world economic news
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news15/11/07
โพสต์ที่ 211
ฮ่องกงมั่นใจจีนไม่เลื่อน-ไม่ระงับโครงการนลท.จีนลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง
ประธานสมาคมธนาคารพาณิชย์แห่งฮ่องกงเชื่อว่าโครงการนำร่องของรัฐบาลจีนที่จะเปิดทางให้นักลงทุนชาวจีนเข้าไปซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงได้โดยตรงนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนของการผลักดัน ขั้นตอนการผลักดันซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเลื่อนออกไปหรือจะถูกระงับ ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกงได้หารือเรื่องโครงการนำร่องดังกล่าวกับซู หนิง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นฮ่องกงดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนประกาศตั้งเงื่อนไขเพิ่มเติมในโครงการนำร่อง ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่าโครงการดังกล่าวอาจถูกเลื่อนออกไปอีก
ผู้ว่าธนาคารกลางจีนเผยให้ความสำคัญกับการป้องกันเศรษฐกิจโตร้อนแรง
นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าว ว่า การป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างร้อนแรงถือเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดของธนาคารกลางจีน โดยนโยบายด้านการเงินของธนาคารกลางจีนจะเป็นนโยบายที่มีเสถียรภาพ เพื่อที่จะรักษาระดับการขยายตัวด้านการเงินและสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยธนาคารกลางจะหาทางเลี่ยงผลกระทบด้านลบที่จะเกิดขึ้นกับอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จะต้องมีการติดตามเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้งต้องสร้างเสถียรภาพให้กับการคาดการณ์เงินเฟ้อ และคงเสถียรภาพของสกุลเงินในการควบคุมเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายการเงิน
นายกฯเกาหลีเหนือเดินทางเยือนเกาหลีใต้วันนี้ เตรียมเจรจาด้านเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรีคิม จอง อิล ของเกาหลีเหนือได้เดินทางถึงกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้แล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนเกาหลีใต้ของผู้นำระดับสูงในรอบ 15 ปี นายคิมจะจัดการเจรจากับนายฮัน ดัค ซู นายกฯเกาหลีใต้ เพื่อติดตามผลการประชุมสุดยอดเกาหลีที่จัดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว และคาดว่าการเจรจาครั้งนี้ จะพุ่งเป้าไปที่โครงการเศรษฐกิจร่วมที่ได้มีการตกลงกันไว้ในการประชุมระดับผู้นำที่กรุงเปียงยาง
ธนาคารโลกเชื่ออุตสาหกรรมส่งออกน้ำมันจะหนุนเศรษฐกิจแอฟริกาเติบโตรวดเร็ว
ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงานว่า เศรษฐกิจในประเทศแอฟริกาขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 5.4% ในช่วง 10 ปีที่แล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจในแอฟริกาขยายตัวอย่าง ปัจจัยแรกคือ 7 ประเทศส่งออกน้ำมันที่มีส่วนผลักดันให้แอฟริกาเติบโตในอัตราสูงสุด ประการที่ 2 คือ 18 ประเทศที่มีการกระจายความเสี่ยงและมีอัตราการขยายตัวอย่างน้อย 4% ประการสุดท้ายคือ 17 ประเทศที่มีสถิติเรื่องความยากจน ความขัดแย้ง และปัญหาอื่นๆนั้น มีการขยายตัวอย่างต่ำ 4%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
ประธานสมาคมธนาคารพาณิชย์แห่งฮ่องกงเชื่อว่าโครงการนำร่องของรัฐบาลจีนที่จะเปิดทางให้นักลงทุนชาวจีนเข้าไปซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงได้โดยตรงนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนของการผลักดัน ขั้นตอนการผลักดันซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเลื่อนออกไปหรือจะถูกระงับ ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกงได้หารือเรื่องโครงการนำร่องดังกล่าวกับซู หนิง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นฮ่องกงดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนประกาศตั้งเงื่อนไขเพิ่มเติมในโครงการนำร่อง ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่าโครงการดังกล่าวอาจถูกเลื่อนออกไปอีก
ผู้ว่าธนาคารกลางจีนเผยให้ความสำคัญกับการป้องกันเศรษฐกิจโตร้อนแรง
นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าว ว่า การป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างร้อนแรงถือเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดของธนาคารกลางจีน โดยนโยบายด้านการเงินของธนาคารกลางจีนจะเป็นนโยบายที่มีเสถียรภาพ เพื่อที่จะรักษาระดับการขยายตัวด้านการเงินและสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยธนาคารกลางจะหาทางเลี่ยงผลกระทบด้านลบที่จะเกิดขึ้นกับอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จะต้องมีการติดตามเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้งต้องสร้างเสถียรภาพให้กับการคาดการณ์เงินเฟ้อ และคงเสถียรภาพของสกุลเงินในการควบคุมเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายการเงิน
นายกฯเกาหลีเหนือเดินทางเยือนเกาหลีใต้วันนี้ เตรียมเจรจาด้านเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรีคิม จอง อิล ของเกาหลีเหนือได้เดินทางถึงกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้แล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนเกาหลีใต้ของผู้นำระดับสูงในรอบ 15 ปี นายคิมจะจัดการเจรจากับนายฮัน ดัค ซู นายกฯเกาหลีใต้ เพื่อติดตามผลการประชุมสุดยอดเกาหลีที่จัดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว และคาดว่าการเจรจาครั้งนี้ จะพุ่งเป้าไปที่โครงการเศรษฐกิจร่วมที่ได้มีการตกลงกันไว้ในการประชุมระดับผู้นำที่กรุงเปียงยาง
ธนาคารโลกเชื่ออุตสาหกรรมส่งออกน้ำมันจะหนุนเศรษฐกิจแอฟริกาเติบโตรวดเร็ว
ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงานว่า เศรษฐกิจในประเทศแอฟริกาขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 5.4% ในช่วง 10 ปีที่แล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจในแอฟริกาขยายตัวอย่าง ปัจจัยแรกคือ 7 ประเทศส่งออกน้ำมันที่มีส่วนผลักดันให้แอฟริกาเติบโตในอัตราสูงสุด ประการที่ 2 คือ 18 ประเทศที่มีการกระจายความเสี่ยงและมีอัตราการขยายตัวอย่างน้อย 4% ประการสุดท้ายคือ 17 ประเทศที่มีสถิติเรื่องความยากจน ความขัดแย้ง และปัญหาอื่นๆนั้น มีการขยายตัวอย่างต่ำ 4%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news16/11/07
โพสต์ที่ 212
คาดราคาบ้านอังกฤษในปี 51 ทรงตัว ข่าว 21.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Friday, November 16, 2007
นายฟิออนนูเอล่า เออร์เลย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เนชั่นไวด์บิลดิ้งโซไซตี้ ผู้ให้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอังกฤษ บอกว่า ราคาบ้านในปีหน้าจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ เกิดจากความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง เศรษฐกิจชะลอตัว ภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ ความเข้มงวดในการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้กู้ครั้งแรก รวมถึงการคาดว่าราคาบ้านจะปรับลดลง ทำให้การทำธุรกรรมซื้อขายบ้านลดลงด้วย แต่เนชั่นไวด์ฯคาดการณ์ว่าราคาบ้านในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 5 - 8%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
ยอดขายสินค้ามาเลเซียเดือนก.ย.โต 2.3% - ข่าว 22.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Friday, November 16, 2007
สำนักงานสถิติแห่งชาติมาเลเซีย รายงาน ยอดขายสินค้าภาคการผลิตของมาเลเซียในเดือนกันยายนปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% มาอยู่ที่ระดับ 4.631 หมื่นล้านริงกิต จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 4.527 หมื่นล้านริงกิตหลังจากที่ลดลง 2% ในเดือนสิงหาคม เนื่องจากยอดขายเหล็กพื้นฐาน เหล็กและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่นที่สูงขึ้น
ส่วนการจ้างพนักงานในภาคการผลิตของเดือนกันยายน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% มาอยู่ที่ 1.1 ล้านคน และค่าแรงโดยรวมขยายตัว 8.5%
ทั้งนี้ มูลค่าการขายสินค้าภาคการผลิตโดยรวมของมาเลเซียในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 อยู่ระดับที่ 9.83 แสนล้านริงกิต เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.78 แสนล้านริงกิตในปีก่อน
รัฐบาลมาเลเซียยังเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปีนี้ จะขยายตัวได้ที่ระดับ 6% ซึ่งสวนทางกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลงอีก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Friday, November 16, 2007
นายฟิออนนูเอล่า เออร์เลย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เนชั่นไวด์บิลดิ้งโซไซตี้ ผู้ให้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอังกฤษ บอกว่า ราคาบ้านในปีหน้าจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ เกิดจากความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง เศรษฐกิจชะลอตัว ภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ ความเข้มงวดในการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้กู้ครั้งแรก รวมถึงการคาดว่าราคาบ้านจะปรับลดลง ทำให้การทำธุรกรรมซื้อขายบ้านลดลงด้วย แต่เนชั่นไวด์ฯคาดการณ์ว่าราคาบ้านในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 5 - 8%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
ยอดขายสินค้ามาเลเซียเดือนก.ย.โต 2.3% - ข่าว 22.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Friday, November 16, 2007
สำนักงานสถิติแห่งชาติมาเลเซีย รายงาน ยอดขายสินค้าภาคการผลิตของมาเลเซียในเดือนกันยายนปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% มาอยู่ที่ระดับ 4.631 หมื่นล้านริงกิต จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 4.527 หมื่นล้านริงกิตหลังจากที่ลดลง 2% ในเดือนสิงหาคม เนื่องจากยอดขายเหล็กพื้นฐาน เหล็กและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่นที่สูงขึ้น
ส่วนการจ้างพนักงานในภาคการผลิตของเดือนกันยายน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% มาอยู่ที่ 1.1 ล้านคน และค่าแรงโดยรวมขยายตัว 8.5%
ทั้งนี้ มูลค่าการขายสินค้าภาคการผลิตโดยรวมของมาเลเซียในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 อยู่ระดับที่ 9.83 แสนล้านริงกิต เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.78 แสนล้านริงกิตในปีก่อน
รัฐบาลมาเลเซียยังเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปีนี้ จะขยายตัวได้ที่ระดับ 6% ซึ่งสวนทางกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลงอีก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news16/11/07
โพสต์ที่ 213
โตโยต้า มอเตอร์ ในสหรัฐ ชี้ ตลาดรถยนต์สหรัฐ ซบเซาถึงปีหน้า
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมียอดขายเป็นอันดับ 2 ในตลาดรถยนต์สหรัฐ คาดการณ์ว่า ภาวะตลาดรถยนต์ในสหรัฐ โดยเฉพาะความต้องการในการซื้อหารถยนต์ จะยังคงซบเซาต่อเนื่องตลอดทั้งปีหน้า สาเหตุจาก วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำต่อเนื่อง และราคาน้ำมันในสหรัฐที่มีราคาแพงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ยังสามารถเพิ่มตัวเลขยอดขายรถยนต์ในสหรัฐตลอดจนถึงเดือนตุลาคมที่ระดับ 3.9% ท่ามกลางตัวเลขยอดขายในภาพรวมของทั้งตลาดที่ทรุดตัวลงมากถึง 2.5%
รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มั่นใจ ค่าเงินเหรียญสหรัฐ จะแข็งค่าขึ้น
นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า มีความมั่นใจที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐ จะปรับแข็งค่าขึ้นจากระดับอ่อนค่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐในระยะยาวที่แข็งแกร่ง ความเคลื่อนไหวที่ขึ้นๆ ลงๆ ของเศรษฐกิจสหรัฐ ไม่ได้มีความแตกต่างจากเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆในโลก ดังนั้น ความผันผวนย่อมมีอยู่บ้าง แต่ขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า นโยบายเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่า เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นความสนใจระดับชาติของสหรัฐ ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เดินทางไปประชุมกลุ่มจี 20 ในวันนี้
คาร์ฟูร์ ยักษ์ค้าปลีกอันดับ 2 ของโลก รุกค้าปลีกในอินเดีย
คาร์ฟูร์ ยักษ์ใหญ่ค้าส่งอันดับ 1 ในฝรั่งเศส และยังมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก วอลล์มาร์ท สโตร์ อินคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า เตรียมเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมค้าปลีก และค้าส่งในอินเดียภายในต้นปีหน้า หลังธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง วอลล์มาร์ท เข้าไปลงทุนในอินเดียก่อนหน้านี้ ดดยร่วทุนกับธุรกิจค้าปลีกชื่อดังในอินเดียที่มีชื่อว่า บาร์ที ทั้งนี้ คาร์ฟูร์ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมูลค่าเงินลงทุนที่ชัดเจน แต่มีเป้าหมายเข้าไปเปิดเป็นห้างค้าปลีก ภายใต้รูปแบบที่กฎหมายการค้าอินเดียอนุญาตได้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมียอดขายเป็นอันดับ 2 ในตลาดรถยนต์สหรัฐ คาดการณ์ว่า ภาวะตลาดรถยนต์ในสหรัฐ โดยเฉพาะความต้องการในการซื้อหารถยนต์ จะยังคงซบเซาต่อเนื่องตลอดทั้งปีหน้า สาเหตุจาก วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำต่อเนื่อง และราคาน้ำมันในสหรัฐที่มีราคาแพงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ยังสามารถเพิ่มตัวเลขยอดขายรถยนต์ในสหรัฐตลอดจนถึงเดือนตุลาคมที่ระดับ 3.9% ท่ามกลางตัวเลขยอดขายในภาพรวมของทั้งตลาดที่ทรุดตัวลงมากถึง 2.5%
รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มั่นใจ ค่าเงินเหรียญสหรัฐ จะแข็งค่าขึ้น
นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า มีความมั่นใจที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐ จะปรับแข็งค่าขึ้นจากระดับอ่อนค่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐในระยะยาวที่แข็งแกร่ง ความเคลื่อนไหวที่ขึ้นๆ ลงๆ ของเศรษฐกิจสหรัฐ ไม่ได้มีความแตกต่างจากเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆในโลก ดังนั้น ความผันผวนย่อมมีอยู่บ้าง แต่ขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า นโยบายเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่า เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นความสนใจระดับชาติของสหรัฐ ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เดินทางไปประชุมกลุ่มจี 20 ในวันนี้
คาร์ฟูร์ ยักษ์ค้าปลีกอันดับ 2 ของโลก รุกค้าปลีกในอินเดีย
คาร์ฟูร์ ยักษ์ใหญ่ค้าส่งอันดับ 1 ในฝรั่งเศส และยังมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก วอลล์มาร์ท สโตร์ อินคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า เตรียมเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมค้าปลีก และค้าส่งในอินเดียภายในต้นปีหน้า หลังธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง วอลล์มาร์ท เข้าไปลงทุนในอินเดียก่อนหน้านี้ ดดยร่วทุนกับธุรกิจค้าปลีกชื่อดังในอินเดียที่มีชื่อว่า บาร์ที ทั้งนี้ คาร์ฟูร์ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมูลค่าเงินลงทุนที่ชัดเจน แต่มีเป้าหมายเข้าไปเปิดเป็นห้างค้าปลีก ภายใต้รูปแบบที่กฎหมายการค้าอินเดียอนุญาตได้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news16/11/07
โพสต์ที่ 214
เวิลด์แบงค์คาดเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกโตกว่า 8%ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนตลอดปี 2550 จะเติบโตในอัตราคงที่ 11.3% และคาดว่าเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกจะเติบโตสูงกว่า 8% ธนาคารโลกระบุในรายงานราย 6 เดือนว่าด้วยเศรษฐกิจและสังคมภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ว่า แม้การส่งออกสินค้าจากเอเชียตะวันออกไปยังสหรัฐจะชะลอตัวลง แต่การลงทุนและการบริโภคที่เฟื่องฟูขึ้นในจีนและประเทศอื่นๆ มีส่วนช่วยให้การเติบโตในภูมิภาคนี้ยังคงแข็งแกร่ง และแม้กระทั่งอาจสูงขึ้น
เกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ จะเจรจากันทางการเงินในสัปดาห์หน้า
สหรัฐกับเกาหลีเหนือจะจัดการเจรจาทางการเงินเป็นเวลา 2 วันที่นครนิวยอร์คในสัปดาห์หน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นว่าการเจรจาครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะแจ้งให้เกาหลีเหนือได้รับทราบถึงมาตรฐานทางด้านการเงินระหว่างประเทศ การหารือครั้งนี้ซึ่งจะจัดขึ้นในวันจันทร์และวันอังคารหน้า มีขึ้นหลังจากที่ได้มีการแก้ไขปัญหาในเรื่องข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับกองทุนของเกาหลีเหนือที่มีมูลค่าราว 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ถูกระงับไว้ในบัญชีของธนาคารบันโกเดลต้า เอเชีย ในมาเก๊า
จีนเผยการลงทุนในอุตสาหกรรมไอที-อิเล็กทรอนิกส์ 9 เดือนแรกปีนี้ชะลอตัว
อัตราการขยายตัวด้านการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ในภาคอุตสาหกรรมไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ของจีนชะลอตัวลงในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ และปรับตัวลดลงต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของภาคอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ นอกจากนี้ โครงการก่อสร้างใหม่ๆ ยังคงขยายตัวในระดับต่ำในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่อัตราการขยายตัวด้านสินทรัพย์คงที่ที่เพิ่มขึ้นรายใหม่ๆชะลอตัวลงด้วย โดยเงินทุนจากกลุ่มผู้ประกอบการที่เพิ่มมากขึ้นมีสัดส่วนมากกว่าเม็ดเงินลงทุนที่มีอยู่ทั้งหมด
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ลดดอกเบี้ย 0.25% ชี้เปโซแกร่งช่วยคุมเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่ดีในระยะใกล้ เนื่องจากค่าเงินเปโซที่แข็งแกร่งช่วยลดผลกระทบจากแรงกดดันด้านราคาน้ำมันที่ดีดตัวสูงขึ้น ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้แบบข้ามคืนลง 0.25% แตะ 5.50% และอัตราดอกเบี้ยเงินปล่อยกู้ที่ 7.50% การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ และเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบสองเดือน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
เกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ จะเจรจากันทางการเงินในสัปดาห์หน้า
สหรัฐกับเกาหลีเหนือจะจัดการเจรจาทางการเงินเป็นเวลา 2 วันที่นครนิวยอร์คในสัปดาห์หน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นว่าการเจรจาครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะแจ้งให้เกาหลีเหนือได้รับทราบถึงมาตรฐานทางด้านการเงินระหว่างประเทศ การหารือครั้งนี้ซึ่งจะจัดขึ้นในวันจันทร์และวันอังคารหน้า มีขึ้นหลังจากที่ได้มีการแก้ไขปัญหาในเรื่องข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับกองทุนของเกาหลีเหนือที่มีมูลค่าราว 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ถูกระงับไว้ในบัญชีของธนาคารบันโกเดลต้า เอเชีย ในมาเก๊า
จีนเผยการลงทุนในอุตสาหกรรมไอที-อิเล็กทรอนิกส์ 9 เดือนแรกปีนี้ชะลอตัว
อัตราการขยายตัวด้านการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ในภาคอุตสาหกรรมไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ของจีนชะลอตัวลงในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ และปรับตัวลดลงต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของภาคอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ นอกจากนี้ โครงการก่อสร้างใหม่ๆ ยังคงขยายตัวในระดับต่ำในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่อัตราการขยายตัวด้านสินทรัพย์คงที่ที่เพิ่มขึ้นรายใหม่ๆชะลอตัวลงด้วย โดยเงินทุนจากกลุ่มผู้ประกอบการที่เพิ่มมากขึ้นมีสัดส่วนมากกว่าเม็ดเงินลงทุนที่มีอยู่ทั้งหมด
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ลดดอกเบี้ย 0.25% ชี้เปโซแกร่งช่วยคุมเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่ดีในระยะใกล้ เนื่องจากค่าเงินเปโซที่แข็งแกร่งช่วยลดผลกระทบจากแรงกดดันด้านราคาน้ำมันที่ดีดตัวสูงขึ้น ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้แบบข้ามคืนลง 0.25% แตะ 5.50% และอัตราดอกเบี้ยเงินปล่อยกู้ที่ 7.50% การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ และเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบสองเดือน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news16/11/07
โพสต์ที่ 215
ดอลลาร์แข็งเทียบยูโร ขณะที่ศก.ยุโรปแกร่ง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ที่ตลาดออสเตรเลีย เนื่องจากนักลงทุนมีปฏิกิริยาต่อความเห็นของธนาคารกลางอังกฤษ และข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปที่แข็งแกร่ง ด้านธนาคารโลกชี้การเปิดเสรีการค้าจะช่วยประเทศกำลังพัฒนาลดก๊าซเรือนกระจก
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ค่าเงิน 1 ปอนด์เท่ากับ 2.0513 ดอลลาร์ เทียบกับ 1 ดอลลาร์/2.0526 ปอนด์ ที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก และเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.4644 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4645 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินเยนเคลื่อนไหวที่ 111.135 เยน/ดอลลาร์ เทียบกับ 111.34 เยน/ดอลลาร์เมื่อคืนวันที่14 พ.ย. ที่ผ่านมา
โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และวิกฤตการณ์ในตลาดการเงิน
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังจากอ่อนค่าลงเมื่อคืนวันที่ 14 พ.ย. หลังมีการเปิดเผยจีดีพีเขตยูโร โซนเติบโต 2.6% ในช่วงไตรมาส 3 จากปีก่อนหน้า และเศรษฐกิจเยอรมันฟื้นตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ดาวโจนส์ปรับตัวลดลง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการชะลอทำแครี่เทรดเงินเยนรอบใหม่
ด้านธนาคารโลกชี้ว่า การเปิดเสรีการค้าระดับโลกจะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประเทศที่กำลังพัฒนาลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และประยุกต์การทำธุรกิจให้เข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานดังกล่าวของธนาคารโลกมีชื่อว่า International Trade and Climate Change: Economic, Legal, and Institutional Perspectives ได้อธิบายถึงการถกเถียงเรื่องการค้าและสิ่งแวดล้อมที่ได้มีการนำมาพิจารณากันน้อยมาก ในแง่ของปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพที่ลดลง ปริมาณการทำประมงในมหาสมุทรอย่างสิ้นเปลือง และการใช้ทรัพยากรร่วมกันมากเกินไป
ขณะที่ประเด็นเรื่องสินค้าสาธารณะ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องดำเนินการร่วมกันในระดับสากลนั้น อาจจะทำให้เกิดความตึงเครียดด้านการค้า หากบางประเทศดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมเองอย่างอิสระ แม้มีแนวโน้มว่าอาจจะเกิดความขัดแย้งในประเด็นเรื่องการค้าและสิ่งแวดล้อมทั่วโลกและการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน แต่รายงานชี้ว่า บางประเด็นที่อยู่ในวาระการพิจารณาขององค์การการค้าโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งเสริมเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกได้ อาทิ การเปิดเสรีการค้าแหล่งพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ในระดับพหุภาคี หรือข้อตกลงในการยกเลิกการจ่ายเงินชดเชยเงินด้านเชื้อเพลิงมีส่วนช่วยสนับสนุนเป้าหมายในการแก้ปัญหาโลกร้อน
นายวอร์เรน อีแวนส์ ผู้อำนวยการด้านสิ่งแวดล้อมของธนาคารโลกกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นประเด็นที่ท้าทายระดับโลกและต้องการความร่วมมือในระดับสากล ประเด็นหนึ่งที่ประเทศต่างๆได้ให้คำมั่นไว้คือ การแก้ปัญหาระดับพหุภาคีในระยะยาวหรือการเปิดเสรีการค้า โดยการรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับเศรษฐกิจจะเป็นหนทางที่มีพลังสำหรับประเทศที่ต้องการส่งเสริมให้เศรษฐกิจขยายตัว การพัฒนา และการลดความยากจน
http://www.settrade.com/S17_ContentDisp ... egoryId=16
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ที่ตลาดออสเตรเลีย เนื่องจากนักลงทุนมีปฏิกิริยาต่อความเห็นของธนาคารกลางอังกฤษ และข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปที่แข็งแกร่ง ด้านธนาคารโลกชี้การเปิดเสรีการค้าจะช่วยประเทศกำลังพัฒนาลดก๊าซเรือนกระจก
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ค่าเงิน 1 ปอนด์เท่ากับ 2.0513 ดอลลาร์ เทียบกับ 1 ดอลลาร์/2.0526 ปอนด์ ที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก และเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.4644 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4645 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินเยนเคลื่อนไหวที่ 111.135 เยน/ดอลลาร์ เทียบกับ 111.34 เยน/ดอลลาร์เมื่อคืนวันที่14 พ.ย. ที่ผ่านมา
โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และวิกฤตการณ์ในตลาดการเงิน
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังจากอ่อนค่าลงเมื่อคืนวันที่ 14 พ.ย. หลังมีการเปิดเผยจีดีพีเขตยูโร โซนเติบโต 2.6% ในช่วงไตรมาส 3 จากปีก่อนหน้า และเศรษฐกิจเยอรมันฟื้นตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ดาวโจนส์ปรับตัวลดลง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการชะลอทำแครี่เทรดเงินเยนรอบใหม่
ด้านธนาคารโลกชี้ว่า การเปิดเสรีการค้าระดับโลกจะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประเทศที่กำลังพัฒนาลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และประยุกต์การทำธุรกิจให้เข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานดังกล่าวของธนาคารโลกมีชื่อว่า International Trade and Climate Change: Economic, Legal, and Institutional Perspectives ได้อธิบายถึงการถกเถียงเรื่องการค้าและสิ่งแวดล้อมที่ได้มีการนำมาพิจารณากันน้อยมาก ในแง่ของปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพที่ลดลง ปริมาณการทำประมงในมหาสมุทรอย่างสิ้นเปลือง และการใช้ทรัพยากรร่วมกันมากเกินไป
ขณะที่ประเด็นเรื่องสินค้าสาธารณะ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องดำเนินการร่วมกันในระดับสากลนั้น อาจจะทำให้เกิดความตึงเครียดด้านการค้า หากบางประเทศดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมเองอย่างอิสระ แม้มีแนวโน้มว่าอาจจะเกิดความขัดแย้งในประเด็นเรื่องการค้าและสิ่งแวดล้อมทั่วโลกและการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน แต่รายงานชี้ว่า บางประเด็นที่อยู่ในวาระการพิจารณาขององค์การการค้าโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งเสริมเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกได้ อาทิ การเปิดเสรีการค้าแหล่งพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ในระดับพหุภาคี หรือข้อตกลงในการยกเลิกการจ่ายเงินชดเชยเงินด้านเชื้อเพลิงมีส่วนช่วยสนับสนุนเป้าหมายในการแก้ปัญหาโลกร้อน
นายวอร์เรน อีแวนส์ ผู้อำนวยการด้านสิ่งแวดล้อมของธนาคารโลกกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นประเด็นที่ท้าทายระดับโลกและต้องการความร่วมมือในระดับสากล ประเด็นหนึ่งที่ประเทศต่างๆได้ให้คำมั่นไว้คือ การแก้ปัญหาระดับพหุภาคีในระยะยาวหรือการเปิดเสรีการค้า โดยการรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับเศรษฐกิจจะเป็นหนทางที่มีพลังสำหรับประเทศที่ต้องการส่งเสริมให้เศรษฐกิจขยายตัว การพัฒนา และการลดความยากจน
http://www.settrade.com/S17_ContentDisp ... egoryId=16
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news19/11/07
โพสต์ที่ 216
ฟันธง !! ยอดขายรถในสหรัฐ ปีหน้า ต่ำสุดรอบ 15 ปี
Posted on Monday, November 19, 2007
นักลงทุนรายใหญ่สุด 3 รายในอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐ คือ นายเจอร์รี ยอร์ค ที่ปรึกษาของนายเคิร์ก เคอร์โคเรียน มหาเศรษฐีด้านการลงทุน นายวิลเบอร์ รอส ผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน และนายโธมัส สตอลแคมพ์ อดีตประธานไครส์เลอร์ ได้ออกมาสวมวิญญาณ อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศน์ จอมฟันธง คาดหมายแนวโน้มธุรกิจยานยนต์ ในปีหน้า ว่า ยอดขายรถในสหรัฐอาจดิ่งลงมากสุดถึง 9.4% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
Posted on Monday, November 19, 2007
นักลงทุนรายใหญ่สุด 3 รายในอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐ คือ นายเจอร์รี ยอร์ค ที่ปรึกษาของนายเคิร์ก เคอร์โคเรียน มหาเศรษฐีด้านการลงทุน นายวิลเบอร์ รอส ผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน และนายโธมัส สตอลแคมพ์ อดีตประธานไครส์เลอร์ ได้ออกมาสวมวิญญาณ อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศน์ จอมฟันธง คาดหมายแนวโน้มธุรกิจยานยนต์ ในปีหน้า ว่า ยอดขายรถในสหรัฐอาจดิ่งลงมากสุดถึง 9.4% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news19/11/07
โพสต์ที่ 217
ญี่ปุ่น เตรียมย้ายฐานการผลิตในจีน ไปเวียดนามแทน ภายในปี 2552 ต้นทุนค่าแรงงานพุ่ง
Posted on Monday, November 19, 2007
หลังจากทางการจีน เตรียมประกาศใช้กฎหมายแรงงานฉบับใหม่ ซึ่งจะมีผลให้ต้นทุนค่าจ้างแรงงานคนจีนเพิ่มขึ้น มีผลบังคับใช้ทันที ในปีหน้า
ล่าสุด 2 ธุรกิจญี่ปุ่น UNIQLO ร้านค้าปลีกเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้ประกาศว่าในปี 2552 จะลดจำนวนสินค้าที่ผลิตในจีนจาก 90% เหลือเพียง 60% แล้วหันมาเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานประเทศอื่น เช่น เวียดนาม หรือ กัมพูชา แทน
ขณะเดียวกัน โอลิมปัส บริษัทกล้องดิจิตอลของญี่ปุ่น ที่มีโรงงานอยู่ในจีน 2 แห่ง มีแผนจะควบรวมโรงงานผลิตเหลือแห่งเดียว แล้ววางแผนทุ่มทุน 10,000 ล้านเยน (ราว 88.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อตั้งโรงงานกล้องดิจิตอลที่เวียดนามในปี 2552 แทน
อย่างไรก็ตาม ทางโอลิมปัสในประเทศจีนได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า ยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องปิดโรงงานจากบริษัทแม่แต่อย่างใด
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
Posted on Monday, November 19, 2007
หลังจากทางการจีน เตรียมประกาศใช้กฎหมายแรงงานฉบับใหม่ ซึ่งจะมีผลให้ต้นทุนค่าจ้างแรงงานคนจีนเพิ่มขึ้น มีผลบังคับใช้ทันที ในปีหน้า
ล่าสุด 2 ธุรกิจญี่ปุ่น UNIQLO ร้านค้าปลีกเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้ประกาศว่าในปี 2552 จะลดจำนวนสินค้าที่ผลิตในจีนจาก 90% เหลือเพียง 60% แล้วหันมาเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานประเทศอื่น เช่น เวียดนาม หรือ กัมพูชา แทน
ขณะเดียวกัน โอลิมปัส บริษัทกล้องดิจิตอลของญี่ปุ่น ที่มีโรงงานอยู่ในจีน 2 แห่ง มีแผนจะควบรวมโรงงานผลิตเหลือแห่งเดียว แล้ววางแผนทุ่มทุน 10,000 ล้านเยน (ราว 88.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อตั้งโรงงานกล้องดิจิตอลที่เวียดนามในปี 2552 แทน
อย่างไรก็ตาม ทางโอลิมปัสในประเทศจีนได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า ยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องปิดโรงงานจากบริษัทแม่แต่อย่างใด
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news19/11/07
โพสต์ที่ 218
คาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอยปีหน้า - ข่าว 18.00 น.
Posted on Monday, November 19, 2007
สมาคมนักวิเคราะห์ด้านธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ภาวะการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ และจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการใช้จ่ายผู้บริโภคในปีหน้าซบเซาลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ถดถอยลง
โดยสมาคมฯ คาดว่า GDP ในไตรมาส 4 จะขยายตัวเพียง 1.5% ลดลงจากไตรมาส 3 ที่ขยายตัวถึง 3.9% และทำให้ปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวเพียง 2.1% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2545 รวมถึงได้ปรับลดคาดการณ์GDP ปีหน้าลงอยู่ที่ระดับ 2.5% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.8%
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะอยู่ที่ระดับ 2.8% ในปีนี้ และจะปรับตัวลงสู่ระดับ 2.5% ในปีหน้า นอกจากนี้สมาคมฯ ยังคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้ที่ 4.5% ไปจนถึงปลายปีนี้และปีหน้า
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
จีนคุมเข้มปล่อยกู้ลูกค้าใหม่จนถึงสิ้นปี - ข่าว 18.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Monday, November 19, 2007
คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารจีน (CBRC) บอกว่า ได้ออกคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศจีนควบคุมการปล่อยสินเชื่อในช่วงระยะเวลาที่เหลือจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้อย่างเข้มงวด เพื่อที่จะทำให้ยอดปล่อยเงินกู้โดยรวมไม่อยู่ในระดับที่สูงจนเกินไป
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่คณะกรรมการฯ ได้จัดประชุมฉุกเฉินขึ้น 3 ครั้ง เพื่อสรุปแนวทางในการดำเนินการเรื่องการปล่อยกู้ของธนาคารต่างประเทศ และธนาคารของรัฐบาลจีน และคงอัตราเงินกู้ให้อยู่ในระดับเดียวกับช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ซึ่งคำสั่งดังกล่าว ทำให้การปล่อยสินเชื่อใหม่ ๆ ของธนาคารพาณิชย์จีนอาจจะยากลำบากมากขึ้น แต่ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องการระงับการออกเงินกู้ใหม่
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
ต่างชาติแห่ลงทุนฟิลิปปินส์เพิ่ม 94.7% ข่าว 16.00 น.
Posted on Monday, November 19, 2007
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ รายงานว่า รอบเดือนตุลาคมนี้ มีเม็ดเงินต่างชาติเข้าลงทุนในฟิลิปปินส์มากขึ้น รวมมูลค่า 274 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9,316 ล้านบาท
ส่วนในรอบ 10 เดือนของปีนี้ นักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในฟิลิปปินส์เป็นวงเงินสูงถึง 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อปีก่อนถึง 94.7% โดยเงินทุนส่วนใหญ่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ พันธบัตร รวมถึงโครงสร้างด้านการเงินอื่นๆ
สำหรับปัจจัยหลักมาจากความเชื่อมั่นในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการลดภาษี และการลดดอกเบี้ยภายในประเทศ
นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยังได้ปรับพยากรณ์การเติบโตเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ปีนี้เพิ่มขึ้นด้วย จาก 5.8% เป็น 6.3%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
Posted on Monday, November 19, 2007
สมาคมนักวิเคราะห์ด้านธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ภาวะการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ และจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการใช้จ่ายผู้บริโภคในปีหน้าซบเซาลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ถดถอยลง
โดยสมาคมฯ คาดว่า GDP ในไตรมาส 4 จะขยายตัวเพียง 1.5% ลดลงจากไตรมาส 3 ที่ขยายตัวถึง 3.9% และทำให้ปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวเพียง 2.1% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2545 รวมถึงได้ปรับลดคาดการณ์GDP ปีหน้าลงอยู่ที่ระดับ 2.5% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.8%
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะอยู่ที่ระดับ 2.8% ในปีนี้ และจะปรับตัวลงสู่ระดับ 2.5% ในปีหน้า นอกจากนี้สมาคมฯ ยังคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้ที่ 4.5% ไปจนถึงปลายปีนี้และปีหน้า
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
จีนคุมเข้มปล่อยกู้ลูกค้าใหม่จนถึงสิ้นปี - ข่าว 18.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Monday, November 19, 2007
คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารจีน (CBRC) บอกว่า ได้ออกคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศจีนควบคุมการปล่อยสินเชื่อในช่วงระยะเวลาที่เหลือจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้อย่างเข้มงวด เพื่อที่จะทำให้ยอดปล่อยเงินกู้โดยรวมไม่อยู่ในระดับที่สูงจนเกินไป
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่คณะกรรมการฯ ได้จัดประชุมฉุกเฉินขึ้น 3 ครั้ง เพื่อสรุปแนวทางในการดำเนินการเรื่องการปล่อยกู้ของธนาคารต่างประเทศ และธนาคารของรัฐบาลจีน และคงอัตราเงินกู้ให้อยู่ในระดับเดียวกับช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ซึ่งคำสั่งดังกล่าว ทำให้การปล่อยสินเชื่อใหม่ ๆ ของธนาคารพาณิชย์จีนอาจจะยากลำบากมากขึ้น แต่ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องการระงับการออกเงินกู้ใหม่
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
ต่างชาติแห่ลงทุนฟิลิปปินส์เพิ่ม 94.7% ข่าว 16.00 น.
Posted on Monday, November 19, 2007
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ รายงานว่า รอบเดือนตุลาคมนี้ มีเม็ดเงินต่างชาติเข้าลงทุนในฟิลิปปินส์มากขึ้น รวมมูลค่า 274 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9,316 ล้านบาท
ส่วนในรอบ 10 เดือนของปีนี้ นักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในฟิลิปปินส์เป็นวงเงินสูงถึง 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อปีก่อนถึง 94.7% โดยเงินทุนส่วนใหญ่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ พันธบัตร รวมถึงโครงสร้างด้านการเงินอื่นๆ
สำหรับปัจจัยหลักมาจากความเชื่อมั่นในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการลดภาษี และการลดดอกเบี้ยภายในประเทศ
นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยังได้ปรับพยากรณ์การเติบโตเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ปีนี้เพิ่มขึ้นด้วย จาก 5.8% เป็น 6.3%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news19/11/07
โพสต์ที่ 219
ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนใช้เวทีกลุ่มจี 20 หารือเรื่องขยายช่วงค่าเงินหยวนจีนมากขึ้น
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Monday, November 19, 2007
ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนชี้อาจต้องขยายช่วงค่าเงินหยวนจีน
นายโจ เซียวฉวน ประธานผู้ว่าการธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ ให้สัมภาษณ์ว่า อาจจะพิจารณา ขยายเพดาน หรือช่วงการเคลื่อนไหวค่าเงินหยวนจีนเพิ่มมากขึ้น หลังสิ้นสุดการประชุมกลุ่มประเทศชั้นนำอุตสาหกรรมทั้งประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศเกิดใหม่ทั้ง 20 ชาติสมาชิก เรียกว่า กลุ่มจี 20 ประธานแบงก์ชาติจีนกล่าวว่า ในขณะนี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่ช่วงค่าเงินหยวนจีนจะได้ได้รับการปรับเปลี่ยน ซึ่งย่อมขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกที่เป็นอยู่ด้วย ทั้งนี้ ค่าเงินหยวนถูกยกเลิกผูกติดเงินเหรียญสหรัฐ เมื่อกรกฎาคมปี 2548
กลุ่มจี 20 เรียกร้องให้ประเทศในเอเชียขนาดใหญ่ ผ่อนคลายค่าเงิน
กลุ่มผู้นำประเทศชั้นนำด้านอุตสาหกรรมทั้งจากประเทศที่พัฒนาแล้ว และประเทศขนาดใหญ่ในอีเมิร์จจิ้งมาร์เก็ตจาก 20 ชาติสมาชิก หรือกลุ่มจี 20 แถลงผลการประชุมในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นสำคัญ เช่น ขอเรียกร้องให้บางประเทศในเอเชีย เร่งผ่อนคลายอัตราแลกเปลี่ยนให้แข็งค่ามากขึ้น เตือนบรรดาธนาคารกลางทั่วโลก ให้ดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวังในปีหน้ามากขึ้น จากแรงกดดันของเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงมากขึ้นจากราคาน้ำมันดิบ ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทะยานขึ้นต่อเนื่อง และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Monday, November 19, 2007
ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนชี้อาจต้องขยายช่วงค่าเงินหยวนจีน
นายโจ เซียวฉวน ประธานผู้ว่าการธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ ให้สัมภาษณ์ว่า อาจจะพิจารณา ขยายเพดาน หรือช่วงการเคลื่อนไหวค่าเงินหยวนจีนเพิ่มมากขึ้น หลังสิ้นสุดการประชุมกลุ่มประเทศชั้นนำอุตสาหกรรมทั้งประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศเกิดใหม่ทั้ง 20 ชาติสมาชิก เรียกว่า กลุ่มจี 20 ประธานแบงก์ชาติจีนกล่าวว่า ในขณะนี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่ช่วงค่าเงินหยวนจีนจะได้ได้รับการปรับเปลี่ยน ซึ่งย่อมขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกที่เป็นอยู่ด้วย ทั้งนี้ ค่าเงินหยวนถูกยกเลิกผูกติดเงินเหรียญสหรัฐ เมื่อกรกฎาคมปี 2548
กลุ่มจี 20 เรียกร้องให้ประเทศในเอเชียขนาดใหญ่ ผ่อนคลายค่าเงิน
กลุ่มผู้นำประเทศชั้นนำด้านอุตสาหกรรมทั้งจากประเทศที่พัฒนาแล้ว และประเทศขนาดใหญ่ในอีเมิร์จจิ้งมาร์เก็ตจาก 20 ชาติสมาชิก หรือกลุ่มจี 20 แถลงผลการประชุมในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นสำคัญ เช่น ขอเรียกร้องให้บางประเทศในเอเชีย เร่งผ่อนคลายอัตราแลกเปลี่ยนให้แข็งค่ามากขึ้น เตือนบรรดาธนาคารกลางทั่วโลก ให้ดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวังในปีหน้ามากขึ้น จากแรงกดดันของเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงมากขึ้นจากราคาน้ำมันดิบ ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทะยานขึ้นต่อเนื่อง และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news19/11/07
โพสต์ที่ 220
เอดีบี มั่นใจ เศรษฐกิจเอเชียยังแกร่งทั้งปีนี้ และปีหน้า
นายฮารูฮิโกะ คูโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี กล่าวว่า เศรษฐกิจใจเอเชีย จะยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ และปีหน้า ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่ทะยานพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และวิกฤตการเงิน รวมถึงสภาพคล่องที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ เอดีบี ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจเอเชียที่ระดับ 8.3% ของปีนี้ และยังคงตัวเลขเดิมที่ 8.2% ในปีหน้าต่อไป ที่สำคัญ ประเทศต่างๆในเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น มีความเป็นไปได้สูง ที่จะขยายตัวตามเป้าหมายที่วางไว้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
นายฮารูฮิโกะ คูโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี กล่าวว่า เศรษฐกิจใจเอเชีย จะยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ และปีหน้า ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่ทะยานพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และวิกฤตการเงิน รวมถึงสภาพคล่องที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ เอดีบี ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจเอเชียที่ระดับ 8.3% ของปีนี้ และยังคงตัวเลขเดิมที่ 8.2% ในปีหน้าต่อไป ที่สำคัญ ประเทศต่างๆในเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น มีความเป็นไปได้สูง ที่จะขยายตัวตามเป้าหมายที่วางไว้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news19/11/07
โพสต์ที่ 221
นายกฯสิงคโปร์หนุนชาติอาเซียนร่วมมือทางศก.เพื่อแข่งขันกับจีน-อินเดีย
นายหลี่ เซี่ยนหลุน นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมมือกันในการรวมตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถแข่งขันกันมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในเอเชีย อย่างจีนและอินเดีย ได้ ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หลายคนในสิงคโปร์เตือนว่า การที่กลุ่มประเทศอาเซียนวางแผนที่จะรวมตลาดภายในปี 2558 นั้น อาจเผชิญอุปสรรคเรื่องความล่าช้าและปัญหาเรื่องผลประโยชน์ผูกขาด โดยระบุว่าอาเซียนจะต้องแบกรับงานหนักในเรื่องการรวมตลาดและเรื่องฐานการผลิต หากต้องการจะแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ในเอเชียอย่างจีนและอินเดีย
ผู้นำสหรัฐและญี่ปุ่นกำลังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ดับเบิ้ลยู บุช ประธานาธิบดีจอร์จ ผู้นำสหรัฐและนายยาซูโอะ ฟูกูดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่พยายามกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ระหว่างที่นายฟูกูดะเยือนสหรัฐเป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แถลงการณ์ระบุว่าการเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือเลิกล้มการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เริ่มส่งผลดีแล้ว ทางด้านนายฟูกูดะได้แสดงความวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะถอดชื่อเกาหลีเหนือออกจากบัญชีรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายเพื่อตอบแทนที่เกาหลีเหนือยอมหยุดเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เนื่องจากญี่ปุ่นต้องการให้สหรัฐระงับการถอดชื่อจนกว่าเกาหลีเหนือจะแก้ปัญหาการลักพาตัวชาวญี่ปุ่น
ซาอุฯ ไม่เห็นด้วยกับการระบุเรื่องการอ่อนค่าของดอลลาร์ใน แถลงการณ์หลังการประชุมโอเปค
รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียคัดค้านการระบุเรื่องการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐในแถลงการณ์ที่จะออกหลังการประชุมสุดยอดผู้นำโอเปค โดยเตือนว่าการระบุเรื่องการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินของสหรัฐมากยิ่งขึ้น ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านไม่เห็นด้วยและต้องการให้ในแถลงการณ์มีการกล่าวถึงเรื่องการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ที่เชื่อกันว่า มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ตามแผนการประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มโอเปคการหารือเรื่องค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะเป็นการประชุมลับ แต่เกิดความผิดพลาดมีการถ่ายทอดออกอากาศทางโทรทัศน์ที่ติดตั้งไว้ที่ศูนย์สื่อมวลชน
สภาทองคำโลกเผยอุปสงค์ทองคำในตะวันออกกลาง Q 3 พุ่ง 21%
สำนักข่าวกัลฟ์ นิวส์ รายงานว่า อุปสงค์ทองคำของกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลางในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ปรับตัวสูงขึ้น 21% จากปีที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในคาบสมุทรอาหรับ ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นในอียิปต์ และปัจจัยด้านราคาของโลหะมีค่าที่เหมาะสมในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสที่ 3 ได้ช่วยบดบังผลกระทบในด้านลบต่อราคาที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ตลาดทองคำเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง อีกทั้งลักษณะการซื้อขายในตลาดที่รับประกันความเสี่ยงได้กลายเป็นจุดแข็งที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจขาดเสถียรภาพ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
นายหลี่ เซี่ยนหลุน นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมมือกันในการรวมตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถแข่งขันกันมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในเอเชีย อย่างจีนและอินเดีย ได้ ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หลายคนในสิงคโปร์เตือนว่า การที่กลุ่มประเทศอาเซียนวางแผนที่จะรวมตลาดภายในปี 2558 นั้น อาจเผชิญอุปสรรคเรื่องความล่าช้าและปัญหาเรื่องผลประโยชน์ผูกขาด โดยระบุว่าอาเซียนจะต้องแบกรับงานหนักในเรื่องการรวมตลาดและเรื่องฐานการผลิต หากต้องการจะแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ในเอเชียอย่างจีนและอินเดีย
ผู้นำสหรัฐและญี่ปุ่นกำลังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ดับเบิ้ลยู บุช ประธานาธิบดีจอร์จ ผู้นำสหรัฐและนายยาซูโอะ ฟูกูดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่พยายามกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ระหว่างที่นายฟูกูดะเยือนสหรัฐเป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แถลงการณ์ระบุว่าการเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือเลิกล้มการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เริ่มส่งผลดีแล้ว ทางด้านนายฟูกูดะได้แสดงความวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะถอดชื่อเกาหลีเหนือออกจากบัญชีรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายเพื่อตอบแทนที่เกาหลีเหนือยอมหยุดเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เนื่องจากญี่ปุ่นต้องการให้สหรัฐระงับการถอดชื่อจนกว่าเกาหลีเหนือจะแก้ปัญหาการลักพาตัวชาวญี่ปุ่น
ซาอุฯ ไม่เห็นด้วยกับการระบุเรื่องการอ่อนค่าของดอลลาร์ใน แถลงการณ์หลังการประชุมโอเปค
รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียคัดค้านการระบุเรื่องการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐในแถลงการณ์ที่จะออกหลังการประชุมสุดยอดผู้นำโอเปค โดยเตือนว่าการระบุเรื่องการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินของสหรัฐมากยิ่งขึ้น ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านไม่เห็นด้วยและต้องการให้ในแถลงการณ์มีการกล่าวถึงเรื่องการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ที่เชื่อกันว่า มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ตามแผนการประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มโอเปคการหารือเรื่องค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะเป็นการประชุมลับ แต่เกิดความผิดพลาดมีการถ่ายทอดออกอากาศทางโทรทัศน์ที่ติดตั้งไว้ที่ศูนย์สื่อมวลชน
สภาทองคำโลกเผยอุปสงค์ทองคำในตะวันออกกลาง Q 3 พุ่ง 21%
สำนักข่าวกัลฟ์ นิวส์ รายงานว่า อุปสงค์ทองคำของกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลางในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ปรับตัวสูงขึ้น 21% จากปีที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในคาบสมุทรอาหรับ ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นในอียิปต์ และปัจจัยด้านราคาของโลหะมีค่าที่เหมาะสมในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสที่ 3 ได้ช่วยบดบังผลกระทบในด้านลบต่อราคาที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ตลาดทองคำเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง อีกทั้งลักษณะการซื้อขายในตลาดที่รับประกันความเสี่ยงได้กลายเป็นจุดแข็งที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจขาดเสถียรภาพ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news21/11/07
โพสต์ที่ 222
หุ้นนิวยอร์กปิดบวกหลังนักลงทุนคาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ย ข่าว 08.30 น.
Posted on Wednesday, November 21, 2007
คาดการณ์เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยหนุนหุ้นนิวยอร์กปิดบวก
จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 30-31 ต.ค. โดยระบุว่า "การที่คณะกรรมการเฟดได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 นั้น เป็นการตัดสินใจที่ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตาม เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะชะลอตัวลงในปีหน้า อีกทั้งคาดว่าอัตราจ้างงานจะเพิ่มขึ้นและตัวเลขเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในระดับปานกลาง ซึ่งรายงานดังกล่าวนี้เอง ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 11 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดปล่อยกู้จำนอง เมื่อบริษัทเฟรดดี แมค เปิดเผยตัวเลขขาดทุนรายไตรมาส 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่า บริษัทแฟนนี เม ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐนั้น จะมีตัวเลขขาดทุนมูลค่ามหาศาลด้วย
นอกจากนี้ การที่นักวิเคราะห์ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ยิ่งส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าสถานะของคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลอาจย่ำแย่จนถึงขั้นยื่นขอล้มละลาย แม้บริษัทได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวในภายหลังก็ตาม ซึ่งข่าวเหล่านี้ได้ฉุดหุ้นคันทรีไวด์ดิ่งลง 27%
ทั้งนี้ หุ้นเฟรดดี แมค ดิ่งลง 28.7% หุ้นแฟนนี เม ร่วงลง 24.8% ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 4.4% และหุ้นเชฟรอนดีดขึ้น3.4%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
Posted on Wednesday, November 21, 2007
คาดการณ์เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยหนุนหุ้นนิวยอร์กปิดบวก
จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 30-31 ต.ค. โดยระบุว่า "การที่คณะกรรมการเฟดได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 นั้น เป็นการตัดสินใจที่ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตาม เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะชะลอตัวลงในปีหน้า อีกทั้งคาดว่าอัตราจ้างงานจะเพิ่มขึ้นและตัวเลขเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในระดับปานกลาง ซึ่งรายงานดังกล่าวนี้เอง ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 11 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดปล่อยกู้จำนอง เมื่อบริษัทเฟรดดี แมค เปิดเผยตัวเลขขาดทุนรายไตรมาส 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่า บริษัทแฟนนี เม ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐนั้น จะมีตัวเลขขาดทุนมูลค่ามหาศาลด้วย
นอกจากนี้ การที่นักวิเคราะห์ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ยิ่งส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าสถานะของคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลอาจย่ำแย่จนถึงขั้นยื่นขอล้มละลาย แม้บริษัทได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวในภายหลังก็ตาม ซึ่งข่าวเหล่านี้ได้ฉุดหุ้นคันทรีไวด์ดิ่งลง 27%
ทั้งนี้ หุ้นเฟรดดี แมค ดิ่งลง 28.7% หุ้นแฟนนี เม ร่วงลง 24.8% ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 4.4% และหุ้นเชฟรอนดีดขึ้น3.4%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news21/11/07
โพสต์ที่ 223
เวียดนามคาดราคาส่งออกข้าวปี 51 สูงขึ้น ข่าว 09.00 น.
Posted on Wednesday, November 21, 2007
กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม คาดว่า ราคาส่งออกข้าวของเวียดนามในปีหน้าจะปรับตัวสูงขึ้น โดยข้าว 25 % จะอยู่ที่ระดับ 320 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนข้าว 5% อยู่ที่ 340 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากปัจจุบันราคาส่งออกข้าวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 295 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนผลผลิตข้าวของประเทศจะอยู่ที่ระดับ 35.9 ล้านตันในปีนี้ เท่ากับสถิติในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดติดอันดับ 2 ของโลก มีรายได้จากการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ เกือบ 1,400 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 12.7% จากปีก่อน โดยส่งออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และคิวบา คิดเป็นสัดส่วน 60% ของยอดส่งออกข้าวทั้งหมด
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
Posted on Wednesday, November 21, 2007
กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม คาดว่า ราคาส่งออกข้าวของเวียดนามในปีหน้าจะปรับตัวสูงขึ้น โดยข้าว 25 % จะอยู่ที่ระดับ 320 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนข้าว 5% อยู่ที่ 340 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากปัจจุบันราคาส่งออกข้าวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 295 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนผลผลิตข้าวของประเทศจะอยู่ที่ระดับ 35.9 ล้านตันในปีนี้ เท่ากับสถิติในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดติดอันดับ 2 ของโลก มีรายได้จากการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ เกือบ 1,400 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 12.7% จากปีก่อน โดยส่งออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และคิวบา คิดเป็นสัดส่วน 60% ของยอดส่งออกข้าวทั้งหมด
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news21/11/07
โพสต์ที่ 224
อียูคว่ำบาตรพม่า ห้ามนำเข้าสินค้าจากบริษัทค้าไม้-อัญมณี
สหภาพยุโรป (อียู) ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรฉบับใหม่ต่อพม่า ซึ่งประกอบด้วยคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจำพวกไม้ อัญมณี และโลหะ จากประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวยัง ยังได้พุ่งเป้าที่การห้ามมิให้บริษัทที่ควบคุมโดยรัฐบาล หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเข้ามาลงทุนในกลุ่มประเทศอียู ทั้งนี้ ชาติสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศได้ตัดสินใจที่จะระงับความช่วยเหลือด้านการเงิน และการส่งออกสินค้าประเภทเครื่องมือและเทคโนโลยีให้กับกลุ่มบริษัทค้าไม้ บริษัทเหมืองโลหะและเหมืองแร่ รวมถึงบริษัทอัญมณี และห้ามนำเข้าสินค้าจากบริษัทที่กล่าวมาทั้งหมดด้วยเช่นกัน
นายกฯจีนชี้สถานการณ์ตลาดอสังหาฯเป็นประเด็นสำคัญที่จีนกังวลเป็นลำดับแรก
นายกรัฐมตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงเป็นประเด็นที่ทางการวิตกกังวลในลำดับต้นๆ พร้อมกันนี้เขายังได้ให้คำมั่นว่า จะประคับประคองตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรงให้อยู่ภายใต้การควบคุม นายเหวินกล่าวว่า ชาวจีนรู้สึกไม่พอใจอย่างมากต่อสถานการณ์ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยตัวเลขของทางการระบุว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ได้รับปัจจัยกระตุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาโดยราคาบ้านในเมืองใหญ่ๆช่วงเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่พุ่งสูงขึ้น 8.9% ในเดือนก.ย.
ผู้ว่าการธ.กลางจีนเผยการเปลี่ยนช่วงซื้อขายหยวนขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลก
นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า อัตราแลกเปลี่ยนของจีนควรจะมีความยืดหยุ่นมากกว่านี้ หากจำเป็น จีนจะพิจารณาขยายช่วงการซื้อขายเงินหยวน แต่การเปลี่ยนแปลงช่วงลอยตัวเงินหยวนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนช่วงลอยตัวเงินหยวนไม่ใช่เครื่องมือเพียงประเภทเดียวที่จีนจะใช้เพื่อทำให้ค่าเงินหยวนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผู้นำชาติตะวันตกบางรายได้กดดันจีนให้ลดค่าเงินหยวน และชี้ว่า ค่าเงินหยวนที่ต่ำเกินจริงเป็นต้นเหตุให้เกิดภาวะไร้สมดุลของเศรษฐกิจโลก
นักวิเคราะห์คาด CPI สิงคโปร์เดือนต.ค.พุ่ง หลังราคาน้ำมัน-อาหารแพงขึ้น
อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์ในเดือนต.ค.2550 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมัน และ อาหาร เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของภาษีสินค้าและบริการที่ 7% จากระดับ 5% ในเดือนก.ค. นอกจากนี้ ต้นทุนด้านการคมนาคมขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ราคารถโดยสารได้ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนต.ค. ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ CPI ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์จะเปิดเผยข้อมูล CPI ในวันศุกร์นี้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
สหภาพยุโรป (อียู) ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรฉบับใหม่ต่อพม่า ซึ่งประกอบด้วยคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจำพวกไม้ อัญมณี และโลหะ จากประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวยัง ยังได้พุ่งเป้าที่การห้ามมิให้บริษัทที่ควบคุมโดยรัฐบาล หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเข้ามาลงทุนในกลุ่มประเทศอียู ทั้งนี้ ชาติสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศได้ตัดสินใจที่จะระงับความช่วยเหลือด้านการเงิน และการส่งออกสินค้าประเภทเครื่องมือและเทคโนโลยีให้กับกลุ่มบริษัทค้าไม้ บริษัทเหมืองโลหะและเหมืองแร่ รวมถึงบริษัทอัญมณี และห้ามนำเข้าสินค้าจากบริษัทที่กล่าวมาทั้งหมดด้วยเช่นกัน
นายกฯจีนชี้สถานการณ์ตลาดอสังหาฯเป็นประเด็นสำคัญที่จีนกังวลเป็นลำดับแรก
นายกรัฐมตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงเป็นประเด็นที่ทางการวิตกกังวลในลำดับต้นๆ พร้อมกันนี้เขายังได้ให้คำมั่นว่า จะประคับประคองตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรงให้อยู่ภายใต้การควบคุม นายเหวินกล่าวว่า ชาวจีนรู้สึกไม่พอใจอย่างมากต่อสถานการณ์ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยตัวเลขของทางการระบุว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ได้รับปัจจัยกระตุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาโดยราคาบ้านในเมืองใหญ่ๆช่วงเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่พุ่งสูงขึ้น 8.9% ในเดือนก.ย.
ผู้ว่าการธ.กลางจีนเผยการเปลี่ยนช่วงซื้อขายหยวนขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลก
นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า อัตราแลกเปลี่ยนของจีนควรจะมีความยืดหยุ่นมากกว่านี้ หากจำเป็น จีนจะพิจารณาขยายช่วงการซื้อขายเงินหยวน แต่การเปลี่ยนแปลงช่วงลอยตัวเงินหยวนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนช่วงลอยตัวเงินหยวนไม่ใช่เครื่องมือเพียงประเภทเดียวที่จีนจะใช้เพื่อทำให้ค่าเงินหยวนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผู้นำชาติตะวันตกบางรายได้กดดันจีนให้ลดค่าเงินหยวน และชี้ว่า ค่าเงินหยวนที่ต่ำเกินจริงเป็นต้นเหตุให้เกิดภาวะไร้สมดุลของเศรษฐกิจโลก
นักวิเคราะห์คาด CPI สิงคโปร์เดือนต.ค.พุ่ง หลังราคาน้ำมัน-อาหารแพงขึ้น
อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์ในเดือนต.ค.2550 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมัน และ อาหาร เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของภาษีสินค้าและบริการที่ 7% จากระดับ 5% ในเดือนก.ค. นอกจากนี้ ต้นทุนด้านการคมนาคมขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ราคารถโดยสารได้ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนต.ค. ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ CPI ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์จะเปิดเผยข้อมูล CPI ในวันศุกร์นี้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news22/11/07
โพสต์ที่ 225
อินโดนีเซียอาจระงับนำเข้าข้าวปีหน้า หลังผลผลิตข้าวปีนี้เพิ่มขึ้น
อินโดนีเซียอาจระงับการนำเข้าข้าวในปีหน้า เนื่องจากผลผลิตข้าวที่ผลิตได้ในประเทศคาดว่าจะมีปริมาณมากขึ้นทั้งในปีนี้และปีหน้า ผลผลิตข้าวของอินโดนีเซียปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านตัน และคาดว่าจะมีปริมาณข้าวเพียงพอกับความต้องการในปีนี้ ที่ผ่านมา อินโดนีเซียนำเข้าข้าวปีละ 1 - 1.5 ล้านตันเมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อควบคุมราคาข้าวในประเทศไม่ให้สูงขึ้น และเพื่อเป็นการกระตุ้นผลผลิตข้าว รัฐบาลได้จัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวชั้นดีให้กับเกษตรกร
นายกฯญี่ปุ่น-อินเดียเตรียมไฟเขียวกระชับความสัมพันธ์-ผลักดันสรุป FTA
นายกรัฐมนตรียาซูโอะ ฟูกูดะ ของญี่ปุ่น และนายมันโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีของอินเดีย จะให้ความเห็นชอบต่อผลการเจรจาเรื่องการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ และการสรุปการเจรจาเรื่องการทำข้อตกลงการค้าเสรีให้ได้โดยเร็ว การเจรจาของนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศเกิดขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนที่สิงคโปร์ นายกฯญี่ปุ่นวางแผนว่าจะเรียกร้องให้อินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดรายหนึ่งของโลก มีส่วนร่วมในกรอบกติกาสากล 2555 เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน หลังจากที่สนธิสัญญาเกียวโตหมดอายุลง
ฮ่องกงอ้าแขนรับกองทุนอิสลาม หวังเบียดมาเลย์ขึ้นเป็นแหล่งลงทุนประเทศอิสลาม
คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดทรัพย์และตลาดล่วงหน้าของฮ่องกง (SFC) ตัดสินใจเปิดทางให้กองทุนอิสลามเข้ามาลงทุนในฮ่องกงเป็นครั้งแรก เนื่องจากฮ่องกงต้องการแข่งขันกับสิงคโปร์และมาเลเซีย เพื่อก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการลงทุนสำหรับประเทศอิสลาม ทั้งนี้ แม้คณะกรรมการ SFC ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้ แต่หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งรายงานในวันนี้ว่า สถาบันการเงินที่จะเปิดตัวกองทุนอิสลามแห่งแรกคือ ฮั่งเส็งแบงก์ ในช่วงต้นปีมีรายงานว่า สินทรัพย์ของกองทุนมุสลิมทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆปี
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
อินโดนีเซียอาจระงับการนำเข้าข้าวในปีหน้า เนื่องจากผลผลิตข้าวที่ผลิตได้ในประเทศคาดว่าจะมีปริมาณมากขึ้นทั้งในปีนี้และปีหน้า ผลผลิตข้าวของอินโดนีเซียปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านตัน และคาดว่าจะมีปริมาณข้าวเพียงพอกับความต้องการในปีนี้ ที่ผ่านมา อินโดนีเซียนำเข้าข้าวปีละ 1 - 1.5 ล้านตันเมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อควบคุมราคาข้าวในประเทศไม่ให้สูงขึ้น และเพื่อเป็นการกระตุ้นผลผลิตข้าว รัฐบาลได้จัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวชั้นดีให้กับเกษตรกร
นายกฯญี่ปุ่น-อินเดียเตรียมไฟเขียวกระชับความสัมพันธ์-ผลักดันสรุป FTA
นายกรัฐมนตรียาซูโอะ ฟูกูดะ ของญี่ปุ่น และนายมันโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีของอินเดีย จะให้ความเห็นชอบต่อผลการเจรจาเรื่องการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ และการสรุปการเจรจาเรื่องการทำข้อตกลงการค้าเสรีให้ได้โดยเร็ว การเจรจาของนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศเกิดขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนที่สิงคโปร์ นายกฯญี่ปุ่นวางแผนว่าจะเรียกร้องให้อินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดรายหนึ่งของโลก มีส่วนร่วมในกรอบกติกาสากล 2555 เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน หลังจากที่สนธิสัญญาเกียวโตหมดอายุลง
ฮ่องกงอ้าแขนรับกองทุนอิสลาม หวังเบียดมาเลย์ขึ้นเป็นแหล่งลงทุนประเทศอิสลาม
คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดทรัพย์และตลาดล่วงหน้าของฮ่องกง (SFC) ตัดสินใจเปิดทางให้กองทุนอิสลามเข้ามาลงทุนในฮ่องกงเป็นครั้งแรก เนื่องจากฮ่องกงต้องการแข่งขันกับสิงคโปร์และมาเลเซีย เพื่อก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการลงทุนสำหรับประเทศอิสลาม ทั้งนี้ แม้คณะกรรมการ SFC ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้ แต่หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งรายงานในวันนี้ว่า สถาบันการเงินที่จะเปิดตัวกองทุนอิสลามแห่งแรกคือ ฮั่งเส็งแบงก์ ในช่วงต้นปีมีรายงานว่า สินทรัพย์ของกองทุนมุสลิมทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆปี
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news23/11/07
โพสต์ที่ 226
BOIห่วงเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงินทุนจะอยู่ในช่วงขาลง โดย กระแสหุ้น
BOIห่วงเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงินทุนจะอยู่ในช่วงขาลง
บอร์ดบีโอเจเผยเป็นห่วงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ราคาน้ำมันที่พุ่งกระทบเศรษฐกิจญี่ปุ่น ชี้เงินทุนของสหรัฐฯอาจจะอยู่ในช่วงขาลงและทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
นายเซจิ นากามูระ สมาชิกคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้กล่าวแสดงความกังวลเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นอันเนื่องมาจากภาคธุรกิจที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลก และราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้น
ทั้งนี้ นายนากามูระกล่าวปราศรัยในการสัมมนาด้านธุรกิจว่า หากมีความเสี่ยงขาลงมากขึ้นเพราะตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯที่ซบเซามากกว่าคาดการณ์ และความผันผวนที่สูงเกินคาดการณ์ การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนด้านเงินทุนของสหรัฐฯอาจจะอยู่ในช่วงขาลงและทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายนากามูระกล่าวว่า ในกรณีดังกล่าว เศรษฐกิจของประเทศใดๆก็มีสิทธิที่จะได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นในระดับหนึ่ง
ด้านนายนากามูระ อดีตประธานบริษัท เอ็มโอเอฟ เฟอร์รี โค กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นใกล้ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจะส่งผลกระทบต่อภาคบริษัทเอกชนและเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน ราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่น่ากังวลว่าจะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในประเทศจะชะลอตัวลง
นอกจากนี้ นายนากามูระกล่าวอีกว่า ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านที่ตกลงอย่างต่อเนื่องในญี่ปุ่นหลังจากที่มีการใช้กฎเกณฑ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยนั้น อาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นกัน
http://www.settrade.com/S17_ContentDisp ... okerId=IPO
BOIห่วงเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงินทุนจะอยู่ในช่วงขาลง
บอร์ดบีโอเจเผยเป็นห่วงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ราคาน้ำมันที่พุ่งกระทบเศรษฐกิจญี่ปุ่น ชี้เงินทุนของสหรัฐฯอาจจะอยู่ในช่วงขาลงและทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
นายเซจิ นากามูระ สมาชิกคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้กล่าวแสดงความกังวลเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นอันเนื่องมาจากภาคธุรกิจที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลก และราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้น
ทั้งนี้ นายนากามูระกล่าวปราศรัยในการสัมมนาด้านธุรกิจว่า หากมีความเสี่ยงขาลงมากขึ้นเพราะตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯที่ซบเซามากกว่าคาดการณ์ และความผันผวนที่สูงเกินคาดการณ์ การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนด้านเงินทุนของสหรัฐฯอาจจะอยู่ในช่วงขาลงและทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายนากามูระกล่าวว่า ในกรณีดังกล่าว เศรษฐกิจของประเทศใดๆก็มีสิทธิที่จะได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นในระดับหนึ่ง
ด้านนายนากามูระ อดีตประธานบริษัท เอ็มโอเอฟ เฟอร์รี โค กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นใกล้ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจะส่งผลกระทบต่อภาคบริษัทเอกชนและเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน ราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่น่ากังวลว่าจะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในประเทศจะชะลอตัวลง
นอกจากนี้ นายนากามูระกล่าวอีกว่า ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านที่ตกลงอย่างต่อเนื่องในญี่ปุ่นหลังจากที่มีการใช้กฎเกณฑ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยนั้น อาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นกัน
http://www.settrade.com/S17_ContentDisp ... okerId=IPO
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news23/11/07
โพสต์ที่ 227
EU ขู่ใช้มาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดกับจีน - ข่าว 18.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Friday, November 23, 2007
นายปีเตอร์ แมนเดลสัน กรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรป (EU) บอกว่า EU พร้อมที่จะใช้มาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด จัดการกับสินค้าจีน หากจีนยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาช่องว่างทางการค้า ที่ทำให้ EU ขาดดุลการค้ากับจีนมหาศาลในแต่ละปี
นายแมนเดลสันบอกด้วยว่า ขณะนี้ยุโรปมีท่าทีเปิดกว้างกับจีนมากขึ้น และจีนก็ควรจะเปิดกว้างด้วยการยกเลิกมาตรการกีดกันทางภาษี กฎระเบียบ และการเลือกปฏิบัติต่อเอกชนจากยุโรปด้วย
ทั้งนี้ ความเห็นของนายแมนเดลสันมีขึ้นก่อนที่ผู้นำ EU และจีน จะหารือทวิภาคีระหว่างกัน ในประเด็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่า EU จะเร่งกดดันให้จีนแก้ไขปัญหาขาดดุลการค้า รวมถึงกดดันให้จีนเร่งปฎิรูปค่าเงินหยวนที่อ่อนกว่าความเป็นจริง ซึ่งทำให้จีนได้เปรียบทางด้านต้นทุนการผลิต
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Friday, November 23, 2007
นายปีเตอร์ แมนเดลสัน กรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรป (EU) บอกว่า EU พร้อมที่จะใช้มาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด จัดการกับสินค้าจีน หากจีนยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาช่องว่างทางการค้า ที่ทำให้ EU ขาดดุลการค้ากับจีนมหาศาลในแต่ละปี
นายแมนเดลสันบอกด้วยว่า ขณะนี้ยุโรปมีท่าทีเปิดกว้างกับจีนมากขึ้น และจีนก็ควรจะเปิดกว้างด้วยการยกเลิกมาตรการกีดกันทางภาษี กฎระเบียบ และการเลือกปฏิบัติต่อเอกชนจากยุโรปด้วย
ทั้งนี้ ความเห็นของนายแมนเดลสันมีขึ้นก่อนที่ผู้นำ EU และจีน จะหารือทวิภาคีระหว่างกัน ในประเด็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่า EU จะเร่งกดดันให้จีนแก้ไขปัญหาขาดดุลการค้า รวมถึงกดดันให้จีนเร่งปฎิรูปค่าเงินหยวนที่อ่อนกว่าความเป็นจริง ซึ่งทำให้จีนได้เปรียบทางด้านต้นทุนการผลิต
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news23/11/07
โพสต์ที่ 228
ญี่ปุ่นกังวลเงินเยนแข็งค่า - ข่าว 18.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Friday, November 23, 2007
นางฮิโรโกะ โอตะ รัฐมนตรีกระทรวงนโยบายการคลังและเศรษฐกิจญี่ปุ่น บอกว่า เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะหากเงินเยนยังแข็งค่าต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง ที่ 108 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลต่อปัญหาสินเชื่อและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ซบเซา ที่เป็นผลมาจากวิกฤติ Subprime
นางโอตะยืนยันว่า แม้เงินเยนจะแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่มีผลกระทบต่อผู้ส่งออกของญี่ปุ่น เพราะผู้ส่งออกบางรายได้ปรับเปลี่ยนสัญญาล่วงหน้า และบางรายก็มีการปรับยุทธ์ศาสตร์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Friday, November 23, 2007
นางฮิโรโกะ โอตะ รัฐมนตรีกระทรวงนโยบายการคลังและเศรษฐกิจญี่ปุ่น บอกว่า เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะหากเงินเยนยังแข็งค่าต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง ที่ 108 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลต่อปัญหาสินเชื่อและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ซบเซา ที่เป็นผลมาจากวิกฤติ Subprime
นางโอตะยืนยันว่า แม้เงินเยนจะแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่มีผลกระทบต่อผู้ส่งออกของญี่ปุ่น เพราะผู้ส่งออกบางรายได้ปรับเปลี่ยนสัญญาล่วงหน้า และบางรายก็มีการปรับยุทธ์ศาสตร์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news23/11/07
โพสต์ที่ 229
เงินเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ กดดันผู้นำสูงสุดทั่วโลก หารือครั้งใหญ่
Posted on Friday, November 23, 2007
ผู้นำสูงสุดฝรั่งเศสกดดันตลาดอัตราแลกเปลี่ยน 4 สกุลเงินสำคัญ
นายนิโคลาร์ ซาโคซี่ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เรียกร้องให้ 4 อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลสำคัญของโลก มีอัตราที่เป็นธรรม และสมดุลระหว่างเงินเหรียญสหรัฐ เหรียญยูโร เยนญี่ปุ่น และหยวนจีน นอกจากนี้ ยังต้องการให้กลไก และความสัมพันธ์ของอัตราแลกเปลี่ยนทั้ง 4 สุกลเงินสำคัญที่กล่าวไป มีความเป็นอิศระ เคลื่อนไหวตามตลาดการเงินอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ผู้นำสูงสุดฝรั่งเศส เตรียมเดินทางไปเยือนจีนแผ่นดินใหญ่ในเดือนหน้า เพื่อหารือในประเด็นดังกล่าว ล่าสุด เงินเหรียญยูโรแข็งค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.48 เหรียญ
ประธานแบงก์ชาติกลุ่มอียูพร้อมต่อต้านอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน
นายฌอง คล๊อด ทริเช่ต์ ประธานธนาคารกลางกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออีซีบี กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเงินเหรียญยูโร เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐในขณะนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้เกิดต้นทุนการประกันความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโดยส่วนตัวของประธานอีซีบี ต้องการที่จะต่อต้านการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในลักษณะดังกล่าว โดยสรุป อัตราแลกเปลี่ยนที่เคลื่อนไหวรุนแรง และผันผ่วนมากขึ้น เป็น 2 ปัจจัยอันตรายต่อเศรษฐกิจโลก
ประธานกลุ่มอีซี ชี้ เงินยูโรแข็ง ค่ามาก ฉุดส่งออกกลุ่มอียูหนัก
นายโฮเซ่ มานูเอล บาร์โรโซ่ ประธานคณะกรรมาธิการกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออีซี กล่าวว่า ค่าเงินเหรียญยูโรที่แข็งค่าอย่างมาก เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ กลายเป็นปัญหากับภาคการส่งออกของกลุ่มอียูเกือบทั้งหมดในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเงินเหรียญยูโรแข็งค่าเป็นประวัติการณ์ แต่การส่งออกของเยอรมนีกลับแข็งแกร่งมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับชาติสมาชิกอื่นๆในกลุ่ม ทั้งนี้ ประธานอีซี ยอมรับว่า หลังหารือกับเจ้าหน้าที่จากจีนแผ่นดินใหญ่ จีน มีความใส่ใจในปัญหาความไม่สมดุลทางการค้า และค่าเงินหยวน
ซีอีโอบริษัทแอร์บัสชี้เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่า กระทบความอยู่รอดบริษัท
นายทอม อองเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ บริษัท แอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์รายใหญ่อันดับ 1 ของโลกจากฝรั่งเศส กล่าวว่า ค่าเงินเหรียญสหรัฐ ที่อ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์ตลอดเวลา กลายเป็นปัจจัยที่คุกคามต่อการอยู่รอดของธุรกิจผลิตเครื่องบินจากยุโรป ล่าสุด ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทแอร์บัส ชี้ว่า บริษัทเตรียมแผนที่จะต้องตัดลดต้นทุนครั้งสำคัญอีกครั้ง จากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนตลอดเวลา ก่อนหน้านี้ แอร์บัส ต้องปลดพนักงานออกมากถึง 1 หมื่นคนใน 1 ปีที่แล้ว
ซีอีโอบริษัทเดมเลอร์ชี้เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่า กดดันต้นทุนสูงมากขึ้น
นายดีทเทอร์ เซ็ทส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ บริษัท เดมเลอร์ส ผู้ผลิตรถยนต์ระดับหรูหนาจากเยอรมนี เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวไม่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างสมบูรณ์แบบ จากสาเหตุของราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในแง่ปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้น ซีอีโอบริษัทเดมเลอร์ ยอมรับว่า ค่าเงินเหรียญยูโรที่แข็งค่าตลอดเวลา ทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างธุรกิจ เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น เพื่อชดเชยค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
Posted on Friday, November 23, 2007
ผู้นำสูงสุดฝรั่งเศสกดดันตลาดอัตราแลกเปลี่ยน 4 สกุลเงินสำคัญ
นายนิโคลาร์ ซาโคซี่ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เรียกร้องให้ 4 อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลสำคัญของโลก มีอัตราที่เป็นธรรม และสมดุลระหว่างเงินเหรียญสหรัฐ เหรียญยูโร เยนญี่ปุ่น และหยวนจีน นอกจากนี้ ยังต้องการให้กลไก และความสัมพันธ์ของอัตราแลกเปลี่ยนทั้ง 4 สุกลเงินสำคัญที่กล่าวไป มีความเป็นอิศระ เคลื่อนไหวตามตลาดการเงินอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ผู้นำสูงสุดฝรั่งเศส เตรียมเดินทางไปเยือนจีนแผ่นดินใหญ่ในเดือนหน้า เพื่อหารือในประเด็นดังกล่าว ล่าสุด เงินเหรียญยูโรแข็งค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.48 เหรียญ
ประธานแบงก์ชาติกลุ่มอียูพร้อมต่อต้านอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน
นายฌอง คล๊อด ทริเช่ต์ ประธานธนาคารกลางกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออีซีบี กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเงินเหรียญยูโร เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐในขณะนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้เกิดต้นทุนการประกันความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโดยส่วนตัวของประธานอีซีบี ต้องการที่จะต่อต้านการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในลักษณะดังกล่าว โดยสรุป อัตราแลกเปลี่ยนที่เคลื่อนไหวรุนแรง และผันผ่วนมากขึ้น เป็น 2 ปัจจัยอันตรายต่อเศรษฐกิจโลก
ประธานกลุ่มอีซี ชี้ เงินยูโรแข็ง ค่ามาก ฉุดส่งออกกลุ่มอียูหนัก
นายโฮเซ่ มานูเอล บาร์โรโซ่ ประธานคณะกรรมาธิการกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออีซี กล่าวว่า ค่าเงินเหรียญยูโรที่แข็งค่าอย่างมาก เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ กลายเป็นปัญหากับภาคการส่งออกของกลุ่มอียูเกือบทั้งหมดในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเงินเหรียญยูโรแข็งค่าเป็นประวัติการณ์ แต่การส่งออกของเยอรมนีกลับแข็งแกร่งมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับชาติสมาชิกอื่นๆในกลุ่ม ทั้งนี้ ประธานอีซี ยอมรับว่า หลังหารือกับเจ้าหน้าที่จากจีนแผ่นดินใหญ่ จีน มีความใส่ใจในปัญหาความไม่สมดุลทางการค้า และค่าเงินหยวน
ซีอีโอบริษัทแอร์บัสชี้เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่า กระทบความอยู่รอดบริษัท
นายทอม อองเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ บริษัท แอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์รายใหญ่อันดับ 1 ของโลกจากฝรั่งเศส กล่าวว่า ค่าเงินเหรียญสหรัฐ ที่อ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์ตลอดเวลา กลายเป็นปัจจัยที่คุกคามต่อการอยู่รอดของธุรกิจผลิตเครื่องบินจากยุโรป ล่าสุด ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทแอร์บัส ชี้ว่า บริษัทเตรียมแผนที่จะต้องตัดลดต้นทุนครั้งสำคัญอีกครั้ง จากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนตลอดเวลา ก่อนหน้านี้ แอร์บัส ต้องปลดพนักงานออกมากถึง 1 หมื่นคนใน 1 ปีที่แล้ว
ซีอีโอบริษัทเดมเลอร์ชี้เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่า กดดันต้นทุนสูงมากขึ้น
นายดีทเทอร์ เซ็ทส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ บริษัท เดมเลอร์ส ผู้ผลิตรถยนต์ระดับหรูหนาจากเยอรมนี เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวไม่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างสมบูรณ์แบบ จากสาเหตุของราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในแง่ปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้น ซีอีโอบริษัทเดมเลอร์ ยอมรับว่า ค่าเงินเหรียญยูโรที่แข็งค่าตลอดเวลา ทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างธุรกิจ เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น เพื่อชดเชยค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news23/11/07
โพสต์ที่ 230
บีไอเอสชี้ตลาดอนุพันธ์ทั่วโลก ขยายตัวสูงในรอบ 9 ปี
ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือบีไอเอส เปิดเผยว่า ตลาดตราสารอนุพันธ์ทั่วโลก ขยายตัวเพิ่มสูงมากขึ้นถึง 516 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ นับเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วที่สุดในรอบอย่างน้อย 9 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เครื่องมือการเงินทั้ง 2 ประเภท ได้แก่ การแลกเปลี่ยนตราสารหนี้สูญ สัญญาที่ออกแบบเพื่อป้องกันการเกิดหนี้สูญ กลายเป็นตัวเร่งธุรกรรมตราสารอนุพันธ์ทั่วโลกมากที่สุดถึง 49% ขณะที่ ตราสารอนุพันธ์ด้าน อัตราแลกเปลี่ยน สินค้าโภคภัณฑ์ ตราสารหนี้ ตราสารทุน และดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 25%
ADB เตือนตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนอาจถ่วงตลาดพันธบัตรเอเชียชะลอตัว
ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากวิกฤตการณ์สินเชื่อที่เกิดขึ้นทั่วโลก เนื่องจากเศรษฐกิจเอเชียขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งมีระบบการเงินที่ได้รับการปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับผลกระทบเพียงวงจำกัด อย่างไรก็ตาม เอดีบีเตือนว่า ภาวะผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกที่เกิดขึ้นอย่างยาวนานอาจฉุดภาวะการซื้อขายในตลาดพันธบัตรของเอเชียให้ซบเซาลง นอกจากนี้ เอดีบีกล่าวว่า การปฏิรูปนโยบายและการเปิดเสรีตลาดพันธบัตรในเอเชียตะวันออก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดพันธบัตรเอเชียได้รับการยกอันดับความน่าเชื่อ
"โดนัลด์ ซัง"อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมโครงการนลท.จีนลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง
นายโดนัลด์ ซัง ประธานบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ต้องการหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการอนุญาตนักลงทุนจีนเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ระหว่างการประชุมที่กรุงปักกิ่งกับ รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน จีนเน้นย้ำถึงความต้องการของนายกรัฐมนตรี เหวิน เจียเป่า ที่ต้องการให้โครงการนี้เริ่มต้นในเวลาที่เหมาะสม ขณะที่ ฮ่องกงยินดีปฏิบัติตามนโยบายระดับชาติของจีนอย่างเต็มที่ในการลงทุนข้ามพรมแดนนี้ จีนประกาศเมื่อสิงหาคมว่า รัฐบาลจีนเตรียมอนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยชาวจีนเข้าซื้อหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงได้โดยตรง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเริ่มต้นแต่อย่างใด.
แดวู ซิเคียวริตีส์ คาดอุตสาหกรรมเมมโมรี่ ชิปของเกาหลีใต้ฟื้นตัวปีหน้า
แดวู ซีเคียวริตีส์ ประกาศเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมเมมโมรี่ ชิปเกาหลีใต้เป็น "overweight" จากเดิม "neutral" เพราะคาดว่าภาวะในตลาดสินค้าประเภทนี้จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า ธุรกิจเมมโมรี่ ชิป มีแนวโน้มว่าจะเห็นผลกำไรในช่วงไตรมาสสอง หลังจากต้องเผชิญสภาวะฮาร์ดแลนดิ้งในช่วงแรก ผลกำไรในอุตสาหกรรมเมมโมรี ชิปจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากกลุ่มผู้ผลิตหลายรายลดผลผลิตลง ซึ่งช่วยลดภาวะ oversupply ในตลาด หุ้นผู้ผลิตชิปอย่างซัมซุง อิเล็กทรอนิคส์ และผู้ผลิตอุปกรณ์จูซุง เอ็นจิเนียริ่ง เป็นตัวเลือกต้นๆ เนื่องจากจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากช่วงขาขึ้นของอุตสาหกรรมนี้
มูดีส์เผยรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงหนุนอันดับความน่าลงทุนของยูเออี
มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสเปิดเผยว่า อันดับความน่าลงทุนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ยังคงได้รับแรงหนุนจากรากฐานเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคงของประเทศ อย่างไรก็ตาม สภาพการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านที่ขาดเสถียรภาพอาจส่งผลกระทบต่อยูเออีได้ แต่ความเสี่ยงดังกล่าวก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยูเออีเป็นประเทศหนึ่งที่มีจีดีพีต่อหัวมากที่สุดในภูมิภาค เนื่องจากมีการส่งออกสารไฮโดรคาร์บอนเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นแล้ว เศรษฐกิจนอกภาคไฮโดรคาร์บอนยังขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลที่พยายามส่งเสริมภาคเอกชนและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือบีไอเอส เปิดเผยว่า ตลาดตราสารอนุพันธ์ทั่วโลก ขยายตัวเพิ่มสูงมากขึ้นถึง 516 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ นับเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วที่สุดในรอบอย่างน้อย 9 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เครื่องมือการเงินทั้ง 2 ประเภท ได้แก่ การแลกเปลี่ยนตราสารหนี้สูญ สัญญาที่ออกแบบเพื่อป้องกันการเกิดหนี้สูญ กลายเป็นตัวเร่งธุรกรรมตราสารอนุพันธ์ทั่วโลกมากที่สุดถึง 49% ขณะที่ ตราสารอนุพันธ์ด้าน อัตราแลกเปลี่ยน สินค้าโภคภัณฑ์ ตราสารหนี้ ตราสารทุน และดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 25%
ADB เตือนตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนอาจถ่วงตลาดพันธบัตรเอเชียชะลอตัว
ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากวิกฤตการณ์สินเชื่อที่เกิดขึ้นทั่วโลก เนื่องจากเศรษฐกิจเอเชียขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งมีระบบการเงินที่ได้รับการปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับผลกระทบเพียงวงจำกัด อย่างไรก็ตาม เอดีบีเตือนว่า ภาวะผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกที่เกิดขึ้นอย่างยาวนานอาจฉุดภาวะการซื้อขายในตลาดพันธบัตรของเอเชียให้ซบเซาลง นอกจากนี้ เอดีบีกล่าวว่า การปฏิรูปนโยบายและการเปิดเสรีตลาดพันธบัตรในเอเชียตะวันออก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดพันธบัตรเอเชียได้รับการยกอันดับความน่าเชื่อ
"โดนัลด์ ซัง"อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมโครงการนลท.จีนลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง
นายโดนัลด์ ซัง ประธานบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ต้องการหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการอนุญาตนักลงทุนจีนเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ระหว่างการประชุมที่กรุงปักกิ่งกับ รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน จีนเน้นย้ำถึงความต้องการของนายกรัฐมนตรี เหวิน เจียเป่า ที่ต้องการให้โครงการนี้เริ่มต้นในเวลาที่เหมาะสม ขณะที่ ฮ่องกงยินดีปฏิบัติตามนโยบายระดับชาติของจีนอย่างเต็มที่ในการลงทุนข้ามพรมแดนนี้ จีนประกาศเมื่อสิงหาคมว่า รัฐบาลจีนเตรียมอนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยชาวจีนเข้าซื้อหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงได้โดยตรง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเริ่มต้นแต่อย่างใด.
แดวู ซิเคียวริตีส์ คาดอุตสาหกรรมเมมโมรี่ ชิปของเกาหลีใต้ฟื้นตัวปีหน้า
แดวู ซีเคียวริตีส์ ประกาศเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมเมมโมรี่ ชิปเกาหลีใต้เป็น "overweight" จากเดิม "neutral" เพราะคาดว่าภาวะในตลาดสินค้าประเภทนี้จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า ธุรกิจเมมโมรี่ ชิป มีแนวโน้มว่าจะเห็นผลกำไรในช่วงไตรมาสสอง หลังจากต้องเผชิญสภาวะฮาร์ดแลนดิ้งในช่วงแรก ผลกำไรในอุตสาหกรรมเมมโมรี ชิปจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากกลุ่มผู้ผลิตหลายรายลดผลผลิตลง ซึ่งช่วยลดภาวะ oversupply ในตลาด หุ้นผู้ผลิตชิปอย่างซัมซุง อิเล็กทรอนิคส์ และผู้ผลิตอุปกรณ์จูซุง เอ็นจิเนียริ่ง เป็นตัวเลือกต้นๆ เนื่องจากจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากช่วงขาขึ้นของอุตสาหกรรมนี้
มูดีส์เผยรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงหนุนอันดับความน่าลงทุนของยูเออี
มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสเปิดเผยว่า อันดับความน่าลงทุนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ยังคงได้รับแรงหนุนจากรากฐานเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคงของประเทศ อย่างไรก็ตาม สภาพการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านที่ขาดเสถียรภาพอาจส่งผลกระทบต่อยูเออีได้ แต่ความเสี่ยงดังกล่าวก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยูเออีเป็นประเทศหนึ่งที่มีจีดีพีต่อหัวมากที่สุดในภูมิภาค เนื่องจากมีการส่งออกสารไฮโดรคาร์บอนเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นแล้ว เศรษฐกิจนอกภาคไฮโดรคาร์บอนยังขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลที่พยายามส่งเสริมภาคเอกชนและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news27/11/07
โพสต์ที่ 231
อียูจี้จีนเร่งเปิดตลาดก่อนจัดประชุมการค้าที่กรุงปักกิ่งสัปดาห์หน้า
นายปีเตอร์ แมนเดลสัน คณะกรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรป (อียู) เรียกร้องให้จีนดำเนินการเปิดตลาดก่อนที่จะมีการจัดประชุมการค้าที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า นายแมนเดลสัน ซึ่งขึ้นกล่าวต่อสภาการค้าแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศจีน ที่นครเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า เขาจะนำประเด็นที่ทางอียูรู้สึกไม่พอใจในการเข้าถึงตลาดจีนขึ้นแถลงต่อบรรดาผู้นำที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ นอกจากนี้ นายแมนเดลสัน ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาด้านยอดขาดดุลการค้า และสิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญา(IPR) เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขด้วยเช่นกัน
โทเทลชี้แหล่งก๊าซในอิหร่านมีความสำคัญ แม้รัฐบาลฝรั่งเศสกดดันให้เลิกลงทุน
โทเทล เอสเอ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส ยืนยันว่าจะต่อสู้เพื่อลงทุนในแหล่งก๊าซขนาดใหญ่ในอิหร่านต่อไป ท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลฝรั่งเศสที่ต้องการให้ยกเลิกสัญญาการขุดก๊าซในอิหร่าน คริสโตฟ เดอ มาร์เกอรี ซีอีโอบริษัท โทเทล กล่าวว่า อิหร่านอาจเป็นแหล่งทรัพยากรใหม่ๆที่มีคุณค่า ขณะที่ยุโรปเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับภาวะขาดแคลนก๊าซ และการพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ข้อพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนเกี่ยวกับราคาก๊าซ ทำให้บางประเทศในยุโรปไม่ได้รับก๊าซเมื่อเดือนมกราคม 2549
รัฐบาลฟิลิปปินส์ทบทวนเป้าเศรษฐกิจปีหน้าอีกครั้ง หลังเปโซแข็ง-ส่งออกลด
รัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลจะทบทวนเป้าหมายเศรษฐกิจระดับมหภาคสำหรับปี 2552-2555 อีกครั้ง เนื่องจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินเปโซ รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และยอดส่งออกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปัจจุบัน DBCC คาดการณ์ว่า อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ต่อเปโซจะอยู่ในช่วงระหว่าง 46-48 เปโซในปีนี้ และอยู่ในช่วง 45-47 เปโซในปีหน้า นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นก็จะเป็นประเด็นที่นำมาพิจารณาในครั้งนี้ด้วย ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 2.6-3.1% ในปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่รัฐบาลได้ตั้งไว้ที่ระดับ 4-5%
จีนลงนามข้อตกลงซื้อเครื่องบินแอร์บัส 160 ลำ กว่า 1.7 หมื่นล้านดอลล์
จีนและฝรั่งเศสได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อเครื่องบินของบริษัท แอร์บัส จำนวน 160 ลำ มูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ในระหว่างการเดินทางเยือนจีนของประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีย์ ของฝรั่งเศส โดยการจัดซื้อเครื่องบินครั้งนี้ ประกอบด้วย การสั่งซื้อเครื่องบินลำตัวสั้นในตระกูล A320 จำนวน 110 ลำ และเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างรุ่น A330 จำนวน 50 ลำ ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีการีเจรจาต่อเรื่องจนนาทีสุดท้ายก่อนที่จะถึงพิธีลงนามที่จัดขึ้นที่เรือนรับรองในกรุงปักกิ่ง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
นายปีเตอร์ แมนเดลสัน คณะกรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรป (อียู) เรียกร้องให้จีนดำเนินการเปิดตลาดก่อนที่จะมีการจัดประชุมการค้าที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า นายแมนเดลสัน ซึ่งขึ้นกล่าวต่อสภาการค้าแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศจีน ที่นครเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า เขาจะนำประเด็นที่ทางอียูรู้สึกไม่พอใจในการเข้าถึงตลาดจีนขึ้นแถลงต่อบรรดาผู้นำที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ นอกจากนี้ นายแมนเดลสัน ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาด้านยอดขาดดุลการค้า และสิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญา(IPR) เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขด้วยเช่นกัน
โทเทลชี้แหล่งก๊าซในอิหร่านมีความสำคัญ แม้รัฐบาลฝรั่งเศสกดดันให้เลิกลงทุน
โทเทล เอสเอ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส ยืนยันว่าจะต่อสู้เพื่อลงทุนในแหล่งก๊าซขนาดใหญ่ในอิหร่านต่อไป ท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลฝรั่งเศสที่ต้องการให้ยกเลิกสัญญาการขุดก๊าซในอิหร่าน คริสโตฟ เดอ มาร์เกอรี ซีอีโอบริษัท โทเทล กล่าวว่า อิหร่านอาจเป็นแหล่งทรัพยากรใหม่ๆที่มีคุณค่า ขณะที่ยุโรปเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับภาวะขาดแคลนก๊าซ และการพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ข้อพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนเกี่ยวกับราคาก๊าซ ทำให้บางประเทศในยุโรปไม่ได้รับก๊าซเมื่อเดือนมกราคม 2549
รัฐบาลฟิลิปปินส์ทบทวนเป้าเศรษฐกิจปีหน้าอีกครั้ง หลังเปโซแข็ง-ส่งออกลด
รัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลจะทบทวนเป้าหมายเศรษฐกิจระดับมหภาคสำหรับปี 2552-2555 อีกครั้ง เนื่องจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินเปโซ รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และยอดส่งออกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปัจจุบัน DBCC คาดการณ์ว่า อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ต่อเปโซจะอยู่ในช่วงระหว่าง 46-48 เปโซในปีนี้ และอยู่ในช่วง 45-47 เปโซในปีหน้า นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นก็จะเป็นประเด็นที่นำมาพิจารณาในครั้งนี้ด้วย ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 2.6-3.1% ในปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่รัฐบาลได้ตั้งไว้ที่ระดับ 4-5%
จีนลงนามข้อตกลงซื้อเครื่องบินแอร์บัส 160 ลำ กว่า 1.7 หมื่นล้านดอลล์
จีนและฝรั่งเศสได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อเครื่องบินของบริษัท แอร์บัส จำนวน 160 ลำ มูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ในระหว่างการเดินทางเยือนจีนของประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีย์ ของฝรั่งเศส โดยการจัดซื้อเครื่องบินครั้งนี้ ประกอบด้วย การสั่งซื้อเครื่องบินลำตัวสั้นในตระกูล A320 จำนวน 110 ลำ และเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างรุ่น A330 จำนวน 50 ลำ ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีการีเจรจาต่อเรื่องจนนาทีสุดท้ายก่อนที่จะถึงพิธีลงนามที่จัดขึ้นที่เรือนรับรองในกรุงปักกิ่ง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news28/11/07
โพสต์ที่ 232
"เฟด" คาดปัจจัยแรงงาน-เงินเฟ้อ หนุน ศก.สหรัฐโต 2.5% ปีหน้า
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2550 11:56 น.
ผู้บริหาร "เฟด" คาดแนวโน้ม GDP สหรัฐขยายตัว 2.5% ได้ในปีหน้า จากปัจจัยหนุนแรงงาน และภาวะเงินเฟ้อที่เหมาะสม
วันนี้(28 พ.ย.) นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก้ คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปีหน้ามีแนวโน้มขยายตัวอยู่ที่ 2.5%
แวนส์กล่าวในมหกรรมงานตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าและอ๊อพชั่นประจำปีครั้งที่ 23 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมอุตสาหกรรมตลาดล่วงหน้าว่า ปัจจัยบ่งชี้เศรษฐกิจสำคัญ อาทิ ตัวเลขจ้างงานและภาวะเงินเฟ้อมีการขยายตัวที่เอื้อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าวิกฤตซับไพรม์จะยังไม่คลี่คลายลงก็ตาม
นายชาลล์ กล่าวอีกว่า ภาวะเงินเฟ้อจะปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 2% จากอัตราเฉลี่ยในช่วงหลายไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 2.5% นอกจากนี้คาดว่า ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นรากฐานที่ดีต่อภาคการใช้จ่ายของสหรัฐในอนาคต
นอกจากนี้ นายอีแวนส์ ยังได้อ้างถึงการประเมินเศรษฐกิจของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด ที่มีขึ้นในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาว่า หากมองในด้านดีนั้น ปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นจะช่วยลดผลกระทบที่ฉุดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้
ทั้งนี้ ผู้ว่าการเฟดสาขาชิคาโก้ระบุว่า เฟดยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและสร้างเสถียรภาพด้านราคา ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการลงทุนในตลาดการเงินให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม
http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000141120
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2550 11:56 น.
ผู้บริหาร "เฟด" คาดแนวโน้ม GDP สหรัฐขยายตัว 2.5% ได้ในปีหน้า จากปัจจัยหนุนแรงงาน และภาวะเงินเฟ้อที่เหมาะสม
วันนี้(28 พ.ย.) นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก้ คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปีหน้ามีแนวโน้มขยายตัวอยู่ที่ 2.5%
แวนส์กล่าวในมหกรรมงานตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าและอ๊อพชั่นประจำปีครั้งที่ 23 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมอุตสาหกรรมตลาดล่วงหน้าว่า ปัจจัยบ่งชี้เศรษฐกิจสำคัญ อาทิ ตัวเลขจ้างงานและภาวะเงินเฟ้อมีการขยายตัวที่เอื้อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าวิกฤตซับไพรม์จะยังไม่คลี่คลายลงก็ตาม
นายชาลล์ กล่าวอีกว่า ภาวะเงินเฟ้อจะปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 2% จากอัตราเฉลี่ยในช่วงหลายไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 2.5% นอกจากนี้คาดว่า ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นรากฐานที่ดีต่อภาคการใช้จ่ายของสหรัฐในอนาคต
นอกจากนี้ นายอีแวนส์ ยังได้อ้างถึงการประเมินเศรษฐกิจของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด ที่มีขึ้นในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาว่า หากมองในด้านดีนั้น ปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นจะช่วยลดผลกระทบที่ฉุดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้
ทั้งนี้ ผู้ว่าการเฟดสาขาชิคาโก้ระบุว่า เฟดยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและสร้างเสถียรภาพด้านราคา ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการลงทุนในตลาดการเงินให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม
http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000141120
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news28/11/07
โพสต์ที่ 233
FED ชิคาโก้ ยาหอมเศรษฐกิจสหรัฐยังแกร่ง สวนตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด คืนนี้ มีสตีอกน้ำมัน+ยอดขายบ้านมือสอง
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Wednesday, November 28, 2007
นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาชิคาโก้ ได้กล่าวในมหกรรมงานตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้า และอ๊อปชั่นประจำปีครั้งที่ 23 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมอุตสาหกรรมตลาดล่วงหน้า โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้า น่าจะสามารถขยายตัวได้ในระดับ 2.5% เนื่องจากตัวดัชนีชี้นำทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ อย่างตัวเลขการจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อมีการขยายตัวขึ้น จนเอื้อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าวิกฤตซับไพรม์จะยังไม่คลี่คลายลงก็ตาม เพราะปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น จะช่วยลดผลกระทบต่อการทรุดตัวทางเศรษฐกิจ
นายชาลล์ กล่าวอีกว่า ภาวะเงินเฟ้อจะปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 2.0% จากอัตราเฉลี่ยในช่วงหลายไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 2.5% นอกจากนี้คาดว่า ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นรากฐานที่ดีต่อภาคการใช้จ่ายของสหรัฐในอนาคต
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าการ FED สาขาชิคาโก้ ระบุด้วยว่า FED ยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และสร้างเสถียรภาพด้านราคา ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการลงทุนในตลาดการเงินให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสมด้วย
สำหรับในค่ำคืนที่ผ่านมา Conference Board ของสหรัฐ ได้ออกมาเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั้นผู้บริโภค (CCI) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีแล้ว ขณะที่ดัชนี S&P / Case-Shiller ที่เป็นดัชนีวัดราคาบ้านมือสองของสหรัฐก็ลดลงต่ำสุดในรอบ 21 ปีด้วยเช่นเดียวกัน
และผลจากข่าวดังกล่าว ก็มีผลให้วันนี้ มีเงินทุนไหลเข้ามาหาผลตอบแทนในตลาดการเงินภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย อย่างคึกคัก สังเหกตได้จากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดหุ้นหลายแห่ง แต่กระนั้น การแกว่งตัวของดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาค กลับแกว่งตัวกระจัดกระจาย
สำหรับในคืนวันนี้ ต่อเนื่องจนถึงคืนวันศุกร์สิ้นเดือนพฤศจิกายนนั้น จะมีการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจอีก 3 ตัว ได้แก่
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนตุลาคม
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดขายบ้านมือสอง ประจำเดือนตุลาคม
- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
สำหรับในคืนวันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤศจิกายนนี้ จะมีการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐอีก 3 ตัว ได้แก่
- กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3
- กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนตุลาคม
- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ส่วนในคืนวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายนนี้ จะมีการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐอีก 3 ตัว ได้แก่
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคล ประจำเดือนตุลาคม
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง ประจำเดือนตุลาคม
- สมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตนิวยอร์ค และเขตชิคาโก ประจำเดือนพฤศจิกายน
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Wednesday, November 28, 2007
นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาชิคาโก้ ได้กล่าวในมหกรรมงานตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้า และอ๊อปชั่นประจำปีครั้งที่ 23 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมอุตสาหกรรมตลาดล่วงหน้า โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้า น่าจะสามารถขยายตัวได้ในระดับ 2.5% เนื่องจากตัวดัชนีชี้นำทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ อย่างตัวเลขการจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อมีการขยายตัวขึ้น จนเอื้อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าวิกฤตซับไพรม์จะยังไม่คลี่คลายลงก็ตาม เพราะปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น จะช่วยลดผลกระทบต่อการทรุดตัวทางเศรษฐกิจ
นายชาลล์ กล่าวอีกว่า ภาวะเงินเฟ้อจะปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 2.0% จากอัตราเฉลี่ยในช่วงหลายไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 2.5% นอกจากนี้คาดว่า ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นรากฐานที่ดีต่อภาคการใช้จ่ายของสหรัฐในอนาคต
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าการ FED สาขาชิคาโก้ ระบุด้วยว่า FED ยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และสร้างเสถียรภาพด้านราคา ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการลงทุนในตลาดการเงินให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสมด้วย
สำหรับในค่ำคืนที่ผ่านมา Conference Board ของสหรัฐ ได้ออกมาเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั้นผู้บริโภค (CCI) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีแล้ว ขณะที่ดัชนี S&P / Case-Shiller ที่เป็นดัชนีวัดราคาบ้านมือสองของสหรัฐก็ลดลงต่ำสุดในรอบ 21 ปีด้วยเช่นเดียวกัน
และผลจากข่าวดังกล่าว ก็มีผลให้วันนี้ มีเงินทุนไหลเข้ามาหาผลตอบแทนในตลาดการเงินภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย อย่างคึกคัก สังเหกตได้จากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดหุ้นหลายแห่ง แต่กระนั้น การแกว่งตัวของดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาค กลับแกว่งตัวกระจัดกระจาย
สำหรับในคืนวันนี้ ต่อเนื่องจนถึงคืนวันศุกร์สิ้นเดือนพฤศจิกายนนั้น จะมีการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจอีก 3 ตัว ได้แก่
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนตุลาคม
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดขายบ้านมือสอง ประจำเดือนตุลาคม
- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
สำหรับในคืนวันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤศจิกายนนี้ จะมีการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐอีก 3 ตัว ได้แก่
- กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3
- กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนตุลาคม
- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ส่วนในคืนวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายนนี้ จะมีการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐอีก 3 ตัว ได้แก่
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคล ประจำเดือนตุลาคม
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง ประจำเดือนตุลาคม
- สมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตนิวยอร์ค และเขตชิคาโก ประจำเดือนพฤศจิกายน
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news28/11/07
โพสต์ที่ 234
ฮ่องกงเอาจริง !! เดินหน้าจัดตั้งกองทุนอิสลาม หวังดึงเงินทุนจากตะวันออกกลาง
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Wednesday, November 28, 2007
หลังจากที่ราคาน้ำมันยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนั้น ทำให้ตลาดการเงิน คาดหมายกันว่า ในระบบการเงินอิสลามปัจจุบันนี้ มีเม็ดเงินอยู่มากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งเติบโตในอัตรา 15% ต่อปี นอกจากนั้นในระยะที่ผ่านมา กระแสการไหลของเงินทุนจากตะวันออกกลางเริ่มมีความเปลี่ยนแปลง จากแต่เดิมที่กระแสหลักจะไหลเข้าสู่ตลาดยุโรปและสหรัฐ มาเข้าตลาดจีนและตลาดที่กำลังเติบโตขึ้นใหม่ในเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะฮ่องกงซึ่งนับเป็นเวทีการเข้าสู่ตลาดในแถบนี้ ย่อมได้รับผลประโยชน์มากเป็นพิเศษ
ขณะนี้ ธนาคารใหญ่ ๆ ในฮ่องกงเช่น ธนาคารเอชเอสบีซี ธนาคารฮั่งเส็ง ได้ออกมาประกาศตั้งกองทุนอิสลามขึ้นแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขานรับคำกล่าวของนายเจิง อิน เฉวียน (โดนัลด์ เจิง) ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ที่ได้ประกาศเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ว่า จะมีการพัฒนาบริการด้านการเงินอิสลามในฮ่องกง
โดยนายหลิน เซิน เฉิง ประธานซิตี้ กรุ๊ปประจำภูมิภาคฮ่องกง ชี้แจงว่า การที่รัฐบาลฮ่องกงพยายามดึงดูดเงินทุนจากตะวันออกกลาง ทำให้การออกผลิตภัณฑ์การเงินอิสลาม สามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับตลาดฮ่องกงได้อย่างมหาศาล และคาดว่านอกจากธนาคารเอชเอสบีซี กับธนาคารฮั่งเส็งแล้ว ธนาคารอื่น ๆ ก็กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาแผนออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินในแนวนี้ตามออกมาอีก ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้ตลาดการเงินฮ่องกงตามมา
ในส่วนของซิตี้ กรุ๊ปนั้น มีผลิตภัณฑ์การเงินอิสลามออกมานานแล้ว ในตลาดสิงคโปร์ มาเลเซีย และดูไบ แต่คงต้องรอเวลาสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินในแนวทางนี้ก่อนสักระยะ เพื่อให้การรับรู้ และเกิดากรยอมรับจากตลาด เพราะการเงินอิสลาม จะต้องทำตามกฎของอิสลาม คือต้องไม่มีการข้องเกี่ยวกับสุรา การพนัน หรือการเก็บและจ่ายดอกเบี้ย ซึ่งในปัจจุบันทั่วโลกมีสถาบันการเงินราว 300 แห่ง ที่มีการบริหารจัดการเงินทุนในด้านนี้ และมีมูลค่ารวมราว 700,000 ? 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Wednesday, November 28, 2007
หลังจากที่ราคาน้ำมันยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนั้น ทำให้ตลาดการเงิน คาดหมายกันว่า ในระบบการเงินอิสลามปัจจุบันนี้ มีเม็ดเงินอยู่มากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งเติบโตในอัตรา 15% ต่อปี นอกจากนั้นในระยะที่ผ่านมา กระแสการไหลของเงินทุนจากตะวันออกกลางเริ่มมีความเปลี่ยนแปลง จากแต่เดิมที่กระแสหลักจะไหลเข้าสู่ตลาดยุโรปและสหรัฐ มาเข้าตลาดจีนและตลาดที่กำลังเติบโตขึ้นใหม่ในเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะฮ่องกงซึ่งนับเป็นเวทีการเข้าสู่ตลาดในแถบนี้ ย่อมได้รับผลประโยชน์มากเป็นพิเศษ
ขณะนี้ ธนาคารใหญ่ ๆ ในฮ่องกงเช่น ธนาคารเอชเอสบีซี ธนาคารฮั่งเส็ง ได้ออกมาประกาศตั้งกองทุนอิสลามขึ้นแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขานรับคำกล่าวของนายเจิง อิน เฉวียน (โดนัลด์ เจิง) ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ที่ได้ประกาศเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ว่า จะมีการพัฒนาบริการด้านการเงินอิสลามในฮ่องกง
โดยนายหลิน เซิน เฉิง ประธานซิตี้ กรุ๊ปประจำภูมิภาคฮ่องกง ชี้แจงว่า การที่รัฐบาลฮ่องกงพยายามดึงดูดเงินทุนจากตะวันออกกลาง ทำให้การออกผลิตภัณฑ์การเงินอิสลาม สามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับตลาดฮ่องกงได้อย่างมหาศาล และคาดว่านอกจากธนาคารเอชเอสบีซี กับธนาคารฮั่งเส็งแล้ว ธนาคารอื่น ๆ ก็กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาแผนออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินในแนวนี้ตามออกมาอีก ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้ตลาดการเงินฮ่องกงตามมา
ในส่วนของซิตี้ กรุ๊ปนั้น มีผลิตภัณฑ์การเงินอิสลามออกมานานแล้ว ในตลาดสิงคโปร์ มาเลเซีย และดูไบ แต่คงต้องรอเวลาสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินในแนวทางนี้ก่อนสักระยะ เพื่อให้การรับรู้ และเกิดากรยอมรับจากตลาด เพราะการเงินอิสลาม จะต้องทำตามกฎของอิสลาม คือต้องไม่มีการข้องเกี่ยวกับสุรา การพนัน หรือการเก็บและจ่ายดอกเบี้ย ซึ่งในปัจจุบันทั่วโลกมีสถาบันการเงินราว 300 แห่ง ที่มีการบริหารจัดการเงินทุนในด้านนี้ และมีมูลค่ารวมราว 700,000 ? 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news28/11/07
โพสต์ที่ 235
อินเดียครองแชมป์ขายมือถือสูงสุด ข่าว 16.00 น.
Posted on Wednesday, November 28, 2007
ผลการสำรวจโดยบริษัทวิจัยตลาด การ์ทเนอร์ พบว่า อินเดียครองแชมป์ประเทศที่มียอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่สูงที่สุดในโลกในช่วงไตรมาส 3/50 ทั้งในระบบ CDMA และระบบ GSM จำนวน 24.5 ล้านเครื่อง จากยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด 101.8 ล้านเครื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่งผลให้ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเอเชีย ขยายตัวขึ้น 26 %
สำหรับยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอินเดียที่เพิ่มขึ้น เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากยอดขายโทรศัพท์ที่ใช้เทคโนโลยี CDMA และการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้ประกอบการต่าง ๆ ของเครือข่าย GSM เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ ทำให้ผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเข้าไปให้บริการในพื้นที่ชนบทได้
ทั้งนี้การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในอินเดียในปัจจุบันส่วนใหญ่จะถูกจำกัดอยู่ในเมืองต่างๆ แต่การแข่งขันที่แท้จริงของผู้ให้บริการจะอยู่ในเขตชนบท ซึ่งมีประชากรคิดเป็นสัดส่วน 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมด 1.1 พันล้านคน โดยรัฐบาลอินเดียตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ได้มากกว่า 500 ล้านคนภายในปี 2553
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
รัฐบาลสิงคโปร์เตรียมจ่ายโบนัสครั้งแรก ข่าว 15.00 น.
Posted on Wednesday, November 28, 2007
กรมบริการสาธารณะของสิงคโปร์ รายงานว่า ในปีนี้ข้าราชการของสิงคโปร์จำนวน 60,000 คน จะได้รับเงินโบนัสเท่ากับเงินเดือน 2.5 เดือน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ข้าราชการจะได้รับเงินโบนัส เนื่องจากปีนี้เศรษฐกิจของสิงคโปร์ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและที่ระดับ 7.5 - 8% ส่วนค่าจ้างก็กำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับค่าเช่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ อาหารและค่าขนส่งต่างๆ ทำให้นักลงทุนวิตกว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์อาจขยายตัวร้อนแรงเกินไป และอัตราเงินเฟ้อก็คาดว่าจะแตะระดับสูงสุดที่ 5% ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า อาจกลายเป็นปัญหาร้ายแรงต่อเศรษฐกิจได้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
Posted on Wednesday, November 28, 2007
ผลการสำรวจโดยบริษัทวิจัยตลาด การ์ทเนอร์ พบว่า อินเดียครองแชมป์ประเทศที่มียอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่สูงที่สุดในโลกในช่วงไตรมาส 3/50 ทั้งในระบบ CDMA และระบบ GSM จำนวน 24.5 ล้านเครื่อง จากยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด 101.8 ล้านเครื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่งผลให้ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเอเชีย ขยายตัวขึ้น 26 %
สำหรับยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอินเดียที่เพิ่มขึ้น เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากยอดขายโทรศัพท์ที่ใช้เทคโนโลยี CDMA และการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้ประกอบการต่าง ๆ ของเครือข่าย GSM เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ ทำให้ผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเข้าไปให้บริการในพื้นที่ชนบทได้
ทั้งนี้การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในอินเดียในปัจจุบันส่วนใหญ่จะถูกจำกัดอยู่ในเมืองต่างๆ แต่การแข่งขันที่แท้จริงของผู้ให้บริการจะอยู่ในเขตชนบท ซึ่งมีประชากรคิดเป็นสัดส่วน 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมด 1.1 พันล้านคน โดยรัฐบาลอินเดียตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ได้มากกว่า 500 ล้านคนภายในปี 2553
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
รัฐบาลสิงคโปร์เตรียมจ่ายโบนัสครั้งแรก ข่าว 15.00 น.
Posted on Wednesday, November 28, 2007
กรมบริการสาธารณะของสิงคโปร์ รายงานว่า ในปีนี้ข้าราชการของสิงคโปร์จำนวน 60,000 คน จะได้รับเงินโบนัสเท่ากับเงินเดือน 2.5 เดือน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ข้าราชการจะได้รับเงินโบนัส เนื่องจากปีนี้เศรษฐกิจของสิงคโปร์ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและที่ระดับ 7.5 - 8% ส่วนค่าจ้างก็กำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับค่าเช่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ อาหารและค่าขนส่งต่างๆ ทำให้นักลงทุนวิตกว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์อาจขยายตัวร้อนแรงเกินไป และอัตราเงินเฟ้อก็คาดว่าจะแตะระดับสูงสุดที่ 5% ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า อาจกลายเป็นปัญหาร้ายแรงต่อเศรษฐกิจได้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news28/11/07
โพสต์ที่ 236
ฟอร์จูน ยก สตีฟ จ๊อบบ์ คว้าที่ 1 นักธุรกิจทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกปี 2007
นิตยสารฟอร์จูน ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำ และทรงอิทธิพลทางความคิดด้านธุรกิจ และการลงทุนชั้นนำของโลก เปิดเผย การจัดอันดับนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลระดับโลกประจำปีนี้ พบว่า นักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลอันดับ 1 ของโลกในปีนี้ คือ นาย สตีฟ จ๊อบบ์ ประธาน และซีอีโอ บริษัท แอปเปิล อันดับ 2 มหาเศรษฐีออสเตรเลียตำแหน่งประธาน และซีอีโอ บริษัท นิวส์คอร์ป นาย รูเพิร์ต เมอร์ด๊อค อันดับ 5 ได้แก่ มหาเศรษฐีอเมริกัน เป็นที่รู้จักกันชื่อนักลงทุนหุ้นทรงคุณค่า เป็นประธาน และซีอีโอ บริษัท เบิร์กไชร์ ฮาททะเวย์ นาย วอเรนน์ บัฟเฟต์
ลีกาชิง มหาเศรษฐีฮ่องกง คว้าอันดับ 12 นักธุรกิจทรงอิทธิพลของโลก
ส่วนเจ้าพ่อไมโครซอฟท์ หรือผู้ก่อตั้ง และยังเป็นประธานบริษัท ไมโครซอฟท์ นาย บิลล์ เกตส์ ครองตำแหน่งอันดับ 7 นักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของโลกในปีนี้ สำหรับนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ที่มีเชื้อสายเอเชีย ได้แก่ นายลีกาชิง ครองอันดับที่ 12 ของโลก ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานกลุ่มบริษัท เฉิงกง โฮลดิ้งส์ และฮัทชินสันวัมเปา และปิดท้ายกับมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ซึ่งจัดโดยนิตยสารฟอร์บสในปีนี้ นายคาร์ลอส สลิม ประธานเครือบริษัทสื่อสาร เทลเม็กซ์ คว้าตำแหน่งที่ 20 นักธุรกิจทรงอิทธิพลที่สุดในโลกปีนี้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
นิตยสารฟอร์จูน ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำ และทรงอิทธิพลทางความคิดด้านธุรกิจ และการลงทุนชั้นนำของโลก เปิดเผย การจัดอันดับนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลระดับโลกประจำปีนี้ พบว่า นักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลอันดับ 1 ของโลกในปีนี้ คือ นาย สตีฟ จ๊อบบ์ ประธาน และซีอีโอ บริษัท แอปเปิล อันดับ 2 มหาเศรษฐีออสเตรเลียตำแหน่งประธาน และซีอีโอ บริษัท นิวส์คอร์ป นาย รูเพิร์ต เมอร์ด๊อค อันดับ 5 ได้แก่ มหาเศรษฐีอเมริกัน เป็นที่รู้จักกันชื่อนักลงทุนหุ้นทรงคุณค่า เป็นประธาน และซีอีโอ บริษัท เบิร์กไชร์ ฮาททะเวย์ นาย วอเรนน์ บัฟเฟต์
ลีกาชิง มหาเศรษฐีฮ่องกง คว้าอันดับ 12 นักธุรกิจทรงอิทธิพลของโลก
ส่วนเจ้าพ่อไมโครซอฟท์ หรือผู้ก่อตั้ง และยังเป็นประธานบริษัท ไมโครซอฟท์ นาย บิลล์ เกตส์ ครองตำแหน่งอันดับ 7 นักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของโลกในปีนี้ สำหรับนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ที่มีเชื้อสายเอเชีย ได้แก่ นายลีกาชิง ครองอันดับที่ 12 ของโลก ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานกลุ่มบริษัท เฉิงกง โฮลดิ้งส์ และฮัทชินสันวัมเปา และปิดท้ายกับมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ซึ่งจัดโดยนิตยสารฟอร์บสในปีนี้ นายคาร์ลอส สลิม ประธานเครือบริษัทสื่อสาร เทลเม็กซ์ คว้าตำแหน่งที่ 20 นักธุรกิจทรงอิทธิพลที่สุดในโลกปีนี้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news28/11/07
โพสต์ที่ 237
สหรัฐเรียกร้องจีนสนับสนุนการคว่ำบาตรอิหร่านผ่านทางคณะมนตรีฯยูเอ็น
รมว.กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้จีนสนับสนุนแนวทางของสหรัฐที่จะคว่ำบาตรอิหร่านอีกรอบผ่านทางองค์การสหประชาชาติ เนื่องจากอิหร่านยังคงดำเนินโครงการนิวเคลียร์ รมว.ต่างประเทศย้ำว่า การคว่ำบาตรอิหร่านเป็นเรื่องที่สำคัญและรัฐบาลสหรัฐมองว่าการคว่ำบาตรครั้งนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำผ่านทางมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น โดยการจัดการประชุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ การประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงประกอบด้วยตัวแทนจากอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และสหรัฐ ซึ่งเดิมจะจัดการประชุมในวันที่ 19 พ.ย.ในกรุงบรัสเซลส์ แต่ก็ถูกยกเลิกไปเพราะจีนตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมการประชุม
นักวิเคราะห์คาด GDP จีนจะเติบโต 10-11% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
รายงานจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ของมหาวิทยาลัยเรนมินของจีนระบุว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนมีแนวโน้มอยู่ที่ระดับ 10-11% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อของจีนในปัจจุบันจะยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และเศรษฐกิจของประเทศยังคงสดใส เนื่องจากมีความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน รายงานยังคาดการณ์อีกว่า GDP ของจีนจะเติบโตกว่า 11% ในปีนี้
นายกฯจีนย้ำกับผู้นำฝรั่งเศสจะคงนโยบายปรับค่าเงินหยวนแบบค่อยเป็นค่อยไป
นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวกับประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีย์ ของฝรั่งเศสที่อยู่ระหว่างการเยือนจีนว่า จีนจะยังคงดำเนินนโยบายขึ้นค่าเงินหยวนแบบค่อยเป็นค่อยไป นายกฯจีนกล่าวว่า จีนมีนโยบายในการจัดตั้งกลไกการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนบนพื้นฐานของอุปทานและอุปสงค์ในตลาด จีนจะยึดมั่นกับหลักการในการริเริ่ม ควบคุม และการดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อผลักดันการปฏิรูปเงินหยวนและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเงินหยวน ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้จีนขึ้นค่าเงินหยวนรวดเร็วมากกว่านี้ เพื่อแก้ปัญหาภาวะไร้สมดุลด้านการค้าที่ขยายตัวขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
รมว.กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้จีนสนับสนุนแนวทางของสหรัฐที่จะคว่ำบาตรอิหร่านอีกรอบผ่านทางองค์การสหประชาชาติ เนื่องจากอิหร่านยังคงดำเนินโครงการนิวเคลียร์ รมว.ต่างประเทศย้ำว่า การคว่ำบาตรอิหร่านเป็นเรื่องที่สำคัญและรัฐบาลสหรัฐมองว่าการคว่ำบาตรครั้งนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำผ่านทางมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น โดยการจัดการประชุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ การประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงประกอบด้วยตัวแทนจากอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และสหรัฐ ซึ่งเดิมจะจัดการประชุมในวันที่ 19 พ.ย.ในกรุงบรัสเซลส์ แต่ก็ถูกยกเลิกไปเพราะจีนตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมการประชุม
นักวิเคราะห์คาด GDP จีนจะเติบโต 10-11% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
รายงานจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ของมหาวิทยาลัยเรนมินของจีนระบุว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนมีแนวโน้มอยู่ที่ระดับ 10-11% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อของจีนในปัจจุบันจะยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และเศรษฐกิจของประเทศยังคงสดใส เนื่องจากมีความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน รายงานยังคาดการณ์อีกว่า GDP ของจีนจะเติบโตกว่า 11% ในปีนี้
นายกฯจีนย้ำกับผู้นำฝรั่งเศสจะคงนโยบายปรับค่าเงินหยวนแบบค่อยเป็นค่อยไป
นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวกับประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีย์ ของฝรั่งเศสที่อยู่ระหว่างการเยือนจีนว่า จีนจะยังคงดำเนินนโยบายขึ้นค่าเงินหยวนแบบค่อยเป็นค่อยไป นายกฯจีนกล่าวว่า จีนมีนโยบายในการจัดตั้งกลไกการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนบนพื้นฐานของอุปทานและอุปสงค์ในตลาด จีนจะยึดมั่นกับหลักการในการริเริ่ม ควบคุม และการดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อผลักดันการปฏิรูปเงินหยวนและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเงินหยวน ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้จีนขึ้นค่าเงินหยวนรวดเร็วมากกว่านี้ เพื่อแก้ปัญหาภาวะไร้สมดุลด้านการค้าที่ขยายตัวขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news28/11/07
โพสต์ที่ 238
หุ้นจีนวิตกมาตรการชะลอความร้อนแรง
เซี่ยงไฮ้ - หุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 1.19% นำโดยหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯและผู้ผลิตเหล็ก ท่ามกลางความวิตกว่ารัฐบาลจะออกมาตรการชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ หลังจากประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และแกนนำทางการเมือง ระบุว่าการป้องกันเศรษฐกิจร้อนแรงและควบคุมเงินเฟ้อ เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกสำหรับปีหน้า
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมโปลิตบูโร ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่มีหน้าที่ตัดสินด้านนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์
28 พฤศจิกายน 2550 เวลา 17:55:31
http://www.bangkokbiznews.com/nws/scrip ... &type=ktbu
เซี่ยงไฮ้ - หุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 1.19% นำโดยหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯและผู้ผลิตเหล็ก ท่ามกลางความวิตกว่ารัฐบาลจะออกมาตรการชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ หลังจากประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และแกนนำทางการเมือง ระบุว่าการป้องกันเศรษฐกิจร้อนแรงและควบคุมเงินเฟ้อ เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกสำหรับปีหน้า
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมโปลิตบูโร ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่มีหน้าที่ตัดสินด้านนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์
28 พฤศจิกายน 2550 เวลา 17:55:31
http://www.bangkokbiznews.com/nws/scrip ... &type=ktbu
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news29/11/07
โพสต์ที่ 239
ดาวโจนส์ ปิดตลาดพุ่ง 331.01 จุด เฟดฉีด 8 พันล.เข้าระบบ-เล็งหั่น ดบ. 11 ธ.ค.นี้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2550 09:29 น.
ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่ง 331.01 จุดหลัง ผู้บริหาร "เฟด" ส่งสัญญาณปรับลดอัตรา ดบ. ในการประชุม 11 ธ.ค.นี้ หลังความตึงตัวในตลาดการเงิน โดยวานนี้ เฟดอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อกู้วิกฤติธนาคารขนาดยักษ์ "ซิตี้กรุ๊ป - เฟรดดี แมค" ส่งผลราคาหุ้นแบงก์พุ่งขึ้นกว่า 16%
วันนี้(29 พ.ย.) สำนักข่าวเอพี รายงานภาวะการลงทุนในสหรัฐ ระบุว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ พุ่งทะยานขึ้นกว่า 300 ซึ่งเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากนายโดนัลด์ คอห์น รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดทะยานขึ้น 331.01 จุด หรือ 2.55% แตะระดับ 13,289.45 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดดีดขึ้น 40.79 จุด หรือ 2.86% แตะระดับ 1,469.02 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 82.11 จุด หรือ 3.18% แตะระดับ 2,662.91 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.76 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 7 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.47 พันล้านหุ้น
รองประธานเฟดกล่าวในที่ประชุมสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่า ภาวะผันผวนครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินเมื่อไม่นานมานี้ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐ ชะลอตัวลงมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น อีกทั้งจะส่งผลให้เกิดภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อและภาคธุรกิจ
นายไมเคิล เชลดอน นักวิเคราะห์จากสเปนเซอร์ คล้าก แอลแอลซีกล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดของรองประธานเฟดทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 11 ธ.ค.นี้ หลังจากที่เฟดได้อัดฉีดเม็ดเงินอีก 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่ระบบการธนาคาร เพื่อบรรเทาสภาพคล่องตึงตัว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
"นักลงทุนมองว่าหากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกก็จะช่วยบรรเทาภาระหนี้สินให้กับสถาบันการเงินที่ขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ(ซับไพรม์) อาทิ ซิตี้กรุ๊ป และเฟรดดี แมค"
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกนั้น มาจากรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด ที่ระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอลงในเดือนต.ค.และในช่วงครึ่งแรกของเดือน พ.ย. เพราะได้รับผลกระทบจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กได้ปรับตัวลงถึง 3.80 ดอลลาร์ แตะระดับ 90.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ หุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดพุ่งขึ้น 6.5% เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวที่ว่าสำนักงานการลงทุนแห่งอาบูดาบีได้เข้าซื้อหุ้นในซิตี้กรุ๊ป ขณะที่หุ้นเฟรดดี แมค ทะยานขึ้น 14.3% และหุ้นแฟนนี เม พุ่งขึ้น 9.9% เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000141568
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2550 09:29 น.
ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่ง 331.01 จุดหลัง ผู้บริหาร "เฟด" ส่งสัญญาณปรับลดอัตรา ดบ. ในการประชุม 11 ธ.ค.นี้ หลังความตึงตัวในตลาดการเงิน โดยวานนี้ เฟดอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อกู้วิกฤติธนาคารขนาดยักษ์ "ซิตี้กรุ๊ป - เฟรดดี แมค" ส่งผลราคาหุ้นแบงก์พุ่งขึ้นกว่า 16%
วันนี้(29 พ.ย.) สำนักข่าวเอพี รายงานภาวะการลงทุนในสหรัฐ ระบุว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ พุ่งทะยานขึ้นกว่า 300 ซึ่งเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากนายโดนัลด์ คอห์น รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดทะยานขึ้น 331.01 จุด หรือ 2.55% แตะระดับ 13,289.45 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดดีดขึ้น 40.79 จุด หรือ 2.86% แตะระดับ 1,469.02 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 82.11 จุด หรือ 3.18% แตะระดับ 2,662.91 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.76 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 7 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.47 พันล้านหุ้น
รองประธานเฟดกล่าวในที่ประชุมสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่า ภาวะผันผวนครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินเมื่อไม่นานมานี้ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐ ชะลอตัวลงมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น อีกทั้งจะส่งผลให้เกิดภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อและภาคธุรกิจ
นายไมเคิล เชลดอน นักวิเคราะห์จากสเปนเซอร์ คล้าก แอลแอลซีกล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดของรองประธานเฟดทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 11 ธ.ค.นี้ หลังจากที่เฟดได้อัดฉีดเม็ดเงินอีก 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่ระบบการธนาคาร เพื่อบรรเทาสภาพคล่องตึงตัว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
"นักลงทุนมองว่าหากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกก็จะช่วยบรรเทาภาระหนี้สินให้กับสถาบันการเงินที่ขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ(ซับไพรม์) อาทิ ซิตี้กรุ๊ป และเฟรดดี แมค"
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกนั้น มาจากรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด ที่ระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอลงในเดือนต.ค.และในช่วงครึ่งแรกของเดือน พ.ย. เพราะได้รับผลกระทบจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กได้ปรับตัวลงถึง 3.80 ดอลลาร์ แตะระดับ 90.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ หุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดพุ่งขึ้น 6.5% เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวที่ว่าสำนักงานการลงทุนแห่งอาบูดาบีได้เข้าซื้อหุ้นในซิตี้กรุ๊ป ขณะที่หุ้นเฟรดดี แมค ทะยานขึ้น 14.3% และหุ้นแฟนนี เม พุ่งขึ้น 9.9% เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000141568
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news29/11/07
โพสต์ที่ 240
เทมาเส็กขายหุ้น 2 แบงก์ใหญ่ในจีน ข่าว 17.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Thursday, November 29, 2007
โฆษกกองทุนเทมาเส็ก บอกว่า บริษัทได้ขายหุ้นใน ไชน่าคอนสตรัคชั่นแบงก์ จำนวน 280 ล้านหุ้นเมื่อวานนี้ ทำให้เทมาเส็กเหลือหุ้นในธนาคารดังกล่าวน้อยกว่า 2% ขณะที่สื่อในจีนรายงานว่า เทมาเส็ก มีรายได้จากการขายหุ้นดังกล่าวประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 256 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เทมาเส็กออกมายืนยันว่าบริษัทได้ขายหุ้นใน แบงก์ออฟไชน่า จำนวน 1.08 พันล้านหุ้น ด้วยมูลค่า 4.45 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 570 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของเทมาเส็กในธนาคารดังกล่าวลดลงมาอยู่ที่ 14.2% หลังจากก่อนหน้านี้มีหุ้นสัดส่วน 15.5%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Thursday, November 29, 2007
โฆษกกองทุนเทมาเส็ก บอกว่า บริษัทได้ขายหุ้นใน ไชน่าคอนสตรัคชั่นแบงก์ จำนวน 280 ล้านหุ้นเมื่อวานนี้ ทำให้เทมาเส็กเหลือหุ้นในธนาคารดังกล่าวน้อยกว่า 2% ขณะที่สื่อในจีนรายงานว่า เทมาเส็ก มีรายได้จากการขายหุ้นดังกล่าวประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 256 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เทมาเส็กออกมายืนยันว่าบริษัทได้ขายหุ้นใน แบงก์ออฟไชน่า จำนวน 1.08 พันล้านหุ้น ด้วยมูลค่า 4.45 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 570 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของเทมาเส็กในธนาคารดังกล่าวลดลงมาอยู่ที่ 14.2% หลังจากก่อนหน้านี้มีหุ้นสัดส่วน 15.5%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx