คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 16, 2005 7:09 pm
กระทู้นี้มันส์ บวกกับ มึนส์ เขียนเหมือนกันเปลี่ยนสระตัวเดียว
:lovl: :lovl: :lovl:
:lovl: :lovl: :lovl:
เว็บบอร์ดเพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
https://thaiviv3.mdsoft.co.th/./
คุณโยโย่ มีurl ของครูเฒ่าเกาะช้างไหมเอ่ยyoyo wrote:
เกินแสนแล้วๆ
ช่วยสร้างตำนานกันต่อไป ....
แต่อันดับแรกต้องทำลายสถิติกระทู้ของครูเฒ่าเกาะช้างก่อน
อันนั้นเค้าแสนเกินเราได้พักใหญ่แล้ว
ขอบคุณครับ ที่แวะเข้ามาVIB007 เขียน:ตอนนี้ผมยุ่งโคตรๆเลยครับ
ไว้มีเวลาจะมาตอบนะครับ
งานเยอะมากๆ
ว่าจะไปขายเต้าฮวยแล้ว
แต่กำลังหา"สูตรน้ำขิง"อยู่ ฮา ฮา
600 ครับ1. เรื่องกำไรสะสม - คือสมมุติว่า บ.มีสินทรัพย์ 600 ล้าน หนี้ 200 ล้าน มีกำไร สะสมอยู่ 400 ล้าน มี market cap. อยู่ 600 ล้าน
อย่างนี้ถ้าเราซื้อทั้ง บ. ถึอว่าเราซื้อ บ.นั้นเพียงแค่ 200 ล้านหรือเปล่าครับ หักมูลค่าจากกำไรสะสม
ผมเซิร์จ จากกูเกิ้ลเจอแล้วpor_jai wrote:
คุณโยโย่ มีurl ของครูเฒ่าเกาะช้างไหมเอ่ย
อยากรู้ว่ากระทู้ที่มีคนอ่านเกินแสน
ดีขนาดไหน..
คุณโยโย่ มีurl ของครูเฒ่าเกาะช้างไหมเอ่ย
อยากรู้ว่ากระทู้ที่มีคนอ่านเกินแสน
ดีขนาดไหน..
รบกวนหน่อยครับ
พ้มไม่ทราบเจรงๆ....
ลองอ่านในกระทู้จะมีแนะนำหนังสือหลายเล่มrote4058 เขียน:อ่านแล้วงงครับสำหรับมือใหม่ ขอให้พี่ช่วยแนะนำวิธีการศึกษาแบบนี้หน่อยนะครับ แล้วhandbook นี่หาได้ที่ไหนครับ ผมสนใจมากๆๆ
เห็นด้วยครับyakole เขียน:ไม่ได้เชียร์นะครับผมว่าอ่านหนังสือ "อ่านก่อนรวยถาวรกว่า" จะได้ความรู้มาก
กว่าอ่าน company handbook เนื่องจากว่าhandbooK มีเพียงสรุปข้อมูล
พื้นฐานของบริษัทเบื้องต้น เช่น ประวัติบริษัท ผู้ถือหุ้น งบการเงินเพียงบาง
ส่วน บางครั้งอ่านข้อมูลใน "ร้อยคนร้อยหุ้น"ยังรู้สึกว่าได้ข้อมูลที่มากกว่าครับ
ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับ พอดีผมอาจตั้งโจทย์ตัวเลขไม่ค่อยดีนัก 600 ที่ว่าหมายถึงราคาสินทรัพย์ หรือว่า market cap โดยที่ไม่สามารถเอากำไรสะสมมาหักได้ครับadi เขียน: 600 ครับ
ต้องแยก"ราคา"ออกจาก"มูลค่า"Oh+ เขียน:
วันนี้ขอถามน่ะครับ
1. เรื่องกำไรสะสม - คือสมมุติว่า บ.มีสินทรัพย์ 600 ล้าน หนี้ 200 ล้าน มีกำไร สะสมอยู่ 400 ล้าน มี market cap. อยู่ 600 ล้าน
อย่างนี้ถ้าเราซื้อทั้ง บ. ถึอว่าเราซื้อ บ.นั้นเพียงแค่ 200 ล้านหรือเปล่าครับ หักมูลค่าจากกำไรสะสม
การหา DCF ต้องมองอนาคตของบริษัทให้ออกOh+ เขียน: 2. การคำนวน dcf คือผมต้องเดาว่า บ. นั้น จะมีกำไรสุทธิที่เป็นเงินสด เท่าไหร่ในแต่ละปี แล้วเอามารวมกันตามจำนวนปีที่จะคิดคำนวน แล้วคำนวนย้อนกลับมา ณ.เวลาปัจจุบัน ว่ามีมูลค่าเท่าไหร่ ใช่ไหมครับ
ถ้าเป็นอย่างที่ว่า
สมมุติว่า บ. นั้นกำไรค่อนข้างคงที่ ผมลองเอาตัวเลข กำไร มาหารกับผลตอบแทนที่ต้องการ ก็เป็นราคามูลค่า ของ บ. นั้น ได้ไหมครับ
ดู ๆ มันง่ายไปยังงัยไม่รู้ กลัวเข้าใจผิด
รบกวนเท่านี้ก่อนครับ จะรอฟังทุกความเห็นน่ะครับ
ขอบคุณครับ
Yoyo เขียน: PL ผมพลาดเพราะมองแต่อดีตกับปัจจุบันครับ
ผลงานในอดีตดีมาก เติบโตสูงมาตลอด
หุ้นในตอนนั้นมีราคาถูก แต่ที่ผมไม่รู้คืออนาคตของบริษัท
ได้แต่เดาเอาจากผลงานในอดีตเพียงอย่างเดียวแล้วลากเส้นเป็น trend ขาขึ้น กำไรสูงขึ้น
แต่จริงๆแล้วไม่ได้เข้าใจตัวธุรกิจอย่างแท้จริง ไม่รู้ว่ามีคู่แข่งมากน้อยแค่ไหน
ไม่รู้ว่า margin จะสามารถอยู่ในระดับสูงๆ ได้อย่างเดิมมั๊ย ตลาดรวมเป็นยังไง
ที่สำคัญยังไม่มีโอกาสได้คุยกับผู้บริหารเลยซักครั้ง
สรุปความผิดพลาดแล้ว คือเข้าใจธุรกิจไม่ดีพอ
se-ed ก็พลาดคล้ายๆกับ PL เลยครับ
grammy(ตัวนี้ไม่ได้ซื้อเอง แต่บอกให้คนอื่นซื้อ) พลาดเพราะไม่ได้วิเคราะห์ด้วยตัวเอง
อาศัยรู้ว่าดร. ซื้อก็เลยซื้อตาม 56-1 ก็ยังไม่เคยอ่านเลยด้วยซ้ำ ... อันนี้พลาดแบบไม่น่าให้อภัย
ให้คุณมน หรือพี่Chatchai มาตอบดีกว่าครับsilversaga เขียน:ผมมีข้อสงสัยรบกวนสอบถามเกี่ยวกับเรื่อง Reproduction cost of asset ที่ทางพี่มนตรี เคยแสดงไว้ก่อนหน้านี้
สมมติว่ารายละเอียดด้านล่างเป็นงบการเงินของบริษัท A ตามที่พี่มนตรีเคยยกตัวอย่าง
ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคำนวณเงินลงทุนในบริษัทย่อยครับ เรียนถามผู้รู้หลาย ๆ ท่านด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ส่วนตัวผมไม่ทราบว่า reproduction cost of asset มันเป็นอย่างไร ถ้าเป็นตัวเดียวกับ liquidation value คุณก็น่าจะเข้าใจถูกต้องครับsilversaga เขียน:ผมมีข้อสงสัยรบกวนสอบถามเกี่ยวกับเรื่อง Reproduction cost of asset ที่ทางพี่มนตรี เคยแสดงไว้ก่อนหน้านี้
สมมติว่ารายละเอียดด้านล่างเป็นงบการเงินของบริษัท A ตามที่พี่มนตรีเคยยกตัวอย่าง
บริษัท A
รายการ------------------- ตัวเลขตาม บ/ช ---- %ปรับปรุง----- ปรับแล้ว
เงินสด--------------------- 20,000 ลบ.--------- 100%-------- 20,000 ลบ.
เงินลงทุนในส/ทสภาพคล่อง ???? ลบ.--------- 100 %------- ???? ลบ.
Inventory ------------------- 30,000 ลบ.-------- 50% --------15,000 ลบ.
A/R--------------------------- 20,000 ลบ.--------70% --------- 14,000 ลบ.
ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคำนวณเงินลงทุนในบริษัทย่อยครับ สมมติว่าบริษัท A มีการลงทุนบริษัทย่อย B โดยถือหุ้น 60% ไม่ทราบว่าขั้นตอนต่าง ๆ ในการประมาณเงินลงทุนในบริษัทย่อย B ต่อไปนี้ ถูกต้องหรือเปล่าครับ
1. ทำการปรับปรุงงบการเงินของบริษัทย่อย B เหมือนกับตัวอย่างด้านบนที่ทางพี่มนตรีได้เสนอไว้
2. เมื่อนำ สินทรัพย์ หนี้สิน (ที่ปรับปรุงแล้วของบริษัท B) = ส่วนของผู้ถือหุ้น สมมติว่าเมื่อคำนวณแล้วได้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็น 60,000 ลบ
3. เนื่องจาก บริษัท A มีหุ้นถืออยู่ในบริษัทย่อย B 60% ดังนั้น จึงได้เงินลงทุนในบริษัทย่อย B เป็น (60*60,000)/100 = 36,000 ลบ
ดังนั้นจึงได้เงินลงทุนของบริษัท A ในบริษัทย่อย B เท่ากับ 36,000 ลบ (ที่ปรับปรุงแล้ว)
เอ ไม่ทราบว่าถูกต้องหรือเปล่าครับ
เรียนถามผู้รู้หลาย ๆ ท่านด้วยครับ
ขอบคุณครับ
กำไรสะสมอาจจะไม่ใช่เงินสดก็ได้Oh+ เขียน:ขอบคุณ คุณharry(เรียกคุณก่อนน่ะครับ ไม่รู้ว่าอายุมากกว่าผมหรือเปล่า) และพี่วิบูลย์ ครับ
ผมพอจะเห็นภาพชัดขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว
สำหรับคำถามเรื่องกำไรสะสมเนี่ย เป็นเพราะผมไม่เข้าใจเรื่องตัวเลขทางบัญชีกับตัวเลขที่เป็นเงินสดจริง ๆ คือเข้าใจไปว่า กำไรสะสมหมายถึงกำไรที่เป็นเงินสดครับ เพราะคิดว่าในเมื่อเป็นกำไรมันก็น่าจะเป็นเงินสด
การลงทุนซื้อเครื่องจักรจะอยู่ในการคำนวณหากระแสเงินสดอยู่แล้วOh+ เขียน:ส่วนเรื่อง DCF พอเข้าใจแนวทางคิดแล้วครับ โดยปกติเราต้องประมาณการณ์ รายรับ รายจ่าย และกระแสเงินสด เพียง 3 อย่างใช่ไหมครับ ส่วนตัวแปรอื่น ๆ เช่น การลงทุนซื้อเครื่องจักร เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ เราก็ยกเว้นมันไปก่อนได้ใช่ไหมครับ
ในบริษัทหลักทรัพย์มีนักวิเคาระห์เพียงจำนวนหนึ่งOh+ เขียน:ผมว่าเป็นเรื่องยากมากทีเดียว อย่าที่พี่ว่า ต้องเข้าใจ บริษัทให้มาก คงต้องใช้เวลาอีกมากครับสำหรับผม
เกี่ยวกับเรื่องการประมาณการณ์ ที่พวกนักวิเคราห์เค้าทำกันก็ใช้หลักการอย่างนี้ด้วยใช้ไหมครับ ที่ประเมินว่า ราคาเป้าหมายอยู่ที่ไหน
"อย่าโลภเกินความรู้" เป็นคำพูดของเฮียคลายเครียดครับOh+ เขียน:ผมจำคำที่พี่วิบูลย์เคยได้เขียนไว้ได้ตลอด ว่า "อย่าโลภเกินความรู้"
ผมว่าพี่วิบูลย์เป็นคนที่มุ่งมั่นในความคิดมาก ผมนับถือพี่จริง ๆ
บริษัทที่จะซื้อไว้จนแก่เลยนั้น หายากครับOh+ เขียน:ตอนนี้พยายามหาความรู้อยู่ ผมอยากเป็นเจ้าของบริษัทดี ๆ สักแห่งที่พอจะให้ผลตอบแทนกับผมไว้ใช้จ่ายได้ยามแก่ได้บ้าง
ไม่เป็นไรครับOh+ เขียน:ผมคงจะต้องขอรบกวนเพื่อน ๆ พี่ ๆ อีกน่ะครับ
ขอบคุณสำหรับน้ำใจที่มีให้น่ะครับ
อยากซึ้งก็ต้องลองด้วยตัวเองsilversaga เขียน:ขอบคุณครับคุณ adi
-----------------------------------
เอ พอดีได้อ่านคำพูดพี่วิบูลย์หลาย ๆ คำพูดที่พี่วิบูลย์เคยเขียนไว้ ในกระทู้นี้อย่างเช่น
หุ้นที่ผมเลือก ขนาดมาร์ ยังไม่รู้จัก
มาร์บอกว่า หุ้นตัวนี้ ไม่มีใครเล่นกัน
ช่วงแรก ผมลงทุนตามอาจารย์Graham ครับ
โดยใช้สูตร
P/E<10
P/B<2
P/E*P/B<20
แล้วซื้อหุ้นไว้ 2-3 บริษัท
แต่ผลกลับไม่ดีเท่ากับเลือกบริษัทที่มี P/E, P/B สูงกว่า
คำตอบของผมก็คือว่า
P/E, P/B คือเรื่องของอดีตครับ
(ผมยกบางส่วนของคำพูดมาครับ)
ซื้อหุ้นที่รู้จักและเข้าใจในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงsilversaga เขียน:ผมเลยมีข้อสงสัยที่อยากถามทั้งพี่วิบูลย์และ VI อีกหลาย ๆ ท่าน ทั้งพี่ฉัตรชัย พี่มนตรี คุณ adi และ ท่านอื่น ๆ ว่า หลักการในการกรองและเลือกหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เบื้องต้นมีขั้นตอนอย่างไรครับ
อ่าน ศึกษา หาความรู้silversaga เขียน:รบกวนสอบถามวิธีการกรองหุ้นเบื้องต้นของแต่ละท่านด้วยครับ สงสัยเพราะขนาดมาร์ไม่รู้จัก P/E, P/B สูง พี่วิบูลย์ดู FORM56-1 ของหุ้นเกือบทุกตัวในอุตสาหกรรมนั้น ๆ เลยหรือครับ
อยากทราบหลักการเบื้องต้นครับ
ขอบคุณครับ
PP เขียน:
ในการประชุมประจำปี "Annual Meeting - May 2, 2001"มีคำแนะนำของท่านผู้เฒ่าเซียนการลงทุนในตลาดหุ้นโลกไว้ดังนี้ครับ.........
When asked at the 2001 Berkshire Hathaway annual meeting what investment advice he had for a young person, Warren Buffett responded: "...If you're interested in financial matters, getting a stake early is very useful and getting knowlege early is useful.... Just try to keep accumulating knowledge. That's one of the beauties of the business that Charlie and I are in - everything is cumulative. The stuff I learned at 20 is useful today - not necessarily in the same way and not necessarily every day, but it's useful. So you're building a database in your mind that's going to pay off over time."