Thai VI

ผมไป Money Expo เพื่อจะได้ไปเจอผู้เป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยมทั้งสองคนถึง
ดร.นิเวศน์ กับ พี่วิบูลย์    :D  :D

หลังจากได้เข้าฟัง Money Talk ได้มีโอกาสฟัง ดร.นิวเวศน์ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์(ไม่แน่ใจชื่อหนังสือพิมพ์ครับ) ในหัวข้อการลงทุนแบบ Value Investment ของท่าน นับเป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆ (ได้เอาหนังสือตีแตกไปขอลายเซ็นด้วย  :lol: )  

เรื่องการออมและการลงทุน ที่พี่วิบูลย์ ประกบคู่กับ ดร.สุวรรณ ถ้าใครได้เข้าไปฟังคงจะรู้สึกแปลกๆเหมือนผม เพราะแนวทางการลงทุนและความคิดของท่านทั้งสองแทบจะคนละแนวกันเลย และเหมือน ดร.สุวรรณ จะไม่มีค่อยมีความเข้าใจการลงทุนแนว VI มากนัก

แนวคิดการลงทุนแบบ VI ของพี่วิบูลย์ที่ได้ถ่ายทอดออกมา มีความคล้ายกับบทสัมภาษณ์ของดร.นิเวศน์ มาก ผมว่าเป็นแนวคิดที่มีเหตุผลและสามารถในไปใช้ได้จริง ในทุกสภาวะเศรษฐกิจเลยทีเดียว  

ปล.ผมเด็กเสื้อขาวใส่แว่น ที่ถามพี่ถึง กฏเกณฑ์(เหตุผล)ในการซื้อ เมื่อไม่อยู่ในกฏเกณฑ์(เหตุผลที่ซื้อ)ควรขายหุ้นรึเปล่า จำได้มั้ยครับ  :D

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ทุกๆคน
ผมจะพยายามรอยเท้า VI ที่พี่ๆทุกคนฝากเอาไว้ในเวปบอร์ดแห่งนี้ Thaivi.com

[quote="Buchi"]ผมไป Money Expo เพื่อจะได้ไปเจอผู้เป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยมทั้งสองคนถึง
ดร.นิเวศน์ กับ พี่วิบูลย์

ได้เจอน้อง buchi ทั้ง 2 วันในงาน Money Expo ได้เห็นความขยัน ตั้งใจในแนวทางการลงทุนที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มแรก เมื่อมีความพร้อมแล้วก็เปิดพอร์ทได้เลยครับ ถ้าคิดว่าศึกษากิจการที่จะลงทุนอย่างดี และซื้อได้ในราคาที่มี margin of safety ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ

ผมมีวิธีจำกัดความเสี่ยงแบบนี้ครับ  สองข้อ  ง่าย ๆ

1.  งบการเงินย้อนหลังสามปีขึ้นไป
   -กำไรต่อเนื่อง  เพิ่มทุกปียิ่งดี
   - roa   roe  npm  yield  growth
     สูตรก้อ  15  15  10  5  10  ตามลำดับ  ยิ่งสูงยิ่งดี
   - อัตราส่วนกำไรสุทธิ  ต่อหนี้สินระยะยาว
   - กระแสเงินสด  ถ้าเป็นแคชคอมปานี  ยิ่งแจ๋ว
2.  five  force  model  ไม่เคร่งครัดนัก  

ตามสูตรผมสองข้อ  คัดมาแล้ว  ไม่มีโมเดิร์นเทรด

แต่มีหุ้นยอดนิยมในเว็บนี้อยู่ตัวนึง  น่าจะเป็นหุ้นในดวงใจได้
พี่วิบูลย์  เห็นเป็นงัยบ้างครับ  ห้องใหญ่ไม่มีคนสนใจผมเลย

ซื้อหนังสือ Value Way มาเลยตามมาห้องนี้ครับ :lol:

[quote="juntuma"]

[quote="juntuma"]ผมมีวิธีจำกัดความเสี่ยงแบบนี้ครับ

ท่านพี่ฉัตรชัยครับ  กระแสเงินสดด้านบัญชีคงต้องให้พี่ชี้แนะครับ
สำหรับผม  ความรุ้มีเพียงน้อยนิด  แคชคอมปานีคือ

บริษัทดำเนินงานมีกำไร  เก็บเงินได้จริง  ไม่ใช่มีแต่ตัวเลขกำไร
ขยายกิจการโดยไม่ต้องกู้  ไม่มีหนี้สินระยะยาว  
มีแต่เจ้าหนี้การค้าซึ่งเป็นปกติของธุรกิจ  ซึ่งยังไม่ครบกำหนดชำระ

มีเงินจ่ายปันผลเยอะแล้ว  งบกระแสสดยังเป็นบวกเมื่อสิ้นงวดบัญชี

ผมยังหาไม่เห็นครับ  เห็นแต่ที่ดูงบกระแสเงินสดเหลือไม่พอจ่ายปันผล
ต้องรอเงินสดเข้ามาในงวดใหม่จึงจะพอ  หรือไม่ก้อต้องโอดีมาจ่าย

แล้วพี่เห็นแคชคอมปานีบ้างยังครับ  แง้มให้ดูซักนิดครับ

สำหรับโมเดิร์นเทรด  จุดแข็งคือคนใหม่เข้ามายากก้อจริงครับ
รับประกันได้ว่าไม่มีเจ๊ง  มีแต่โตขึ้นเรื่อย ๆ  ตามภาวะเศรษฐกิจ

สำหรับผมตอนนี้  โมเดิร์นก้อชอบนะครับ  ยกเว้นโฮมโปร  แต่ราคามันซื้ออนาคตไปหน่อย  เกี่ยงตรงนี้แหละครับ

สวัสดีครับ พี่พี่
ผมขอสมัครเป็นสมาชิกใหม่ครับ
เริ่มเข้ามาในตลาดประมาณ 3-4 เดือน
และได้เริ่มอ่านกระทู้นี้ มาได้ประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ
อ่านได้ครึ่งนึงแล้ว (732 หน้า จาก 1323 หน้า ใน MS Word)
ตอนแรกตั้งใจว่าจะอ่านให้จบก่อน
แล้วจะมาถามพวก พี่พี่
แต่พอดีไปพบหุ้นตัวหนึ่ง น่าสนใจ
เลยต้องมาขอความเห็นพี่ ๆ ก่อนจะอ่านจบครับ

หุ้นตัวนี้
ผลิตภัณฑ์เป็น ธุรกิจผลิตเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านและอุตสาหกรรม รวมถึงยาฆ่าแมลงด้วย
สิ่งที่น่าสนใจ
1. หนี้ไม่สูงมาก 0.46 เมื่อเทียบกับผู้ถือหุ้น
2. มีการนำเข้าวัตถุดิบ น่าจะได้อานิสงส์จากค่าเงินบาท
3. กำไรใน Q1/50 = 0.118 เมื่อเทียบกับ Q1/49 = 0.01 เพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว
เมื่อเทียบกับ Q4/49 = 0.076.
สิ่งที่ต้องสงสัย คือ
เมื่อผมไปดูที่งบดุล ปริมาณเงินสด กลับลดลง จาก 41.5 ล้านบาท Q4/49 เหลือ 7.8 ล้านบาท Q1/50
ผมไปดูต่อที่งบกระแสเงินสดมีการชำระเจ้าหนี้การค้าเพิ่ม 10 ล้านบาท
แต่เงินสดหายไป 33.7 ล้านบาท ดูแล้วไม่เข้าใจ
เนื่องจากผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องงบต่าง ๆ เลยแกะไม่ได้
ต้องขอรบกวนพวก พี่พี่ครับ ว่าหุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือไม่ครับ

[quote="juntuma"]ผมมีวิธีจำกัดความเสี่ยงแบบนี้ครับ

ninesenior เขียน:สวัสดีครับ พี่พี่
ผมขอสมัครเป็นสมาชิกใหม่ครับ
เริ่มเข้ามาในตลาดประมาณ 3-4 เดือน
และได้เริ่มอ่านกระทู้นี้ มาได้ประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ
อ่านได้ครึ่งนึงแล้ว (732 หน้า จาก 1323 หน้า ใน MS Word)
ตอนแรกตั้งใจว่าจะอ่านให้จบก่อน
แล้วจะมาถามพวก พี่พี่
แต่พอดีไปพบหุ้นตัวหนึ่ง น่าสนใจ
เลยต้องมาขอความเห็นพี่ ๆ ก่อนจะอ่านจบครับ

หุ้นตัวนี้
ผลิตภัณฑ์เป็น ธุรกิจผลิตเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านและอุตสาหกรรม รวมถึงยาฆ่าแมลงด้วย
สิ่งที่น่าสนใจ
1. หนี้ไม่สูงมาก 0.46 เมื่อเทียบกับผู้ถือหุ้น
2. มีการนำเข้าวัตถุดิบ น่าจะได้อานิสงส์จากค่าเงินบาท
3. กำไรใน Q1/50 = 0.118 เมื่อเทียบกับ Q1/49 = 0.01 เพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว
เมื่อเทียบกับ Q4/49 = 0.076.
สิ่งที่ต้องสงสัย คือ
เมื่อผมไปดูที่งบดุล ปริมาณเงินสด กลับลดลง จาก 41.5 ล้านบาท Q4/49 เหลือ 7.8 ล้านบาท Q1/50
ผมไปดูต่อที่งบกระแสเงินสดมีการชำระเจ้าหนี้การค้าเพิ่ม 10 ล้านบาท
แต่เงินสดหายไป 33.7 ล้านบาท ดูแล้วไม่เข้าใจ
เนื่องจากผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องงบต่าง ๆ เลยแกะไม่ได้
ต้องขอรบกวนพวก พี่พี่ครับ ว่าหุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือไม่ครับ

บอกชื่อหุ้นมาก็ได้ครับ
จะได้ช่วยกันดูว่ามันคือตัวไหน ธุรกิจอะไร
เพราะบางครั้งแต่ละธุรกิจมีความต้องการการใช้เงินลงทุนไม่เหมือนกัน

ข้อมูลที่ให้ไม่พอครับที่จะบอกว่าน่าสนใจหรือเปล่า

เอ...ช่วงนี้กระทู้นี้เงียบเหงาจังเลยค่ะ
เข้ามาขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการวิเคราะห์อนาคตของบริษัทค่ะ

ทำไมวิเคราะห์ยากจัง และแต่ละคนก็มีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน (โดยทั่วไปไม่ได้เจะจงว่าเป็นบริษัทไหน)
ส่วนงบการเงินต่างๆยังพอหาข้อมูลและวิเคราะห์ได้บ้าง เพราะมีตำราที่สามารถช่วยทำให้เข้าใจง่ายขึ้น

เราควรทำยังไงคะถึงจะวิเคราะห์บริษัทในอนาคตได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด

ใครมีความคิดเห็นยังไงบ้างคะ รบกวนด้วยค่ะ

VIB007 เขียน: บอกชื่อหุ้นมาก็ได้ครับ
จะได้ช่วยกันดูว่ามันคือตัวไหน ธุรกิจอะไร
เพราะบางครั้งแต่ละธุรกิจมีความต้องการการใช้เงินลงทุนไม่เหมือนกัน

ข้อมูลที่ให้ไม่พอครับที่จะบอกว่าน่าสนใจหรือเปล่า

SWC ครับ

ninesenior เขียน:
SWC ครับ

ใครทราบข้อมูล SWC
ช่วยมาแชร์หน่อยครับ

lieu เขียน:เอ...ช่วงนี้กระทู้นี้เงียบเหงาจังเลยค่ะ
เข้ามาขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการวิเคราะห์อนาคตของบริษัทค่ะ

ทำไมวิเคราะห์ยากจัง และแต่ละคนก็มีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน (โดยทั่วไปไม่ได้เจะจงว่าเป็นบริษัทไหน)
ส่วนงบการเงินต่างๆยังพอหาข้อมูลและวิเคราะห์ได้บ้าง เพราะมีตำราที่สามารถช่วยทำให้เข้าใจง่ายขึ้น

เราควรทำยังไงคะถึงจะวิเคราะห์บริษัทในอนาคตได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด

ใครมีความคิดเห็นยังไงบ้างคะ รบกวนด้วยค่ะ

ต้องเข้าใจธูรกิจที่เราลงทุน
และมองเห็นอนาคตได้

ถ้าเราเป็นมีอาชีพเป็นหมอ
เราคงเข้าใจธุรกิจโรงพยาบาลมากกว่าธุรกิจปิโตรเคมีแน่
แต่หมอก็ชอบซื้อ ATC มากกว่าหุ้นโรงพยาบาล
เพราะมันวิ่งกว่า

ถ้าสนใจเรื่องการวิเคาระห์บริษัท
ลองหาหนังสือของ Philip Fisher มาอ่านดู

VIB007 เขียน: ต้องเข้าใจธูรกิจที่เราลงทุน
และมองเห็นอนาคตได้

ถ้าเราเป็นมีอาชีพเป็นหมอ
เราคงเข้าใจธุรกิจโรงพยาบาลมากกว่าธุรกิจปิโตรเคมีแน่
แต่หมอก็ชอบซื้อ ATC มากกว่าหุ้นโรงพยาบาล
เพราะมันวิ่งกว่า

ถ้าสนใจเรื่องการวิเคาระห์บริษัท
ลองหาหนังสือของ Philip Fisher มาอ่านดู

  ขอบคุณมากค่ะ พี่วิบูลย์
เอ หนังสือของ Phillip Fisher ที่ว่านี่ ใช่ Commom socks and uncommom profits รึปล่าวคะ
มันคือ หลัก15 ข้อ ใช่มั้ยเอ่ย

ปัญหาต่อมา ก็คือว่า ถึงแม้เราจะอยู่ในธุรกิจนั้นๆ แต่ความเข้าใจในตัวธุรกิจอย่างแท้จริงมีไม่มากนัก ก็เลยไม่ค่อยมั่นใจว่าที่คิดไว้จะถูกต้องรึปล่าว
แต่ก็ยังโชคดีที่มีพวกพี่ๆ คอยให้ความรู้และข้อมูลผ่านทางเวปอยู่ตลอด

ยังมีสิ่งที่จะต้องเรียนรู้อีกมากหากตั้งใจจะเป็นนักลงทุนที่ดี
จะพยายามต่อไปค่ะ สู้..โว้ย

ปล. ตอนนี้หยิบหนังสือ The Intelligent Investor ขึนมาปัดฝุ่นและเริ่มอ่านใหม่ค่ะ หลังจากที่ทิ้งไปนาน เพราะอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องก็เลยท้อไปพักนึง

lieu เขียน:เอ...ช่วงนี้กระทู้นี้เงียบเหงาจังเลยค่ะ
เข้ามาขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการวิเคราะห์อนาคตของบริษัทค่ะ

ทำไมวิเคราะห์ยากจัง และแต่ละคนก็มีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน (โดยทั่วไปไม่ได้เจะจงว่าเป็นบริษัทไหน)
ส่วนงบการเงินต่างๆยังพอหาข้อมูลและวิเคราะห์ได้บ้าง เพราะมีตำราที่สามารถช่วยทำให้เข้าใจง่ายขึ้น

เราควรทำยังไงคะถึงจะวิเคราะห์บริษัทในอนาคตได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด

ใครมีความคิดเห็นยังไงบ้างคะ รบกวนด้วยค่ะ

ตัวอย่างการวิเคราะห์โดยใช้
5 Force + SWAT + ประเด็นในการตรวจสอบหุ้น 10 ข้อของวอร์เรน + การรวบรวมข่าวสาร
โดยท่านประธานครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=6473

lieu เขียน:เราควรทำยังไงคะถึงจะวิเคราะห์บริษัทในอนาคตได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด

หลักการง่ายๆของผมนะครับ

เราก็เลือกบริษัทที่วิเคราะห์ง่ายๆซิครับ

ถ้าเราเลือกวิเคราะห์บริษัทใหญ่ๆมีธุรกิจหลากหลาย  บริษัทร่วม  บริษัทย่อยมากมาย  โอกาสพลาดก็ย่อมมากครับ

และบางธุรกิจ  ผลการดำเนินงานในงบกำไรขาดทุน  ไม่ได้แสดงถึงผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัทเลย  เช่น  ธนาคาร  กำไรหรือขาดทุนขึ้นอยู่กับการตั้งสำรองว่ามากหรือน้อยแค่ไหน  ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยมากกว่า

ผมเพิ่งเข้ามาอยู่กับตลาดได้ประมาณเดือนนึงครับ ยังไม่ค่อยรู้อะไรเลย อยากถามพวกพี่ๆว่า มีแนวทางในการมองหาหุ้นดีๆอย่างไรครับ เอาแบบวิธีที่ใช้มองอย่างเร็วอะครับ อย่างเห็นแล้วสะกิดใจว่าหุ้นนี้น่าจะดีเพื่อที่จะได้นำมาวิเคราะห์ต่อเพราะหากให้ไปหาข้อมูลทั้ง 400 กว่าบริษัทคงไม่ไหว  อีกอย่างนึงคือผมมีข้อจำกัดในด้านเงินทุนมาก คิดว่าคงจะลงทุนในบริษัทที่มี market cap ต่ำมากๆ แต่ติดที่โดยส่วนใหญ่บริษัทที่มี market cap ต่ำจะมีปัญหาขาดทุนเกือบทุกบริษัท อยากให้พี่ๆแนะนำเกี่ยวกับบริษัทที่มี market cap ต่ำด้วยครับ อยากโตไปพร้อมๆบริษัทครับ

ขอบคุณมากค่ะ คุณEyore และก็พี่ chatchai
ที่ช่วยตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น

ชอบเวปนี้ก็ตรงนี้ล่ะค่ะ สามารถปรึกษาและให้คำแนะนำดีๆแก่กันได้
โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน น่าทึ่งจริงๆ:B

ขอบคุณทุกๆคนค่ะ

อยากสอบถาม พี่ ๆ เกี่ยวกับข้อมูลเชิงปริมาณกับเชิงคุณภาพของบริษัท
คือ ส่วนใหญ่ที่เห็นในบทความจะเน้นเรื่องข้อมูลเชิงคุณภาพ
 - ธุรกิจมีความได้เปรียบอย่างไร
 - ผู้บริหารซื่อสัตย์หรือไม่
 - สินค้าโดดเด่น และเป็นเจ้าตลาดหรือไม่ เป็นต้น
ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณ การหา Intrinsic value ของกิจการ เช่น DCF , ECONOMIC PROFIT เป็นต้น
ซึ่งจะเน้นเรื่องความรู้งบการเงินต่างๆ ถึงจะสามารถคำนวณได้ถูกต้อง
แต่ผมเป็นคนนึงที่ไม่มีความรู้ด้านงบการเงินเลย และมือใหม่ ๆ ที่ไม่ได้จบการเงินคงจะมีปัญหาเดียวกับผม

จึงมีคำถามว่า ถ้ามือใหม่จะเริ่มต้นที่เน้นข้อมูลเชิงคุณภาพ + ข้อมูลเชิงปริมาณง่าย ๆ
เช่น PE , PBV , ROE , ROA ในการวิเคราะห์กิจการ และเริ่มลองซื้อทีละน้อย ๆ
แล้วจึงศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการหา Intrinsic value
น่าจะเป็นวิธีการที่เข้าท่าไหมครับ  :?:

[quote="lieu"]

[quote="ninesenior"]อยากสอบถาม พี่ ๆ เกี่ยวกับข้อมูลเชิงปริมาณกับเชิงคุณภาพของบริษัท
คือ ส่วนใหญ่ที่เห็นในบทความจะเน้นเรื่องข้อมูลเชิงคุณภาพ

ขอบคุณคำแนะนำดีๆจากพี่วิบูลย์ครับ ตอนนี้ผมไล่อ่านกระทู้ของพวกพี่ๆจนหมดแล้ว ตอนนี้กำลังจะเริ่มลงมือปฏิบัติครับ แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่มากเลยครับ คือผมไม่เก่งในเรื่องบัญชีครับ จึงอยากถามพี่ๆดังนี้ครับ
-งบการเงินของบริษัทที่พวกพีๆใช้ในการคำนวนหามาได้จากไหนครับ
-การจะหา DCF ของกิจการเราต้องรู้ FCF ก่อนอันนี้ถูกมั้ยครับ?
-Working Capital หาได้อย่างไรครับถ้าไม่รบกวนช่วยแสดงวิธีคิดอย่างละเอียดก็ดีครับ
-FCF ต้องหารายปีหรือรายไตรมาสครับแล้วมันติดลบได้รึเปล่า ถ้ามันติดลบจะหมายความว่าอย่างไรครับ
-เมื่อเราได้ FCF มาแล้วจะนำไปคิดเป็น DCF ได้ยังไงครับมีสูตรในการคำนวณอย่างไร และจะนำไปสู่ราคาหุ้นที่ควรซื้อได้อย่างไรครับ
-ค่าความนิยมตัดจ่าย(Amortization)หาได้จากไหนครับ
-ถ้าหากราคาที่หามาได้ต่ำกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน(ราคาแพงกว่าที่คำนวณได้)พวกพี่มีวิธีจัดการอย่าไรครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้ที่พี่ๆแบ่งปันให้ครับได้อ่านกระทู้ของพวกพี่ๆแล้วรู้สึกดีมากได้เห็นพี่ๆหลายคนแบ่งปันสิ่งดีๆให้โดยไม่หวังผลตอบแทน รู้สึกดีจริงๆครับ

to-rich เขียน:ขอบคุณคำแนะนำดีๆจากพี่วิบูลย์ครับ ตอนนี้ผมไล่อ่านกระทู้ของพวกพี่ๆจนหมดแล้ว ตอนนี้กำลังจะเริ่มลงมือปฏิบัติครับ แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่มากเลยครับ คือผมไม่เก่งในเรื่องบัญชีครับ จึงอยากถามพี่ๆดังนี้ครับ
-งบการเงินของบริษัทที่พวกพีๆใช้ในการคำนวนหามาได้จากไหนครับ

ดาวโหลดจากเวปไซต์ของตลาดหลักทรัพย์

to-rich เขียน:-การจะหา DCF ของกิจการเราต้องรู้ FCF ก่อนอันนี้ถูกมั้ยครับ?

ครับ

to-rich เขียน:-Working Capital หาได้อย่างไรครับถ้าไม่รบกวนช่วยแสดงวิธีคิดอย่างละเอียดก็ดีครับ

หาดูได้ในงบกระแสเงินสด

to-rich เขียน:-FCF ต้องหารายปีหรือรายไตรมาสครับแล้วมันติดลบได้รึเปล่า ถ้ามันติดลบจะหมายความว่าอย่างไรครับ

มีทั้งรายปีรายไตรมาศ ติดลบหมายถึงเงินไหลออกมากกว่าไหลเข้า

to-rich เขียน:-เมื่อเราได้ FCF มาแล้วจะนำไปคิดเป็น DCF ได้ยังไงครับมีสูตรในการคำนวณอย่างไร และจะนำไปสู่ราคาหุ้นที่ควรซื้อได้อย่างไรครับ

หาหนังสือ"หามูลค่าหุ้นด้วยตนเอง"ของคุณสุมาอี้มาอ่าน ถ้าหาตามร้านไมได้ สั่งซื้อกับเจ้าตัวโดยตรง

to-rich เขียน:-ค่าความนิยมตัดจ่าย(Amortization)หาได้จากไหนครับ

ดูได้จากงบดุลและงบกระแสเงินสด

to-rich เขียน:-ถ้าหากราคาที่หามาได้ต่ำกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน(ราคาแพงกว่าที่คำนวณได้)พวกพี่มีวิธีจัดการอย่าไรครับ

ถ้ามูลค่าน้อยกว่าราคาก็อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร

to-rich เขียน:ขอบคุณสำหรับความรู้ที่พี่ๆแบ่งปันให้ครับได้อ่านกระทู้ของพวกพี่ๆแล้วรู้สึกดีมากได้เห็นพี่ๆหลายคนแบ่งปันสิ่งดีๆให้โดยไม่หวังผลตอบแทน รู้สึกดีจริงๆครับ

ขอบคุณครับ

ดิฉันพึ่งจะเริ่มเข้ามาศึกษาและก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องงบการเงิน  ขอสอบถามเพื่อนๆดังนี้คะ  ถ้าบริษัทนั้นไม่มีหนี้สิน ROE = ROA ใช่หรือไม่ และถ้าไม่เท่าเป็นเพราะอะไรคะ (ที่เห็นในงบการเงินบางบริษัทไม่เท่ากัน)

[quote="nut99"]ดิฉันพึ่งจะเริ่มเข้ามาศึกษาและก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องงบการเงิน

ผมมือใหม่ครับ เข้ามาเล่นหุ้นได้ไม่ถึง 2 เดือน และเป็นคนที่ไม่ค่อยได้อ่านงบ และ อ่านงบไม่เก่งพอ พร้อมทั้งมีเวลาไม่มากพอที่ไปนั่งกลั่นกรองข้อมูลเอง พร้อมทั้งตลาดหลักทรัพย์ ก็มีบริษัทอยู่มากเหลือเกิน

    จึงอยากได้ข้อมูลที่กลั่นกรองในเบื้องต้นจากท่านๆทั้งหลาย เพื่อนำเอาข้อมูลมาศึกษาอย่างรวดเร็วไปก่อน ให้เกิดความเข้าใจพอที่จะลงทุน พร้อมทั้งเป็นการทุ่นเวลาได้อีกมาก

    หากว่าท่านจะกรุณาช่วยจัดส่งข้อมูลให้ผมด้วยคร๊าบ ที่

     [email protected]

              ขอบพระคุณมากครับในความเสียสละของท่าน -  สราวุธ

กระทู้นี้มันสุดยอดสรุปย่อแก่น VI แล้วครับ

ถ้าอยากได้ย่อกว่านี้ จะโดดไป ร้อยคนร้อยหุ้นก่อนเลยก็ไม่ว่ากัน

ถ้าจะเอาแต่ชื่อหุ้น เอ รู้สึกเว็ปนี้จะไม่มีให้นะ :lol:

หากคุณ Vuthmail อยากจะใช้การลงทุนแบบ Value Investment เป็นแนวทางจริงๆ ผมว่าหลีกเลี่ยงการวิเคราะห์บริษัทด้วยตัวเองไม่ได้หรอกครับ

เพราะสุดท้ายคนตัดสินใจลงทุนย่อมเป็นคุณ Vuthmail เอง

ถ้าจะแนะนำก็คงเป็นร้อยคนร้อยหุ้น และถ้าจะให้ง่ายกว่านั้นผมว่าเข้าไปใน SAA Consensus ใน www.settrade.com ก็ได้ครับ ที่นั่นข้อมูลปึ้กและมีการวิเคราะห์อย่างมีหลักการเต็มที่ สำเร็จรูปอย่างที่ต้องการเลยล่ะครับ