Thai VI

VIB007 เขียน:

แปลเป็นไทยได้ว่า
"เมื่อถูกถามในงานประชุมประจำปีว่ามีคำแนะนำอะไรจะให้กับคนหนุ่มสาวบ้าง

บัฟเฟตตอบว่า
ถ้าคุณสนใจในเรื่องเกี่ยวกับการเงิน
การเข้าไปมีส่วนร่วมแต่เนิ่นๆจะมีประโยชน์มาก
และการศึกหาความรู้แต่เนิ่นๆก็มีประโยชน์มากเช่นเดียวกัน

พยายามค้นคว้าหาความรู้ให้มากที่สุด

ทุกอย่างที่ผมและชาลีทำในการดำเนินธุรกิจก็คือการค่อยๆสะสมความรู้

สิ่งที่ผมรู้เมื่อ 20 ปีที่แล้วก็ยังคงมีประโยชน์ในปัจจุบัน
อาจจะไม่เหมือนเดิมซะทีเดียว
แต่ก็ยังมีประโยชน์

ดังนั้นถ้าคุณเริ่มสะสมข้อมูลในตัวของคุณ
สิ่งต่างๆเหล่านั้นจะสร้างผลตอบแทนให้คุณในระยะยาว"

ถ้าอยากได้ภาษาไทยดีๆ
ต้องให้คณ WEB มาช่วยแปลครับ
ของผมแปลแบบsnake-fish-fish

อืม.. แสดงว่าผมเข้าใจถูก

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับคุณลูกอีสาน พี่วิบูลย์

harry เขียน:คุณ oh+ ถ้ามีโอกาสเข้ากรุงเทพ แนะนำว่าห้องสมุดตลาดหลักทรัพย์ มีหนังสือดีๆมากมายให้อ่าน แถมด้วยรายงานประจำปีและ 56-1 รับรองได้ว่า ขุมทรัพย์อยู่ในนั้นครับ อยู่ที่ว่าใครจะเจอก่อนกัน

ขอบคุณครับ สำหรับผมโอกาสเข้ากรุงเทพน้อยมากเลยครับ อาศัยหาข้อมูลทางเน็ตเนี่ยแหล่ะครับ

VIB007 เขียน: "อย่าโลภเกินความรู้" เป็นคำพูดของเฮียคลายเครียดครับ

ส่วนของผมต้องบอกว่า "คุณต้องเข้าใจในธุรกิจที่จะลงทุนจริงๆ"

แฮ่ะ แฮ่ะ แฮ่ะ สงสัยจะอ่านมากจนตาลายจำผิดจำถูก ขออภัยด้วยครับ

จะเรียนศิลปะมันใช้ความเข้าใจอย่างเดียวไม่ได้ ต้องลงมือด้วยใช่ไหมครับ

พอดีผมเองไม่เก่งเล้ย เรื่องศิลปะ :lol:

เรื่อง reproduction cost ถ้าหากทำกับบริษัทแม่แล้ว มีบริษัทลูกอีกก็ต้องเข้าไปดูรายละเอียดในบริษัทลูกด้วย และทำด้วยวิธีที่คล้ายกัน ดูให้ดีๆนะในลูกอาจซ่อนอะไรดีๆไว้ก็ได้

พี่ฉัตรชัยเคยหาข้อมูลบริษัทลูกของ wgมาแกะเสียละเอียดเลยคุณ

ถามพีมลและพี่วิบูลย์ว่า หนังสือ อ่านก่อนรวยถาวรกว่าเล่มที่ สอง จะออกมา
เมือไรครับ หรือจะเปลี่ยนชื่อให้มันน่าสนใจมากกว่านี้ก็ได้นะครับ เช่น
" อ่านต่อไป รวยยิ่งกว่า " :lol: :lol:

"อ่านต่อ รวยเหนือกว่า" อิ...อิ เร็วๆนี้

รอไปก่อนเน้อ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไร เพราะเล่มใหม่ขี้เกียจเขียนบทเสริมแล้วอะ กะจะรวมเอาบทความให้มากๆทีเดียวเลย ได้ค่าพิมพ์แยอะดี

พี่มนกับพี่วิบูลย์ก็คัดเอาคำถามและคำตอบในWEBBORDตะแกรงร่อนนี้ไปพิมพ์เป็นหนังสือซิครับ ผมคนหนึ่งจะช่วยอุดหนุน ( มาเปิดดูคอมมากๆแล้วปวดตาและขี้เกียจหา) ตั้งหนังสือว่า"ตะแกรงร่อนหุ้น"รับรองขายดีแน่ ยังไงขายดีขอค่าคอมซัก1เล่มนะครับ

silversaga เขียน:...จังหวะเข้าออก อาจไม่ได้ซื้อที่low...ผมซื้อฺBFIT 28.5...
...ไม่ได้ขายไฮ ผมขายล้างไปที่36.5 เพราะจะเอามาโอนบ้าน...
...พอขายปุ๊บ มันก้อไป38.5 เสียดาย แต่ กำไร30%ก้อชนะตลาดแล้ว...

หวังว่าคงไม่โชคร้ายเข้าสักวันนะครับ

naris เขียน:พี่มนกับพี่วิบูลย์ก็คัดเอาคำถามและคำตอบในWEBBORDตะแกรงร่อนนี้ไปพิมพ์เป็นหนังสือซิครับ ผมคนหนึ่งจะช่วยอุดหนุน ( มาเปิดดูคอมมากๆแล้วปวดตาและขี้เกียจหา) ตั้งหนังสือว่า"ตะแกรงร่อนหุ้น"รับรองขายดีแน่ ยังไงขายดีขอค่าคอมซัก1เล่มนะครับ

ผมตั้งใจให้อ่านในคอมนะครับ
จะได้ทรมาณคนอ่านเล่นๆ
เลยไม่เอาไปพิมพ์ซะที

ก็ถ้าพิมพ์กระทู้นี้แล้ว
ผมจะเอาวัตถุดิบที่ไหนไปเขียนบทความหละครับ
ยิ่งตอนนี้กำลังเข้าตาจน
นึกเรื่องเขียนไม่ค่อยออก
เลยต้องมาค้นๆเอาในกระทู้นี้ไปเขียนนะ อิ อิ

ถ้าใครอ่านกระทู้นี้แล้ว 3 รอบ
แล้วไปเจอในคอลัมน์ Value Way เนื้อหาเหมือนกันก็ไม่ต้องแปลกใจน่ะ ขอบอก

อ้อ เรื่องหนังสือเล่มสอง คงต้องรอก่อน
ว่าจะไปให้พิมพ์เล่มแรกเป็นครั้งที่สองจะง่ายกว่า
ไม่รู้ว่าขายหมดหรือยัง
ผมกับคุณมนถาม สนพ ล่าสุด
บอกว่า ขายไป 500 เล่มจากยอดพิมพ์ 5,000 เล่ม
ฮา ฮา ขายดีมากๆเลย (ปลอบใจตัวเอง)

ว่าแต่ว่า ตามแผงยังมีขายอยู่หรือเปล่าครับ
ถ้าใครเห็น กรุณาเหมาแผง แล้วเอาไปแจกเพื่อน
จะได้หมดเร็วๆ..........นี่ ซีเรียส นะซีเรียส

ผมไม่ค่อยเห็นตามแผงเท่าไหร่
หรือขายดี หรือไม่มีขายกันแน่หว่า

8) รายงานผลการรับฟัง
ซีเอ็ดเจ้าประจำผมที่โลตัส เอกมัย-รามอินทรา
ไม่มีวางขายมานานแล้ว
ทางสนพ.เขาไม่อยากจ่ายค่าฝีมือเป็นรายเล่มหรือเปล่า
ถึงบอกว่ายอดขายน้อย..
ผมมีความรู้สึกว่าหนังสือแนวลงทุนมีให้อ่านน้อยมาก
หาซี้อตามร้านค้าทั่วไปก็ไม่มี
ต้องไปหาที่ซีเอ็ด หรือ นายอินทร์
แต่ก็น่าเห็นใจคนพิมพ์เหมือนกัน
คนไทยมีเปอเซนคนรักการอ่านเมื่อเทียบกะจำนวนประชากรน้อยมากๆ..
แล้วมองไปในอนาคตอีก5ปี(แบบที่ดอกเต้อร์สอน)
เด็กวัยรุ่นปัจจุบันก็เล่นเกมออนไลน์ ดูหนังแผ่น
การ์ตูนยังไม่อยากจะอ่าน
แล้วคนทำหนังสือคุณภาพจะอยู่ได้ไหมเนี่ย...

เล่น Warrant เราต้องดูอะไร @_# ฮะๆ ไม่รู้จะคุยอะไร โพสเล่นๆ ประเด็นร้อนๆ เกี่ยวกับ CPF-W2 แล้วกัน
ตอนนี้แม่ราคา 4.08 ลูกราคา 0.26 เป็นราคา Discount ที่ in money มากๆ ถึง 53.85% (ราคาที่ไม่มี Discount คือ 0.40)
ถ้ามาดู Gearing สูงมากๆที่ 78.46 หมายความว่า ถ้าแม่ขึ้นนิดนึงอัตราผลตอบแทนลูกก็พุ่งขึ้นสูงมาก
แต่กลับกันถ้าลงนิดนึงก็จะทำให้อัตราผลตอบแทนลูกวูบลงเยอะมากเช่นกัน
สำหรับราคานี้ ถ้า CPF แม่ ลงมาอีก -0.69% ลูกก็หมดค่าทันที (นิดเดียวจริงๆ!!!) บอกได้คำเดียวว่าอันตรายมากครับ
เพราะฉะนั้นเล่น Warrant อย่างมองแต่เพียง Discount และ Gearing ที่สูงครับ
:lol: แต่คิดๆ ดูแล้วเหมือนไม่ใช่การลงทุนเลย :lol:

ไม่มีอะไรหรอกครับแวะเข้ามาทั้งที มาเติมความรู้ประเด็นร้อนๆ ให้กระทู้เฮียวิบูลย์ครับ
เผื่อเฮียมนกับเฮียวิบูลย์ได้ idea เอาไปเขียนบทความได้

เร็วๆ นี้เจอเจ่เจ๊ zippo ชวนให้มาทักทายพี่ๆ ที่นี่มั่งไม่รู้มารึยัง
ส่วนผมช่วงที่ผ่านมายุ่งๆ ครับและตอนนี้ก็มีลูกต้องเลี้ยงลูกอีก แค่แวะมาทักทายเหล่าอาเฮียครับ

Wvix เขียน: เร็วๆ นี้เจอเจ่เจ๊ zippo ชวนให้มาทักทายพี่ๆ ที่นี่มั่งไม่รู้มารึยัง
ส่วนผมช่วงที่ผ่านมายุ่งๆ ครับและตอนนี้ก็มีลูกต้องเลี้ยงลูกอีก แค่แวะมาทักทายเหล่าอาเฮียครับ

สวัสดีครับน้องWvix หายไปนานเลยนะครับ
ไปเลี้ยงลูกนี่เอง สบายดีนะครับ

เลี้ยงลูกกับเลี้ยงหุ้น ผมก็เพิ่งเข้าใจวันนี้ว่า
เลี้ยงหุ้นสบายกว่ากันเยออออออออออออออออออะ ...เลย
(แต่ยังไม่เข็ด ขอสัก 3 คน )

เห็นน้องzippo แว็ปๆนะ คงยังวนเวียนอยู่

พี่ผมตอบทาง PM นะครับ

ผมกับคุณมนถาม สนพ ล่าสุด
บอกว่า ขายไป 500 เล่มจากยอดพิมพ์ 5,000 เล่ม
ฮา ฮา ขายดีมากๆเลย (ปลอบใจตัวเอง)

ผมซื้อไปแล้วนะครับ 8)

ผมซื้อที่ B2S โรบินสัน บางรัก
เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว
รู้สึกจะเป็นเล่มสุดท้าย
หลังจากนั้นก็ไม่เห็นวางขายอีกเลย

แต่ผมเห็นวางขายที่ซีเอ็ด มาบุญกครอง
เหลื่ออยู่ 3-4 เล่มครับ
บอกเพื่อผู้ที่ต้องการหาซื้อแล้วหาไม่ได้นะครับ

Dr.T เขียน: ผมซื้อไปแล้วนะครับ 8)

ซื้ออย่างเดียวหรือครับคุณหมอ อ่านด้วยหรือเปล่า? อ่านแล้วเป็นอย่างไงบ้างครับ ติหน่อยก็ดีนะ

ผมว่าหนังสือไม่มีขายเป็นเพราะSE-EDแค้นNation เลยโยนไปไว้หลังร้านแทนมากกว่า

ตาวิบูลย์หวังจะเอาค่าลิขสิทธิ์ไปเตรียมซื้อนมหรืออย่างไง ยังอีกนานนา ไม่ต้องเห่อ

Mon money เขียน:
ผมว่าหนังสือไม่มีขายเป็นเพราะSE-EDแค้นNation เลยโยนไปไว้หลังร้านแทนมากกว่า

ตาวิบูลย์หวังจะเอาค่าลิขสิทธิ์ไปเตรียมซื้อนมหรืออย่างไง ยังอีกนานนา ไม่ต้องเห่อ

คราวที่แล้วได้มาพอจ่ายค่าน้ำค่าไฟ
คราวนี้เลยคิดจะได้ไปจ่ายค่ากับข้าวสักหน่อย อิ อิ

ขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆ ทุกคนที่สละเวลาให้กับกระทู้นี้
ตั้งใจอ่านมากครับ ใช้เวลาไปอาทิตย์กว่า กว่าจะมาถึงหน้า 55
เข้ามาเวปนี้ได้ปีกว่าแล้วครับ พึ่งรู้ว่ามีหัวข้อนี้

ว่าแต่ว่า ตกลงกระทู้นี้ไม่ได้แนะนำหุ้นเลยหรือครับ
ไอ้เราก็อ่านอยู่ตั้งนาน

:lol: :lol: :lol:

Tiger เขียน: ว่าแต่ว่า ตกลงกระทู้นี้ไม่ได้แนะนำหุ้นเลยหรือครับ
ไอ้เราก็อ่านอยู่ตั้งนาน

:lol: :lol: :lol:

ไม่ได้ในเว็บแต่ว่าคุณเสือก็ได้แนะนำหุ้นจากพี่วิบูลย์ตัวจริงเสียงจริง และกูรูท่านอื่นๆอีกหลายคนในงานสัมมนา ThaiVIไม่ใช่เหรอครับ คราวหน้าใครพลาดงานเว็บเราอีก น่าเสียดายแย่ อิ อิ (ต้อง PR เผื่องานหน้าซะหน่อย เดี๋ยวไม่มีคนเข้า :lol: )

Tiger เขียน: ว่าแต่ว่า ตกลงกระทู้นี้ไม่ได้แนะนำหุ้นเลยหรือครับ
ไอ้เราก็อ่านอยู่ตั้งนาน

:lol: :lol: :lol:

กระทู้นี้ไม่มี"ปลา"แจกครับ
อยากได้ต้องหาเอาเอง

แต่เราสอน"วิธีหาปลา"
เอาไว้หากินได้ตลอดชีวิต
จะได้ไม่ต้องแบมือขอ"ปลา"คนอื่นกินไปชั่วชีวิต

ว่าแต่ว่า
"วันนี้ คุณหาปลาเป็นแล้วหรือยัง"
8) 8) 8)

หลงดีใจนึกว่าตกปลาตัวใหญ่ขึ้นมาได้
เจ้ากรรม ดันเป็นปิรันย่า งับผมก้นแหว่ง
ยังไม่รู้ ว่าจะเอาไปเลี้ยง ไปทอด หรือโยนคืนแม่น้ำดี

จากกระทู้ pttep พี่วิบูลย์ พูดถึง earning power value

ผมได้อ่านหนังสือหลักการคำนวนแบบนี้ไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านละเอียด

รบกวนพี่วิบูลย์ ช่วยพูดถึงคร่าวๆถึงหลักการคิด และอีกสองแบบด้วยครับ

จะได้มีแนวทางไปอ่านละเอียดเพิ่มเติม แล้วอ่านจบจะมาถามหากไม่แน่ใจ

ขอบคุณครับ

harry เขียน:จากกระทู้ pttep พี่วิบูลย์ พูดถึง earning power value

ผมได้อ่านหนังสือหลักการคำนวนแบบนี้ไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านละเอียด

รบกวนพี่วิบูลย์ ช่วยพูดถึงคร่าวๆถึงหลักการคิด และอีกสองแบบด้วยครับ

จะได้มีแนวทางไปอ่านละเอียดเพิ่มเติม แล้วอ่านจบจะมาถามหากไม่แน่ใจ

ขอบคุณครับ

ถ้าจำไม่ผิดเคยพูดถึงกันไปแล้วในกระทู้นี้หละ
สองรอบแล้วมั้ง
เอ....Harry เคยอ่านเจอบ้างหรือเปล่า
ลองไปค้นๆดูนะ
ในหน้าเก่าๆ

พยายามหน่อย อิ อิ

แสดงว่านานมากแล้ว เลยลืม จะลองค้นหาดูก่อนครับ

1) Reproduction Cost of Asset
เช็คว่า มูลค่าบริษัทกับมูลค่าทรัพย์สินที่มีต่างกันเยอะหรือไม่
เงินที่จะจ่ายกับทรัพย์สินที่ได้คุ้มค่าหรือไม่
2) Earning Power Value
เช็คว่า เอาเงินไปลงทุนอย่างอื่น เช่น พันธบัตร หรืออย่างอื่นจะคุ้มกว่าหรือเปล่า
3) Discount Cashflow
เช็คว่า เงินสดที่บริษัทหาได้กับมูลค่าบริษัทต่างกันหรือเปล่า

เจอคร่าวๆแล้วกัน อืม.. จะลองไปอ่านละเอียดอีกที เป็นภาษาอังกฤษนี่บางครั้งก็ง่าย บางครั้งก็ยากนะ

Reproduction Cost of Asset

ผมลองใช้วิธีนี้ที่ผมเข้าใจ มาประมาณมูลค่าของ BJC ดูครับ
ผิด ถูก หรือมีความเห็นอย่างไร รบกวน พี่ๆ เพื่อนๆ ช่วยแนะนำด้วยครับ

ผมตัดส่วนแค่ทำขวดแก้ว มาลองคิดว่า ถ้าจะลงทุนใหม่มาแข่งกับ BJC ต้องใช้เงินเท่าไร
โดย BJC ตอนนี้มี Capacity ทำแก้วที่ 2000 ตันต่อวัน

-ปี 47 ขยาย Cap จากเตาหลอมเดิมใช้หลอมแก้วตรามงกุฎ 60 ตัน เป็น 300 ตัน
ใช้เงินลงทุนไปประมาณ 1200 ล้าน (ตก-ลงทุน Cap การผลิตตันละ 5 ล้าน)
-มีโครงการขยาย Cap ด้วยเครื่องจักรรุ่นใหม่ล่าสุดที่โรงงานแห่งใหม่ใกล้สุวรรณภูมิ
400 ตัน จะใช้เงินลงทุนประมาณ 3000 ล้าน (ตก-ลงทุน Cap การผลิตตันละ 7.5 ล้าน)
-ปี 38 เพิ่มเตาหลอมใช้เงิน 1370 ล้าน ขยายได้ 460 ตัน (คร่าว ๆ ) (ตกลงทุน Cap การผลิตตันละ 3 ล้าน)

คิดแบบทื่อ ๆ ราคากันเอง ส่วนที่ทำแก้ว ของ BJC ก็มีมูลค่า 2000*5 = 10000 ล้าน /159 ล้านหุ้น
= หุ้นละ 63 บาท

ทำกระดาษอนามัย
ลงทุนสร้างโรงงานใหม่ Cap ใช้เงินลงทุน ประมาณ 900 ล้าน บาท เพิ่มกำลังการผลิตเท่าตัว
เพราะฉะนั้น โรงใหม่ + โรงเก่า ถ้าใครจะทำแข่ง ก็ 1800 ล้าน / 159 ล้านหุ้น
= หุ้นละ 11.3 บาท
รวมกันก็หุ้นละ 74.3 บาท
ส่วนอื่น ๆ แถมฟรี ไม่คิด

แบบนี้พอไปวัดไปวาได้ไหมครับ

เฮียมน เจ้าพ่อ Reproduction Cost
ช่วยมาตอบหน่อยดิ

ถ้าคำแนะนำผมก็คือ
ลองเอาหนี้สินระยะยาวมาหักออกหน่อย
เพราะการขยายงานบางครั้งก็กู้มามาก
ราคาหุ้นควรจะเป็นราคาที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นนะ ไม่รวมเจ้าหนี้

Reproduction Cost ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นมูลค่าต่ำสุด
เมื่อสินค้าที่ผลิตล้าสมัย หรือสินค้านำเข้าถูกกว่า
มูลค่าบริษัทจะตกฮวบทะลุ Repro. cost ทันที

ที่ยกตัวอย่างกันมากก็คือ โรงงานผลิตหลอดสูญญากาศของมัตสึชิตะ
ลงทุนไปไม่รู้กี่พันล้านเยน ..เหลือมูลค่าแค่ราคาที่ดินทันที เมื่อทรานซิสเตอร์ออกสู่ตลาด

อีกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน พันธบัตร 1000 บาท ดอกเบี้ยคงที่ 2%.. ราคาซื้อขายจะตกฮวบต่ำกว่า 1000 บาททันที เมือดอกเบี้ยในตลาดสูงขึ้นเรื่อยๆ

นี่แสดงว่า EPV ยังมีอิทธิพล ในการประเมินมูลค่าอยู่