หน้า 62 จากทั้งหมด 89

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 05, 2010 11:23 pm
โดย theerasak24
ขอบคุณครับที่ให้บทวิเคราะห์ครับ เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 06, 2010 11:11 am
โดย ed_dy
เข้ามาสวัสดีปีใหม่พี่ลูกอีสานด้วยคนค่ะ  ขอให้พอร์ตลงทุนมูลค่าเพิ่มขึ้น ๆ  สุขภาพแข็งแรงทั้งบ้านนะคะ  :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 06, 2010 2:04 pm
โดย Baby Genius
สวัสดีปีใหม่ครับพี่ลูกอีสาน
ติดตามอ่านกระทู้พี่มานานแล้วครับ
ชอบที่พี่อธิบายให้อ่านได้เข้าใจง่ายๆครับ :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 06, 2010 4:08 pm
โดย phoncu
สวัสดีปีใหม่ครับพี่โจ  ขอให้พี่และครอบครัวมีความสุขมากๆ  ประสบความสำเร็จในการลงทุนยิ่งๆขึ้นไปน๊ะครับ  พอดีพึ่งกลับจากไปเที่ยวเลยมาอวยพรช้าไปหน่อย  :wink:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 06, 2010 6:38 pm
โดย ler109
[quote="Outliers"]พี่โจคิดยังไงกับหุ้น CNS ครับ

คือไปดูงบของ CNS มาน่ะครับ
พบว่านี้มี (เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด + เงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน (สุทธิ)+ ลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (สุทธิ) - รวมหนี้สิน) / จำนวนหุ้นทั้งหมด = (1,376,843,400 + 1,035,946,469 + 2,145,404,936 - 1,275,110,755) / 71,682,300
= 3,283,084,050 / 71,682,300

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 06, 2010 8:56 pm
โดย ลูกอิสาน
miracle เขียน:รบกวนพี่ลูกอีสานเรื่องของสวยของงามอีกตัวได้ไหมครับ
เป็นหุ้นน้องใหม่คือ Jubile
ขอบคุณครับ
:)
ผมยังมองไม่ค่อยออกครับว่าธุรกิจขายเพชรเป็นอย่างไร ในชีวิตผมคงเหมือนหลายๆคนที่ซื้อเพชรครั้งเดียวตอนแต่งงาน ผมแต่งปี 2000  จำได้ว่าซื้อแหวนหมั้น 4 หมื่นบาทจากคนที่รู้จักและเค้าขายเพชร ถึงวันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยครับเป็นเพชรจริงหรือเพชรปลอม ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็คงไม่รู้เช่นกัน ดังนั้นธุรกิจนี้เป็นตลาดเฉพาะกลุ่มครับ  อัญมณีประเภทแรกที่คนจะซื้อผมคิดว่าต้องเป็นทอง เพราะสวยงามใช้สวมใส่ได้ มีสภาพคล่องสูงขายที่ไหนก็ได้ มีราคาตลาดอ้างอิงชัดเจน แตกต่างจากเพชร ถ้าไม่ใช่คนในวงการ ใครจะดูออกว่าเพชรเก๊เพชรจริง เวลาเอาไปขาย ผมไม่แน่ใจว่าขายคืนได้หรือเปล่าและเป็นราคาเท่าไหร่ของราคาซื้อ ดังนั้นเพชรน่าจะเหมาะกับคนที่เงินเหลือระดับนึง เป็นตลาดบี+ ขี้นไป ถ้าสังเกตครึ่งปีแรกของปี 52 ยอดขายกำไรลดลงมาก เพราะเมื่อเศรษกิจตกต่ำผู้บริโภคย่อมลดสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นอันดับแรก อย่างเพชรเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยแน่นอน แต่ยอดขายกำไรไตรมาส 3 ดีขึ้นมากไม่รู้ปี 51 แย่มากหรือเปล่า ดังนั้นถ้าเศรษกิจดี หนุ่มสาวแต่งงานกันมากขึ้น จะเป็นผลดีต่อบริษัทครับ
:lol:

jubile งบดุลปี 2549 มีส่วนทุนแค่ 34 ล้านเท่านั้น หลังจากนั้นมีการเพิ่มทุนของผู้บริหารเดิม เพิ่มทุนให้กองทุน และเพิ่มทุนขาย IPO มีคนตั้งข้อสังเกตว่าขายไอพีโอได้เงิน 1 ร้อยล้าน แต่ปันผล 50 ล้านไปแล้ว เหมือนเอาเงินผู้ถือใหม่จ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นเก่า และแสดงว่าจุดประสงค์ที่เข้าตลาดคงไม่ใช่เพราะต้องการเงินทุน  บริษัทแจ้งว่ามีแผนนำเงินไปขยายสาขาเป็นเงินทุนหมุนเวียนและลงทุนระบบไอที แต่ทราบว่าในอดีตบริษัทมีสาขามากกว่าปัจจุบันซะอีก เลยไม่แน่ใจว่าทำไมสาขาลดลง แล้วถ้าขยายสาขาจะเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า

แต่จุดเด่นของบริษัทนอกจากผู้บริหารน่ารักแล้ว :oops: ผมคิดว่าบริษัทวางโพสิชั่นค่อนข้างดี บริษัทเป็นรายแรกที่เอาร้านเพชรขึ้นห้าง แทนที่จะต้องรอให้ลูกค้ามาหาแบบร้าน stand alone บริษัทกลับไปหาลูกค้าซะเอง ซึ่งนี่เป็นจุดเด่นที่สุดของบริษัทเพราะวิถีชีวิตยุคใหม่ผู้คนต้องใช้บริหารห้างสรรพสินค้าและ discount store ลูกค้าที่ต้องการซื้อเพชรอยู่แล้วก็จะซื้อร้านที่น่าเชื่อถือ ลูกค้าที่ไม่ตั้งใจจะซื้อ แต่จับพลัดจับพลูเดินเข้าไปในร้าน กลายเป็นลูกค้าแบบไม่ตั้งใจ  เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้คนไม่มีความรู้เรื่องเพชร ดังนั้นการเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ ร้านที่มีชื่อเสียง มีหลายสาขาแบบ jubile จะเป็นข้อได้เปรียบ ปัจจุบันบริษัทมีสาขาเยอะที่สุดในประเทศ และทิ้งห่างคู่แข่งค่อนข้างมาก ผมคิดว่านี่เป็นความสามารถในการแข่งขันอย่างนึงของบริษัทครับ ผู้บริหารให้ข่าวว่าเป้ายอดขายปีหน้าประมาณพันล้าน เพิ่มขึ้นมากจากปี 52 ที่ยอดขาย 6-700 ร้อยล้าน ถ้าอัตรากำไรเท่าเดิมและได้ลดภาษี กำไรน่าจะโตพอสมควร ปัจจุบันบริษัทมี P/E ย้อนหลังประมาณ 9.5 เท่า ถูกหรือแพงก็ตัดสินใจเองนะครับ :o

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 06, 2010 9:01 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="ler109"][quote="Outliers"]พี่โจคิดยังไงกับหุ้น CNS ครับ

คือไปดูงบของ CNS มาน่ะครับ
พบว่านี้มี (เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด + เงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน (สุทธิ)+ ลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (สุทธิ) - รวมหนี้สิน) / จำนวนหุ้นทั้งหมด = (1,376,843,400 + 1,035,946,469 + 2,145,404,936 - 1,275,110,755) / 71,682,300
= 3,283,084,050 / 71,682,300

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 06, 2010 10:11 pm
โดย miracle
ลูกอิสาน เขียน:
ผมยังมองไม่ค่อยออกครับว่าธุรกิจขายเพชรเป็นอย่างไร ในชีวิตผมคงเหมือนหลายๆคนที่ซื้อเพชรครั้งเดียวตอนแต่งงาน ผมแต่งปี 2000

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 07, 2010 9:17 am
โดย killyz
ลูกอิสาน เขียน: จุดเด่นของบริษัทนอกจากผู้บริหารน่ารักแล้ว :oops:
เป็นครั้งแรกที่ผมวิเคราะห์ได้ตรงกับพี่โจ  :)
รู้สึกเหมือนเข้าใกล้วิถีเซียนแล้วมั่ง

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 07, 2010 9:27 am
โดย nasesus
พี่โจครับ ดูท่าทางค่าเงินบาทปีนี้คงจะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดหลักทรัพย์ไทยมีหุ้นตัวไหนที่เด่นเรื่องนำเข้าบ้างครับ ที่ผมนึกออกว่าน่าจะได้ประโยชน์ ก็มี pato bjc jct tccc รบกวนพี่โจด้วยครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 07, 2010 4:18 pm
โดย green-orange
nasesus เขียน:พี่โจครับ ดูท่าทางค่าเงินบาทปีนี้คงจะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดหลักทรัพย์ไทยมีหุ้นตัวไหนที่เด่นเรื่องนำเข้าบ้างครับ ที่ผมนึกออกว่าน่าจะได้ประโยชน์ ก็มี pato bjc jct tccc รบกวนพี่โจด้วยครับ
WG ครับ นำเข้าวัตุดิบแล้วขายในประเทศล้วนๆ เลย ได้ทั้งค่าเงินและเงินเฟ้อจากทั้งราคาพลังงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขี้นและสต๊อกเกณท์ครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 07, 2010 9:15 pm
โดย loki
nasesus เขียน:พี่โจครับ ดูท่าทางค่าเงินบาทปีนี้คงจะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดหลักทรัพย์ไทยมีหุ้นตัวไหนที่เด่นเรื่องนำเข้าบ้างครับ ที่ผมนึกออกว่าน่าจะได้ประโยชน์ ก็มี pato bjc jct tccc รบกวนพี่โจด้วยครับ
จากข้างบนครับขอถามความเห็นพี่โจเกี่ยวกับPATOหน่อยครับเท่าที่ผมดูก็ผลประกอบการงบการเงินปันผลดีติดต่อกันหลายปีอยู่(3-4ปีที่ผ่านมา)แล้วผมก็คิดว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ก็จะคงยังพึ่งสารเคมีกำจัดศัตรูพืชอยู่ดียิ่งมีนโยบายสนับสนุนด้านการเกษตรด้วยผมคิดว่าน่าจะขยายได้อีกในอุตสาหนกรรมนี้ซัก5-10ปีแต่ต่อไปไม่แน่ใจถ้ามีการตัดแต่งพันธุกรรมให้พืชทนแมลงมากขึ้นอาจจะทำให้อุสาหกรรมนี่ดับก็ได้แต่ก็ยังมีพวกต่อต้านการทำเรื่องนี้อยู่พี่โจคิดเห็นว่าอย่างไรครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 07, 2010 9:20 pm
โดย loki
เมื่อกี้ลืพูดถึงเรืองข้อเสียอีกเรื่องกฎหมายควบคุมสารเคมีในการขอจดทะเบียนยาเห็นคุณอินทรีย์ทองแดงพูดเรื่องการให้ทุกบริษัทขอใหม่อะไรประมาณนี้บริษัทไทยเล็กๆคงแย่แน่ๆ(ขออภัยคุณอินทรีย์ทองแดงนะครับที่พาดพิงถึง)

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 08, 2010 10:57 am
โดย ลูกอิสาน
path of the brave เขียน:พี่ลูกอีสานครับ รบกวนช่วยวิเคราะห์หุ้นโรงไฟฟ้าให้หน่อยครับ ในมุมมองของพี่ ถ้จะถือระยะยาว ตัวไหนน่าสนใจครับ

หุ้นไฟฟ้าที่ฮิตๆก็มีไม่กี่ตัว เช่น egco ratch glow
พิจารณาปัจจัยหลักๆดังนี้ครับ

1.กำลังการผลิต กำลังการผลิตเพิ่ม รายได้เพิ่ม กำไรก็ควรจะมีแนวโน้มเพิ่ม ง่ายๆอย่างนี้ ดูว่าบริษัทใดจะมีกำลังการผลิตเพิ่มสูงสุด แต่แค่นี้ยังไม่พอนะครับ

2.พิจารณาเนื้อหาสัญญาซื้อไฟฟ้า สัญญาบางสัญญาให้กำไรสูงตอนแรกๆแล้วค่อยๆลดลง อย่างโรงไฟฟ้า blcp ของ egco บางโครงการกำหนดให้กำไรก็เป็นแบบระฆังคว่ำเช่นโรงไฟฟ้าระยอง ขนอมของ egco เช่นกัน เรื่องนี้สำคัญมากเพราะซื้อไม่ศึกษามักไปซื้อตอนกำไรพีคๆ แล้วมาขายขาดทุนหุ้นตอนกำไรตกต่ำ การประมาณการกำไรของ egco ratch มีให้อ่านในหนังสือชี้ชวนครับ

3.โครงสร้างผู้ถือหุ้น หากมีผู้ผูกขาดการซื้อขายไฟอย่าง กฟผ.มาเป็นผู้ถือหุ้นด้วยได้เปรียบครับ หรือผู้ถือหุ้นที่เอื้อประโยชน์ได้เช่น banpu มีถ่านหิน และ banpu ถือหุ้นใน ratch เมื่อจะทำโรงไฟฟ้าก็ชวน ratch มาทำ

สำหรับ egco ผมเคยให้ความเห็นอย่างนี้ครับ
หลายคนสงสัยว่าทำไมราคา egco หุ้นเทรดที่พีอีต่ำมาก ทั้งที่พื้นฐานของกิจการก็มั่นคงดี ผลิตไฟฟ้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นทุกๆปี แต่ที่หลายคนไม่ทราบคือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ทำกับ กฟฝ.มีการกำหนดกำไรในแต่ละปีไม่เท่ากัน กรณีโรงไฟฟ้าระยองและขนอมจะเป็นแบบระฆังคว่ำคือจะมีช่วงที่กำไรสูงสุดอยู่ในช่วงกลางของอายุโรงไฟฟ้า ในขณะที่โรงไฟฟ้า BLCP จะกำหนดให้กำไรมากที่สุดในปีแรกๆและจะค่อยๆลดลง นั้นหมายความว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้หมายความว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นด้วย ขึ้นอยู่กับสัญญาซื้อขายไฟเป็นสำคัญ และจากเอกสารที่โพสต์ในกระทู้จะเห็นได้ชัดเจนว่ากำไรจากโรงไฟฟ้าระยอง-ขนอมจะลดลงมากในอนาคตอันใกล้นี้  รวมถึงกำไร blcp ก็ลดลง แต่ก็มีโรงไฟฟ้าใหม่ๆเช่นแก่งคอย 2 น้ำเทิน เคซอน เข้ามาชดเชย พยุงกำไรไว้ได้แต่จะหวังให้กำไรโตมากๆ ยังมองไม่เห็นหนทาง นี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หุ้นเทรดที่พีอีต่ำครับ และบริษัทไฟฟ้าจะมีฤดูกาลเหมือนกันครับ ครึ่งปีหลังมักจะซ่อมบำรุง กำไรจะน้อยกว่าครึ่งปีแรกเป็นปกติครับ

ผมคิดว่าผู้บริหารของ egco ก็รู้ดีว่ากระแสเงินสดของกิจการดีขึ้นมาก มีเงินสดเหลือที่จะลงทุนได้ ปัญหาคือหาโครงการลงทุนไม่ได้   โครงการ IPP รอบที่ผ่านมาก็เจอคู่แข่งดั๊มราคาทำให้พลาดไป โรงไฟฟ้าในต่างประเทศก็หายากที่ให้ผลตอบแทนดีๆ และมีความเสี่ยงทางการเมืองต่ำ การหันไปผลิตไฟฟ้าจากพลังทดแทน ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น โอกาสของ egco ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ที่สุดคือการได้รับการต่ออายุโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะที่ขนอมน่าจะได้เปรียบที่สุด เพราะมีสาธารณูปโภคทุกอย่าง สามารถประมูลต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งได้ ที่จริงตอนนี้โรงไฟฟ้าใหม่ๆเกิดได้ยากเย็น แม้เป็นโรงไฟฟ้าจากแก็สธรรมชาติ ดังนั้นไม่แน่ครับใครที่มีโรงไฟฟ้าเก่าๆอาจจะนำมายกเครื่องผลิตใหม่ ไม่มี ngo ชาวบ้านมาต่อต้านด้วย  
โดยรวมๆ egco ปัจจุบันงบการเงินดีมาก มีเงินเยอะแต่ไม่มีโครงการใหม่ๆที่มีนัยสำคัญ และที่น่ากังวลคือรายได้หลักกำลังลดลงตามสัญญาซื้อขายไฟ ในอนาคตใกล้แค่พยุงไม่ให้กำไรลดลงก็เก่งแล้ว ราคาหุ้นเลยไม่ไปไหนครับ มีลุ้นคือได้ต่ออายุโรงไฟฟ้าใหม่ๆ โดยเฉพาะที่ขนอม เพราะภาคใต้ขาดแคลนกำลังการผลิตไฟฟ้า แม้จะมีโรงไฟฟ้าจะนะ เฟส2 ก็ยังไม่เพียงพอครับ

RATCH สัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่กำหนดกำไรของบริษัทค่อนข้างสม่ำเสมอ ดังนั้นไม่ค่อยมีความเสี่ยงแบบ egco นอกจากนั้นยังมีกำลังการผลิตใหม่ๆที่มีนัยสำคัญ เช่นโครงการหงสา เขื่อนในลาวบางโครงการ และยังมีโครงการกังหันลม มีผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง กฟผ.ที่ถือหุ้น 45% มากกว่าที่ถือหุ้น egco 25% ค่อนข้างมาก ดังนั้นหากมีอะไรที่เอื้อประโยชน์ให้ ratch ได้ผมคิดว่า กฟผ.ก็น่าจะทำ นอกจากนั้นยังมี banpu ถือหุ้น 15% ก็เอื้อประโยชน์เช่นได้ทำโครงการหงสาครับ  ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่พีอี 7-8 เท่า ก็ถือว่าไม่แพง

GLOW เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าแบบ cogeneration ทำให้มีประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนพลังงานสูงถึง 7-80% เทียบกับโรงไฟฟ้าทั่วไป 4-50% ทำให้มีต้นทุนต่ำ บริษัทขายทั้งไฟฟ้าและไอน้ำที่เหลือจากการผลิตไฟฟ้าให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้นจะมีลูกค้า 2 กลุ่มคือกฟผ.และโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นปิโตรเคมี ซึ่งกลุ่มหลังนี้เป็นรายได้ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอครับ โครงการในอนาคตที่สำคัญที่สุดคือโรงไฟฟ้าเกคโค 1 ที่ร่วมทุนกับเหมราช แต่ตอนนี้ติดปัญหามาบตาพุด คิดว่าน่าจะเดินหน้าได้แต่จะช้าจากแผนงานบ้าง ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดที่P/E ประมาณ 10-12 เท่าก็ถือว่าราคารับรู้อนาคตไประดับนึงแล้ว

ถ้าให้ผมเลือกผมชอบ ratch>glow>egco ตามลำดับครับ.. :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 08, 2010 2:13 pm
โดย Invisible_heart
หุ้น NBC ครับพี่โจ
อยากทราบเรื่องการเติบโตในอนาคตและปัจจัยเสี่ยงทางด้านการเมืองครับ
ขอบคุณครับ  :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 08, 2010 3:00 pm
โดย young_5432
[quote="ลูกอิสาน"][quote="young_5432"]พี่ลูกอีสานครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 09, 2010 4:58 pm
โดย หมีขาว
รบกวนคุณลูกอิสานช่วยให้วิเคราะห์เกี่ยวกับ CM ในปัจจุบันหน่อยครับ
เริ่มน่าสนใจหรือยังครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 09, 2010 7:36 pm
โดย Outliers
คุณลูกอีสานคิดยังไงกับ ACL และ SCIB บ้างครับ

ผมคิดว่า 2 ตัวนี้มีบางส่วนที่คล้ายกัน คือจะมีการเข้ามาของ bank ใหญ่จากต่างประเทศ ซึ่งน่าจะส่งเสริมให้ bank มีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจาก deal เสร็จ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 09, 2010 7:55 pm
โดย ลูกอิสาน
claforan เขียน:อยากถามพี่โจ เรื่อง MCS ครับ สงสยว่าทำไมงบการเงินก็ดี รายได้สมำ่เสมอROA ROE ดีตลอดแต่ข้อเสียที่ผมมอง คือ growth ค่อนข้างน้อย และเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ พี่โจว่าตลาดให้ PE ตำ่ไปหรือเหมาะสมครับ
maiaowna เขียน:MCS เป็นไงมั่งครับพี่ เห็น ROE สูงมากตลอด และรถก็วิ่งมารับ(แต่ไม่รู้จะถอยมายาวเปล่านะ  :lol: )
MCS เป็นหุ้นที่เกือบๆสมบูรณ์แบบในความหมายของหุ้น vi บริษัทมีอัตราการทำกำไรที่สม่ำเสมอ ROE ROA สูง งบดุลที่แข็งแกร่ง ปันผลสูง backlog เยอะ มีการขยายกำลังการผลิต แต่ราคาหุ้นกลับเทรดที่ P/E ต่ำ ดูเหมือนราคากับพื้นฐานไม่ค่อยสอดคล้องกัน ผมขอมองอีกด้านเพื่อประโยชน์กับคนที่ถือหุ้น ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของบริษัทในความเห็นผมคือการเพิ่งพิงผู้ถือหุ้นใหญ่ ดร.ไนยวนชิ การทำการค้ากับญี่ปุ่น conection สำคัญที่สุดผมเคยฟัง opp day ดร.ชิเล่าว่าการซื้อขายหลายครั้งไม่มีสัญญาแค่จับมือกันก็พอแล้ว :?  นี่แสดงว่าคุณค่าของบริษัทอาจจะขึ้นอยู่กับผู้บริหาร และดูเหมือนดร.ก็ไม่มีตัวตายตัวแทน หากดร.บริหารไม่ได้ด้วยเหตผลใดๆ บริษัทอาจจะแย่ ไม่รู้สาเหตุนี้หรือเปล่าที่ท่านขายหุ้นออกมามาก ให้เหตุผลว่าเพื่อให้เป็นบริษัทมหาชนอย่างแท้จริง แต่มองอีกด้านท่านอาจจะทราบว่าท่านคือคุณค่าของบริษัท ในเมื่อไม่สามารถส่งต่อธุรกิจให้ทายาทได้(ท่านมีลูกสาว) ท่านก็ขายเอาเงินมาใช้ก่อนไม่ดีกว่าหรือแทนที่จะปล่อยให้หมดค่าหากท่านบริหารไม่ได้แล้ว  ประเด็นนี้อาจจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย แต่ถ้าเกิดผลเสียหายจะเยอะ ราคาหุ้นลงได้มาก เหมือนเลียน้ำผึ้งที่ปลายมีด รับปันผลสูงๆมาหลายปี เจอวันเดียวคืนทุนหมด หรือแย่อาจจะขาดทุนไปเลย..

ข้างต้นเป็นมุมมองอีกด้านของผม แต่จริงๆจะเป็นอย่างที่ผมพูดหรือเปล่า ไม่ทราบครับ ดร.ชิอาจจะมีตัวตายตัวแทนที่เราไม่รู้ หรือธุรกิจนี้ไม่ต้องมี conection มากมาย ผมก็ไม่ทราบ เป็นนักลงทุนต้องมองทั้งแง่ดีและ worst case ไว้เสมอ แต่ยอมรับว่าพื้นฐานด้านอื่นๆยั่วใจ ผมก็เคยเข้าไปซื้อขายหลายครั้งเช่นกัน แต่ไม่กล้าถือเยอะๆถือนานๆเพราะคิดว่ามีความเสี่ยงอย่างที่ว่ามา
ปัจจัยรองๆที่ต้องติดตามของหุ้นตัวนี้คือ
*ปริมาณการส่งมอบสินค้า ถ้าไตรมาสไหนส่งของให้ลูกค้าเยอะ ไตรมาสนั้นจะกำไรดีครับ ถ้าส่งมอบน้อยก็กำไรลดลง ต้องตามข่าวจากงานวิจัยของโบรค
*อัตราแลกเปลี่ยนมีผลต่อผลประกอบการค่อนข้างมาก และเดายากด้วยว่าบริษัทจะกำไรหรือขาดทุน แต่ก็ต้องดูครับ..
:o

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 09, 2010 8:05 pm
โดย ลูกอิสาน
Outliers เขียน:คุณลูกอีสานคิดยังไงกับ ACL และ SCIB บ้างครับ

ผมคิดว่า 2 ตัวนี้มีบางส่วนที่คล้ายกัน คือจะมีการเข้ามาของ bank ใหญ่จากต่างประเทศ ซึ่งน่าจะส่งเสริมให้ bank มีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจาก deal เสร็จ
ผมไม่ได้มองพื้นฐานหลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่เลยครับ มองยากเหมือนกันว่าจะดีหรือแย่ลง ดูไทยธนาคาร bt เป็นกรณีศึกษาก็ได้  แต่ที่แน่ๆยังมีโอกาสการทำ arbitrage กับทั้ง 2 ดีลนี้ได้ ซึ่งผมคิดว่าความเสี่ยงต่ำ กรณี ACL น่าจะให้ผลตอบแทนประมาณ 5% ภายใน 2-3 เดือน ส่วน SCIB ผมคิดว่าผลตอบแทนขั้นต่ำก็คงเท่าๆกัน และมีโอกาสที่จะได้มากกว่านั้นหากมีการแข่งขันราคากันสูง ซึ่งอีกไม่กี่วันก็คงได้รู้ราคาครับ  แต่ไม่มีอะไรที่ปลอดความเสี่ยงร้อยเปอร์เซนต์รวมถึงระยะเวลาอาจจะยืดออกไปเพราะเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ กรณี SCAN ที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับความเสี่ยงการทำ arbitrage ครับ.. :)

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 09, 2010 8:39 pm
โดย vi_tal signs
อยากทราบความเห็นพี่โจ สำหรับตัว  HTECH ครับ  :oops:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 09, 2010 8:49 pm
โดย ลูกอิสาน
หมีขาว เขียน:รบกวนคุณลูกอิสานช่วยให้วิเคราะห์เกี่ยวกับ CM ในปัจจุบันหน่อยครับ
เริ่มน่าสนใจหรือยังครับ
สำหรับหุ้นวัฎจักรแบบสินค้าเกษตร เครื่องมือที่ผมคิดว่าเหมาะสมที่จะใช้คือการดูค่า P/B ครับ เพราะหุ้นประเภทนี้กำไรจะผันผวน แต่ BV จะผันผวนน้อยกว่ามาก ใช้เป็นสัญญานซื้อหรือขายได้เป็นอย่างดี มาดูกันว่าของ CM เป็นอย่างไร

*P/B จากที่3-4 ปีที่ผ่านมาซื้อขายกันไม่เกิน 1 เท่า ปัจจุบันประมาณ 1.4 เท่า :?
*อัตรากำไรสุทธิปกติ3-4 ปีที่ผ่านทำได้ไม่เกิน 10% ของยอดขายแต่ปีที่ผ่านมาทำได้ถึง 20% ของยอดขาย ซึ่งน่าจะสูงผิดปกติสำหรับสินค้าเกษตรแบบนี้
*ปกติตัวนี้กำไรครึ่งปีหลังจะน้อยกว่าครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นไม่ควรเอากำไรไตรมาสใดไตรมาสหนึ่งคูณ 4 ครับ
*ผู้บริหารขายหุ้นออกมามากที่ราคาสูงๆ เหตุผลคงไม่ใช่เพราะต้องการใช้เงิน เพราะหุ้นตัวนี้ปันผลมากๆทุกปี ใช้เงินปันผลยังไม่หมดหรอกครับ แต่จะเป็นเหตุผลอะไรผมก็ไม่ทราบ :lol:
* 3 ไตรมาสของปี 52 กำไรและยอดขายเพิ่มเพราะอัตราแลกเปลี่ยน และราคาขายสูงขึ้น แต่ปริมาณขายลดลง ดังนั้นตัวนี้อัตราแลกเปลี่ยนมีผลเยอะครับ


ผมคิดว่าหลายคนอาจสนใจตัวนี้เพราะปันผล ถ้าเหตุผลเป็นอย่างนี้ก็ควรซื้อแบบถัวเฉลี่ยไปเรื่อยๆแบบ DCA อย่าซื้อตอนที่กำไรเพิ่มขึ้นมากและราคาหุ้นขึ้นไปสูงๆ เพราะเมื่อกำไรลดลงตามวัฎจักรธุรกิจ จะขาดทุนราคาหุ้นจนไม่คุ้มกับปันผลที่ได้รับครับ.. :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 09, 2010 9:00 pm
โดย claforan
ลูกอิสาน เขียน:
maiaowna เขียน:MCS เป็นไงมั่งครับพี่ เห็น ROE สูงมากตลอด และรถก็วิ่งมารับ(แต่ไม่รู้จะถอยมายาวเปล่านะ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 09, 2010 9:13 pm
โดย maiaowna
ขอบคุณครับพี่โจ  :P

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 09, 2010 9:13 pm
โดย หมีขาว
ขอบคุณคุณลูกอิสานมากๆ ครับ
:bow:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 10, 2010 12:14 am
โดย Prelude
สวัสดีพี่ลูกอีสานครับ
ขอบพระคุณพี่มากครับ ที่ได้แบ่งปันความรู้ให้กับน้องๆตลอดมาครับ
ผมอ่านมาหลายปีละ ขออนุญาตถามมั่งครับ

ผมเห็น Promotion ที่น่าสนใจมากของ 3bb รวมถึงการตลาดเชิงรุกด้วย
ตอนนี้เจ้าตลาดคือ TOT ส่วนอันดับ 2 คือ TRUE และ 3bb กำลังตามมาติดๆ
พี่คิดว่ามีโอกาสไหมครับ ที่ 3bb จะผงาดขึ้นมาเป็นอันดับ 2 หรือ 1 ในอนาคตครับ

ส่วนของคำถามหมดไปแล้วครับ ต่อไปเป็นส่วนของการบ้านที่ผมทำมาบ้าง
จะขอให้ตรวจการบ้าน ว่าถูกไหมครับ (ไม่ถูกรบกวนช่วยแก้ด้วยครับ :D)

ผมเองเคยสนใจข่าว JAS เมื่อ 6 - 7 ปีที่แล้ว ตอนที่มันอยู่ Rehabco
แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ยุ่งเลย เพราะว่าไม่เข้าใจว่าเค้าทำอะไรกันอยู่
รู้แต่ว่า JAS มีปัญหาขาดทุกมหาศาล รวมทั้งมีปัญหาฟ้องร้องกับ TT&T ด้วย
JAS กับ TT&T เคยร่วมกันทำ infrastructure ของระบบ telecom
รวมถึงเคเบิ้ลใต้น้ำ

ส่วนตลาด internet มี 2 ยุค คือ
1. ยุคโบราณ dial-up สำหรับชาวบ้าน และ Lease-Line สำหรับองค์กร
2. ยุคปัจจุบัน Broadband หรือ ADSL

ตลาด ADSL เจ้าตลาดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว คือ TRUE
แต่ปัจจุบันเป็น TOT
และปัจจุบัน 3bb (Max Net เดิม) มาแรงมาก

สาเหตุที่ 3bb สามารถเกิดได้ เพราะว่าใช้การยิงสายสัญญาณตรง
ไม่ต้องพึ่งสายโทรศัพท์ทั้งของ TOT และ TRUE
รวมทั้งเป็นเจ้าของ infrastructure ด้วย

อันนี้ ผมเข้าใจถูกไหมครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 10, 2010 12:21 am
โดย Prelude
ไม่ทราบว่า ทางพี่ลูกอีสาน พอจะช่วยวิเคราะห์ JAS ได้ไหมครับ
ว่ามีมุมมองตรงไหนที่ผมมองข้ามไป หรือต้องระวัง

รวมถึงการวิเคราะห์เชิงปริมาณ (ซึ่งผมทำไม่เป็นเลยครับ)

ขอบคุณครับพี่

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 10, 2010 10:01 am
โดย sai
เวลาว่างผมมักจะมาอ่านกระทู้นี้เป็นประจำครับ เพราะจะได้วิธีคิดวิธีการประเมิณมูลค่าหุ้นแนวทางของพี่โจ อยู่เสมอ กระทู้นี้มีอายุ 1 ปีกว่ากว่า นั่งคิดเล่นเล่นว่า ถ้า ครบ 3 ปี พี่โจคงวิเคราะห์ ครบทุกตัวในตลาดแน่เลย สุดยอดเลยครับ ขอคารวะจริงจริงครับ  :bow:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 10, 2010 10:48 am
โดย sonnesaint
ลูกอิสาน เขียน: GLOW เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าแบบ cogeneration ทำให้มีประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนพลังงานสูงถึง 7-80% เทียบกับโรงไฟฟ้าทั่วไป 4-50% ทำให้มีต้นทุนต่ำ บริษัทขายทั้งไฟฟ้าและไอน้ำที่เหลือจากการผลิตไฟฟ้าให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้นจะมีลูกค้า 2 กลุ่มคือกฟผ.และโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นปิโตรเคมี ซึ่งกลุ่มหลังนี้เป็นรายได้ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอครับ โครงการในอนาคตที่สำคัญที่สุดคือโรงไฟฟ้าเกคโค 1 ที่ร่วมทุนกับเหมราช แต่ตอนนี้ติดปัญหามาบตาพุด คิดว่าน่าจะเดินหน้าได้แต่จะช้าจากแผนงานบ้าง ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดที่P/E ประมาณ 10-12 เท่าก็ถือว่าราคารับรู้อนาคตไประดับนึงแล้ว
7-80%

หมายถึง 7 ถึง 80% หรือว่า 70 ถึง 80 % ครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 10, 2010 4:06 pm
โดย หมีขาว
Prelude เขียน:ไม่ทราบว่า ทางพี่ลูกอีสาน พอจะช่วยวิเคราะห์ JAS ได้ไหมครับ
ว่ามีมุมมองตรงไหนที่ผมมองข้ามไป หรือต้องระวัง

รวมถึงการวิเคราะห์เชิงปริมาณ (ซึ่งผมทำไม่เป็นเลยครับ)

ขอบคุณครับพี่
ผมได้ดูงบ q309 ของ JAS มาพอดีครับ อยากตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นดังนี้ครับ

- รายได้ q309 vs. q308 = 2000 vs. 1200 ล้าน แต่กำไรสุทธิ q309 กลับน้อยกว่า q308! โดย
  gpm, ebit, npm ใน q309 น้อยกว่า q308 โดย
  npm ลดลงครึ่งนึง จาก 15.x% เหลือ 7.x% อย่างนี้ต่อให้ 3bb ขายดีเป็นสองเท่ายังไง ก็กำไรเท่าเิดิม (ไม่รู้ว่าเป็นเหตุการณ์ชั่วคราวหรือเปล่า)
  และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการเพิ่มจาก 140 กว่าล้าน เป็น 360 กว่าล้าน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มีอัตราเพิ่มสูงกว่าอัตราการเพิ่มของยอดขาย

- ในงบ 9 เดือนปี 08 จริงๆ เหมือนจะดีมาก แต่มีคิดรายการพิเศษไปราว 1800 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนยับ  
(ตั้งด้อยค่าเผื่อหุ้น tt&t ที่ถืออยู่จะหมดสภาพถ้า tt&t ล้มละลาย) ไม่ทราบว่ารายการแบบนี้จะโผล่มาได้อีกหรือเปล่า

- ใน q109 ไปซื้อหุ้น tt&t เพิ่มอีก (เดิมก็มีเยอะอยู่แล้ว),  คุ้มกับความเสี่ยงหรือไม่?

พอดีผมก็เพิ่งเคยดูหุ้นตัวนี้เลยไม่ทราบเบื้องลึกครับ แต่
คิดว่าคงไม่ธรรมดาทีเดียว  :?  :?