หน้า 7 จากทั้งหมด 12

news05/11/07

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 05, 2007 11:15 am
โดย chartchai madman
เทสโก้ เปิดร้านสะดวกซื้อในสหรัฐ 122 สาขาพร้อมกัน
เทสโก้ ยักษ์ค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก เปิดบริการเครือข่ายร้านค้าปลีกในสหรัฐแห่งแรก ในรูปแบบร้านค้าสะดวกซื้อที่เรียกว่า เฟรช แอนด์ อีสซี่ ด้วยพื้นที่ขนาด 1 หมื่นตารางเมตร เน้นขายอาหารสด และสินค้าประเภทยา ในลอสแองเจิลลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย วันที่ 8 ที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นในสัปดาห์หน้า เทสโก้ พร้อมเปิดร้านสะดวกซื้อรูปแบบดังกล่าวทันที 122 แห่งพร้อมกันในเมืองลาสเวกัส ฟีนิกซ์ และซาน ดีเอโก้ ทั้งนี้ หากประสบความสำเร็จ เทสโก้ เตรียมทุ่มเงินอีกปีละ 521 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวปีละ 1.7 หมื่นล้านบาท

รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ เยือนเวียดนาม 3 วัน เพิ่มการค้า 2 ประเทศ
รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐ นาย คาร์ลอส กูติเรส และ 23 ผู้นำสูงสุดของบริษัทชั้นนำข้ามชาติสหรัฐ เช่น บริษัท ดาว เคมมิคัล บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เป็นต้น เดินทางถึงประเทศเวียดนามเมื่อเย็นวานนี้ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการเดินทางเยือนเวียดนามเป็นเวลา 3 วันเพื่อกระชับ และขยายความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าให้มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ รัฐมนตรีพาณิชย์ สหรัฐ กล่าวย้ำว่า เวียดนามในวันนี้ และในอนาคต ได้กลายเป็นเขตเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีโอกาสธุรกิจที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ผลิตชาวอเมริกัน

วอลสตรีท เจอร์นัล ชี้ ยอดสมาชิกพุ่งทะลุ 1 ล้าน คน
วอล์สตรีท เจอร์นัล เปิดเผยว่า จำนวนสมาชิกที่เข้าชม และติดตามข่าวสารด้านเศรษฐกิจ และการลงทุน ผ่านช่องทางเว็บไซต์ วอล์สตรีท เจอร์นัล ดอท คอม ทำสถิติสูงสุดมากถึง 1 ล้านสมาชิก หากพิจารณาเฉพาะในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ จะพบว่า ยอดสมาชิกทางเว็บไซต์ พุ่งขึ้นถึง 25% ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ในขณะเดียวกัน ยอดสมาชิกหนังสือพิมพ์วอล์สตรีท เจอร์นัล สิ้นสุดเดือนกันยายนปีนี้ กลับลดลงมากถึง 1.66 ล้านราย โดยลดลงมากกว่า 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การเป็นสมาชิกยังคงต้องเสียค่าใช้จ่ายอยู่
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news05/11/07

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 05, 2007 11:39 am
โดย chartchai madman
วอล-มาร์ทขยายศูนย์จัดจำหน่ายสินค้าในจีน รองรับอุปสงค์ค้าปลีกร้อนแรง
ศูนย์จัดจำหน่ายสินค้าของวอลมาร์ท ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเทียนจินในประเทศจีนได้ขยายการดำเนินงานจนสามารถรองรับอุปสงค์ที่ขยายตัวต่อเนื่องของธุรกิจค้าปลีกชั้นนำของโลกในตลาดจีนได้อย่างสมบูรณ์ ศูนย์จัดจำหน่ายแห่งนี้สามารถรองรับการจัดส่งสินค้าประเภทอาหารได้มากถึง 330,000 รายการ ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม 4 เท่า ทั้งนี้ วอลมาร์ทได้เข้ามาขยายธุรกิจค้าปลีกด้วยการเปิดร้านค้าในจีน 91 แห่ง นับตั้งแต่เข้ารุกตลาดจีนเมื่อปี 2539 โดยได้จัดตั้งศูนย์จัดจำหน่ายสินค้าในเมืองเทียนจินขึ้นเมื่อปี 2546 และได้ขยายการดำเนินงานเมื่อปีที่ผ่านมา

ผู้นำจีนเตือนเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง
หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานวันนี้ว่า นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนเตือนชาวจีนแผ่นดินใหญ่เรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง หลังจากที่เปิดเผยแผนการที่จะอนุญาตให้ชาวจีนเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อเร็วๆนี้ นายเวินระบุว่า รัฐบาลจีนควรที่จะออกกฎหมายกำหนดระเบียบของเงินทุนที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงเพื่อไม่ให้เกิดความผันผวนที่อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั้งในจีนและฮ่องกง ควรที่จะมีการชี้แจงเพื่อให้นักลงทุนชาวจีนได้ตระหนักถึงความเสี่ยงของการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง ก่อนที่จะมีการอนุญาตให้ชาวจีนเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นดังกล่าวด้วย

6 ชาติมหาอำนาจโลกตกลงคว่ำบาตรอิหร่านอีกหากยังไม่ยุติโครงการนิวเคลียร์
สมาชิกถาวร 5 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน ร่วมด้วยประเทศเยอรมนี ซึ่งไม่ใช่สมาชิกถาวร ได้มีมติในการประชุมร่วมกันที่กรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ ที่จะเดินหน้าผลักดันมาตรการลงโทษคว่ำบาตรอิหร่านรอบที่ 3 ถ้าหากรายงานที่จะมีการเปิดเผยในช่วงปลายเดือนนี้แสดงให้เห็นว่าอิหร่านไม่แสดงความโปร่งใสเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์มากกว่านี้ ด้านจีนและรัสเซีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจใกล้ชิดกับอิหร่าน ก็สนับสนุนต่อการแซงก์ชันอิหร่านในการประชุมครั้งนี้ด้วย แม้รายงานข่าวจะระบุว่าทั้งสองประเทศมีท่าทีลังเล

แอร์นิวซีแลนด์เพิ่มเที่ยวบินเซี่ยงไฮ้-โอ๊คแลนด์ รับอุปสงค์นักธุรกิจจีน
สายการบินแอร์ นิวซีแลนด์ได้ปรับเพิ่มเที่ยวบินระหว่างเซี่ยงไฮ้-โอ๊คแลนด์ เพื่อรองรับอุปสงค์ของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังจีนและนิวซีแลนด์เพิ่มมากขึ้น เนื่องด้วยขณะนี้มีชาวจีนที่ต้องเดินทางเข้ามาทำธุรกิจในนิวซีแลนด์เพิ่มมากขึ้น ทางบริษัทจึงได้เพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับผู้โดยสารในเส้นทางบินดังกล่าว โดยจะให้การบริการที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของบรรดานักธุรกิจชาวจีน ทั้งนี้ จากข้อมูลผู้โดยสารที่เดินทางไปกลับระหว่างจีนและนิวซีแลนด์ในรอบปีที่สิ้นสุด ณ เดือนมิ.ย. 2550 พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนที่เดินทางไปยังนิวซีแลนด์นั้นปรับตัวสูงขึ้นกว่า 20%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news05/11/07

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 05, 2007 7:35 pm
โดย chartchai madman
รายได้ส่งออกข้าวเวียดนาม 10 เดือนแรกเพิ่ม 12.7%
Posted on Monday, November 05, 2007
สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนา บอกว่า ในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ เวียดนามมีรายได้จากการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่มีปริมาณการส่งออกลดลงอยู่ที่ 4.3 พันล้านตัน ลดลง 4% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม คาดว่า ผลผลิตข้าวทั้งปี จะอยู่ที่ระดับ 35.9 ล้านตันในปีนี้ เท่ากับปีที่แล้ว

ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก โดยปีที่ผ่านมาได้ส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ 100 แห่ง มูลค่ารวม 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และคิวบา คิดเป็นสัดส่วนถึง 60% ของยอดส่งออกข้าวทั้งหมด
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

news06/11/07

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 06, 2007 12:38 pm
โดย chartchai madman
เอ็กซ์ซ่อน โมบิลล์ ชี้ ชาติกำลังพัฒนา เพิ่มการใช้พลังงานอีก 20 ปีข้างหน้า
เอ็กซ์ซ่อน โมบิลล์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยผลการศึกษาความต้องการใช้พลังงานทั่วโลกถึง ปี 2030 หรือในอีก 23 ปีข้างหน้า พบว่า ความต้องการชัพลังงานทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 1.3% เริ่มจากปี 2005 หรือปี 2548 ถึง ปี 2030 หรือปี 2577 ตัวเลขดังกล่าว รวมความต้องการในการใช้ของประเทศที่พัฒนาแล้วในแต่ละปีที่จะเพิ่มขึ้น 2% สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง การเพิ่มขึ้นของประชากร และมาตรฐานการใช้ชีวิตของประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ความต้องการใช้น้ำมัน และก๊าซ จะมีมากถึง 60% ในอีกกว่า 20 ปีข้างหน้า

ปิโตรไชน่า"เทรดวันแรกแรงมูลค่าตลาดแตะ 1 $ล้านล้านแซง"เอ็กซอน"
หุ้นปิโตรไชน่า ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เป็นวันแรกในวันนี้ พุ่งขึ้นเกือบ 3 เท่าจากราคาเปิดขาย IPO ส่งผลให้ราคาหุ้นปิโตรไชน่าซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันของจีน แซงหน้า เอ็กซอน โมบิล ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าการตลาดใหญ่ที่สุดของโลก นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาหุ้นดังกล่าวยังไม่มีเสถียรภาพ เพราะจะมีแรงเทขายทำกำไรส่งเข้ามากดดันราคาหุ้นในไม่ช้านี้ ทั้งนี้ ปิโตรไชน่า ระดมทุนเกือบ 6.68 หมื่นล้านหยวนจากการขายไอพีโอจำนวนมากที่สุดในโลกเมื่อเดือนที่แล้ว

8 ประเทศในเอเชียกลางจับมือเอดีบีพัฒนาเครือข่ายเส้นทางคมนาคมใหม่
ประเทศในภูมิภาคเอเชีย 8 ประเทศตกลงที่จะใช้งบประมาณเชิงยุทธศาสตร์มูลค่า 1.87 หมื่นล้านดอลลาร์ในการปรับปรุงเครือข่ายถนน สนามบิน ทางรถไฟ และท่าเรือในเอเชียกลาง ซึ่งงบประมาณดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากองค์กรข้ามชาติต่างๆ อาทิ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) รัฐมนตรีของอัฟกานิสถาน อาเซอร์ไบจีน จีน คาซัคสถาน คาร์จิสถาน มองโกเลีย ทาจิกิสถาน และอุสเบกิสถาน ได้เห็นชอบแผนดังกล่าว ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้ภูมิภาคเอเชียเป็นเส้นทางแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างยุโรปและเอเชีย ซึ่งเทียบเท่ากับเส้นทางสายไหมในอดีต

BOJ เตือนตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นต่ำนานเกินอาจส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจ
นายโตชิฮิโกะ ฟูกูอิ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น เตือนว่า การตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในระดับต่ำไว้นานเกินไปอาจส่งผลกระทบร้ายแรง ขณะที่นโยบายการเงินแบบยืดหยุ่นหากนำมาใช้เป็นเวลานานเกินไปอาจเกิดภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจในวงกว้างมากขึ้นได้ นายฟูกูอิ ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคง "ต่ำมาก ๆ" ในญี่ปุ่น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเผื่อเรียกข้ามคืนยืนอยู่ที่ 0.5% และสถานการณ์เช่นนี้อาจกระตุ้นให้เกิดความเสียหายทางการเงินและเศรษฐกิจได้ ทั้งนี้ ฟูกูอิ กล่าวว่า นักวิเคราะห์บางรายแย้งว่า การทำแครี่เทรดเงินเยนในช่วงนี้ เป็นสัญญาณความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำของญี่ปุ่น

จีนเล็งผ่อนปรนกฎระเบียบ หนุนธุรกิจไอทีจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์จีนกำลังพิจารณาที่จะยกเลิกกฎระเบียบสำหรับการจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศ ด้วยการอนุญาตให้บางบริษัทที่ทำอุตสาหกรรมบางประเภทเข้าไปจดทะเบียนในต่างประเทศได้ อาทิ บริษัทที่ทำธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมไฮเทค จนถึงขณะนี้ การจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศปีนี้ถูกจำกัดเฉพาะกับบริษัทที่มีประวัติเป็นบริษัทของรัฐบาลและบริษัทที่จัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) ในต่างประเทศ นอกจากนี้นายกของจีน กล่าวว่า ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนเริ่มโครงการอนุญาตให้นักลงทุนจากจีนเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าโครงการดังกล่าวน่าจะถูกเลื่อนออกไปอีก ส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงกว่า 1,500 จุดเมื่อวานนี้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news07/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 07, 2007 2:15 pm
โดย chartchai madman
ทุนสำรองญี่ปุ่นเดือน ต.ค. แตะ 9.544 แสนล้านดอลลาร์ ข่าว 13.30 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Wednesday, November 07, 2007
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม 2550 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9.544 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินยูโรที่แข็งแกร่งขึ้น และอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ของสหรัฐฯ ที่ลดลง

ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารกลางจีนระบุว่า ญี่ปุ่นยังคงมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน โดยขณะนี้ทุนสำรองของจีนมีอยู่ถึง 1.43 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสิ้นสุดเดือนกันยายนที่ผ่านมา


ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในฐานะข้อมูลที่เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า ญี่ปุ่นจัดการกับสกุลเงินต่างประเทศที่ถืออยู่เป็นจำนวนมากนี้อย่างไร ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อตลาดปริวรรตเงินตราและตลาดพันธบัตรทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดพันธบัตรของสหรัฐฯ

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา เพื่อสกัดเงินเยนไม่ไห้แข็งค่าขึ้นมากเกินไป แต่นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2547 เป็นต้นมา รัฐบาลญี่ปุ่นก็ไม่ได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราอีกจนถึงปัจจุบัน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

news07/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 07, 2007 2:27 pm
โดย chartchai madman
ราคาทองคำพุ่งทะลุกว่า 824 เหรียญ ในรอบ 28 ปี
ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์ก ไม่เพียงพุ่งขึ้นทำลายสถิติเดิมในรอบ 27 ปีลงเป็นผลสำเร็จ แต่ยังสร้างสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 28 ปีขึ้นมา ด้วยระดับราคาส่งมอบปัจจุบันพุ่งขึ้นที่ตลาดนิวยอร์ก ที่ออนซ์ละ 824.30 เหรียญ นับเป็นราคาทะยานสูงขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมในปี 1980 ซึ่งในปีดังกล่าว ทองคำที่ราคาพุ่งสูงขึ้นแตะที่ 850 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ นอกจากนี้ ราคาซิลเวอร์ ยังสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 27 ปี ทั้งนี้ สาเหตุจากการอ่อนค่าลงของเงินเหรียญสหรัฐเป็นประวัติการณ์ และราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นในตลาดเดียวกัน

เบน เบอร์นันกี้ ชี้ ไมโครไฟแนนซ์ ช่วยธุรกิจขนาดเล็กสหรัฐ
นายเบน เบอร์นันกี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด กล่าวเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า แม้ว่า สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐ ทั้งนี้ สินเชื่อดังกล่าวจะเป็นตัวช่วยให้ระบบการบริหารจัดการธุรกิจดีขึ้น และสามารถสร้างโอกาสให้กับธุรกิจในระยะยาวได้ดีอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เบน เบอร์นั้นกี้ ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นที่เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินในอนาคต

หนึ่งในผู้ว่าเฟด ชี้ เฟด ต้องพร้อมปรับดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้น
นายเฟร็ดเดอริค มิชคิน หนึ่งในผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ ควรมีความพร้อม ในการตัดสินใจปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน หรือดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ได้ดำเนินการไปในช่วงการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินทั้ง 2 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา โดยปรับลดรวมกันถึง 0.75% หากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในภาพรวม พ้นจากภาวะความเสียหาย ที่เกิดขึ้นจากความปั่นป่วนของตลาดเงิน หากมองจากภาวะเงินเฟ้อสหรัฐ ที่กำลังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น เฟด ควรเตรียมพร้อมเสมอในการปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news07/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 07, 2007 2:32 pm
โดย chartchai madman
ธนาคารกลางออสเตรเลียขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25%
ธนาคารกลางออสเตรเลีย ประกาศเช้าวันนี้ว่า ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 11 ปี ที่ระดับ 6.75% ซึ่งนับเป็นกาปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี โดยนาย เกล็นน์ สตีเฟ่น ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวว่า การตัดสินใจปรับขึ้นในครั้งนี้ มาจาก ภาวะเงินเฟ้อในประเทศที่พุ่งสูงมากขึ้น จากราคาน้ำมันในประเทศที่ทะยานต่อเนื่อง และราคาสินค้าอาหารปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนย้ำนโยบายป้องกัน-คุมเงินเฟ้อเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง
นายโจวเสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า นโยบายการเงินจีนจะต้องเป็นนโยบายที่รองรับวัตถุประสงค์หลายด้าน เพื่อสร้างสมดุลทั้งการเติบโต การจ้างงาน เสถียรภาพเงินเฟ้อ และสมดุลการใช้จ่ายต่างประเทศ โดยความเห็นครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งก่อนที่เขายกให้การสร้างเสถียรภาพเงินหยวนเป็นงานสำคัญอันดับแรก เงินเฟ้อกลายเป็นปัญหาเร่งด่วนอันดับแรก หลังจากก่อนหน้านี้ราคาอาหารได้ผลักดันให้ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI พุ่งไปยืนที่ 6.5% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี

จีนวอนผู้ผลิตน้ำมันพืชรับประกันผลผลิต-ราคา หวั่นเผชิญแรงกดดันเงินเฟ้อ
จีนได้เรียกร้องให้กลุ่มบริษัทผู้ผลิตน้ำมันพืชสร้างความเชื่อมั่นด้านกำลังการผลิตควบคู่ไปกับการสร้างเสถียรภาพของราคาน้ำมัน ท่ามกลางกระแสกดดันด้านภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ นอกจากนี้ คณะกรรมการยังเสริมด้วยว่า ผู้ผลิตควรหันมาเพิ่มกำลังการผลิตอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการของตลาด และต้องไม่กักตุนวัตถุดิบหรือฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ทั้งนี้ รัฐบาลกลางได้ออกจดหมายเวียนเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดยสั่งให้เพิ่มความพยายามในการสร้างเสถียรภาพด้านราคาในช่วงเวลาต่อจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี

เวิลด์แบงก์ชูสิงคโปร์เป็น HUB โลจิสติกอันดับ 1 ของโลก
ผลสำรวจชิ้นใหม่ของธนาคารโลกยกให้สิงคโปร์ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมลอจิสติกอันดับ 1 ในด้านศักยภาพการขนส่งสินค้าของโลก ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้วในปีนี้ที่สิงคโปร์รั้งเบอร์หนึ่งในรายงานของธนาคารโลก โดยเมื่อ 2 เดือนที่แล้วสิงคโปร์ก็ได้รับการจัดอันดับ 1 ด้านประเทศที่ผ่อนคลายกฎการตั้งธุรกิจใหม่ ความสามารถในการเชื่อมโยงกับตลาดโลกกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อศักยภาพของแต่ละประเทศที่จะแข่งขัน กระตุ้นการเติบโต ดึงดูดการลงทุน สร้างงาน และลดความยากจน ทั้งนี้ ไทยติดอันดับ31 ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางระดับต่ำกว่า

เกาหลีใต้อาจยอมปรับลดภาษีหวังช่วยเจรจา FTA กับอียูคืบหน้า
รัฐบาลอาจยอมปรับปรุงข้อเสนอที่เกี่ยวกับการลดภาษีเพื่อให้เกิดความคืบหน้าใหม่ๆในการเจรจา เอฟทีเอ กับสหภาพยุโรป หรือ อียู ทั้งสองฝ่ายควรเสนอทางเลือกที่ประนีประนอมในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และอื่นๆ และควรมีความคืบหน้าใหม่ ๆ เพื่อเร่งขั้นตอนการเจรจาให้เร็วขึ้น อียูเสนอให้มีการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้ทั้งหมดภายใน 7 ปี และยกเลิกภาษี 80% ของสินค้าภายใน 3 ปี ขณะที่ เกาหลีใต้เสนอยกเลิกภาษี 68% ของสินค้าอียูภายใน 3 ปี รวมทั้งเรียกร้องให้มีข้อยกเว้นบางรายการ เนื่องจากการนำเข้าเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์นมยังคงเป็นประเด็นอ่อนไหวสำหรับชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news07/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 07, 2007 2:45 pm
โดย chartchai madman
นักวิจัยคาดปี2020 ศก.จีนพุ่งทุนสำรองระหว่างปท.ทะลัก

วิจัยเศรษฐกิจมหภาคจีนชี้ในปี 2020 จีนจะมีตัวเลขเกินดุลการค้าระหว่างประเทศพุ่งขึ้นมากถึง 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีทุนสำรองระหว่างประเทศถึง 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการกระจายสินค้าแปรรูปเพิ่มขึ้นและมีอุตสาหกรรมหนักจากประเทศที่พัฒนาได้เข้ามาลงทุน

ทางการจีนรายงานว่า นายหวังเจี้ยน เลขาธิการคณะกรรมการศึกษาวิจัยเศรษฐกิจมหภาคได้ ระบุว่า ในยุคโลกาภิวัตน์ ได้มีการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้มีสินค้าจากประเทศกำลังพัฒนาที่ขายออกสู่นานาประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในซูเปอร์มาร์เก็ตของประเทศที่พัฒนาแล้ว จะสามารถเห็นได้ว่าสินค้าส่วนใหญ่ เมด อิน ไชน่า

โดยที่ผ่านมากว่า 2 ใน 3 ของอุตสาหกรรมหนักในภาคการผลิตของประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนถ่ายมายังประเทศที่พัฒนา ทว่า จากมาตรฐานอุตสาหกรรมหนักของจีนที่พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ได้เริ่มทำให้กำลังการผลิตส่วนนี้ของประเทศพัฒนาแล้ว ค่อยๆย้ายโอนมายังประเทศจีนมากยิ่งขึ้น จึงทำให้มีตัวเลขการลงทุนตรงจากต่างประเทศไหลบ่าเข้ามา และผลักดันให้จีนมียอดเกิดดุลการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ นายหวังเจี้ยนได้ คาดว่า เมื่อถึงปี 2020 ในช่วงระหว่าง 13 ปีนี้ ตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนอาจเพิ่มเป็นมากกว่า 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และในปี 2020 จีนจะได้เปรียบดุลการค้าราว 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งทำให้จีนจำเป็นต้องปล่อยเงินออกสู่ระบบมากขึ้น ซึ่งคำนวณจากการเติบโตเศรษฐกิจปีละ 8% เมื่อถึงปี 2020 เท่ากับจีนจะต้องปล่อยเงินมาเพิ่มอีก 44.4% หรือจะมีเงินเพิ่มเข้ามาในตลาดถึง 140 ล้านล้านหยวน

นอกจากนี้ นายชวีหงปิน นักเศรษฐศาสตร์ และประธานธนาคารเอชเอสบีซีประเทศจีนมองว่า การได้เปรียบดุลการค้าของจีน ที่มาจากการลงทุนตรงจากต่างประเทศและสินค้าแปรรูปเป็นหลักนั้น จะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนแรงงานมากมายของจีนที่ต้องเข้าไปแย่งตำแหน่งงานและห่วงโซ่อุปทานของโลก

สำหรับจีนแล้ว วิธีการที่จะแก้ปัญหาสภาพคล่องล้นระบบ และปัญหาเศรษฐกิจมหภาคนั้น อยู่ที่การจะทำอย่างไรให้เงินทุนไหลออกต่างประเทศ แล้วใช้ส่วนที่ขาดดุลในด้านการลงทุนมาหักลบการเกินดุลการค้า เพื่อให้ดุลบัญชีระหว่างประเทศนั้นเกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันนี้ สื่อฮ่องกงได้ลงบทความที่ว่าด้วยนโยบายของจีน ซึ่งชี้ว่าในขณะนี้มีเงินสำรองเงินตราต่างประเทศสูงที่สุดในโลก และยังเดินหน้ามีตัวเลขเกินดุลเพิ่มขึ้นอยู่ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันเงินร้อนท่วมทะลักสู่ประเทศ จีนจำเป็นต้องพยายามเปิดกว้างการจำกัดประชาชนกับนักลงทุนจากต่างประเทศในการใช้เงินหยวนเพื่อซื้อเงินดอลลาร์ เพื่อให้นักลงทุนสามารถ อีกทั้งต้องพยายามขยายช่องทางให้มีการไหลออกของเงินลงทุนในต่างประเทศ อาทิ โครงการ QDII ที่เมื่อถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็มีตัวเลขที่อนุมัติไปแล้ว 42,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ตัวเลขเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักงานศุลกากรจีนได้รายงานยอดเกินดุลการค้าระหว่างประเทศในเดือนดังกล่าวว่าอยู่ที่ 23,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ยอดเกินดุลสะสมตลอด 9 เดือนของจีนพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 185,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แซงหน้ายอดเกินดุลตลอดปีของปีที่แล้วที่ 177,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯไปแล้ว
http://www.settrade.com/S17_ContentDisp ... egoryId=16

news07/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 07, 2007 2:55 pm
โดย chartchai madman
คาดเงินเฟ้อโลก กดดัน "เฟด" ลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ธ.ค.นี้

โดย ผู้จัดการออนไลน์
7 พฤศจิกายน 2550 13:18 น.

 ตลาดคาดการณ์ ภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาซับไพรม์ อาจกดดันให้เฟดต้องหั่นดอกเบี้ยลงอีกครั้ง 0.25% ในเดือน ธ.ค.นี้ ส่งผลยอดรวมปรับลดดอเบี้ยทั้งปี 1% เชื่อว่า จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงไปอีก
     
      วันนี้(7 พ.ย.) นักวิเคราะห์ต่างประเทศ ระบุ ปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ ยังมาจากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะทำให้ปีนี้ "เฟด" ลดดอกเบี้ยลงรวม 1% โดยล่าสุดปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพของสหรัฐ(ซับไพรม์) กำลังกลับมาอีกครั้ง เมื่อธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งต้องเพิ่มกันสำรองหนี้สูญ

     
      ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินยูโรในช่วงสาย วันนี้ ที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกง เนื่องจากกระแสคาดการณ์ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพรุ่งนี้
     
      นายแดเนียล ชาน นักลงทุนอาวุโสธนาคาร ดีบีเอส เชื่อว่า มีโอกาสสูงที่ ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อที่ขยายตัวสูงขึ้น
     
      สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 09.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.4627 ดอลลาร์/ยูโร หลังแตะระดับนิวไฮที่ 1.4665 ดอลลาร์/ยูโรก่อนหน้านี้ ซึ่ง ชาน คาดว่า เงินยูโรอาจแข็งค่าขึ้นไปแตะ 1.470 ดอลลาร์/ยูโร
     
      ทั้งนี้ เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เงินเฟ้อเขตยูโร โซน พุ่งขึ้นไปแตะ 2.6% จากปีก่อนหน้า ซึ่งรวดเร็วกว่าอัตรา 2.1% ในเดือน ก.ย. ซึ่งราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ อาจจะกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้นได้
http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000132146

news07/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 07, 2007 6:17 pm
โดย chartchai madman
จีน ย้ำจุดยืน ไม่สนใจแรงกดดันกลุ่มจี 7 ที่ขอให้เร่งปรับเพิ่มค่าเงินหยวน

Posted on Wednesday, November 07, 2007

นายเฉิง ซือเวย รองประธานที่ประชุมการเมืองและที่ปรึกษาประชาชนจีนซึ่งเป็นองค์กรที่ปรึกษาระดับสูงของรัฐสภาจีนกล่าวในวันนี้ว่า จีนจะไม่ยอมอ่อนข้อต่อแรงกดดันของต่างชาติในการกำหนดนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน นักการเมืองสหรัฐและยุโรป ที่เรียกร้องให้จีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนปรับตัวเร็วขึ้น

แต่นายเฉิงกล่าวในการประชุมทางการเงินว่า จีนจะดำเนินนโยบายอิสระของตนเองในประเด็นหยวน

ซึ่งคำกล่าวดังกล่าว เป็นสิ่งที่ตัวแทนทางการจีนหลายต่อหกลายคน ออกมาย้ำอยู่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนมีกระแสกดดันจากเวทีประชุมกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทั้ง 7 ประเทศ หรือกลุ่ม จี-7 ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx

news07/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 07, 2007 6:18 pm
โดย chartchai madman
แบงก์ต่างชาติเตรียมตั้งสำนักงานใหญ่ในปักกิ่งอีก 7 แห่ง ข่าว น.

Posted on Monday, January 01, 0001
สำนักงานบริการทางการเงินของรัฐบาลกรุงปักกิ่งของจีน เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์จากต่างประเทศ 7 แห่ง ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งสำนักงานใหญ่ของตัวเอง ในกรุงปักกิ่ง โดยธนาคารต่างชาติทั้ง 7 แห่งได้แก่ เจพี มอร์แกน เชส, ดอยช์ แบงก์ , โซซิเอ เจเนราล , ยูบีเอส , ฮาน่า , ชินฮาน และวูริ และอนุญาตให้ธนาคารเหล่านี้สามารถให้บริการทางการเงินเต็มรูปแบบกับลูกค้าชาวจีน โดยธนาคารต่างชาติส่วนใหญ่มีสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของประเทศ

ที่ผ่านมารัฐบาลปักกิ่งได้กำหนดนโยบาย เพื่อดึงดูดให้ธนาคารจากต่างประเทศเข้ามาจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในปักกิ่งให้มากขึ้น รวมถึงการปรับลดภาษีเงินได้ระดับผู้บริหารของธนาคารอีกด้วย  
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

news07/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 07, 2007 6:20 pm
โดย chartchai madman
จีนเห็นชอบแปรรูปองค์การสร้างทางรถไฟเตรียมเข้าตลาดหุ้น ข่าว 17.00 น.

Posted on Wednesday, November 07, 2007
ทางการจีนเห็นชอบให้แปลงสภาพองค์การก่อสร้างทางรถไฟแห่งชาติ เป็นบริษัทก่อสร้างทางรถไฟ เพื่อเตรียมการก่อนการแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต โดยบริษัทดังกล่าว ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสาธารณูปโภคระบบราง รวมถึงการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดอื่น ๆ นับเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 7 ของโลก

นายหลี่ กั้ว ประธานบริษัท บอกว่า การแปลงสภาพดังกล่าว เป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่จะแปรรูปเข้าตลาดหุ้น เพื่อเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาดรับเหมาก่อสร้างทั้งในและต่างประเทศ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

news08/11/07

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 08, 2007 7:50 pm
โดย chartchai madman
ผู้ว่าฯธนาคารกลางออสเตรเลียชี้ขึ้นดบ.เพราะแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% วันนี้ เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ นายเกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียระบุว่า มีสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจของออสเตรเลียแข็งแกร่งมากขึ้น และภายในช่วงไตรมาสแรกปีหน้าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มว่าจะอยู่เหนือระดับ 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี หากว่าไม่มีการดำเนินการใด ๆ นายสตีเวนส์ กล่าวว่า ในออสเตรเลียนั้น การคุมเข้มด้านสินเชื่อมีความเข้มงวดน้อยกว่าที่อื่นๆ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นทั่วโลกบ้าง

"สิงเทล"เผยกำไรสุทธิไตรมาส 2 พุ่ง 3.3% หลังรายได้ธุรกิจในเอเชียแกร่ง
สิงคโปร์ เทเลคอม หรือสิงเทล เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาส 2 ที่สิ้นสุดในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.3% เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้ของธุรกิจบริการไร้สายที่แข็งแกร่งของบริษัทในภูมิภาค รวมทั้งรายได้จากการขายหุ้น 50% ที่สิงเทลถืออยู่ในบริษัท เน็ทเวิร์ค ไอทูไอ จำกัด ของอินเดีย มูลค่าประมาณ 75 ล้านดอลลาร์ สิงเทล ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 ที่ 988 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วที่ 956 ล้านดอลลาร์ เมื่อคิดเป็นสัดส่วนโดยรวมแล้ว รายได้จากการทำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียอยู่ที่ประมาณ 52% ของกำไรสุทธิของทั้งกลุ่ม

จีนประกาศห้ามบริษัทต่างชาติลงทุนแหล่งทรัพยากรที่สร้างทดแทนไม่ได้
จีน ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า รัฐบาลจีนจะห้ามบริษัทต่างชาติไม่ให้เข้าลงทุนหรือสำรวจแหล่งทรัพยากรที่ไม่อาจสร้างขึ้นมาทดแทนได้ (non-renewable resources) ภายใต้กฎข้อบังคับใหม่นี้ บริษัทต่างชาติจะถูกห้ามไม่ให้ลงทุนในโครงการอื่นๆที่จะส่งผลให้เกิดมลภาวะที่รุนแรง หรือ โครงการที่ต้องใช้พลังงานในปริมาณมาก นอกจากนี้ รัฐบาลจีนจะไม่สนับสนุนบริษัทต่างชาติให้เข้าลงทุนในแหล่งทรัพยากรสินแร่ในจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย อย่างไรก็ตาม จีนจะส่งเสริมบริษัทต่างชาติให้ลงทุนในโครงการพลังงานที่สามารถสร้างทดแทนได้ และโครงการอื่นๆที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมอร์ริลลินช์คาดตลาดหุ้นฮ่องกงแนวโน้มแกร่ง จ่อพุ่งแตะ 36,000 จุดปีหน้า
นักวิเคราะห์ของเมอร์ริล ลินช์ คาดการณ์ว่า ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงมีแนวโน้มทะยานขึ้นแตะระดับ 36,000 จุดในปีหน้า เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องที่คึกคัก รวมทั้งผลประกอบการที่สดใสของภาคเอกชน ความต้องการซื้อสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงนับเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสภาพคล่องให้หลั่งไหลเข้าสู่ตลาด และคาดว่าดอลลาร์ฮ่องกงจะแข็งแกร่งขึ้นอีกตามสกุลเงินอื่นๆในประเทศเอเชีย ทั้งนี้ เมอร์ริล ลินช์คาดว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฮ่องกง จะขยายตัวแตะระดับ 6% ในปี 2551 แต่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 5.5%ต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจฮ่องกงจะได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจระดับมหภาคของจีน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news09/11/07

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 09, 2007 8:41 pm
โดย chartchai madman
ประธานแบงก์ชาติกลุ่มยูโร ตรึงดอกเบี้ยระยะสั้น ชี้ ไม่พอใจอัตราแลกเปลี่ยน
นาย ฌอง คล๊อด ทริเช่ต์ ประธานธนาคารกลางกลุ่มสหภาพยุโรปทั้ง 13 ชาติสมาชิกที่ใช้เงินเหรียญยูโรร่วมกัน หรืออีซีบี ชี้ว่า ได้ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4% ต่อไป พร้อมกล่าวเตือนว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่เคลื่อนไหวในปัจจุบัน มีความผิดปกติเพิ่มสูงมากขึ้นต่อเนื่อง นั่นหมายถึง มีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง และปัจจุบันทันด่วน ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่น่าพึงพอใจ หลังเงินเหรียญสหรัฐ ทำสถิติอ่อนค่าลงกับ 6 สกุลเงินสำคัญทั่วโลกในรอบ 30 ปีต่อเนื่อง นอกจากนี้ อีซีบี อาจตัดสินใจอัดฉีดเงินเข้าระบบอีกครั้งราว 3 ล้านล้านบาท

ประธานแบงก์ชาติอังกฤษ ตรึงดอกเบี้ยต่อเนื่อง ชี้ เงินเฟ้อพุ่ง
นาย เมอร์วิน คิง ประธานธนาคารกลางอังกฤษ เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินทั้ง 9 คนมีมติตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.75% ต่อไปในการปะชุมเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งยังคงเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงสุดในรอบ 6 ปี ด้วยเหตุผลจากความกังวลที่มีต่อภาวะเงินเฟ้อ ที่กำลังมีสัญญาณเพิ่มสูงขึ้นจากราคาน้ำมันในตลาดโลก และต้นทุนของราคาสินค้าเกษตร และอาหาร ท่ามกลางแรงกดดันที่ต้องการให้ปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวลง เนื่องจากวิกฤติสภาพคล่องที่ยังไม่ผ่อนคลายเท่าที่ควร ทั้งนี้ ดอกเบี้ยระยะสั้นอังกฤษสูงสุดในกลุ่มจี7
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news09/11/07

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 09, 2007 8:46 pm
โดย chartchai madman
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ย 5% ติดต่อกันเดือนที่ 3
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.00% ในเดือนพ.ย. นับเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยที่ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ตามที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ เงินเฟ้อเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในระดับเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2.5-3.5% สำหรับปี 2550-2552 โดยการตัดสินใจคงดอกเบี้ยของธนาคารกลางครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ โดยเงินวอนเกาหลีใต้ที่แข็งค่าขึ้นนั้นอาจจะมีส่วนผลักดันให้ธนาคารเกาหลีใต้คงดอกเบี้ยไว้

IEA เผย เศรษฐกิจจีน,อินเดียขยายตัวเร็ว พลังงานสำรองของโลกลดฮวบ
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนและอินเดียที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจะทำให้พลังงานสำรองของโลกลดลงอย่างรวดเร็ว หากรัฐบาลของทั้งสองประเทศไม่พยายามควบคุมการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก IEA เปิดเผยว่า ภายในปี 2573 ทั้งสองประเทศจะใช้พลังงานเพิ่มขึ้นกว่า 45% ในขณะที่ทั่วโลกจะต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับปัจจุบัน คาดว่าในปีนี้จีนจะแซงหน้าสหรัฐในฐานะประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก

ผู้ว่าแบงก์ชาติฮ่องกงย้ำยังไม่มีแผนเลิกผูกติดดอลล์ฮ่องกงกับดอลล์สหรัฐ
นายโจเซฟ ยัม ผู้ว่าธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) เปิดเผยว่า ยังคงมีช่องว่างให้ปรับปรุงระบบอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์ฮ่องกงให้เข้มแข็งขึ้น แต่ยังไม่มีแผนเปลี่ยนแปลงการผูกติดค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในขณะนี้นายยัมกล่าวว่า ทางธนาคารกลางมีความมั่นใจที่จะรักษาเพดานอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์ฮ่องกง รวมทั้งกล่าวกับสภานิติบัญญัติว่า รัฐบาลจะลงมาแทรกแซงตลาดต่อเมื่อมีความจำเป็นเพื่อสร้างเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน

จีนจะแซงหน้าสหรัฐในฐานะจุดหมายการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ในปีนี้จีนจะแซงหน้าสหรัฐในฐานะประเทศส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยุคใหม่และช่วยบรรเทาผลกระทบของเศรษฐกิจสหรัฐที่มีต่อญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐก็ยังคงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น เนื่องจากสินค้าส่งออกไปยังจีนส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนเครื่องจักรกลซึ่งจะถูกนำไปประกอบและส่งไปขายที่สหรัฐและประเทศอื่นๆอีกทอดหนึ่ง ตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ย. ญี่ปุ่นส่งออกสินค้าไปยังจีนมูลค่ารวมทั้งหมด 12.756 ล้านล้านเยน มากกว่ายอดส่งออกไปยังสหรัฐที่ 12.568 ล้านล้านเยนอยู่เล็กน้อย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news09/11/07

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 09, 2007 9:11 pm
โดย chartchai madman
ยอดขายบ้านนิวซีแลนด์ลดลง ข่าว 21.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Friday, November 09, 2007
สถาบันอสังหาริมทรัพย์นิวซีแลนด์ รายงานยอดขายบ้านของนิวซีแลนด์ในเดือนตุลาคมว่า ลดลง 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 6,854 ยูนิต จาก 8,857 ยูนิต ส่งสัญญาณว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศอาจจะชะลอตัว หลังธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.25%

ขณะที่ราคาขายบ้านเดือนตุลาคม ก็ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 350,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 351,500 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ในเดือนก่อนหน้า
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

news10/11/07

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 10, 2007 10:15 pm
โดย chartchai madman
ปิโตรไชน่า รวยล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเบียด แอ็กซอนโมบิล ขึ้นแท่นเจ้าธุรกิจโลก [ ฉบับที่ 844 ประจำวันที่ 10-11-2007 ถึง 13-11-2007]  
ธุรกิจแดนมังกร นับวันจะสะสมความมั่งคั่งร่ำรวยผงาด แซงปาดหน้าชาวบ้านขึ้น มายืนอยู่แถวหน้าสุดในสารบบธุรกิจโลก ด้วยมูลค่ามากมายมหาศาล

ไม่กี่วันที่ผ่านมาบริษัทปิโตรไชน่า อาณาจักรธุรกิจปิโตรเลียมยักษ์ใหญ่แห่งแดนมังกร ซึ่งมีวิสาหกิจ การ ปิโตรเลียมแห่งประเทศจีน (china National Petroleum) ของทางการจีน เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด ก็สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการธุรกิจโลก ด้วยมูลค่าธุรกิจที่วัดจากมูลค่ารวมของ ทุนเรือนหุ้นทั้งหมด ซึ่งมีความมากมายมหาศาล เป็นอันดับ 1 ของโลก ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ สหรัฐ ทิ้งห่างเจ้ายุทธจักรธุรกิจโลกหลายสมัยอย่างแอ็กซอนโมบิล สัญชาติอเมริกันไปชนิดไม่เห็นฝุ่น

ความมั่งคั่งของค่ายแอ็กซอนโมบิล ที่วัด ด้วยมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดอยู่เพียงแค่ 488,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เท่านั้น แตกต่างห่างชั้นจาก ปิโตรไชน่า เป็นเท่าตัว ทำให้ตำแหน่งเจ้ายุทธ- จักรธุรกิจโลกต้องหลุดลอยไปอยู่ในความครอบ ครองของ ปิโตรไชน่า โดยปริยาย

อันดับ 3 ของทำเนียบเจ้ายุทธจักรธุรกิจ ได้แก่ค่ายเยนเนอรัลอิเล็คทริค (ยีอี) สัญชาติอเมริกัน ซึ่งมีมูลค่าความมั่งคั่งวัดจากราคาหุ้น อยู่ที่ 407,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 4 เป็นของ ไชน่าโมบายล์ เจ้า-พ่อโทรนาคมแห่งชาติของจีน ซึ่งมีมูลค่าความมั่งคั่งจำนวน 392,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับที่ 5 ก็ยังคงเป็นของธุรกิจสัญชาติ จีน ได้แก่ ธนาคารเพื่อการอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมแห่งประเทศจีน (Industrial and Commercial Bank of China) ซึ่งมีมูลค่าความมั่งคั่งอยู่ที่ 352,850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขี่ย ไมโครซอฟท์ บริษัทสัญชาติอเมริกันที่มีความ มั่งคั่ง 347,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้หล่นตุ๊บ ลงไปอยู่ในอันดับที่ 6

เหตุปัจจัยสำคัญที่หนุนนำให้มูลค่าธุรกิจของปิโตรไชน่า เฟื่องฟูฟู่ฟ่าแซงหน้าแอ็กซอนโมบิล ขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งของโลก เป็นเพราะบรรดานักลงทุนคิดว่าหุ้นปิโตรไชน่า เป็นหุ้นที่น่าลงทุน เป็นหุ้นที่มีอนาคตสดใส เป็นหุ้นที่น่าจะให้ผลตอบแทนดีเยี่ยมเหมือนๆ กัน แถมยังลงมือเคาะซื้อหุ้นปิโตรไชน่าพร้อมๆ กัน กระทั่งดันราคาหุ้นปิโตรไชน่าพุ่งทะยานขึ้นไปราว กับติดเทอร์โบ ยังผลให้มูลค่าโดยรวมของหุ้น ปิโตรไชน่าตามราคาตลาด ณ ปัจจุบันบาน ฉ่ำทะลุหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์ขึ้นไปอย่างง่ายดาย

ความเชื่อมั่นที่เหล่านักลงทุนมีต่อหุ้น ปิโตรไชน่า เกิดจากข้อมูลเชิงบวกเกี่ยวกับความ มั่นคงทางธุรกิจของปิโตรไชน่า ซึ่งบ่งชี้ว่าปิโตรไชน่ามีแหล่งปิโตรเลียมสำรองเหลือเฟือ ทั้งในประเทศจีน และนอกประเทศจีน

ลำพังเฉพาะแค่แหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลซินเกียง หรือแหล่งน้ำมัน จี้ตงหนานปู้ นอกชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวป๋อไห่ ก็สูบขึ้นมาขายโกยกำไรไปได้เป็นสิบๆ ปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ปิโตรไชน่า สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการเบียดธุรกิจสัญชาติอเมริกันก้าวขึ้นมาเป็นเจ้ายุทธจักรธุรกิจโลก แต่คนที่ฟันกำไรจากความอู้ฟู่ของปิโตรไชน่า กระเป๋าตุงกลับบ้าน กลับกลายเป็นคนอเมริกัน แทนที่จะเป็นคนจีน

คนอเมริกันคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ วอร์เรน บัฟเฟต เจ้าของฉายา พ่อ-มดแห่งตลาดหุ้นวอลล์สตรีท นั่นเอง

ผลจากกระแสนิยมของนักลงทุนที่แห่รุมซื้อหุ้นปิโตรไชน่า ซึ่งดันให้ราคาหุ้นพุ่งทะยานขึ้นไปมากมายหลายต่อหลายเท่า ตัว ทำให้วอร์เรน บัฟเฟต กวาดเก็บกำไรไป ได้เป็นกอบเป็นกำเมื่อเขาเทขายหุ้นป- ไชน่าออกจากพอร์ตทั้งหมด

เมื่อจับรายได้ 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการขายมาหักลบออกด้วยต้นทุน 488 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ซื้อเข้ามาเมื่อปีที่แล้ว วอร์เรน บัฟเฟต ฟันกำไร จากหุ้นปิโตรไชน่าไปเหนาะๆ 2,812 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 7 เท่าของเงิน ลงทุน คิดเป็นเงินไทยก็แค่ 9 หมื่นกว่าล้านบาทเท่านั้นเอง  
http://www.siamturakij.com/home/news/di ... ws_id=8676

news12/11/07

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 12, 2007 8:05 pm
โดย chartchai madman
แอร์บัส ขายเครื่องรุ่น A350 A380 รวม 81 ลำ
บริษัท แอร์บัส เอสเอเอส ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่า สายการบินเอเมริเรต ซึ่งเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง ตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น A 350 จำนวน 70 ลำ และ A380 ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีก 11 ลำ รวมมูลค่าสั่งซื้อสุทธิ 3.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1 ล้านล้านบาท ในงานแสดงอากาศยานนานาชาติผลจากการตกลงสั่งซื้อดังกล่าว ทำให้แอร์บัส มีจำนวนรายการสั่งซื้อรุ่น A350 ทั้งสิ้น 266 รายการ ในจำนวนนี้ มีภาระที่ต้องจัดส่งอย่างแน่นอนถึง 98 ลำ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news12/11/07

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 12, 2007 8:08 pm
โดย chartchai madman
นายกรัฐมนตรีการ์ตา ชี้ เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่า กระทบแผนลงทุนประเทศ
ชีค อาหมัด บิน จาซิม นายกรัฐมนตรีการ์ตา กล่าวว่า ค่าเงินเหรียญสหรัฐที่อ่อนค่าลงกับสกุลเงินหลักสำคัญอย่างเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนข้ามชาติของประเทศการ์ตา ซึ่งมีรายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติในรูปสกุลเงินเหรียญสหรัฐ หลังต้องยกเลิกแผนการเข้าซื้อกิจการค้าปลีกชื่อดังใหญ่อันดับ 3 ในอังกฤษ เจ เซ็นต์เบอร์รี่ มูลค่าสูงถึง ราว 7.4 แสนล้านบาท ขณะที่ เมอร์ลิน ลินช์ เผยการ์ตา อาจตัดสินใจยกเลิกนโยบายตึงค่าเงินริยัลกับเงินเหรียญสหรัฐในอีก 6 เดือนข้างหน้า เหตุจากเงินเฟ้อพุ่ง

เงินเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าต่ำสุด 25% หรือกว่า 2 เท่า ในหลายปีที่ผ่านมา
ค่าเงินเหรียญสหรัฐ ทำสถิติอ่อนค่าลงมากถึง 25% หรืออาจมากถึง 2 เท่าในช่วงปลายปีที่ผ่านมา หากพิจารณาเฉพาะในปัจจุบัน ย้อนหลังไปในรอบ 5 ปี หรือรับตั้งแต่ปี 2002 หรือในปี 2545 จะพบว่า ค่าเงินเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงมากถึง 36% เมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญอย่างน้อย 6 สกุลหลัก สำหรับสาเหตุสำคัญในแต่ละช่วงทศวรรษที่ทำให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลงนั้นแตกต่างกัน เช่น ปี 1970 หรือ 2513 ภาวะเงินเฟ้อพุ่งอย่างหนัก รวมกับความต้องการในสหรัฐที่ชะลอตัวลงอย่างมาก ส่งผลให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐทำสถิติอ่อนค่าลง

ปี 1980 เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่า เพราะ เศรษฐกิจญี่ปุ่นแกร่ง
ต่อมาในช่วงกลางปี 1980 หรือ 2523 ค่าเงินเหรียญสหรัฐทำสถิติอ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง จากความเคลื่อนไหวของบริษัทชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่นยุคนั้น มีเงินทุนมหาสาร จากภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้นถึงจุดรุ่งเรืองสูงสุด เข้ากว้านซื้อธุรกิจของบริษัทชั้นนำสัญชาติอเมริกันอย่างหนาตา ทำให้เกิดเป็นความกังวลอย่างหนักว่าบริษัทสัญชาติอเมริกันโดยส่วนใหญ่ จะถูกซื้อจากบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น เพื่อควบรวมกิจการกันทั้งหมดโดยญี่ปุ่น ซึ่งในยุคนั้น เศรษฐกิจญี่ปุ่น ได้รับการขนานนามว่า ซุบเปอร์พาวเวอร์
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news12/11/07

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 12, 2007 8:11 pm
โดย chartchai madman
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ให้บริษัทผู้ผลิตเรือ ซื้อ-ขายเรือในรูปเงินวอน

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า จำเป็นต้องเพิ่มความพยายามอย่างมาก เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดอัตราแลกเปลี่ยน เช่น การขอให้บริษัทผู้ผลิตเรือ ทำการซื้อขายเรือในสกุลเงินวอน หลังจาก Regulators ของเกาหลี ได้เข้าตรวจสอบการทำสัญญาซื้อขายค่าเงินล่วงหน้าที่มีปริมาณสูงมากในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งกระตุ้นให้ค่าเงินวอนแข็งค่ามากขึ้น เหนือระดับ 900 วอนต่อดอลลาร์ เป็นครั้งแรก ในวันที่ 31 ตุลาคม  เนื่องจากบริษัทผู่ผลิตเรือ ทำการขายเงินดอลลาร์ และเข้าซื้อเงินวอนในตลาดล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่รายได้จะลดลงจากอัตราแลกเปลี่ยน ท่ามกลางการขยายตัวอย่างมากของความต้องการใช้เรือ จากปริมาณการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐและประเทศในแถบยุโรป ซึ่งช่วยหนุนควมต้องการใช้เรือให้มีมากยิ่งขึ้น

ล่าสุด Hyundai Heavy Industries Co., ซึ่งบริษัทผู้ผลิตเรือรายใหญ่ที่สุดในโลก รายงานว่า ผลกำไรในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า คิม แจ อูน นักเศรษฐศาสตร์จาก  SK Securities ในกรุงโซล กล่าวว่า ธนาคารกลางฯ กำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้ผลิตเรือและผู้ส่งออกอื่นๆ จำเป็นต้องหาทางป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน นับจากปี 2004 เงินวอนของเกาหลี แข็งค่ามากขึ้นแล้วกว่า 32 % ซึ่งทำให้เงินวอนเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคเอเซีย.

เอลพีดาเล็งจับมือบ.ชิพไต้หวันหวังแข่งซัมซุง
นายยูกิโอะ ซาคาโมโต หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)เอลพีดา โมรี อิงค์ ผู้ผลิตชิพคอมพิวเตอร์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่น กล่าวว่า หากผู้ผลิตชิพไต้หวันอย่าง โพรมอส เทคโนโลยีส์ อิงค์ หรือนันยา เทคโนโลยี คอร์ป ผู้ผลิตชิพสัญชาติไต้หวัน ร่วมมือกับเอลพีดา จะทำให้บริษัทมีกำลังผลิตรวมกันมากกว่ากำลังผลิตของซัมซุง ซึ่งจะสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มบริษัท แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีการหารือใดๆร่วมกันก็ตาม  ซึ่งการเป็นพันธมิตรกับบริษัทสัญชาติไต้หวัน จะทำให้เอลพีดา สามารถขยายกำลังผลิต โดยไม่ต้องลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานของตัวเอง หลังจากปีที่แล้ว บริษัทได้บรรลุข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับเพาเวอร์ชิพ เซมิคอนดักเตอร์ คอร์ป ผู้ผลิตชิพ สัญชาติเดียวกัน

ทั้งนี้ ปริมาณชิพที่ล้นตลาดทำให้ราคาชิพร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง ซัมซุงและ ไฮนิกซ์ เซมิคอนดักเตอร์ อิงค์ของเกาหลีใต้ มีรายได้ลดลงในไตรมาสล่าสุด ส่วนเอลพีดา ทำกำไรได้น้อยที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส ขณะที่เพาเวอร์ชิพ นันยา คิมอนดาของเยอรมนี ไมครอน เทคโนโลยี อิงค์ของสหรัฐ ก็เผชิญกับภาวะขาดทุนเช่นกัน

โปรตอนจับมือบ.อิหร่านผลิตรถยนต์อิสลาม

นายไซเอ็ด ไซนัล อาบิดิน กรรมการผู้จัดการบริษัทโปรตอน ค่ายรถยนต์แห่งชาติของมาเลเซียเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะร่วมทุนกับบริษัทในอิหร่านและตุรกี ภายใต้ข้อเสนอของฝ่ายอิหร่าน ที่ต้องการผลิตรถยนต์ที่เรียกว่ารถยนต์อิสลาม โดยภายในรถยนต์จะได้รับการออกแบบตอบสนองความต้องการเจ้าของรถที่เป็นชาวมุสลิม เช่น ติดตั้งเข็มทิศที่ชี้ทางไปนครเมกกะ ช่องสำหรับเก็บพระคัมภีร์อัลกุรอาน และผ้าโพกศีรษะ  รถรุ่นนี้จะผลิตเพื่อการส่งออกโดยเฉพาะ ส่วนโรงงานผลิตอาจตั้งในมาเลเซีย อิหร่าน หรือตุรกี นายไซเอ็ด ไซนัล ระบุด้วยว่า แผนการผลิตรถยนต์อิสลาม ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ทำให้เชื่อว่าจะได้รับใบสั่งซื้อจำนวนมาก นอกจากนี้ โปรตอนยังเปิดเจรจากับโฟล์คสวาเก้น และเจนเนอรัล มอเตอร์ส  (จีเอ็ม)  ถึงความเป็นไปได้ที่จะจับมือเป็นพันธมิตรเพื่อฟื้นฐานะบริษัท หลังในปีงบการเงินที่ผ่านมา บริษัทขาดทุนสูงถึง 591.36 ล้านริงกิต และในช่วง 3 เดือน นับถึงวันที่ 30 มิ.ย. ประสบภาวะขาดทุน 46.75 ล้านริงกิต
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news12/11/07

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 12, 2007 9:09 pm
โดย chartchai madman
จีนยอมรับของเล่นที่ผลิตจำหน่ายต่างประเทศมีสารปนเปื้อน

12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 18:57:00

ผลการสอบสวนของทางการจีน ยอมรับของเล่นที่ผลิตในจีน มีสารปนเปื้อน แต่ยังมีการลักลอบผลิต แม้เจอสั่งปิด

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างผลการสอบสวนเบื้องต้นของสำนักงานควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบและกักกันโรคของจีน ยืนยันว่า ของเล่นตัวต่อลูกปัดที่ผลิตในจีน วางขายในสหรัฐในชื่อ อควา ดอตส์ และวางขายในออสเตรเลียในชื่อ บิน ดีซ ปนเปื้อนสารพิษที่เปลี่ยนสภาพเมื่อเด็กกลืนกินเข้าไปเป็นยา เดต เรป ซึ่งเป็นยานอนหลับชนิดรุนแรงที่คนร้ายนำมาใช้กับเหยื่อข่มขืน ดังที่นักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐตรวจพบก่อนหน้านี้

โดยบริษัทผู้ผลิตของเล่นมรณะดังกล่าว คือบริษัท หวังซี โปรดัก แฟ็กทอรี่ ตั้งอยู่ในนครเสินเจิ้น ทางใต้ของจีน ติดกับพรมแดนฮ่องกง จากการสอบสวนพบว่ามีการใช้สาร "1,4-บิวทานีไดโอล" ปริมาณ 14.5% เพื่อทำให้ลูกปัดมีความนุ่มขึ้น ซึ่งเมื่อกลืนเข้าไป สารเคมีชนิดนี้จะมีการเผาผลาญกลายเป็นยา จีเอชบี หรือที่เรียกกันว่ายาเสียตัว ที่สามารถทำให้เกิดอาการหายใจติดขัด ชัก หมดสติ ง่วงซึม โคม่าและอาจถึงเสียชีวิตได้

ขณะที่มีรายงานว่าบริษัทแห่งนี้ยังคงผลิตของเล่นดังกล่าวแม้รัฐบาลจะสั่งห้ามส่งออกแล้ว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐและออสเตรเลียเรียกเก็บของเล่นชนิดนี้ ซึ่งเป็นของเล่นขายดีหลายล้านชิ้น หลังพบว่ามีเด็กกลืนลูกปัดและล้มป่วยอาการโคม่าหลายคน นอกจากนี้ยังมีการเรียกเก็บในอังกฤษ มาเลเซีย สิงคโปร์และประเทศอื่น ๆ ด้วย
http://www.bangkokbiznews.com/2007/11/1 ... sid=201567

news13/11/07

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 13, 2007 2:06 pm
โดย chartchai madman
เศรษฐกิจญี่ปุ่น Q3/50 โต 2.6% - ข่าว 11.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Tuesday, November 13, 2007
สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่ 3/2550 ขยายตัว 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับแรงขับเคลื่อนจากการขยายตัวของภาคการส่งออก และการใช้จ่ายของผู้บริโภค

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเป็นผลมาจากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 10 และเพิ่มขึ้นจาก 0.9% ในไตรมาสก่อน จากยอดการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันการใช้จ่ายผู้บริโภคก็ปรับเพิ่มขึ้น 0.3% จาก 0.2% ในไตรมาสก่อน ส่วนการลงทุนภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 1.7% หลังจากลดลง 2.1%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

news13/11/07

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 13, 2007 2:56 pm
โดย chartchai madman
ประธานกลุ่ม EU สั่งจับตาค่าเงินยูโรอย่างใกล้ชิด
นายฌอง คล๊อด จุงเกอร์ ประธานกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า กลุ่ม EU โดยเฉพาะรัฐมนตรีคลังจากประเทศสมาชิก เฝ้าจับตามองการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด และมีความคิดเห็นตรงกันว่า ต้องต่อต้านการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนที่ผิดปกติ นอกจากนี้ ประธานกลุ่ม EU ได้ร่วมหารือกับประธานธนาคารกลางกลุ่มยูโร (ECB) ประธานคณะกรรมาธิการนโยบายการเงินกลุ่ม EU เพื่อที่จะกดดันค่าเงินหยวนจีนให้เข้มข้นมากขึ้น ในระหว่างการเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่ง จีนแผ่นดินใหญ่ในเดือนนี้

ทองคำทรุดต่ำสุดรอบ 13 เดือน ทองแดงตกต่ำรอบ 7 เดือน
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญทั่วโลก เกิดการปรับฐานทำกำไรครั้งสำคัญในวันแรกของการซื้อขาย โดยนักลงทุนในตลาดดังกล่าวตัดสินใจเทขายกลุ่มพลังงาน และโลหะทั่วตลาด เพื่อลดความเสี่ยงที่ราคาสินค้าใน 2 กลุ่มดังกล่าว พุ่งขึ้นสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ ราคาทองคำในตลาดสำคัญ มีราคาทรุดต่ำลงเกือบ 30 เหรียญสหรัฐ ลงต่ำสุดในรอบ 13 เดือน ราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากถึง 2.9% ราคาทองแดงนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมาติดลบ 15% และยังทรุดลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือนในคืนที่ผ่านมา
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news13/11/07

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 13, 2007 3:10 pm
โดย chartchai madman
ตี้กรุ๊ปลดอันดับความน่าลงทุนหุ้นจีนในฮ่องกง หลังจีนปรับเพดานกันสำรอง
ซิตี้กรุ๊ปได้ปรับลดแนวโน้มความน่าลงทุนในเชิงบวกต่อหุ้นจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง (H-stock) ลงมาอยู่ที่ระดับ "prudent" เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี เนื่องจากซิตี้กรุ๊ปเชื่อว่า ธนาคารจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเร็วๆนี้ หลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาจีนได้ประกาศเพิ่มสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ขึ้นเป็นครั้งที่ 9 ในปีนี้ โดยซิตี้กรุ๊ปมองว่าหุ้นจีนพุ่งทะยานขึ้นในระดับที่สูงและเร็วเกินไปจนส่งผลให้หุ้น H-stock ไต่ระดับขึ้น 40% ขณะที่ตลาดหุ้นเอ-แชร์ของจีนกำลังขาดปัจจัยหนุนเนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายหุ้นในตลาดลดลง

สิงคโปร์ทุ่มทุนพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มภายในปี 2558
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สิงคโปร์ได้พยายามลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับภาคพลังงาน จากปัจจุบันที่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ให้ได้ 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ภายในปี 2558 และขยายการจ้างงานในอุตสาหกรรมพลังงานขึ้นสามเท่า จากเดิมที่ 5,700 อัตรา เป็น 15,300 อัตรา นอกจากจะมีการขยายภาคการกลั่นน้ำมันและการซื้อขายพลังงานแล้ว สิงคโปร์ยังพยายามขยายการดำเนินงานในด้านพลังงานสะอาดและสนุบสนุนให้เกิดการแข่งขันในตลาดพลังงานในประเทศซึ่งจะส่งผลให้พลังงานมีราคาถูกลง

"ฮุนได"เล็งสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในรัสเซีย สนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น
บริษัทเตรียมสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในรัสเซีย แม้ว่าจะยังไม่ได้ตัดสินใจในรายละเอียดสำคัญๆเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของโรงงานและขนาดการลงทุนก็ตาม โดยคาดว่าโรงงานแห่งใหม่นี้จะสามารถผลิตรถยนต์ได้ 100,000 คันต่อปี ทั้งนี้ ความต้องการรถยนต์ในรัสเซียขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และฮุนไดก็ต้องการตอบสนองความต้องการดังกล่าว ปัจจุบัน ฮุนไดมีโรงงานผลิตรถยนต์ของตัวเองในจีน อินเดีย ตุรกี และสหรัฐ และอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอีกแห่งหนึ่งที่สาธารณรัฐเช็ก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news14/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 14, 2007 1:22 pm
โดย chartchai madman
สงครามการค้าโลกใกล้ปะทุ

ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ในระหว่างการเยือนสหรัฐ ได้เตือนรัฐบาลสหรัฐผ่านทางสภาคองเกรสให้เร่งจัดการกับการอ่อนค่าของเงินเหรียญสหรัฐอย่างต่อเนื่อง มิเช่นนั้นอาจจะต้องเผชิญกับสงครามการค้าโลก


การที่เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าเกินไป หากไม่ระวัง ความปั่นป่วนทางการเงินอาจกลายเป็นสงครามเศรษฐกิจในที่สุด ซาร์โกซี กล่าว

บรูคลีย์ แมคลัฟลิน โฆษกประจำตัว เฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ แถลงว่า นายพอลสันยังคงยืนยันจุดเดิมของตัวเองเกี่ยวกับนโยบายเงินเหรียญสหรัฐ ที่ยังคงเชื่อมั่นว่าการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐถือเป็นผลประโยชน์ของสหรัฐเอง

ด้านความเคลื่อนไหวของค่าเงินเหรียญสหรัฐยังคงย่ำแย่ เมื่อเคลื่อนตัวสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนกำลังรอคอยการชี้ขาดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

ทางด้านความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท นายภากร ปีตธวัชชัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายบริหารการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นช้าๆ และในปีหน้าจะได้เห็นเงินบาทแข็งค่าแบบก้าวกระโดดในบางช่วงเวลา ค่าเงินบาทอาจจะแข็งค่ารวดเดียว 0.25 บาท/เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ ธปท.แทรกแซงเงินบาทมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ค่าเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินประเทศต่างๆ โดยเงินบาทอ่อนค่ากว่าเงินยูโร 6.7% อ่อนค่ากว่าฟิลิปปินส์ 5.6% เงินเหรียญสิงคโปร์ 4.5% เงินปอนด์ 4% รูเปียห์ 3.4% เงินริงกิต 3.2% เงินวอน 3% เงินรูปี 1.7% และอ่อนค่ากว่าเงินหยวน 1.3% ขณะที่ค่าบาทแข็งค่ากว่าเงินเยน 0.6% แข็งค่ากว่าเงินเหรียญสหรัฐ 0.9%

ดังนั้น ในปีหน้าถ้าสภาพตลาดไม่เปลี่ยน และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังแทรกแซงค่าเงินเหมือนช่วงที่ผ่านมา จะได้เห็นค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเดือนละ 0.1 บาท/ เหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.97-34 บาท/เหรียญสหรัฐ แต่ในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะแข็งค่าที่ 33.75-34 บาท/เหรียญสหรัฐ และในอีก 1 ปีข้างหน้ามีโอกาสได้เห็นค่าบาทแข็งค่าที่ 32-33 บาท/เหรียญสหรัฐ
http://www.msnth.com/msn/money2/content ... 167&ch=222

news14/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 14, 2007 7:29 pm
โดย chartchai madman
ดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด ปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน สวนทางราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ดิ่งลงต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน

Posted on Wednesday, November 14, 2007
ดาวโจนส์พุ่ง 319 จุด เอส แอนด์พี พุ่ง 41 จุด สูงสุดรอบ 2 เดือน
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ กลับมาคึกคักด้วยภาวะกระทิงตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งขึ้นปิดที่ 13,307 จุด ทะยานขึ้น 319 จุด สร้างสถิติเพิ่มขึ้นสูงสุดใน 1 วันทำการในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา และยังเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้ สอดรับกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้นปิดที่ 1,481 จุด เพิ่มสูงขึ้น 41 จุด เพิ่มขึ้นมากที่สุดใน 1 วันทำการในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา และดัชนีหุ้นนาสแด็ค ทะยานขึ้นปิดที่ 2,673 จุด พุ่งขึ้น 89 จุด ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดใน 1 วันทำการในรอบกว่า 4 เดือน

ดาวโจนส์ปิดเหนือ 13,000 จุดในรอบ 3 เดือน แต่เอสแอนด์พีภาพรวมยังต่ำสุดรอบ 5 ปี
สถิติสำคัญในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ คืนที่ผ่านมา ยังเห็นได้จาก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดยืนเหนือกว่า 13,000 จุด ในรอบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมของปีนี้ ในแง่ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 300 จุดคืนที่ผ่านมา เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี ในแง่ส่วนต่างที่พุ่งขึ้นมากกว่า 200 จุดขึ้นไป เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นครั้งที่ 6 อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่ปรับลดลงมากกว่า 200 จุดลงไป เกิดขึ้นทั้งหมด 14 ครั้งในรอบปีนี้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 แม้จะสร้างสถิติพุ่งสูงขึ้นในรอบ 2 เดือน แต่ในภาพรวมยังตกต่ำมากสุดในรอบ 5 ปี

3 ดัชนีหุ้นสำคัญ ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ เฟด ลดดอกเบี้ย 18 ก.ย. 50
ด้านดัชนีหุ้นนาสแด็ค แม้จะทะยานเพิ่มสูงขึ้นมากถึง 89 จุดคืนที่ผ่านมานั้น แต่หากมองเฉพาะในเดือนนี้จะพบว่า ยังคงลดลงมากถึง 6.6% นอกจากนี้ระดับดัชนีดังกล่าว ยังคงเป็นเดือนที่ตกต่ำมากที่สุดในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมในปี 2547 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ สามารถหยุดการดิ่งลงในช่วง 4 วันทำการติดต่อกันที่ผ่านมา และนับเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่การปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news14/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 14, 2007 7:30 pm
โดย chartchai madman
รายได้ และกำไร วอลล์มาร์ทพุ่งเหนือความคาดหมาย
นอกจากนี้ ปัจจัยบวกที่สอง ซึ่งมีน้ำหนักมากเช่นกัน คือ ผลประกอบการของธุรกิจค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐ และของโลก วอลล์มาร์ท สโตร์ อินคอร์ปอเรชั่น มีผลประกอบการที่สูงกว่าความคาดหมายอย่างมาก โดยมีรายได้สุทธิพุ่งขึ้น 7.9% มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2002 หรือตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ไม่เพียงเท่านั้น กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ยังเพิ่มเหนือความคาดหมายอีกด้วย ส่งผลให้ราคาหุ้นของ วอลล์มาร์ท สโตร์ อินคอร์ปอเรชั่น ทะยานขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 ปี
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news14/11/07

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 14, 2007 7:36 pm
โดย chartchai madman
ผู้นำสูงสุดสหรัฐ หนุนเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่า
ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐ กล่าวว่า ในฐานะผู้นำประเทศ และคณะรัฐบาลสหรัฐ ยืนยันในนโยบายสนับสนุนการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐมาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังตอกย้ำว่า จะไม่ดำเนินมาตรการ หรือนโยบายใดๆ ที่เป็นการเข้าไปแทรกแซงไกลตลาดเงิน โดยจะปล่อยให้เป็นกลไกของตลาดเงิน เป็นตัวกำหนดเอง ทั้งนี้ หลังการให้สัมภาษณ์ของผู้นำสูงสุดสหรัฐ ส่งผลให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐ กระเตื้องแข็งค่าขึ้นในกรอบแคบๆ เมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญทั่วโลก

ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ 0.5%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้เท่าเดิมที่ 0.5% อีกครั้งในวันนี้ ด้วยมติ 8 ต่อ 1 เนื่องจากตลาดการเงินทั่วโลกยังตกอยู่ในภาวะผันผวน โดยการตรึงอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ การตรึงอัตราดอกเบี้ยยังช่วยให้บีโอเจมีเวลาที่จะประเมินว่าค่าเงินเยนที่แข็งแกร่งขึ้นจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่นมากน้อยเพียงใด ส่วนการประชุมบีโอเจครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 19-20 ธ.ค.นี้

นายกฯสิงคโปร์มั่นใจ ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนไม่กระทบการเศรษฐกิจเอเชีย
นายหลี่ เซี่ยน หลุน นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวว่า ความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะเวลาอันใกล้ แต่ไม่สามารถหยุดยั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเอเชียได้ การที่เศรษฐกิจสหรัฐซบเซาอย่างหนักย่อมส่งผลกระทบต่อเอเชียบ้าง แต่เอเชียก็มีรากฐานทางเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งและจะมีอนาคตสดใสในระยะกลางอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนและอินเดียซึ่งมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงเศรษฐกิจสิงคโปร์ด้วยเช่นกัน นายหลี่เน้นย้ำว่า สิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ พัฒนาศักยภาพของประเทศ และการลงทุนในประชากรของประเทศ นอกจากนั้นยังเล็งเห็นว่าภาคการผลิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาเศรษฐกิจ

ญี่ปุ่นเผย GDP ช่วงไตรมาส 3 ขยายตัว 2.6% สูงกว่าตลาดคาดการณ์
สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเปิดเผยว่าGDP ของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2550 เพิ่มขึ้น 0.6% จากช่วงไตรมาสก่อนหน้า หรือที่ระดับ 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรปและเอเชียที่เพิ่มขึ้น ส่วนตัวเลข GDP ขั้นต้น หรือก่อนที่จะปรับฐานเพื่อคำนวณหาอัตราเงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 0.3% ในช่วงไตรมาสที่ 3 หรือเติบโต 1.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี นักวิเคราะห์จาก โนมูระกล่าวว่า GDP ที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ซีอีโอไชน่า โมบายล์เผยเจรจาแอปเปิ้ลเล็งนำเข้า"ไอโฟน"จำหน่ายในจีน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไชน่า โมบายล์ เปิดเผยว่า ทางบริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจานำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไอโฟน มาจำหน่ายในจีน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในระหว่างแก้ไขความเห็นแตกต่างเรื่องการแบ่งปันรายได้ ทั้งนี้ แอปเปิ้ล ซึ่งเปิดตัว ไอโฟน ครั้งแรกในสหรัฐในปีนี้ มีแผนที่จะวางขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนในเอเชียช่วงปี 2551 และอยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้ให้บริการหลายรายในภูมิภาคนี้ โดย แอปเปิ้ล เริ่มวางขายไอโฟนในยุโรปไปแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news15/11/07

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 15, 2007 7:43 pm
โดย chartchai madman
จอห์น เทน สร้าง 3 ผลงานสำคัญกับตลาดหุ้นนิวยอร์ก
จอห์น เทน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งซีอีโอ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ยูโรเน็กซ์ นับตั้งแต่ในปี 2004 หรือปี 2547 มีผลงานสำคัญ และประสบความสำเร็จที่ชัดเจน คือ การแปรสภาพตลาดหุ้นนิวยอร์ก เข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทในตลาดหุ้นนิวยอร์ก นำตลาดหุ้นนิวยอร์กควบรวมกับตลาดหุ้นยูโรเน็กซ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นสำคัญในยุโรปหลายแห่ง และในปี 2005 หรือปี 2548 เข้าซื้อกิจการบริษัท อาชิเพลลาโก้ โฮลดิงส์ อินคอร์ปอเรชั่น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งระบบซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยอิเลคโทรนิคส์ของตลาดหุ้นนิวยอร์ก

เฟด ปรับกลยุทธ์สื่อสารข้อมูลเผยข้อมูลเศรษฐกิจรายไตรมาส
นายเบน เบอร์นันกี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด เปิดเผยแนวทางการปรับปรุงการทำงานใหม่โดยกล่าวว่า เฟด จะเปิดเผยการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี โดยเน้นการให้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น และเตรียมปรับปรุงการสื่อสารข้อมูลของเฟด ที่มีต่อตลาดทุน และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ประธานเฟด กำหนดชัดเจนว่า การคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ จะถูกเปิดเผยเพิ่มขึ้นถึง 4 ครั้งต่อปี จากปัจจุบันที่เปิดเผยเพียง 2 ครั้งต่อปี ในส่วนของการคาดกาณ์เศรษฐกิจระยะกลาง จะขยายช่วงการคาดการณ์เพิ่มขึ้นจาก 2 เป็น 3 ปี

เฟด เน้นเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญชัดเจน โปร่งใส มากขึ้น
ประธานเฟดวัย 53 ปี ชี้ว่า ข้อมูลที่จะถูกเปิดเผยในการคาดการณ์เศรษฐกิจนั้น ซึ่งทำต่อเนื่องยาวนานถึง 30 ปีนั้น ประกอบไปด้วย อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การว่างงาน เงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในส่วนที่เพิ่มเติม จะครอบคลุมแนวคิด หรือมุมมองของผู้บริหารเฟด ที่มีต่อทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต และปัจจัยเสี่ยงที่มีต่อมุมมองดังกล่าว ทั้งนี้ เบน เบอร์นันกี้ กล่าวว่า การเปิดเผยข้อมูลแบบใหม่ในครั้งนี้ จะเริ่มต้นในวันอังคาร พร้อมกับการเปิดเผยบันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินในเดือนตุลาคมด้วย

เฟด ต้องซื้อคืนพันธบัตรระยะสั้นในตลาดพรุ่งนี้สูงถึง 1.38 ล้านล้านบาท
ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด เตรียมเข้าซื้อคืนพันธบัตรระยะสั้นจากตลาดทุนสหรัฐในวันพรุ่งนี้ตามเวลาในสหรัฐ ด้วยมูลค่าสูงถึง 4.05 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.38 ล้านล้านบาท ผ่านวิธีการซื้อคืนพันธบัตรในตลาดการเงินนิวยอร์ก สหรัฐ เนื่องจาก สัญญาการซื้อคืนพันธบัตรชุดล่าสุด จะครบอายุไถ่ถอนในวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐ ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อคืนสัญญาดังกล่าวของเฟดที่จะเกิดขึ้น อาจมีมูลค่ามากพอที่เฟด ไม่มีความจำเป็นจะต้องอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินสหรัฐ เหมือนในช่วงที่ผ่านมา
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx

news15/11/07

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 15, 2007 7:46 pm
โดย chartchai madman
คลังสหรัฐ กดดัน ไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก
นายเดวิท แม็คคอร์แม็ค ปลัดกระทรวงการคลังสหรัฐ เรียกร้องไปยัง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก ให้เร่งรีบกำหนดแนวทางการปฏิบัติการลงทุนที่ดีที่สุด สำหรับกองทุนเพื่อการลงทุนแห่งชาติของรัฐบาลจากต่างประเทศ เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนในการเข้าไปลงทุนข้ามชาติในแง่เศรษฐกิจ มากกว่าที่เข้ามาในด้านการเมืองระหว่างประเทศในอนาคต ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าว จะต้องระบุรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับ โครงสร้างของกองทุน การป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการขัดแย้งการเมือง

แบงก์ชาติอังกฤษ ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยปีหน้า
ธนาคารกลางอังกฤษ ส่งสัญญาณว่า แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นอังกฤษในอีก 2 ปีหน้า ขึ้นอยู่กับภาวะเงินเฟ้อในอังกฤษ จะทะยานขึ้นแตะที่เป้าหมายสูงสุดที่ 2% หรือไม่ จากรายงานล่าสุดของแบงก์ชาติอังกฤษ เปิดเผยว่า ภาวะเงินเฟ้ออังกฤษ เริ่มเพิ่มสูงมากขึ้นจากผลพวงราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นต่อเนื่อง และค่าเงินปอนด์สเตอริงที่อ่อนค่าลง คาดว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอังกฤษในปีหน้า จะเคลื่อนไหวที่ระดับ 5.5% ในไตรมาสที่ 1 และอาจจะปรับลดลงเหลือเพียง 5.3% ในช่วง 6 เดือนหลังของปีหน้า
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx