สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1651

โพสต์

รูปภาพ

ผู้ถือหุ้น BSM อนุมัติวอแรนต์ผ่านฉลุย

กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น

นายสุเรช ซูบรามาเนียม (ที่ 1 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ (ที่ 5 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM ร่วมด้วยคณะกรรมการบริษัท และที่ปรึกษาทางการเงินเข้าร่วมงานประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/ 2555 ซึ่งผู้ถือหุ้นอนุมัติอนุมัติ วาระออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ (วอแรนต์) และรับทราบการจัดตั้งบริษัทย่อยสำหรับระบบประตูหน้าต่างเฟลทเชอร์ เพื่อเป็นการเพิ่มทุนและขยายการดำเนินงานของบริษัทต่อไปในอนาคต ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 33 อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ เมื่อเร็วๆนี้


ข่าวประชาสัมพันธ์หุ้น การเงิน การธนาคาร วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1652

โพสต์

รูปภาพ

ธีระมงคลกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี 2555

กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น

ผู้บริหาร นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ส่องสว่างภายใต้แบรนด์กาต้า (GATA) แอบกระซิบช่วงสุดท้ายของปี ขอจัดโปรโมชั่นสินค้ากระตุ้นยอดขาย เอาใจลูกค้าดีลเลอร์แบบทิ้งโค้งกันเลยทีเดียว ด้วยแคมเปญ “แทนคำขอบคุณ จากใจ” และ “โปรเฮง เฮง เฮง” ให้กับลูกค้าดีลเลอร์ได้มีกำลังใจในการจำหน่ายสินค้าก่อนสิ้นปี งานนี้บอกได้ว่า ลูกค้าดีลเลอร์เป็นปลื้ม ยิ้มหน้าบาน ขายดีเทน้ำเทท่า อีกทั้งผู้บริโภคยังได้สินค้าที่มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสมกลับบ้านอีกด้วย......คุ้มแสนคุ้ม


ข่าวประชาสัมพันธ์หุ้น การเงิน การธนาคาร วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1653

โพสต์

รูปภาพ

KMC เดินเกมรุก ปรับโครงสร้างทุนครั้งใหญ่
เร่งขยายธุรกิจและฐานรายได้ให้เติบโตยิ่งกว่าเดิม
พร้อมล้างขาดทุนสะสมเปิดทางจ่ายปันผล


กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--IR network

บอร์ด “กฤษดามหานคร” หรือ KMC เดินเกมรุกปรับโครงสร้างทุนครั้งมโหฬาร ประกาศเพิ่มทุนให้ทั้ง RO และ PP แถมแจก KMC-W3 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน หวังเพิ่มความสามารถในการขยายโครงการ เพื่อสร้างรายได้และกำไรในอนาคต ด้วยการซื้อที่ดินเพื่อมาพัฒนาต่อ และเทคโอเวอร์โครงการที่สร้างเสร็จแล้วมาขาย พร้อมลดทุนโดยการลดพาร์เพื่อลดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและล้างขาดทุนสะสม เปิดทางจ่ายเงินปันผลในอนาคต "วิรัตน์ เอี้ยวอักษร" ชี้หลังจากนี้ไปผู้ถือหุ้นจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ KMC อย่างมีนัยสำคัญ มั่นใจแผนหารายได้ในระยะสั้น จะดันยอดขายปี 2556 กระฉูดทะลุ 3,000 ล้านบาท และมีโอกาสแจกปันผลได้ในทันทีหากผลการดำเนินงานมีกำไร

นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างเงินทุน โดยการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทจากเดิมหุ้นละ 10 บาทเป็นหุ้นละ 20 บาท เนื่องจากเหตุผลของความจำเป็นที่บริษัทมีแผนระดมทุนเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ ทั้งเพื่อซื้อที่ดินมาเพื่อพัฒนาต่อ และซื้อโครงการที่สร้างเสร็จแล้วมาขาย เพื่อให้บริษัทมีรายได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อไป บริษัทจึงพิจารณาเลือกวิธีระดมทุนโดยการเพิ่มทุน ซึ่งหากคำนวณจากเงินทุนที่บริษัทต้องการเทียบกับมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทในปัจจุบัน จะทำให้บริษัทต้องออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวนมาก ประกอบกับการที่บริษัทยังมีขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นค่อนข้างมาก หากบริษัทมีผลประกอบการกำไร จะทำให้บริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ บริษัทฯ จึงขอเสนอปรับโครงสร้างทุน โดยให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้นจากเดิมหุ้นละ 10 บาทเป็นหุ้นละ 20 บาท ก่อนดำเนินการลดทุนเพื่อตัดขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นให้หมดไป

จากนั้นคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 89,725.16 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 4,486.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท ซึ่งจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 2,639.71 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วน (Rights Issue) ในอัตรา 4 หุ้นเดิม ต่อ 5 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 มีนาคม 2556 โดยกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 20-27 มีนาคม 2556 เพื่อให้บริษัทสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนปรับโครงสร้างหนี้ ตลอดจนเพิ่มความสามารถของบริษัทในการขยายโครงการเพื่อให้ก่อให้เกิดรายได้และกำไรในอนาคต

นอกจากนี้ จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,795.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่จะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวข้างต้น (KMC-W3) ส่วนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลืออีกจำนวนไม่เกิน 51.54 ล้านหุ้น จะสำรองไว้สำหรับการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิของ KMC-W2

จากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้ลดทุนจดทะเบียน โดยการลดมูลค่าหุ้น จากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.70 บาท เพื่อลดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและลดขาดทุนสะสม เนื่องจากบริษัทยังคงมีผลขาดทุนสะสมอยู่ และก่อนที่จะล้างผลขาดทุนสะสมได้ จะต้องดำเนินการล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้นก่อน เพื่อลดขาดทุนสะสมทั้งหมด ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ในทันที หากผลการดำเนินงานมีกำไร

และจากเหตุผลความจำเป็นที่ KMC มีแผนการระดมทุนเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ เพื่อทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีในระยะยาวต่อไป ที่ประชุมคณะกรรมการ จึงมีมติให้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน อีก 5,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.70 บาท ให้กับนักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง และ/หรือ นักลงทุนประเภทสถาบัน (Private Placement) เพื่อนำเงินซื้อที่ดินเพื่อมาพัฒนาต่อ และซื้อโครงการที่สร้างเสร็จแล้วมาขาย เพื่อให้บริษัทมีรายได้ในระยะสั้น รวมทั้งเพื่อรองรับไว้สำหรับการขยายโครงการ และรองรับการลงทุนต่างๆ ของบริษัทที่จะก่อให้เกิดรายได้ต่อไปในอนาคต และหรือเพื่อไว้สำหรับกรณีที่มีนักลงทุนที่เป็นนักลงทุนลักษณะ Strategic Shareholder ที่จะมาร่วมลงทุนกับบริษัทในอนาคต

"หุ้นเพิ่มทุนในส่วนนี้ เราอาจจะขายให้กับเจ้าของที่ดิน หรือเจ้าของโครงการที่เราไปเทคโอเวอร์มาเพื่อพัฒนาโครงการ หรือเพื่อขายต่อ ซึ่งจะทำให้ KMC มีรายได้ระยะสั้นเข้ามารวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งการปรับโครงสร้างทุนในครั้งนี้ คณะกรรมการมีความเชื่อมั่นว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ถือหุ้นทุกคน และทำให้ KMC มีเงินทุนที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนาโครงการเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวต่อไป และที่สำคัญการลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม จะทำให้บริษัทฯ สามารถจ่ายเงินปันผลได้เร็วขึ้น หากผลการดำเนินงานเริ่มมีกำไร ซึ่งผมเชื่อว่ามีโอกาสได้เห็นแน่นอนในปี 2556 หลังจากที่บริษัทฯ เริ่มเดินแผนหารายได้ระยะสั้น โดยการ เทคโอเวอร์โครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วมาทำตลาดและขายต่อ ซึ่งได้มาร์จิ้นค่อนข้างดี และจะทำให้ยอดขายของบริษัทฯในปีหน้าก้าวกระโดดทะลุ 3,000 ล้านบาท พร้อมมีโอกาสจ่ายปันผลได้ทันที" นายวิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ KMC กำหนดเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2556 เพื่อขออนุมัติการทำรายการดังกล่าว ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2556 ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2556 (Record date)


ข่าวประชาสัมพันธ์หุ้น การเงิน การธนาคาร วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1654

โพสต์

***หุ้นโค้งสุดท้าย... ลุ้นดัชนีทำนิวไฮสั่งลาปีมะโรง

ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ วิ่งเป็นกระทิงลนไฟ สถาบันแห่ซื้อช่วงท้ายตลาด ดันดัชนีบวกไป 14.96 จุด โบรกมองหุ้นไทยพรุ่งนี้(27ธ.ค.) ส่งท้ายปีมะโรงเข้าสู่ปีมะเส็ง ดัชนียังเดินหน้าปิดท้ายปีอย่างสวยงาม ให้กรอบลงทุน 1,380 -1,400 จุด

- นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ +2,342.28 ล้านบาท
- บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ -1,328.80 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ +2,543.74 ล้านบาท
- นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ -3,557.22 ล้านบาท


นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด กล่าวในรายการหุ้นโค้งสุดท้าย ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้(28 ธ.ค.) ดัชนีมีโอกาสทดสอบ 1,400 จุด และทะลุขึ้นไปทำนิวไฮได้ แต่การปรับตัวของดัชนีอาจไม่ร้อนแรงเท่าวันนี้(27 ธ.ค.)

จากแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันเข้ามาอย่างหนาแน่นในช่วงท้ายตลาด จึงส่งผลให้ดัชนีปิดตลาดบวกถึง 14.96 จุด หรือ 1.08% โดยขึ้นไปทำไฮที่ 1,398.80 จุด ก่อนจะปิดตลาดที่ 1,397.19จุด และมีมูลค่าซื้อขายรวม 37,164 ล้านบาท



ทั้งนี้ตามสถิติย้อนหลังประมาณ 5-6 ปี นักลงทุนสาถบันจะมียอดซื้อสุทธิประมาณ 16,000-17,000 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ยังมียอดซื้อประมาณ 10,000 ล้านบาท จึงคาดว่าในวันพรุ่งนี้นักลงทุนสถาบันจะยังมีแรงซื้อต่อเนื่อง และต่อสู้กับแรงขายของพอร์ตการลงทุนของโบรกเกอร์

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ทยอยขายลดพอร์ตหากดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากแรงขายหุ้นของนักลงทุนสถาบันและพอร์ตโบกรเกอร์ในช่วงต้นปี 2556

กรอบการลงทุน

บล.คันทรี่ กรุ๊ปหรือ CGS ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,388- 1,400 จุด แนะลงทุน BROOK

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,380 -1,400 จุด แนะลงทุน BECL

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1655

โพสต์

หุ้นปิดพุ่ง14.96จุดแรงซื้อLTF-RMFดีเกินคาด

หุ้นไทยปิดพุ่ง 14.96 จุด แตะ 1,397.19 จุด รับแรงซื้อกองทุน LTF-RMF ดีเกินคาด
ลุ้นพรุ่งนี้ปิด 1,400 จุด


วันนี้ (27 ธ.ค. 55) ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,397.19 จุด เพิ่มขึ้น 14.96 จุด(+1.08%) มูลค่าการซื้อขาย 37,165 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,398.80 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,384.24 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 324 หลักทรัพย์ ลดลง 225 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 168 หลักทรัพย์

ด้านน.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากแรงซื้อกองทุนที่ช่วยหนุนดัชนีทะลุ 1,390 จุดเข้าใกล้ 1,400 จุด โดยเคลื่อนไหวผันผวนค่อนข้างมากในช่วงก่อนปิดตลาด

ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ผันผวนในแดนบวก แต่ละตลาดยังจับตาประเด็นการแก้ไขปัญหา Fiscal cliff ของสหรัฐฯ ที่จะเปิดการเจรจาในเย็นนี้ว่าจะมีข่าวออกมาในเชิงบวกหรือลบ หากผลออกมาในเชิงลบคือไม่ได้ข้อสรุปหรือไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมอาจมีความกังวลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ตลาดหุ้นไทยไม่น่าได้รับผลกระทบมากเพราะมีแรงซื้อกองทุน LTF-RMF ที่ยังช่วยประคองตลาดอยู่ แต่หากได้ข้อสรุปในเชิงบวกก็จะทำให้มีตลาด upside บวกขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.)คาดบรรยากาศการลงทุนคล้ายวันนี้เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์และของปี นักลงทุนเริ่มชะลอลงทุน วอลุ่มคงเบาบาง แรงซื้อขายต่างชาติลดบทบาทลง เหลือแต่กองทุนในประเทศที่ยังช่วยพยุงตลาดไว้ในช่วงนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด แนวต้าน 1,400 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,200.50 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
UV มูลค่าการซื้อขาย 1,959.19 ล้านบาท ปิดที่ 10.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.85 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,730.44 ล้านบาท ปิดที่ 335.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,248.60 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,202.84 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1656

โพสต์

TOPNEWS:ข่าวเด่นในประเทศวันนี้

กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--รอยเตอร์


ข่าวตลาดเงิน-ตลาดทุน


*ตลาดอนุพันธ์ สรุปการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์ส SET50 วันนี้(9358)

*หุ้นไทยปิดบวก 1.08% ซื้อหุ้น PTT-SCC หนุนตลาด,รอดู fiscal cliff คืนนี้

(900)

*ตลท.เผยวันนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,543.74 ล้านบาท(9357)

*ฟิวเจอร์ส SET50 วันนี้บวกแรงตามตลาดหุ้น, สถาบันเข้าซื้อก่อนสิ้นปี(9355)

*แม็ทชิ่งฯ คาดสรุปราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ขายแบบ PO ได้ราว ก.พ.-มี.ค.56(9350)

*บลจ.กสิกรไทยมองทองผันผวนแค่ช่วงสั้น,หาจังหวะซื้อต้นปีหน้า คาดราคาแตะ $1,900

(9347)

*รพ.มหาชัยจะลงทุน 29.39 ลบ.ซื้อหุ้นเพิ่มทุนรพ.เจ้าพระยา, ถือหุ้นเพิ่ม(9345)

*"พลังงานบริสุทธิ์"กำหนดราคาหุ้น IPO เบื้องต้น ไม่เกินหุ้นละ 5.50 บาท(9338)

*"โมโน เทคโนโลยี" จะเข้า mai ขาย IPO 245 ล้านหุ้น,นำเงินไปประมูลทีวีดิจิตอล

(9337)

*STA บวก 3.64% โบรกฯ ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น"ซื้อ"คาดราคายางปี 56 ดีขึ้น

(9334)

*MLINK พุ่ง 14% หลังแจ้ง Q3/55 พลิกมีกำไรสุทธิ,ตลท.ปลด SP เช้านี้(9331)

*อมตะฯ จะนำ"อมตะ วีเอ็น"เข้าจดทะเบียนในตลท.,จะเริ่มดำเนินการ ม.ค.56

(9326)

*อควาฯ จะเพิ่มทุน 1.5 พันล้านหุ้น ขาย PP ราคาหุ้นละ 0.501 บาท(9325)

*ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ-ราคาน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้น(9323)


ข่าวตลาดเงิน-เศรษฐกิจ


*บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายแกว่งตัวตามภูมิภาค, ผู้ส่งออกขายดอลล์ช่วยจำกัดการอ่อนค่า

(901)

*สศอ.เผย MPI พ.ย.เพิ่ม 83.3%, ลดคาดการณ์ MPI ปีนี้โต 2.5-3.0%(9346)

*ทองแท่งในปท.-โกลด์ฟิวเจอร์สเช้านี้ทรงตัว, รอดูสหรัฐแก้วิกฤติการคลัง(9332)

*ผลประมูลพันธบัตร ธปท. 13 วัน ในวันนี้(9328)


ข่าวทั่วไป


*ปชป. มีมติส่ง "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์" ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. อีกสมัย(9351)

*"พล.อ.เปรม"ชี้ คนไทยแค่เห็นต่าง ไม่ได้แตกแยก,ขอ"ให้อภัย-หันหน้าเข้าหากัน"

(9348)

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1657

โพสต์

SET:หุ้นไทยปิดบวก 1.08%
ซื้อหุ้น PTT-SCC หนุนตลาด,รอดู fiscal cliff คืนนี้


กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--รอยเตอร์


ดัชนีหุ้นไทยปิดบวก 1.08% โดยมีแรงซื้อหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่หนุนตลาด

โดยเฉพาะหุ้นบมจ.ปตท.PTT และบมจ.ปูนซิเมนต์ไทยSCC ที่บวกแรง

ส่งผลให้ดัชนีฯปรับขึ้นไปใกล้ระดับ 1,400 จุดแล้ว

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า แรงซื้อหุ้นที่มีเข้ามาในวันนี้ มาจากแรงซื้อ

ของกองทุนในประเทศ ทั้ง LTF และ RMF สำหรับทิศทางหุ้นไทยพรุ่งนี้ ขึ้นอยู่กับเรื่อง

ของ fiscal cliff คืนนี้เป็นหลัก

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดบวก 14.96 จุด มาที่ 1,397.19 จุด โดยระหว่างวัน

ดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,398.80 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 1,384.24 ด้วยมูลค่าซื้อขาย

37,164.84 ล้านบาท

ขณะที่ SET50 ปิดบวก 11.93 จุด หรือ 1.27% มาที่ 951.29 จุด และ

SET100 ปิดบวก 25.67 จุด หรือ 1.24% มาที่ 2,089.35 จุด

ดัชนีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ บวก 1.15% มูลค่าซื้อขาย 16.03%, พลังงาน

บวก 1.73% มูลค่าซื้อขาย 15.58%, แบงก์ บวก 0.55% มูลค่าซื้อขาย 11.73%,

เทคโนโลยี บวก 1% มูลค่าซื้อขาย 10.83%, พาณิชย์ บวก 0.27% และอาหาร

บวก 0.17%

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ตลาดทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน

กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้น เชื่อว่ามาจากแรงซื้อของกองทุนในประเทศ ทั้งในส่วน

ของกองทุน LTF และ RMF

"มีแรงซื้อหุ้น big cap อย่างปตท.เข้ามา เป็นแรงซื้อจากกองทุนในประเทศ"

เขา กล่าว

เขา กล่าวว่า สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ ขึ้นอยู่กับกรณี fiscal cliff

ของสหรัฐฯเป็นหลัก ว่า จะได้ข้อสรุปหรือไม่ โดยมองหุ้นไทยพรุ่งนี้ มีแนวรับที่ 1,380 และ

1,375 ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,398 และ 1,400 จุด

รูปภาพ

หลักทรัพย์ 5 อันดับแรก ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด

CPALL บวก 0.25 บาท มาที่ 46.25 บาท

UV บวก 0.85 บาท มาที่ 10.20 บาท

PTT บวก 4.00 บาท มาที่ 335.00 บาท

PTTEP บวก 4.00 บาท มาที่ 163.50 บาท

INTUCH บวก 1.00 บาท มาที่ 70.00 บาท
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1658

โพสต์

..
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1659

โพสต์

หุ้นเฮฮาอาละวาด iSalaryman
ล้วงความลับกิจวัตรประจำวันของมนุษย์เงินเดือนตัวจริงในการลงทุนหุ้น
ที่ประสบความสำเร็จ ใช้ได้จริงและไม่กระทบกับงานประจำ

รูปภาพ


http://ibizchannel.com/view.aspx?cid=633
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1660

โพสต์

รูปภาพ


“ศรีไทย” ผุดฐานผลิต ตปท.หนีค่าแรง 300 บาท

ศรีไทยเมินค่าแรง 300 บาท เดินหน้าขยายโรงงาน 4 แห่งในอินเดีย และอินโดนีเซียแทน ฟุ้งปี 56 รายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาท

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ว่านโยบายการปรับค่าแรง 300 บาทที่จะประกาศใช้พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 ม.ค. 56 เป็นต้นไป สำหรับบริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะได้ปรับค่าแรงไปแล้วกว่า 1 ปีที่ผ่านมา รวมถึงหันมาใช้เครื่องจักรแทนแรงงานไทย และหันมาใช้แรงงานเพื่อนบ้านทดแทนอย่างลาว พม่า และกัมพูชา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมุ่งขยายโรงงานไปในประเทศเพื่อนบ้านด้วย ล่าสุดได้มีการสร้างโรงงานผลิตพลาสติกแห่งใหม่ที่ประเทศเวียดนามภายใต้งบลงทุน 800 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องผลิตสินค้าได้ในเดือน ม.ค. 2556 ที่จะถึงนี้ จากเดิมบริษัทมีโรงงานผลิตพลาสติกในอินโดนีเซีย และโรงงานผลิตเมลามีนที่ประเทศจีนเพื่อรองรับการทำตลาดในประเทศนั้นๆ และตลาดการส่งออก นอกจากนี้บริษัทก็มีแผนที่จะใช้งบลงทุนประมาณ 150 ล้านบาทสร้างโรงงานผลิตเมลามีนในประเทศอินเดียบนพื้นที่ 5 ไร่เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในประเทศอินเดีย เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะเข้าไปทำตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น หลังจากที่โรงงานในเวียดนามเปิดดำเนินการ

“2 ปีที่ผ่านมาเราได้เข้าไปตั้งสำนักงานในประเทศอินเดียเรียบร้อยแล้วเพื่อดำเนินการขยายธุรกิจเมลามีนในอินเดียอย่างจริงจัง เพราะตลาดอินเดียน่าสนใจมาก และหลังจากปี 2556 เริ่มดำเนินการในส่วนของโรงงานเมลามีนแล้วเสร็จ จะดำเนินการสร้างโรงงานในส่วนของวัตถุดิบเพื่อป้อนให้โรงงานผลิตเมลามีนทันทีในปี 2557 หลังจากนั้นปี 2558 ก็จะสร้างโรงงานพลาสติกขึ้นมาทันทีเพื่อให้ธุรกิจในอินเดียมีความต่อเนื่อง และครบวงจร”

นอกจากนี้ ในประเทศอินโดนีเซียบริษัทยังมีแผนที่จะเข้าไปขยายโรงงานใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งที่เมืองจาการ์ตา ซึ่งจะเป็นโรงงานผลิตพลาสติก จากเดิมบริษัทมีโรงงานในประเทศอินโดนีเซียแล้วจำนวน 1 แห่งที่เมืองสุราบายา เป็นโรงงานผลิตเมลามีน โดยในส่วนของความคืบหน้าการสร้างโรงงานแห่งใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน ซึ่งบริษัทต้องการไม่ต่ำกว่า 20 ไร่เพื่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในอีก 2 ปีข้างหน้า

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกและทำตลาดในต่างประเทศจำนวน 110 ประเทศอยู่ที่ประมาณ 27% ซึ่งตลาดหลักในการสร้างรายได้ยังคงเป็นกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ตามด้วยเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยภายหลังจากที่บริษัทได้มีการเข้าไปตั้งโรงงานในต่างประเทศมากขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในต่างประเทศ คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีรายได้จากการส่งออกและทำตลาดในต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 50% และในประเทศไทยอีก 50%

นายสนั่นกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมผลประกอบการของบริษัทในสิ้นปีนี้นั้นคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 8,300 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 20-25% หรือจาก 6,994 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 7,800 ล้านบาท โดยในส่วนของปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้เติบโตอยู่ที่ 9,500 ล้านบาท และมีโอกาสถึง 10,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะหันมารุกทำตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น

รูปภาพ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 ธันวาคม 2555
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1661

โพสต์

รูปภาพ

ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1662

โพสต์

รูปภาพ



Cloud Atlas คลาวด์ แอตลาส หยุดโลกข้ามเวลา
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1663

โพสต์

รูปภาพ

HotNews:เทพหุ้น เตือนระวัง 2 หมื่นลบ. เทกระจาดต้นปีมะเส็ง
/แจก AEONTS ส่งท้ายปี ส่องเป้า112.81บ.


เทพหุ้น เตือนระวัง 2 หมื่นลบ. เทกระจาดต้นปีมะเส็ง จากกองทุน LTF ที่ครบ 5 ปี กว่า 2 หมื่นลบ. กดดัน SET ต้นปี 56 บวกกับตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก แนะใช้จังหวะเวลานี้ปรับพอร์ตขายทำกำไรรายตัว และเลือกถือหุ้นพื้นฐานดี เน้นถือหุ้นบริโภคในประเทศ ได้รับผลบวก รายได้ประชาชนเพิ่มทุกระดับ จากนโยบายกระตุ้นของรัฐ และหุ้นที่มี EPS Growth ในงวด 4Q55-1Q56 โดดเด่น รวมถึงหุ้นทางสถิติโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องไปถึงต้นปี 56 ชู (HMPRO, CPALL), สื่อสาร (DTAC, INTUCH), บันเทิง (WORK), สินเชื่อเช่าซื้อ/รายย่อย (TCAP, ASK, TK, AEONTS)
ล่าสุดราคาหุ้นส่วนใหญ่เริ่มมีการปรับเพิ่มขึ้นตามคำแนะนำ และหุ้นหลายๆ ตัวในกลุ่ม ส่งสัญญาณขึ้นต่อจนถึงต้นปีหน้า ฝ่ายวิจัยประเมินว่าชุดหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นที่ได้เปรียบในเชิงกลยุทธ์ และมีโอกาสชนะตลาดสูงโดยเฉพาะช่วง 1Q56 คงแนะ ถือชุดหุ้นนี้ต่อไป เพื่อลุ้นทำกำไรข้ามปี

เทพหุ้น คำนวณ AEONTS([email protected]) โชว์งบงวด3Q55 (ก.ย.-พ.ย.2555) ออกมาดีกว่าคาดมาก เหตุตั้งสำรองฯ ลดลงกว่าคาดมาก ทำนายคาดงวด 4Q55 (ธ.ค. 2555-ก.พ. 2556) โกยกำไรได้สูงสุดที่ 600ลบ. พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรในปี 55/56 ขึ้นจากเดิม 29% และ อีก 34% ใน 56/57 ทำให้กำไรสุทธิในนี้จะเติบโต 973% และเพิ่มอีก 22%ในปีหน้าทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันมีค่า PER เพียง 10 เท่า งานนี้บอกไม่ซื้อไม่ได้ แนะซื้อ AEONTS ภายใต้ประมาณการใหม่ และหันไปใช้ Fair Value ปีหน้า จะอยู่ที่112.81 บ. มี upside จากปัจจุบัน 28% และมี Dividend Yield มากกว่า 5%

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานผลประกอบการAEONTS งวดQ3/55(สิ้นสุด20 พ.ย. 55) พบว่าพลิกมีกำไร 487.14 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนมีผลขาดทุน 520.08 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกAEONTS พลิกกลับมามีกำไรอยู่ที่ 1.14 ล้านบาทจากขาดทุน 40.42 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

บล.เอเซียพลัส ได้ออกบทวิเคราะห์ระบุว่ากลยุทธ์การลงทุนยิ่งใกล้สิ้นปี SET ยังเดินหน้าต่อ ด้วยแรงหนุนกองทุนประหยัดภาษี (LTF) แต่ยังเชื่อเช่นเดิม ว่าแรงขายของ LTF ที่จะครบกำหนด 5 ปี มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท จะกดดัน SETต้นปี 2556 บวกกับตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก จึงน่าจะใช้จังหวะเวลานี้ปรับพอร์ตขายทำกำไรรายตัว และเลือกถือหุ้นพื้นฐานดี ในกลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ ซึ่งได้ประโยชน์จากการลดภาษีเงินได้บุคคลในปี 2556 เลือก HMPRO([email protected]) และ INTUCH(FV@87) เป็น Top picks

ส่งออกแย่ แต่นโยบายเพิ่มค่าแรง & ลงทุนเอกชน หนุน GDP Growth ใน 4Q55 เกิน 10%
กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกใน พ.ย. 19,556 ล้านเหรียญฯ ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นอย่างมาก 26.86% จาก พ.ย. 2554 (yoy) ซึ่งเป็นผลจากฐานต่ำ เพราะภัยน้ำท่วมใหญ่ในภาคกลาง โดยภาพรวมในช่วง 2 เดือนของงวด 4Q55 (ต.ค. - พ.ย.) พบว่าเพิ่มขึ้น 21.22% yoy เทียบกับที่ ASP คาดการณ์งวด 4Q55 จะเพิ่มขึ้น 17%yoy จึงไม่ได้สร้าความแปลกประหลาดใจให้กับตลาดมากนัก (ภาพรวม 11 เดือน ขยายตัว 2.32% เท่านั้น) และเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจในงวด 4Q55 ประกอบกับยังได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภาคครัวเรือนจาการเพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำใน กทม. และ 6 จังหวัด และ การลงทุนภาคเอกชนที่เร่งฟื้นตัวหลังน้ำท่วม จะหนุน GDP

Growth งวด 4Q55 สูงถึง 10.5% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี และ ทำให้ตลอดปี 2555 GDP Growth จะอยู่ที่ 4.4% ส่วนในปี 2556คาดว่าจะเติบโตในอัตราชะลอตัวเหลือ 4% ทั้งนี้จะยังได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคครัวเรือน และ การลงทุนภาคภาครัฐเป็นตัวนำนอกจากนี้การประกาศลดภาษีบุคคลธรรมดาลงขั้นบันไดละ 5% มีผลในปี 2556 น่าจะมีส่วสำคัญที่จะกระตุ้นรายได้สุทธิของผู้มีรายได้ปานกลาง – สูงเพิ่มขึ้นราว 2% ซึ่งยังมิได้รวมอยู่ในประมาณการ โดยจะทบทวนประมาณการ GDP Growth ปี 2556 รอบใหม่ หากความเสี่ยงภายนอกลดลง

อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ ปัญหา Fiscal Cliff ยังมีอยู่ ตราบที่การแก้ไขยังเป็นการซื้อเวลา
วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาทำการตามปกติอีกครั้ง หลังจากหยุดพักเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์ พร้อมกับประกาศดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ล่าสุด ดัชนีราคาบ้าน Case-Shiller ใน 20 เมืองหลัก เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 4.3%yoy สูงที่สุดนับตั้งแต่ พ.ค.2553 (ขยายตัว 4.63%) ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ 4% จากการสำรวจของ Bloomberg แต่โดยสรุปราคาบ้านยังคงขยายตัวได้เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันหลังจากที่หดตัวต่อเนื่องถึง 20 เดือนติดต่อกัน (ตั้งแต่ ต.ค.2553 – พ.ค.2555) ทั้งนี้เป็นผลจาก การใช้การเงินผ่อนคลาย กดดันให้ดอกเบี้ยเงินกู้ลงไปสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และ คาดว่ายังมีแนวโน้มต่ำต่อไป ตราบที่การใช้มาตรการดอกเบี้ยต่ำต่อไปถึงปี 2558

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของการประนีประนอมในการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ดูเหมือนจะไม่สามารถทำได้ภายในเวลาที่กำหนดสิ้นปีนี้ ขณะเพดานหนี้สาธารณะใกล้เต็มปริ่ม (16.4 ล้านล้านเหรียญฯ) ทำให้ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้เสนอแนะแนวทางที่จะช่วยซื้อเวลา ชั่วคราวออกไปอีก 2 เดือน (จนถึง เดือน ก.พ.2556) โดยการจำกัดปริมาณหนี้สาธารณะไม่ให้เกินเพดานหนี้ ผ่านการลดค่าใช้จ่ายทางการคลังรวม 2 แสนล้านเหรียญฯ เช่น การหยุดการขายพันธบัตรให้กับหน่วยการราชการท้องถิ่นชั่วคราว เป็นต้น อย่างไรก็ดี คาดว่าประเด็น Fiscal Cliff ยังคงกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า

ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น
วานนี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิตลาดหุ้นเอเชียราว 325 ล้านเหรียญฯ เป็นการซื้อใน 3 ตลาด คือ เกาหลีใต้ราว 204 ล้านเหรียญฯไต้หวันราว 126 ล้านเหรียญฯ และฟิลิปปินส์ราว 3 ล้านเหรียญฯ ตรงข้ามกับตลาดหุ้นไทยและอินโดนีเซีย ที่ถูกขายสุทธิต่อเนื่องจากวันทำการก่อนหน้าราว 6 และ 2 ล้านเหรียญฯ ตามลำดับ ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 หลังจากซื้อสุทธิต่อเนื่องในช่วง 10 วันก่อนหน้า (รวม 1.5 หมื่นล้านบาท) พร้อมกันนั้นได้เปิดสถานะ Short สุทธิ 533 สัญญา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ทำให้ยอดรวมทั้งเดือนธ.ค. เป็น Short สุทธิสูงถึง 3,287 สัญญา คาดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อไปได้เนื่องจากเป็นช่วงฤดูพักร้อนยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ ในทางตรงกันข้าม นักลงทุนสถาบันในประเทศยังคงเป็นผู้ซื้อสุทธิราว 1 พันล้านบาท ตามความต้องการลงทุนในกองทุนประหยัดภาษี (LTF) แต่เป็นที่สังเกตว่ายอดซื้อสะสมเดือนพ.ย. และธ.ค. รวมกันยังต่ำกว่าสถิติในช่วง 6 ปีหลังสุดถึงราว 6 พันล้านบาท ดังนั้นเป็นไปได้ว่าในช่วงที่เหลืออีก 2 วันก่อนสินปี เงินลงทุนใน LTF น่าจะหนุนดัชนีหุ้นไทยให้ยืนในระดับต่อไป ซึ่งอาจจะทำให้เป็นความเสี่ยงที่ดัชนีหุ้นไทยอาจจะปรับฐานแรงในต้นปี 2556 เมื่อกองทุน LTF ครบกำหนด 5 ปี และ สามารถขายได้ในต้นปี 2556 มูลค่ากว่า 2.6 หมื่นล้านบาท ด้วยต้นทุนของดัชนีที่ 674 จดเท่านั้น

เน้นถือหุ้นการบริโภคในประเทศ ได้รับผลบวก รายได้ประชาชนเพิ่มทุกระดับ จากนโยบายกระตุ้นของรัฐ
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนของรัฐบาล และหุ้นที่มี EPS Growth ในงวด 4Q55 – 1Q56 โดดเด่นรวมไปถึงหุ้นทางสถิติที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องไปถึงต้นปี 2556 ซึ่งฝ่ายวิจัยได้แนะนำมาตลอดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเช่น (HMPRO, CPALL), สื่อสาร (DTAC, INTUCH), บันเทิง (WORK), สินเชื่อเช่ซื้อ/รายย่อย (TCAP, ASK, TK, AEONTS) ล่าสุดราคาหุ้นส่วนใหญ่เริ่มมีการปรับเพิ่มขึ้นตามคำแนะนำ และหุ้นหลายๆตัวในกลุ่ม มีการส่งสัญญาณที่จะขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า ฝ่ายวิจัยประเมินว่าชุดหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นที่ได้เปรียบในเชิงกลยุทธ์ และมีโอกาสชนะตลาดสูงโดยเฉพาะช่วง 1Q56 จึงยังคงคำแนะนำให้ถือชุดหุ้นนี้ต่อไปเพื่อลุ้นทำกำไรข้ามปี

โดยล่าสุด กสทช. ได้เสนอให้ปรับลดค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจฯ แก่ผู้ประกอบการจากเดิมที่เป็นแบบอัตราเหมาจ่าย เป็นแบบขั้นบันไดกล่าวคือ ผู้ที่มีรายได้น้อย จะจ่ายภาษีน้อย ตามลำดับ แต่โดยภาพรวมแล้วผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 1 พันล้านบาท จะมีค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจฯ ลดลงเหลือ 1.5% จากเดิม 2% ซึ่งเมื่อรวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้ว จะทำให้ผู้ประกอบการมีค่าใช้จ่ายโดยรวมอยู่ที่ 5.25% จากเดิม 5.7% (ไม่รวมเงินประมูลเริ่มต้น) ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นสื่อสาร โดยเลือก DTAC และ INTUCH เป็น Top picks

บมจ. หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ได้ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ในช่วงเวลานี้ต่อเนื่องถึงต้นปี 2556 จะเป็นฤดูกาลทำ Preview earnings งวด 4Q55 ของกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจากที่นักวิเคราะห์กลุ่มธ.พ. ได้ออกรายได้งานไปแล้ว 2 แห่ง คือ BAY และ SCB พบว่ากำไรมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากงวด 3Q55 ซึ่งมีสาเหตุมาจาก NIM ที่อ่อนตัวลง อันเป็นผลจากดอกเบี้ยรับสุทธิที่อ่อนตัวลงตามการลดลงของดอกเบี้ยนโยบายฯ ขณะที่ต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายยังมิได้ปรับลดลงทันที
อย่างไรก็ตามคาดว่าทุกอย่างจะสู่ภาวะปกติในงวด 1Q55 หากไม่มีการลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วง 1Q56 นอกจากนี้ยังเป็นผลจากค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากการตั้งสำรองฯ และค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามด้านการปล่อยสินเชื่อ ยังขยายตัวได้ดีทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะสินเชื่อ ขนาดกลาง-รายย่อย (สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นต้น) ทั้งนี้รวมถึงบริษัทที่มิได้อยู่ภายใต้การควบคุมของ ธปท. แต่ให้บริการทางการเงินรายย่อย
ล่าสุด AEONTS รายงานผลประกอบการงวด 3Q55 (ก.ย.-พ.ย.2555) ออกมาดีกว่าที่คาดมาก โดยมีกำไร 487 ล้านบาท เทียบกับที่คาดว่าจะทำกำไรได้ 376 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงวด 3Q55 หรือ เติบโต 32% qoq ทั้งนี้สาเหตุหลักมาจาก การตั้งสำรองฯ ที่ลดลงกว่าคาดมากซึ่งถือว่าเป็นสัญญานที่ดี เพราะเป็นการยืนยันถึงความเชื่อมั่นของผู้บริหาร ที่คาดว่า NPL ไม่ได้เพิ่มขึ้น และเป็นผลจากที่ได้มีการ ตั้งสำรองฯ ไว้สูงมากในช่วงที่ผ่านมา (สำรองโดยรวมคิดเป็น 5.2% ของสินเชื่อรวม) โดยรวมทำให้กำไรสุทธิ 9M55 สูงถึง1,143 ล้านบาท ขณะที่คาดว่า งวด 4Q55 (ธ.ค. 2555-ก.พ. 2556) คาดว่า จะสามารถทำกำไรได้สูงสุด หรือ peak ที่ 600 ล้านบาท จึงทำให้ต้องปรับเพิ่มประมาณการกำไรในปี 2555/56 ขึ้นจากเดิม 29% ในและ อีก 34% ใน 2556/57 จึงทำให้กำไรสุทธิในนี้จะเติบโต 973% และเพิ่มอีก 22%ในปีหน้า ซึ่งทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันมีค่า PER เพียง 10 เท่า
ขณะที่คาดว่าในปี 2556 ยังมีประเด็นบวกหนุน AEONTS ต่อโดยเฉพาะ การขึ้นค่าแรง 300 บาท ใน 70 จังหวัดที่เหลือ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นใน กทม. และปริมณฑล รวมถึงการลดหย่อนภาษีผู้มีรายได้ปานกลาง - ถึงจะทำให้รายได้สุทธิของผู้บริโภคกลุ่มนี้ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2% ซึ่งจะเป็นแรงหนุนการบริโภคภาคเรือน ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค และ การให้สินเชื่อรายย่อย หรือ consumer financing จึงแนะนำซื้อ AEONTS โดยภายใต้ประมาณการใหม่ และหันไปใช้ Fair Value ปีหน้า จะอยู่ที่112.81 บาท มี upside จากปัจจุบัน 28% และมี Dividend Yield มากกว่า 5%
บทวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า AEONTS แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน ที่ 103 บ.โดยกำไรไตรมาส 3 ทำ New High คาดไตรมาส 4 ยังโตต่อเป็นผลจากการกลับรายการสำรองหนี้สูญ ภายหลังลูกหนี้น้ำท่วมกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ ขณะสินเชื่อยังคงเติบโตได้ดีรับการใช้จ่ายในช่วงปลายปี ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากการเร่งทำการตลาด ทั้งนี้คาดไตรมาสหน้ากำไรยังโตต่อเนื่องจากเป็นช่วงที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด เราปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้นตามแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการ พร้อมปรับราคาเป้าหมายสำหรับปี 2556 เป็น 103 บาท โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

กำไรสุทธิไตรมาส 3 ทำ New High: AEONTS ประกาศกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3(ปิดงบ 20 พ.ย.) ที่ 487 ล้านบาท เติบโตสูงจากไตรมาสที่แล้วถึง 32%QoQ และฟื้นตัวจากขาดทุนจำนวน 520 ล้านในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสูงกว่าที่เราคาดไว้ค่อนข้างมาก (เดิมเราคาดไว้ที่ 380 ล้านบาท) โดยมีสาเหตุจาก (1) ในไตรมาสนี้มีการกลับรายการสำรองหนี้สูญ เนื่องจากลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและได้มีการตั้งสำรองไว้ก่อนหน้านี้นั้น เมื่อพ้นจากช่วงปลอชำระ 6 เดือน (Grace Period) ก็ได้มีการกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการสำรองหนี้สูญในไตรมาสนี้ลดลงเหลือเพียง 670 ล้านบาท (เทียบกับ 850 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า และประมาณ 800 ล้านในช่วงก่อนน้ำท่วม) (2) ด้านสินเชื่อยังคงเติบโตได้ดีในช่วงปลายปีซึ่งมียอดจับจ่ายใช้สอยสูง โดยในไตรมาสนี้สินเชื่อรวมเติบโตขึ้นจากไตรมาสที่แล้วประมาณ 5.23%QoQ คิดเป็นอัตราการเติบโตจากต้นปีสูงถึง 15%YTD (3) Cost to Income Ratio ในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 47.7% สูงขึ้นเมื่อเทียบกับ 43% ในไตรมาสที่แล้ว โดยเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้นเนื่องจากการเร่งทำการตลาด

ไตรมาสหน้าคาดกำไรยังโตต่อรับ High Season: เราคาดว่ากำไรในไตรมาสหน้าจะดีกว่าไตรมาสนี้ เนื่องจากในช่วงเดือน ธ.ค. เป็นช่วงที่มีสถิติการใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด (สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 20%) ขณะที่ยังคงมีการกลับมาชำระหนี้ของลูกหนี้ที่ได้มีการตั้งสำรองไว้ล่วงหน้าจากผลกระทบน้ำท่วมต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสหน้า ทำให้คาดในไตรมาสหน้าอาจมีการกลัรายการค่าใช้จ่ายในการสำรองหนี้สูญอีก อีกทั้งยังมีการรวมงบสำหรับ 3 บริษัทย่อยในประเทศ จำนวน 4 เดือนในปีนี้ โดยคาดกำไรทั้งปีของ 3 บริษัทนี้รวมอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท คาดไตรมาสหน้าจะสามารถรวมกำไรเข้ามาได้ประมาณ 25 ล้านบาท

ปรับราคาพื้นฐานขึ้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”: โดยเราปรับประมาณการกำไรสุทธิสำหรับปี 2555 เป็น 1,646 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 17%) และกำไรสุทธิสำหรับปี 2556 เป็น 1,978 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12%) พร้อมทั้งเพิ่มราคาเป้าหมายสำหรับปี 2556 เป็น 103 บาท โดยเรายังคงแนะนำ “ซื้อ”


ปิดการซื้อขาย(27 ธ.ค.) ราคาหุ้น AEONTS อยู่ที่ 90.00 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 1.37% มูลค่าการซื้อขาย 47.64 ล้านบาท

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1664

โพสต์

ก.ล.ต. ดำเนินการกับผู้แนะนำการลงทุน 4 ราย

ก.ล.ต. ดำเนินการกับผู้แนะนำการลงทุน 4 ราย ฐานไม่บันทึกเทปการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ หรือได้รับมอบหมายซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทนผู้ลงทุน

ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุน 3 ราย สังกัดบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2555 เนื่องจากไม่บันทึกเทปการให้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทางโทรศัพท์ พร้อมทั้งเปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน 1 ราย ในขณะนั้นสังกัดบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง เนื่องจากได้รับมอบหมายจากผู้ลงทุนให้ตัดสินใจซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทนผู้ลงทุน

ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทหลักทรัพย์ตามปกติและพบว่า
นายสุทิน ชิมผลาพิบูลย์ ผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน สังกัด บล. ฟิลลิป ไม่บันทึกเทปการให้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทางโทรศัพท์ของลูกค้าสองราย
นายศิริฤกษ์ กิตติคุณาดุล ผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน สังกัด บล. แห่งเดียวกันไม่บันทึกเทปการให้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ทางโทรศัพท์ของลูกค้าหนึ่งราย และ
นายวันชัย เพชรดาษดา ผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์สังกัด บล. แห่งเดียวกัน ไม่บันทึกเทปการให้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ทางโทรศัพท์ของลูกค้าหนึ่งราย โดยผู้แนะนำการลงทุนทั้งสามยอมรับว่ารับคำสั่งซื้อขายจากลูกค้าทางโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้ ปรากฏรายการที่เกี่ยวข้องในปริมาณมาก ก.ล.ต. จึงสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนของทั้งสามราย เป็นเวลา1เดือน

การกระทำของผู้แนะนำการลงทุนทั้งสามรายดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ20(3) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ.3/2555 เรื่อง การให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน ลงวันที่18 มกราคม 2555

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. เปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของนางสาวนันทภัค ศุภนิมิตอมร ผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน ซึ่งสืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับรายงานการตรวจสอบของ บล. อีกแห่งหนึ่ง และตรวจสอบเพิ่มเติมจากเทปบันทึกการสนทนาและอีเมล์ พบว่านางสาวนันทภัคได้รับมอบหมายจากลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทน ระหว่างวันที่ 1-22 พฤศจิกายน 2553 และรายงานสถานะการซื้อขายให้ลูกค้าทราบระหว่างวันหรือสิ้นวันทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และโทรศัพท์มือถือ โดยลูกค้ายอมรับรายการซื้อขายดังกล่าว ซึ่งทำให้ลูกค้าเสียหายเป็นเงิน 73,400 บาท และนางสาวนันทภัคได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ลูกค้าจำนวน 50,000 บาท แล้ว

การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ20(2)แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 3/2555 เรื่อง การให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน ลงวันที่18 มกราคม พ.ศ. 2555 ก.ล.ต. จึงเปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนของนางสาวนันทภัค และบันทึกพฤติกรรมดังกล่าวไว้ประกอบการพิจารณาหากมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ของผู้แนะนำการลงทุนอีก

27 ธ.ค. 2555
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1665

โพสต์

ฮือฮา! Lost in Thailand หนังจีนถ่ายในไทยทำรายได้ระเบิด!! ปลุกเที่ยวไทย ยอดทัวร์พุ่ง

@ หนังจีนฉุดกระแสเที่ยวไทยคึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกาหลีใต้ใช้ภาพยนตร์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงสร้างสรรค์ ดึงดูดรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศอย่างเป็นกอบเป็นกำ ล่าสุดมีประเด็นที่กำลังถูกเอ่ยถึงอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ว่า ประเทศไทยก็กำลังได้รับอานิสงส์ในลักษณะคล้ายกัน จากภาพยนตร์ทุนต่ำของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นหนังตลกแนวโรด มูฟวี่ ที่มาถ่ายทำในประเทศเรื่องลอสต์ อิน ไทยแลนด์ (Lost in Thailand) ซึ่งนอกจากทำสถิติรายได้มโหฬารในจีน โดยรายงานของฟิล์ม บิซิเนส เอเชีย (Film Business Asia) ระบุว่าหลังจากเปิดตัว 8 วัน ทำรายได้ในประเทศไปถึง 450 ล้านหยวน หรือเท่ากับราว 72.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2,250 ล้านบาท จากทุนสร้างไม่ถึง 30 ล้านหยวน หรือ 150 ล้านบาท ยังทำให้นักท่องเที่ยวจีนพากันเดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในเดือนนี้

@ ยอดจองทัวร์เชียงใหม่พุ่ง 5 เท่า

ภาพยนตร์ลอสต์ อิน ไทยแลนด์ นำแสดงและกำกับโดยดาวตลกของจีนชื่อซูเจิ้ง (Xu Zheng) เป็นการเล่าเรื่องการเดินทางของคู่หูชาวจีนจากกรุงเทพฯไปท่องเที่ยวเชียงใหม่ เพื่อเป็นการส่งท้ายก่อน ?วันโลกแตก? ตามความเชื่อเรื่อง ?วันสิ้นโลก? ว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา ระหว่างทางผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และการผจญภัยอย่างสนุกสนาน ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นที่กล่าวถึงและบอกเล่าปากต่อปาก และมีผู้ชมจำนวนมากตั้งใจจะเดินทางมาเที่ยวไทยในช่วงเดือนนี้เพื่อใช้วันหยุดพักผ่อนประจำปีฉลองวันคริสต์มาสและวางแผนจะไปในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

รายงานแจ้งว่าบริษัททัวร์ต่างๆในจีนจึงใช้จังหวะนี้สร้างโอกาสทางธุรกิจในการเปิดโปรแกรมทัวร์ใหม่พาท่องเที่ยวไปยังสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ดังกล่าว อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต รวมถึงกิจกรรมที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของไทย เช่น การปล่อยโคมลอย นั่งรถตุ๊กตุ๊ก การนวดสปาไทย และชมการแสดงของช้าง ก็ได้รับการเพิ่มเข้าไปในกำหนดการเดินทางของนักท่องเที่ยว

โดยผู้บริหารบริษัทด้านการท่องเที่ยวของจีนรายหนึ่งระบุว่าผลกระทบของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวทำให้ในเดือนธันวาคมนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจองทัวร์เชียงใหม่เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ปัจจุบันตั๋วเครื่องบินที่ไปเชียงใหม่และโรงแรมระดับ 5 ดาวในเชียงใหม่ถูกจองแทบไม่เหลือเลย

@ บ.ท่องเที่ยวจัดโปรแกรมรับ

นายศิษฎิวัชร ชีวรันตพร สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า กระแสภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวไทย โดยระยะสั้นจะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่ยังลังเลว่าจะไปเที่ยวที่ไหนช่วงปีใหม่และตรุษจีน น่าจะตัดสินใจมาเที่ยวไทยง่ายขึ้น ส่วนระยะยาวจะทำให้คนจีนรู้จักเมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่ภาคการท่องเที่ยวต่างพยายามโปรโมตให้คนจีนมาเที่ยว เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชียงใหม่ทางอ้อม โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งภาพวัดวาอาราม แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ กิจกรรมต่างๆ เช่น สปา การปล่อยโคมลอย นั่งรถตุ๊กตุ๊ก ชมการแสดงของช้าง

มีการคาดการณ์กันว่า ถ้าหนังเรื่องนี้สิ้นสุดลงจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านหยวน หรือประมาณ 4,880 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับว่ามีคนจีนเข้ามาชมหนังเรื่องนี้จำนวนมาก สูงกว่ายอดผู้เข้าชมหนังฟอร์มยักษ์จากตะวันตกเสียอีก ทำให้บริษัททัวร์เริ่มสนใจมาจัดโปรแกรมทัวร์ โดยเพิ่มเส้นทางเชียงใหม่เข้าไปด้วยมากขึ้น เป็นลักษณะท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาพยนตร์ดังกล่าว แต่ในภาพรวมหากมีรายการหรือภาพยนตร์จากต่างชาติเรื่องใดเข้ามาถ่ายทำในไทย ถือว่าช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่รู้จักได้มากเช่นกัน แม้ผู้ชมอาจไม่รู้ว่าพื้นที่ถ่ายทำในฉากที่ชื่นชอบอยู่ที่ใด แต่กระแสในโลกออนไลน์จะช่วยให้การหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวทำได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ททท.จะช่วยสนับสนุนข้อมูลอีกด้านหนึ่ง

ที่มา : นสพ.มติชน

ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1666

โพสต์

รูปภาพ

ธ.กลางฟิลิปปินส์สกัดเก็งกำไรค่าเงินเปโซ

ขยับเข้ามาใกล้บ้านเรา เมื่อธนาคารกลางฟิลิปปินส์ออกกฎสกัดการเก็งกำไรค่าเงินเปโซ หลังเงินแข็งค่าขึ้นเกือบ 7% ตั้งแต่ต้นปีมานี้ โดยกำหนดให้ธนาคารท้องถิ่นฟิลิปปินส์จะถือครองสัญญาฟอร์เวิร์ดที่ไม่มีการส่งมอบ (NDF) ได้ไม่เกิน 20% ของเงินทุน ส่วนธนาคารต่างชาติจะถือครอง NDF ได้ไม่เกิน 100%

นายอามานโด เตตังโค ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์จะกำหนดเพดานการถือครองสัญญาฟอร์เวิร์ด (สัญญาซื้อขายลฃ่วงหน้า) ที่ไม่มีการส่งมอบ หรือ Non-Deliverable Currency Forwards (NDF) ในสกุลเงินต่างๆ สำหรับธนาคารท้องถิ่นฟิลิปปินส์ และธนาคารต่างชาติ ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งเพื่อสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงิน

กฎใหม่นี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.พ.2013 เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์มีเวลาปรับตัวรับเพดานใหม่ดังกล่าว โดยกฎใหม่นี้จะครอบคลุม NDF ทุกประเภท

สำหรับแนวปฏิบัติใหม่นี้ ธนาคารฟิลิปปินส์จะถือครอง NDF ได้ไม่เกิน 20% ของเงินทุน ส่วนธนาคารต่างชาติจะถือครอง NDF ได้ไม่เกิน 100% ของเงินทุน

โดยนายเตตังโค กล่าวว่า จุดประสงค์คือ การเปิดตลาดเพื่อให้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เพราะในปัจจุบันนี้มีธนาคารเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่เข้ามาลงทุนในตลาด NDF และกฎใหม่นี้จะตั้งอยู่บนการสอดส่องดูแลของธนาคาร
กลางสำหรับทุนจดทะเบียนทั้งหมดในตลาด ซึ่งมีการประเมินระดับ NDF คงค้างในปัจจุบัน

และสิ่งนี้แตกต่างไปจากแนวปฏิบัติในช่วงก่อนหน้านี้ที่ให้ธนาคารพาณิชย์กำหนดเพดานการลงทุนของตนเองภายใต้สัญญาที่ไม่มีการระบุเป็นลายลักษณ์อักษร

มาตรการใหม่ล่าสุดของธนาคารกลางฟิลิปปินส์ในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อหลักประกันว่า ธนาคารพาณิชย์จะใช้ NDF ในการทำประกันความเสี่ยงตามความจำเป็นอย่างถูกกฎหมาย โดยมาตรการนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการสกัดกั้นกระแสเงินทุนเก็งกำไรที่หลั่งไหลเข้าสู่ฟิลิปปินส์ ซึ่งกระแสเงินดังกล่าวทำให้ค่าเงินผันผวนหนักในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เงินเปโซของฟิลิปปินส์แข็งค่าขึ้นเกือบ 7% ในปีนี้ และเป็นสกุลเงินที่พุ่งขึ้นมากเป็นอันดับสองของเอเชีย รองจากเงินวอนของเกาหลีใต้ โดยเปโซได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินลงทุนของต่างชาติที่หลั่งไหลเข้าสู่หุ้นและพันธบัตรฟิลิปปินส์ ในขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจฟิลิปปินส์อาจเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

บรรยากาศการเก็งกำไรค่าเงินที่แข็งค่าในภูมิภาคนี้ เนื่องจากกระแสเงินทุนไหลเข้า เริ่มขยับมาใกล้ประเทศไทยหลังจากตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมรา ธนาคารกลางฮ่องกงต้องกระโจนเข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนมานับครั้งไม่ถ้วน รวมๆกันราว 20 ครั้ง จากแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงที่ปรับตัวแข็งค่าอย่างรวดเร็ว

โดยที่ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่สองที่ตกอยู่ในภาวะที่ต้องรับมือกับกระเงินทุนเคลื่อนย้ายของเม็ดเงิน QE ที่ล้นโลกอยู่ในขณะนี้

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1667

โพสต์

รูปภาพ

กทม.ติด20เมืองโลกร่วมส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่

กรุงเทพฯ ติด 20 อันดับ เมืองที่น่ามาร่วมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มากที่สุดในโลก โดยถูกหยิบยกมาอยู่ในอันดับที่ 19

หลังจากผ่านพ้นช่วงเทศกาลคริสต์มาสไปแล้ว เทศกาลเฉลิมฉลองวันหยุดยาวของปี ยังเหลือวันสำคัญอีกหนึ่งวัน นั่นคือการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทิ้งความทุกข์และโศกเศร้าของปีเก่าเพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นเข้าสู่ปี 2013 ที่มีทั้งปาร์ตี้ตามท้องถนน จุดพลุ และการแสดงต่างๆ ซึ่งเว็บไซท์ข่าวฮัฟฟิงตัน โพสต์ ได้จัดอันดับ 20 สถานที่ยอดนิยมที่ดีที่สุดสำหรับเทศกาล
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไว้ โดยมีกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย ติดอันดับที่ 19 ด้วย

อันดับแรกที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง คือ นครนิวยอร์ค ซิตี้ ที่คนทั่วโลกคอยที่จะเห็นลูกบอลยักษ์ร่วงลงมาที่จตุรัสไทม์ สแควร์ ซึ่งเป็นประเพณีที่จัดกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1907 ลูกบอลยักษ์ระยิบระยับ ส่องสว่างด้วยแสงไฟแอลอีดี น้ำหนักกว่า 5,300 กิโลกรัม จะถูกหย่อนลงมาอย่างช้าๆ ในทุก ๆ ปี จากยอดเสาธงบนยอดตึกวัน ไทม์สแควร์ หรือตึกนิวยอร์คไทม์ ที่มีการนับถอยหลังที่ไทม์สแควร์ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในปาร์ตี้แสงสีที่สุดของโลก ดึงดูดคนมาร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ได้ปีละเป็นล้านคน และถ่ายทอดสดไปยังสายตาชาวโลกอีกหลายล้านคน ส่วนคนที่อยากหนีความจอแจ ก็สามารถจองโต๊ะฉลองแบบเรียบง่ายได้ตามบาร์หรือร้านอาหาร หรือไม่ก็ล่องเรือสำราญที่่ท่าเรือนิวยอร์ค เพื่อชมวิวสวย ๆ ดูพลุไฟยามเที่ยงคืนที่จุดบนเกาะลิเบอร์ตี้ก็ได้

กรุงปารีส เป็นนครที่น่าฉลองส่งท้ายปีเก่าเป็นอันดับที่ 2 สมฉายา เมืองแห่งแสงสี "ซิตี้ ออฟ ไลท์ส" จากการจุดพลุหลากสี และคนอีกหลายพันที่ออกไปปาร์ตี้สุดเหวี่ยงตามถนน บาร์ และไนท์คลับ ในย่านนูแวลล์ อานน์ หอไอเฟลเป็นศูนย์กลางของการแสดงแสงสี และพลุไฟ ส่วนบริเวณรอบฌองส์ เอลิเซ่ ก็ถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาด้วยปาร์ตี้กลางถนน และที่ขาดไม่ได้คือสินค้าส่งออกยอดนิยมของฝรั่งเศสอย่าง แชมเปญ ที่จะถูกเปิดฉลองกันอย่างไม่อั้น แต่ถ้าไม่ชอบฝูงชน ก็สามารถเลี่ยงไปดูพลุไฟสวย ๆ ในย่านศิลปะ มงมาตร์ หรือลงเรือสำราญล่องแม่น้ำแซน หรือจะไปเยือนย่านบันเทิงยามราตรีชื่อกระฉ่อนอย่างมูแรง รูจ ก็ได้

อันดับที่ 3 คือหนึ่งในเมืองหลวงของยุโรป อย่างลอนดอน ที่แน่นอนว่า จะมีคนมากกว่า 250,000 คน หลั่งไหลกันไปอยู่ในเรือและริมฝั่งแม่น้ำ เธมส์ ที่แวดล้อมไปด้วยบาร์และร้านอาหารสัญลักษณ์ของการส่งท้ายปีเก่า จะเริ่มต้นการเฝ้าดูเข็มนาฬิกาบิ๊กเบนเดินไปที่เวลาเที่ยงคืนตามด้วยการต้อนรับปีใหม่ด้วยการแสดงแสงสีเสียง และพลุ โดยเฉพาะ "ลอนดอน อาย" อาคาร
รัฐสภา และวิหารเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งสัญลักษณ์ที่เป็นสีสันอีกอย่างหนึ่งคือ ขบวนพาเหรดใจกลางกรุงลอนดอน วงโยธวาทิต ขบวนเรือ ขยวนแห่ เต้นรำ และการแสดงบังคับม้าในองค์สมเด็จ พระราชินีเอลิซาเบธที่ 2

ส่วนเมืองที่เหมาะกับการส่งท้ายปีเก่าที่เหลือ ได้แก่ ฮาวาย ลาสเวกัส ออร์ลันโดและนิวออร์ลีนส์ ของสหรัฐ เวียนนาของออสเตรีย เมลเบิร์น และซิดนีย์ ของออสเตรเลีย วิสต์เลอร์และโตรอนโตของแคนาดา เอดินเบิร์ก ของสก็อตแลนด์ เบอร์ลิน ของเยอรมนี เรคจาวิค ของไอซ์แลนด์ ริโอ เดอ จาเนโร ของบราซิล บาร์เซโลน่า ของสเปน เคปทาวน์ ของแอฟริกาใต้ ฮ่องกง เขต
ปกครองพิเศษของจีนแผ่นดินใหญ่ และกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย
.
เป็นที่น่าสังเกตว่า มีเพียงฮ่องกงกับไทยเท่านั้น ที่เป็นดินแดนที่น่าฉลองการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มากที่สุดในโลก ที่อยู่ในเอเชีย โดยฮ่องกงถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเป็นอันดับที่ 16 ในฐานะที่ขึ้นชื่อในเรื่องศิลปะการทำดอกไม้ไฟ และพลุ ศูนย์กลางของการเริ่มต้นนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่าจะอยู่ที่ ไทม์สแควร์ ช็อปปิ้ง มอลล์ ของฮ่องกง ที่จะมีการจำลองลูกบอลยักษ์ให้หย่อน
ลงมาแบบเดียวกับที่ไทม์สแควร์ของนิวยอร์ค และเสียงนับเวลาถอยหลังจะดังสะท้อนท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือท่าเรือวิคตอเรีย ก่อนจะมีการจุดพลุอย่างตระการตาเหนือน้ำ ซึ่งสามารถชมได้ทั้งทางเรือ หรือจากบนที่สูง และที่ขาดไม่ได้คือการแสดงการเชิดมังกร ตามประเพณี

ส่วนที่กรุงเทพฯ ที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงเป็นอันดับที่ 19 เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวแบบแบกเป้นั้น ไล่เลียงตั้งแต่ย่านทองหล่อจนถึงข้าวสาร บาร์และไนท์คลับทุกแห่งในกรุงเทพฯ ล้วนแต่เป็นแดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในวันที่ 31 ธันวาคม คนไทยและคนต่างชาติจะไปรวมตัว กันเพื่อฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันที่เซ็นทรัลเวิร์ด ที่จะมีคนหลายแสนหลั่งไหลไปดูไฟ และการแสดงคอนเสิร์ต ก่อนจะร่วมกันนับถอยหลังตอนเที่ยงคืน โดยมีจอโปรเจ็คชั่้นขนาดยักษ์ถ่ายทอดการเฉลิมฉลองจากทั่วโลกด้วย พร้อมกับการจุดพลุตามริมแม่น้ำ และลานเบียร์ตามถนน

"การบินไทย"ระดมจนท.-เพิ่มเที่ยวรับปีใหม่

ขณะที่การบินไทยซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ จัดเพิ่มเที่ยวบินพิเศษรองรับผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ 26 เที่ยวบิน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมเตรียมเจ้าหน้าที่รองรับเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทาง

พล.อ.พฤณฑ์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ กระทรวงคมนาคมจะดูแลผู้โดยสารที่จะเดินทางผ่านท่าอากาศยานอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง โดยได้กำชับให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดเจ้าหน้าที่บริการภาคพื้นให้เต็มที่ แม้จะมีจำนวนพนักงานที่ให้บริการไม่เพียงพอต่อการให้บริการ

โดยนายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การบินไทยได้จัดเที่ยวบินพิเศษทั้งในและต่างประเทศจำนวน 26 เที่ยวบิน เพื่อรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นกว่า 7,000 คน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการเดินทางของผู้โดยสาร ได้เตรียมเจ้าหน้าที่บริการภาคพื้นไว้รองรับในช่วงวันที่ 28-30 ธันวาคม 2555 และวันที่ 1-3 มกราคม 2556 ส่วนการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ขาดนั้น เบื้องต้นจะจัดสรรเจ้าหน้าที่มาให้บริการให้เพียงพอ และในระยะยาวจะตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลรับพนักงานให้เพียงพอ

นายสมชัย สวัสดีผล รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานในการอำนวยความสะดวก มั่นคง และปลอดภัย” เพื่อเป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการเกี่ยวกับการให้บริการและการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร รวมทั้งแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับการให้บริการ

สำหรับการเตรียมพร้อมรองรับผู้โดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ประสานงานและขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการให้บริการ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เช่น การดูแลรักษาความสะอาดห้องน้ำ ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่และความถี่การทำความสะอาดห้องน้ำ การจัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนรถเข็นกระเป๋าให้ผู้โดยสารใช้บริการได้เพียงพอ การจัดเจ้าหน้าที่คอยแนะนำในเรื่องการกรอกเอกสารแบบฟอร์มการเข้า-ออกประเทศ (ใบ ตม.6) และจัดคิวเข้าช่องตรวจหนังสือเดินทาง

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1668

โพสต์

สรุปข่าววันที่ 27 ธ.ค.2555 เวลา06.00 น.-18.00 น.

รูปภาพ

"เปรม"เปิดบ้านให้พร รมต.กลาโหม พร้อมผบ.เหล่าทัพ ระบุบ้านเมืองจะสงบร่มเย็นคิดต่างได้ต้องไม่แตกแยก ชี้เรื่องกำลังใจคนในชาติเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ชาติบ้านเมืองแข็งแรง "กอร์ปศักดิ์" โพสต์เฟซบุ๊ก โดนหนึ่งในกรรมการคัดเลือกผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. จิกทำปชป.แพ้เลือกตั้ง ทำไมยังกล้ามาสมัคร ย้อนเจ็บไม่ส่องกระจกดูตัวเองบ้าง ขณะที่การจราจรมุ่งหน้าไปยังภาคเหนือและอีสาน เริ่มติดขัดแล้ว หลังประชาชนเริ่มทยอยออกต่างจังหวัด ช่วงเทศกาลปีใหม่...

http://www.thairath.co.th/content/region/316460

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1669

โพสต์

ดําเนินคดี 'เอกยุทธ' เดือดชก ผจก.โอเกะ

รูปภาพ

ดําเนินคดี 'เอกยุทธ อัญชันบุตร' ชก ผจก.โอเกะ หลังพาพวกกว่า 30 คน ไปนั่งเฮฮา ก่อนเดือดเช็กบิลรูดบัตรเครดิตไม่ผ่าน ที่ร้านคาราโอเกะชื่อดังเลียบด่วนรามอินทรา ผกก.สน.โชคชัยบอกรายละเอียด น.1 จะเป็นผู้แถลง...

เหตุนักธุรกิจคนดังทำร้ายร่างกายผู้จัดการคาราโอเกะชื่อดังเลียบทางด่วนรามอินทรารายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สวนอาหารคาราโอเกะซิตี้ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ แขวงและเขตลาดพร้าวเพื่อตรวจสอบข่าวนายเอกยุทธ อัญชันบุตร หรือจอร์จ ตัน นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของเว็บไซต์ ไทยอินไซเดอร์ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการต่อต้านรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในสถานที่ดังกล่าว ทั้งนี้ หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของทางร้าน (ขอสงวนนาม) แจ้งว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายเอกยุทธพร้อมเพื่อนราว 30 คน มานั่งร้องเพลงคาราโอเกะ พร้อมดื่มสุรากันที่ห้องฮาวาย ตั้งแต่เวลา 20.00น. จนเวลา 01.00น.ร้านปิด พนักงานเสิร์ฟไปขอเช็กบิล ประมาณ 38,000 บาท นายเอกยุทธจึงนำบัตรเครดิตไปให้ทางร้านรูด

หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยเปิดเผยต่อว่า ปรากฏว่าบัตรนายเอกยุทธรูดไม่ผ่าน ทำให้นายเอกยุทธเริ่มไม่พอใจ และสั่งให้ไปรูดใหม่ก็ไม่ผ่าน ทางผู้จัดการร้านคือ นายจตุพล มังกรทอง อายุ 31 ปี จึงขอเก็บเงินสด ทำให้นายเอกยุทธไม่พอใจมาก เดินไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ด้วยความโมโห พร้อมสั่งให้เปลี่ยนเครื่องรูดบัตร แต่คราวนี้ปรากฏว่ารูดผ่าน พอนายจตุพลนำสลิปมาให้ นายเอกยุทธ ซึ่งยังไม่หายขุ่นเคืองคว้าสลิปมาขยำทิ้งบ่อน้ำในร้าน ก่อนชกต่อยนายจตุพลด้วยความโมโห โดยมีการ์ดส่วนตัวร่วมทำร้ายด้วย น.ส.จุฬา เครือวรรณ อายุ 34 ปี ผู้จัดการอีกคนหนึ่งของร้าน พยายามห้าม กลับถูกนายเอกยุทธพร้อมการ์ดส่วนตัวรุมทำร้าย จนพนักงานต้องเข้าไปช่วยกันแยก และพาตัวนายจตุพลไปหลบซ่อน แต่เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อนายเอกยุทธไปเอาปืนที่รถออกมา แล้วกลับเข้าไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ใหม่พร้อมจี้บังคับ น.ส.จุฬา ให้พาไปหาตัวนายจตุพล ทำให้พนักงานและผู้พบเห็นต่างหวาดกลัว จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักครู่ นายเอกยุทธจึงเดินออกมาขึ้นรถ โดยยิงปืนขึ้นฟ้าระบายอารมณ์ก่อนขับรถออกไปพร้อมการ์ดส่วนตัว ขณะที่นายจตุพล และ น.ส.จุฬา เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอกยุทธ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ที่ สน.โชคชัย

ด้านความเคลื่อนไหวที่ สน.โชคชัย เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิตผบก.น.4 เดินทางมาสอบปากคำ 2 ผู้เสียหาย ร่วมกับพ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย โดย พ.ต.อ.ธนวัตรเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า มีเหตุเกิดขึ้นจริง อยู่ระหว่างสอบสวนดำเนินคดี โดยจะออกหมายเรียกนายเอกยุทธมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ทั้งนี้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. จะแถลงถึงเรื่องนี้ในเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ธ.ค.


รูปภาพ
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวหน้า 1
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1670

โพสต์

รูปภาพ

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ทันหุ้น


28 ธ.ค.--ทันหุ้น
Distributor - Bisnews AFE


กสทช.หั่นธรรมเนียนมไลเซนส์ SYMC รับอานิสงส์ขยับกำไรโต 12%
SYMC รับประโยชน์สูงสุด กสทช. หั่นค่าธรรมเนียมไลเซนต์ แบบขั้นบันไดตั้งแต่ 0.25-1.5% ของ
รายได้ ผู้บริหาร "กรัณย์พล อัศวสุวรรณ" ตั้งเป้ารายได้ปี 2556 โต 15% ตามอุสาหกรรมสื่อสาร 3G
เปิดให้บริการด้านโบรกคาดกำไรโต 12% จากการลดค่าไลเซนส์ และเพิ่มมูลค่าราคาหุ้นอีก 2.30 บาท
จากราคาเป้า 24.20 บาท

'SC' ขยายตึกชินเข้ากองทุน ดันยอดปี 56 แตะ 1.38 หมื่นล.
SC มั่นใจเดินหน้าดันรายได้ปี 2556 สู่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท ด้านวงการโบรกประเมินยอดขายปี
2555 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท พร้อมคาดการณ์ยอดขายปีหน้าทะยานสู่ระดับ
1.38 หมื่นล้านบาท สั่งปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 32.00 บาท

'PE' ทายาทหมื่นล้านหนุนหลัง กำไรเทิร์นอะราวนด์-เป้า 1.40 บ.
PE ราศีจับหลังเจ้าพ่อตลาดทุน "ทวีฉัตร จุฬางกูร" ทายาทหมื่นล้าน "ซัมมิท กรุ๊ป" ใส่เงินขึ้นแท่น
ผู้ถือหุ้นใหญ่ 17.75% มั่นใจภาคธุรกิจเทิร์นอะราวนด์ จับตาปี 2556 ก้าวกระโดด เฟ้นหาพันธมิตรร่วมหนุน
ขยายฐาน กินรวบมาร์จิ้น 40% กูรูแนะรีบสะสมหุ้น PE ก่อนเลื่อนขั้นเป็นหุ้นพื้นฐาน เป้าหมาย 1.40 บาท

'PT' หวัง 3G ดันรายได้ทะลุ 30% เฟ้นหาพันธมิตรบุกโครงข่าย
PT ปักธงปี 2556 รับอานิสงส์ 3G เต็ม ๆ หวังกอบโกยรายได้ทะลุ 30% หรื 2.5-2.8 พันล้านบาท
เร่งเจรจาพันธมิตรผนึกธุรกิจปั๊มงานประมูลย้ำ ADVANC DTAC และ TRUE ป้อนออเดอร์เต็มพอร์ต จับตา
หุ้นวิ่งชนแนวต้าน 6.55 บาท

NCH ปีนี้ยอดขายพุ่ง 2.7 พันล. จ่อผุดโครงการใหม่-ต้าน 1.42 บ.
ผู้บริหาร NCH "สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม" การันตียอดขายปีนี้ทะลุเป้า 2.7 พันล้านบาท เล็งจ่าย
ปันผลตามนโยบาย ไม่ต่ำกว่า 40% ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 15% จากปีนี้ พร้อมวางแผนผุดโครงการ
ใหม่ 4 โครงการในปีหน้า รองรับความต้องการของลูกค้ากรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยเน้นแนวราบ พร้อมเล็ง
หาทำเลที่ดินต่างจังหวัด ผุดโครงการเพิ่มโบรกให้ต้าน 1.42 บาท

KSL กำไรปีนี้ 2.3 พันล้านบาท 'ไฟฟ้า-เอทานอล-ปุ๋ยโต'
KSL แจ้งงบปี 2555 (พ.ย.54-ต.ค.55) กำไรสุทธิ 2.35 พันล้านบาท โต 25% จากปีก่อนที่ทำได้
1.89 พันล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจ ไฟฟ้า-เอทานอล-ปุ๋ย ด้านโบรกมองธุรกิจปี 2556/57
(พ.ย.55-ต.ค.56) โตแกร่ง คาดกำไรสุทธิโต 12% มาจากการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้า 7% และจาก
การเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้า 7% และจากการเติบโตของธุรกิจน้ำตาล 5% แนะ "ซื้อ" เป้า 16.20 บาท

PSL ทุ่มเงิน 800 ซื้อเรือใหม่เสริมทัพ

PSL ประกาศบริษัท พรีเซียส พอนด์ส และบริษัท พรีเชียส คอมเม็ทส์ เข้าซื้อเรือมือสอง จำนวน
2 ลำ มูลค่า 842.77 ล้านบาท ตั้งป้อมภายในอีก 2 ปีข้างหน้าจำนวนกองเรือเพิ่ม 60 ลำ ทั้งสั่งต่อเรือ
ใหม่และการซื้อเรือมือสอง ด้านนักวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ครึ่งหลังปี 2555 ฟื้นตัวเคาะราคา 19.00
บาท

'AMATA' เข็นอมตะวีเอ็นเข้า 'ตลท.'เสนอขายให้หุ้นไอพีโอ 151.37 ล้านบาท
บอร์ด AMATA ไฟเขียวนำ "อมตะ วีเอ็น" เข้าตลาดหลักทรัพย์เสนอขายหุ้นไอพีโอ 151.37 ล้าน
หุ้นและลดมูลค่าพาร์เหลือ 0.50 บาท จาก 10 บาท ฟากโบรกมองธุรกิจสดใส คาดกำไรสุทธิรวมปีนี้
1,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อน แนะ "ซื้อ" เป้าหมาย 21 บาท

ROJNA รับทรัพย์ 960 บาท ขาย บ.ย่อยในจีน-เป้า 14.18 บ.
ROJNA แจ้งขายบริษัทย่อยในประเทศจีนรับทรัพย์รวมกว่า 960 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปขยาย
โครงการในธุรกิจหลัก ฟากโบรกเล็งผลดำเนินงานในปี 2556 โดยเฉพาะกำไรจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
แนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 14.18 บาท

MLINK หวังผลปี 56 ฟื้นปั้นยอดขายโตสูงกว่า 10%
MLINK เข็นครกขึ้นภูเขาแย้มผลงานไตรมาส 4/2555 ยังขยายตัวได้ดี แต่กำไรอาจไม่โดดเด่น
หลังโดนกระแสไอโฟนทุบมาร์จิ้นหายวูบแต่ขอตั้งหลักใหม่ปี 2556 วางเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% รอ
โครงการ 3G ดันยอดขายพุ่งแรง ด้านโบรกส่องราคาหุ้น MLINK ยังแกว่งตัวในกรอบ 1.69-2.00 บาท
แนะเก็งกำไร

KBANK อัพรายได้-สินเชื่อ ปี 56 เดินหน้าโกยลูกค้าเพิ่ม
KBANK จัดทัพเตรียมลุยธุรกิจ วางแผนเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มเป็น 2.2 หมื่นล้านบาท ในปี
2556 จาก 1.72 หมื่นล้านบาท ในปีนี้ ด้านสินเชื่อรายย่อยตั้งป้อมเติบโต 10-13% พร้อมชู "ไลฟ์สไตล์
แบงกิ้ง" ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มทั้งเรื่องการเงิน และชีวิตส่วนตัว เพิ่มจำนวนลูกค้า 30% หรื 2.6 ล้านราย
จากปีนี้มีจำนวนลูกค้ารวม 10 ล้านราย

ผู้ถือหุ้น MATCH เฮ เคาะเพิ่มทุน 210 ล.หุ้น ผุดโรงหนังครบวงจร
MATCH ประกาศ ผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุนจำนวน 210 ล้านหุ้น หวังนำเงินสร้างเมืองถ่ายหนังครบ
วงจร ผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ของภูมิภาค รับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)
"สมบุญ ชีวสุทธานนท์" แม่ทัพ MATCH ยืนยันไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง พร้อมโตก้าวกระโดด

'อิมแพ็ค' ปลื้มยอดจองจัดเลี้ยงพุ่งหนุนรายได้โตตามเป้า 350 ล้านบ.
อิมแพ็ค ปลื้มยอดจองจัดงานเลี้ยงช่วงปลายปีต่อเนื่องต้นปีหน้ากว่า 100 งาน รวมงานเลี้ยงสังสรรค์
ปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ขององค์กรหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชน ชี้ยอดจัดสูงกว่าช่วงเดียวกัน
ของปีที่ผ่านมา 10% เป็นผลจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ปลายปี คาดรายได้จัดเลี้ยงปีนี้ 85% หนุนรายได้เป็นไป
ตามเป้า 350 ล้านบาท

BOI โชว์ยอดขอลงทุนปี 55 ทะลุ 1 ล้านล้านบาท
ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในปี 2555 (ม.ค.-20 ธ.ค.55) สูงถึง 1,127,900 ล้านบาท ซึ่งเป็น
มูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน โดยนักลงทุนยื่นขอรับส่งเสริมในกลุ่มอุตสาหกรรม
บริการและสาธารณูปโภคมากที่สุด 601 โครงการ ตามด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วน เครื่องจักร
และกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า

'บลจ.กสิกรไทย'ใจป้ำปันผล K-GOLD กว่า 300 ล้านบาท
บลจ.กสิกรไทย ส่งท้ายปีจ่ายปันผลกองทุนเปิด เค โกลด์ (K-GOLD) กองทุนทองคำ มูลค่าเงินกว่า
300 ล้านบาท มองแนวโน้มทองคำปี 2556 วิ่งแตะกรอบ 1,850-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะรอจังหวะ
เข้าลงทุนต้นปี คาด Final Cliff จบสวยดันผลตอบแทนพุ่งต่อ

บลจ.วรรณปลื้มผลงานกองทุน ส่องภาวะปี 56 หุ้นไทยน่าลงทุน
ผู้บริหารบลจ.วรรณ "วิน อุดมรัชตวนิชย์" ปลื้มผลงานกองทุนปี 2555 โดดเด่น โชว์กองทุนหุ้น
1SG-LTF กองทุนเปิดเอกเอเชียพูนผล (ONE-FAS) และ กองทุนเปิด วรรณพร็อพเพอร์ตี้สิงคโปร์
(ONEPROP-SG) ให้ผลตอบแทนสูง ส่องปี 2556 แนะลงทุนยังควรต้องระมัดระวัง พร้อมเชียร์หุ้นไทย
น่าลงทุน

TAPAC ทุ่ม 140 ล. ผุดโรงงานใหม่ อัพยอดขาย-ผถห.มีลุ้นรับปันผล
TAPAC เดินหน้าทุ่มงบ 140 ล้านบาท เนรมิตโรงงานใหม่ หวังโกยเงินเข้าเป๋าเพิ่มปีละ 50 ล้าน
บาท พร้อมปักธงปีนี้ยอดขายพุ่งจากปีก่อน รับอุตสาหกรรมขยายตัวแถมจ่อชงบอร์ดแจกปันผลผู้ถือหุ้นช่วง
มกราคมนี้ หลังกำไรงวดปี 2555 โตทุบสถิติรอบ 5 ปี มาอยู่ระดับ 46.67 ล้านบาท ลั่นแจกไม่ต่ำกว่า 40%
ฟากเทคนิค ชี้อนาคตไกล เป้า 4.60 บาท

โมโนเทคโนโลยีลั่นขาย IPO 245 ล้านหุ้น
โมโน เทคโนโลยี ยื่น Filing โลดแล่นตลาดเอ็ม เอ ไอ ประกาศขายหุ้นไอพีโอ 245 ล้านหุ้น
เตรียมระดมทุนขยายธุรกิจในต่างประเทศ โชว์โผผู้ถือหุ้นใหญ่ "พิชญ์ โพธารามิก" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยว่า บริษัท โมโน
เทคโนโลยี จำกัด ได้ยื่น Filing Version แรก เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2555 เนื่องจากบริษัทจะเสนอ
ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 245 ล้านหุ้น โดยบริษัทจะดำเนินการนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

พลังงานบริสุทธิ์ได้ฤกษ์เคาะ IPO ไม่เกิน 5.50 บาท
พลังงานบริสุทธิ์ได้ฤกษ์เคาะราคาขายหุ้นจำนวน 560 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละไม่เกิน 5.50 บาท
พร้อมเข้าซื้อขายในตลาด mai ต้นปีหน้า ด้านผู้บริหาร "สมโภชน์ อาหุนัย" มั่นใจกระแสตอบรับล้นหลัง
เดินสายโรดโชว์ 11 จังหวัดสร้างความมั่นใจ

'L&E' บุกตลาด 'หลอด LED' คาดปี 59 ครองแชมป์ถึง 45%
L&E เดินหน้าบุกตลาดหลอด LED ประหยัดพลังงานเต็มตัว ตามกระแสรักษ์โลก คาดปี 2559
ครองส่วนแบ่งถึง 45% ของหลอดไฟฟ้าทั้งระบบ "ปกรณ์ บริมาสพร" เผยพร้อมลุยทั้งตลาดค้าส่ง ค้าปลีก
และองค์กรขนาดใหญ่ คุยล่าสุดกฟภ.เล็งเห็นความสำคัญสั่งเปลี่ยนหลอดประหยัดแล้วถึง 5 พันหลอด-

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1671

โพสต์

รูปภาพ
สรุปข่าวหน้า1 หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

28 ธ.ค.--กรุงเทพธุรกิจ
Distributor - Bisnews AFE


ดันบอนด์ 'อายุยาว' รับทุนนอก สบน.เร่งตราสารหนี้ใหม่-พร้อมออก 8 รุ่น 5.25 แสนล้านปี 56 เล็ง
ออกพันธบัตรดอลลาร์หวังให้เอกชนใช้อ้างอิงระดมทุนต่างประเทศ

สบน.เดินหน้าแผนพัฒนาตลาดตราสารหนี้ออกรวด 8 รุ่นอายุในปีหน้า วงเงิน 5.25 แสนล้านบาท
พร้อมออกตราสารหนี้ใหม่รองรับนักลงทุนระยะยาว-ต่างชาติ หวังขยายฐานนักลงทุนเพิ่ม-สร้างความหลาก
หลาย

ไอซีทีจี้กสทแก้สัญญา 3จี บีบ 'ทรู' แค่เอ็มวีเอ็นโอ
"อนุดิษฐ์" ระบุสัญญามือถือ 3จี กสท-ทรู ฉบับแก้ไขต้องให้สิทธิเอกชนทำตลาดแค่เอ็มวีเอ็นโอ หวัง
เป็นแหล่งรายได้ใหม่รองรับสัมปทานหมดเดือนก.ย.2556 แบ่งคาปาซิตี้ให้เอกชนรายอื่นทำเอ็มวีเอ็นโอได้
ด้วย ลั่นอำนาจครองคลื่น 1800 กสท-กสทช. ต้องรีบหาข้อสรุป หากตกลงไม่ได้สุดท้ายต้องส่งศาลชี้ขาด

สศอ.คาดจีดีพีอุตฯ โต 4.5% ชี้ปีหน้า 'รถยนต์-ปูน' แรง
สศอ.ประเมินแนวโน้มปีหน้า คาดจีดีพีอุตสาหกรรมขยายตัว 3.5-4.5% ชี้ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจ
คู่ค้าชะลอตัว เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า ปรับค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ 300 บาท คาดผู้ผลิตที่รับภาระต้นทุน
ไม่ไหวปรับราคาสินค้าขึ้น ลดการจ้างงาน จับตาอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า แนวโน้มชะลอตัว
ขณะที่รถยนต์-ปูนซีเมนต์ยังแรงต่อเนื่อง

'ธนา' โบกมือลาจีเอ็มเอ็มแซท 'อินทัช-ซิตี้แบงก์' จีบร่วมทีม
"ธนา เธียรอัจฉริยะ" เตรียมยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร "จีเอ็มเอ็ม
แซท" ต้นปีหน้า คุย "ส่งถึงฝั่ง" สร้างแพลตฟอร์มยกแรก 1 ล้านกล่อง วงในแย้ม อินทัช-ซิตี้แบงก์ จีบ
ร่วมทีมบริหาร-

สรุปข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

คุก 1 ปีไม่รออาญาแนวร่วมนปช.ยกฟ้อง 'จตุพร' หมิ่น 'อภิสิทธิ์' อัยการฟ้องแกนนำพธม.รุ่น 1-2 รวม
6 คน ฐานบุกทำเนียบฯ-รัฐสภา

ศาลยกฟ้อง "จตุพร" คดีถูก "อภิสิทธิ์" ฟ้องฐานหมิ่นประมาท กรณีปราศรัยกล่าวหาสั่งฆ่าประชาชน
"ธิดา" เผยนักโทษเสื้อแดงเสียชีวิตระหว่างจำคุกที่คุกหลักสี่ หลังร่วมกิจกรรมกีฬาสีเจ้าหน้าที่แจงน่ามาจาก
โรคประจำตัว ขณะที่อัยการยื่นฟ้องแล้วแกนนำพธม. รุ่น 1-2 รวม 6 คน ฐานบุกป่วนทำเนียบฯ-รัฐสภา ปี
2551 ให้การปฏิเสธทุกข้อหา

'ป๋าเปรม' แนะยึดวันปีใหม่ เริ่มสามัคคี-ให้อภัยกันและกัน
ที่บ้านพักรับรองสี่เสาเทเวศร์ เช้าวานนี้ (27 ธ.ค.) พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธาน
องคมนตรี และรัฐบุรุษ เปิดโอกาสให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม นำ พล.อ.ทนงศักดิ์
อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผบ.ทั้ง
3 เหล่าทัพ รวมทั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะนายทหาร และ
นายตำรวจระดับสูงเข้าร่วมอวยพร เนื่องในโอกาสเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ -

สรุปข่าวการเงิน-ลงทุน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

หุ้นไทยพุ่งลุ้นแตะ 1,400 จุด แรงซื้อกองทุนแอลทีเอฟหนุนท้ายปี โบรกฯระบุปัจจัยที่ต้องเกาะติด คือการแก้
ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐ

ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นแรงเกือบ 15 จุด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปีต่อเนื่อง ลุ้นดัชนีแตะระดับ 1,400
จุดท้ายปี เหตุได้อานิสงส์แรงซื้อกองทุนแอลทีเอฟ และอาร์เอ็มเอฟหนุนตลาด ด้านโบรกเกอร์คาดวันนี้ปรับ
ขึ้นต่อ พร้อมแนะจับตาการแก้ปัญหาหน้าผาการคลังสหรัฐ

กสิกรไทยปรับยุทธศาสตร์รุกตวจ.รับจีดีพีโตเกิน10%
"กสิกรไทย" ปรับยุทธศาสตร์สาขารุกต่างจังหวัด หลังเห็นการเติบโตสูงกว่า 2 หลัก เร่งขยาย
เครือข่ายให้ครอบคลุม 19 จังหวัดหลัก พร้อมชูการเป็น "ไลฟ์สไตล์แบงกิ้ง" ทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาท
พลิกโฉมสาขา "ไลฟ์สไตล์ ชาแนล" ตั้งเป้าปีหน้า รับลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 2.6 ล้านราย โตขึ้น 30% เพิ่มสิน
เชื่อ 10-13% ขณะที่สินเชื่อบุคคลเน้นจับฐานลูกค้าที่มีรายได้ 1.5 หมื่นบาทต่อเดือน ใช้วงเงินฉุกเฉินเป็น
หลัก

'พลังงาน-ปิโตรฯ' ให้น้ำหนักเท่าตลาดชี้น้ำมันปัจจัยเสี่ยง
โบรกเกอร์ให้น้ำหนักกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเลียมเท่าตลาด เผยความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกเป็น
ปัจจัยกดดัน แถมมีความผันผวนของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่ได้ผลตอบแทนเงินปันผลที่ระดับ 4-5%
ช่วยชดเชย มอง "บางจาก-พีทีทีโกลบอล" เป็นหุ้นเด่น

สรุปข่าวหุ้น การเงิน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ไลท์ติ้งฯคาดปี59ครอง45%หลอดไฟฟ้า เตรียมบุกตลาดหลอดแอลอีดี ลุยทั้งตลาดค้าส่ง ค้าปลีกและองค์กร
ขนาดใหญ่

ไลท์ติ้งแอนด์อีควิปเมนท์ คาดปี 2559 ครองส่วนแบ่ง 45% ของหลอดไฟฟ้าทั้งระบบ เตรียมบุกตลาด
หลอดแอลอีดี หลังพบมีแนวโน้มเติบโตรวดเร็วตามกระแสรักษ์โลก พร้อมลุยทั้งตลาดค้าส่ง ค้าปลีกและ
องค์กรขนาดใหญ่ เหตุพร้อมทั้งโรงงานการผลิตและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า

ก.ล.ต.สั่งพักงาน4ผู้แนะนำลงทุนพฤติกรรมไม่เหมาะ
ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทหลักทรัพย์ตามปกติและพบว่านายสุทิน ชิมผลาพิบูลย์ ผู้
แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน สังกัด บล.ฟิลลิป ไม่บันทึกเทปการให้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขายหลัก
ทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทางโทรศัพท์ของลูกค้าสองราย

ผู้ถือหุ้นไฟเขียว 'แม็ทชิ่ง' เพิ่มทุนผุดเมืองถ่ายหนัง ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ "แม็ทชิ่ง" เพิ่มทุน 217.54 ล้านหุ้น ขยายกิจการสร้างเมืองถ่ายหนังครบ
วงจรในพื้นที่กว่า 50 ไร่ เตรียมรับกองถ่ายต่างชาติหลังเปิดเออีซี เริ่มลงทุนได้ปลายปี 2556 คาดต้องใช้
เงินกว่า 700 ล้านบาทในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า

สรุปข่าวธุรกิจการตลาด หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

เอ็กซิบิชั่น-อีเวนท์พม่า 'โต'
โอกาสของภาคเอกชนที่สำคัญในปี 2556 อีกเรื่องคือการขยับขยายการจัดงานแสดงสินค้าไปยังเพื่อน
บ้าน โดยเฉพาะ พม่า

'แม็กซี่ทีวี' ปิดฉากทีวีดาวเทียมปรับคอนเทนท์ลงอินเทอร์เน็ต
"แม็กซี่ทีวี" ลาสมรภูมิทีวีดาวเทียม ปรับโฉมลง "อินเทอร์เน็ตทีวี" ตอบโจทย์นโยบาย 30 ปีแกรมมี่
มุ่งซีเอสอาร์

'ไมเนอร์ฟู้ด-ซีพีแรม' พร้อมใจลุยนอกบูมอาเซียนหลังเจ็บหนักตลาดยุโรป
กลุ่มผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ในไทย "ไมเนอร์ฟู้ด กรุ๊ป-ซีพีแรม" ประสานเสียงลุยนอก ฉวยจังหวะเปิด
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ปักธงการค้า-ลงทุนในอาเซียน "ไมเนอร์" เตรียมส่ง
เดอะพิซซ่า คอมปะนี ไอศกรีมสเวนเซ่นส์ บุกตลาดพม่า บรูไน ด้านซีพีแรม สบช่องส่งออกอาหารพร้อมรับ
ประทานเพิ่ม เบนเข็มจากตลาดยุโรป หลังได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน


รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1672

โพสต์

ประเด็นร้อน28ธ.ค.

ปมร้อนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเริ่มซาลงสวนทางกับอุณหภูมิสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่เริ่มสูงขึ้น ภายหลังพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตัดสินใจส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร แชมป์เก่าลงสมัครรับเลือกตั้งอีกหนึ่งสมัย ขณะที่เรื่องราวทางเศรษฐกิจก็เป็นการสรุปภาวะด้านต่างๆ


1.วันนี้ เวลา 13.30 น. ทุกสายตาหันไปโฟกัสที่ลานพระแม่ธรณีฯเพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะแถลงเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อย่างเป็นทางการ เป็นที่แน่นอนแล้วว่าหวยออกที่ "คุณชายหมู" หลังจากวานนี้ คณะกรรมการบริหารพรรค มีมติเสียงข้างมากไว้วางใจให้ลงสนามแข่งอีกสมัย โดยให้เหตุผลว่ามั่นใจในผลงานที่ปรากฏเป็นรูปธรรม ต้องจับตาแรงกระเพื่อมของพรรคใหญ่ขั้วตรงข้ามว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อการเปิดหน้าคู่แข่งเต็มตัว โดยล่าสุดพรรคเพื่อไทยยังคงยืนว่าจะเปิดตัวผู้สมัครภายในวันที่ 10 ม.ค.นี้แน่นอน

2.อย่าเพิ่งละสายตาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันนี้ วราเทพ รัตนากรรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะทำงาน ศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ เตรียมส่งหนังสือเชิญไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อหารือถึงข้อกฎหมายในการทำประชามติ เพราะ กกต. ถือเป็นหน่วยงานหลักในการจัดการออกเสียงอย่างไรก็ตามเป็นที่แน่ชัดแล้วว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะเลือกทางเดินประชามติและใช้แผนสองแก้รายมาตราแม้ว่ามติที่ประชุม สส.เพื่อไทยล่าสุดจะรอให้ถึงวันที่ 15 ม.ค. เป็นวันเคาะ 1 ใน3 แนวทาง แต่ทั้งนี้เป็นไปเพื่อลดแรงกระเพื่อมจากกลุ่มก๊วนภายในพรรคเท่านั้น

3.ขณะเดียวกันเวลา 13.00 น. ฟากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เตรียมแถลงข่าวประจำสัปดาห์ ต้องรอดูว่า จุดยืนของ นปช. บนทาง 3 แพร่งแก้รัฐธรรมนูญจะรุก-รับอย่างไร หลัง"ปฏิญญาโบนันซ่า" ถูกประกาศลั่นเขาใหญ่ให้รัฐบาลเดินหน้าโหวตวาระ 3 แต่กลับเจอแรงต้านทั้งอดีตนายกฯพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

4.ด้านปัญหาอุทกภัยภาคใต้ 5 จังหวัดได้แก่ พัทลุง นครศรีธรรมราชสุราษฎร์ธานี นราธิวาส และปัตตานี ยังต้องติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด วันนี้พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทยเตรียมลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย ชุมชนที่ประสบภัยใน อ.สุไหงโก-ลก พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัยกว่า600 ครัวเรือน ล่าสุด มท.2 ได้กำชับให้จังหวัดดูแลผู้ประสบภัยที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงและจัดสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถใช้ชีวิตในช่วงที่เกิดภัยได้ตามปกติแล้ว

5.พักจากเรื่องการเมืองมาดูเรื่องปากท้องวันนี้ ช่วงบ่ายสองโมงนายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน พ.ย. 2555 ว่าดัชนีสำคัญด้านการบริโภคในประเทศการลงทุน การผลิต การใช้กำลังการผลิตความเชื่อมั่นทางธุรกิจรายได้ของภาคเกษตร การเคลื่อนย้ายเงินทุนฯลฯ มีแนวโน้มปรับตัวไปทางไหน จะเป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจว่าปรับดีขึ้น ตามที่รัฐบาลประกาศว่าขยายตัวดีขึ้นได้หรือไม่ชวนติดตาม เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ

6.จับตาการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย เป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายส่งท้ายปี 2555 จะยืนปิดเหนือ 1,400 จุดได้หรือไม่ เพื่อใช้เป็นฐานในการซื้อขายของปี 2556 ที่สำคัญการทำราคาปิดสิ้นปี มีความสำคัญกับสถาบันที่ลงทุนในหุ้น กรณีที่ดัชนียืนปิดเหนือ 1,400 จุดได้สำเร็จ นับเป็นการทำดัชนีสูงสุดอีกครั้งในรอบ 16 ปี มูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปีจากราคาหุ้น

7.การจัดการแก้ปัญหาเรื่องราคาปาล์มตกต่ำจนเกษตรกรต้องยกพลมาประท้วงกันวันนี้เวลา 09.00 น. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เพื่อแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันแบบยั่งยืน ณ ตึกสันติไมตรี(หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล หลังจากเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา กนป. ที่มี นายกิตติรัตน์ เป็นประธาน มีมติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) รับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรที่ราคา 4-4.35 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับผลปาล์มที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% และ 18% แต่ฝ่ายเกษตรกรที่อยู่ในที่ประชุมรู้สึกไม่พอใจกับการกำหนดราคาที่รัฐบาลรับซื้อและมีการกล่าวหาโรงสกัดและโรงกลั่นว่ากดราคารับซื้อผลปาล์มของเกษตรกร

8.วันนี้ คณะกรรมการกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 จะมีการประชุมพิจารณาเรื่องที่บริษัทที่ปรึกษานำเสนอการจัดตั้งกองทุนรวมวายุภักษ์ 2 วงเงินกองทุนประมาณ 3-5 แสนล้านบาท เพื่อนำเงินไปลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคก่อนที่กระทรวงการคลังจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาอนุมัติในเดือน ม.ค.นี้

9.นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวเกิน 21 ล้านคนที่ชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยปี 2556 ได้วางยุทธศาสตร์และกำหนดเป้าหมายนักท่องเที่ยวเข้าไทยไว้ 22.22 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8% มูลค่า 1.04 ล้านล้านบาท มูลค่าเพิ่มขึ้น 17.36%

รูปภาพ
28 ธันวาคม 2555
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1673

โพสต์

สรุปข่าววันที่27-28 ธ.ค.เวลา18.00-06.00น.

รูปภาพ

นราธิวาสประกาศภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว 208 หมู่บ้าน ใน 13 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน รวม 27,637 คน สิ่งสาธารณูปโภคเสียหายหนักทั้งถนน คอสะพาน และฝาย ขณะที่ระดับน้ำในลุ่มน้ำโก-ลก และบางนราฯ สูงกว่าตลิ่ง,เผยความคืบหน้า กรณี 3 โฉดฉุดแหม่มรัสเซียไปปล้นและข่มขืนซ้ำ ตร.ประชุมเร่งล่าตัวคนร้าย ขณะที่ 2 เหยื่อสาวสุดสะเทือนใจ วอนต้องการกลับเร็วที่สุด หลังตกเป็นข่าวดังในสื่อทั้งในไทย และบ้านเกิด ,"กุหลาบไฟ" แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ประกาศปลดกุนซือ "เฮนนิง เบิร์ก" ออกจากตำแหน่งแล้ว ทั้งที่คุมทีมได้เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น

http://www.thairath.co.th/content/region/316526

รูปภาพ
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
28 ธันวาคม 2555, 06:15 น
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1674

โพสต์

รูปภาพ
สรุปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

28 ธ.ค.--โพสต์ทูเดย์
Distributor - Bisnews


จำนำข้าวนาปีแค่ 10 ล้านตัน ต่ำเป้าตั้ง 15 ล.
พาณิชย์แย้มจำนำปีนี้อาจปิดยอดแค่ 10 ล้านตันต่ำกว่าเป้าที่ตั้ง 15 ล้านตัน
นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อสิ้นสุดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี
ฤดูกาลผลิตปี 2555/2556 น่าจะปิดยอดรับจำนำได้ที่ประมาณ 10 ล้านตัน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15 ล้านตัน
โดยยอดรับจำนำล่าสุดอยู่ที่ 7.7 ล้านตัน

ชายแดนคึก แห่ลงทุนรับเออีซีริมรั้ว 4 ภาคบูมสุดขีดปีหน้าทะลุล้านล้าน
เศรษฐกิจชายแดนไทยเฟื่องฟู นักลงทุนแห่ขนเงินหลายหมื่นล้าน ผุดโครงการรอบประเทศ
ชายแดนไทยติดกับประเทศเพื่อนบ้านกลายเป็นแหล่งขุมทองของนักลงทุนทั้งชาวไทย และต่างชาติ
ที่ขนเงินมาลงทุนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558 โดยคาดว่าปี 2556 การค้า
ชายแดนจะทะลุล้านล้านบาท หลังจาก 1-2 ปีที่ผ่านมาเติบโตแบบก้าวกระโดด

สรุปข่าวการเงิน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

กสิกรปักธงลูกค้ารายย่อย ปกรณ์ยิ้มแฉ่งผลงานทะลุเป้า ทุ่ม 500 ล.ขยายตลาดเต็มที่
กสิกรไทยสยายปีกบุกลูกค้ารายย่อยเต็มที่ ตั้งเป้าปีหน้าลูกค้า 2.6 ล้านราย เทงบกว่า 500 ล้านบาท
ปรับโฉมสาขา-เอทีเอ็ม
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน
ธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายสาขาในปีนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จมากสามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมาย
ที่วางไว้ทั้งหมด

โกงเงินไฮเทคลดลงร้องเรียนแบงก์น้อย
ร้องเรียนโกงมือถืออินเทอร์เน็ตลดฮวบ เงินกู้-เงินฝากหนัก
นางชนาธิป จริยาวิโรจน์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีประชาชนจำนวนมากหันมาใช้บริการทางการเงินผ่านทางโทรศัพท์
หรือสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมาก แต่ยอดร้องเรียนภัยการเงินกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด สะท้อน
ให้เห็นว่าประชาชนระวังการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟนและมีความรู้มากขึ้น

สรุปข่าวการตลาด หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

ยื่นทีวีดาวเทียม 609 ช่อง ผู้ประกอบการอ่วมวอนกสทช.แก้เก็บค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน
กสทช.แจ้งยอดปิดให้เคเบิล-ทีวีดาวเทียมรายเดิมยื่นขออนุญาตอยู่ที่ 609 ช่อง 24 โครงข่ายระดับ
ชาติ ด้านผู้ประกอบการร้อง โดนเก็บค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน
ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม
แห่งชาติ (กสทช.) แจ้งว่า จากการเปิดให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมรายเดิมมายื่นขออนุญาต
จนถึงวันที่ 16 ธ.ค.นี้ ยอดที่มีการปิดรับขอใบอนุญาตจากผู้ประกอบการเดิมมี 609 ช่องรายการ ส่วนผู้ให้
บริการโครงข่ายระดับชาติยื่นขออนุญาต 24 ราย ระดับภูมิภาค 43 ราย และระดับท้องถิ่น 304 ราย และ
มีผู้ให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกยื่นขออนุญาตอีก 2 ราย โดยสำนักงานจะมอบใบอนุญาตอย่างเป็นทาง
การได้ในเดือน ม.ค.2556 เป็นต้นไป

'มะมาเฮิร์บ' เล็งผุด 100 สาขารุกทั่วไทย
มะมาเฮิร์บ วางเป้าปีหน้าขยายครบ 100 สาขา รุกตลาดทั่วประเทศ พร้อมเร่งพัฒนาสินค้ารับเปิด
เออีซี-ยุโรป
น.ส.ฉันทมน พูลนิล ประธานกรรมการ บริษัท มะมา เฮิร์บ (99) ผู้ผลิตและจำหน่ายแชมพูสมุนไพร
มะมาเฮิร์บ เปิดเผยว่า จากแนวโน้มผู้บริโภคที่นิยมดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น ทำให้ตลาดแชมพูและผลิตภัณฑ์
สมุนไพร ที่มีมูลค่าตลาด 500 ล้านบาทต่อปี มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นมะมาเฮิร์บจึงได้พัฒนา
ระบบการผลิตแชมพูสมุนไพรดูแลเส้นผมและหนังศีรษะให้มีมาตรฐานการผลิตและปริมาณที่เพียงพอต่อความ
ต้องการของตลาด จากหลายปีที่ผ่านมาไม่สามารถผลิตได้ทัน

แบล็คแคนยอนเร่งบุกอาเซียน ควงปั๊มปตท.ขยายอีก 7 สาขา เข้าสนามบินย้ำภาพอินเตอร์
แบล็คแคนยอนควงปั๊ม ปตท. เร่งเครื่องบุกต่างประเทศพร้อมขยายสาขาเพิ่มในสนามบินย้ำภาพแบรนด์
ในใจชาวต่างชาติ
นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัท
จะเร่งขยายสาขาในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจ
อาเซียน (เออีซี) ในปี 2558

เบเนลลีคีย์เวย์ลั่น ตรึงราคาบิ๊กไบค์
เบเนลีย์ คีย์เวย์ ไทยแลนด์ ประกาศไม่ขึ้นราคารถบิ๊กไบค์ หลังที่ประชุม ครม.ปรับอัตราภาษี
สรรพสามิตเก็บตามซีซี
นายธนาชาต ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบเนลลี คีย์เวย์ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า
บริษัทประกาศไม่ปรับเพิ่มราคารถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) ในรุ่นที่ได้รับผลกระทบจากการปรับ
โครงสร้างอัตราภาษีสรรถสามิตรถยนต์ใหม่ ที่ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ
วันที่ 18 ธ.ค. 2555

หลอดแอลอีดีอนาคตสดใส
แอลแอนด์เอ็ม เดินหน้าบุกตลาดหลอดแอลอีดีประหยัดพลังงาน รับปี 2559 หลอดแอลอีดีครองส่วนแบ่ง
45%
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ หรือแอลแอนด์เอ็ม
ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของไทยและภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า บริษัท
พร้อมเดินหน้าขยายฐานตลาดหลอดแอลอีดีประหยัดพลังงานอย่างเต็มตัว ทั้งช่องทางค้าส่ง ค้าปลีก และ
ลูกค้าองค์กร

สรุปข่าวหุ้น-ตลาดทุน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

กองทุนไล่หุ้นทำดัชนี ลุ้นโค้งสุดท้ายปี 1,400 จุด ระวังปีหน้าทริกเกอร์ฟันด์ขาย
โบรเกอร์คาดวันนี้หุ้นมีสิทธิแตะ 1,400 จุด แรงดันจากกองทุน LTF-RMF แต่ระวังปีหน้าทริกเกอร์
ฟันด์จ่อขาย
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 27 ธ.ค. ปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะครึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาด มีแรง
ซื้อไล่ห้นใหญ่ในกลุ่มพลังงาน ส่งดัชนีขึ้นไปทำปิดสูงสุดในรอบ 16 ปี ที่ระดับ 1,397.17 จุด เพิ่มขึ้น 14.96
จุด หรือ 1.08% มูลค่าการซื้อขาย 37,164.84 ล้านบาท สถาบัน-กองทุนซื้อหนัก 2,342 ล้านบาท ต่าง
ชาติซื้อ 2,544 ล้านบาท

KSL แยกพลังงานเข้าตลาด ปีหน้ากำไรดีเท่าธุรกิจน้ำตาล เอทานอล-โรงไฟฟ้ายังโตได้
"น้ำตาลขอนแก่น" ขายแนวคิดแยกธุรกิจพลังงานจดทะเบียนในตลาดหุ้น ภายหลังสัดส่วนกำไรมี
แนวโน้มเพิ่มขึ้นจนทัดเทียมธุรกิจน้ำตาลในปี 2556
นายจำรูญ ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท น้ำตาล ขอนแก่น
(KSL) เปิดเผยว่า ในงวดปี 2556 นี้ (พ.ย.2555-ต.ค.2556) คาดว่าธุรกิจพลังงานน่าจะสามารถสร้าง
กำไรที่ดี จนสัดส่วนกำไรเพิ่มขึ้นมาเป็น 50% ของกำไรสุทธิ จากงวดปี 2555 มีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 40%
ส่วนที่เหลือจะเป็นกำไรที่มาจากธุรกิจน้ำตาล

'อควา' หาเงินเพิ่มทุน 750 ล. ขายหุ้นเจาะจง
อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA) ก๊อปปี้สูตรเพิ่มทุน SLC เพิ่มทุนขายพีพี 1,500 ล้านหุ้น
นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA) เปิดเผยว่า
คณะกรรมการอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 750 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียน 1,235.62 ล้านบา เป็น
1,985.62 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,500 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
เพื่อเสนอขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจง ขายหุ้นละ 0.501 บาท กำหนดวันจองซื้อภายหลัง

ซิงเกอร์ตั้งเป้า 3 ปี กำไรโตปีละ 20%
SINGER ขอเวลา 2 ปี ขยายผลหลังแตก 2 บริษัทใหม่ ปูทางรับเออีซี ดันกำไรโตปีละ 20%
นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) เปิดเผยว่า บริษัท
ขอเวลา 2 ปี ในการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจหลังได้จัดตั้ง 2 บริษัทใหม่คือ บริษัท ซิงเกอร์ ลีสซิ่ง เพื่อ
ประกอบธุรกิจเช่าซื้อสินค้า และบริษัท ซิงเกอร์ เซอร์วิส พลัส ประกอบธุรกิจบริการซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่อง
ใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ต่อไปนี้ SINGER จะมี 3 หน่วยธุรกิจ คือ เช่าซื้อ บริการ และตัวแทนจำหน่ายสินค้า
ทั้งหมดนี้เพื่อรองรับการขยายตัวในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)

กสิกรมองทอง 1,900 เหรียญ
บลจ.กสิกร มองทองคำปีหน้าวิ่งกรอบ 1,850-1,900 เหรียญสหรัฐ ประเดิมปันผล K-GOLD กว่า
300 ล้านบาท
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย
เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ราคาเป้าหมายของทองคำในปี 2556 ที่ประมาณ 1,850-1,900 เหรียญสหรัฐ
ต่อออนซ์ โดยมองว่าในระยะยาวราคาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ มีแนวโน้ม
จะดำเนินมาตรการผ่อนคลาดทางเศรษฐกิจต่อเนื่องผ่านการอัดฉีดเม็ดเงินออกมา โดยเฉพาะในสหรัฐและ
ยุโรป ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ

'วรรณ' ปลื้ม ผลงาน LTF แนะลงทุนต่อ
บลจ.วรรณ ปลื้มผลงานกองทุน LTF แนะจับจังหวะเข้าซื้อหุ้นช่วงปรับฐาน เชื่อปีหน้าเงินไหล
เข้าตลาด
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ
เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นของบริษัทน่าพอใจ โดยเฉพาะกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็ก
ทีฟโกรทหุ้นระยะยาว (1SG-LTF) ปีนี้ผลตอบแทนถึงวันที่ 24 ธ.ค. อยู่ที่ 47.96% ขณะที่กองทุนเปิดวรรณ
เอเอ็มซีเล็คทีฟหุ้นระยะยาว (S-LTF) ผลตอบแทน 38.95% ซึ่งทั้งสองกองทุนมีผลดำเนินงานดีอยู่ในอันดับ
ต้นของกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ให้ผลตอบแทน 34.18%


รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1675

โพสต์

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย 28/12/55 วันสุดท้ายของปี

วันนี้้(27ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 27 ธ.ค. ดัชนีหุ้นไทยยังแกว่งตัวสดใสและยืนในแดนบวกได้ ซึ่งพุ่งขึ้นแรงช่วงบ่ายจนท้ายตลาดหนุนดัชนีเข้าใกล้ระดับ 1,400 จุด ตามแรงซื้อของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) หนุน ส่งผลให้ระหว่างวันหุ้นไทยทะยานขึ้นสูงสุดที่ 1,398.80 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 1,384.24 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,397.19 จุด เพิ่มขึ้น 14.96 จุด หรือ 1.08% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37,164.84 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 415.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.45 จุด มูลค่าซื้อขาย 4,034.56 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก
1. ซีพีออลล์ ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2. ยูนิ เวนเจอร์ ปิดที่ 10.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.85 บาท
3. ปตท. ปิดที่ 335.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
4. ปตท.สผ. ปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
5. อินทัช ปิดที่ 70.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกได้ทั้งวัน ตามตลาดหุ้นเอเชียที่เพิ่มขึ้น โดยมีแรงซื้อกระจายในหุ้นกลุ่มต่างๆ รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่จึงมีผลต่อการปรับตัวของดัชนี อีกทั้งได้รับปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อของกองทุนแอลทีเอฟ และอาร์เอ็มเอฟหนุน ส่วนแนวโน้มวันที่ 28 ธ.ค.นี้ มองว่า ดัชนียังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามแรงเข้าซื้อของกองทุนในประเทศ และการเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ก่อนที่จะหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยต้องติดตามแนวทางการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐ ว่าจะออกมาอย่างไร หลังได้เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ประเมินแนวรับที่ 1,381-1,384 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด ด้านกลยุทธ์ แนะนำขายทำกำไรหากดัชนีถึงแนวต้าน ส่วนนักลงทุนระยะยาวควรถือข้ามปี

รูปภาพ

เขียนโดย Nork-koRK investor
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1676

โพสต์

สรุปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ตร.เตือนปีใหม่-ก๊งเหล้าในรถเจอจับแน่ฝ่าฝืนโดนคุก6เดือนเริ่ม7วัน! เฝ้าระวังอันตราย
เริ่มแล้ว 7 วันอันตรายช่วงปีใหม่ ตั้งเป้าลดยอดตาย 5 เปอร์เซ็นต์ ไม่เกิน 320 ราย
เจ็บไม่เกิน 3,207 คน ปราจีนฯประเดิมแล้วศพแรก หนุ่มซิ่งกลับจากงานเลี้ยงปีใหม่ อัดเสาไฟฟ้า
ดับสยอง น.ศ.นครปฐม ขี่จยย.แซงซ้ายรถบัส ถูกขยี้ตายอนาถ เตือนอีก ก๊งเหล้าในรถถูกจับแน่
ฝ่าฝืนคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท แรงงานในกรุงทยอยกลับภูมิลำเนา หมอชิต-หัวลำโพงคึกคัก
พหลฯ เอเชีย มิตรภาพ คับคั่ง 'โคราช' เพิ่มเที่ยวรถทัวร์อีก 1 เท่า ส่วนที่อุบลฯเพิ่มขบวนรถไฟ
แก้ปัญหาผู้โดยสารตกค้าง

ป๋าชี้อยู่ร่วมกันได้แตกต่างไม่ใช่แตกแยก'ปู'เปิดใจ-เสถียรภาพปีหน้า มติปชป.ส่งสุขุมพันธุ์ชิงผู้
ว่า'อภิสิทธิ์-กรณ์'งดออกเสียง

'ป๋า' เปิดบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ให้บิ๊กทหารเข้าขอพรปีใหม่ ย้ำคิดต่างกันได้แต่ต้องไม่ใช่
ความแตกแยก วอนให้เริ่มกันด้วยความรัก ความสามัคคี และให้อภัยกัน 'นายกฯปู' ให้สัมภาษณ์
พิเศษข่าวสด-เครือมติชนมั่นใจปีหน้ารัฐบาลยังมีเสถียรภาพปึ้ก เพราะมาจากประชาชน ยืนยันทำ
งานให้คนทั้งประเทศ ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง ลั่นไม่ท้อถอยที่จะสร้างความปรองดอง ส่วนการแก้รัฐ
ธรรมนูญนั้นดำเนินการแน่ อยู่ที่ว่าจะใช้วิธีการใดเท่านั้น ด้านประชาธิปัตย์เคาะแล้วมติ 9 ต่อ 6
ส่ง 'ชายหมู' ชิงผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย

จับแล้ว2โจรเชือดคอแท็กซี่สารภาพ-เมาจัดหาเงินซื้อ'เบียร์'
'บิ๊กแจ๊ด' แถลงตำรวจตามรวบตัวได้แล้ว แก๊งโหดปาดคอ-ปล้นทรัพย์แท็กซี่หญิง ทั้งยัง
ถีบลงจากรถแล้วขับทับร่างซ้ำจนบาดเจ็บปางตาย หนึ่งในคนร้ายสารภาพสุดอนาถ อ้างไม่รู้มาก่อน
ว่าเพื่อนชวนมาปล้น หลังก่อเหตุได้ส่วนแบ่งแค่ร้อยกว่าบาท ส่วนเงินที่เหลือเอาไปซื้อเบียร์กิน เร่ง
ล่าตัวโจรโฉดอีกคนที่ยังหลบหนี

16เหยื่อปืนแจ้งจับมาร์ค-เทือกแล้วให้การมัดพยายามฆ่าสลดนักโทษเสื้อแดงตายคาเรือนจำหลัก
สี่

16 คนเจ็บเหยื่อปืนเม.ย.-พ.ค.53 แจ้งความจับ 'มาร์ค-เทือก' แล้ว ให้การมัดข้อหา
พยายามฆ่านำโดย 'ลุงสมร ไหมทอง' คนขับรถตู้ รวมทั้ง 'เสกสิทธิ์ ช้างทอง' หนุ่มจยย.รับจ้างที่
ถูกยิง 2 หนจนตาบอด 2 ข้าง ก็มาด้วย ขณะที่ 'ธาริต' แถลงผลประชุม 3 ฝ่าย เล็งรวมคดีพัน คำ
กอง น้องอีซา ลุงสมร เป็นคดีเดียวกัน แต่ต้องรอรายละเอียดคำสั่งคดีอีซาจากศาลเสียก่อน คาด
หลังปีใหม่แจ้งข้อหาเพิ่ม พร้อมทั้งเสนอผ่านอัยการคดีพิเศษ ออกหมายจับ 3 ชายฉกรรจ์กอง
กำลังไม่ทราบฝ่าย คดีฆ่า 'พ.อ. ร่มเกล้า' หากศาลอนุมัติก็จะเปิดโฉมหน้าผู้ต้องหา เหตุสลดใน
เรือนจำหลักสี่ จำเลยเสื้อแดงคดีเผาศาลากลางจังหวัดอุดรฯ เสียชีวิตคาคุก

คุก34ปีพธม.ชนตร.พลิกจากชั้นต้นส่ง'ลิ้ม'ฟ้องศาลยึดทำเนียบ-สภา
อัยการส่ง 'ลิ้ม' ฟ้อง 2 คดี ศาลประทับรับฟ้องแล้ว ทั้งบุกทำเนียบล้อมสภา โดนพร้อม
แกนนำ พธม. ทนายพธม.เผยผู้ต้องหาที่เหลือจะเข้าพบอัยการเพื่อส่งฟ้องในวันที่ 22 ม.ค. ด้าน
อัยการเผยคดีแนวร่วมพธม.ขับรถชนตร. ศาลอุทธรณ์พิพากษาจากจำคุก 3 ปีแต่ให้รอลงอาญา
เป็นจำคุกตลอดชีวิต ฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน แต่ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือจำคุก 34
ปี ชี้เป็นอุทาหรณ์ผู้ชุมนุมทางการเมือง ควรปฏิบัติตามกฎหมาย-อย่าใช้ความรุนแรง

'ตร.อีสาน'โวยจับสลากลงใต้
นายตำรวจระดับรองสารวัตร-สารวัตรฮือค้านนโยบายตร.แห่งชาติ ให้นายตำรวจตำแหน่ง
พนักงานสอบสวนทั่วประเทศ จับสลากลงไปทำงานภาคใต้ เหตุจากกำลังไม่เพียงพอ 76 นาย
ตำรวจภูธรภาค 4 ยื่นหนังสือถึงก.ตร.ให้ระงับคำสั่ง หากไม่มีผลจะฟ้องศาลปกครอง เผยเหตุ 3
จว.ใต้ขาดแคลนพงส.ต้องการถึง 150 ตำแหน่ง แต่มีสมัครใจไปเพียง 30 คนเท่านั้น ผบ.ตร.แจง
เหตุกำลังพลไม่เพียงพอ จึงต้องใช้วิธีนี้อยากให้ทำเพื่อชาติเพราะตอนนี้ภาคใต้ขาดกำลังพล
จำนวนมาก ระบุแม้แต่ตัวเองก็เคยได้รับคำสั่งลงไปประจำภาคใต้นานถึง 3 ปีครึ่งมาแล้ว ด้าน 'เห
ลิม' จวกไม่มีวินัย เพราะผู้บังคับบัญชาสั่งต้องทำตาม หากทำไม่ได้ให้ลาออกไป กำชับผบ.ตร.ตั้ง
กก.สอบวินัยทันที

สรุปข่าวหน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ข่าวสด

รถคันแรกดันดัชนีอุตฯพ.ย.วิ่งฉิว ผวา!พิษค่าแรง300บาททุบจ้างงานวูบ2แสนคน
นายณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผย
ว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) ในเดือนพ.ย.2555 อยู่ที่ 189.11 ขยายตัวจากช่วงเดียว
กับปีก่อน 83.3% โดยได้อานิสงส์จากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ จากนโยบายรถ
คันแรกของรัฐบาล ขณะที่ภาพรวม 11 เดือนแรกของปี 2555 (ม.ค.-พ.ย.) ดัชนีผลผลิต
อุตสาหกรรมขยายตัว 1% ปรับตัวดีขึ้นจากช่วง 9 เดือนแรกที่ติดลบ 11% ส่วนการส่งออก
อุตสาหกรรมขยายตัว 37.1%

กสร.ขู่ขึ้นค่าจ้างลวงเจอยัดคุก6ด.-ปรับ1แสน
นายปกรณ์ อมรชีวิน อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวถึงการ
เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทใน 70 จังหวัด มีผลในวันที่
1 ม.ค.2556 ว่า หลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่พูดคุยกับกลุ่มธุรกิจใน จ.ตาก ได้รับข้อมูลว่า มีธุรกิจเอส
เอ็มอีบางแห่งประกาศชัดเจนว่าไม่พร้อมปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท และมีลูกจ้างยินยอมที่จะ
รับค่าจ้างที่ต่ำกว่านั้น เพราะไม่ต้องการให้สถานประกอบการที่ทำงานอยู่ปิดตัวลงและต้องตกงาน

ยอดขอบีโอไอทะลุ1.1ล้านล้าน
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม
การลงทุน (บีโอไอ) ได้รายงานภาพรวมการลงทุนในปี 2555 มีมูลค่าเงินลงทุนสูงเกิน 1 ล้านล้าน
บาทแล้ว โดยมีโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 2,180 โครงการ เงินลงทุนรวม
ประมาณ 1,127,900 ล้านบาท จำนวนโครงการเพิ่มขึ้น 9% เทียบช่วงเดียวกับของปีก่อน ขณะที่
มูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่า 634,255 ล้านบาท
ทั้งนี้ กลุ่มกิจการที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ และ
สาธารณูปโภคยื่นขอรับส่งเสริม 601 โครงการ เงินลงทุน 373,823 ล้านบาท รองมาเป็น
ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร ยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ 544 โครงการ เงินลงทุน 239,642
ล้านบาท

สนามบินภูเก็ตอืดจี้เร่งมือ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังลงสำรวจพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาความ
แออัดการใช้บริการในสนามบินภูเก็ต เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ว่า ปัจจุบันมีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว
เดินทางผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตสูงถึงปีละ 9.1 ล้านคน ขณะที่มีศักยภาพรองรับได้เพียง 6.5 ล้าน
คน โดยขณะนี้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ได้เริ่มแผนก่อสร้างขยายท่า
อากาศยานแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา และมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนก.พ.2557 ภายใต้งบ
ก่อสร้าง 5,791 ล้านบาท

กฟผ.ห่วงเขื่อนใหญ่น้ำน้อย-อีสานยังแล้ง
นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ ณ วันที่ 26 ธ.ค.2555 มีปริมาณน้ำ 44,062
ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 72% ของความจุ น้อยกว่าปีที่แล้ว 19% หรือ 10,203 ล้าน
ลบ.ม. มีปริมาณน้ำใช้งานได้ 21,018 ล้านลบ.ม. โดยอ่างเก็บน้ำทุกแห่ง (ยกเว้นเขื่อนวชิราลงกร
ณ) มีปริมาณน้ำในอ่างน้อยกว่าปีที่แล้ว รวมทั้งเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปี
ที่แล้วมากถึง 8,000 ล้านลบ.ม. เนื่องจากปีนี้ฝนน้อยอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยเท่านั้น

สคบ.ผุดกองทุนเยียวยาผู้บริโภค
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการประชุม
คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) ว่า ได้สั่งการให้ สคบ.ดูแลเยียวยาผู้บริโภคที่อยู่ระหว่าง
การฟ้องร้องคดีที่อาจต้องใช้เวลา หากผู้บริโภคได้รับความเสียหายไม่สามารถได้รับเงินเยียวยา
ทางคดีได้ในทันที ทางสคบ.ต้องยื่นมือเข้าไปเยียวยาทันที โดยเฉพาะเรื่องเงินประกันจากกองทุน
สคบ. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้บริโภคจนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น สำหรับปัญหาที่เกิดจากการซื้อ
รถใหม่ที่เกิดขึ้นขณะนี้ได้สอบถามกับผู้ประกอบการและ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ จะเกิดจากการ
โฆษณาเกินจริง ในเรื่องการประหยัดน้ำมัน และการลดแลกแจกแถม ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการอ่าน
สัญญาไม่ครบถ้วนของผู้บริโภค

สบน.มั่นใจอีก7ปีหนี้สาธารณะไม่เกิน50%
น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ขณะ
นี้ สบน.กำลังหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด
หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่ออนุมัติให้รัฐบาลลาวออกพันธบัตรสกุลเงินบาทในไทยวงเงิน 1,500 ล้าน
บาท ซึ่งลาวถือเป็นประเทศแรกที่ไทยอนุมัติให้ออกพันธบัตรสกุลเงินบาท โดยเงินดังกล่าวนำไป
ก่อสร้างเขื่อนในลาว หากได้รับการอนุมัติช่วงต้นปี 2556 ลาวสามารถออกพันธบัตรภายใน 6
เดือน

'ทนุศักดิ์'โยนกองสลากรื้อกฎหมาย เซ็งหวยตู้โดนโรคแทรกเยอะ-เกิดไม่ทันต้นปี'56
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิด
เผยว่า ได้มอบอำนาจให้คณะกรรมการสลากฯ ไปพิจารณาความเหมาะสมและความจำเป็นในการ
ปรับแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 รวมถึงให้พิจารณา
เป็นกรณีพิเศษเกี่ยวกับข้อเสนอของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.
ป.ช.) ทั้งเรื่องการจัดสรรโควตาและการจำหน่ายสลากเกินราคา และแนวทางการจำหน่ายสลาก
ด้วยเครื่องอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) ให้มีความชัดเจน พร้อมทั้งประเมินผลของนโยบายโครงการ
หวยออนไลน์เป็นประจำทุกปี จากองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหากำไร และไม่มีส่วนได้เสีย

ซีพีเอฟลุ้นยอดขายปีหน้า4แสนล.
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญ
โภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ในปี 2555 คาดซีพีเอฟจะมียอดขาย
รวมประมาณ 3.5 แสนล้านบาท โดยเป็นรายได้ที่มาจากการลงทุนในต่างประเทศ 12 ประเทศทั่ว
โลกประมาณ 55% จากการส่งออก 8% และที่เหลือเป็นรายได้ในประเทศ 37% จะเห็นได้ว่าสัด
ส่วนรายได้ทั้งการส่งออกและการลงทุนจากต่างประเทศมีสัดส่วนรวมกันประมาณ 3% ซึ่งเป็นไป
ตามเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มรายได้ในส่วนนี้ให้มากขึ้น

ที่มา รูปภาพ
เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม


ที่มารูปภาพ

28/12/2555
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1677

โพสต์

รูปภาพ

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น

28 ธ.ค.--ข่าวหุ้น
Distributor - Bisnews AFE


รายใหญ่เก็งงบ 'ยูวี' บิ๊กล็อต 10.40 บ.-ลุยกองอสังหา 1 หมื่นล.
ขาใหญ่ลุยเก็บหุ้นยูนิเวนเจอร์ หรือ UV ทำบิ๊กล็อต 6 ล้านหุ้น ที่ 10.40 บาทสูงกว่ากระดาน หลังพบ
UV มีแผนขายพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ Q1 ปี 56 คาดกำไรไม่ต่ำกว่า 3-4 พันล้านบาท ดันราคาพุ่ง 15-18 บาท
พร้อมศึกษาขายไอพีโอ GRAND-U ไตรมาสสอง

เปิดโผหุ้นซิ่งแรงปี 2555 แคปปิตอลเกน 1,640%
"ข่าวหุ้นธุรกิจ" รวบรวมหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่ต้นปี 55 เทียบปัจจุบัน TH ติดอันดับหนึ่งสูงสุด
1,641% อันดับ 2 หุ้น LIVE วิ่งแรง 440% ส่วน UV แจกส่วนต่าง 425% ส่วน RAM ราคาหุ้นปรับตัวสูง
สุดบวกไป 736 บาท ด้านหุ้นในตลาด mai ไม่น้อยหน้ามี TSF อันดับหนึ่ง ผลตอบแทน 561%

LH ปีนี้แชมป์กำไรสุทธิ รายได้ทะลุ 2 หมื่นล้าน
"อดิศร" การันตีผลงาน LH ปีนี้ทะลุเป้าทุกด้านรายได้เกิน 2 หมื่นล้านบาท ยอดขายสูงกว่า 2.2
หมื่นล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิมั่นใจยังครองแชมป์อันดับหนึ่งของกลุ่มอสังหาฯพร้อมเตรียมเปิดโครงการใหม่
ปีหน้ามากกว่า 16 โครงการ

10 ข่าวเด่นการเงิน-หุ้น
"ข่าวหุ้นธุรกิจ" ได้สรุปข่าวเด่นด้าน "ตลาดเงิน-ตลาดทุน" ของไทย จำนวน 10 ข่าว ในปี 2555
เจ้าสัวไทย ดีลเมกเกอร์ใหญ่ของโลกในรอบปี 2555 ผู้ประกอบการของประเทศไทยได้ใช้เงินสูงสุดเป็น
ประวัติศาสตร์เพ่อเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ กระทั่งติดอันดับ 3 ของโลก

โมโนกรุ๊ปเล็งระดมทุนลุยเข้าเทรดตลาด mai ขายไอพีโอ 245 ล้านหุ้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัท โมโน
เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจสื่อและการให้บริการข้อมูลรวมถึงธุรกิจให้บริการด้านบันเทิง
เตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่
ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 245 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.10 บาท ขณะนี้
บริษัทได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต.เพื่อขอเสนอขายหุ้น IPO แล้ว โดยแต่งตั้งให้บริษัท แอดไวเซอรี่ จำกัด
เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

KSL โชว์กำไร 2,354 ล้านโต 25% อานิสงส์การผลิตไฟฟ้า-ปริมาณเอทานอลเพิ่ม
KSL โชว์งบปี 2555 (พ.ย.54-ต.ค.55) กำไรพุ่ง 25% ยืน 2,354 ล้านบาท เหตุมีการ
ผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเพิ่มขึ้น 55% และได้เปิดดำเนินการ โรงงานผลิต
เอทานอลที่บ่อพลอย หนุนปริมาณเอทานอลที่จำหน่าย เพิ่มขึ้น 201%

MCOT วิ่งรับเป้าหมายใหม่โบรกฟันธงราคา 52.50 บาท
หุ้น MCOT วิ่งรับราคาเป้าหมายใหม่ 52.50 บาท โบรกฯ สั่งปรับเพิ่มประมาณการ ขานรับปัจจัย
บวกขึ้นราคาโฆษณา เชื่อรายได้ปี 2556 พุ่งทะยาน 6.7 พันล้านบาท ดันกำไรสุทธิ ทะลัก 2.1 พันล้านบาท

MATCHเดินหน้าแผนเพิ่มทุน ผู้ถือหุ้นไฟเขียวระดมเงินสร้างเมืองถ่ายหนัง
ผู้ถือหุ้น MATCH ไฟเขียวเพิ่มทุน 217 ล้านหุ้น "สมบุญ" ลั่นพร้อมนำเงินระดมทุนสร้างเมืองถ่ายหนัง
ครบวงจร รองรับเปิด AEC ในอนาคต ย้ำหลังเพิ่มทุนหนุนฟรีโฟลตหุ้นบริษัทพุ่งขึ้นทะลัก

ROJNAบุ๊ค 980 ล้านขายบ.ย่อย นำเงินลงทุนเพิ่ม-ปี 56 ตั้งเป้าขายที่ดิน 1.5 พันไร่
"โรจนะ" ลั่นปีหน้าจ่อบันทึกรายได้ 980 ล้านบาท จากการขายหุ้น "อาร์พีดีพร็อพ เพอร์ตี้
ดีเวลลอปเม้นท์" เล็งนำเงินที่ได้ไปซื้อที่ดินรองรับการเติบโตในอนาคต พร้อมตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีหน้าที่
1,500 ไร่ ใกล้เคียงปีนี้ ด้าน AMATA เล็งนำ "อมตะ วีเอ็น" เข้าจดทะเบียนใน ตลท.คาดเริ่มดำเนิน
การ ม.ค.56

STA วิ่งรับราคายางเด้ง รัฐออกมาตรการหนุนแนะซื้อเป้า 19.10 บาท
STA ราคาวิ่งรับแนวโน้มราคายางปรับตัวขึ้นในไตรมาส 1/56 โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการ
รัฐเข้าแทรกแซงราคายาง ทั้งจากญี่ปุ่น และไทย โบรกฯปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย
19.10 บาท/หุ้น

คมนาคมจ่อตั้งกรมขนส่งระบบราง
คมนาคมเตรียมตั้ง "กรมขนส่งระบบราง" ลุยงานก่อสร้างและกำกับดูแลระบบรางทั้งหมด รวมถึง
รถไฟเร็วสูง พร้อมรับโอนหนี้มาทั้งหมด ส่วนร.ฟ.ท.กับรฟม.รับผิดชอบแค่งานเดินรถ ปลัดคมนาคม มั่นใจ
การบริการดีขึ้น

BMCL ยันรายได้ปีนี้เกิน 2 พันล้าน รอรัฐติดต่อเจรจาลดค่าจ้างเดินรถสายสีม่วง
BMCL รอรัฐติดต่อเจรจาลดค่าจ้างเดินรถสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ เอ็มดีแย้มผลดำเนินงานปีนี้สุดเจ๋ง
ยอดผู้โดยสารพุ่ง ล่าสุดเฉลี่ย 2.3 แสนคนต่อวัน รายได้เกิน 2,000 ล้านบาท ขณะอีบิทด้าบวก 500 ล้าน
บาท

'อนุดิษฐ์'ชี้ชัดหลังหมดสัมปทาน คลื่น 1800MHz ให้ CAT บริหารต่อ
"อนุดิษฐ์" ระบุชัดหลังหมดสัญญาสัมปทานคลื่นความถี่ 1800 MHz ควรให้กสทฯ บริหารต่อ ชี้ลูกค้า
บางส่วนไม่ย้ายโครงข่ายขณะที่การแก้ไขสัญญายุติ ทรูฯ ต้องทำธุรกิจ 3 จี กับกสทฯ ภายใต้เงื่อนไข
MVNO เพื่อปั๊มรายได้ทดแทนรายได้สัมปทาน

'เปรม' ชี้ให้สามัคคีกัน เห็นแตกต่างได้ แต่ต้องไม่แตกแยก
วานนี้ (27 ธ.ค.) พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เปิดบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ให้ พล.อ.อ.สุกำพล
สุวรรณทัต รมว.กลาโหม นำ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม. พล.อ.ธนะศักดิ์
ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก, พล.ร.อ.สุรศักดิ์
หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการ ทหารเรือ, พล.อ.อ.ประจิน จันตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ, พล.ต.อ.อดุลย์
แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมด้วยคณะนายทหารและนายตำรวจระดับสูง เข้าร่วมอวยพรและ
ขอพรปีใหม่

บลจ.ปีมังกรเอยูเอ็มพุ่ง 10% มองปี 56 สุดคึก วางเป้าเติบโตตัวเลข 2 หลัก
ผู้จัดการกองทุนเผย อุตสาหกรรมกองทุนไทยปีนี้โตดี แม้วอลุ่มการซื้อขายกอง LTF ไม่เป็นตามคาด
เหตุนักลงทุนหวั่นซื้อของแพงและบางส่วนเจียดเงินไปซื้อรถยนต์คันแรกตามนโยบายรัฐก็ตาม ส่วนปีหน้ามอง
เติบโตดีต่อเนื่องรับเศรษฐกิจไทยบูม บลจ.แต่ละแห่งพร้อมเล็งขยายตลาดเตรียมโกยเม็ดเงินในระบบที่ยัง
เข้าไม่ถึงอีก 8 ล้านบาทเข้าพอร์ต โดยกองทุนหุ้นดาวเด่นชูโรง

กสิกรมองทองผันผวนช่วงสั้น รอหาจังหวะซื้อ
บลจ.กสิกรไทย เตรียมประเดิมจ่ายปันผล K-GOLD รับปีใหม่กว่า 300 ล้านบาท เล็งแนวโน้ม
ทองคำปี 56 วิ่งแตะกรอบ 1,850-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะรอจังหวะเข้าลงทุนต้นปี คาด Fiscal
Cliff จบสวยดันผลตอบแทนพุ่งต่อ

กรุงไทยจัดแคมเปญหนัก ลุ้นรถ-ไอแพด 100 เครื่อง
นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและสื่อสารองค์กร ธนาคาร
กรุงไทย เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารได้เล็งเห็นความสำคัญของลูกค้าที่ใช้บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ จึง
ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และจัดแคมเปญเพื่อขอบคุณลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ แคม
เปญ KTB Thank You Festival ชิงรถยนต์ Mercedes Benz และทองคำแคมเปญ ทำบัตร ใช้ตู้ จับคู่
ลุ้นรถ ชิงรถยนต์ Honda Brio และรถจักรยานยนต์ Honda click I แคมเปญ KTB Motor Show ชิง
รถยนต์ All New Honda Civic 2012 และล่าสุดธนาคารได้จัดแคมเปญ กดตู้ KTB ลุ้นฟรี MINI เป็น
ร้อย เป็นแคมเปญส่งท้ายปี

'วรรณ' ปลื้มผลงานกองทุนไทยสุดเด่นรีเทิร์นเกือบสูงสุด
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด
เปิดเผยว่า อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นปี 2555 ถือว่าอยู่ในระดับสูงอันดับต้นๆ ของตลาด
หุ้นโลกโดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2011 จาก 1,025.32 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,375.82
จุด (วันที่ 24 ธันวาคม 2555) โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 350.5 จุด หรือ 34.18%

คลังลั่น!กดหนี้ไม่เกิน50% งบประมาณสมดุลปี 60 - มูดี้ส์เก็บข้อมูลเพิ่ม
สบน.ทำประมาณการตัวเลขหนี้สาธารณะสูงสุดในปี 59 ที่ 49.9% ของจีดีพี และงบประมาณจะสู่
ภาวะสมดุลในปี 2560 หลังกู้เงินทำโครงการบริหารจัดการน้ำและโครงสร้างพื้นฐาน ด้านมูดี้ส์เตรียมเก็บ
ข้อมูลไทยช่วงต้นเดือนหน้า

KBANK โกยค่าฟีรายย่อยปีหน้าหม่ำอีก 2.2 หมื่นลบ.
กสิกรไทย (KBANK) เผยแผนธุรกิจรายย่อยปีหน้า เน้น 4 ด้านหลัก ตั้งงบ 500 ล้านบาท พร้อมตั้ง
เป้ารายได้จากค่าธรรมเนียมเติบโต 26-29% ทะลุ 2.2 หมื่นล้านบาท เทียบกับปี 2555 ที่คาดว่าเติบโต
26% หรือ 1.72 หมื่นล้านบาท


รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1678

โพสต์

รูปภาพ

"ธนา"อำลาจีเอ็มเอ็มแซทสะพัด"อินทัช"ตามจีบ

“ธนา”ยอมรับข่าวเตรียมยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “จีเอ็มเอ็มแซท” ต้นปีหน้า เผยส่งถึงฝั่งสร้างแพลทฟอร์มยกแรก 1 ล้านกล่อง แหล่งข่าวเผยอินทัช-ซิตี้แบงก์จีบร่วมทีมบริหาร

ขณะที่แหล่งข่าวในวงการทีวีดาวเทียม เปิดเผยว่า นายธนา เธียรอัจฉริยะ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด จะทำการยื่นลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารบริหารดังกล่าว ในต้นปี 2556 นี้ โดยก่อนหน้านี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่หลายราย ได้ยื่นขอเสนอให้แก่นายธนา เพื่อดำรงตำแหน่งบริหาร ซึ่งมีทั้งซิตี้แบงก์และอินทัช

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ความเป็นไปได้น่าจะเป็นการเข้าไปบริหารในกลุ่มอินทัช ซึ่งขณะนี้กำลังซุ่มลุยธุรกิจมีเดียอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีความสนใจในการประมูลทีวีดิจิทัล 3 ช่อง รวมถึงประเภทโครงข่ายที่จะเริ่มมีการประมูลในปีหน้า

นายธนา เธียรอัจฉริยะ กล่าวยอมรับกระแสข่าวเตรียมลาออกว่าเป็นเรื่องจริง โดยก่อนหน้านี้ได้เกริ่นกับนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่นลาออกอย่างเป็นทางการ โดยตั้งใจว่าจะยื่นลาออกในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับนายไพบูลย์ ว่าจะยังให้เขาเป็นที่ปรึกษา หรือช่วยงานเบื้องหลังอีกหรือไม่

“ตอนนี้ผมนำพาแพลทฟอร์มจีเอ็มเอ็มแซท บุกเบิกมาเรียกได้ว่าจบภาคหนึ่งแล้ว มียอดขายถึง 1 ล้านกล่อง บรรลุเป้าหมายถึง 70-80% ผ่านเหตุการณ์มามากมายทั้งจอดำ ขึ้นโรงขึ้นศาล อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างผมและคุณไพบูลย์ ยังเหมือนเดิม เหมือนพี่ชาย ยังเป็นก๊วนกินข้าวกันเช่นเดิม” นายธนากล่าว

ขณะนี้อายุก็เริ่มมากขึ้น ปีนี้ 43 ปีแล้ว หากย้ายงานใหม่คงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนขึ้น สุขุมรอบคอบ ดูว่าวัฒนธรรมองค์กร และผู้ร่วมงานเข้ากันได้หรือไม่ รวมถึงอาจไปประกอบธุรกิจส่วนตัว ในเบื้องต้นอาจดูแลลูกไปก่อน ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอมพอดี จากตลอดการทำงานทั้งปีใช้เวลากับการทำงานค่อนข้างมาก ขณะที่ก่อนหน้านี้มีหลายบริษัทที่ชวนไปบริหาร แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ

“ส่วนของผู้บริหารที่จะมาดูแลต่อไป คงต้องให้ทางคุณไพบูลย์เป็นคนตัดสินใจ อาจเป็นลูกทั้ง 2 คน ทั้ง ฟ้าใหม่ และระฟ้า ที่จะเข้ามาสานต่อกิจการ ซึ่งผมเคยบอกแต่ทีแรกแล้วว่า ผมเข้ามาเหมือนเป็นพี่เลี้ยงให้ในระยะแรก” นายธนากล่าว

ทั้งนี้ การนั่งแท่นบริหารแพลทฟอร์มจีเอ็มเอ็มแซทของนายธนา เป็นระยะเวลาทั้งสิ้นกว่า 1 ปี ด้วยการบุกเบิกตั้งแต่ชื่อวันสกาย จนกระทั่งเปลี่ยนชื่อเป็นจีเอ็มเอ็มแซท สามารถบุกเบิกแพลทฟอร์มได้ถึง 1 ล้านกล่องภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1679

โพสต์

รูปภาพ

ผ่าทางตัน..สหรัฐตก"หน้าผาการคลัง"?

ทำเนียบขาวและวุฒิสภาร่วมกันทำงานอย่างหนักในช่วง 4 วันสุดท้ายของปี เพื่อผ่าทางตันปัญหาวิกฤติ "หน้าผาการคลัง" หรือ Fiscal C;iff ซึ่งต้องมีทั้งมาตรการขึ้นภาษี และปรับลดรายจ่ายงบประมาณ ก่อนที่ภาระหนี้สินจะพุ่งชนเพดานในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ หลังจากที่ "ไกธ์เนอร์" ออกมาเตือนหนี้สูงจะชนเพดานจันทร์หน้า เร่งคองเกรสแก้วิกฤติหน้าผาการคลัง ส่งผลต่อดัชนีดาวโจนส์ผันผวนหนักเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาร่วงลงกว่า 1% ก่อนที่จะไต่ขึ้นมาติดลบแคบลง 0.14% เมื่อปิดตลาด

โดยที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐ แจ้งสภาคองเกรสว่า หนี้สาธารณะจะพุ่งขึ้นแตะเพดานในวันจันทร์หน้าคือวันที่ 31 ธ.ค.นี้
นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังทำหนังสือแจ้งถึงสมาชิกสภาคองเกรสเมื่อวานว่าตัวเลขหนี้สาธารณะจะพุ่งสูงขึ้นจนเหลืออีกเพียง 95,000 ล้านดอลลาร์ก็จะแตะเพดานหนี้ที่ 16.39 ล้านล้านดอลลาร์ แต่กระทรวงการคลังได้ประกาศมาตรการชั่วคราวเพื่อชะลอรายจ่ายต่างๆรวม 2 แสนล้านดอลลาร์

เขากล่าวว่า มาตรการนี้จะช่วยซื้อเวลาได้เพียงเกือบ 2 เดือนเท่านั้น ในขณะที่เวลานี้กำลังมีปัญหาว่าจะตกลงแก้ไขวิกฤติหน้าผาการคลังที่จะมีการขึ้นภาษีและการตัดลดรายจ่ายพร้อมกันใน 1 ม.ค.ปีหน้าได้หรือไม่ ซึ่งหากหลีกเลี่ยงวิกฤติดังกล่าวไม่ได้ บวกกับมาตรการชั่วคราวสิ้นสุดลง ก็อาจถึงจุดที่กระทรวงการคลังไม่มีเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ย่อมมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะทำให้ประเทศประสบภาวะผิดนัดชำระหนี้ได้

นอกจากนี้สำนักงานตรวจสอบงประมาณ มีการคาดกันว่า หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงหน้าผาการคลังได้ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.5% ในครึ่งปีแรกของปีหน้าและทำให้ประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย

ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งรีบกลับจากพักผ่อนช่วงคริสต์มาสที่ฮาวายเร็วขึ้น โดยบินถึงกรุงวอชิงตันเช้าวานนี้ เพื่อร่วมเจรจากับแกนนำพรรครีพับลิกันเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขวิกฤติหน้าผาการคลัง แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสองฝ่ายอาจทำได้แค่เสนอแนวทางแก้ไขระยะสั้นเพื่อชะลอการขึ้นภาษีและการตัดลดรายจ่ายออกไปชั่วคราวอย่างน้อยจนถึงฤดูใบไม้ผลิ

ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องจากพรรครีพับลิกันให้วุฒิสภาที่จะเปิดสมัยประชุมวันนี้ เสนอร่างกฎหมายที่จะหลีกเลี่ยงวิกฤติหน้าผาการคลัง หลังสภาผู้แทนราษฎตกลงกันไม่ได้ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และปิดสมัยประชุมไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจุดยืนระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังคงแตกต่างกันมาก โดยโอบามายืนยันว่าจะไม่มีการขยายมาตรการลดภาษีให้กับผู้ที่มีรายได้สูงเกินกว่า 4 แสนดอลลาร์ต่อปี และต่ออายุโครงการให้สวัสดิการสังคมแก่คนว่างงาน แต่นายจอห์น เบอห์เนอร์ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน บอกว่า ควรขึ้นภาษีกับคนที่มีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป

จากภาวะที่สหรัฐกำลังเผชิญหน้ากับปัญาวิกฤติหนี้สาธารณะ ซึ่งเสี่ยงต่อการตกหน้าผา จนเรียกกันติดปากว่าเป็นภาวะ "หน้าผาการคลัง" ที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังต่อยๆฟื้นตัว อาจจะพลิกกลับเป็นการถดถอยได้ หากไม่สามารถหลุดจาก "หน้าผา" นี้ได้

โดยมีบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจที่ประเมินถึงภาวะเสี่ยงต่างๆ 6 ด้านเนื่องจาก 'หน้าผาการคลัง' ของสหรัฐในครั้งนี้ที่ชี้ว่า...

แม้จะเหลือเวลาไม่มากนัก ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายของสหรัฐ ในการเอาชนะ "หน้าผาทางการคลัง" แต่บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่างยังสงวนท่าทีในเรื่องนี้อยู่ ท่ามกลางความหวังว่าจะมีใครคิดแผนการเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ ที่ต้องหั่นงบประมาณครั้งใหญ่ ในเวลาเดียวกับการขึ้นภาษีชาวอเมริกันเกือบทั้งประเทศในช่วงหลังปีใหม่ 2556 ไปได้

สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้นักวิเคราะห์ตั้งคำถามว่าทางออกสำหรับภาวะหน้าผาการคลังในสหรัฐจะมีทิศทางอย่างไร หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายปรับขึ้นอัตราภาษีสำหรับผู้มีเงินได้สูงกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ความเสียหายจากภาวะหน้าผาการคลัง อาจกระตุ้นให้ทำเนียบขาวและวุฒิสภา ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก รวมทั้งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก พยายามหาทางบรรลุข้อตกลงต่อแผนการลดหย่อนภาษีสำหรับชาวสหรัฐส่วนใหญ่ และปรับลดงบรายจ่ายของรัฐบาลกลาง โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ได้วิเคราะห์ และระบุว่าวิกฤติหน้าผาการคลังอาจทำให้เกิดสถานการณ์ต่างๆ 6 รูปแบบด้วยกัน

การทำข้อตกลงขนาดเล็ก

ถ้าหากบรรลุข้อตกลงขนาดใหญ่ไม่ได้ ก็อาจตั้งเป้าบรรลุข้อตกลงขนาดเล็กแทน โดยนายโอบามาได้ขอให้นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน พบกันครึ่งทางอย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้หาทางออกบางส่วนให้แก่ภาวะหน้าผาทางการคลัง พร้อมเรียกร้องให้ยับยั้งการปรับขึ้นอัตราภาษีสำหรับประชากร 98 % ของสหรัฐ และเรียกร้องให้ต่ออายุมาตรการจ่ายเงินสวัสดิการว่างงานที่กำลังจะหมดอายุลง โดยประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่าการบรรลุข้อตกลงกันอย่างรวดเร็วจะเป็นการวางพื้นฐานสำหรับการปรับลดยอดขาดดุล

งบประมาณในอนาคต

ประธานาธิบดีโอบามาไม่ได้เจาะจงว่า ประชากรกลุ่มใดคือเป้าหมายในการขึ้นภาษี โดยในการเจรจาต่อรองกับนายโบห์เนอร์นั้น ผู้นำสหรัฐยอมปรับท่าทีของตัวเอง ที่เคยประกาศไว้ในช่วงหาเสียงเรื่องขึ้นภาษีครัวเรือนที่มีรายได้สุทธิสูงกว่า 250,000 ดอลลาร์ต่อปี เป็นครัวเรือนที่มีรายได้สุทธิสูงกว่า 400,000 ดอลลาร์ต่อปี ขณะนายโบห์เนอร์เสนอปรับภาษีสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้สูงกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี ก่อนโดนสภาปฏิเสธ

สิ่งที่ไม่ได้อยู่ในข้อเสนอล่าสุดของนายโอบามาคือ ข้อเรียกร้องให้ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลขึ้นมาจากระดับ 16.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน โดยมีแนวโน้มว่าหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐจะพุ่งขึ้นชนเพดานภายใน 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งหากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ภายในกลางเดือนก.พ. 2556 กระทรวงการคลังอาจไม่มีช่องทางในการกู้ยืมเงินได้อีก และอาจส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐผิดนัดชำระหนี้

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก็คือ สมาชิกรีพับลิกันหลายคน อาจไม่ต้องการสนับสนุนมาตรการปรับขึ้นภาษีใดๆ ถ้าหากไม่มีการปรับลดงบรายจ่ายครั้งใหญ่ในระยะยาว อย่างไรก็ดี ส.ส.ฝั่งเดโมแครตอาจร่วมมือกับฝ่ายรีพับลิกันราว 24-36 คน เพื่อดันให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณา

เจรจาต่อรองแบบลับ

ถึงแม้ฝ่ายการเมืองสหรัฐอาจไม่มีแรงจูงใจให้เจรจาต่อรองอย่างลับๆ เพื่อบรรลุข้อตกลงขนาดใหญ่ก่อนสิ้นปี แต่ถ้าหากทั้งนายโบห์เนอร์ และนายโอบามาเห็นตรงกันว่า ทั้งสองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลงขนาดใหญ่ในระยะยาว พวกเขาอาจพยายามจัดการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงดังกล่าว

ประธานาธิบดีโอบามา และนายโบห์เนอร์ อาจประนีประนอมกันด้วยการตกลงปรับขึ้นภาษี 1 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมกับปรับลดงบรายจ่ายในระยะยาวลง1 ล้านล้านดอลลาร์ แต่อาจเป็นเรื่องยากที่จะจูงใจลูกพรรค2 ฝ่าย ให้ยอมรับข้อตกลงนี้

ผู้นำสหรัฐ อาจต้องโน้มน้าวสมาชิกสภาฝั่งเดโมแครต ให้ยอมรับมาตรการปรับลดโครงการสวัสดิการสังคม เช่น เงินบำนาญ ประกันสุขภาพสำหรับคนชรา(เมดิแคร์) และประกันสุขภาพสำหรับคนจน(เมดิเคด) ส่วนนายโบห์เนอร์อาจต้องจูงใจส.ส.รีพับลิกัน เพื่อให้ได้เสียงมากพอ ที่จะสนับสนุนมาตรการปรับขึ้นอัตราภาษี ซึ่งการชักจูงสมาชิกพรรครีพับลิกัน อาจทำได้ยากกว่าการโน้มน้าวสมาชิกพรรคเดโมแครต

การส่งสัญญาณจากตลาดหุ้น

ถ้าหากดัชนีตลาดหุ้นดิ่งลงอย่างรุนแรงในช่วงสิ้นปี ก็อาจจะเป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนต่อนักการเมืองสหรัฐให้ยุติการโต้เถียงกัน และหาทางบรรลุข้อตกลงที่สำคัญกันให้ได้อย่างรวดเร็ว

เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนก.ย.2551 หลังจากสภาคองเกรสปฏิเสธมาตรการให้ความช่วยเหลือภาคการเงินขนาดใหญ่ ถึงแม้นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายเฮนรี พอลสัน ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐในขณะนั้น กล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจอาจทรุดตัวลงอย่างรุนแรงถ้าหากร่างกฎหมายนี้ไม่ผ่านสภา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 700 จุดในช่วงนั้น ทำให้สภาคองเกรสเปลี่ยนแปลงท่าทีอย่างรวดเร็ว โดยได้อนุมัติโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) ของสหรัฐวงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่วันต่อมา

ปล่อยให้เกิดหน้าผาการคลังชั่วคราว

ในวันที่ 1 ม.ค. 2556 อัตราภาษีเงินได้สำหรับประชากรเกือบทุกคนในสหรัฐจะปรับสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ ทำให้ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนม.ค. สภาคองเกรสอาจรีบเร่งหาทางบรรลุข้อตกลงกันให้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการปรับลดงบรายจ่าย 1.09 แสนล้านดอลลาร์ และการขึ้นภาษี

นักการเมืองสหรัฐอาจมีเหตุผลบางประการในการทำข้อตกลงกันในเดือนม.ค.แทนที่จะทำในเดือนธ.ค. ซึ่งก็คือ เมื่อใดก็ตามที่อัตราภาษีปรับสูงขึ้น ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าในการปล่อยให้อัตราภาษีสำหรับคนรวยคงอยู่ที่ระดับสูงต่อไป และออกกฎหมายใหม่เพื่อปรับลดอัตราภาษีสำหรับชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง

สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้สมาชิกสภาคองเกรสไม่จำเป็นต้องลงคะแนนเสียงต่อร่างกฎหมายปรับขึ้นภาษีใดๆ เนื่องจากอัตราภาษีจะปรับสูงขึ้นโดยอัตโนมัติอยู่แล้วในเดือนม.ค. โดยสิ่งที่สมาชิกสภาคองเกรสต้องลงคะแนนเสียงก็มีเพียงแค่ร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีสำหรับชาวสหรัฐส่วนใหญ่เพื่อให้อัตราภาษีลดลงสู่ระดับเท่ากับในปี 2012

โต้แย้งกันตลอดฤดูหนาว

ถ้าหากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ภายในช่วงกลางเดือนก.พ. กระทรวงการคลังสหรัฐ ก็มีแนวโน้มที่จะหาช่องทางกู้เงินไม่ได้อีก ซึ่งสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ไม่เห็นด้วยเรื่องเพิ่มเพดานหนี้ อาจใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรอง ให้มีการแก้ไขปัญหาทางการคลังในแบบที่พรรครีพับลิกันต้องการ

พรรครีพับลิกันเคยดำเนินกลยุทธ์แบบเดียวกันนี้มาแล้วในช่วงกลางปี 2554 เมื่อเกิดความขัดแย้งเรื่องเพดานหนี้ โดยในครั้งนั้นสหรัฐได้ปรับเพดานหนี้ขึ้นสู่ระดับ 16.4 ล้านล้านดอลลาร์ โดยสามารถกดดันฝั่งเดโมแครตให้ยอมปรับลดงบรายจ่ายของรัฐบาลลงเพื่อแลกกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลกระทบในทางลบด้วยเช่นกัน เพราะความไม่แน่นอนที่เกิดจากความขัดแย้งในสภาคองเกรสส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ในภาวะปั่นป่วน และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอส แอนด์ พี) ออกมาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจาก AAA สู่ AA+ ในเดือนส.ค. ปีเดียวกัน และคะแนนนิยมของพรรครีพับลิกันร่วงลง

เกิดภาวะลาดชันทางการคลัง แทนหน้าผาการคลัง

ภายใต้สถานการณ์นี้ เศรษฐกิจสหรัฐไม่ทรุดตัวรุนแรง ขณะที่ตลาดหุ้นจะไม่ดิ่งลงอย่างหนัก และนักการเมืองสหรัฐอาจได้ข้อสรุปว่าภาวะหน้าผาการคลัง ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายมากนัก โดยสภาคองเกรสและทำเนียบขาวอาจโต้แย้งกันต่อไปตลอดปี 2556 และ 2557 ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายพยายามปรับปรุงนโยบายภาษี และประกาศใช้มาตรการปรับลดงบรายจ่ายในระยะยาว

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 1680

โพสต์

รูปภาพ