คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 14, 2005 10:01 am
โทษทีครับที่เข้ามาตอบช้าhouse เขียน:พูดถึงเรื่องนี้ ผมก็ยังสงสัยอยู่ครับ ว่าผลงานปีแรกผมนี่ ฝีมือ หรือ ฟลุ้ค กันแน่ เพราะเอากันจริงๆ ผมก็ไม่มีความสามารถในการวิเคราะห์ DCA แบบคุณวิบูลย์ เก็บก้นบุหรี่ก็ไม่เก่ง DCF ก็เพิ่งหัด แล้วก็ประมาณกำไรแบบคุณ Blueblood ไม่ได้
เพราะไม่ได้เข้าเวปมาหลายวัน
เนื่องของคุณhouse นั้น
ปีแรกคงบอกอะไรมากไม่ได้
การที่จะรู้ว่าฟลุ๊ค หรือ ฝีมือคงต้องใช้เวลา
ผมว่าอย่างน้อยสัก สามปีขึ้นไปนะ
ถ้าให้ดีต้องสิบปี
ใครทำผลตอบแทนได้อย่างดีในช่วงเวลาสิบปีนี้ ฝีมือล้วนๆ
หมอฟันนักเล่นหุ้นท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า
ตอนเริ่มต้นเข้าตลาดหุ้น ให้นำเงินสิบเปอร์เซนต์มาเล่น
ถ้าผ่านไปสามปี ไม่หมดตัว แถมได้กำไรมาก ก็ให้นำเงินทั้งหมดมาเล่นได้
นั่นหมายความว่า
ช่วงเวลาหนึ่งปีไม่สามารถบอกอะไรได้เลยว่าฝีมือหรือเฮง
สองปีก็ยังไม่แน่ชัด
เท่าที่ผมสังเกต คนส่วนใหญ่จะเจ๊งในปีที่สองหรือสาม
เพราะคิดว่าตัวเองแน่
เลยใส่เข้าไปเต็มๆ ปรากฏว่าเดี้ยง
เพราะมั่นใจตัวเองเต็มที่จากกำไรในปีที่หนึ่งและปีที่สอง
ไม่ต้องกังวลมากหรอกครับ
เราทำตามที่เราคิดและคอยปรับปรุงขบวนการคิดของเราอยู่เสมอ
รวมทั้งตั้งตนอยู่บนความไม่ประมาท
โอกาสที่จะหมดตัวนั้นมีน้อยครับ
ส่วนใหญ่หมดตัวเพราะ"ความโลภ"มากกว่า
จะว่าไปแล้ว
สุภาษิตที่ว่า "โลภมาก ลาภหาย"
น่าจะเป็นเรื่องจริงในตลาดหุ้นได้ดีที่เดียว
ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนหรือนักเก็งกำไรก็ตาม
อันนี้ก็ใช้เรื่องจริงเช่นกันyoyo เขียน:แต่ก่อนเพื่อนผมก็พูดแบบนี้เหมือนกันครับ
แต่หลังจากเวลาผ่านไปปีกว่า เพื่อนๆผมขาดทุนกันทุกคน ผมยังยิ้มแฉ่งกำไรดีเหมือนเดิม
เลยเลิกแล้วครับ .. หลังๆผมพูดอะไรไปซื้อตามกันเป็นแถวเลย
เอาผลงานพิสูจน์ดีกว่าครับ ชัดเจนกว่า
ตอนแรกๆคนหาว่าผมบ้า ซื้อหุ้นไม่ยอมขาย
ทั้งคนใกล้ชิด เพื่อน และพี่ๆ
จนผมต้องเลิกคุยกับชาวบ้านเรื่องหุ้น
เพราะมันเหมือนอยู่คนละโลกเลย
จนผมพบเวปนี้
และเจอเพื่อนๆในนี้
ผมเลยมีโอกาสได้มาระบายความในใจให้ฟัง
เรียกว่าเพิ่งพบพวกที่คุยกันรู้เรื่อง
ไม่งั้นผมก็คงลงทุนอยู่คนเดียวต่อไป
นอกเหนือจากนั้นยังมีโอกาสได้เขียนลง นสพ รายสัปดาห์อีกแล้ว
ใครได้ยินก็งง........เป็นไก่ตาแตก
ไม่น่าเชื่อว่า ไอ้เด็กกะโปโลจะมีน้ำยามาเขียนคอลัมน์ได้
มันไม่เก่งจริงหรอก ก็แค่ฟลุ๊ค
เดี๋ยวเขียนไปก็หมดมุข
แถมยังไปลอกตำราฝรั่งมาอีก ไม่ได้คิดเองหรอกมั๊ง
จนเวลาผ่านไป
นี่ก็จะเกือบปีอยู่แล้วที่เขียนคอลัมน์มา
ยังไม่หมดมุข
เพื่อนที่เฝ้าดูหุ้นที่ผมถือและคอยลุ้นให้ราคาหุ้นผมดิ่งเหว
จะได้สมน้ำหน้าด้วยความสะใจ
แต่กลับปรากฏว่าราคายังยืนอยู่ได้ ไม่ตกไปตามดัชนีตลาดหุ้น
แถมกลับมามีกำไรทุกๆปี
ขณะที่พรรคพวกนี้ต้องขาดทุนไปตามๆกันเมื่อปีที่แล้ว
จนตอนนี้พวกเขาเริ่มยอมรับแล้วละครับ
แต่กว่าจะได้รับการยอมรับ
ต้องแลกด้วยความอดทนอย่างสูง
ถ้าเราไม่มีความมั่นใจในสิ่งที่เราทำและเราทนต่อแรงเสียดสีไม่ได้
เราคงประสบความสำเร็จได้ยากครับ
ขอแนะนำให้พวกเราไม่ต้องสนใจกับเสียงนกเสียงกา
ไม่สนใจต่อคำสบประมาทต่างๆ
ขอเพียงความมุ่งมั่นและตั้งใจ
อย่าท้อแท้
สักวันคนอื่นๆก็จะยอมรับเอง
ไม่ต้องไปประคารม ไม่ต้องโน้มน้าวใคร
ไม่ต้องไปบอกว่าของเขาของเราดีไม่ดีอย่างไร
พิสูจน์ให้เห็นด้วยการลงมือทำ
แล้วคนอื่นจะเข้าใจเอง
โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรสักคำ
โชคดีทุกท่านครับ