Thai VI

Outliers เขียน:ผมก็ไม่ได้ตีแตกครับ อาจเพราะความรู้น้อยก็เลยต้องกระจายความเสี่ยงบ้าง

ตอนนี้ก็ถือหุ้นอยู่ 7 ตัวครับ แต่ 4 ตัวแรกถือประมาณ 90% ของ port

ยังไม่กล้าทุ่มไปตัวเดียวเลย ประกอบกับเห็นโอกาสในอีกหลายตัว เลยไม่รู้จะตัดใจยังไงดี

ตอนนี้ยังอยากได้อีก 2 ตัวเลยครับ แต่ไม่อยากจะขายตัวที่ถืออยู่ ประกอบกับไม่อยากถือหุ้นมากตัวเกินไป

ใหม่ๆผมก็เคยเป็น...  :lol:

เทพๆกันทั้งนั้นเลย

พี่ sai นี่ทำธุรกิจก็เทพ เล่นหุ้นก็เซียน เก่งจริงๆ

ของผมก็จำไม่ได้แล้วครับว่าปีนี้เป็นไงมั่งแต่คิดว่าผลตอบแทนก็เฉยๆคือกำไรแต่คงไม่ถึงขั้นเทพแบบพี่ๆน้อง อาศัยโชคดีที่ไม่ได้ถือหุ้นตอนก่อนวิกฤติเลยกำไรจากปีก่อนด้วย

คุณ picatos ก็อุตส่าห์ใบ้หุ้น svi ให้แต่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้จักดีเลยไม่กล้าซื้อตามถือ HANA คู่แข่งอยู่ด้วยเลยพลาดโอกาสงามๆไป    ยังดีพี่ลูกอิสานยังเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แจกหุ้นให้ :lol: กำไรไปพอสมควรกับ qlt, siam, pm, inet, scsmg

ที่เจ็บสุดปีนี้คงไม่พ้น major ซึ่งถือเยอะพอสมควรคิดว่าตัวเองวิเคราะห์ผิดเลยเทขายไปเข้าตัวอื่น ขาดทุนหนักสุดเป็น % ของราคาหุ้นคงไม่พ้น trc แต่ถือไม่เยอะมาก

หุ้นที่ไม่ขาดทุนแต่ผิดหวังมากสุดแห่งปีเห็นจะหนีไม่พ้น STANLY อืดอาดยืดยาดมากหวังว่าปีนี้จะได้เห็นอะไรดีๆจากตัวนี้มั่ง

ส่วนกิ๊กที่รักสุดตอนนี้คือ BLA ถึงแม้ไม่ได้คบกับเธอมาแต่วันแรกที่ ipo แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง :lol:

เสียดายที่ความรู้เกี่ยวกับหุ้นในตลาดยังน้อยทำให้ไม่ได้ตักตวงผลประโยชน์ได้เต็มที่จากวิฤติครั้งนี้ แต่ก็ได้เรียนรู้อะไรๆมากขึ้นจากเดิมเยอะครับ

[quote="Outliers"]แล้วตอนนี้พี่รักษายังไงครับ

เห็นผลตอบแทนแต่ละคน ละ แพ้ราบคาบเลย ผมได้แค่ 33% เองแต่ก็ยังดีกว่าขาดทุน... หวังว่าซักวันคงได้เยอะๆกับเขาบ้างน้า.. ไม่ทราบว่าพี่ๆที่ได้กันเยอะ ปรับ PORT กันบ่อยปะ (เฉพาะปีที่ผ่านมา 52)

เอามาฝากจากบทความล่าสุดของ ดร.นิเวศน์ ครับ
http://www.thaivi.com/2010/01/103/
ข้อมูลอีกเรื่องหนึ่งที่ผมเห็นว่าต้องระวังเวลาอ่านก็คือเรื่องของ  ผลการลงทุน  ของ เซียน  หรือบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง   ถ้าเป็นเรื่องของการศึกษาทางวิชาการจริง ๆ  มีตัวเลขข้อมูลที่สนับสนุนชัดเจน  เช่น ผลการลงทุนของกองทุนรวมที่มีข้อมูลเปิดเผยและเป็นตัวเลขจริง  ข้อมูลของบริษัทอย่าง  เบิร์กไชร์ ของ วอเร็น บัฟเฟตต์  หรือการศึกษาทางวิชาการเปรียบเทียบผลตอบแทนของกลยุทธ์แบบ  Value กับ Growth ที่มีเกณฑ์แน่นอนและทำอย่างมาตรฐาน  แบบนี้  เราก็พอเชื่อถือได้  แต่การ อ้าง ว่าได้ผลตอบแทนเท่านั้นเท่านี้โดยไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้สนับสนุน  หรือการทำโพล์ทางอินเตอร์เน็ตนั้น  ผมคิดว่าผลลัพธ์ที่ได้ไม่น่าเชื่อถือ  เหตุผลก็คือ  มันจะมี  Bias หรือความลำเอียง  นั่นก็คือ  คนที่ได้ผลตอบแทนดีก็จะมาตอบแบบสอบถามมากกว่าคนที่มีผลงานแย่  คนบางคนก็บอกผลตอบแทนที่อาจจะไม่จริงแต่มีแนวโน้มไปในทางสูงเพื่อที่จะแสดงว่าตนเองมีความสามารถสูงซึ่งก็เป็นเรื่องของแรงจูงใจของมนุษย์ทุกคน  ดังนั้น  เมื่ออ่านข้อมูลเหล่านั้น  อย่าไปเชื่อ  พูดถึงเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงสงครามเวียตนามที่ทหารสหรัฐและเวียตนามต่างก็คุยว่าสังหารศัตรูได้มากมายในการรบทุกครั้ง  แต่มีคนให้ข้อสังเกตว่าถ้าเป็นจริงตามที่ว่า  กองทัพเวียตนามและอเมริกาคงหมดไปนานแล้ว

ได้กำไรโม้ไปทั่ว...ขาดทุนต้องเงียบกริบครับ อิอิ

เพิ่งจะคำนวณผลตอบแทนของปีที่แล้วเสร็จ เข้ามาช่วยดึง mean ครับ  :)

I can't believe myself: just the 6 days period of this year I gain more money thanI did for the last whole year. In other words, I perform pretty bad last year.

ว่าจะเข้าไปโหวตแต่ต้องถามก่อนว่า

วิธีคิดผลตอบแทนในกรณีนี้จะคิดยังไงครับ

1. คิดโดยใช้มูลค่าตลาดของพอร์ตในตอนสิ้นปี 2008 เป็นฐาน

หรือ

2. คิดโดยใช้ต้นทุนตั้งแต่เข้าตลาดปีแรกเป็นฐานครับ

?

ผมอ่านตั้งแต่หน้าแรก ถึง หน้าที่เจ็ด
ยังไม่เห็นกองทุนชมรมของเรามาโพสเลยว่า ผลงานปีที่แล้วเป็นอย่างไง
หรือว่ายังไม่ปิดบัญชี

เพราะทุกทีเป็นรายงานครับ

บทความล่าสุดของ ดร นิเวศน์ เกี่ยวกับเรื่องโพสผลตอบแทนลงเวบบอร์ดนะครับ ลองไปหาอ่านกันดู

ผมตอบแทนของผม ก็เป็น new high ของตัวเองเหมือนกันครับ ปีนี้

2xx % ยังห่างเซียนอีกเยอะครับ  :D

เป็น margin effect ด้วยส่วนนึง

ที่ประสบความสำเร็จหลักๆ ก็ lpn, spali, irp 3 ตัวนี้ครับ
พบว่าการลงทุนหนัก แบบ focus หลักๆไม่กี่ตัว ค่อนข้างให้ผลตอบแทนดี
ในสองเรื่อง
1. ความมั่นใจ เพราะจะทำการบ้านค่อนข้างเยอะ และเกาะติด
2. ก่อนและหลังซื้อขาย ที่จะใช้เหตุผลมากในการตัดสินใจ ก่อนจะเปลี่ยนจาก กิ๊กเล็กๆ มีเป็น กิ๊กใหญ่ๆ