Thai VI

10 ล้านบาทแรกยังมาไม่ถึง
แต่พยายามจะไปให้ถึงให้ได้
เท่าที่ผมอ่านมาจับใจความได้ว่าส่วนใหญ่แล้วต้องนำเงินมาเติมลง Port ลงไปเรื่อยๆ
แล้วก็ลงทุนไปตามแนว VI ที่เราต้องศรัทธาและเชื่อมั่น แล้วมันจะทบต้นเอง
แล้วสักวันนึงมันจะต้องเห็นผล
ผมเชื่ออย่างนั้น

สำหรับผมในวันนี้ ผมได้รู้ซึ้งแล้วครับว่าเงินจำนวนหนึ่งที่มากมายสำหรับผม มันไม่ได้ทำให้ชีวิตผมมีความสุขกว่าเดิมเลย
มันแลกกับบางสิ่งบางอย่างไม่ได้ ไม่ได้เลยครับ

SinghaPT เขียน:สำหรับผมในวันนี้ ผมได้รู้ซึ้งแล้วครับว่าเงินจำนวนหนึ่งที่มากมายสำหรับผม มันไม่ได้ทำให้ชีวิตผมมีความสุขกว่าเดิมเลย
มันแลกกับบางสิ่งบางอย่างไม่ได้ ไม่ได้เลยครับ

การมีครอบครัวที่อบอุ่นมันเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

อาจจะมองอีกมุมว่า ถ้าเงินที่มีมากมายหายไป เราจะสุขเพิ่มขึ้นไหม
เงินอาจจะซื้อไม่ได้ทุกอย่าง แต่ถ้าไม่มีเงิน เดือดร้อนแน่

ผ่านชีวิตมาทั้งตอนที่มีเงิน และไม่มีเงิน ผมขอเลือกแบบแรก
จงภูมิใจเถอะครับ ถ้าเราได้เงินมาโดยชอบ สัมมาสุจริต

เงินที่มากมายเกินไปบางครั้งมันก็มากเกินกว่าที่จะซื้อวัตถุหรือความสุขบางอย่าง แต่บางคนก็ยังอยากมีเงินมาก ๆ เพราะบางครั้งอาจจะทำให้เค้ามีความรู้สึกว่าได้รับการยอมรับทางสังคม เจ้าสัวหมื่นล้านย่อมได้รับความสนใจมากกว่าเสี่ยพันล้าน

แต่บางเรื่องความสุขก็ซื้อไม่ได้จริง ๆ เช่น การเป็นโรคบางอย่าง โดยเฉพาะถ้าเลือกมาเป็นกับคนที่อายุน้อย ๆ จริงอยู่เงินที่มากอาจจะเข้ารพ.ห้าดาว หาหมอระดับเทพ แต่บางครั้งมันก็ทำให้อายุที่คน ๆ นั้นจะมีโอกาสใช้เงินที่มากมายนั้นมันสั้นลง

ไม่ต้องอะไรมากมายแค่คน ๆ นึงเป็นโรคพื้น ๆ อย่างเบาหวาน มันก็มีข้อมูลอยู่มากมายว่าในอนาคตอีกไม่กี่สิบปีเค้าจะต้องเจออะไรยามอายุมากขึ้น ไม่ต้องไปดูดวง ข้อมูลทางการแพทย์มีมากมายว่าคนเหล่านี้มีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ ทั้งโรคหัวใจและอัมพาตและไตวาย กินยาเป็นกำ ๆ มือ จะไปไหนไกล ๆ ก็กลัวโรคจะกำเริบ แบบนี้มีเงินเป็นหมื่นล้านก็ไม่มีความสุขแน่

บางเรื่องยังไงเงินก็ซื้อไม่ได้ บางเรื่องเหมือนจะเป็นเรื่องของดวง ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องของดวงหรือความซวยเราก็คิดว่าเรากำหนดไม่ได้ แต่บางครั้งถ้ามองว่าเป็นเรื่องกรรม ถึงเราจะกำหนดไม่ได้ทั้งหมด แต่เราเลือกที่จะทำให้มันเบาบางลงได้บ้าง ถ้าทำแต่ความดี ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทำมาหากินโดยสุจริต ทำบุญทำทานตามความเหมาะสมแก่ฐานะ

ใช้ชีวิตอย่างมีสติ อย่าคิดว่าเรื่องบางเรื่องมันเกิดกับเราไม่ได้ครับ

ลูกอิสาน เขียน:อาจจะมองอีกมุมว่า ถ้าเงินที่มีมากมายหายไป เราจะสุขเพิ่มขึ้นไหม
เงินอาจจะซื้อไม่ได้ทุกอย่าง แต่ถ้าไม่มีเงิน เดือดร้อนแน่

ผ่านชีวิตมาทั้งตอนที่มีเงิน และไม่มีเงิน ผมขอเลือกแบบแรก
จงภูมิใจเถอะครับ ถ้าเราได้เงินมาโดยชอบ สัมมาสุจริต

เห็นด้วยกับพี่ลูกอิสานครับ
ไม่รู้ทำไม พี่พูดหรือโพสอะไรมันช่างโดนใจผมไปทุกเรื่องเลยครับ
(แฮ่...ผมได้สิทธิเข้าร่วมงานมีทติ้งรอบนี้ด้วย ยังไงก็ฝากเนื้อ ฝากตัวด้วยน๊ะครับ ฮ่า... )

ผมเคยมีช่วงชีวิตที่ลำบากเหมือนกัน
แม้อาจไม่มากเท่าใครหลายๆคน แต่ผมว่าการมีเงินหรือมีหุ้นในพอร์ตมันทำให้เราอุ่นใจหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้มากทีเดียวครับ
ตอนแฟนผมท้องแก่ใกล้คลอดลูกคนแรก บริษัทฯที่เราทำงานเกิดปิดกิจการแบบไม่คาดคิด
ทำให้เราตกงานพร้อมกันทั้งคู่ ตอนนั้นถ้าผมไม่ได้ลงทุนไว้ในหุ้น ชีวิตช่วงนั้นผมคงมืดมนพอสมควรแน่ครับ
แต่พอเรามีเงิน ทำให้เรามีสติ ไม่ต้องฟุ้งซ่านกับอนาคตและปัจจุบันมากนัก
เราก็สามารถค่อยๆคิดและผ่านวิกฤตไปได้แบบสบายๆครับ
รอบนั้นเราพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เอาเงินชดเชยจากการตกงาน(หลังสำรองไว้ใช้คลอดลูกและใช้จ่ายช่วงตกงาน)
มาซื้อหุ้นตัวที่เราถืออยู่เพิ่ม วันนี้กลับดีใจที่ตกงานในวันนั้นไปเลยครับ ฮ่า...(อีกที )

ปล.ถ้าพาออกนอกประเด็นก็ขออภัยพี่จขกท.ด้วยครับ

โดนเข้ากับตัวเอง เคยคิดว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ถึงเวลาวิกฤตไม่มีเงินเป็นหนี้เป็นสินทำให้ผมนึกถึงคนจีนโบราณชอบพูดว่า"คนรวยพูดอะไรเสียงดังน่าฟัง คนไม่มีเงินจะพูดอะไรก็หนวกหู" ผมว่าถ้ามีเงินเยอะหน่อยก็ดีนะหากหามาโดยสุจริต สำหรับ10 ล้านแรกคาดว่าจะได้เห็นกับเขาบ้าง หวังว่าความรู้แนวVIจะช่วยให้ผมฝ่าวิกฤตอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไปได้นะครับ

ลูกอิสาน เขียน:อาจจะมองอีกมุมว่า ถ้าเงินที่มีมากมายหายไป เราจะสุขเพิ่มขึ้นไหม
เงินอาจจะซื้อไม่ได้ทุกอย่าง แต่ถ้าไม่มีเงิน เดือดร้อนแน่

ผ่านชีวิตมาทั้งตอนที่มีเงิน และไม่มีเงิน ผมขอเลือกแบบแรก
จงภูมิใจเถอะครับ ถ้าเราได้เงินมาโดยชอบ สัมมาสุจริต

ไม่มีเงินนะลำบากแน่ครับ
ผมเองทุกวันนี้ต้องการเงินถึงบางคนบอกว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้
มีเงิน. ให้ลูกเรียนที่ดีๆ มีความสุข
มีเงิน. ให้การรักษาพ่อแม่พี่น้องคนข้างเคียง ก็มีความสุข
มีเงิน. ได้ทำอะไรให้ชุมชน. ผมว่าก็มีความสุขนะครับ
บางครั้งเราเห็นพ่อแม่ไม่มีความสุขเนื่องจากญาติพี่น้องของท่านลำบากเราก็
คงอยากช่วยเหลือท่านบ้าง. ให้ท่านมีความสุข
แม่ผมต้องไปทำงานต่างประเทศเป็นเวลา 17 ปี เพื่อ. "เงิน". เพราะเพียง
แค่อยากให้ลูกได้เรียน ถึงท่านลำบากท่านก็มีความสุข
เพราะสังคมทุกๆวันนี้ ต้องใช้เงิน

ไม่เหมือนช่วงผมเด็กๆ. เกี่ยวข้าวที่บ้านก็ช่วยกันลงแขก
มีกับข้าวก็แบ่งบ้านข้างๆกิน
หาปลา หากบได้เยอะๆก็แบ่งเพื่อนบ้าน แบ่งญาติพี่น้อง

ดีใจด้วยสำหรับคนที่ได้ลงทุนได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายครับ
เพราะอย่างน้อยเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝันท่านยังคงมีเงินเตรียมพร้อม
สำหรับวันนั้น เพราะชีวิตไม่แน่นอนจริงๆครับ

มาลงชื่อครับ ถึงแล้วแบบไม่รู้ตัว
ทั้งที่ปีนี้เน้นแต่หุ้นที่ถือแล้วสบายใจ ดู down side ไม่ได้ดู up side เลย
แค่พยายามจะรักษาพอร์ทไม่ให้ลดลง เลือกหุ้นที่เอาแบบไม่เจ๊งก็พอ

ขอให้กำลังใจเพื่อนนักลงทุนคนอื่น ว่าถึงเป้าแน่ ถ้ายึดแนวทาง VI ครับ

เงินมันมีค่ากับสิ่งที่ต้องใช้เงินเท่านั้น ส่วนสิ่งที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน ก็เป็นคนละเรื่อง

ในนี้มีคนเก่งๆกันทั้งนั้นเลยครับ เห็นแล้วรู้เลยว่าตัวเองยังต้องฝึกอีกมาก

ไปปักหมุด ห้อง 100 ล้านแล้ว ผ่าน 10 ล้าน ตอน 1600 ตอนนี้ตกกะไดเหลือ 9 ล้าน
ก็ผ่าน 10 ล้านแบบ งงๆ ง่ายๆ เลยดีใจแบบไม่ตื้นเต้นอะไร มาก

คิดว่างัย ก็ไปต่อได้อ่ะนะ หุ้นที่ถืออยู่ไม่น่าพลาด ดูทุกแง่มุมแล้ว

แต่สมัยนี้ 10 ล้านไม่พออ่ะครับ สำหรับคนอายุ 47 อย่างผม ซื้ออะไรยังกังวลอยู่อย่างมาก
ต้องไปให้ถึง 1 ล้านดอลล่า ให้ได้ ถึงจะสบายใจ หมดห่วงปัญหาการเงินในอนาคต

1 ล้าน 10 ล้าน ก็ไม่ได้รู้สึกยากนะครับ แต่ 100 ล้านผมรู้สึกเลย ไปจะถึงก่อนตายไหม

ยินดีกับหลายๆท่านด้วยที่ผ่านด่านมาได้นะครับ

สำหรับผมคาดหวังไว้ว่าปีหน้า (2557) น่าจะผ่านได้ หากไม่พบกับสถานการณ์ตลาดไม่เป็นใจไปซะก่อนครับ
พยายามครับ

มีสิบมีร้อยมีพัน
สำคัญที่สุดคือสมดุลย์ของชีวิตครับ
สมดุลย์ของทางโลกกับทางธรรม

แม้ว่าสัดส่วนของความสมดุลย์สำหรับแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันไม่เท่ากัน
แต่ต้องมีความสมดุลย์นั้นอยู่ครับ
แล้วจะค่อยๆปรับสัดส่วนเมื่อเปลี่ยนฐานะทางโลก
โดยการเพิ่มสัดส่วนทางธรรม ก็จะอนุโมทนาด้วยครับ

10 ล้านบาทแรกของผมได้มาจากมรดกคับ ผมยังกลัวรักษามันไว้ไม่ได้เลย ผมคิดว่าถ้าไม่มีเงินจำนวนที่เพียงพอก็จะเกิดความกลัวครับ กลัวอดตาย กลัวต่างๆ นานา ผมไม่รู้ว่ามี 100 ล้าน++ แล้วจะรู้สึกยังงัย สักวันผมยังอยากที่จะมีเพื่อลบความกังวลออกไปครับ

มีเท่าไหร่ ก็หนีความกลัว ไม่พ้นหรอกครับ

ความกลัว ส่วนใหญ่ เกิดมาจากความไม่รู้

พอรู้ เข้าใจ และยอมรับ ได้อย่างแท้จริงแล้ว ความกลัวน่าจะเจือจางลง ตามความรู้ที่มี

จำ ๆ มาอีกที ยังไม่ค่อยรู้เหมือนกัน

ถ้ากลัวต้องไปอ่าน กระทู้ของพี่หมอสามัญชน เคล็ดลับความกล้า
เป็นสุดยอดวิชาอีกหนึ่ง อิอิอิอิ ผมชอบที่พี่หมอมีแนวคิดดีๆเยอะแต่เสียดายพี่เขาไม่ได้โพสแหล่ะ

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=28835

superboy เขียน:ถ้ากลัวต้องไปอ่าน กระทู้ของพี่หมอสามัญชน เคล็ดลับความกล้า
เป็นสุดยอดวิชาอีกหนึ่ง อิอิอิอิ ผมชอบที่พี่หมอมีแนวคิดดีๆเยอะแต่เสียดายพี่เขาไม่ได้โพสแหล่ะ

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=28835

ขอบคุณที่แนะนำครับ มาเจอเข้าได้อ่านแล้วได้ควมรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ

ผมคิดว่า ถ้าคุณมองเห็นเงินลดลงทุกวันๆ แล้วทำให้คุณมีความสุขได้ อันนั้นสิแสดงว่าเงินอาจจะเป็นปัญหา คนๆ นั้นอาจมีเงินมากไปจนเป็นภาระ
การพูดว่ามีเงินแล้วทำให้ชีวิตไม่มีความสุขหรือสุขน้อยลงคงเกิดขี้นกับน้อยคนนัก และที่สำคัญการมีเงินมากคงไม่ใช่ป้ญหา เงินในตัวมันเองไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
ลองหลับตานึกภาพดูว่า ถ้าอยู่ดีๆ เงินของคุณวันนี้มันหายไปจากธนาคารซัก 20% จาก 10 หรือ 100 ล้านลดมาเหลือ 8 หรือ 80 ล้านโดยที่คุณไม่รู้ ชีวิตคุณก็คงดำเนินต่อไปตามปกติไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อคุณรู้ขี้นมา ความทุกข์ก็มาเยือนทันที ทั้งๆ ที่ยังเหลือกินเหลือใช้ เป็นเพราะอะไร
สิ่งที่คุณคิดต่างหากที่มีปัญหา ซึ่งมีรากของปัญหามาจากหลายๆ ปัจจัย เช่น การไม่รู้จักคำว่าพอ ความกังวลว่าเงินจะลดลง ความต้องการที่อยากได้มากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมายตามแต่จริตของคนๆ นั้น
เพราะฉะนั้น ทัศนคติต่อการมีและไม่มีเงินในแต่ละระดับของเราจึงสำคัญกว่ามากมาย สิ่งที่เราพึงทำได้ คือ จงภูมิใจในสิ่งที่เราหามาได้อย่างสุจริต มีความสุขกับสิ่งที่เรามีไม่ว่าจะมีมากหรือน้อย มีมากก็สุขให้มาก มีน้อยก็สุขมากได้ แล้วค่อยๆ เพียรเก็บหอมรอมริบ ใช้แต่พอเพียง บริจาคทำทานตามเหมาะสมและเอื้อเฟื้อต่อครอบครัวและเพื่อนรอบข้าง ทุกอย่างจะกลายเป็นกำไรของชีวิตเพียงแค่เราเปลี่ยนวิธีคิดที่เราเคยมีกับ"เงิน"

รออีก 2 ปีจะกลับมาใหม่ครับ

เห็นพี่ๆ ในห้องนี้แล้วน่าอิจฉามากๆ เลยครับ หลายๆ คนถึงฝันแล้ว หลายๆ คนก็กำลังสู้อยู่

ส่วนตัวผม มีเงินลงทุนเริ่มต้นแค่ 15,000 บาท ตอนนี้ Port +40% โดยประมาณ

แถมใช้ชีวิตค่อนข้างอินดี้ เอาแต่ใจตัวเองพอสมควรไม่ชอบชีวิตการทำงานแบบพนักงานออฟฟิต ลาออกมาทำงานแบบอิสระไม่สังกัดออฟฟิต รับงานนอกมาทำที่หอ รับโปรเจกต์ร่วมกับเพื่อนบ้าง แล้วแต่สถานการณ์ ใช้เงินชนเดือนความจริงรายได้งานนอกเยอะพอใช้ได้ แต่ติดนิสัยว่าจะกั๊กเงินส่วนหนึ่งไว้ลงทุน โดยแอบหวังลึกๆ ว่าเทรนการทำงานในอนาคตจะเปลี่ยนจากพนักงานออฟฟิตมาสู่ฟรีแลนซ์ ทำงานผ่านระบบ Internet แล้วส่งงานผ่านเมลล์กัน(เพ้อฝัน อิอิ)

ตอนนี้สะสมเงินพร้อมเพิ่มทุนได้แล้ว 45,000 จากงานนอก จากเงินเก็บ จาก ฯลฯ

โดยเป้าหมายแรกคือ 100,000 บาทแรกในชีวิตก่อนครับ
เป้าหมายถัดไป 1,000,000 บาท
เป้าหมายถัดไปอีก ปันผลให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 30-50kb แล้วผมจะเกษียณตัวเอง กลับบ้านที่ ตจว. ไปทำไร่ ทำสวน ทำฟาร์ม(ความใฝ่ฝันสูงสุดผมอยากทำฟาร์มแบบเกม Harvest Moon มากๆ)
แล้วค่อยขยับขยายไปเรื่อยๆ โดยนิสัยแล้วผมเป็นพวกฝันใหญ่ ขอมองทะลุไปที่ 100 ล้านเลยได้มั้ยครับ

ขอสู้กับพี่ๆ ทุกคนนะครับ

เพิ่งลงทุนได้ไม่นานครับ

ได้อ่านกระทู้แล้วมีกำลังใจมากครับ

ผมอายุ 30 พร์อต 4 ล้านกว่าๆ
ผมลงทุนตอนอายุ 24 ด้วยเงินเริ่มต้น 100,000 บาทครับ
เน้นลงทุนในหุ้นเทรินอะราวน์เป็นหลัก ซื้อเมื่อธุรกิจประสบปัญหาถึงขนาดขาดทุนแล้วถือยาว 1 - 3 ปี และขายเมื่อธุรกิจสะสางปัญหาได้และกลับมาทำกำไรได้ใหม่
คาดหวังไว้ 50 ล้านบาทเมื่ออายุ 40 ครับ

ตอนนี้ผมทำงานประจำ เงินเดือนประมาณ 100K ยอมรับเลยงานประจำหนักมาก

(ตื่นตั้งเเต่ ตี 5.30 กลับบ้านอีกที 3 ทุ่มกว่า) แต่ผมรู้ว่าเป้าหมายของผมคืออะไร

ผมเอาเงินใส่หุ้นเดือนละประมาณ 50K หลังจากที่ ให้ พ่อ กับ เเม่ เเละ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว

หลังจากที่ผมไปเรียนคอร์ส thai vi มารู้สึกประทับใจ เเละ ได้ความรู้มากมายในการลงทุน

ผมตั้งใจว่า พอร์ทผม จะ 8 หลัก ในอีกไม่ช้า

ปล. ตอนนี้พอร์ทหุ้นผมประมาณ 3 ล้านกว่าๆ เเละมี asset อื่นๆ อีก 0.8 ล้าน (ทอง + LTF + Insurance)

พอร์ท 8 หลัก ผมจะกลับมาที่ห้องนี้อีกครั้ง . . . . . . . .

มี1ล้านก็อยากมี5ล้าน มี5ล้านก็อยากมี10ล้าน มี10ล้านก็อยากมี100ล้าน มี100ล้านก็อยากมี1000ล้าน สุดท้ายตายไปก็เอาติดตัวไปไม่ได้ซักบาท ลูกหลานสบายแต่นั้นก็อาจจะเป็นความสุขที่สุดในชีวิตก็ได้ครับ

jeaw2288 เขียน:ยอมรับเลยงานประจำหนักมาก (ตื่นตั้งเเต่ ตี 5.30 กลับบ้านอีกที 3 ทุ่มกว่า)

รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ผมเคยเป็นโรคกระเพาะเรื้อรังและกรดไหลย้อนช่วงที่เคยทำงานหนักๆ กลัวตายไวก็เลยเลิกไปครับ ตอนหลังก็เลยถือคติว่าทำงานชิวๆไว้ก่อน ถ้ารายจ่ายไม่เยอะยังไงก็เหลือเก็บ อาจจะช้าหน่อยนึงแต่หวังว่าจะอายุยืนขึ้นครับ

ผมชอบกระทู้แนวนี้นะ มันสร้างแรงบันดาลใจดีมากเลย

เหมือนมี ลางบอกเหตุ อยู่ดีๆ กระทู้นี้ ที่ผมเล็งไว้ก็เด้งขึ้นมา(เพราะมีการเคลื่อนไหว)

แม้ผมจะนำเสนอ หลักในแบบเปรียบเทียบ แต่ หลักที่เป็นค่าสัมบรูณ์ ก็น่าตื่นเต้นมิใช่น้อย
10 ล้านแรก ผมไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ งงๆ และ ดีใจ มากมาย

ถือว่าเป็น หลักที่ 2.5 ของผมละกัน

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=55248 หลัก1
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=57170 หลัก1.5
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=57540 หลัก2

ยินดีกับคุณcanuseemeด้วยคร้าบ เป็นแรงบันดาลที่ดีให้ผมกับนลท.ท่านอื่นอีกหลายๆท่านเลย

congratulation