VI หาดใหญ่

[romee]

เมื่อเช้าเห็นพี่kongkiti โพสแวบๆ ความเห็นปลิวไปซะละ อิงแนวเทคนิเคิล เกินมั้งฮ่ะ

ไม่เป็นไรฮ่ะมาเข้าช่วงไทยวิ นิวส์ ต้อนรับ ปลายฝน ต้นหนาวววววว

SCN วงแตก ไม่รู้พี่ใหญ่ของวงการ(ptt) อาจจะมาลงมาทำเอง, หรือผถห.ใหญ่สละเรือ...หุ้นลงจากจุดพีกเกือบ50% -"-

เหล็กที่ตกทางโน้น หนาวถึงแบงค์ทางนี้ เมื่อTISCOแบงค์1ใน3เจ้าหนี้รายใหญ่ของ ssi ประกาศงบออกมาแย่ซะ...อีก2ตัวที่เหลือ ก็ลุ้นกันต่อฮ่ะ ว่าจะเป็นไง

น้ำตาลราคาตกทั่วโลก แต่หุ้นน้ำตาลไทย หลายตัวย่อแวบเดียว แล้วก็เด้งสู้ หลายตัววิ่งสวน all time high ซะงั้น(ไม่รู้ว่าเพราะมีsolar farmหรือเพราะมี CI เข้ามาถือหุ้น )

กระแสหุ้นโภคภัณฑ์ และturn around ตอนนี้ดูมาแรงในเวบนะฮ่ะ หลังจากกระแสพลังงานทางเลือกซาลงไป เข้าซื้อกันดีๆนะฮ่ะ ถ้าเข้าพลาดจะถึงกับ

ช่วงโฆษณาให้เวบ
อยากเข้าใจวิธีการลงทุนVI แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง

อยากหาเพื่อน ก๊วนที่บ้าแนวVI ไว้คุยกัน

อยากหาหุ้นเองเป็น, อยากรู้ว่าไอ้ราคาที่เราจะซื้อ ถูก แพงไปมั้ย, ควรจะขายเมื่อไรดี

อยากฟังพี่ๆพอร์ตร้อยล้าน พันล้าน ตัวจริงมาสอนถึงแนวคิด เผลอๆถามหลังไมค์กับหุ้นที่เราถือได้เลย

คอร์สนี้เลยฮ่ะ อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่ารุ่นที่9

ปล.แต่ถ้าอยากฟังเรื่องซุบซิบ ทั้งแนวคิดระดับโลก, มโนVI, แนวคิดแทงสวน(คือถ้ามีคนบอกให้ถือ ก็ขายเหอะ), แนวhipๆ แนะนำห้องนี้ละฮ่ะ

[ดำ]

เมื่อเช้าเห็นพี่kongkiti โพสแวบๆ ความเห็นปลิวไปซะละ อิงแนวเทคนิเคิล เกินมั้งฮ่ะ

ผมก็ว่า เอ๊ะ! เหมือน comment มันหายไปอันนึง นึกว่าหลอนไปเองซะอีก ที่แท้โดนอุ้ม แล้วต้องเรียกปรับทัศนคติด้วยป่าวครับ ผมจะได้ระวังไว้

[kongkiti]

เมื่อเช้าเห็นพี่kongkiti โพสแวบๆ ความเห็นปลิวไปซะละ อิงแนวเทคนิเคิล เกินมั้งฮ่ะ

ผมก็ว่า เอ๊ะ! เหมือน comment มันหายไปอันนึง นึกว่าหลอนไปเองซะอีก ที่แท้โดนอุ้ม แล้วต้องเรียกปรับทัศนคติด้วยป่าวครับ ผมจะได้ระวังไว้

ขออภัยครัช

[Nevercry.boy]

เรื่อง แคนสลิม นี่ผมก็ได้แต่เตือนมาทุกๆ ปี

จนถึงจุดตกผลึกความคิดของตัวเองว่ส

รักจะแคนสลิมอย่าวีไอ

รักวีไออย่าแคนสลิม

[kongkiti]

เรื่อง แคนสลิม นี่ผมก็ได้แต่เตือนมาทุกๆ ปี

จนถึงจุดตกผลึกความคิดของตัวเองว่ส

รักจะแคนสลิมอย่าวีไอ

รักวีไออย่าแคนสลิม

ขอบคุณครับพี่ 2 สายนี้ เหมือนจะซ้อนทับกันตรง Growth stock
แต่พลังที่ทุ่มเข้าไปผมว่าต่างกันลิบเลยครับ

สาย Canslim ก็ยังต้องทำตัวเหมือนหนูถีบจั่น
คอยลุ้นว่าราคาหุ้นจะขึ้นลงอย่างไรไปตลอด
คงหลับไม่ค่อยสบายซักเท่าไหร่

ส่วนสายนักลงทุน (ที่โดนขนานนามว่า VI ให้ดูเท่ห์ๆ จริงๆก็นักลงทุนธรรมดา...)
หากเข้าถึงหลักการจริง น่าจะลงทุนด้วยความสบายใจ ไม่ต้องเครียดมาก
นั่งกระดิกทีน ตามปรมาจารย์ แนะนำ ได้ครับ

ปล. ช่วงนี้ต้องนั่งอดทน อย่างมาก มองหุ้น T&T วิ่งกระจุยกระจาย แบบไม่แคร์ เพื่อนฝูง ซะใจจริงๆ

[ดำ]

รักจะแคนสลิมอย่าวีไอ

รักวีไออย่าแคนสลิม

ผมอาสาทำลายอาถรรพ์นี้เองครับ ขอเวลา 1 ปีจากนี้

[ดำ]

ปล. ช่วงนี้ต้องนั่งอดทน อย่างมาก มองหุ้น T&T วิ่งกระจุยกระจาย แบบไม่แคร์ เพื่อนฝูง ซะใจจริงๆ

ที่ผ่านมาอาจใช่ครับ แต่จากนี้ไปผมว่าเกมกำลังพลิกนะ

[ดำ]

นอกจากจะเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่าแล้ว ลองมาเป็นนักลงทุนที่มีคุณค่ากันดูบ้างมั้ยครับ?


ShineStock ☀ สิ่งที่สำคัญกว่า"เงิน"
"สุขภาพที่ดี"ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าขวนขวายมาประดับไว้ในตัวเรา พอๆกับ"เงิน"...ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดีครับ

การบรรยายส่วนหนึ่งของหลี่เหลียนเจี๋ยในหัวข้อ “หลักการรักษาสุขภาพ”

...ฟู่เปียว มีเงินมากกว่าคุณ
เปลี่ยนไต 2 ครั้งสุดท้ายก็ลาจากโลกไป

เหม่ยเยี่ยนฟัง มีเงินมากกว่าคุณ
จ้างหมอเฉพาะทางทั้งในและนอกประเทศ สุดท้ายมะเร็งปากมดลูก ก็ทำให้เธอลาจากโลกนี้ไป

เฉินเสี่ยวสวี้ มีเงินมากกว่าคุณ
สุดท้ายมะเร็งเต้านม ก็พรากเธอไปจากโลกนี้

หวังจวินเหยา มีเงินมากกว่าคุณ
3500 ล้าน ซื้อชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่ได้ สุดท้ายเขาก็จากโลกนี้ไป

จางเซิงอวี๋ ประธานกรรมการ บริษัท ถงเหรินถังแห่งนครปักกิ่ง
มีความเชี่ยวชาญการรักษาโรคมากกว่าคุณ อยู่ๆก็หัวใจวายเฉียบพลัน ตายจากโลกนี้ทั้งๆที่อายุแค่ 39 ปี

หนันหมิน ประธานกรรมการ บริษัท จงฟากรุ๊ปแห่งนครเซี่ยงไฮ้ จากโลกนี้ไปด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก ทั้งๆ ที่อายุแค่ 37 ปี

...ขอให้คุณระลึกไว้

1. อย่าเอาแรงกดดัน มาเป็นแรงขับเคลื่อน ใช้ร่างกายจนเกินกำลัง เท่ากับทำร้ายร่างกาย — โง่เขลาเป็นที่สุด

2. อย่าลืมว่าสุขภาพดี คือ ต้นทุน ร่างกายไม่แข็งแรง คุณจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อย่างไร — เสียหายเป็นที่สุด

3. อย่าเห็นชื่อเสียงและลาภยศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ชื่อเสียงลาภยศเปรียบดังหมอกควัน สุดท้ายก็มลายสูญ — จริงแท้เป็นที่สุด

4. อย่าคิดว่าหมอจะช่วยชีวิตคุณได้ หมอที่ดีคือตัวคุณ ดูแลชีวิตดีกว่าให้ใครมาช่วยชีวิต — ถูกต้องเป็นที่สุด

5. อย่าคิดว่าอุทิศให้แล้วจะต้องได้รับตอบแทนเสมอไป ให้อะไรกับใครอย่ารอให้เขาทดแทนบุญคุณ — วิเศษเป็นที่สุด

6. อย่าคิดว่ารับราชการแล้วจะเหนือกว่าชาวบ้าน ถึงเวลาเกษียณก็ต้องเป็นชาวบ้านเหมือนเดิม — แม่นยำเป็นที่สุด

7. อย่ามองข้ามคนที่มีบุญสัมพันธ์กับคุณ เมื่อคุณตกอับ คุณจึงจะรู้ว่าใครบ้างที่ไปจากคุณ และตอนนั้นคนรู้ใจยิ่งหายาก — เสียใจและเสียดายเป็นที่สุด

8. อย่าเห็นการทักทายของใครเป็นสิ่งน่ารำคาญ คนที่ส่งข้อความให้คุณเสมอเพราะคุณยังอยู่ในใจเขา — แน่นอนเป็นที่สุด

..................................................

เป็นคำถามที่น่าคิด
คุณมีเงิน แต่คุณมีค่าไหม?

เรามักแสวงหาสิ่งที่เราคิดว่า มีค่ามากที่สุดในชีวิต
แต่สุดท้าย ทุกคนหนีไม่พ้นอนิจจัง

หมั่นคิดดี พูดดี ทำดีนะครับ
คุณค่าของชีวิต สร้างได้โดยไม่ต้องใช้เงิน!...

- นุสนธิ์บุคส์ -

https://www.facebook.com/ShineStock168/ ... 61/?type=3

[romee]

เอาวิธีคิดของผู้จัดการกองทุน ในการลงทุนหุ้น defensive ที่จ่ายปันผลมาแชร์ครับ

ตัวอย่างกองทุนอสังหา 1.ให้ดูว่ากองทุนนั้นมีโอกาสขยายงานเพื่อเพิ่มทรัพย์สินหรือไม่ หากมีโอกาสขยายมักมีการดูแลระดับหนึ่ง....หากกองทุนที่เจ้าของทรัพย์สินเน้น cash out แล้วจบกัน พวกนี้มักไม่มีการดูแลและ valuation มักไม่ค่อยดี

2.ให้ดูว่าผลตอบแทนการลงทุนจูงใจเพียงใด
ถ้าค่อนข้างต่ำ เช่น eg--if หรือ cp--f เวลาเจอดอกเบี้ยขาขึ้นอาจได้รับผลกระทบที่รุนแรงได้

3.ให้ดูว่ากองทุนมี earning growth หรือไม่...และ earning ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงอย่างไร

3.1ถ้ารายได้ที่มีสัญญาระยะยาว และผู้เช่าแข็งแกร่ง และมีการตกลงเพิ่มค่าเช่าเป็นระยะแบบนี้จะดี

3.2แต่ถ้าขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจแบบนี้อาจมีความเสี่ยง เช่นกองอสังหาหลายกองที่มีปัญหาการจ่ายปันผลในขณะนี้

4.ดูการกระจายรายได้....ตัวอย่าง t--f เขาบอกว่ามี22สาขากระจายไปหลายแหล่ง และส่วนใหญ่เป็น free hold. ทำให้มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี

แต่บางกองมีทรัพย์สินเดียว แหล่งเดียว เกิดอะไรขึ้น จะเสี่ยงมาก

[ดำ]

4 วิธีใช้เงิน...แบบเศรษฐีญี่ปุ่น

“#คนที่ประสบความสำเร็จกับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จต่างกันตรงไหน?”

ความสามารถ? ...................
สติปัญญา? .......................
รูปร่าง หน้าตา? .................

ในมุมมองของคนญี่ปุ่น (ระดับเศรษฐี) มองว่า คนสองกลุ่มนี้แตกต่างกัน 4 อย่าง โดยทั้งสี่ข้อ สะท้อนถึง “วิธีการใช้เงิน” ระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จและคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ละข้อมีดังนี้

1.อิสรภาพจากสายตาคน สู่อิสรภาพในการใช้เงิน

กิโมโนที่มีราคาแพงจริงๆ ด้านนอกจะดูเรียบธรรมดา แต่ด้านใน ทอเป็นลวดลายดอกไม้หรือลายมังกรละเอียดสวยงาม ทว่า คนภายนอกไม่สามารถทราบความงามเหล่านั้น มีแค่ผู้สวมใส่ที่รับรู้ถึงคุณค่าและความนุ่มสบายของชุดกิโมโนชุดนั้น คนญี่ปุ่นมองว่า เราไม่จำเป็นต้องแสดงออกให้ผู้อื่นรู้ถึงฐานะ คนรวยไม่จำเป็นต้องใส่สร้อยทองเส้นใหญ่ๆ หรือเพชรเม็ดโตเพื่อแสดงว่าฉันเป็นใคร เราเป็นคนธรรมดา คนอื่นจะได้ปฏิบัติกับเราแบบธรรมดา และเราจะได้รู้จักคนคนนั้นอย่างแท้จริง

จงอย่าใช้เงินเพื่อภาพลักษณ์ตัวเอง แต่จงใช้เงินเพื่อผู้อื่น

มันจะไม่มีที่สิ้นสุดหากเรามัวแต่มองว่า ฉันต้องถือกระเป๋ายี่ห้อนี้ ขับรถรุ่นนี้ ทานอาหารที่ร้านนี้ เพราะต้องการแสดงว่าฉันเป็นคนมีระดับผู้บริหารญี่ปุ่นพาลูกน้องไปเลี้ยงอาหารค่ำที่ภัตตาคารหรู ไม่ใช่เพราะอยากให้ลูกน้องเห็นว่าตัวเองมีสตางค์ แต่เพราะต้องการแสดงความรู้สึกขอบคุณอย่างลึกซึ้งที่ลูกน้องร่วมเหนื่อยยากกันมา

เจ้าของธุรกิจสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง เพราะรูปแบบแพทเทิร์นดี เนื้อผ้าดี ไม่ได้ใส่เพราะอยากให้คนเห็นโลโก้ของแบรนด์นั้นแล้วรู้ว่าตนมีปัญญาซื้อ
การใช้เงินไปกับสิ่งที่ตนเองรัก หรือเพื่อคนที่ตนเองรักจะทำให้เรามีอิสระและมีความสุขในการใช้เงินมากกว่าการใช้เงินเพื่อรักษาหน้าตาและภาพลักษณ์ของตนเองเพียงอย่างเดียว

2.การใช้เงินคือการลงทุน

จงถามตัวเองว่า สิ่งที่เรากำลังจะใช้เงินต่อจากนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อเราในอนาคตหรือเปล่า? คนเรามักจะเผลอใช้เงินกับของมูลค่าเล็กน้อยไปอย่างง่ายดาย เช่น ค่าแท๊กซี่ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าเครื่องเขียน แต่หากรวมกันแล้ว เงินจำนวนนั้นก็ไม่ใช่จำนวนน้อยเลย

จงถามตัวเองทุกครั้งก่อนจะซื้อของว่า ของที่ตัวเองจะซื้อนั้นมีประโยชน์จริงหรือเปล่า และเราจะได้อะไรกลับมาในอนาคต ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะมีราคาถูกหรือแพง เช่น การที่เราตัดสินใจเสียเงิน 200 บาทขึ้นรถแท็กซี่แทนที่จะเสีย 13 บาทขึ้นรถประจำทางนั้น มีประโยชน์ต่อตนเองจริงหรือเปล่า หากนั่งแท๊กซี่แล้ว ตนเองมีเวลาทำจิตใจให้สงบและซักซ้อมบทสนทนาก่อนไปพบลูกค้า โอกาสที่ลูกค้าจะเซ็นสัญญากับบริษัทก็สูงขึ้น เงิน 200 บาทนั้นก็ถือเป็น "การลงทุน" ที่คุ้มค่า

3.ยิ่งใช้เงิน ยิ่งได้เงิน

คนธรรมดาจะมุ่งแต่จะเก็บเงินที่หามาให้ได้มากที่สุด หามาเท่าไรก็จะพยายามเก็บออมอย่างเดียว แต่คนญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินอย่างเดียว แต่รู้จักใช้เงิน (อย่างฉลาด) ด้วย พวกเขาจะมองว่า ตนควรจะ "ลงทุน" ไปกับอะไรดี จึงจะเกิดผลที่คุ้มค่าที่สุด

หนึ่งในการลงทุนที่คนญี่ปุ่นเห็นว่าคุ้มค่ามากนั้นคือ "การลงทุนกับตัวเอง"

จงใช้เงินเพื่อสร้างทักษะความรู้เพื่อตนเอง เช่น ไปลงคอร์สอบรมเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และนำกลับมาใช้กับองค์กร หรือเรียนคอร์สปรับบุคลิกภาพและวิธีการแต่งกาย เพื่อได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากลูกค้า จงใช้เงินเพื่อสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูง ไปทานข้าวกัน คุยกัน สนิทกัน อาจมีโอกาสที่เพื่อนๆ เหล่านี้แนะนำงานต่อให้เรา
เงิน หากใช้ (ลงทุน) อย่างถูกวิธี ก็จะวกกลับมาหาผู้ใช้คนนั้นอีก

4.คาถาเรียกเงินแบบญี่ปุ่น

ยิ่งก้าวไปในตำแหน่งสูงมาก มีฐานะมาก มีโอกาสที่จะได้รับคำชื่นชม สรรเสริญจากคนรอบๆ ตัวมาก ใครๆ ก็เรียกท่านคะ ท่านครับ มีแต่คนคอยดูแลเอาใจ พอเคยตัวมากๆ ก็จะเกิดเมฆหมอกบังตาว่า "ข้าเก่ง ข้าเจ๋งที่สุด" สุดท้าย อาจประมาท และตัดสินใจอะไรผิดพลาดไปก็ได้

เพราะฉะนั้น บริษัทญี่ปุ่นหลายๆ แห่งมีนโยบายให้ผู้บริหารระดับสูงไปเก็บขยะหรือขัดห้องน้ำร่วมกับพนักงานคนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการฝึกผู้บริหารไม่ให้ลืมตน ไม่ให้ลืมความยากลำบากของพนักงานที่อยู่ระดับล่าง และมองว่าตนเองก็เป็นพนักงานที่ต้องทำงานเพื่อองค์กรเหมือนกัน สิ่งหนึ่งที่ผู้ประสบความสำเร็จทุกคนมี คือ "การรู้จักขอบคุณผู้อื่น" การไม่ลืมบุญคุณผู้อื่น การสังเกตและแสดงความรู้สึกซาบซึ้งสิ่งที่ผู้อื่นทำ แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ให้กับตนเองเป็นสิ่งสำคัญมาก

จงอย่าลืม "คำขอบคุณ" อย่าลืมว่าความสำเร็จของเราไม่ได้เกิดจากความสามารถของเราเพียงแค่คนเดียว หันไปมองคนรอบๆ พยายามนึกว่าใครช่วยให้เราประสบความสำเร็จในแต่ละชิ้นงานและกล่าวชื่นชมขอบคุณพวกเขาอย่างจริงใจ

การแสดงความรู้สึกขอบคุณ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การ์ดขอบคุณ หรือสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ จะทำให้ผู้ที่เราทำงานด้วยรู้สึกดีใจ และภูมิใจในตัวพวกเขาเอง พวกเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือและทำงานเพื่อองค์กรต่อไป

https://www.facebook.com/finance.VPN/ph ... =3&theater

[Nevercry.boy]

โอ้โหย ดีมาก ๆ เลยท่าน ใช้เงินแบบญี่ปุ่น

[ดำ]

เคล็ดลับ 30 ข้อแห่งความสำเร็จ
โดย.บัณฑิต อึ้งรังษี

1. ทำสิ่งที่รักและถนัด คุณไม่สามารถสำเร็จได้ในงานที่ไม่ชอบ

2. กตัญญู เห็นคุณค่า แม้สิ่งเล็กๆที่ได้รับ สิ่งนี้สิ่งเดียวจะทำให้คุณได้รับสิ่งดีมากขึ้น ๆ

3. ตั้งเป้าหมายในชีวิต เป้าหมายที่ตั้งอย่างดีและชัดเจนเป็นครึ่งหนึ่งของความสำเร็จ

4. ความปรารถนาเป็นสิ่งที่ดี การเติบโตมากขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติ ตราบใดที่ให้คนอื่นได้รับประโยชน์ด้วย

5. ปล่อยวาง นั่นคือไม่กลัวความล้มเหลว ไม่ยึดติดกับผลลัพท์ ได้ทำก็เป็นรางวัลแล้ว

6. โฟกัส มุ่งมั่น เลือก 5 เป้าหมายที่สำคัญที่สุด แล้วเริ่มทำงาน

7. ความคิดคืออนาคต ควบคุมความคิดของตนเองให้ดีเสมอ

8. ซ้อม ซ้อม ซ้อม พัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น ดีขึ้นทุกวัน

9. แต่งงานกับคนที่ถูกต้อง สิ่งนี้สำคัญต่อความสำเร็จ และความสุขทั้งชีวิตของคุณ

10. ซื่อสัตย์ การได้รับความไว้วางใจ จากคนอื่น เป็นรางวัลชีวิตที่ได้มายาก แต่เสียง่าย

11. เรียนรู้การเป็นเจ้านายของเงิน สิ่งนี้จะให้อิสระภาพ กับชีวิตคุณ

12. จำไว้ว่าคุณเป็นคนสร้างชะตาชีวิตตนเอง ไม่มี โชค ดวง สถานการณ์ หรือคนอื่น

13. ห้ามล้มเลิก

14. ยกโทษให้ทุกคน สิ่งนี้เป็นของขวัญที่คุณให้กับตนเอง

15. ให้คุณค่ากับคนอื่น มากกว่าที่เขาคาดหวัง "ขอคืบ ให้ศอก"

16. กฏทองของชีวิต "จงปฏิบัติกับผู้อื่น เหมือนที่คุณอยากให้เขาปฏิบัติกับคุณ"

17. ความสุขมาก่อนความสำเร็จ จงเรียนรู้ที่จะมีความสุขได้ โดยไม่ต้องพึ่งสิ่งของหรือการกระทำคนอื่น คุณ เป็นคนควบคุมความสุขตนเองด้วยความคิด

18. ห้ามบ่น คนบ่นคือคนคิดลบ และคุณจะได้สิ่งลบลบเพื่ม (กฎแห่งแรงดึงดูด)

19. อย่าโทษคนอื่น หรือสิ่งใด จงรับผิดชอบชีวิตตนเอง

20. เลิกหาข้อแก้ตัว ถ้าคุณอยากได้มันมากพอ คุณก็หาทาง ถ้าความอยากได้ไม่พอคุณก็จะหาข้อแก้ตัว

21. รักษาสุขภาพดี สิ่งนี้มีความสำคัญต่อความสำเร็จ และความสุข

22. เรียนรู้การใช้จินตนาการ นึกภาพผลลัพท์ที่ต้องการ

23. พัฒนาความเชื่อมั่นในตนเอง สิ่งนี้เป็น 2 ใน 3 ส่วนของความสำเร็จ

24. พัฒนาบุคคลิกภาพความเป็นผู้นำ

25. มีเมตตากับทุกคน สิ่งนี้จะทำให้คุณเป็นที่รัก

26. ให้ ให้ ให้ การให้มาก่อนการรับ ยิ่งให้คุณจะยิ่งได้

27. ครอบครัวนั้นสำคัญมาก อย่าลืมว่าความสำเร็จแค่ไหน ก็ไม่สามารถชดเชยความล้มเหลวที่บ้าน

28. อ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเอง ชีวิตคุณไม่ยาวพอ ที่จะลองผิดลองถูกเองทั้งหมด

29. หาพี่เลี้ยงที่สำเร็จแล้วในสิ่งที่คุณอยากทำ เค้าจะประหยัดเวลาให้คุณ (แต่อย่าลืมให้อะไรตอบแทน)

30. นั่งสมาธิ สงบจิต และอธิษฐาน เรียนรู้การสื่อสารกับขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ภายใน

[ดำ]

"ธรรมะจากดินสอแท่งหนึ่ง" ใครเล่าเป็นเจ้าของ ดินสอไม้แท่งหนึ่ง ต่างถูกอ้างสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของกันเต็มไปหมด ???

1. ต้นไม้ที่ถูกนําไม้มาทําดินสอก็อ้างสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของเพราะนําไม้มาจากต้นจึงมีดินสอเกิดขึ้น

2. กราไฟต์คาร์บอน ก็บอกว่าไส้สีดําๆนั้นคือตัวเองดังนั้นดินสอเป็นของเขา

3. ยางลบที่อยู่บนหัวดินสอ ก็บอกว่าเขาอยู่บนหัวดินสอ ดินสอคือของเขา

4. โรงงานที่ผลิตดินสอเอง ก็บอกว่ามีชื่อบริษัทพิมพิ์อยู่ที่ดินสอเห็นๆอยู่ว่าดินสอนี้เป็นของบริษัท

5. คนซื้อดินสอมาใช้ ก็บอกว่าตนเองเป็นเจ้าของดินสอ เพราะเขาเสียเงินซื้อมา

6. ดวงอาทิตย์บอก ถ้าไม่ให้แสงแดดส่องมา ต้นไม้ก็ไม่โต เมื่อไม่มีต้นไม้ก็ไม่มีดินสอ ดินสอทํามาจากเนื้อไม้ ดังนั้นดวงอาทิตย์จึงบอกว่าเป็นเจ้าของดินสอ

7. พื้นดินอ้างสิทธิ์ ในการให้ต้นไม้ยืนต้น ก็บอกว่า เป็นเจ้าของดินสอ

8. ใครเล่าที่จะอ้างสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของดินสออีก ให้ไล่ต่อคงไล่ได้อีกมากมาย

ถ้าเรายังใช้เหตุผลแบบโลกๆ และยึดถือว่าสิ่งที่ตัวเองรู้นั้นถูกแต่เพียงด้านเดียว คงจะไม่ดีแน่ๆ

เมื่อไหร่ที่อยู่เหนือเหตุผลแบบโลกๆได้ ก็จะรู้ว่า ไม่มีใครเลยที่เป็นเจ้าของอะไรหรือสิ่งใดๆเลย มีแต่เพียง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปเท่านั้น ไม่มีอะไรให้หลงยึดอีก...
https://www.facebook.com/49228765749517 ... 28/?type=3

[ดำ]

ชาววีไออย่าทอดทิ้งธรรมะครับ
ชาววีไอชอบอะไรที่เป็นเหตุเป็นผล เป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้จริง
ธรรมะนี่แหละครับ การศึกษาวิทยาศาสตร์ในเรื่องจิตใจ
วิทยาศาสตร์แขนงอื่นเราอาจศึกษาผ่านคนอื่นได้ แต่วิททยาศาสตร์ทางจิตใจต้องศึกษาผ่านตนเองเท่านั้นครับ

[ดำ]

เรื่องราวที่จะต้องประสบพบเจอในทางเดินของชีวิต ทำใจยอมรับได้ก็ถือว่าเดินทางแบบมีความสุข

1.เพื่อนจะเข้ามาในชีวิตและจากคุณไปเสมอ…...สังเกตสิคนที่เคยคุย เคยเที่ยวเล่นกันในช่วงเวลาหนึ่งๆ พอย้ายที่เรียนเปลี่ยนที่ทำงาน ก็แยกกันไป ก็จะกลายเป็นเพื่อนเก่าที่ค่อยๆ ห่างกันไป
ขณะเดียวกันหน้าเพื่อนใหม่ก็จะเข้ามาแทน มีน้อยที่จะยังติดต่อกันตลอด เช่นเดียวกับเพื่อนที่คุณสนิทในตอนนี้ ก็อาจจะหายไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราจึงไม่ควรยึดติดกับใคร เพราะต่างก็ต้องมีทางเดินของตัวเอง คอยเปิดใจรับมิตรภาพใหม่ๆ ดีกว่า เพราะมีผู้คนที่น่าสนใจอีกมากให้คุณได้รู้จักในทุกๆ ที่ ( แต่หากเจอคนดีๆ ก็รักษาไว้นานๆนะจ๊ะ )

2.สิ่งต่างๆ จะไม่เป็นอย่างที่คุณอยากให้เป็นเสมอ…...คุณเคยไหมที่มักไม่ได้ในสิ่งที่อยากได้ แต่ดันได้ในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ ไม่มีประโยชน์เลยที่จะเครียดหรือทุกข์ใจ ในเมื่อไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วได้ แต่วิธีที่จะตอบสนองต่อสิ่งนั้นๆ คุณเปลี่ยนได้นะ

3.หลายๆคนรักคุณ แต่ส่วนมากจะไม่…...ไม่ว่าคุณจะมีชื่อเสียง ชอบการทำบุญ หรือเป็นแค่คนธรรมดา ก็จะมีคนรักคุณแน่ๆ แต่ยังไงก็ต้องมีคนที่ไม่ชอบคุณด้วยเช่นกัน เหตุผลมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอิจฉา หรือเพียงเพราะคุณไม่เหมือนเขา ถ้าพวกเขาจะเอาแต่พูดเรื่องคุณ ซึ่งนั่นเป็นปัญหาของพวกเขานะ คุณจึงไม่ต้องใส่ใจ โปรดจงจำไว้ว่าคุณดีในแบบของคุณ และนับถือตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนชอบคุณ

4.ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณได้ นอกจากตัวของคุณเอง
คนอื่นแม้จะช่วยเหลือคุณ ก็ได้แค่ระดับหนึ่ง ชีวิตใครก็ต้องคนนั้นแหละที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จงเรียนรู้ที่จะยืนด้วยสองเท้าของตนเอง โดยไม่ต้องใช้คนอื่นๆ เป็นไม้เท้าค้ำยันในชีวิต เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่กับคุณไปตลอดชีวิต

5.ความล้มเหลวเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จอย่างเดียวหรอก ยังไงก็ต้องเคยล้มเหลวมาก่อน นอกจากเรียนรู้ความล้มเหลวจากบุคคลอื่นแล้ว ความล้มเหลวของคุณเองนี่แหละ ที่เป็นบทเรียนที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตที่จะสอนคุณ ให้ใช้มันเป็นแรงผลักดันให้คุณประสบความสำเร็จ

6.อาจไม่มีวันพรุ่งนี้….....เราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าเหตุการณ์ใดๆ จะเกิดขึ้น รถคว่ำ หัวใจวาย อุบัติเหตุ หรือแม้แต่โลกจะแตก มันเป็นไปได้หมด จงเผชิญหน้ากับมันซะ ยังไงวันหนึ่งก็ต้องเป็นวันสุดท้ายของเรา เพราะฉะนั้นในแต่ละวันใช้ชีวิตให้ดีที่สุด ดูแลคนที่คุณรักให้มาก ไม่ต้องกังวลกับเรื่องเล็กน้อย และใช้เวลาทำในสิ่งที่คุณชอบด้วย

7.ใครๆ ก็มีมากกว่าคุณ…....พอมองไปก็จะเห็นแต่คนที่มีอะไรมากกว่าตัวเราทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเงิน ตำแหน่ง หรือเพื่อน แต่รู้ไว้นะว่า แม้เขามี ”มากกว่า” ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีความสุขกว่านะ อ่านประวัติบุคคลที่มีชื่อเสียงดู พวกเขาน่ะสนุกกับกระบวนการในการได้เงินมากกว่าตัวเงินซะอีก จงโฟกัสไปในสิ่งที่คุณรักจะดีกว่า เพราะมันจะตามมาด้วยความสุขที่มากกว่า
และสุดท้ายอยากจะบอกว่า ......... ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหล่ะนะ ถ้าเข้าใจและยอมรับมัน คุณก็จะรู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตและมีความสุขบ้างทุกข์บ้าง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จะผ่านไป

เครดิต เรื่องส่งต่อกันมาทางไลน์

[arica]

สัปดาห์หนังสือครับ

[arica]

-

[dr1]

ขอบคุณสำหร้บธรรมะและหนังสือแนะนำฮะ

ผมไปประชุมวิชาการราชวิทยาลัยมาฮะ
โดดประชุมครึ่งวันไปฟังเทศน์พระอาจารย์สุชาติ วัดญาณฯ วันปิยะฯ
พระอาจารย์ท่านเทศน์เรื่องทำตัวให้เป็นที่รัก ให้น่ารัก เรื่องฆราวาสธรรมฮะ เรียงแบบไม่เหมือนตำรา
1. จาคะ เสียสละ บริจาค (หุ้นดีๆมีmos ที่ซื้อแล้วรึไม่คิดจะซื้อก็มาบอกกัน)
2. สัจจะ ซื้อตรง ไม่โกหก (ข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง (ให้ดีก็บอกราคามีMOSด้วย) เรื่องลับลวงพรางของหุ้นแต่ละตัวก็มาเตือนกัลยาณมิตร ไม่คิดหลอกกัน
3. ขันติ อดทนต่อเรื่องไม่ดี หุ้นตก ข่าวร้าย ถูกเยาะเย้ย ถากถาง (เป็นไงล่ะ วีไอตกรถ วีไอจำเป็น วีไอโดนหลอก วีไอทมิฬ วีไอล้างผอร์ทแล้วยัง ฯลฯ)
4. ทมะ อดทนทำดี (เป็นวีไอกันต่อไป แอบเปรี้ยวเป็นบางเวลาจนไปเจ็บตัวกันมาก็มาสารภาพกันได้ฮะ สังคมวีไอให้อภัย และซ้ำเติมกำลังใจให้เสมอ)

เรื่องต่อมา ขอนุญาตบอกบุญ(ทาน)แถวหาดใหญ่นิดนึงฮะ
เพื่อนรุ่นน้องรองคณบดี เล่าให้ฟังเรื่องวิหารหลวงพ่อทวด ที่รพ.ม.อ.(ม.อ.=มหิดลอดุลยเดช พระนามสมเด็จพระราชบิดา กรมหลวงสงขลานครินทร์)
วิหารนี้ออกแบบโดยอ.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ ใช้ไม้สักร้อยปีแกะสลัก หินอ่อนอิตาลี อ.บอกว่าจะทำให้สุดฝีมือเต็มที่เป็นแห่งสุดท้ายแล้ว
ระดมทุนโดยสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดวัดช้างไห้ ซึ่งต้องไปขอไลเซ้นซ์หลวงพ่อเจ้าอาวาสหลายรอบมาก
ท่านไม่ให้ใครง่ายๆ เคยให้ทูลกระหม่อมอุบลรัตน์ และสมเด็จพระเทพเท่านั้น (ป๋าเปรมสร้างหอประชุม มิวสิกฮอลล์ ยังต้องใช้ของวัดพระโคะ)
พระเครื่องจัดทำแค่สองหมื่นองค์ วันสุดท้ายคณบดีไปที่วัดเอง รอเกือบทั้งวัน (รอให้หน่วยกู้ระเบิดมาเก็บกู้วัดถุต้องสงสัยหน้าวัด เลยไม่ได้ทดสอบความศักด์สิทธ์หน้างาน)
ใครมีจิตศรัทธา เช่าพระ บริจาคได้นะฮะ ผมมโนไปว่า ถ้ามีญาติ คนไข้ มาบนเยอะๆ แก้บน ได้เงินบริจาคเยอะๆแบบพระพรหมเอราวัณได้ น่าจะดี จะได้ไปช่วยคนไข้อีกต่อนึง
(เพื่อนรองคณบดีืท่านนี้แซ่เดียวกะผมฮะ เราสองคนแซ่เดียวกะเสี่ยจืดคนดังนั่นแหละ แต่เราเล่นกอล์ฟไม่เป็น และยังไม่มีหุ้นมากพอจะไปฝากแค้ดดี้ พริตตี้ไรนั่นด้วย ผมชวนเค้าเข้าวงการมานานแระ เพิ่งมายอมตอนสหกรณ์มหาลัยไปตกคลอง(จั่น)เจ็ดร้อยล้านนั่นแหละ)

พอมาในงานประชุม ปรากฎว่ามีsectionแนะนำการลงทุนด้วยฮะ
คนมาพูดคือ"เต้ย"เป็นรุ่นน้องสองปี ผู้เชี่ยวชาญมดลูกกะรังไข่(สาขานี้เค้าเล่นหุ้นเก่งกันหลายๆคนจุงเบย)
วิแคะความน่าจะเป็นตลาด ว่าถ้าทะลุ1440 จะไป1800-2000 ได้(วีไอจะรอขายให้ไปเล่นกันต่อนะฮะ)
แนะนำrobot trading ดูกราฟลูกเดียว สมมติฐานคือ ไม่ตกรถ แต่ถ้าหุ้นลงคัทลอสเสียหายไม่มาก
ผลตอบแทนราวๆ30%ต่อปี แต่พอหักค่าบริหารแล้วเหลือ10%กว่าๆ มีสามโปรแกรมให้เลือก เลือกหุ้นใหม่ทุกสามเดือน
ลงทุนมีupside ราว35% แต่มีdownside23%แน่ะ (ว้า..รอลอกหุ้นอ.leky กะเพื่อนๆดีก่า)
แต่ที่ผมชอบคือ ตอนท้ายที่เต้ยเค้าแชร์ความคิดฮะ
1. ยิ่งให้ ยื่งได้
2. Training is learning
3. ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ
4. ทำงานหาเงิน แล้วใช้เงินไปทำงานเพิ่มพลังทบต้นให้เรา
5. นกไม่มีขน ก็เหมือนคนไม่มีเพื่อน
6. (ข้อนี้โดนใจที่สุด ได้มาจาก อ.ประเวศ งานราชวิทยาลัยสูติฯ ปี52)
"ความสุขสูงสุดของชีวิตคือ รักเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติ"

รักเพื่อนๆทุกคนนะฮะ จุ๊บๆ

[ดำ]

แนะนำrobot trading ดูกราฟลูกเดียว สมมติฐานคือ ไม่ตกรถ แต่ถ้าหุ้นลงคัทลอสเสียหายไม่มาก
ผลตอบแทนราวๆ30%ต่อปี แต่พอหักค่าบริหารแล้วเหลือ10%กว่าๆ

ผลตอบแทนโหดมากครับ ถ้าทำติดต่อได้เป็นสิบปีนี่ชนะบัฟเฟตต์ขาดลอย
แต่ที่โหดกว่าคือค่าบริหารพอร์ตครับ

เทรดตามสูตรพวกนี้ ขอแบบที่พิสูจน์จากของจริง ไม่ใช่ทำ Back test ให้ได้มี record ผ่าน cycle ใหญ่สักรอบค่อยมาคุยกันดีกว่าครับ
ที่เห็นในตลาด ส่วนใหญ่เพิ่งตั้งไข่ไม่ถึงปี อาศัย Back test มาอ้างอิง เหมือนดาวรุ่งเล่นดีไม่กี่นัด แล้วอ้างว่าตอนซ้อมเล่นดีมากนะ ผมว่ายังเร็วไปครับ

อีกอย่างนะครับ ใครช่วยยกตัวอย่างทีว่า ในเมืองนอกมี Robot trade ที่ไหนประสบความสำเร็จต่อเนื่องยาวนานบ้าง ผมเองเท่าที่ผ่านตามา มันไม่น่าจะมีแฮะ

[Nevercry.boy]

เรื่องต่อมา ขอนุญาตบอกบุญ(ทาน)แถวหาดใหญ่นิดนึงฮะ
เพื่อนรุ่นน้องรองคณบดี เล่าให้ฟังเรื่องวิหารหลวงพ่อทวด ที่รพ.ม.อ.(ม.อ.=มหิดลอดุลยเดช พระนามสมเด็จพระราชบิดา กรมหลวงสงขลานครินทร์)
วิหารนี้ออกแบบโดยอ.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ ใช้ไม้สักร้อยปีแกะสลัก หินอ่อนอิตาลี อ.บอกว่าจะทำให้สุดฝีมือเต็มที่เป็นแห่งสุดท้ายแล้ว
ระดมทุนโดยสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดวัดช้างไห้ ซึ่งต้องไปขอไลเซ้นซ์หลวงพ่อเจ้าอาวาสหลายรอบมาก
ท่านไม่ให้ใครง่ายๆ เคยให้ทูลกระหม่อมอุบลรัตน์ และสมเด็จพระเทพเท่านั้น (ป๋าเปรมสร้างหอประชุม มิวสิกฮอลล์ ยังต้องใช้ของวัดพระโคะ)
พระเครื่องจัดทำแค่สองหมื่นองค์ วันสุดท้ายคณบดีไปที่วัดเอง รอเกือบทั้งวัน (รอให้หน่วยกู้ระเบิดมาเก็บกู้วัดถุต้องสงสัยหน้าวัด เลยไม่ได้ทดสอบความศักด์สิทธ์หน้างาน)
ใครมีจิตศรัทธา เช่าพระ บริจาคได้นะฮะ ผมมโนไปว่า ถ้ามีญาติ คนไข้ มาบนเยอะๆ แก้บน ได้เงินบริจาคเยอะๆแบบพระพรหมเอราวัณได้ น่าจะดี จะได้ไปช่วยคนไข้อีกต่อนึง
(เพื่อนรองคณบดีืท่านนี้แซ่เดียวกะผมฮะ เราสองคนแซ่เดียวกะเสี่ยจืดคนดังนั่นแหละ แต่เราเล่นกอล์ฟไม่เป็น และยังไม่มีหุ้นมากพอจะไปฝากแค้ดดี้ พริตตี้ไรนั่นด้วย ผมชวนเค้าเข้าวงการมานานแระ เพิ่งมายอมตอนสหกรณ์มหาลัยไปตกคลอง(จั่น)เจ็ดร้อยล้านนั่นแหละ)

ยกมือครับ หมอหนึ่ง ผมจะติดต่อไปนะ

[saichon]

รักเพื่อนๆทุกคนนะฮะ จุ๊บๆ

ผมก็รักพี่หนึ่งฮ่ะ...

แฮ่...ว่าแต่ช่วงนี้มีหุ้นให้น้องๆเอาศึกษาต่อบ้างป่าวฮ่ะ...

[Nevercry.boy]

รักเพื่อนๆทุกคนนะฮะ จุ๊บๆ

ผมก็รักพี่หนึ่งฮ่ะ...

แฮ่...ว่าแต่ช่วงนี้มีหุ้นให้น้องๆเอาศึกษาต่อบ้างป่าวฮ่ะ...

สถานการณ์ น้ำมันปาล์ม แถวบ้านเป็นอย่างไรบ้างครับ พี่สายชล

[ดำ]

11 สิ่งที่คุณจะเรียนรู้ได้จากวอเร็น บัฟเฟตต์

“Whether we’re talking about socks or stocks, I like buying quality merchandise when it is marked down.“

1.Value investing works. Buy bargains. การลงทุนเน้นคุณค่าใช้ได้ในทุกสถานการณ์ พยายามซื้อหุ้นที่มีส่วนต่างเพื่อความปลอดภัย

2. คุณภาพของธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจที่มีคุณภาพสูง ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไร ก็ยังมีคุณภาพสูงต่อไป เวลาจะเป็นมิตรกับธุรกิจที่ดี ในขณะเดียวกันจะเป็นศัตรูกับธุรกิจที่มีคุณภาพต่ำ นักลงทุนต้องเฟ้นหาธุรกิจที่มีคุณภาพหรือกำแพงและคูเมืองล้อมรอบอยู่ ..

3. อย่ากระจายความเสี่ยง! อย่าซื้อหุ้น มากตัวจนเกินไปเพียงเพราะต้องการกระจายความเสี่ยง ความเสี่ยงเกิดจากสิ่งที่คุณไม่รู้ว่าได้ทำอะไรลงไป ลงทุนให้เหมือนกับว่าคุณมีโอกาสได้ซื้อหุ้นเพียง 20 ครั้งในชีวิต แน่นอนว่าแต่ละครั้งคุณจะต้องคิดให้ดีก่อนการตัดสินใจซื้อ การเคลื่อนไหวที่บ่อยเกิดไป เราจะยิ่งผิดพลาดมากเท่านั้น

วอเร็น บัฟเฟตต์เคยเขียนเรื่องการซื้อ-ขายหุ้นที่บ่อยเกินไปไว้ในรายงานประจำปีว่า ""นาน มาแล้ว เซอร์ไอแซคนิวตันให้กฎ 3 ข้อของการเคลื่อนที่ของวัตถุซึ่งเป็นผลงานที่เป็นอัจฉริยะ แต่ความสามารถของนิวตันไม่คลุมไปถึงเรื่องการลงทุน เขาขาดทุนมากมายในวิกฤตการณ์ ฟองสบู่เซาท์ซี

เขากล่าวภายหลังว่า "ผมสามารถคำนวณการเคลื่อนไหวของดวงดาวได้ แต่ผมไม่สามารถคำนวณความบ้าคลั่งของคนได้" .... ถ้าเขาไม่ถูกทรมานจากการขาดทุนในครั้งนั้นมากเกินไป เขาคงได้ค้นพบกฎข้อที่ ๔ ของการเคลื่อนไหว นั่นคือ "สำหรับนักลงทุนโดยรวม ผลตอบแทนลดลงเมื่อมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น"

4. ความอดทนและรอคอยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่สามารถผ่านปัญหาของความอดทนได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุน

5. ความเสี่ยงไม่ได้เกิดจากความผันผวนของราคาหุ้น แต่เกิดจากการกระทำที่คุณไม่รู้ต่างหาก ความผันผวนของราคาหุ้นเรามองเห็นมันเป็นโอกาส โอกาสที่จะได้ซื้อหุ้นที่ดีในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า

6. มันมักจะเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงอยู่เสมอ ดังนั้น "จงเตรียมพร้อม"

7. ความผิดพลาดในการลงทุน จะทำให้คุณโตขึ้น จงอย่ายอมแพ้

8. ถือเงินสดไว้บ้างเพื่อรอโอกาส เป็นความคิดที่ดีเพราะมันมักจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้หุ้นตก

9. ความซื่อสัตย์ต่อตัวเองเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของนักลงทุน การยอมรับความผิดพลาดจะทำให้เราเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ จงเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วอย่าทำมันอีก

10. จงซื้อหุ้นให้เหมือนกับซื้อธุรกิจ เพราะหุ้นคือส่วนหนึ่งของธุรกิจ ถ้าธุรกิจดี ผู้ถือหุ้นก็จะได้ประโยชน์ ในขณะที่ธุรกิจแย่ ผู้ถือหุ้นก็จะแย่ตามไปด้วย จงอย่าสนใจความผันผวนของราคาหุ้นระยะสั้น

11. ทำในสิ่งที่คุณรัก ให้เหมือนกับว่างานประจำของคุณคือการทำงานอดิเรกไม่ใช่งานที่คุณต้องผะอืดผะอมไปทำในทุกๆเช้า

(สรุปจากบทความ The Financial Times : Learning from Warren Buffett)
http://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=343

[ดำ]

ตั้งแต่อ่านหนังสือแก่นฯ จบ ทำให้เข้าใจข้อ 5. ดีขึ้นมากเลยครับ

5. ความเสี่ยงไม่ได้เกิดจากความผันผวนของราคาหุ้น แต่เกิดจากการกระทำที่คุณไม่รู้ต่างหาก ความผันผวนของราคาหุ้นเรามองเห็นมันเป็นโอกาส โอกาสที่จะได้ซื้อหุ้นที่ดีในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า

[saichon]

สถานการณ์ น้ำมันปาล์ม แถวบ้านเป็นอย่างไรบ้างครับ พี่สายชล

สวัสดีครับพี่NB
เรื่องน้ำมันปาล์มผมไม่ค่อยได้ตามเลยครับ
แค่พอรู้ราคาซื้อขายผลปาล์มจากชาวสวนบ้างแค่นั้นเองครับ
ช่วงนี้หุ้นโรงงานปาล์มน่าสนใจเหรอครับ

[dr1]

ท่านsaichonที่รักจ๊ะ
เรื่องหุ้นตอนนี้ในห้องลับแล แชร์ไอเดียกันหลากหลายมาก ตะละคนลงทุนไม่เหมือนกันซักคนเลยจ้ะ
ผมก็เข้าไปปลงอาบัติ เอ๊ย..สารภาพบาปเป็นพักๆ ว่าติดดอยตัวไหนอยู่มั่ง(ซื้อมาตั้งแต่สมัยยังไม่มีวิชา"หุ้นน่ะ ไม่ซื้อไม่ขาดทุน"จาก อ.lekyโน่น) อ.แต่ละท่านในห้องก็ช่วยกันสมน้ำหน้า เอ๊ยกรุณาบอกข้อเสี่ยงหลุมพรางหุ้นบนดอยมาให้กระจ่างขึ้นเยอะฮะ ตอนนี้ก็เลยค่อยๆลอกหุ้นแต่ละท่าน แล้วค่อยๆทะยอยซื้อไปประสาคนตังค์น้อยฮะ
ว่าแต่ว่ามี้ตติ้งวีไอภาคใต้เที่ยวล่าสุด มีหุ้น รึไอเดียไรดีๆมาเล่าให้ฟังกันมั่งก็น่าจะดีนะฮะ
รึจะเล่าให้ฟังหุ้นในผอร์ทท่านsaichonมั่งก็ได้ ว่าผลงานเป็นไง ขายหมู ติดดอย ล้างตา ล้างผอร์ท รวยเละขนาดไหนแล้ว รึไปAGMถ่ายรูปกะผบห.บ.ใหม่ๆที่ไหนมามั่ง ลงรูปให้สมาชิกใบ้หุ้น เอ๊ย เห็นความหล่อกันนิสนุงนะจ๊ะ

เรื่องพระเครื่องสร้างวิหารหลวงพ่อทวด ที่รพ.สงขลานครินทร์ ที่มีสมาชิกหลายท่านสนใจกัน
ผมได้ข้อมูลจากท่านรองคณบดีแล้วครับ ว่าพระสร้างเสร็จแล้ว รอกล่องใส่(เป็นไม้โอ๊คอย่างงามแบบแคลสสิกวินเถจ)
แบบทองและเงินจะมีซีเรียลนัมเบอร์(รุสึกจะราคาหกกะห้าหลัก)แบบอะปาก้า(โลหะผสม)หลักร้อยเท่านั้น
มีใบอนุโมทนาของ"มูลนิธิรพ.สงขลานครินทร์"ไว้หักภาษีได้ฮะ ได้รายละเอียดแล้วจะรีบคาบข่าวมาบอกนะฮะ
แต่ท่าท่านใดไม่อยากรอข่าว(ซึ่งผมอาจได้ข่าวมาไม่ทันใจ) ลองติดต่อมูลนิธิไว้ก่อนได้เลยฮะ

ท่านรองคณบดีเล่าให้ฟังเรื่องSCG มาเซ็นMOU เรื่องพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์กับคณะ(รุสึกจะประกาศออกสื่อแล้ว)
คือตอนนี้ทีมวิจัยSCGเก่งมาก ผสมพลาสติกได้ทุกรูปแบบ ตั้งแต่แข็งแบบโลหะ ไปถึงนิ่มแบบนุ่น
ผมเลยขอเสนอไอเดียเป็นลำดับขั้น ในการวิจัยร่วมกันไปนะฮะ

ขั้นแรกขอพลาสติกชนิดแข็งมาแทนโลหะก่อน เช่น เตียง เก้าอี้วีลแชร์ ไม้เท้า เฟอร์นิเจ้อร์ต่างๆ
โดยเฉพาะวีลแชร์ ขอเป็นน้ำหนักเบาพับเก็บขนย้ายง่าย ถอดประกอบแบบใช้มือ (ไม่ต้องใช้เครื่องมือน๊อตประแจไขควงไรนั่น)ถอดล้อออกแล้วดูเป็นเฟอร์นิเจ้อร์ปกติได้ยิ่งดี
ล้อก็เป็นพลาสติกให้หมดตั้งแต่ส่วนแข็งที่เป็นก้านเป็นวง ไปถึงส่วนนิ่มที่เคยเป็นล้อยางสูบลม เอาแบบเป็นพลาสติกไม่ต้องสูบลม(เป็นaircell เล็กๆหล่อติดขอบล้อไปเลยเป็นชิ้นเดียวกันก็ได้)
เตียงหนักๆที่เคยเป็นเหล็ก ก็เป็นพลาสติก ปรับระดับได้ง่ายเบามือ พับเก็บได้เล็กๆ รึยืดหดได้ เข้าลิฟท์ เข็นไปแผนกอื่นโดยไม่ต้องยกคนไข้ขึ้นลงเปลนอน เป็นมอดูล่าต่อส่วนเพิ่มได้
เช่นต่อเสาน้ำเกลือ ราวกันตก ชั้นวางเครื่องมือ โคมไฟ ที่เก็บของส่วนตัว ไม่ต้องมีโต๊ะข้างเตียง
ส่วนที่เป็นเบาะก็ลองออกแบบเป็นถุงลมเล็กๆ สูบลมเข้าออกอ่อนแข็ง เพื่อลดแผลกดทับ ลดแรงงานพยาบาลที่ต้องมาพลิกตัวคนไข้
รึจะทำเป็นเบาะแบบไม่ต้องมีผ้าปู ซึมเปื้อนด้านเดียว เวลาของสกปรกซึมลงไปก็ดูดซับได้หมด เอาไปซักกับเครื่องซักผ้าได้เลย(เบาะบางๆ ส่วนเตียงส่วนที่นุ่มเพื่อจะใช้เบาะบางๆได้ ก็ให้ล้างได้ง่าย

ขั้นต่อมาก็ลองออกแบบพลาสติกเป็นเครื่องใช้ภายนอกก่อน
พวกไม้เท้า ราวจับ พวกนั้นก็คงทำอยู่แล้วมั้งฮะ ลองเป็นส่วนต่อเติมแบบDIYดูก็ได้ฮะ
เช่น ห้องน้ำส้วมนั่งยอง ลองออกแบบส้วมนั่งราบแบบพลาสติกที่เอาไปสวมคอห่านได้เลยแบบไม่ต้องเปลี่ยนชักโครก (วิจัยระดับความสูงที่คนแก่ลุกขึ้นลงได้สะดวก)พร้อมท้าวแขนช่วยลุกขึ้นลง
รึเป็นพ้ืนไม้สังเคราะห์ปรับระดับห้องน้ำให้เสมอกัน เอาแบบทำเองได้ไม่ต้องพึ่งช่างนะฮะ
รึจะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปพลาสติกทั้งห้องสำหรับสูงวัย ไม่ต้องใหญ่ เป็นแค่ตู้ๆนึง เข้าไปนั่งแล้วทั้งถ่ายหนักเบา ล้างหน้า อาบน้ำได้เสร็จในตัวแบบไม่ต้องเข็นวีลแชร์เข้าออก (อันตรายที่สุดของคนแก่คือสะดุดล้มตอนเข้าออกห้องน้ำนี่แหละ) รึเอาเป็นเครื่องอาบน้ำ(แบบเครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน)อะไรนั่นก็ได้ฮะ

ต่อมาก็เป็นพลาสติกทางการแพทย์ สายน้ำเกลือ ฟิลเต้อร์ไตเทียม ชุดผ่าตัด ผ้าปู ชุดทำแผล พวกใช้แล้วทิ้งเลย
(ไม่แน่ใจว่าทิ้งเลย กะขนกลับไปซักล้างใช้ใหม่ อันไหนเปลืองน้ำ เปลืองพลังงานมากกว่ากัน แบบผ้าอ้อม ผ้าเช็ดหน้า ผ้าอนามัย ผ้าพันแผล กางเกงใน)

ถ้าเก่งกว่านั้นก็ค่อยเป็นพลาสติกใช้ในร่างกายนะฮะ แทนโลหะดามกระดูก ฟัน คอยล์สปริงในหลอดเลือดหัวใจ อะไรก็ว่าไป(พวกนี้ต่อยอดจากความรู้โลหะ พวก isoelasticity, ultimate tensile strengh, fatique strenght,surface porous size for tissue incorporation ที่มีอยู่เดิมได้เลย)

วีไอแก่ หายใจทิ้งไปวันๆ รอวันไป(ไปไหนก็ไม่รุ) รายงาน

[saichon]

ท่านsaichonที่รักจ๊ะ
เรื่องหุ้นตอนนี้ในห้องลับแล แชร์ไอเดียกันหลากหลายมาก ตะละคนลงทุนไม่เหมือนกันซักคนเลยจ้ะ
ผมก็เข้าไปปลงอาบัติ เอ๊ย..สารภาพบาปเป็นพักๆ ว่าติดดอยตัวไหนอยู่มั่ง(ซื้อมาตั้งแต่สมัยยังไม่มีวิชา"หุ้นน่ะ ไม่ซื้อไม่ขาดทุน"จาก อ.lekyโน่น) อ.แต่ละท่านในห้องก็ช่วยกันสมน้ำหน้า เอ๊ยกรุณาบอกข้อเสี่ยงหลุมพรางหุ้นบนดอยมาให้กระจ่างขึ้นเยอะฮะ ตอนนี้ก็เลยค่อยๆลอกหุ้นแต่ละท่าน แล้วค่อยๆทะยอยซื้อไปประสาคนตังค์น้อยฮะ
ว่าแต่ว่ามี้ตติ้งวีไอภาคใต้เที่ยวล่าสุด มีหุ้น รึไอเดียไรดีๆมาเล่าให้ฟังกันมั่งก็น่าจะดีนะฮะ
รึจะเล่าให้ฟังหุ้นในผอร์ทท่านsaichonมั่งก็ได้ ว่าผลงานเป็นไง ขายหมู ติดดอย ล้างตา ล้างผอร์ท รวยเละขนาดไหนแล้ว รึไปAGMถ่ายรูปกะผบห.บ.ใหม่ๆที่ไหนมามั่ง ลงรูปให้สมาชิกใบ้หุ้น เอ๊ย เห็นความหล่อกันนิสนุงนะจ๊ะ

กราบขอบพระคุณท่านพี่dr1เป็นอย่างสูงครับ
สำหรับมี้ตติ้งครั้งล่าสุดพี่โจกับพี่วรพงศ์สลับกันสอนและตอบคำถามน้องๆทุกคำถามเหมือนเช่นเคยครับ
เท่าที่จำได้พี่โจเกริ่นว่าปีนี้ตลาดลบจากต้นปีไปประมาณ9เปอร์เซ็นต์
แต่หุ้นหลายตัวทำนิวไฮต่อเนื่อง เช่น cpall hft tasco ฯลฯ
ฉะนั้นเราควรยึดหลักในการเลือกดูหุ้นเป็นตัวๆซึ่งสำคัญกว่าการดูดัชนี เหมือนที่เคยสอนน้องๆมาตลอดครับ

สำหรับการอ่านข่าวแต่ละวันจากเวบของตลาดหลักทรัพย์นั้น
พี่โจบอกว่าดูเฉพาะข่าวที่เกี่ยวข้องและกระทบกับผลประกอบการของบริษัทฯอย่างมีนัยยะ,
การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ,การได้มาซึ่งสินทรัพย์ ซึ่งก็จะประมาณ10เปอร์เซ็นต์ของข่าวทั้งหมด
ส่วนคำคมรอบนี้เท่าที่จำได้คือ ราคาหุ้นคือมายา มูลค่าคือของจริง,
อะไรที่เป็นกระแส มักจะจบไม่สวย เป็นต้นครับ

ประเด็นอื่นๆก็เช่น
-น้ำมันลงทำให้หุ้นโภคภัณฑ์หลายตัวลงมาเยอะ การซื้อหุ้นแพงเหนื่อย ต้องซื้อหุ้นที่มีmos
-การดูความสามารถทางการแข่งขันใช้ 5-force model

ในส่วนพี่วรพงศ์รอบที่ผ่านมา
เริ่มต้นด้วยการมาปลุกยักต์ในตัวน้องๆว่า...
คนที่อยากรวยต้องมีเป้าหมาย,ลงมือทำ และตื่นมาต้องพูดว่า Yes I can...!!

นอกจากนั้นยังมีตัวอย่างการเลือกหุ้นที่มีDCAทั้งหุ้นไทยและหุ้นตปท.หลายบริษัทมาสอนน้องๆครับ
ตัวอย่างเช่นหุ้นธนาคารของไทย ที่พี่วรพงศ์บอกว่า สภาพแวดล้อมทางการแข่งขันดี
ที่อเมริกามีธนาคารเยอะ
ขณะที่ธนาคารในไทยมี10กว่าธนาคาร และในอนาคตมีโอกาสน้อยกว่าปัจจุบัน
นอกจากนั้นธนาคารยังมีการขายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆตลอด ทำให้หุ้นธนาคารของไทยเป็นธุรกิจที่ดี
หุ้นตัวที่พี่วรพงศ์ยกตัวอย่างให้ฟัง เป็นธนาคารที่เป็นเมืองหลวงของประเทศเราหน่ะครับ
(แฮ่...คำใบ้ยากไปไม๊ครับ 555+)
ซึ่งหุ้นตัวนี้เป็นธนาคารใหญ่ ทำให้ต้นทุนทางการเงินต่ำกว่าธนาคารขนาดเล็ก

อีกตัวที่พอจำได้คือหุ้นที่เป็นเจ้าของเวบ booking.com และ agoda ชื่อไปป์ไลน์
(ถ้าพิมพ์ผิดก็กราบขออภัยน๊ะครับ)
ตัวนี้เป็นเทรนด์ปัจจุบันและจะต่อเนื่องไปในอนาคตที่คนจะท่องเที่ยวและจองที่พักทางอินเตอร์เน็ตกันเยอะขึ้นเรื่อยๆครับ
มีจุดแข็งคือมีเครือข่ายเยอะ ลูกค้าเข้าหา ทำให้เข้าสู่วงจรแห่งความรุ่งเรือง
มี cost advantage
(มีพี่ๆบางท่านช่วยเสริมว่าให้ดูเวบคู่แข่งประกบไว้หน่อยก็ดีครับ)

ส่วนผมเองไม่ค่อยมีไอเดียกับหุ้นใหม่ๆกับเค้าหรอกครับ
ใช้หลักการเดิมๆ ถือหุ้นก็ตัวเดิมๆที่เคยเล่าให้พี่หนึ่งฟังนั่นแหละครับ
มีการสวิชหุ้นไปถือตัวที่คาดว่าผลตอบในอนาคตจะดีกว่าตัวที่ราคาขึ้นมาเยอะๆแล้วบ้าง
ปีนี้ผลตอบแทนก็แค่บวกอยู่ประมาณ10กว่าเปอร์เซ็นต์แค่นั้นเองครับ

ว่าแต่พี่หนึ่ง,พี่ๆและเพื่อนๆละครับ ปีนี้เป็นไงกันบ้างครับ

[Nevercry.boy]

ปีนี้ขาดทุนครับพี่สายชล

[leky]

เรื่องหุ้นตอนนี้ในห้องลับแล แชร์ไอเดียกันหลากหลายมาก ตะละคนลงทุนไม่เหมือนกันซักคนเลยจ้ะ
ผมก็เข้าไปปลงอาบัติ เอ๊ย..สารภาพบาปเป็นพักๆ ว่าติดดอยตัวไหนอยู่มั่ง(ซื้อมาตั้งแต่สมัยยังไม่มีวิชา"หุ้นน่ะ ไม่ซื้อไม่ขาดทุน"จาก อ.lekyโน่น) อ.แต่ละท่านในห้องก็ช่วยกันสมน้ำหน้า เอ๊ยกรุณาบอกข้อเสี่ยงหลุมพรางหุ้นบนดอยมาให้กระจ่างขึ้นเยอะฮะ ตอนนี้ก็เลยค่อยๆลอกหุ้นแต่ละท่าน แล้วค่อยๆทะยอยซื้อไปประสาคนตังค์น้อยฮะ

ผมว่าห้องลับแลนี่แปลกมากครับ แต่ละคนคนละสไตล์ แต่ก็ยังคุยกันได้ วงยังไม่แตก 555

ใครเสนอหุ้นตัวไหนเข้ามา มักจะโดนแย้ง ฝึกการต้านกระแสได้ดีทีเดียว

ผมเคยเสนอว่าถ้าเมื่อไหร่ มีหุ้นตัวไหนที่ทุกคนต่างเห็นด้วยหุ้นตัวนั้นน่าจะเป็น "ซุปเปอร์หุ้น"

แต่ก็มีคนเห็นแจ้งว่า เหตุการณ์นั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะหุ้นตัวนั้นน่าจะ perfect มากจนมันไม่น่าจะมีอยู่จริง

[leky]

แนะนำrobot trading ดูกราฟลูกเดียว สมมติฐานคือ ไม่ตกรถ แต่ถ้าหุ้นลงคัทลอสเสียหายไม่มาก
ผลตอบแทนราวๆ30%ต่อปี แต่พอหักค่าบริหารแล้วเหลือ10%กว่าๆ

ผลตอบแทนโหดมากครับ ถ้าทำติดต่อได้เป็นสิบปีนี่ชนะบัฟเฟตต์ขาดลอย
แต่ที่โหดกว่าคือค่าบริหารพอร์ตครับ

เทรดตามสูตรพวกนี้ ขอแบบที่พิสูจน์จากของจริง ไม่ใช่ทำ Back test ให้ได้มี record ผ่าน cycle ใหญ่สักรอบค่อยมาคุยกันดีกว่าครับ
ที่เห็นในตลาด ส่วนใหญ่เพิ่งตั้งไข่ไม่ถึงปี อาศัย Back test มาอ้างอิง เหมือนดาวรุ่งเล่นดีไม่กี่นัด แล้วอ้างว่าตอนซ้อมเล่นดีมากนะ ผมว่ายังเร็วไปครับ

อีกอย่างนะครับ ใครช่วยยกตัวอย่างทีว่า ในเมืองนอกมี Robot trade ที่ไหนประสบความสำเร็จต่อเนื่องยาวนานบ้าง ผมเองเท่าที่ผ่านตามา มันไม่น่าจะมีแฮะ

ผมว่าผมเคยฟังนะ มีคนมานำเสนอแนวทางนี้ หาลูกค้า ไอเดียของเค้าคือ "อยากเจอคนที่ขาดทุน" ประมาณอยากช่วยให้ออกจากหลุม ใครได้กำไรอยู่แล้วไม่ใช่เป้าหมาย

ถ้าตลาดไม่อำนวย โปรแกรมนี้จะนิ่ง ไม่ทำอะไร ถ้ากำไรขอแบ่ง 30% แต่ถ้าขาดทุน ขอแบ่งให้คุณรับไปคนเดียว 555

แต่ผมเห็นด้วยว่าผลตอบแทนที่เค้าเอามาให้ดู มันสั้นเกินไปครับ และเราก็อาจจะถูกหลอกจากภาพลวงตาที่เลือกเอามาแต่ช่วงที่ตลาดดี ๆ