Thai VI

ไม่ได้ทำอะไรกับพอร์ตมาเกือบปีแล้ว หุ้นตกแค่นี้ ธรรมดา ถ้ามันจะตกแล้วทำให้ พอร์ตติดลบได้ ผมจะซื้อเพิ่มทันที มันอาจจะเกิดขึ้นก็ได้ แต่มันคงจะอีกนานทีเดียว

ยิ่งนานวันก็ยิ่งรู้สึกว่าเศรษฐกิจมหภาคนั้นคาดการณ์ได้ยาก
จะรู้ก็ต่อเมื่ออยู่ในสถานการณ์นั้นแล้ว
ไม่มีใครรู้จริงๆว่าอะไรจะเกิดขึ้นวันไหน

ยิ่งเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆ
ก็ยิ่งเข้าใจเรื่องพื้นฐานกิจการและแนวการลงทุนแบบ Value มากขึ้น

หากว่ากิจการยังดำเนินการได้ เราก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก
ในแง่ของรายได้ อาจจะโดนกระทบบ้าง
แต่ก็เป็นเรื่องชั่วคราว และยากที่จะหลีกเลี่ยง

ข้อดีก็ยังมีอยู่
เช่นในแง่ของการหายไปของคู่แข่งบางราย ที่กิจการไม่ได้เข้มแข็งนัก

แนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า จริงๆแล้วอาจจะมี MOS 2 ตัว
1. MOS ของราคาในตลาด
2. MOS ของตัวพื้นฐานกิจการ

ซึ่งทำให้รู้สึกว่าการลงทุนในหุ้นเป็นเรื่องที่สามารถเบาใจ และวางใจได้
หากพื้นฐานไม่เปลี่ยนจริงๆ

ความเสี่ยงจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่ราคาตลาด
แต่อยู่ที่ตัวพื้นฐานมากกว่า
หากเราวิเคราะห์ไม่เป็น ก็เท่ากับเสี่ยงไปมากกว่า 70%แล้ว

ซึ่งถ้าเราลงทุนแนวอื่นนอกเหนือจาก Value investing
อาจจะทำให้ตอนนี้เกิดความกังวล
และมีการกระทำมากขึ้น เช่นการเทรดบ่อยๆ เพื่อจับจังหวะตลาด

ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกของตัวเองล้วนๆ
ซึ่งต้องขอบคุณอาจารย์ทั้งหลาย อาทิ Buffett , อจ. นิเวศน์ และท่านอื่นๆ
ที่นำเสนอแนวคิดนี้

รายงานสถานภาพพอร์ต ณ วันที่ 18/5/55

หุ้นคงเหลือประมาณ 15% เหลือเพราะมันขาดทุน เลยไม่อยากขาย(ขาดทุนไป-15% ของเงินก้อนนี้)
เงินสด 85% เตรียมรอซื้ออย่างใจเย็น โดยมีเหตุผลจากวิกฤติการณ์ แฮมเบอร์เกอร์เป็นบทเรียน

โดยที่
@ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันพอร์ตโตมาเพียง5%
@ เงินที่เหลือกะว่าจะทยอยเข้าซื้อเมื่อหุ้นตัวที่สนใจราคาลงมาในราคาที่ถูกกว่าจะเป็น
@ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะลงลึกแค่ไหนครับ

รู้อย่างเดียวคือ เวลาที่เราไม่มั่นใจในตลาดว่ามันจะเดินทางไหน ผมขอพาตัวเอง
ออกมาเป็นคนดูอยู่ขอบสนามอย่างใจเย็นดีกว่าครับ ตกรถไม่เป็นไร ขอรักษากำไรอันน้อยนิด5%
ตั้งแต่ต้นปีที่ทำมาไว้เป็นพอครับ

โชคดีในการลงทุนนะครับทุกท่าน

kong_kang69 เขียน:รายงานสถานภาพพอร์ต ณ วันที่ 18/5/55

หุ้นคงเหลือประมาณ 15% เหลือเพราะมันขาดทุน เลยไม่อยากขาย(ขาดทุนไป-15% ของเงินก้อนนี้)
เงินสด 85% เตรียมรอซื้ออย่างใจเย็น โดยมีเหตุผลจากวิกฤติการณ์ แฮมเบอร์เกอร์เป็นบทเรียน

โดยที่
@ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันพอร์ตโตมาเพียง5%
@ เงินที่เหลือกะว่าจะทยอยเข้าซื้อเมื่อหุ้นตัวที่สนใจราคาลงมาในราคาที่ถูกกว่าจะเป็น
@ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะลงลึกแค่ไหนครับ

รู้อย่างเดียวคือ เวลาที่เราไม่มั่นใจในตลาดว่ามันจะเดินทางไหน ผมขอพาตัวเอง
ออกมาเป็นคนดูอยู่ขอบสนามอย่างใจเย็นดีกว่าครับ ตกรถไม่เป็นไร ขอรักษากำไรอันน้อยนิด5%
ตั้งแต่ต้นปีที่ทำมาไว้เป็นพอครับ

โชคดีในการลงทุนนะครับทุกท่าน

ก็ขอให้ท่านโชคดีน่ะครับ ถ้าตัดสินใจแบบนี้ไปแล้ว ส่วนของผมยังคงยังถือหุ้น 100 % ตลอดเวลา ถ้ามันลงมาจะซื้อเพิ่ม แถมได้ราคาดีด้วย เพราะตัวที่ผมเลือกลงทุนพื้นฐานกิจการยังไม่เปลี่ยนแปลงไปครับ

เพราะผมไม่สามารถคาดการณ์ตลาดได้ ตลาดมันอาจจะเด้งขึ้นตอนไหนก็ได้ไม่มีใครรู้ ดังนั้น ผมจึงคิดเสมอว่า " เวลาหุ้นลงยังมีผมอยู่ และถ้าหุ้นขึ้นผมก็คงยังอยู่ในหุ้นนั้นเช่นกัน " ( มีหลายคนที่ตอนหุ้นลงมีเราอยู่ แต่พอหุ้นขึ้น เราดันขายหุ้นเหล่านั้นไปหมดเสียแล้ว เพราะคิดว่าจะช้อนซื้อได้ทันท่วงที แต่สุดท้ายก็....... )

ดังนั้น ผมจะอยู่ในหุ้นตลอดเวลา 100 % ครับ

ผมคนนึงที่ถือหุ้นเกือบเต็มพอตตลอดเวลา
ไม่ใช่ไม่กลัว แต่ยังมีหุ้นที่น่าสนใจก็อดซื้อไม่ได้
ที่ผ่านมาเป็นสิบปี ก็ผ่านมาได้ด้วยดีเสมอ
ขอบคุณคำสอนของอาจาร

หุ้นคือธุรกิจ ไม่ใช่แค่ราคา

ตลาดเป็นผู้รับใช้ ไม่ใช่เราไปรับใช้ตลาด

ผมก็ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาเหมือนกันครับ ถ้าหุ้น 2 ตัวไหนลดลงแตกต่างจนมี upside มากกว่า 20% ก็สวิชกันครับ

ผมว่าการล้างportรอ...ไม่ใช่คำตอบครับ ตอนน้ำท่วมคนที่จับจังหวะถูกก็มีนะครับ เเต่"น้อย" ที่ผมรู้จักมีคนเดียว ส่วนที่เหลือหน้าเเตก กลับตัวรับกลับเเทบไม่ทัน

ที่สำคัญถ้ารักที่จะลงทุนเเบบVIผมว่าการล้างPortเเละการSAPตามเศรฐกิจมหภาค คงไม่อยู่ในตำราของVIครับ

อย่างไรก็ตามการมีเงินสดไว้ในPortส่วนนึงจะทำให้เราขยับตัวง่ายขึ้น ซึ่งการด้มาของเงินสดก็มีหลายทาง ไม่จำเป็นต้องเอามาจากการขายหุ้นดีๆซะหน่อย:D

งงบางคนจัง ถือหุ้น 100% ถ้าลงจนน่าสนใจจะซื้อเพิ่ม

คือใช้มาร์จิ้นรึเปล่าครับ

อาจจะเป็นเงินจากรายได้ประจำที่รอจังหวะในการลงทุนเพิ่มก็ได้ครับ
การใช้ margin หุ้นขาลงอันตรายมากๆ คนที่ไม่เคยใช้ควรจะจำลอง
Worst Case Scenario Model ขึ้นมาดู คล้ายๆกับ การใช้ MOS

อ่านโพสต์ของหลายคนแล้ว ก็ยังรู้สึกได้ว่าหลายคนยังคงเล่นหุ้นอยู่ ยังสนใจสภาพตลาดอยู่มาก

100 % ครับ

สรุป สถานพอร์ต ณ วันที่ 23/5/55

@ วันนี้ซื้อลูกรักสัปปะรด กลับเข้ารังเดิม ได้ประโยชน์อยูหลายอัฐ เพียงแค่ไม่ถึง20วัน ไม่นึกเหมือนกันว่าราคาจะกลับมาทุนเดิมได้รวดเร็วขนาดนี้
ทำให้ตอนนี้ สถานพอร์ตเปลี่ยนไปเป็นดังนี้ครับ (เดิม หุ้น 85% เงินสด 15% )

หุ้น 30%
เงินสด 70%

------------------------------------------------
โชคดีในการลงทุนครับทุกท่าน

กำลังเล็งอยู่ว่าจะซื้อเพิ่ม..

ขุดครับ

ตอนนั้น หุ้นลง เกิดอะไรขึ้น จำบ่ได้