หน้า 7 จากทั้งหมด 10
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 11:42 am
โดย shanghaigeny
สัดส่วนพอร์ตการลงทุน ของ smk
- พันธบัตรรัฐบาล 30 %
- เงินฝาก 30 %
- หุ้น 15 %
- หุ้นกู้ 15 %
- กองทุนรวม 9.5 %
- ตั๋วสัญญาใช้เงิน 0.5 %
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 11:56 am
โดย leky
shanghaigeny เขียน:สัดส่วนพอร์ตการลงทุน ของ smk
- พันธบัตรรัฐบาล 30 %
- เงินฝาก 30 %
- หุ้น 15 %
- หุ้นกู้ 15 %
- กองทุนรวม 9.5 %
- ตั๋วสัญญาใช้เงิน 0.5 %
อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ เหมือนกำไรของบ.จะดีขึ้นตอนที่บ.เริ่มมีการเน้นที่ธุรกิจประกันภัยรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน มีการปรับรูปแบบการให้ประกัน ช่วงนั้นจะมีโฆษณาที่ติดตลาด "น้องเชอรี่ มาเร็ว เคลมเร็ว" น่ะครับ ราคาหุ้นก็ขึ้นมาเรื่อย ๆ จน 400 กว่าบาทในปัจจุบัน
ผมจึงรู้สึกว่า การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มนี้ไม่ควรเน้นเรื่องรายได้จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากนัก เพราะถ้าตลาดเป็นขาลงกำไรมันก็จะหดหายหรือกลายเป็นขาดทุนครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 12:39 pm
โดย chaitorn
leky เขียน:chaitorn เขียน:Nevercry.boy เขียน:สถานการณ์ใดครับที่จะทำให้ บ.ประกัน ประสบปัญหาผลประกอบการ ย่ำแย่
กำไรของประกันภัยมาจากการประกันทรัพย์สิน หากเสียหายมาก ก็ทำให้ประกันภัยมีโอกาสขาดทุนสูง เช่น ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ภัยที่เกิดจากการกระทำของคนโดยประมาทหรือตั้งใจ เช่น การเกิดเพลิงไหม้จำนวนมาก การเผาเมือง ภัยจากการประกันภัยทรัพย์สินที่มีค่าเสียหายสูงและ้รากระจายความเสี่ยงไม่พอเช่น เครื่องบินตก เป็นต้น
บางบริษัทไปรับประกันภัยที่เสี่ยงสูงแต่รับเบี้ยประกันภัยมาไม่คุ้มไปตัดราคามา เช่น สัมพันธ์ประกันภัย ที่ไปรับกลุ่มรถ taxi กลุ่มรถขนส่งขนาดใหญ่ เน้นเอา volumn ธุรกิจ เป็นต้น
กำไรอีกด้านมาจากเงินลงทุน หากดอกเบี้ยตลาดผันผวนมาก ราคาหุ้นตกต่ำมาก ผลประกอบการบริษัทที่ลงทุนไม่จ่ายปันผลด้วยเป็นต้น
หากเกิดพร้อมกันเมื่อไหร่ ประกันภัยคงประสบกับปัญหาครับ
ขอถามอีกมุมหนึ่งนะครับ แล้วอะไรจะเป็นปัจจัยให้กำไรของธุรกิจประกันภัย "เฟื่องฟู" ครับ
ที่ผมสังเกตเห็นคือ ราคาหุ้นในตลาดที่เป็นขาขึ้น ทำให้กำไรของบ.ดีขึ้น แต่ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยตรง มีความไม่แน่นอน จะว่าไปช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้นใหม่ ๆ ภาพตรงนี้ตลาดเหมือนมองไม่ออก หุ้นประกันภัยเล็ก ๆ ก็นิ่ง ๆ จนกระทั่งงบออกมาดี หุ้นก็วิ่งขึ้นอย่างแรง แต่สุดท้ายพอตลาดหุ้นเริ่มเป็นขาลง กำไรจากพอร์ตการลงทุนลดลง ราคาหุ้นประกันภัยหลายตัวก็กลับมาสู่ความเป็นจริง
จะว่าไปเท่าที่สังเกตดูประกันบางตัวที่กำไรดีขึ้นชัดเจนส่วนหนึ่งก็เกิดจากการบริหารของบ.เองอย่างเช่น SMK
บริษัทประกันภัยที่เก่ง สามารถคัดเลือกภัยและบริหารจนมีกำไรนั้น ช่วงที่มีกำไรมากจะเป็นไปตามตรรกะนี้ครับ
ในช่วงที่เราบริหารเบี้ยประกันรับของเรามากกว่ารายจ่ายและค่าเคลมในปีนั้นๆ เราก็จะลงบัญชีในฐานะ “กำไรจากการรับประกันภัย"
รายรับ มาจาก ค่าเบี้ยประกันภัยรับ ซึ่งขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ ภาวะอุตสาหกรรม และการปรับราคาของทรัพย์สินที่นำมาประกันภัย
รายจ่ายมาจาก ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ของอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากว่าโดยหลักการในการรับประกันภัย บริษัทประกันภัยมีโอกาสที่จะถูกเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ภายใน 2 ปี นับจากวันที่มีการทำละเมิดเกิดขึ้น(แต่วันที่ทำละเมิดต้องอยู่ภายในระยะเวลาที่กรมธรรม์คุ้มครอง) ดังนั้นการคำนวณ Loss Ratio ที่จะมีค่าใกล้เคียงความจริงมากที่สุด จึงต้องรอให้กรมธรรม์สิ้นสุดอย่างน้อย 2 ปี จึงจะคำนวณค่า Loss Ratio จากจากข้อมูลผลการรับประกันภัย(โดยภาพรวม) ดังกล่าวจะเห็นได้ว่าบริษัท ประกันภัยจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในสัดส่วน ประมาณ 28% ของเบี้ยประกันภัยรับ ตัวเลขนี้มีความหมายเพียงใด เรามาดูกันต่อไป
ในการดำเนินธุรกิจ ของบริษัทประกันภัยนั้น มีค่าใช้จ่าย ที่จำเป็น และสำคัญ ในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่
1. ค่าสินไหมทดแทนที่ต้องจ่ายให้กับผู้เอาประกันหรือ บุคคลภายนอกที่ประสบอุบัติเหตุ
2. ค่าตอบแทนการขาย ที่ต้องจ่ายให้กับตัวแทน นายหน้า
3. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น เงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าเช่า ค่าเครื่องใช้สำนักงานหรือไม้เครื่องมือเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ฯลฯ
ดังนั้น ในการดำเนินธุรกิจการประกันวินาศภัย บริษัท ประกันภัย จะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย ที่สำคัญ 3 ประการเป็นหลัก หมายความว่าถ้าบริษัทใด สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ก็มีโอกาสที่จะทำกำไรได้
เคล็ดลับสำคัญก็คือ
ตัว Driver หลักของธุรกิจประกันภัยก็คือ หากขายค่าเบี้ยประกันภัยได้ราคาสูง จะขายได้สูงก็ต่อเมื่อ มีความเสี่ยงภัยที่สูงขึ้น ทำให้ประเมินความเสี่ยงออกมาสูง ส่วนปริมาณก็ขึ้นกับภาวะการเติบโตของอุตสาหกรรม ซึ่งปกติแนวโน้มระยะยาวจะเติบโตประมาณ 2 เท่าของ GDP ถ้าจำไม่ผิด
สำหรับรายจ่ายสำคัญนั้น จะอยู่ที่การควบคุมต้นทุนสำคัญก็คือ Loss ratio ให้อยู่ในระดับต่ำ ขึ้นกับความสามารถในการคัดเลือกภัยอย่างมีคุณภาพ และมีการกระจายความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด เป็นต้น
กำไรจะเกิดมากในช่วงที่เราเสนอเบี้ยประกันภัยได้ราคาที่สูง และบริหาร Loss ratio ให้ต่ำ
ช่วงที่จะกำหนดค่าเบี้ยประกันภัยได้ราคาสูงจึงเกิดในช่วงที่เพิ่งเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงใหญ่ ๆ ทำให้มีการประเมินความเสี่ยงที่สูงขึ้น และคิดราคาค่าเบี้ยประกันภัยได้สูงขึ้น
ส่วน Loss rato เมื่อมีการเกิดภัยใหญ่เกิดขึ้น โดยมากในปีถัดมา Loss มักจะต่ำลง
ตรงนี้ทำให้บริษัทประกันภัยมีกำไรที่มากครับหลังจากเกิดภัยใหญ่ร้ายแรงนาน ๆ ทีเกิดขึ้นสักครั้งครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 12:43 pm
โดย chaitorn
อีกเคล็ดลับหนึ่งของบริษัทประกันภัยคือ สามารถหาเงินมาลงทุนโดยไม่มีต้นทุนเงินเหมือนธนาคาร
ลักษณะพิเศษของประกันภัยอีกด้านคือ รับประกันนั้นจะได้รับเบี้ยประกันก่อนที่จะต้องจ่ายเคลมในเวลาต่อมา “collect-now, pay-later model” (เก็บก่อน จ่ายทีหลัง-) ทำให้เราถือครองเงินจำนวนมากไว้ก้อนหนึ่งเฉยๆ ตลอดเวลาเป็นเวลาหลายปี
เงินนี้เราเรียกมันว่า “float” ที่ในที่สุดแล้วก็ต้องจ่ายไปสู่คนอื่น แต่ขณะที่ยังไม่ได้จ่ายออกไปนั้นเอง เราก็เอาเงินดังกล่าวไปลงทุนเพื่อหากำไร และปกติเงิน Float มักจะเพิ่มขึ้นทุกปี ตามการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้นทุกปี
เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ไม่มีต้นทุนเงิน ที่เราเรียกว่า Float ซึ่งทำให้เราสามารถนำเงินดังกล่าวไปหาผลตอบแทนจากการลงทุนฟรี ๆ ต่างจากธนาคารที่การระดมเงินฝากเราต้องเสียดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงินนั้นเอง
ดังนั้นหลักที่สำคัญก็คือ เราต้องนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงมากไม่ได้ แต่เน้นผลตอบแทนระยะยาวที่สม่ำเสมอครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 3:28 pm
โดย leky
chaitorn เขียน:
กำไรจะเกิดมากในช่วงที่เราเสนอเบี้ยประกันภัยได้ราคาที่สูง และบริหาร Loss ratio ให้ต่ำ
ช่วงที่จะกำหนดค่าเบี้ยประกันภัยได้ราคาสูงจึงเกิดในช่วงที่เพิ่งเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงใหญ่ ๆ ทำให้มีการประเมินความเสี่ยงที่สูงขึ้น และคิดราคาค่าเบี้ยประกันภัยได้สูงขึ้น
ส่วน Loss rato เมื่อมีการเกิดภัยใหญ่เกิดขึ้น โดยมากในปีถัดมา Loss มักจะต่ำลง
ตรงนี้ทำให้บริษัทประกันภัยมีกำไรที่มากครับหลังจากเกิดภัยใหญ่ร้ายแรงนาน ๆ ทีเกิดขึ้นสักครั้งครับ
สุดยอดครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ช่วยเติมสมองอันว่างเปล่าของผมครับ
จากข้างบน แสดงว่าที่เราเห็นบ.ประกันภัยหลายแห่งกำไรดีขึ้นหลังเจอมรสุมเรื่องอุทกภัยปี 54 เช่น MTI ตรงนี้จะบอกได้ไหมครับว่าเกิดจาก ค่าเบี้ยประกันที่เก็บได้สูงขึ้นหลังจากเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ เดิมทีผมเข้าใจว่าอาจจะเป็นอานิสงค์จากนโยบายรถคันแรก แต่เท่าที่เคยได้ยินมาประกันภัยรถยนต์มันไม่ค่อยทำกำไรซักเท่าไหร่
อีกเรื่องหนึ่งครับ บ.ประกันบางแห่งเหมือนจะมีการเข้าไปรับประกันภัยข้าวในโกดังของรัฐ ตรงนี้มองว่ามันเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนครับ เท่าที่เคยตามข่าวคือ TIP ครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 3:39 pm
โดย anubist
อยากให้ระวังเรื่องการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ของแบงค์สักหน่อยครับ
อาคารพาณิชย์1ห้อง 3.5ชั้น ในถนนกรมหลวงชุมพร จ.ที่ไม่ได้เด่นด้านเศรษฐกิจอะไร
แบงค์ประเมินตั้ง7.2ล้าน ทั้งที่ผมคิดดูแล้ว จริงๆน่าจะอยู่ที่5-6ล้านเท่านั้น
แต่แบงค์ต้องประเมินให้สูงๆไว้ก่อนเพื่อที่จะแข่งขันปล่อยสินเชื่อได้
garbage in,garbage out
แม้ว่าแบงค์ประเมินว่าลค.น่าจะหาเงินมาผ่อนได้ แต่ถ้าเกิดตลาดช๊อคขึ้นมา
(ซึ่งคงไม่ใช่เร็วๆนี้มั้ง) สำรองที่เห็นสูงๆอาจเอาไม่อยู่นะครับ หากต้องตัดขายขึ้นมา
อย่าวางใจมากนะครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 3:41 pm
โดย leky
chaitorn เขียน:
กำไรจะเกิดมากในช่วงที่เราเสนอเบี้ยประกันภัยได้ราคาที่สูง และบริหาร Loss ratio ให้ต่ำ
ตรงนี้ผมอยากถามคุณ chaitorn ว่าเราจะทราบได้อย่างไรครับ ว่าบ.ไหนมีผลิตภัณฑ์ในลักษณะแบบที่ว่าไว้ ยิ่งถ้าเราไม่ใช่คนในวงการประกันผมไม่แน่ใจว่าเราจะหาข้อมูลจากที่ไหนครับ
chaitorn เขียน:
เงินนี้เราเรียกมันว่า “float” ที่ในที่สุดแล้วก็ต้องจ่ายไปสู่คนอื่น แต่ขณะที่ยังไม่ได้จ่ายออกไปนั้นเอง เราก็เอาเงินดังกล่าวไปลงทุนเพื่อหากำไร และปกติเงิน Float มักจะเพิ่มขึ้นทุกปี ตามการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้นทุกปี
เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ไม่มีต้นทุนเงิน ที่เราเรียกว่า Float ซึ่งทำให้เราสามารถนำเงินดังกล่าวไปหาผลตอบแทนจากการลงทุนฟรี ๆ ต่างจากธนาคารที่การระดมเงินฝากเราต้องเสียดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงินนั้นเอง
ดังนั้นหลักที่สำคัญก็คือ เราต้องนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงมากไม่ได้ แต่เน้นผลตอบแทนระยะยาวที่สม่ำเสมครับ
อยากทราบว่าถ้าเราอยากรู้ว่าบ.ประกันไหน บริหารเงินตรงนี้ได้ดีหรือไม่เราจะเปรียบเทียบจากตัวเลขโดยดูงบการเงินตรงส่วนไหนครับ
ขอบคุณครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 6:27 pm
โดย chaitorn
leky เขียน:chaitorn เขียน:
กำไรจะเกิดมากในช่วงที่เราเสนอเบี้ยประกันภัยได้ราคาที่สูง และบริหาร Loss ratio ให้ต่ำ
ตรงนี้ผมอยากถามคุณ chaitorn ว่าเราจะทราบได้อย่างไรครับ ว่าบ.ไหนมีผลิตภัณฑ์ในลักษณะแบบที่ว่าไว้ ยิ่งถ้าเราไม่ใช่คนในวงการประกันผมไม่แน่ใจว่าเราจะหาข้อมูลจากที่ไหนครับ
chaitorn เขียน:
เงินนี้เราเรียกมันว่า “float” ที่ในที่สุดแล้วก็ต้องจ่ายไปสู่คนอื่น แต่ขณะที่ยังไม่ได้จ่ายออกไปนั้นเอง เราก็เอาเงินดังกล่าวไปลงทุนเพื่อหากำไร และปกติเงิน Float มักจะเพิ่มขึ้นทุกปี ตามการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้นทุกปี
เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ไม่มีต้นทุนเงิน ที่เราเรียกว่า Float ซึ่งทำให้เราสามารถนำเงินดังกล่าวไปหาผลตอบแทนจากการลงทุนฟรี ๆ ต่างจากธนาคารที่การระดมเงินฝากเราต้องเสียดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงินนั้นเอง
ดังนั้นหลักที่สำคัญก็คือ เราต้องนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงมากไม่ได้ แต่เน้นผลตอบแทนระยะยาวที่สม่ำเสมครับ
อยากทราบว่าถ้าเราอยากรู้ว่าบ.ประกันไหน บริหารเงินตรงนี้ได้ดีหรือไม่เราจะเปรียบเทียบจากตัวเลขโดยดูงบการเงินตรงส่วนไหนครับ
ขอบคุณครับ
1. ตรงนี้ผมอยากถามคุณ chaitorn ว่าเราจะทราบได้อย่างไรครับ ว่าบ.ไหนมีผลิตภัณฑ์ในลักษณะแบบที่ว่าไว้ ยิ่งถ้าเราไม่ใช่คนในวงการประกันผมไม่แน่ใจว่าเราจะหาข้อมูลจากที่ไหนครับ
ตรงนี้ผมมีข้อมูลดิบของอุตสาหกรรมย้อนหลังเป็นรายเดือนตามนี้ครับ
http://www.oic.or.th/th/statistics/on-life-inner09.php
เราสามารถติดตามในเรื่องของการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัยได้ และยังสามารถดู Loss ได้ แต่เขาไม่ได้คำนวนเป็น Ratio ก็ต้องไปลองคำนวนเทียบกับเบี้ยประกันภัยที่เรารับมาเองครับ แล้วเราก็ไปค้นกับงบการเงินของบริษัทที่เราศึกษาเพื่อคำนวนหา Loss ratio เทียบกับอุตสาหกรรมได้ครับ
ส่วนเรื่อง การปรับขึ้นราคา เราอาจต้องถามกับบริษัทโดยตรงว่ามีการปรับราคาในสินค้าใดบ้างอย่างไร และลองคำนวนอัตรากำไรก็พอมองเห็น
รายละเอียดเราสามารถอ่านจากหมายเหตุประกอบงบการเงินของแต่ละประกันวินาศภัยได้ มีการแตกย่อยรายการเพื่อให้เราสามารถคำนวนได้อย่างชัดเจน
เราก็จะสามารถ Plot หา Trend ได้ และมีข้อมูลของอุตสาหกรรมมาเปรียบเทียบได้ด้วยครับ
2. อยากทราบว่าถ้าเราอยากรู้ว่าบ.ประกันไหน บริหารเงินตรงนี้ได้ดีหรือไม่เราจะเปรียบเทียบจากตัวเลขโดยดูงบการเงินตรงส่วนไหนครับ
เอาสูตรการคำนวน Float มาดูครับ
http://www.fool.com/personal-finance/in ... alculating float
Here's how float is calculated. Ready for this?
unpaid losses
+ loss adjustment expense
+ unearned premium
+ other policyholder liabilities
- premium balance receivable
- loss recoverable from reinsurance ceded
- deferred policy acquisition costs
- deferred charges on reinsurance
- related deferred income tax
ข้อมูลการคำนวนจะมาจาก 2 ส่วนคือ
1. ข้อมูลในงบดุลส่วนของหนี้สิน จะแสดงรายการไว้อย่างชัดเจน
2. หากอยากทราบรายละเอียดคำอธิบายเพิ่มเติมของแต่ละรายการ ก็เข้าไปดูในหมายเหตุประกอบงบการเงินได้ครับ
ลองดูตัวอย่างงบการเงินของ SMK ในไตรมาส 3 ก็ได้ครับ
http://www.settrade.com/C04_09_stock_ne ... lectPage=9
ส่วนการบริหารเงินลงทุนทำได้ดีเพียงใด เราก็ดู 2 ส่วนครับ
1. รายการที่ Realize แล้ว ก็ดูในงบกำไรขาดทุน ในส่วนของ รายได้จากการลงทุนสุทธิ (ดอกเบี้ยและเงินปันผลจ่าย) และกำไรจากเงินลงทุนที่จะแสดงไว้ชัดเจน เราก็นำไปเทียบกับ Float ที่คำนวนได้ ก็จะทราบร้อยละอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยครับ
2. รายการที่ Unrealize ก็เข้าไปดูในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ก็จะคำนวนหาส่วนต่างของราคายุติธรรมได้ครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 6:37 pm
โดย chaitorn
ส่วนของรถยนต์ที่ส่วนใหญ่จะมีกำไรน้อย เพราะบริษัทประกันภัยหลายแห่งมองว่าแม้กำไรน้อย แต่จะได้เงิน Float เข้ามามาก ก็ไปหาประโยชน์จากเงินลงทุนแทนกำไรจากการรับประกันภัยเพราะค่าเบี้ยประกันภัยของรถยนต์เมื่อเทียบกับมูลค่าจะพบว่า มีอัตราค่าเบี้ยประกันค่อนข้างสูงทีเดียว หากเทียบกับอัคคีภัยบ้านหนึ่งหลัง จะพบว่าค่าเบี้ยที่รับเข้ามาจะต่ำกว่ามากครับ
ดังนั้นสรุปคือ ประกันอัคคีภัย ปกติ เราจะพยายามทำกำไรจากการรับประกันภัยให้มาก เพราะปกติจะเสี่ยงต่ำ (โอกาสเกิดภัยต่ำ)
ในขณะที่ประกันภัยรถยนต์ เรามักจะทำกำไรน้อยเพราะความเสี่ยงสูง(โอกาสเกิดสูง และค่าเสียหายก็สูงด้วย) เพื่อจะได้ Float มาให้มากเพื่อไปทำกำไรจากเงินลงทุนอีกด้านแทนครับ ถือว่ากำไรน้อยเป็นต้นทุนของการได้มาของ Float จำนวนที่มากที่มาจากเบี้ยประกันภัยครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 6:45 pm
โดย chaitorn
หากอยากทราบคำอธิบายความหมายรายการทางบัญชีของประกันภัยรายการต่าง ๆ หมายถึงอะไรบ้าง ก็ลองอ่านจาก Slide นี้เพื่อทำความเข้าใจเบื้องต้นได้ครับ
เพราะภาษีบัญชี เป็นภาษาธุรกิจที่เราต้องทำความเข้าใจด้วยครับ
http://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j& ... 0GYQkf3xIQ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 7:13 pm
โดย leky
ขอบคุณ คุณ chaitorn มากครับ ที่สละเวลามาตอบ
ผมสนใจหุ้นกลุ่มนี้มานานแล้ว แต่ยอมรับว่าไม่เข้าใจการวิเคราะห์ว่าควรจะดูอะไรบ้าง เลยได้แต่ตามดูห่าง ๆ เดี๋ยวคงต้องไปลองศึกษาดูเท่าที่จะทำได้ครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 7:55 pm
โดย vim
ผมแอบตามอ่านมาสักพักแล้ว ได้ความรู้มากเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องธนาคารและประกันภัย ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่มาแชร์ให้ฟังครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 8:25 pm
โดย chaitorn
leky เขียน:ขอบคุณ คุณ chaitorn มากครับ ที่สละเวลามาตอบ
ผมสนใจหุ้นกลุ่มนี้มานานแล้ว แต่ยอมรับว่าไม่เข้าใจการวิเคราะห์ว่าควรจะดูอะไรบ้าง เลยได้แต่ตามดูห่าง ๆ เดี๋ยวคงต้องไปลองศึกษาดูเท่าที่จะทำได้ครับ
ยินดีครับ มีอะไรก็ตั้งกระทู้ถามมาได้ครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 13, 2014 8:28 pm
โดย chaitorn
anubist เขียน:อยากให้ระวังเรื่องการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ของแบงค์สักหน่อยครับ
อาคารพาณิชย์1ห้อง 3.5ชั้น ในถนนกรมหลวงชุมพร จ.ที่ไม่ได้เด่นด้านเศรษฐกิจอะไร
แบงค์ประเมินตั้ง7.2ล้าน ทั้งที่ผมคิดดูแล้ว จริงๆน่าจะอยู่ที่5-6ล้านเท่านั้น
แต่แบงค์ต้องประเมินให้สูงๆไว้ก่อนเพื่อที่จะแข่งขันปล่อยสินเชื่อได้
garbage in,garbage out
แม้ว่าแบงค์ประเมินว่าลค.น่าจะหาเงินมาผ่อนได้ แต่ถ้าเกิดตลาดช๊อคขึ้นมา
(ซึ่งคงไม่ใช่เร็วๆนี้มั้ง) สำรองที่เห็นสูงๆอาจเอาไม่อยู่นะครับ หากต้องตัดขายขึ้นมา
อย่าวางใจมากนะครับ
ประเด็นนี้เป็นความเสี่ยงอีกเรื่องในอดีตครับ เขาเรียกว่าตั้งใจเผาเอาเงินประกันได้ หากเงินเอาประกันสูงกว่าทรัพย์สินที่ประกัน อย่างไรก็ตามในกม. แม้ทุนประกันจะสูง แต่ประกันภัยหากพิสูจน์มูลค่าหลักทรัพย์ว่าต่ำกว่าทุนประกีน การชดใช้ค่าเสียหายจะจ่ายไม่เกินมูลค่าหลักประกันที่แท้จริงที่เสียหายนะครับ ก็ต้องต่อสู้คดีกันครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 14, 2014 10:25 am
โดย Nevercry.boy
ขอบคุณทุกท่านครับ โดยเฉพาะคุณชัยธรมากครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 15, 2014 9:40 pm
โดย Nevercry.boy
อีกกลุ่มนึงมี่วีไอไม่ค่อยพูดถึงคือกลุ่มรับเหมาก่อสริ้างราคาดรอป ลงมาเยอะ คิดว่าอย่างไรบ้างครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 16, 2014 1:15 am
โดย leky
Nevercry.boy เขียน:อีกกลุ่มนึงมี่วีไอไม่ค่อยพูดถึงคือกลุ่มรับเหมาก่อสริ้างราคาดรอป ลงมาเยอะ คิดว่าอย่างไรบ้างครับ
หุ้นกลุ่มนี้ขอบายเลยครับ เพราะคาดการยาก เพราะปัญหาหลาย ๆ อย่าง
1) อิงการเมือง นโยบายรัฐ มือที่มองไม่เห็น
2) เงินที่ต้อง "จ่าย" ให้ได้งาน ตรงนี้ไม่มีใครรู้ว่าเท่าไหร่ รู้แต่ว่าตรงนี้ต้นทุนสูงแน่
3) ปัญหาขาดแคลนแรงงาน
4) ปัญหาราคาวัสดุ
เช่น ITD งานในมือเป็นแสนล้าน แต่ก็ดูทำกำไรไม่ค่อยจะได้ ลุ่ม ๆ ดอน ๆ สามวันดีสี่วันไข้ครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 4:23 pm
โดย kongkiti
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 4:31 pm
โดย kongkiti
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 4:40 pm
โดย kongkiti
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 4:56 pm
โดย JobJakraphan
แบบนี้เงินที่ปชช.แห่ไปถอนจากออมสินก็จะกระจายเข้าไปเป็นเงินฝากของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งแทนถูกต้องไหมครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 6:29 pm
โดย vim
JobJakraphan เขียน:แบบนี้เงินที่ปชช.แห่ไปถอนจากออมสินก็จะกระจายเข้าไปเป็นเงินฝากของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งแทนถูกต้องไหมครับ
เท่าที่ผมจำได้ สมัยก่อนก็มีเรื่องการเมืองทำให้หลายคนถอนเงินจากธนาคารกรุงเทพ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กระทบอะไรมากครับ มันเป็นเรื่องอารมณ์ของคน มาแล้วก็ไป ครั้งนี้ผมเดาว่าน่าจะคล้ายๆกัน
โดยเฉพาะหากคนถอนเงินออมสินเยอะจริงๆ สลากออมสินจะมีสิทธิถูกรางวัลง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ คอสลากกินแบ่งไม่น่าพลาด
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 6:39 pm
โดย JobJakraphan
vim เขียน:JobJakraphan เขียน:แบบนี้เงินที่ปชช.แห่ไปถอนจากออมสินก็จะกระจายเข้าไปเป็นเงินฝากของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งแทนถูกต้องไหมครับ
เท่าที่ผมจำได้ สมัยก่อนก็มีเรื่องการเมืองทำให้หลายคนถอนเงินจากธนาคารกรุงเทพ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กระทบอะไรมากครับ มันเป็นเรื่องอารมณ์ของคน มาแล้วก็ไป ครั้งนี้ผมเดาว่าน่าจะคล้ายๆกัน
โดยเฉพาะหากคนถอนเงินออมสินเยอะจริงๆ สลากออมสินจะมีสิทธิถูกรางวัลง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ คอสลากกินแบ่งไม่น่าพลาด
ขอบคุณพี่ vim มากครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 7:41 pm
โดย anubist
vim เขียน:JobJakraphan เขียน:แบบนี้เงินที่ปชช.แห่ไปถอนจากออมสินก็จะกระจายเข้าไปเป็นเงินฝากของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งแทนถูกต้องไหมครับ
เท่าที่ผมจำได้ สมัยก่อนก็มีเรื่องการเมืองทำให้หลายคนถอนเงินจากธนาคารกรุงเทพ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กระทบอะไรมากครับ มันเป็นเรื่องอารมณ์ของคน มาแล้วก็ไป ครั้งนี้ผมเดาว่าน่าจะคล้ายๆกัน
โดยเฉพาะหากคนถอนเงินออมสินเยอะจริงๆ สลากออมสินจะมีสิทธิถูกรางวัลง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ คอสลากกินแบ่งไม่น่าพลาด
อาจไม่มีผลกระทบกับธ.รัฐ แต่ถ้าเป็นธ.พานิชย์กระทบภาพลักษณ์แน่นอน ซึ่งประเมินค่าไม่ได้
และต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่สูงกว่าการรักษาลูกค้าเก่า5เท่า
การเสียลูกค้าให้คู่แข่งด้วยเรื่องแบบนี้
เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยสำหรับธ.พานิชย์
แต่สำหรับออมสินที่...ก็ช่างเค้าเถอะครับ
ธ.ที่รัฐเป็นประกัน รัฐถังแตกเมื่อไหร่ เมื่อนั้นยังจะเป็นประกันให้ได้รึเปล่า
ใครที่มีเงินฝากในแบงค์ที่โดนปิดช่วง40 น่าจะรู้ความรู้สึกที่ว่า เงินมี รัฐค้ำทุกแบงค์ แต่ถอนไม่ได้ มันเจ็บปวดแค่ไหน
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 7:56 pm
โดย wee1
vim เขียน:JobJakraphan เขียน:แบบนี้เงินที่ปชช.แห่ไปถอนจากออมสินก็จะกระจายเข้าไปเป็นเงินฝากของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งแทนถูกต้องไหมครับ
เท่าที่ผมจำได้ สมัยก่อนก็มีเรื่องการเมืองทำให้หลายคนถอนเงินจากธนาคารกรุงเทพ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กระทบอะไรมากครับ มันเป็นเรื่องอารมณ์ของคน มาแล้วก็ไป ครั้งนี้ผมเดาว่าน่าจะคล้ายๆกัน
โดยเฉพาะหากคนถอนเงินออมสินเยอะจริงๆ สลากออมสินจะมีสิทธิถูกรางวัลง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ คอสลากกินแบ่งไม่น่าพลาด
ผมว่าโอกาสมันน่าจะเท่าเดิมนะครับ เพราะเวลาออกรางวัลความน่าจะเป็นมันไม่ได้เปลี่ยนนิครับ หรือผมเข้าใจอะไรผิดหรือปล่าวนะ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 8:05 pm
โดย yoko
ผมอ่านข่าวมติชน ตามข่าวบอกว่าเอารูปคนเข้าคิวฝากในวันเด็กมาโพสว่าคนแห่ถอน555
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 8:43 pm
โดย vim
wee1 เขียน:
ผมว่าโอกาสมันน่าจะเท่าเดิมนะครับ เพราะเวลาออกรางวัลความน่าจะเป็นมันไม่ได้เปลี่ยนนิครับ หรือผมเข้าใจอะไรผิดหรือปล่าวนะ
ผมสับสนเองครับคุณ wee1 ขอโทษนะครับ
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 8:52 pm
โดย Nevercry.boy
พี่ ๆ ครับ กลับเข้าหัวข้อ กระทู้ดีมั๊ยครับ ใครพาออกทะเลครับนี่
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 9:01 pm
โดย kongkiti
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 17, 2014 9:45 pm
โดย jokerz
ตอนนี้ thre น่าจะ 50 เปอร์เซ็นต์ ละครับ