Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 11, 2013 4:31 pm
มาจองที่รอฟังประสบการณ์ครับ
คาราวะฝีมือด้วยคน*AQUA* เขียน:เท่าที่นึกได้นะครับ เอาหลังวิกฤตปี 2540 แล้วกันdragonrider เขียน:ขอถาม คุณ *AQUA* ครับ ว่า แนวทางการลงทุน หรือ วิธีการลงทุน มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไร ครับ เช่น สภาพคล่องของหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ หรือไม่? ประเภทของหุ้นที่ลงทุนเปลี่ยนหรือไม่? รายละเอียดต่างๆ แล้วแต่จะกรุณา แบ่งปัน ครับ ขอบคุณครับ
แนวทางการลงทุน ในช่วงที่ port หลักสิบล้าน จะเน้นลงทุนใน warrant ของตัวที่คิดว่าดีในแต่ละยุคนั้นๆ port จะโตได้เร็ว เช่น scb-c1 spl-w kk-w3 kk-w4 แต่ช่วงนี้ warrant ดูไม่ค่อยมีตัวน่าสนใจ ไม่เหมือนเมื่อ 5-10 ปีก่อน
หลักต้นๆร้อยก็ยังเน้นเหมือนเดิม แต่จะถือควบคู่กันไป เน้นหุ้น trunaround ในสมัยนั้นๆ ช่วงปี 2546 ก็เช่น TDT THL (ตอนนี้เจ๊งไปหมดแล้ว บริษัทพวกนี้) หุ้นวัฎจักร PSL TTA STA ATC และหุ้นใหญ่ๆที่ตอนนั้นใครๆต้องเล่น PTT PTTEP
พอ 300-400 ก็เปลี่ยนมาเก็บน้อยๆตัว ไม่เกิน4-5ตัว แต่มองให้ขาดว่ามันจะใช่หรือไม่ โดยซื้อแรกๆไม่เยอะ ศึกษาเพิ่มเติมทั้งภาพอุตสาหกรรม,ผู้นำตลาดและคู่แข่งที่สำคัญคือจิตวิทยาการลงทุน ต้องมองไปข้างหน้าก่อนคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ อย่าทำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด ถ้าราคาใช่ ก็ซื้อเยอะๆ แล้วเก็บยาว ที่ได้กำไรและขายไปแล้วเช่น JAS SIRI
กลับมาต่อค่ำๆครับ
booklover เขียน:เป้าหมายที่ดีควรจะท้าทายบ้าง เป็นกำลังใจให้ครับน้องบอส
มีความสุขกับการเดินทาง
+1*AQUA* เขียน:เริ่มจาก 100,000 เมื่อปี32 รอดวิกฤตช่วงจาก 1700 มา 200 เพราะโดนบังคับให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ มาเริ่มอีกครั้งตอนหลังลดค่าเงิน
ตอนมี 100 เมื่อเกือบสิบปีก่อนหลังจากแบ่งเงินให้พ่อแม่ และสัญญาว่าจะดูแลท่านและน้องๆไปตลอดชีวิต และก็ให้รางวัลกับชีวิตเป็นรถสปอร์ต
ตอนมี 500 เมื่อห้าปีก่อนก็เปลี่ยนรถอีกครั้ง ใช้ชีวิตเหมือนเดิม
ตอนมี 900 แบ่งเงินครึ่งนึงลงทุนตราสารหนี้ อีกครึ่งนึงเป็นหุ้น เลือกหุ้นแบบเซฟๆ ขออีก 100 นึง พอแล้ว เริ่มซื้อบ้านและที่ดินเพื่อกระจายการลงทุน
ตอนมี 1000 ก็งงๆ เฮ้ย ได้แล้ว ดีใจแต่ก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมอยู่ดี
ตอนนี้เกือบ xxxx ใช้ชีวิตเหมือนเดิม แต่ทำบุญเยอะขึ้น เน้นทำกับคนและสุนัข แต่ที่ยังถือหุ้นอยู่เกือบ 80% เพราะสัดส่วนตอนแบ่ง50/50 เมื่อปีที่แล้ว ช่วง4-5 เดือนที่ผ่านมาหุ้นที่ถือทำกำไรได้ดี ทำให้สัดส่วนที่ลงทุนในหุ้นมากขึ้น ก็ยังถือต่อไป ตัวหลักๆในport มี 4-5 ตัว ตัวรองๆอีก 3-4 ตัว
ยังไงก็แล้วแต่ คิดว่า ถ้ายังไม่ขายทำกำไร ก็ยังไม่แน่ วันร้ายคืนร้าย หุ้นตก 100 จุด หรือมีข่าวร้ายที่ไม่คาดคิด อาจกลับถอยกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ที่ตรงไหนก็ได้ แต่ไม่เป็นไร เพราะไม่ใช้ margin loan เลย
ตอนนี้ สนุกกับความคิดที่เราคิดว่าเรามองถูกทาง port ระดับพันล้านขึ้น แนวคิดจะเปลี่ยนไป
อ้อ...คิดไว้แล้วก่อนตาย จะแบ่งเงินเป็น4 ส่วนให้กับน้องทั้ง 2 คนคนละส่วน อีกส่วนให้กับกลุ่มคนที่ดูแลเราก่อนตาย อีกส่วนมอบให้การกุศล เพราะไม่มีลูก
พี่หมอเจครับ เราเคยเจอกันตอน meeting ห้องรัชดา นานนนนมาแล้วครับDr.Jfk เขียน:คาราวะฝีมือด้วยคน*AQUA* เขียน:เท่าที่นึกได้นะครับ เอาหลังวิกฤตปี 2540 แล้วกันdragonrider เขียน:ขอถาม คุณ *AQUA* ครับ ว่า แนวทางการลงทุน หรือ วิธีการลงทุน มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไร ครับ เช่น สภาพคล่องของหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ หรือไม่? ประเภทของหุ้นที่ลงทุนเปลี่ยนหรือไม่? รายละเอียดต่างๆ แล้วแต่จะกรุณา แบ่งปัน ครับ ขอบคุณครับ
แนวทางการลงทุน ในช่วงที่ port หลักสิบล้าน จะเน้นลงทุนใน warrant ของตัวที่คิดว่าดีในแต่ละยุคนั้นๆ port จะโตได้เร็ว เช่น scb-c1 spl-w kk-w3 kk-w4 แต่ช่วงนี้ warrant ดูไม่ค่อยมีตัวน่าสนใจ ไม่เหมือนเมื่อ 5-10 ปีก่อน
หลักต้นๆร้อยก็ยังเน้นเหมือนเดิม แต่จะถือควบคู่กันไป เน้นหุ้น trunaround ในสมัยนั้นๆ ช่วงปี 2546 ก็เช่น TDT THL (ตอนนี้เจ๊งไปหมดแล้ว บริษัทพวกนี้) หุ้นวัฎจักร PSL TTA STA ATC และหุ้นใหญ่ๆที่ตอนนั้นใครๆต้องเล่น PTT PTTEP
พอ 300-400 ก็เปลี่ยนมาเก็บน้อยๆตัว ไม่เกิน4-5ตัว แต่มองให้ขาดว่ามันจะใช่หรือไม่ โดยซื้อแรกๆไม่เยอะ ศึกษาเพิ่มเติมทั้งภาพอุตสาหกรรม,ผู้นำตลาดและคู่แข่งที่สำคัญคือจิตวิทยาการลงทุน ต้องมองไปข้างหน้าก่อนคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ อย่าทำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด ถ้าราคาใช่ ก็ซื้อเยอะๆ แล้วเก็บยาว ที่ได้กำไรและขายไปแล้วเช่น JAS SIRI
กลับมาต่อค่ำๆครับ
ผม ตอนสิบกว่าๆ นี่ก็เล่น W เหมือนกัน แต่ เก่งน้อยกว่า คุณ Aqua เยอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ อิๆ
อ้าวววววว แหม คนรู้จักกัน ตอนรวย ไม่มาชวนกันรวยมั่ง อิๆ*AQUA* เขียน:พี่หมอเจครับ เราเคยเจอกันตอน meeting ห้องรัชดา นานนนนมาแล้วครับDr.Jfk เขียน:คาราวะฝีมือด้วยคน*AQUA* เขียน:เท่าที่นึกได้นะครับ เอาหลังวิกฤตปี 2540 แล้วกันdragonrider เขียน:ขอถาม คุณ *AQUA* ครับ ว่า แนวทางการลงทุน หรือ วิธีการลงทุน มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไร ครับ เช่น สภาพคล่องของหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ หรือไม่? ประเภทของหุ้นที่ลงทุนเปลี่ยนหรือไม่? รายละเอียดต่างๆ แล้วแต่จะกรุณา แบ่งปัน ครับ ขอบคุณครับ
แนวทางการลงทุน ในช่วงที่ port หลักสิบล้าน จะเน้นลงทุนใน warrant ของตัวที่คิดว่าดีในแต่ละยุคนั้นๆ port จะโตได้เร็ว เช่น scb-c1 spl-w kk-w3 kk-w4 แต่ช่วงนี้ warrant ดูไม่ค่อยมีตัวน่าสนใจ ไม่เหมือนเมื่อ 5-10 ปีก่อน
หลักต้นๆร้อยก็ยังเน้นเหมือนเดิม แต่จะถือควบคู่กันไป เน้นหุ้น trunaround ในสมัยนั้นๆ ช่วงปี 2546 ก็เช่น TDT THL (ตอนนี้เจ๊งไปหมดแล้ว บริษัทพวกนี้) หุ้นวัฎจักร PSL TTA STA ATC และหุ้นใหญ่ๆที่ตอนนั้นใครๆต้องเล่น PTT PTTEP
พอ 300-400 ก็เปลี่ยนมาเก็บน้อยๆตัว ไม่เกิน4-5ตัว แต่มองให้ขาดว่ามันจะใช่หรือไม่ โดยซื้อแรกๆไม่เยอะ ศึกษาเพิ่มเติมทั้งภาพอุตสาหกรรม,ผู้นำตลาดและคู่แข่งที่สำคัญคือจิตวิทยาการลงทุน ต้องมองไปข้างหน้าก่อนคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ อย่าทำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด ถ้าราคาใช่ ก็ซื้อเยอะๆ แล้วเก็บยาว ที่ได้กำไรและขายไปแล้วเช่น JAS SIRI
กลับมาต่อค่ำๆครับ
ผม ตอนสิบกว่าๆ นี่ก็เล่น W เหมือนกัน แต่ เก่งน้อยกว่า คุณ Aqua เยอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ อิๆ
Dr.Jfk เขียน:อ้าวววววว แหม คนรู้จักกัน ตอนรวย ไม่มาชวนกันรวยมั่ง อิๆ*AQUA* เขียน:พี่หมอเจครับ เราเคยเจอกันตอน meeting ห้องรัชดา นานนนนมาแล้วครับDr.Jfk เขียน:คาราวะฝีมือด้วยคน*AQUA* เขียน:เท่าที่นึกได้นะครับ เอาหลังวิกฤตปี 2540 แล้วกันdragonrider เขียน:ขอถาม คุณ *AQUA* ครับ ว่า แนวทางการลงทุน หรือ วิธีการลงทุน มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไร ครับ เช่น สภาพคล่องของหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ หรือไม่? ประเภทของหุ้นที่ลงทุนเปลี่ยนหรือไม่? รายละเอียดต่างๆ แล้วแต่จะกรุณา แบ่งปัน ครับ ขอบคุณครับ
แนวทางการลงทุน ในช่วงที่ port หลักสิบล้าน จะเน้นลงทุนใน warrant ของตัวที่คิดว่าดีในแต่ละยุคนั้นๆ port จะโตได้เร็ว เช่น scb-c1 spl-w kk-w3 kk-w4 แต่ช่วงนี้ warrant ดูไม่ค่อยมีตัวน่าสนใจ ไม่เหมือนเมื่อ 5-10 ปีก่อน
หลักต้นๆร้อยก็ยังเน้นเหมือนเดิม แต่จะถือควบคู่กันไป เน้นหุ้น trunaround ในสมัยนั้นๆ ช่วงปี 2546 ก็เช่น TDT THL (ตอนนี้เจ๊งไปหมดแล้ว บริษัทพวกนี้) หุ้นวัฎจักร PSL TTA STA ATC และหุ้นใหญ่ๆที่ตอนนั้นใครๆต้องเล่น PTT PTTEP
พอ 300-400 ก็เปลี่ยนมาเก็บน้อยๆตัว ไม่เกิน4-5ตัว แต่มองให้ขาดว่ามันจะใช่หรือไม่ โดยซื้อแรกๆไม่เยอะ ศึกษาเพิ่มเติมทั้งภาพอุตสาหกรรม,ผู้นำตลาดและคู่แข่งที่สำคัญคือจิตวิทยาการลงทุน ต้องมองไปข้างหน้าก่อนคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ อย่าทำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด ถ้าราคาใช่ ก็ซื้อเยอะๆ แล้วเก็บยาว ที่ได้กำไรและขายไปแล้วเช่น JAS SIRI
กลับมาต่อค่ำๆครับ
ผม ตอนสิบกว่าๆ นี่ก็เล่น W เหมือนกัน แต่ เก่งน้อยกว่า คุณ Aqua เยอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ อิๆ
วันหลังต้องรบกวนปรึกษา บ้างแล้วคับ อิๆ
เทคนิค ผมไม่ค่อยได้ดูครับเพราะไม่ชำนาญ เลยคิดว่ามันขึ้นกับการตีความของแต่ละคนว่ายึดอะไรเป็นหลัก ก็ทำให้ตีความได้แตกต่างกัน อีกอย่างตลาดแบบนี้ หุ้น super over brought มันยังวิ่งต่อได้เฉย จะเสียโอกาส แต่สังเกตุเพื่อนๆหลายท่านดูกร๊าฟระดับเดือนประกอบ ก็อาศัยถามๆเพื่อนบ้าง แต่ไม่ให้ความสำคัญมากมายซักเท่าไหร่ดำ เขียน:คุณ AQUA เชื่อเรื่อง Technical มั้ยครับ แล้วใช้ Fundamental กี่%
แหมพี่หมอก็รวยอยู่แล้วนิ แต่ผมชอบความเร็วเหมือนพี่หมอครับ เพียงแต่ไม่ชอบ 2 ล้อเท่านั้นเองneuhiran เขียน:Dr.Jfk เขียน:อ้าวววววว แหม คนรู้จักกัน ตอนรวย ไม่มาชวนกันรวยมั่ง อิๆ*AQUA* เขียน:พี่หมอเจครับ เราเคยเจอกันตอน meeting ห้องรัชดา นานนนนมาแล้วครับDr.Jfk เขียน:คาราวะฝีมือด้วยคน*AQUA* เขียน:เท่าที่นึกได้นะครับ เอาหลังวิกฤตปี 2540 แล้วกันdragonrider เขียน:ขอถาม คุณ *AQUA* ครับ ว่า แนวทางการลงทุน หรือ วิธีการลงทุน มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไร ครับ เช่น สภาพคล่องของหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ หรือไม่? ประเภทของหุ้นที่ลงทุนเปลี่ยนหรือไม่? รายละเอียดต่างๆ แล้วแต่จะกรุณา แบ่งปัน ครับ ขอบคุณครับ
แนวทางการลงทุน ในช่วงที่ port หลักสิบล้าน จะเน้นลงทุนใน warrant ของตัวที่คิดว่าดีในแต่ละยุคนั้นๆ port จะโตได้เร็ว เช่น scb-c1 spl-w kk-w3 kk-w4 แต่ช่วงนี้ warrant ดูไม่ค่อยมีตัวน่าสนใจ ไม่เหมือนเมื่อ 5-10 ปีก่อน
หลักต้นๆร้อยก็ยังเน้นเหมือนเดิม แต่จะถือควบคู่กันไป เน้นหุ้น trunaround ในสมัยนั้นๆ ช่วงปี 2546 ก็เช่น TDT THL (ตอนนี้เจ๊งไปหมดแล้ว บริษัทพวกนี้) หุ้นวัฎจักร PSL TTA STA ATC และหุ้นใหญ่ๆที่ตอนนั้นใครๆต้องเล่น PTT PTTEP
พอ 300-400 ก็เปลี่ยนมาเก็บน้อยๆตัว ไม่เกิน4-5ตัว แต่มองให้ขาดว่ามันจะใช่หรือไม่ โดยซื้อแรกๆไม่เยอะ ศึกษาเพิ่มเติมทั้งภาพอุตสาหกรรม,ผู้นำตลาดและคู่แข่งที่สำคัญคือจิตวิทยาการลงทุน ต้องมองไปข้างหน้าก่อนคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ อย่าทำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด ถ้าราคาใช่ ก็ซื้อเยอะๆ แล้วเก็บยาว ที่ได้กำไรและขายไปแล้วเช่น JAS SIRI
กลับมาต่อค่ำๆครับ
ผม ตอนสิบกว่าๆ นี่ก็เล่น W เหมือนกัน แต่ เก่งน้อยกว่า คุณ Aqua เยอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ อิๆ
วันหลังต้องรบกวนปรึกษา บ้างแล้วคับ อิๆ
ผมเองก็อ่านที่คุณหมอโพส ใน pantip มาเป็นสิบปีแล้วนะ แต่ไม่เคยคุยด้วย
ผมว่าที่คุณ*AQUA*ไม่ชวนนั่นก็เพราะ งานอดิเรกคุณหมอเจคือ ปีนเขา ขึ้นดอย ผมว่ามันไม่เข้ากันกันเรื่องหุ้นนะ
ก๊ากๆๆๆๆๆๆ แถมดอยผม แต่ล่ะดอย หนาว ลบ35 - ลบ 40 C เลย หนาวมาก อิๆneuhiran เขียน:Dr.Jfk เขียน:อ้าวววววว แหม คนรู้จักกัน ตอนรวย ไม่มาชวนกันรวยมั่ง อิๆ*AQUA* เขียน:พี่หมอเจครับ เราเคยเจอกันตอน meeting ห้องรัชดา นานนนนมาแล้วครับDr.Jfk เขียน:คาราวะฝีมือด้วยคน*AQUA* เขียน:เท่าที่นึกได้นะครับ เอาหลังวิกฤตปี 2540 แล้วกันdragonrider เขียน:ขอถาม คุณ *AQUA* ครับ ว่า แนวทางการลงทุน หรือ วิธีการลงทุน มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไร ครับ เช่น สภาพคล่องของหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ หรือไม่? ประเภทของหุ้นที่ลงทุนเปลี่ยนหรือไม่? รายละเอียดต่างๆ แล้วแต่จะกรุณา แบ่งปัน ครับ ขอบคุณครับ
แนวทางการลงทุน ในช่วงที่ port หลักสิบล้าน จะเน้นลงทุนใน warrant ของตัวที่คิดว่าดีในแต่ละยุคนั้นๆ port จะโตได้เร็ว เช่น scb-c1 spl-w kk-w3 kk-w4 แต่ช่วงนี้ warrant ดูไม่ค่อยมีตัวน่าสนใจ ไม่เหมือนเมื่อ 5-10 ปีก่อน
หลักต้นๆร้อยก็ยังเน้นเหมือนเดิม แต่จะถือควบคู่กันไป เน้นหุ้น trunaround ในสมัยนั้นๆ ช่วงปี 2546 ก็เช่น TDT THL (ตอนนี้เจ๊งไปหมดแล้ว บริษัทพวกนี้) หุ้นวัฎจักร PSL TTA STA ATC และหุ้นใหญ่ๆที่ตอนนั้นใครๆต้องเล่น PTT PTTEP
พอ 300-400 ก็เปลี่ยนมาเก็บน้อยๆตัว ไม่เกิน4-5ตัว แต่มองให้ขาดว่ามันจะใช่หรือไม่ โดยซื้อแรกๆไม่เยอะ ศึกษาเพิ่มเติมทั้งภาพอุตสาหกรรม,ผู้นำตลาดและคู่แข่งที่สำคัญคือจิตวิทยาการลงทุน ต้องมองไปข้างหน้าก่อนคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ อย่าทำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด ถ้าราคาใช่ ก็ซื้อเยอะๆ แล้วเก็บยาว ที่ได้กำไรและขายไปแล้วเช่น JAS SIRI
กลับมาต่อค่ำๆครับ
ผม ตอนสิบกว่าๆ นี่ก็เล่น W เหมือนกัน แต่ เก่งน้อยกว่า คุณ Aqua เยอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ อิๆ
วันหลังต้องรบกวนปรึกษา บ้างแล้วคับ อิๆ
ผมเองก็อ่านที่คุณหมอโพส ใน pantip มาเป็นสิบปีแล้วนะ แต่ไม่เคยคุยด้วย
ผมว่าที่คุณ*AQUA*ไม่ชวนนั่นก็เพราะ งานอดิเรกคุณหมอเจคือ ปีนเขา ขึ้นดอย ผมว่ามันไม่เข้ากันกันเรื่องหุ้นนะ
ผมแค่พอมีพอใช้ ครับ*AQUA* เขียน:
แหมพี่หมอก็รวยอยู่แล้วนิ แต่ผมชอบความเร็วเหมือนพี่หมอครับ เพียงแต่ไม่ชอบ 2 ล้อเท่านั้นเอง
investment biker เขียน:ขอบคุณพี่ AQUA ที่เข้ามาแชร์ครับ ประสบการณ์การลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงแบบเกิน 10 ปี หายากมากครับ
ช่วงนี้เห็นหนังสือการลงทุนในท้องตลาด มักเขียนโดยนักลงทุนประสบการณ์แค่ 3-4 ปี บางคนแค่ 2 ปี เห็นแล้วปวดตับ 555
ตอนนี้เริ่มเอาหลักการนี้มาใช้บ้างแล้วครับ แต่ยังไม่กล้าถือตัวเดียวเกินครึ่งพอร์ต กลัวเจอเรื่องที่ไม่รู้ครับ*AQUA* เขียน:บางครั้งซื้อหุ้นห้าตัว ขาดทุนสี่ตัว แต่ตัวที่กำไรมัน cover หมดเพราะเรามั่นใจเลยซื้อเยอะ ตัวที่ขาดทุน เรายังเข้าไม่มาก โดนก็โดนไม่เยอะ ขายทิ้งไป อย่าเสียดาย เพราะเอาเงินไปซื้อตัวอื่นหรือตัวที่ถูกทาง กำไรเร็วกว่า
ผิดพลาดครั้งใหญ่ น่าจะเป็นหุ้นและwarrant ที่เล่นเพราะข่าว ตัวที่พอจำได้คือ scb-c1 ตอนที่มีข่าวจะยืดอายุ ซื้อวันนี้ พรุ่งนี้กระทรวงการคลังปฎิเสธข่าว โดนวันเดียว 50% เจอไปสิบกว่าล้าน:wall:firefox เขียน:แอบเข้ามาอ่านอย่างเดียวครับ
คิดว่าชาตินี้ไม่รู้จะมีโอกาสจะได้ถึงหรือเปล่า
สำหรับเป้าหมายนี้ แต่ก็มีรู้สึกดีครับ
กับปรัชญาของผู้ที่ทำได้สำเร็จแล้ว
ดีใจที่คุณ *AQUA* ได้เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ให้อ่าน
แต่อยากจะถามคุณ *AQUA* ว่ามีประสบการณ์ผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในการลงทุนไหมครับ
เพราะเรื่องประสบความสำเร็จหาอ่านได้เยอะแยะในเว็ปนี้
ขอบคุณครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ก่อนหน้าเคยเครียดเหมือนกัน กำไรหายไปเยอะพอสมควรเลย*AQUA* เขียน:ผิดพลาดครั้งใหญ่ น่าจะเป็นหุ้นและwarrant ที่เล่นเพราะข่าว ตัวที่พอจำได้คือ scb-c1 ตอนที่มีข่าวจะยืดอายุ ซื้อวันนี้ พรุ่งนี้กระทรวงการคลังปฎิเสธข่าว โดนวันเดียว 50% เจอไปสิบกว่าล้าน:wall:firefox เขียน:แอบเข้ามาอ่านอย่างเดียวครับ
คิดว่าชาตินี้ไม่รู้จะมีโอกาสจะได้ถึงหรือเปล่า
สำหรับเป้าหมายนี้ แต่ก็มีรู้สึกดีครับ
กับปรัชญาของผู้ที่ทำได้สำเร็จแล้ว
ดีใจที่คุณ *AQUA* ได้เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ให้อ่าน
แต่อยากจะถามคุณ *AQUA* ว่ามีประสบการณ์ผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในการลงทุนไหมครับ
เพราะเรื่องประสบความสำเร็จหาอ่านได้เยอะแยะในเว็ปนี้
ขอบคุณครับ
อีกตัวเป็นหุ้นแห่งความจริงของเจ้าสัว ที่ไม่เคยทำกำไร แต่ตอนนั้นเล่นเพราะมีประมูล 3G ต้นทุน 5 บาท เล่นไป 8 บาท พอเลื่อนประมูลเพราะกสท.ฟ้องศาล กลับมาขายเท่าทุน กำไรหายไป 80 ล้าน อันนี้ก็ถือว่าเล่นฟรีไป ขำขำ
เวลาโดนแบบนี้ อย่าคิดมาก ก็คิดว่าคืนกำไรให้ตลาดไป เพราะเงินที่อยู่ที่เราตอนนี้ ถ้ายังลงทุนในหุ้นอยู่ ก็ยังไม่เป็นของเราจริงๆ จนกว่าจะเลิกนั้นแหละครับ
ยินดีที่ได้เจอสมาชิก สินธร ที่นี่อีกแล้ว ครับ ขอบคุณที่แชร์เป้าหมายและประสพการณ์ กันครับdammai เขียน:
ขอบคุณ คุณ AQUA ครับ รวมถึง พี่หมอ JFK รวมถึงทุกคน
ผมเข้าตลาดช้า ประมาณ 6 ปี เป็นเม่าเล่นสนุกๆ เล่น 1 ปีขาดทุน 70,000 เพราะไม่คัทลอส หยุดไป 6 ปี
เพราะต้องทุ่มเวลาและกำลังไปกับการสร้างธุรกิจของครอบครัว กว่าจะมาถึงวันนี้ได้สาหัสมาก
ตอนนี้อยู่ตัวก็เลยมาดูหุ้น ระหว่างทางก็เล่นด้านอสังหาอย่างเดียวเลย เพราะโอกาสอยู่กับตรงนั้น
เพราะ port น้ำพักน้ำแรง ผม กลับเป็น อสังหา 95 % ตอนนี้ถึงครึ่งทาง 100 ล ครับ ใน 6 ปี (เทียบกับรายรับต่อเดือนเมื่อฝากประจำในธนาคาร) และไม่นับ หุ้นในธุรกิจครอบครัวมูลค่าธุรกิจ xxx ล.
ใน 5 ปีที่เหลือ กะให้ port ส่วนตัวครบ 100 ล แล้วออกจากราชการเสียที
ผมชอบหุ้น turn around เหมือนกัน มองหุ้นวัฏจักร ------------->ต้องรอคอยอีก 2-3 ปี
ถึงจะได้ฟันหนักๆ และชอบ warrant ดีดี เหมือนกัน
port หุ้นเพิ่งใกล้ 7 หลักเดือนนี้เอง ระยะสั้นกำไรจาก technical ล้วนๆ
ศึกษาลู่ทางเผื่อพาธุรกิจครอบครัวเข้าตลาด MAI อิอิอิ กระทู้พี้หมอในพันทิพเพิ่มทุน ลดทุน มีประโยชน์มากๆเลยครับ อิอิอิ
namdee เขียน:Someday, I will post this thread as a 100 millionaire.
T-T
Fight
ตอนนี้ขอ 1 ล้านก่อนครับ 555+
อย่าเรียกเซียนเลยครับ ผมแค่นักลงทุนธรรมดาๆ เพียงแต่โชคดี ประสพความสำเร็จในการลงทุนเท่านั้นเองcanuseeme เขียน:สมใจคนตั้งกระทู้
สมใจคนรออ่าน(อย่างผม)
แถมจัดมาให้เพิ่ม เป็นหลักพันล้านเลย555 (ตอนแรกอ่าน ก็ งงๆ อะไร 100อะไร 500)
ไม่ทราบว่าเซียน *AQUA* จะ มีรายละเอียดเทคนิค วิธีคิด แนวทาง เป็นวิทยาทานแก่ ผู้ไม่รู้
เพิ่มอีก รึป่าวครับ
ไม่งั้นผมจะได้ขอเขาสู่ช่วง ถามมาตอบเบย
ระดับอย่างคุณ AQUA ถ้าไม่เรียกว่า "เซียน" จะเรียกว่าอะไรล่ะครับ ความสำเร็จที่พอร์ตเติบโตขนาดนั้นคงไม่ต้องหาคำมาบรรยายฝีมือแล้วครับ ผมอยากจะทราบว่า "การมองและคิดให้ขาด" คุณ AQUA ฝึกฝนจนถึงขั้นสุดยอดอย่างไรครับ เดิมผมคิดว่าน่าจะทำได้ 2 แบบคือ*AQUA* เขียน:
อย่าเรียกเซียนเลยครับ ผมแค่นักลงทุนธรรมดาๆ เพียงแต่โชคดี ประสพความสำเร็จในการลงทุนเท่านั้นเอง
หลักๆเลยก็คือ เราต้องคิดก่อนคนอื่นครึ่งก้าว และต้องใช้จิตวิทยาในการลงทุน มองและคิดให้ขาด จากนั้นลงมือทำ ไม้แรก ลองแหย่ๆดูก่อน แล้วถ้าคิดว่าใช่ ก็ซัดไม่้สองเยอะๆเลย แล้วถือยาวจนกว่าเราคิดว่ามันเกินพื้นฐานหรือเจอตัวที่เราคิดว่าดีกว่า ต้องใช้ประสพการณ์ ค่อยๆเรียนรู้ไปครับ
*AQUA* เขียน:อย่าเรียกเซียนเลยครับ ผมแค่นักลงทุนธรรมดาๆ เพียงแต่โชคดี ประสพความสำเร็จในการลงทุนเท่านั้นเองcanuseeme เขียน:สมใจคนตั้งกระทู้
สมใจคนรออ่าน(อย่างผม)
แถมจัดมาให้เพิ่ม เป็นหลักพันล้านเลย555 (ตอนแรกอ่าน ก็ งงๆ อะไร 100อะไร 500)
ไม่ทราบว่าเซียน *AQUA* จะ มีรายละเอียดเทคนิค วิธีคิด แนวทาง เป็นวิทยาทานแก่ ผู้ไม่รู้
เพิ่มอีก รึป่าวครับ
ไม่งั้นผมจะได้ขอเขาสู่ช่วง ถามมาตอบเบย
หลักๆเลยก็คือ เราต้องคิดก่อนคนอื่นครึ่งก้าว และต้องใช้จิตวิทยาในการลงทุน มองและคิดให้ขาด จากนั้นลงมือทำ ไม้แรก ลองแหย่ๆดูก่อน แล้วถ้าคิดว่าใช่ ก็ซัดไม่้สองเยอะๆเลย แล้วถือยาวจนกว่าเราคิดว่ามันเกินพื้นฐานหรือเจอตัวที่เราคิดว่าดีกว่า ต้องใช้ประสพการณ์ ค่อยๆเรียนรู้ไปครับ