Thai VI

areliang เขียน:ผม เกษียณ แล้วครับ 555 ( ดูตัวเองเหมือนเกษียณมาเป็นปีแล้วนะเนี่ย)

ต่อไปอะไรที่ทำ คือ อยากทำ ไม่ใช่ อยากได้ 555

ตามประสบการณ์ นะ ความสุขเป็นประจำ ดีกว่าความร่ำรวยส่วนที่ไม่ได้ใช้

แต่การมีพอ พอมี พอกิน พอเหลือ เป็นส่วนหนึ่งของความสุขครับ

แฮะๆ อย่าสนใจแต่เฉพาะเป้าหมายนะครับ สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทางที่เราเดินทางไปสู่เป้าหมายด้วยนะครับ

เพราะสิ่งที่ เกิดขึ้น หรือ จะเกิดขึ้นระหว่างทางนั้น คือความจริงของชีวิตเราเอง ดูแลระหว่างทางให้ดีๆ จริงๆ เพราะบางอย่างมันจะยากที่จะย้อนกลับมา

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ พี่เหลียงช่วยแชร์ประสบการณ์ที่ผ่านมาได้มั๊ยครับ ว่าเรื่องระหว่างทางที่เสียดายของพี่คืออะไร เผื่อเป็นแนวทางในการทบทวนตัวเองต่อไป  (คงไม่ใช่แบบไม่มีเวลาจีบสาวนะครับ)  ขอบคุณครับ

tawitin9 เขียน:

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ พี่เหลียงช่วยแชร์ประสบการณ์ที่ผ่านมาได้มั๊ยครับ ว่าเรื่องระหว่างทางที่เสียดายของพี่คืออะไร เผื่อเป็นแนวทางในการทบทวนตัวเองต่อไป

ผมขอ retire ซัก อายุ 36-38 ปี (ตอนนี้ 31 ) เป้าหมายก่อน retired คือมี cash หรือสินทรัพย์สภาพคล่อง มูลค่า 36.5 ล้าน พร้อมกับหาแหล่งลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 5 % โดยที่ไม่เสี่ยง (จุดประสงค์ ของ 36.5 ล้าน คือ เมื่อหารจำนวนวันใน 1 ปี แล้วคูณด้วยดอกเบี้ย 5% จะได้ freecashflow 5 พันบาทต่อวันโดยที่ผมไม่ต้องทำงาน ) ถึงตอนนั้นคงใช้เวลาเที่ยวที่ๆอยากไป โดยไม่ต้องห่วงเรื่องงานครับ

Notelio เขียน:ผมขอ retire ซัก อายุ 36-38 ปี (ตอนนี้ 31 ) เป้าหมายก่อน retired คือมี cash หรือสินทรัพย์สภาพคล่อง มูลค่า 36.5 ล้าน พร้อมกับหาแหล่งลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 5 % โดยที่ไม่เสี่ยง (จุดประสงค์ ของ 36.5 ล้าน คือ เมื่อหารจำนวนวันใน 1 ปี แล้วคูณด้วยดอกเบี้ย 5% จะได้ freecashflow 5 พันบาทต่อวันโดยที่ผมไม่ต้องทำงาน ) ถึงตอนนั้นคงใช้เวลาเที่ยวที่ๆอยากไป โดยไม่ต้องห่วงเรื่องงานครับ

คุณ Notelio เป็นเจ้าของธุรกิจหรือเปล่าครับ

ดูแล้วคุณเก็บเงินได้เก่งมากๆ ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนขั้นเทพ แน่ๆ

[quote="Voldtrest"]
ปล.

ปัจจุบันอายุ 34 อยาก Retire อายุไม่เกิน 40 ปี
ผมตั้งใจที่จะสร้างพอร์ตให้ได้ 50 ล้านบาท
เงินปันผลแค่ 5% ก็ได้ 2.5 ล้านต่อปี เดือนละ 2 แสนบาท
สิ่งที่อยากทำ
1.มีบ้าน 1 หลัง
2.มีรถ 1 คัน
3.ไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 3 เดือน
4.เป็นวิทยากรให้ความรู้การลงทุน
5.ตะเวนเล่นกอล์ฟให้ครบทุกสนามในประเทศ
6.ไปเที่ยวสิ่งมหัศจรรย์ให้ครบ
พออายุ 65 ผมก็จะเตรียมตัวจบชีวิตอย่างสงบ

***************************************************

สมมุติว่าคุณบังเอิญซื้อหุ้นแบบตีแตกในช่วงที่หุ้นตกรุนแรงครั้งนี้ แล้วไม่รู้อะไรดลใจให้คุณถือจนทำให้พอร์ตคุณถึงเท่ากับที่คุณบอกว่าจะเกษียณในสิ้นปีนี้ คุณจะเกษียณจริงๆ เหรอ ผมว่าส่วนใหญ่น่าจะเพิ่มเป้าขึ้นไปอีกเพราะรู้สึกว่าเราน่าจะทำได้มากกว่านี้จะรีบเลิกไปทำไม เห็นด้วยไหมครับ  :o

[quote="pornchai_w"]พออายุ 65 ผมก็จะเตรียมตัวจบชีวิตอย่างสงบ

จบยังไงฮะ... โปรดอธิบายเพิ่มเติมครับ
จริงๆชีวิตคนถึงไม่อยากจบ มันก็ต้องจบอยู่ดีครับ  :roll:

ผมว่าส่วนใหญ่น่าจะเพิ่มเป้าขึ้นไปอีกเพราะรู้สึกว่าเราน่าจะทำได้มากกว่านี้จะรีบเลิกไปทำไม เห็นด้วยไหมครับ

เรื่องของเราเองไม่จำเป็นต้องไปเปรียบกับคนส่วนใหญ่นี่ครับ

สนุกก็ทำต่อ  เบื่อแล้วก็ไปทำอย่างอื่นได้ครับ  :D  

อายุ 29ครับ ไม่ทำงาน และไม่กลับไปทำงานประจำอีกแล้ว

ลาออกมาตอน Port 20 ล้านกว่าๆ

...........................
เส้นทาง สร้าง Port

เริ่มทำงานที่ธนชาต 18 กุมภาพันธ์ 2546

ได้ค่าคอมช่วงตลาด Boom  เดือน 7-8-9 เดือนละเกือบแสน

เอาเงินทั้งหมดไป  ซื้อ Psl 10บาท ขาย 48บาท

ต้นปี 2547 ทำให้Port เป็น 1.2 ล้าน


หลังจากนั้น พ่อแม่ เติมเงินให้ 2 ล้าน เป็น 3.2 ล้าน

Port นิ่ง อยู่หลาย2-3ปี เพราะถือ JAS ได้กำไรนิดหน่อย

เดือน8 ปี 51 ทำ Pair Trade  JAS กับ ACL

ไปจนถึงเดือน 7 ปี 2551 มูลค่า Port เป็น 5.8 ล้านบาท



เดือน7 ปี 2551 ซื้อACL 4 บาท แต่หุ้นลง

จึง Short ทุกราคาจนถึง2 บาท

(บังเอิญรู้จัก DSM เลยขายตอนACL หลุด Low)

หลังจากนั้น ซื้อคืนหุ้น และกู้ Margin ซื้อ แบบราคา ขึ้นก็ซื้อ เพิ่ม

ทุกราคาตั้งแต่ 1.24 จนถึง 5 บาท โดยกันความเสี่ยงทุก STEP

เดือน 7 ปี 2552 เอาหุ้นทั้งหมดขายที่ 7 บาท

ได้เงิน 28 ล้านบาท จึงลาออกจากงานประจำ

เพื่อมาพักผ่อนและ ลงทุนอย่างเดียว

...........................................................

ตอนนี้ ถือ JAS เพื่อรอปันผลในอนาคต

และทำ Port แบบสร้างกระแสเงินสด หารายได้ชดเชย

ส่วนเหลือจาก กิน ใช้ ก็เอามาสะสมหุ้นเพิ่ม

ชีวิต อิสระมากขึ้น ตื่นสายก็ได้ นอนทั้งวันก็ได้

มีเวลาออกกำลังกาย

เที่ยวศูนย์การค้า ช่วงที่คนทำงานได้เต็มที่ เดินสบาย

แต่มีเรื่องให้คิดให้วางแผนเหมือนเดิม

เพราะลงทุนในหุ้นเป็นอาชีพหลัก ตั้งแต่แรก

ส่วน งานหลักก็เป็นแค่อาชีพเสริมมาหลายปีแล้ว

..........................................

ปัญหาใหญ่ประจำวันคือ เที่ยงนี้กินไรดีว้า

:lol:  :lol:  :lol:

[quote="chinn"]อายุ 29ครับ ไม่ทำงาน และไม่กลับไปทำงานประจำอีกแล้ว

ลาออกมาตอน Port 20 ล้านกว่าๆ

...........................
เส้นทาง สร้าง Port

เริ่มทำงานที่ธนชาต 18 กุมภาพันธ์ 2546

ได้ค่าคอมช่วงตลาด Boom

แสดงความยินดีด้วยครับคุณ chinn

อยากให้เล่า เรื่องเทคนิด "การกันความเสี่ยงทุก Step" หน่อยครับ
ว่าทำยังไง น่าสนใจมากครับ

โอ เจ๋งมากครับ ชีวิตการลงทุนมันทำให้อิสระภาพทางการเงินเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วมากเลยนะครับ

ได้อ่านแล้ว ก็อยากจะทำให้ได้บ้างจัง แต่หวังว่าเพื่อนๆทุกคน คงจะไม่ทุ่มเทจนลืมคนที่เรารักไปหรอกนะครับ บางอย่างเงินก็ซื้อไม่ได้เหมือนกันนะครับ ถึงแม้ว่าจะมีเงินล้นฟ้า แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะครับ ว่าเงินก็มีส่วนช่วยให้อะไรๆง่ายขี้นเยอะ อยากให้เพื่อนๆ balance ทั้งสองสิ่งให้ได้ดีนะครับ ขอให้ร่ำรวยกันทุกคนนะครับในวันปีใหม่ไทยนี้ โชคดีทุกคนครับ

chinn เขียน:อายุ 29ครับ ไม่ทำงาน และไม่กลับไปทำงานประจำอีกแล้ว

ลาออกมาตอน Port 20 ล้านกว่าๆ

...........................ซื้อคืนหุ้น และกู้ Margin ซื้อ แบบราคา ขึ้นก็ซื้อ เพิ่ม

ทุกราคาตั้งแต่ 1.24 จนถึง 5 บาท โดยกันความเสี่ยงทุก STEP

เดือน 7 ปี 2552 เอาหุ้นทั้งหมดขายที่ 7 บาท

ได้เงิน 28 ล้านบาท

ยกนิ้วให้เป็น เสี่ยยักษ์ยุค2552 เลย

 ด้วยคน

...........................ซื้อคืนหุ้น และกู้ Margin ซื้อ แบบราคา ขึ้นก็ซื้อ เพิ่ม

ทุกราคาตั้งแต่ 1.24 จนถึง 5 บาท โดยกันความเสี่ยงทุก STEP เป็นยังไงครับ??

โว้กว้าก เขียน:...........................ซื้อคืนหุ้น และกู้ Margin ซื้อ แบบราคา ขึ้นก็ซื้อ เพิ่ม

ทุกราคาตั้งแต่ 1.24 จนถึง 5 บาท โดยกันความเสี่ยงทุก STEP เป็นยังไงครับ??

ทุกระดับราคาสุดท้ายที่ซื้อคำนวนความเสี่ยงว่า callราคาไหนถ้าหุ้นเริ่มหักหัวลงขายlotราคาต่ำออกบางส่วนไปเพื่อกันไม่ให้โดนcall พอหุ้นย้อนกลับก็เพิ่มหุ้นใส่ใจกับความเสี่ยงและโอกาศที่จะเกิด เป็นหลัก ราคาสุดท้ายที่ซื้อ5บาท ผมกันความเสี่ยงไว้ประมาณ2.5 ครับถ้าจำไม่ผิด

คุณ Chinn มาแนวเดียวกับผมเลย แถมเริ่มต้นเกือบจะพร้อมกันอีก ผมเริ่มตอน พ.ค.45 แต่ของผมไม่กล้าเล่น margin  โตตาม pattern ปกติ ตอนนี้มาได้ครึ่งทางแล้ว  จริงๆ ผมก็มีแนวคิดเหมือนกันว่าถ้าได้ถึงขนาดนึงแล้วจะออกมาใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการแล้วไม่ต้องสนใจดูตลาดแล้ว หวังว่าผมคงได้ตามคุณ chinn ออกไปเร็วๆนี้ครับ

SunShine@Night เขียน: คุณ Notelio เป็นเจ้าของธุรกิจหรือเปล่าครับ

ดูแล้วคุณเก็บเงินได้เก่งมากๆ ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนขั้นเทพ แน่ๆ

ผมเป็นแค่ Freelance ธรรมดา รายได้แต่ละเดือนไม่สม่ำเสมอ หาเงินมาได้ แล้วใช้เงินไม่เป็น (ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เลยเอามาต่อยอดเรื่อยๆ ) เท่าที่อ่านมาผมว่ายังมีคนที่เก่งกว่าผมอีกเยอะครับในกระทู้ที่อ่านๆมา ส่วนใหญ่ทุกคนก็มีแนวคิดคล้ายๆ กันหมด อยู่ที่เป้าหมายของแต่ละคนว่าสูงขนาดไหน เห็นหลายคนถึงเป้าหมายแล้ว ผมก็หวังว่าซักวันจะถึงคราวของผมและทุกๆ คนที่ยังเดินหน้าตามหาฝันในที่นี้ครับ

เข้ามาดูครับ

ผมตั้งไว้เป็นเป้าหมายทำเป็น excel คาดหมาย set จะโต 4% ต่อปี พอร์ทรวมปันผลโต 10% เติมเงินเดือนละ 20,000 ไล่ไปทีละปีๆเลยว่าสิ้นแต่ละปีควรจะมีพอร์ทมูลค่าเท่าไหร่ ผมตั้งเป้ามีอิสระภาพเมื่ออายุ 40 พอร์ทหุ้นประมาณ 7 ล้าน ปลอดหนี้ มีบ้าน มีรถ ไม่ขออะไรมากมาย ได้มากกว่านี้ก็ถือเป็นกำไร

เดินทางสายกลางครับ

สัวัสดีครับ ขอเข้ามาแจมประสบการณ์ของตัวเองบ้างครับ

ตัวผมเองจัดว่าเป็นน้องใหม่เอามากๆสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น เพิ่งได้เข้าตลาดเอาเมื่อต้นปี 52 นี่เอง เมื่ออายุ 40ปี ก่อนหน้านี้ มีแต่ลงทุนทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆน้อยๆ ผ่อนบ้านผ่อนรถไปเรื่อยๆ  วิกฤติตลาดหุ้นเมื่อปีที่แล้ว ผมมีเงินลงทุนส่วนตัวที่เป็นเงินเก็บประมาณ 1.5ล้าน บวกกับเงิน โอดีที่หมุนเวียนในธุรกิจ อีก 4.5 ล้าน ทยอยซื้อหุ้นจนเต็มพอร์ตช่วงกพ.-มีค.52 โดยอาศัยหลักซื้อหุ้นแบบก้นบุหรี่  ตอนนั้นผมซื้อหุ้นหลักๆอยู่ 3 ตัว คือ pf ซื้อที่ 2 บาทกว่า 1.2ล้านหุ้น, ktc ซื้อแถวๆ 8 บาท 3แสนหุ้น แล้วก็ซื้อ mint ที่ 7 บาท อีก1แสนหุ้น ถือหุ้นประมาณ 6 เดือน มาขายที่ set แตะ 700 จุดช่วงเดือนกย.52 ได้เงินมาประมาณ 11 ล้านบาท หลังจากนั้นก็พยายามศึกษาแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ตอนนี้ก็ยังลงทุนในหุ้นเต็ม 100% รวมถึงเิงินโอดีด้วย

เป้าหมายของผมคงลงทุนไปเรื่อยๆไม่ได้มุ่งหวังว่าจะต้องเลิกจากงานประจำ ลักษณะงานของผมก็เป็นนายตัวเองพอสมควร ยังมีเวลาสำหรับ ครอบครัว  ออกกำลังกายได้ทุกวัน ที่สำคัญ รายได้จากงานยัง cover ค่าใช้จ่ายในครอบครัว รวมถึงค่าดอกเบี้ยโอดี แถมยังเจียดมาซื้อหุ้นแบบ DCM ได้อยู่

ส่วนพอร์ต อีก 10 ปี อยากให้แตะ 9 หลักครับ

pornchai_w เขียน:ปัจจุบันอายุ 34 อยาก Retire อายุไม่เกิน 40 ปี
ผมตั้งใจที่จะสร้างพอร์ตให้ได้ 50 ล้านบาท
เงินปันผลแค่ 5% ก็ได้ 2.5 ล้านต่อปี เดือนละ 2 แสนบาท
สิ่งที่อยากทำ
1.มีบ้าน 1 หลัง
2.มีรถ 1 คัน
3.ไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 3 เดือน
4.เป็นวิทยากรให้ความรู้การลงทุน
5.ตะเวนเล่นกอล์ฟให้ครบทุกสนามในประเทศ
6.ไปเที่ยวสิ่งมหัศจรรย์ให้ครบ
พออายุ 65 ผมก็จะเตรียมตัวจบชีวิตอย่างสงบ

ขอให้สมหวังครับ

jek ae เขียน:ส่วนพอร์ต อีก 10 ปี อยากให้แตะ 9 หลักครับ

ขอบคุณครับที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์ ขอให้สมหวังเช่นกันครับ

appendix เขียน:ผมตั้งไว้เป็นเป้าหมายทำเป็น excel คาดหมาย set จะโต 4% ต่อปี พอร์ทรวมปันผลโต 10% เติมเงินเดือนละ 20,000 ไล่ไปทีละปีๆเลยว่าสิ้นแต่ละปีควรจะมีพอร์ทมูลค่าเท่าไหร่ ผมตั้งเป้ามีอิสระภาพเมื่ออายุ 40 พอร์ทหุ้นประมาณ 7 ล้าน ปลอดหนี้ มีบ้าน มีรถ ไม่ขออะไรมากมาย ได้มากกว่านี้ก็ถือเป็นกำไร

เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้ทำได้ตามเป้าหมายครับ

 สุดๆ ทุกคนเลยคับ

กระทู้นี้สนุกดี
ผมว่าความคิดคนเราแปลี่ยนแปลงตามอายุ
ตอนยังหนุ่มผมเคยคิดว่า มีเงิน20ล้านผมจะรีไทร์
ตอนนี้ผมเริ่มแก่แล้ว มีเงินตามเป้าหมาย แต่ผมยังทำงานเลิก2ทุ่มเกือบทุกวัน
ตอนหนุ่มผมคิดว่าเงินสำคัญมาก
ตอนนี้ผมว่าเงินสำคัญน้อย
เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตสำคัญกว่าเงิน
สุขภาพแข็งแรง จิตใจสงบสุข สติปัญญาเฉียบคมแจ่มใส  สําคัญกว่าเงิน
ผมรู้จักคนมีร้อยล้านที่นั่งรถเข็น
ผมรู้จักคนมีพันล้าน ที่เป็นอัมพฤกษ์และโรคหัวใจ
แล้วเงินจะมีประโยชน์อะไร
เมื่อก่อนผมเล่นหุ้นเพื่อเงิน
ตอนนี้ผมเล่นหุ้นเป็น intellectual game
ปัจจัยต่างกันทําให้ความคิดแต่ละคนต่างกัน
ไม่มีใครถูกผิด
คิดเสียว่าฟังคนแก่เพ้อเจ้อก็แล้วกัน

[quote="drsp"]กระทู้นี้สนุกดี
ผมว่าความคิดคนเราแปลี่ยนแปลงตามอายุ
ตอนยังหนุ่มผมเคยคิดว่า มีเงิน20ล้านผมจะรีไทร์
ตอนนี้ผมเริ่มแก่แล้ว มีเงินตามเป้าหมาย แต่ผมยังทำงานเลิก2ทุ่มเกือบทุกวัน
ตอนหนุ่มผมคิดว่าเงินสำคัญมาก
ตอนนี้ผมว่าเงินสำคัญน้อย
เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตสำคัญกว่าเงิน
สุขภาพแข็งแรง จิตใจสงบสุข สติปัญญาเฉียบคมแจ่มใส

[quote="SunShine@Night"][quote="drsp"]กระทู้นี้สนุกดี
ผมว่าความคิดคนเราแปลี่ยนแปลงตามอายุ
ตอนยังหนุ่มผมเคยคิดว่า มีเงิน20ล้านผมจะรีไทร์
ตอนนี้ผมเริ่มแก่แล้ว มีเงินตามเป้าหมาย แต่ผมยังทำงานเลิก2ทุ่มเกือบทุกวัน
ตอนหนุ่มผมคิดว่าเงินสำคัญมาก
ตอนนี้ผมว่าเงินสำคัญน้อย
เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตสำคัญกว่าเงิน
สุขภาพแข็งแรง จิตใจสงบสุข สติปัญญาเฉียบคมแจ่มใส

[quote="drsp"]กระทู้นี้สนุกดี
ผมว่าความคิดคนเราแปลี่ยนแปลงตามอายุ
ตอนยังหนุ่มผมเคยคิดว่า มีเงิน20ล้านผมจะรีไทร์
ตอนนี้ผมเริ่มแก่แล้ว มีเงินตามเป้าหมาย แต่ผมยังทำงานเลิก2ทุ่มเกือบทุกวัน
ตอนหนุ่มผมคิดว่าเงินสำคัญมาก
ตอนนี้ผมว่าเงินสำคัญน้อย
เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตสำคัญกว่าเงิน
สุขภาพแข็งแรง จิตใจสงบสุข สติปัญญาเฉียบคมแจ่มใส

drsp เขียน:กระทู้นี้สนุกดี
ผมว่าความคิดคนเราแปลี่ยนแปลงตามอายุ
ตอนยังหนุ่มผมเคยคิดว่า มีเงิน20ล้านผมจะรีไทร์
ตอนนี้ผมเริ่มแก่แล้ว มีเงินตามเป้าหมาย แต่ผมยังทำงานเลิก2ทุ่มเกือบทุกวัน
ตอนหนุ่มผมคิดว่าเงินสำคัญมาก
ตอนนี้ผมว่าเงินสำคัญน้อย
เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตสำคัญกว่าเงิน
สุขภาพแข็งแรง จิตใจสงบสุข สติปัญญาเฉียบคมแจ่มใส  สําคัญกว่าเงิน
ผมรู้จักคนมีร้อยล้านที่นั่งรถเข็น
ผมรู้จักคนมีพันล้าน ที่เป็นอัมพฤกษ์และโรคหัวใจ
แล้วเงินจะมีประโยชน์อะไร
เมื่อก่อนผมเล่นหุ้นเพื่อเงิน
ตอนนี้ผมเล่นหุ้นเป็น intellectual game
ปัจจัยต่างกันทําให้ความคิดแต่ละคนต่างกัน
ไม่มีใครถูกผิด
คิดเสียว่าฟังคนแก่เพ้อเจ้อก็แล้วกัน

ตามสีแดงผมเดาว่าคุณพี่ เป็นคุณหมอครับ
ที่กำลังทำงานและมีความสุข
ที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
ไม่ได้เป็นคนแก่เพ้อเจ้อ