Re: สถานการณ์รถยนต์
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 15, 2015 1:55 pm
ตลาดรถมือ2 ส่งสัญญาณบวก ราคาขยับ 3-5 หมื่นบาท/คาดสิ้นปีเติบโต 20%
อาทิตย์ ที่ 4 ตุลาคม 2558 ฐานเศรษฐกิจ Auto, Business
ตลาดรถมือสองเริ่มฟื้นตัว นายกส.รถใช้แล้วชี้ราคาปรับตัวดีขึ้น เฉลี่ย 3 – 5 หมื่นบาท พร้อมยกมือสนับสนุนภาครัฐฯผลักดันนโยบายคืนภาษีสำหรับการส่งออกรถไปยังเพื่อนบ้าน มั่นใจสิ้นปี 58 ตลาดโตอย่างน้อย 20% ด้านสหการประมูลกางแผนรับมือ เตรียมเพิ่มความถี่ประมูลสัญจรและรีแบรนดิ้ง-พัฒนาระบบไอที
นายธนบูลย์ จิระไตรลักษณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถมือสองในช่วงไตรมาส 3 เข้าสู่ไตรมาส 4 สถานการณ์เริ่มดีขึ้น โดยราคารถยนต์มีการปรับตัวสูงขึ้น อาทิ รถในกลุ่มอีโคคาร์ บี-คาร์ ขนาดเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่ราคาปรับขึ้นมาเฉลี่ย 3- 5 หมื่นบาท หรือจากราคาเริ่มต้นปลาย 2แสน ตอนนี้ก็ขยับขึ้นมาเป็น 3 แสนบาทแล้ว โดยปัจจัยที่ทำให้ราคามีการปรับขึ้นเป็นผลมาจากการปลดล็อกเรื่องโครงการรถคันแรกของรัฐบาล รวมไปถึงนโยบายของภาครัฐที่จะมีการสนับสนุนเรื่องคืนภาษีสำหรับผู้ส่งออกรถยนต์มือสองไปยังต่างประเทศ
“จากการสังเกตตลาดในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในตลาดประมูล และตลาดทั่วไป พบว่าราคารถเล็ก 1.5 ลิตรเริ่มดีขึ้น ตรงจุดนี้เองส่งผลดีสำหรับผู้ที่มีรถกลุ่มนี้อยู่ในสต๊อก ก็จะขายได้กำไรมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเรื่องไฟแนนซ์ที่มีความเข้มงวด เพราะห่วงเรื่องหนี้เสีย ทำให้ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ”
นายธนบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าของนโยบายการคืนภาษีสำหรับผู้ส่งออกรถยนต์มือสองในตอนนี้ว่าทางกระทรวงการคลัง และกรมสรรพสามิตได้มีการพูดคุยกับทางสมาคมเพื่อศึกษาถึงทิศทางและแนวโน้มต่างๆเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาว่าจะลดหย่อนภาษีตรงจุดไหนยังไง และส่งออกไปยังประเทศใด แต่เบื้องต้นที่สมาคมได้มองไว้คือ เมียนมา ลาว เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งรัฐก็ต้องไปดูว่าเงื่อนไขการส่งไปขายยังประเทศเหล่านี้เป็นอย่างไร มีกำแพงภาษีแบบไหน และต้องการรถประเภทใด
“ภาครัฐมีการตอบรับที่ดี มีการฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนที่ได้นำเสนอไป และเราก็มองว่าแนวทางการส่งออกเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกวันนี้เรามีแต่เข้าไม่มีออก หากรัฐช่วยหาทางออกด้วยการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นการขยายตลาด ช่วยลดมลพิษ ช่วยเรื่องราคารถมือสองในประเทศให้เสถียร”
นายธนบูลย์ กล่าวว่า แม้ข้อสรุปจากภาครัฐเกี่ยวกับนโยบายจะยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีให้กับตลาดรถมือสอง โดยประเมินว่าจนถึงสิ้นปีนี้ตลาดจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10-20% เป็นอย่างต่ำ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียงตลาดจะมีเสถียรภาพมากกว่าต่างจังหวัด ที่อาจจะได้รับผลกระทบเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร
ด้านนางสาวฐารดา คูประสิทธิ์ นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทสหการประมูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดรถมือสองตอนนี้ถือว่าราคาเริ่มนิ่ง ไม่ผันผวนเหมือนช่วงที่ผ่านมา ขณะที่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ไหลเข้ามาสู่ตลาดประมูลนั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าในปีนี้จะมีรถที่เข้ามาสู่กระบวนการประมูลมากกว่า 1 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย
“เราได้รถที่จะนำมาประมูลจากพันธมิตรที่เป็นสถาบันการเงินเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ รวมไปถึงรถประเภทอื่นๆ อาทิ รถพ่วงบรรทุก รถเพื่อการเกษตร ทำให้เราได้เปรียบผู้เล่นรายอื่นๆในตลาดในแง่ของความหลากหลายของตัวสินค้า และปัจจุบันราคาต้นทุนบวกกับกำไรต่างๆก็มีการขยับเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างปีที่ผ่านมาได้ 7 พันบาท ปีนี้ก็ขยับมาเป็น 8 พันบาท”
นางสาวฐารดา กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนงานในปีนี้ของบริษัทคือการขยายฐานไปสู่ลูกค้าทั่วไปมากขึ้น จากเดิมสัดส่วนลูกค้าทั่วไปมีประมาณ 10% ก็จะขยับมาเป็น 20% และลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการรถมือสองหรือเต็นท์ที่มาประมูลเพื่อนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง คิดเป็น 90% ก็จะปรับเป็น 80% ภายในสิ้นปีนี้ โดยการทำตลาดในกลุ่มนี้จะเน้นการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย นอกจากนั้นแล้วจะมีการเพิ่มความถี่ในการประมูลเพิ่มมากขึ้น
“แนวโน้มรถที่จะเข้ามายังบริษัทประมูลเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการวางแผนรับมือด้วยการเพิ่มความถี่การจัดประมูล และมุ่งเข้าหาลูกค้าทั่วไปมากขึ้น นอกจากนั้นแล้วเราจะจัดประมูลโดยเน้นไปที่ภาคอีสานอย่าง อุบลราชธานี และอุดรธานี ที่บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นฮับการประมูลเพื่อรองรับการเปิดเออีซีในอนาคต”
ขณะเดียวกันบริษัทได้มีการรีแบรนดิ้ง และพัฒนาระบบไอทีใหม่ อาทิ เว็บไซต์ เพื่อรองรับกับการเติบโตในอนาคต คาดว่าในเดือนตุลาคมนี้จะพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ส่วนการขยายเครือข่ายจะมีการเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 – 5 แห่ง จากปัจจุบัน 26 แห่งก็จะเพิ่มเป็น 30 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้ ด้วยอัตราการเติบโตมากกว่า 10%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3093 วันที่ 4 – 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558
http://www.thansettakij.com/2015/10/04/12703
อาทิตย์ ที่ 4 ตุลาคม 2558 ฐานเศรษฐกิจ Auto, Business
ตลาดรถมือสองเริ่มฟื้นตัว นายกส.รถใช้แล้วชี้ราคาปรับตัวดีขึ้น เฉลี่ย 3 – 5 หมื่นบาท พร้อมยกมือสนับสนุนภาครัฐฯผลักดันนโยบายคืนภาษีสำหรับการส่งออกรถไปยังเพื่อนบ้าน มั่นใจสิ้นปี 58 ตลาดโตอย่างน้อย 20% ด้านสหการประมูลกางแผนรับมือ เตรียมเพิ่มความถี่ประมูลสัญจรและรีแบรนดิ้ง-พัฒนาระบบไอที
นายธนบูลย์ จิระไตรลักษณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถมือสองในช่วงไตรมาส 3 เข้าสู่ไตรมาส 4 สถานการณ์เริ่มดีขึ้น โดยราคารถยนต์มีการปรับตัวสูงขึ้น อาทิ รถในกลุ่มอีโคคาร์ บี-คาร์ ขนาดเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่ราคาปรับขึ้นมาเฉลี่ย 3- 5 หมื่นบาท หรือจากราคาเริ่มต้นปลาย 2แสน ตอนนี้ก็ขยับขึ้นมาเป็น 3 แสนบาทแล้ว โดยปัจจัยที่ทำให้ราคามีการปรับขึ้นเป็นผลมาจากการปลดล็อกเรื่องโครงการรถคันแรกของรัฐบาล รวมไปถึงนโยบายของภาครัฐที่จะมีการสนับสนุนเรื่องคืนภาษีสำหรับผู้ส่งออกรถยนต์มือสองไปยังต่างประเทศ
“จากการสังเกตตลาดในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในตลาดประมูล และตลาดทั่วไป พบว่าราคารถเล็ก 1.5 ลิตรเริ่มดีขึ้น ตรงจุดนี้เองส่งผลดีสำหรับผู้ที่มีรถกลุ่มนี้อยู่ในสต๊อก ก็จะขายได้กำไรมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเรื่องไฟแนนซ์ที่มีความเข้มงวด เพราะห่วงเรื่องหนี้เสีย ทำให้ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ”
นายธนบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าของนโยบายการคืนภาษีสำหรับผู้ส่งออกรถยนต์มือสองในตอนนี้ว่าทางกระทรวงการคลัง และกรมสรรพสามิตได้มีการพูดคุยกับทางสมาคมเพื่อศึกษาถึงทิศทางและแนวโน้มต่างๆเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาว่าจะลดหย่อนภาษีตรงจุดไหนยังไง และส่งออกไปยังประเทศใด แต่เบื้องต้นที่สมาคมได้มองไว้คือ เมียนมา ลาว เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งรัฐก็ต้องไปดูว่าเงื่อนไขการส่งไปขายยังประเทศเหล่านี้เป็นอย่างไร มีกำแพงภาษีแบบไหน และต้องการรถประเภทใด
“ภาครัฐมีการตอบรับที่ดี มีการฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนที่ได้นำเสนอไป และเราก็มองว่าแนวทางการส่งออกเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกวันนี้เรามีแต่เข้าไม่มีออก หากรัฐช่วยหาทางออกด้วยการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นการขยายตลาด ช่วยลดมลพิษ ช่วยเรื่องราคารถมือสองในประเทศให้เสถียร”
นายธนบูลย์ กล่าวว่า แม้ข้อสรุปจากภาครัฐเกี่ยวกับนโยบายจะยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีให้กับตลาดรถมือสอง โดยประเมินว่าจนถึงสิ้นปีนี้ตลาดจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10-20% เป็นอย่างต่ำ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียงตลาดจะมีเสถียรภาพมากกว่าต่างจังหวัด ที่อาจจะได้รับผลกระทบเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร
ด้านนางสาวฐารดา คูประสิทธิ์ นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทสหการประมูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดรถมือสองตอนนี้ถือว่าราคาเริ่มนิ่ง ไม่ผันผวนเหมือนช่วงที่ผ่านมา ขณะที่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ไหลเข้ามาสู่ตลาดประมูลนั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าในปีนี้จะมีรถที่เข้ามาสู่กระบวนการประมูลมากกว่า 1 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย
“เราได้รถที่จะนำมาประมูลจากพันธมิตรที่เป็นสถาบันการเงินเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ รวมไปถึงรถประเภทอื่นๆ อาทิ รถพ่วงบรรทุก รถเพื่อการเกษตร ทำให้เราได้เปรียบผู้เล่นรายอื่นๆในตลาดในแง่ของความหลากหลายของตัวสินค้า และปัจจุบันราคาต้นทุนบวกกับกำไรต่างๆก็มีการขยับเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างปีที่ผ่านมาได้ 7 พันบาท ปีนี้ก็ขยับมาเป็น 8 พันบาท”
นางสาวฐารดา กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนงานในปีนี้ของบริษัทคือการขยายฐานไปสู่ลูกค้าทั่วไปมากขึ้น จากเดิมสัดส่วนลูกค้าทั่วไปมีประมาณ 10% ก็จะขยับมาเป็น 20% และลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการรถมือสองหรือเต็นท์ที่มาประมูลเพื่อนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง คิดเป็น 90% ก็จะปรับเป็น 80% ภายในสิ้นปีนี้ โดยการทำตลาดในกลุ่มนี้จะเน้นการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย นอกจากนั้นแล้วจะมีการเพิ่มความถี่ในการประมูลเพิ่มมากขึ้น
“แนวโน้มรถที่จะเข้ามายังบริษัทประมูลเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการวางแผนรับมือด้วยการเพิ่มความถี่การจัดประมูล และมุ่งเข้าหาลูกค้าทั่วไปมากขึ้น นอกจากนั้นแล้วเราจะจัดประมูลโดยเน้นไปที่ภาคอีสานอย่าง อุบลราชธานี และอุดรธานี ที่บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นฮับการประมูลเพื่อรองรับการเปิดเออีซีในอนาคต”
ขณะเดียวกันบริษัทได้มีการรีแบรนดิ้ง และพัฒนาระบบไอทีใหม่ อาทิ เว็บไซต์ เพื่อรองรับกับการเติบโตในอนาคต คาดว่าในเดือนตุลาคมนี้จะพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ส่วนการขยายเครือข่ายจะมีการเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 – 5 แห่ง จากปัจจุบัน 26 แห่งก็จะเพิ่มเป็น 30 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้ ด้วยอัตราการเติบโตมากกว่า 10%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3093 วันที่ 4 – 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558
http://www.thansettakij.com/2015/10/04/12703