากเป็นพวกเขา แต่เวลาจะเข้าไปคุยกับ
คนกลุ่มนี้ เขาก็กลัวว่าเราจะไปเกาะเขาจะตาย




เรื่องนี้ผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง ผมว่าคนเล่นหุ้นสองคน
คนแรกได้อาจารย์ดี ไม่ต้องลองผิดลองถูกไปอีกนาน
และเข้าถึงหลักการดีๆสุดยอดได้มากมาย

คนที่สอง ทนงตัว หยิ่ง คิดเองเออเอง กว่าจะลองเองจน
รู้เรื่องไม่รู้ต้องใช้เวลากี่สิบปี คนที่อาจารย์ดีก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว
ผมดูแล้วคนที่สองประสบความสำเร็จยาก


ผมว่าพี่พอใจก็เป็นคนนึงนะที่วิ่งหาคนเก่งๆมาเป็นอาจารย์

อีกหน่อยคงมีบทความ

กูรูหุ้นพันล้าน : พอใจ tvi

อย่าลืมผมนะตอนนั้นอะ

อิอิ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 12:48 pm
โดย por_jai
:8) เอ้ามาเล่าต่อที่ค้างฮงไว้ครับ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:18 pm
โดย por_jai
ฮง เขียน:ว่า ถ้าคุณ xxx yyy zzz แล้วคุณจะชนะตลาด

แต่ความเป็นจริงตลาดหุ้นเป็นยังไงครับ

มันมักจะมีเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นเสมอ
ถ้าเลือกได้ผมขอเลือกวิธี XXX วิธีเดียวครับ

ซึ้งบางทีคนผ่านร้อนผ่านหนาวมาจะไม่ยึดติดกับหลักการใดๆจนเกินไป

จริงๆแล้วบทความของเฮียวิเนี้ย

มีคำพูดหลายอย่างที่ผมชอบมากนะ
ผมเคยเล่าให้ฟังแล้วนะตอนไปถามเฮียเขาว่า
เคล็ดลับที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
มีคนไปถามอีกครับ หมอจิเพื่อนแม็คมาเล่าให้ฟัง
สบโอกาสถามเฮียเขาว่า
อะไรที่พาเฮียมาอยู่ตรงนี้ทุกวันนี้
เฮียเขาตอบว่าคิดว่าคงเป็นความดีที่ทำมา

ผมว่าพี่พอใจก็เป็นคนนึงนะที่วิ่งหาคนเก่งๆมาเป็นอาจารย์
ผมมันบ้าครับ จริงๆผมเป็นคนหน้าบางนะ เริ่มๆก็ทำวิธีหน้าบางก่อนครับ
เมื่อก่อนเราอยากรู้เรื่องหุ้นอ่านหนังสือมีกี่เล่มๆอ่านหมดหลายๆเที่ยวครับ
มีเรียนที่ไหนมีสัมมนาที่ไหนไปหมด
พอเริ่มได้
มันก็ติดสิครับ เพราะหนังสือแนววีไอนี้มันไม่ได้มีเยอะแยะที่ไหน
ภาษาอังกฤษผมก็เหม็นเบื่อ อ่านไม่ไปไหนซักที แพงก็แพง ซื้อมาทีไรอ่านไม่เคยคุ้ม
พอหมดแหล่งเดิมเข้า
เอาละว่าทำไงดี
ก็ต้องใช้วิธีหน้าด้านละครับทีนี้
วิธีหน้าด้านนี่ตามกระทู้นี้แหละครับตั้งกะหน้าแรกนี่เลย
เราอย่าไปงมเองครับ
สำหรับผมต้องมีอาจารย์ครับยืนยันล้าน%
อีกหน่อยคงมีบทความ

กูรูหุ้นพันล้าน : พอใจ tvi

อีกหน่อยคงมีบทความ

กูรูหุ้นพันล้าน : พอใจ tvi
ฮงหมายถึงทรัพย์สินหรือหนี้สินครับ
ถ้าหนี้สินเรียกนสพ.มาสัมภาษณ์วันนี้เลยก็ได้ครับ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 3:02 pm
โดย hongvalue
por_jai เขียน: ถ้าเลือกได้ผมขอเลือกวิธี XXX วิธีเดียวครับ


รู้นะแอบลามก 555

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 3:09 pm
โดย hongvalue
por_jai เขียน: ผมมันบ้าครับ จริงๆผมเป็นคนหน้าบางนะ เริ่มๆก็ทำวิธีหน้าบางก่อนครับ
เมื่อก่อนเราอยากรู้เรื่องหุ้นอ่านหนังสือมีกี่เล่มๆอ่านหมดหลายๆเที่ยวครับ
มีเรียนที่ไหนมีสัมมนาที่ไหนไปหมด
พอเริ่มได้
มันก็ติดสิครับ เพราะหนังสือแนววีไอนี้มันไม่ได้มีเยอะแยะที่ไหน
ภาษาอังกฤษผมก็เหม็นเบื่อ อ่านไม่ไปไหนซักที แพงก็แพง ซื้อมาทีไรอ่านไม่เคยคุ้ม
พอหมดแหล่งเดิมเข้า
เอาละว่าทำไงดี
ก็ต้องใช้วิธีหน้าด้านละครับทีนี้
วิธีหน้าด้านนี่ตามกระทู้นี้แหละครับตั้งกะหน้าแรกนี่เลย
เราอย่าไปงมเองครับ
สำหรับผมต้องมีอาจารย์ครับยืนยันล้าน%

55 หนังสือภาษาอังกฤษผมอ่านทีไรก็ไม่เคยคุ้มเหมือนกัน ซื้อมาแล้วเสียดายเงินหลายเล่ม

ส่วนไอ้ที่ไฮไลแดงนั้นอะ

ผมก็เป็นหลังๆผมก็ใช้วิธีหน้าด้านเลย
สุภาษิตไทยบอกว่า

" ด้านได้อายอด "

ผมว่าจริง บางคนอยากรู้อยากให้เขาสอน อยากถาม

ทำเป็นมีฟอร์ม

แล้วเซียนที่ไหนจะแลเมิงว่ะ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 3:39 pm
โดย hongvalue
เฮียเรามาคุยกันสองคนคั่นรายการ

เฮียวิก่อนดีกว่า

ผมว่านะสิ่งนึงที่นักลงทุนจำนวนมากชอบเป็นก็คือ

เมื่อศึกษาแนวทางใดๆแล้ว จะชอบปิดกั้นการลงทุน

แนวอื่นที่ตรงข้ามกับความเชื่อเดิมๆของตัวเอง

ซึ้งส่วนตัวผมมองว่าเป็นจุดอ่อน

เช่น ผมเองก็ศึกษากราฟมาบ้าง (ขั้นอนุบาลนะ)

บางคนเป็น vi แต่ปิดใจเรื่องกราฟ แถมคนมาโพสเรื่องกราฟ ยังไปว่าเขาอีก

ผมว่าจริงๆเราสามารถประยุกต์แนวทางพวกนี้เข้าด้วยกันได้นะ

เช่น สมมุติหุ้น a ผมมองว่าพื้นฐานอยู่ที่ 15 บาท
แต่มันทำ bouble top (ชนข้างบนสองครั้งแล้วไม่ผ่าน
ไม่รู้เรียกงี้ป่าว) แล้วแนวต้าน 11.5 แล้วผมถือหุ้นอยู่แล้วมันชนแล้วไม่ผ่านอีกรอบ ผมว่าเราก็ออกซัก 11.3-11.4ก็ได้นี้
อย่างน้อยตรงนี้อาจยืนยันว่า หุ้นยังผ่านไปไม่ได้ แต่เราก็ลดความเสี่ยงได้ถ้ามันผ่าน 11.5 เราก็ตามน้ำ


หรือ หุ้น b ถ้าราคาทำ triple bottom ที่ 6.9 มาหลายครั้ง ผมคิดว่าพื้นฐานดี แต่ฝรั้งออกเยอะ เพราะตัวนี้เจ้ามือเป็นฝรั้ง ผมก็ไม่ออกที่ 6.9 แต่พอมันหลุด 6.9
6.85 ผมออกหมดเลย เพราะ confirm ว่ารับไม่อยู่
ตอนนี้ 5 บาทกว่าแล้ว แบบนี้ผมก็ save เงินได้
แต่ถ้ามันขึ้นผมก็โอด้วยเพราะไม่หลุด 6.9 แสดงว่า trend ไม่เปลี่ยนผมถือต่อ



ส่วนตัวผมไม่ชอบคนที่ชอบว่าแนวทางอื่นๆว่า ดีหรือไม่ดี ผมอยากถามว่าคุณมีสิทธิ์อะไรไปว่าเขา
คุณไปศึกษามาแล้วเหรอว่าไม่ดีจริง หรือคุณไม่รู้อะไรเลย แล้วบอกว่าไม่ดี


หลังๆผมมวยวัดมาก

fundamental graph fundflow psychology

แต่ผมเอามายำกันเป็นแนวของผม

ผมชอบคุยกับเฮียนะ

เพราะผมรู้ว่าเฮียก็เปิดกว้างเหมือนผม

หลายคนชอบเอาแต่จับผิด มันน่าเบื่อ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 5:02 pm
โดย por_jai
โลกไซเบอร์ก็คือโลกไซเบอร์ครับ
มันก็มีธรรมชาติแบบอย่างของมันอยู่
ผมก็คิดที่ตัวผม พูดที่ตัวผม ไม่ไปก้าวล่วงความคิดคนอื่น
ก็โพสเฮฮาไปได้วันๆ
แต่กว่าจะฝ่ามาด่านนี้มาถึงวันนี้ได้ก็วูบวาบมาเยอะเหมือนกัน
บางทีเกิดโทสะนะคือไปโกรธเข้า
คิดถึงคำพูดของโอ๊ตนะ โอ๊ตเคยบอกผมว่าผมว่าคนอย่างพี่นี้โกรธใครไม่เป็นแล้วมั๊ง
คำพูดมันอยู่ในจิตใต้สำนึกนะ พอวาบเข้ามา เราก็เย็นลงได้ทันที
เพราะน้องเขามีความปรารถนาดี เขามองโลกในแง่ดี มันก็มีผลกระทบมาถึงใจเราได้
เรื่องนี้โอ๊ตเองก็คงไม่รู้หรอกว่า
ด้วยคำพูดประโยคเดียวของโอ๊ตที่พูดไว้ช่วยพี่ป้อมไว้ได้ขนาดไหน
ฮงเองก็ต้องฝ่าด่านพวกนี้เช่นกัน
เวลามีสภาวะธรรมพวกโมหะ โทสะ โลภะเกิดขึ้นก็ตามดูตามรู้ให้ทันท่วงที
ถ้าปล่อยให้มันก็ดับไปเองก็ดีไป
ถ้าตามไม่ทันมัน
โพสออกไป อ้าวบางทีเสียเพื่อนดีๆไปอีกคนแล้ว เวนกำจริงๆ
ทำได้แค่นี้ก็ชีวิตก็มีความสุขตามอัตภาพแล้ว

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 5:27 pm
โดย hongvalue
มีท่อนนึงพูดว่า เฮียวิพูดว่า

"จำเอาไว้...ในภาวะที่ตลาดหุ้นเป็น "ขาลง" หรือ ภาวะตลาดตื่นตระหนก คนที่มีพอร์ต
100% จะเสียเปรียบ
และเสียโอกาสมาก เพราะว่า คุณจะไม่มีเงินซื้อ ได้แต่รอ ได้แต่นั่ง
ดูคนอื่น ในท้ายที่สุด เชื่อเถอะ! ว่า คนที่ถือหุ้นเต็มพอร์ต ช่วงที่ตลาดหุ้นไม่ดี คุณนั่น
แหละ คือ คนที่ขายหนีตาย (ขายหลังผม และขาดทุนมากกว่าผม)"


ส่วนตัวผมคิดว่าเฮียวิอาจะหมายถึงสมัย 1700 เหลือ 200
ผมอยากแชร์ความเห็นกับพี่หน่อยว่าส่วนตัวผมเห็นด้วย
กับแนวคิดนี้ เพราะว่าการเล่นหุ้นภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวนั้น ผมคิดว่าเหมือนเราภายเรือทวนน้ำ
เราคิดว่าดีแต่ว่าเศรษฐกิจมันแย่เดี่ยวเกือบทุก sector มันก็โดนหมดแหละ

บางคนบอกว่า เนี้ย " ฮง เดี่ยว งบ yy ไตรมาส 3 จะดีนะ
เค้าอ่านเอา อีตานักวิเคราห์ชื่อ สุxx มันบอกว่าจะโตเป็นประวัติการณ์ ตัวเองขายทำไม ทำไมไม่อยู่เป็นเพื่อนกัน
(มันเป็นตุ๊ด)"
ผมคิดในใจ (เมิงเล่นหุ้นก็เล่นของเมิงไป ทำไมต้องหาเพื่อนด้วยว่ะ)

ผมว่าหมอนี้มันอ่านเกมส์ไม่ขาด
ตลาดหุ้นเล่นที่อนาคต มันไม่เกี่ยวกับ q3 ดีหรือป่าว
เพราะมันผ่านมาแล้ว

หรืออีกคนนึงบอกว่า
"เฮ้ยไม่สนหุ้นเดินเรือ uuuเหรอฮง pe 1-2เองนะ"

อ้าว pe 1-2 นั้นมันสะท้อน ค่าระวางเรือในอดีต
ถ้าแนวโน้มค่าระวางเรือมันลด
งบอนาคตไม่สวย นายเข้าไปตอนนี้ก็อาจจะ
แหลกเป็นโจ๊กก็ได้


ผมเห็นหลายคนดื้อไม่ขายทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองคิดผิดแต่ไม่กล้า cut ผมคิดว่าพวกนี้พอตลาดหุ้นลงจากถึงพื้นก็ขาดทุนซะจนไร้ทางเยียวยา

ที่ผมพูดผมหมายถึงคนที่รู้ตัวว่าคิดผิดแล้วไม่ออกเพราะดื้อไม่ขายขาดทุนนะครับ

ไม่ได้หมายถึงทุกคนที่ซื้อแล้วหุ้นลงเพราะอารมณ์นายตลาด


ผมมีความเห็นว่าเราควรมองอนาคต
และเราไม่ควรเล่นหุ้นภายใต้เศรษฐกิจขาลงอย่างชัดเจน

ในมุมนี้ ผมเห็นด้วยว่าการ cut loss ทำให้เราเหลือเงิน
มาต่อสู้รอบหน้าได้

นี้เป็นความเห็นของผม

อยากฟังของเฮียบ้าง

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 10:48 pm
โดย noooon010
บางครั้ง... วิธี่ที่"ถูกใจเรา" ก็อาจไม่ถูกใจเค้า
แต่ตัวเราก็มีคำตอบของ"ความสุขในใจเรา"เช่นกัน

อยู่ร่วมกันในสังคม อาจมีบ้างที่ถกเถียงกัน
แต่หากได้มาด้วยองค์ความรู้ และความเข้าใจกัน
และยอมๆกันบ้าง

สังคมจะดีขึ้นครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ  :D

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 11:33 pm
โดย por_jai
ลงรอบใหญ่รอบนี้ เฮียเขาออกไปตั้งกะเดือนมิถุนายนแล้วครับ
แปลว่่ารอบนี้เฮียเขามองขาดอีกรอบนึึง

เรื่องเพื่อนฮงนี่
ผมตอบในมุมของผมก็แล้วกัน
ถ้าเป็นเพื่อนผมพูดอย่างนี้ ผมคงคุยกับเขาให้ละเอียดหน่อยว่า
ในกรณีเช่นนี้ถ้าเป็นการหวังรีบาวน์คงพอได้
แต่ถ้าหวังถือต่อในสถานการณ์อย่างนี้ก็ค่อนข้างต้องรับความเสี่ยงมากหน่อย
ถ้าเพื่อนคนนี้เป็นคนรับฟังไอเดียคนอื่นก่อนจะตัดสินใจ
ก็คงบอกต่อได้ว่าผมคิดไงในกรณีนี้
เขาตัดสินใจอย่างไรต้องยอมรับผลนั้นเองครับ
กับเพื่อนนี่ต้องมีเมตตาเยอะๆเท่านั้น
ตอนผมออกเสาะหาวิชายังโชคดีมีคนเมตตาผมเลย
ฉันใดฉันนั้น

เรื่องเรือนี่ผมขอบายนะครับ
ไม่รู้เรื่องเลยซักกะนิด
กลัวชื่อนะครับ เรือ
ไปยุ่งมากเดี๋ยวมันพาเราออกทะเลซะเปล่าๆ

การไม่มีหุ้นก็เป็นคำตอบต่อคำถามฮงอยู่แล้ว ว่าผมคิดอย่างไรเรื่องนี้
พูดเรื่องไม่มีหุ้นนี่ต้องเกรงใจคนมีหุ้นหน่อย
พี่ๆน้องๆกันทั้งนั้น
วันพฤหัสที่ผ่านมาผมหดหู่ใจมาก จิตใจเหมือนถูกอะไรกดทับ
รู้สึกหัวหนักๆ จิตใจห่อเหี่ยว แปลกๆ
ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพราะอากาศที่ฝนตกทั้งวันเมฆครึ้มทั้งวัน
วิธีแก้ก็ง่ายครับ ไปวิ่งออกกำลังที่สวนลุม
ก็ดีขึ้นครับ
พอวันเสาร์ชวนหมออุ้ย กับหนึ่งไปวิ่งสวนลุมด้วยกัน หมอแม็คกับภรรยาก็ไป
นั่งกินข้าวกันผมก็เล่าให้ฟัง หมออุ้ยก็บอกว่าคงเป็นเพราะอากาศมั๊งพี่
แต่วันจันทร์พอหุ้นลงอีกแล้วผมซึ่งเข้าเวบบ่อย อ่านกระทู้บ่อย
เริ่มจะมีซึมๆอีก
อ๋อผมรู้แล้ว ผมหดหู่เพราะพี่ๆน้องๆในเวบนี่เอง
เพราะทุกคนเข้าเวบมาขอคำปรึกษาบ้าง บ่นๆบ้าง ทำไงดี
ผมอ่านแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้
มันก็ซึมเข้ามาในจิตใจเราแบบที่เราไม่รู้ตัว
จะให้ผมแนะนำเขาให้ขายหรือครับ ผมไม่กล้าหรอกครับ
ผมไม่ใช่เทพ ไม่รู้อนาคตหรอกครับ
ถ้ามันหวนกลับไปขึ้น ผมมิเสียคนหรือ
เต็มที่ถ้าสนิทกันจริงๆ ก็กล้าพูดหน่อย
ให้ขายทีละห้าเปอร์เซ็นต์,สิบเปอร์เซ็นต์,1ใน4,1ใน3หรือแม้กระทั่งครึ่งนึง
ค่อยๆcutไป
ถ้ามันขึ้นเราก็ยังเหลือครึ่งนึง ถ้ามันลงก็เท่ากับทำประกันไปครึ่งนีง
พอคัทไปหน่อย ต่อไปก็กล้าคัทอีกหน่อย
ถ้าแพ้ก็แค่แพ้คะแนน ไม่โดนน๊อค เล่นอย่างนี้ถือว่าเล่นตั้งรับไว้ก่อน
ถ้าแพ้น๊อคบางทีเสียมวย จิตใจห่อเหี่ยว กลับมาสุ้ต่อไม่ได้ครับ
การพ่ายแพ้แค่คะแนน สภาพร่างกายสภาพจิตใจยังดี
กลับมารีแม๊ทซ์ได้เสมอครับ

วันนี้เพิ่งไปส่งพระอาจารย์ไปเที่ยวยุ่นกับภรรยา
คุยไปคุยมาเข้าเรื่องเงินที่ตอนนี้ถอนจากโบร๊กไปฝากแบ๊งค์
ผมก็ถามว่าตามสถานการณ์ตอนนี้เงินฝากๆแบบไหนดี
หมอเขาว่าเงินที่มีอยู่ฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์จะดีที่สุด
อย่าไปหวงดอกเบี้ยไม่กี่%ไปฝากบัญชีที่มีเงื่อนไขเรื่องเวลาใดๆทั้งสิ้น
ถ้าโชคร้ายดวงจู๋มีวิกฤติขึ้นมาจริงๆ จะถอนได้ทีหลังแบบมีเงื่อนไข
ถ้าออมทรัพย์เพียวๆ ได้ดอกเบี้ยน้อยหน่อยแต่ ก็ถอนได้ก่อน
และได้เต็มจำนวนแน่ๆนอนๆ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 11:51 pm
โดย V_accy
มาแอบฟังคนคุยกัน
ขอบคุณพวกพี่ๆที่แบ่งปันความรู้ครับ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:47 am
โดย hongvalue
por_jai เขียน: การไม่มีหุ้นก็เป็นคำตอบต่อคำถามฮงอยู่แล้ว ว่าผมคิดอย่างไรเรื่องนี้
พูดเรื่องไม่มีหุ้นนี่ต้องเกรงใจคนมีหุ้นหน่อย
พี่ๆน้องๆกันทั้งนั้น

อืมจริงครับ เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่าเนอะ

เดี่ยวคนมีหุ้นจะ :twisted: ผม

ประเด็นต่อมาที่ผมอยากถามก็คือ

พระอาจารย์ของพี่ดูพื้นฐานหุ้นประมาณไหนมั้งคับ

เช่น pe pbv story กิจการ อะไรพวกนี้อะครับ
ประมาณว่าไม่เกี่ยวกับเทคนิคนะครับ

ผมอยากรู้ว่ารายใหญ่ถ้าดู fundamental เขาดูยังไงบ้างครับ

เห็นเฮียวิพูดเรื่อง pe ของ ptt ตอนเฮียแกซื้อด้วยนิครับ

ไม่รู้ว่ามีอะไรมากกว่านั้นไหมที่เขาดู

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 9:30 am
โดย por_jai
[quote="noooon010"]บางครั้ง... วิธี่ที่"ถูกใจเรา" ก็อาจไม่ถูกใจเค้า
แต่ตัวเราก็มีคำตอบของ"ความสุขในใจเรา"เช่นกัน

อยู่ร่วมกันในสังคม อาจมีบ้างที่ถกเถียงกัน
แต่หากได้มาด้วยองค์ความรู้ และความเข้าใจกัน
และยอมๆกันบ้าง

สังคมจะดีขึ้นครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 11:35 am
โดย por_jai
hongvalue เขียน:
ประเด็นต่อมาที่ผมอยากถามก็คือ

พระอาจารย์ของพี่ดูพื้นฐานหุ้นประมาณไหนมั้งคับ

เช่น pe pbv story กิจการ อะไรพวกนี้อะครับ
ประมาณว่าไม่เกี่ยวกับเทคนิคนะครับ

ผมอยากรู้ว่ารายใหญ่ถ้าดู fundamental เขาดูยังไงบ้างครับ

เห็นเฮียวิพูดเรื่อง pe ของ ptt ตอนเฮียแกซื้อด้วยนิครับ

ไม่รู้ว่ามีอะไรมากกว่านั้นไหมที่เขาดู
ดูครับฮง
พระอาจารย์บอกผมเสมอๆว่า
พี่เชื่อไหม หุ้นพีอี30 ไม่มีอยู่จริงในโลก
มันเป็นภาพลวงตา

เฮียวิเองก็บอก
เลือกด้วยพื้นฐานก่อน
จากนั้นค่อยมาดูอย่างอื่นต่อ

แต่เท่าที่ผมสังเกตุจากตาเห็นหูฟัง
เซียนพวกนี้เขารู้ประวัติ รู้พื้นฐานหุ้นหมด จำแม่นด้วย
เท่ากับพื้นฐานตัวที่เขาเล่นอยู่ในใจเขามาตั้งแต่แรกแล้ว
เพราะเขาเลือกหุ้นตัวที่ออกได้เท่านั้นเล่น มีไม่กี่ตัวหรอกครับ
พระอาจารย์ผมยังเล่าให้ผมฟังขำๆเลย
ว่าได้เขียนชื่อหุ้นที่ห้ามเล่น ติดไว้ที่กระจกที่บ้าน
เอาไว้เตือนตัวเองตลอดเวลา

มีอีกคนที่จะตอบคำถามนี้ของฮงได้ดี
ผมมีดีวีดีตอนที่เอกพิทยาเชิญเซียนๆไปออกรายการ
ฮงพีเอ็มที่อยู่มาสิ
ผมจะส่งไปให้
คนที่มีตังเกินพันล้าน แล้ว เน้นพื้นฐานด้วย
คุณปู่ไงครับ (สมพงษ์ ชลคดีดำรงค์กุล)

ระดับอาจารย์ที่สอนผมลงทุน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 11:40 am
โดย hongvalue
por_jai เขียน:
มีอีกคนที่จะตอบคำถามนี้ของฮงได้ดี
ผมมีดีวีดีตอนที่เอกพิทยาเชิญเซียนๆไปออกรายการ
ฮงพีเอ็มที่อยู่มาสิ
ผมจะส่งไปให้

คนที่มีตังเกินพันล้าน แล้ว เน้นพื้นฐานด้วย
คุณปู่ไงครับ (สมพงษ์ ชลคดีดำรงค์กุล)

ผมรักกกกกกกกกกกกก พี่พอใจจจจจจจจจจ

ที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ในโลกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :bow:

ถ้าไม่ได้พี่พอใจก็สระกดรอยแนวคิดนักเล่นหุ้นพันล้าน
ของผมคงไม่สามารถทำได้

ตอบขอบคุณมากแต่คำถามยังมีอีกเยอะ

ช่วงนี้ผมฟิตมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

ค้นคว้าแหลก

อิอิ

5

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 4:18 pm
โดย fsuitra
ขอสมัครเป็นแฟนกระทู้นี้ด้วยครับผม

Re: 5

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 4:25 pm
โดย hongvalue
fsuitra เขียน:ขอสมัครเป็นแฟนกระทู้นี้ด้วยครับผม

ผมก็เป็นผู้มาเยือนเหมือนกันครับ

มาคุยด้วยกันหลายๆคนเลยสิครับ

ถ้ามีอะไรที่คิดว่าผมช่วยได้ก็ถามมาได้นะครับ

ผมบอกให้หมดแหละครับ