หน้า 42 จากทั้งหมด 160
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 05, 2004 3:20 pm
โดย ch_army
เอ ผมอ่าน กระทู้หลักการของ จิม โรเจอร์แล้วครับที่ คุณ WEB เอามา post ไว้ 4 ข้อก็ ยังงงๆกับ คำว่าเกม ที่ พี่วิบูลย์007 บอกอยู่ครับ งงๆ แต่พอเห็นแนวคิดในใจของเขาบ้างแล้วล่ะครับว่า ระดับโลกเนี่ยเค้าคิดแบบสามัญสำนึกดีจริงๆ ใช้เหตุผลไม่ใช่การเดา เอาสถิติมาดูไม่ใช่ สักแต่คาดการณ์ไปข้างหน้าโดยใช้ปัจจุบันลูกเดียวเพราะ โลกนี้ความจริงมัน dynamics ไม่อยู่นิ่งๆซะทีแต่พอทำนายได้ตามหลักการและ สมมุติฐานบางอย่าง จริงไหมครับ เช่น เศรษฐกิจทั่วโลกคงดีต่อเนื่องอีกซัก 3 ปีหากไม่มีสงครามเกิดขึ้นใหญ่โต(ยกมาเล่นนะครับ) ซึ่งอันนี้ สมมุติฐานคงถูกละเมิดไปแล้ว เป็นอันว่าที่เดาไว้สงสัยผิดหมดแฮะ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 05, 2004 8:46 pm
โดย chatchai
สวัสดีครับน้องวิบูลย์ ติดตามอ่านมาตลอดนะครับ
เรื่องความคิดสร้างสรรนั้น ผมว่าผู้ปกครองก็มีส่วนมากครับ ประเภทยึดติดกับกรอบมากเกินไป
ผมเคยเห็นเด็กคนหนึ่งกำลังระบายสีอยู่ โดยระบายท้องฟ้าด้วยสีอื่นที่ไม่ใช่สีฟ้า แม่ของเด็กคนนั้นก็ดุเด็กแล้วบอกว่าทำไมท้องฟ้าถึงไม่ระบายด้วยสีฟ้า
พ่อแม่หลายคนสนับสนุนให้เด็กสอบเข้าชั้นประถมที่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย โดยไม่เคยเข้าไปเยี่ยมชมการเรียนการสอนของโรงเรียนเหล่านั้นเลย
ภรรยาผมก็มักจะคล้อยตามพ่อแม่เหล่านั้น อยากให้ลูกไปสอบเข้าโรงเรียนที่มีชื่อ แต่ผมก็ให้เหตุผลและยังคงให้เรียนที่ดรงเรียนเดิม ถึงแม้จะมีแค่ประถม 6 เท่านั้น
ผมคิดแต่ว่า พยายามให้ลูกมีความสุขในการเรียนรู้ และสามารถค้นพบตัวเองครับ และผมก็พยายามสร้างฐานะความมั่นคงทางการเงินให้ เพื่ออาชีพที่ลูกรักนั้นยังไม่สามารถที่จะหารายได้มาเลี้ยงชีพได้ครับ
ไม่อยากให้ลูกมีความรู้สึกแย่เมื่อถึงเย็นวันอาทิตย์ (เพราะไม่อยากไปเรียน หรือไม่อยากไปทำงาน)
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 06, 2004 3:10 am
โดย kotaro
พี่ฉัตรชัย นี่เป็นคุณพ่อตัวอย่างได้เลยนะครับ เลี้ยงลูกได้ดีมากครับ
พูดถึงจิมโรเจอร์ เขาเคยมาเมืองไทยด้วยนะครับ 3-4 ปีก่อน มาเที่ยวกรุงเทพ ภูเก็ต ระนอง
เขาพูดถึง คนมุสลิมทางภาคใต้ด้วยว่าดูไม่เป็นส่วนหนึ่งของคนไทย บางทีต้องการจะแยกตัวเป็นอิสระหรือต้องการไปรวมกับมาเลเซีย
อยากรู้ว่าจิมโรเจอร์รู้สึกยังไงกับเมืองไทย ลองดูที่ web นี้ครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 06, 2004 3:11 am
โดย kotaro
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 06, 2004 3:19 am
โดย kotaro
แถมอีกที่นึงครับ
เป็นเทปบันทึกการสัมมนาเรื่อง The Bull Market in Raw Materials โดย จิมโรเจอร์ ครับ น่าสนใจ พูดถึงเมืองจีนด้วยครับ
ใช้เรียลไทม์ฟังนะครับ
http://www.netcastdaily.com/1experts/2004/exp060504.ram
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 08, 2004 1:54 pm
โดย VIB007
ขอบคุณคุณหมอ Kotaro ครับ
เกมของจิม โรเจอร์ก็คือ
เขาลงทุนในสิ่งที่คนอื่นไม่ลงทุนครับ
เวลามีคนมาบอกเขาว่า น้ำมันกำลังจะขึ้น
เขาจะขาย
เวลามีทุกคนบอกว่า หุ้นไม่ดี ไม่น่าลงทุน
เขาจะซื้อ
เขาบอกว่า ความสำเร็จของเขามาจากการที่มองโลกแตกต่างจากคนอื่น
ดังนั้น เขาไม่คิดว่าจะมีใครมาลงทุนตามเขาได้ทุกครั้ง
มีเฉพาะคนที่มองโลกแตกต่างจากคนอื่น เช่นโซรอสเท่านั้น ที่เข้าใจกันได้
จิมถอนตัวจากกองทุนของโซรอส
เมื่อกองทุนมีขนาดใหญ่เกินไป
และไม่สามารถควบคุมได้ด้วยเขาสองคนอีกต่อไป
จากนั้นก็นำเงินไปลงทุนเองทั่วโลกด้วยตนเอง
Chatchai เขียน:เรื่องความคิดสร้างสรรนั้น ผมว่าผู้ปกครองก็มีส่วนมากครับ ประเภทยึดติดกับกรอบมากเกินไป
น่าจะจริงนะครับ
ผู้ปกครองบางคนสร้างให้เด็กอยู่ด้วยความกลัว
เช่นหลอกให้กลัวผี กลัวตุ๊กแกมากินตับ กลัวฯลฯ
ไม่รู้ว่าปัจจุบันยังเป็นอย่างนั้นอยู่หรือเปล่า
เขาบอกว่าผู้ใหญ่กลัวอะไรมักจะนำความกลัวนั้นมาสู่เด็กด้วย
ถ้าปราศจากความกลัว เด็กจะสร้างสรรค์มากขึ้นครับ
ขอบ่นเรื่องการศึกษาของเมืองไทยอีกหน่อย
เมื่อปิดเทอมคราวที่แล้ว บริษัทผมมีนักศึกษามาฝึกงาน
จบจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬา ปี3 กำลังจะขึ้นปี 4
พอผมพบว่าเขาเรียนเศรษฐศาสตร์
ผมเลยถามเขาว่า
มีความเห็นอย่างไรในสภาพเศรษฐกิจประเทศไทยในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
(จริงๆเพื่อนำมาวิเคาระห์หุ้น)
เขาตอบไม่ได้ครับ
ผมถามว่าอาจารย์เคยมีการสอนให้ออกความคิดเห็นเป็นกลุ่มในชั้นไหม
เขาตอบว่าไม่มี แต่จะมีวิชาหนึ่งในปี 4
ได้คำตอบแค่นี้ ผมก็พบแล้วว่า
ผ่านไป 10-20 ปีการเรียนแม้แต่ในมหาวิทยาลัยเมืองไทย
ยังคงล้าหลัง
เรียนกันแต่ในตำรา
ไม่เคยให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเพื่อมาดูว่าสิ่งที่รุ่นเก่าคิดไว้นั้น
มันยังนำมาใช้ในปัจจุบันได้หรือไม่
ผมว่าไม่มีทางที่นักเศรษฐศาสตร์เมืองไทยจะได้รางวัลโนเบลเลย
เพราะเราไม่เคยคิดอะไรใหม่ๆ ออกไปจากกรอบของตำราเดิมๆ
เรายึดติดกับสมการเดิมๆ เลยทำให้เราต้องลดค่าเงินบาท เศรษฐกิจพังพินาศเมื่อปี 40
แม้แต่การเรียนในมหาวิทยาลัยเมืองไทย
สุดท้ายก็ยังวนอยู่ในอ่าง
ขอบ่นเพียงเท่านี้
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 08, 2004 2:15 pm
โดย CK
กำลังอยู่ในช่วงสอนลูกพอดี เลยร้อนวิชาครับ
VIB007 เขียน:เขาบอกว่าผู้ใหญ่กลัวอะไรมักจะนำความกลัวนั้นมาสู่เด็กด้วย
ถ้าปราศจากความกลัว เด็กจะสร้างสรรค์มากขึ้นครับ
ลูกผมมันชอบปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ แล้วทิ้งตัวลงมานั่ง
เคยพลาด หล่นมาหัวฟาดพื้นสองครั้งแล้วก็ไม่เข็ด
ทำไงดีครับซือแป๋
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 08, 2004 3:38 pm
โดย VIB007
CK เขียน:กำลังอยู่ในช่วงสอนลูกพอดี เลยร้อนวิชาครับ
ลูกผมมันชอบปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ แล้วทิ้งตัวลงมานั่ง
เคยพลาด หล่นมาหัวฟาดพื้นสองครั้งแล้วก็ไม่เข็ด
ทำไงดีครับซือแป๋
อย่าเรียกผมว่าซือแป๋เลยครับ พี่CK
เพราะผมยังไม่แก่ (ฮา)
คำถามเรื่องลูก
อันนี้ต้องถามพี่Chatchai หรือ คุณMon Money หรือท่านอื่นๆนะครับ
เพราะผมไม่มีประสบการณ์เลี้ยงลูกตัวเอง
(เคยแต่เลี้ยงลูกคนอื่นที่โตแล้ว อิ อิ)
เคยเลี้ยงหลานสองสามคน
บอกให้คาดเข็มขัดนิรภัยตอนนั่งรถ มันไม่ยอม
ผมขับรถไปเบรคกระทันหัน
หัวทิ่มหัวตำกัน กระเด็นลงไปอยู่ตรงพรมพื้นรถ
ตั้งแต่นั้นมาก็ว่านอนสอนง่ายขึ้นครับ
อีกคนไม่ยอมนั่ง Childseat
เลยบอกว่าถ้าไม่นั่ง เวลารถชนจะตาย
ตั้งแต่นั้นมาก็นั่งยอมนั่งมาตลอด
แต่ถ้าเด็กทำเจ็บเองแล้วไม่จำ....ยังไม่เคยเห็นครับ
คงต้องขอ"ตัวช่วย"แล้วละครับ ตอบไม่ได้จริงๆ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 08, 2004 8:04 pm
โดย chatchai
ไม่รู้ว่าลูกพี่ CK อายุเท่าไรแล้วครับ
ผมมีลูกสาว 2 คน คนพี่ 5 ขวบกว่าๆ คนน้อง 3 ขวบ
ห้ามยังไงก็ไม่ฟังครับเรื่องกระโดดเนี่ย ขนาดลูกผู้หญิงนะ
ผมต้องยกเตียงนอนไปเก็บ แล้วนอนพื้นกันเลยครับ
แต่ไม่วายปีนขึ้นโต๊ะกระโดดอีก เลยจัดที่ให้โดด แบบโดดลงบนที่นอนนะครับ
เรื่องผู้ใหญ่หลอกเด็กว่ากลัวผี กลัวความมืด ผมว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลยครับ
ผมและภรรยาไม่เคยสอนเรื่องกลัวผี กลัวความมืด ลูกผมก็กล้าที่จะอยู่ในห้องคนเดียว กล้าที่จะอยู่ในความมืด เหมือนในโฆษณาบอกไว้นะครับ ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง
พอโตขึ้นเด็กๆก็จะดูโทรทัศน์มากขึ้น อย่างลูกผมชอบดูละคร วัยซน ทาง ITV นะครับ บางตอนก็มีผี แต่ทำไม่น่ากลัวมาก
ผมก็พาไปที่พิพิธภัณฑ์เด็กครับ ที่นั่นมีการให้เด็กๆไปถ่ายมิวสิควิดิโอนะครับ ผมก็ให้ลูกดูว่าผีที่เห็นในโทรทัศน์เป็นการสร้างขึ้นเหมือนการถ่ายมิวสิคนะครับ เป็นการสร้างให้ดูสนุกๆเหมือนพวกมดแดงนะครับ ลูกๆพอเข้าใจก็ไม่กลัวครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 08, 2004 11:29 pm
โดย CK
ตัวช่วยมาแล้ว
ลูกชายสองขวบครับ กำลังเริ่ม terrible two พอดี
เรื่องกลัวนี่ ไม่ต้องสอนก็เป็นเองครับ
เขาจะกลัวตุ๊กตาที่เคลื่อนไหวได้เองทุกชนิด
เป็นมาตั้งแต่ไม่ถึงขวบดีครับ
แต่เรื่องโดดนี่ คิดไปคิดมา สงสัยต้องทำใจ
เพิ่งนึกได้ว่าตอนเด็กๆ ผมก็ชอบโดดเหมือนกัน
แรกๆ ก็โดดน้ำ โดดบันได โตหน่อยก็โดด
มาจากชั้นสอง พอเข้ามหาลัยก็เลยโดดเรียน
ตอนนี้โดดงานบ้าง ฮ่าๆๆ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 09, 2004 11:10 am
โดย ปรัชญา
เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ คนชอบโดด อิอิ
(ลูกๆโดดน่ะน่ารัก คุณพ่อโดดระวังนะครับ.....)
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 09, 2004 1:39 pm
โดย Mon money
ผมเองก็เพิ่งหัดโดดครับ คือโดดเข้ามั่วกับหุ้นตอนมันกำลังขึ้นๆ แต่สุดท้ายโดนทีบออกมาครับ สะบักสะบอม ก็สอนให้ชาวบ้านกลัวการเก็งกำไรแล้วตัวเองไม่เคยลองจะบอกเขาได้เต็มปากอย่างไงเลยลองสักหน่อย ระบมเลยตอนนี้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า โดดผิดเวลาอาจตายได้
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 09, 2004 2:13 pm
โดย CK
Mon money เขียน:ก็สอนให้ชาวบ้านกลัวการเก็งกำไรแล้วตัวเองไม่เคยลองจะบอกเขาได้เต็มปากอย่างไงเลยลองสักหน่อย ระบมเลยตอนนี้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า โดดผิดเวลาอาจตายได้
โดดสามทีหรือปล่าวเอ่ย
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 09, 2004 4:35 pm
โดย VIB007
CK เขียน:พอเข้ามหาลัยก็เลยโดดเรียน
ตอนนี้โดดงานบ้าง ฮ่าๆๆ
อันนี้ทำเป็นประจำ
แต่ก่อนก็โดดเรียน ไม่เข้าห้องเรียน
เพราะอาจารย์มหาลัยสอนห่วย
ตอนนี้ก็โดดงาน
ทำงานเช้าชามเย็นชาม
เขาก็ไม่ไล่ออกสักที
ส่วนโดดไปเข้าวงเก็งกำไร
ก็ลองโดดไปกับเขาบ้าง
ปรากฏว่า ไปไม่รอด
ต้องโดดกลับมารังเดิม
ตอนแรกนึกว่าเราไม่ได้เฝ้าจอเลยพลาด
ที่ไหนได้ เพื่อนนั่งเฝ้าหน้าจอยังขายไม่ทันเลย
สรุปก็คือ ต้องรู้จักพอ
รวยช้าหน่อยแต่ชัวร์ดีกว่า
ใครจะรวยก็ปล่อยเขารวยไป
ผมชอบหนังสือ จะเลือกเงินหรือชีวิต ที่บอกว่า
"คนเราไม่ได้อยากรวยหรอก เราเพียงแต่อยากมีเงินมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง"
ซึ่งผมว่าจริงนะ
บางคนมีเงินเป็นสิบๆล้าน แต่ก็อยากได้อยากมีมากกว่านี้
เพียงเพราะเพื่อนรุ่นเดียวกันมีหลายร้อยล้าน
ก็เลยอยากรวยเร็วๆ สุดท้ายก็ขาดทุนจากตลาดหุ้น
เพราะเรามุ่งไปที่การหาเงินเร็วๆมากกว่ายึดหลักการ
ถ้าเรา
"ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น"เสียแล้ว
อะไรในโลกนี้ก็ทำอะไรเราไม่ได้
ถ้าเรารู้จักพอ เราคงจะมี"ความสุข"มากขึ้นจริงหรือไม่
จากการสำรวจพบว่า
คนไทยมี"เงิน"มากขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
วัดจากรายได้ต่อหัวที่มากขึ้น
แต่กลับมี"ความสุข"น้อยลง
20ปีผ่านไป เราเป็นอย่างไรบ้าง
เรามี"เวลา"กับคนที่เรารักน้อยลง
เพราะเราเอาเวลาของเราไปทำงานหาเงินแข่งกับเวลา
เราแข่งขันมากขึ้น
เราเครียดมากขึ้น
เรามีสิ่งแวดล้อมที่แย่ลง
เรามีสภาพสังคมที่แย่ลง
เรามีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินน้อยลง
เรามีอากาศที่แย่ลง
เรามีแม่น้ำที่แย่ลง
เรามีสุขภาพที่แย่ลง
เราเคยถามตัวเองไหมว่า
ทำไม....เกิดอะไรขึ้นกับตัวเราและรอบๆตัวเรา
บางครั้งเราไม่อาจทราบได้ว่ามีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงรอบตัวเรา
ถ้าสิ่งนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อย
เหมือนกบที่อยู่ในน้ำที่กำลังร้อนขึ้นทีละนิด
สุดท้ายก็กลายเป็นกบต้มโดยไม่รู้ตัว
อ้าว...บ่นอีกแล้ว
เที่ยวที่แล้วก็บ่นเรื่องการศึกษา
คราวนี้ก็เรื่องสภาพสังคม
อยากถามคำถามเพื่อนๆว่า
จริงหรือที่ถ้าเรามี"เงิน"มากขึ้น จะมี"ความสุข"มากขึ้นอย่างที่คนทั่วๆไปคิดกัน???
อยากได้คำตอบน่ะ
ใครก็ได้ช่วยตอบที
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 09, 2004 8:29 pm
โดย chatchai
แปลกแต่จริงนะครับ ที่คนไทยมีรายได้มากขึ้น แต่มีความสุขน้อยลง ทั้งๆที่ราคาสินค้าหลายอย่างมีราคาถูกลง สมัยผมจบใหม่ๆ ซื้อโทรทัศน์ 14 นิ้ว ราคาตั้ง 7000 บาท แต่เดี๋ยวนี้ซื้อ 25 นิ้วได้เลยมั๊ง แต่คนก็ไม่พอใจ 25 นิ้วแล้วครับ ต้อง 29 นิ้วเป็นอย่างต่ำ ความต้องการไม่เคยหยุดนิ่งเลยครับ เลยต้องทุกข์กังวลไปตลอดชีวิต
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 10, 2004 2:42 am
โดย moo
ได้อ่านโพสที่ปรมาจารย์คุยกัน ได้เรียนรู้ทั้งการลงทุน ทั้งความรู้รอบตัว
สุขใดจะเหมือน
พี่วิบูลย์ครับ ผมไม่คิดว่า เงินมากขึ้น จะ มีความสุขมากขึ้นนะครับ
เงิน ซื้อทุกสิ่งได้ก็จริง แต่ไม่เชื่อว่าจะซื้อความสุข(แท้จริง)ได้หรอกครับ
ผมก็เชื่อว่า ความสุขอยู่ที่ ใจ อยู่ที่การไม่แสวงหาที่เกินเลย
อยู่ที่การไม่สะสมเกินกว่าเหตุ
เชื่อเหลือเกินว่าพี่ๆที่นี่ก็เดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง
ดูดูแล้ว VI ก็คล้ายๆกับเดินอยู่ในแนวทางนี้นะครับ
เพราะว่าดุมีความสุขทุกท่านเลยครับ
about scc
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 10, 2004 9:09 am
โดย mtidus
-เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจขอถามเกี่ยวกับ scc เลยแล้วกัน
มีคนบอกว่า scc เป็นบริษัทที่มีความสามารถทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน
แต่มุมมองของผมกลับมองว่า
ถ้าประมาณ 20-30 ปีที่แล้ว
scc อาจจะเป็นบริษัทที่มีความสามารถทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน
แต่ปัจจุบันอาจจะเปลี่ยนไป
scc เป็นแค่หุ้นวัฏจักรบริษัทหนึ่งในปัจจุบัน
-ตัองขอโทษvib007ด้วยยุ่งๆเรื่องลูกสาวเรียนต่อไม่ได่เข้ามาอ่าน
เสียหลายวัน
-มาว่าเรื่องปูนใหญ่กันดีกว่า
ปูนใหญ่มีหลักการในการเลือกธุรกิจอยู่2-3ข้อเพื่อมาประกอบการ
เพื่อให้ได้เปรียบชาวบ้านมาโดยตลอดนั่นคือ
1.capital intensive or
2.high technology or
3.1+2 รวมกัน
หลักการเหล่านี้ทำให้ถึงชาวบ้านอยากจะทำก็ไม่ใช่ว่าง่าย
นี่เป็นเพียงด่านเเรกในการรบกับปูนใหญ๋เท่านั้นเอง
-ต่อไป (ต้องซูฮก vib007เรื่องความรู้รอบตัวนะ คุณนี่ยอดจริงๆ)
หลังปี40ที่เกิดวิกฤติ ปูนใหญ่เลือกที่จะเหลือหลักๆอยู่
3อย่างจริงเพื่อเคลียร์หนี้/ขาดทุนอย่างหนักในช่วงนั้น
ว่ากันว่าเป็นหมื่นๆล้าน(ไม่รู้ข่าวลือ/จริง)
-เอาเรื่องปูน/วัสดุก่อสร้างก่อน
คิดว่าไม่ว่าทีพีไอจะจบหรือไม่จบก็ไม่แตกต่างหรือมีผล
กระทบซักเท่าไรต่อปูนใหญ่
-เป็นมาร์เก็ตลีดเด้อร์อยู่ในราว 60-80%มาโดยตลอด
-มีเอเย่นต์ที่เป็นท็อประดับง้วนจับซาหัง(ตัวเอกในชุดศัสตราวุธ
ของอุนเลี้ยงเง็ก)อยู่ทั่วประเทศ ปูนใหญ่ใช้คู่แข่งปั้นยอดฝีมือ
ขึ้นมาจนเก่ง ก็ไปดูดมาซะ(วิธีการนี้ได้ถูกบางพรรคการเมือง
เลียนแบบเพราะไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์)
-มีสำนักงานขาย/คลังสินค้าทั่วๆไปหมดทุกภาค ขับรถไปภาคไหน
ก็จะเห็น
-มีระบบงานที่ทำให้บริษัทไม่ต้องพึ่งพาอัศวินม้าขาวคนหนึ่งคนใด
ไม่ว่าจะเป็นผจก.ระดับไหน
-ปูนใหญ่ไม่เคยประมาทคู่แข่ง มีระบบเตือนภัยหลายๆจุด
-ที่สำคัญคนนอกวงการจะไม่รู้ว่า วัสดุก่อสร้างอาศัยกองทัพงูเห่า
ครับ ยอดขายส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้พึ่งพาโครงการทั้งหลาย
ซักกี่มากน้อย
-ผมจำได้ว่าที่ปูนทีพีไอเกิดมาได้ ส่วนหนึ่งมาจากความไม่พอใจปูนใหญ่
ที่ลงมาเล่นในตลาดเม็ดพลาสติค ตอนนั้นใช้ชื่อ ทีพีอี มีคุณอภิพร
รุ่นพี่vib007 เป็นเอ็มดี
-ส่วนดีอีกขัอหนึ่งที่เกี่ยวขัอง/ชาวแวลู เราเรียกหาเสมอๆ
นั่นคือ ผู้บริหารของปูนใหญ่ ไม่รู้ว่าไปเรียนวิชาคนดีศาสตร์
จากไหนมา (จากประสบการณ์ผมเอง)ไว้ใจได้มากๆๆๆๆๆ
-เพื่อนคนหนึ่งเปลี่ยนสถานภาพจากพนักงานเป็นเอเย่นต์บอกผมว่า
ปูนใหญ่จะยังคงไร้เทียมทานไปอีกนานๆๆๆ
-เอาข้อดีไปก่อนนะ ข้อเสียก็เยอะ ค่อยมาว่ากันต่อ อ้อ เรื่องปิโตรกับกระดาษ ด้วย.
-เห็นคุยเรื่องการเรียนการศึกษา ก็เลยฝากกลอนคลาสสิค
ของวิทยากร เชียงกูรไว้ให้อ่านเล่นๆ
ฉันเยาว์ฉันเขลาฉันทึ่ง
ฉันจึงมาหาความหมาย
ฉันตั้งความหวังไว้มากมาย
สุดท้ายให้กระดาษฉันใบเดียว.
whoever
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 10, 2004 9:21 am
โดย mtidus
ผมมาร์คข้อความให้แตกต่างไม่เป็น ช่วยสอนด้วย.
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 10, 2004 9:48 am
โดย ayethebing
วิพากย์ปูนใหญ่
ธุรกิจปิโตรเคมี - มีวัฎจักร ขึ้นกับสภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวมมากๆ รวมถึง supply ของปิโตรที่กำลังเพิ่มขึ้น
ธุรกิจกระดาษ - มีวัฎจักร ขึ้นกับสภาวะเศรษฐกิจโลกและภายในประเทศ
ธุรกิจปูน - ขึ้นกับสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ เป็นเจ้าตลาดได้อีกนาน
ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง - ขึ้นกับสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ มีการแข่งขันสูง
สรุปว่ามีกลุ่มธุรกิจปูนเท่านั้นที่เป็นเจ้าตลาดอย่างแท้จริง ที่เหลือต้องเจอกับคู่แข่งระดับ global ครับ
ความเห็นส่วนตัวจากความรู้เท่าหางอึ่ง ซึ่งอาจจะผิดก็ได้นะครับ ไว้ผมรอฟังท่านอาจารย์ pom ว่าเล่าต่อดีกว่า
socially
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 10, 2004 10:22 am
โดย mtidus
เห็นvib007บ่นเรื่องสังคม
ผมอยากออกความเห็นบ้างว่าการเกิดเป็นคนนั้น
ต้องมีหลักบางอย่างในการดำรงชีวิตให้คงอยู่ได้
เป็นอย่างดี/มีความสุข
แต่ละคนก็ใช้แต่ละหลักตามที่ตัวเองเห็นสมควร
ตามปัญญา/ความรู้เท่าที่จะสะสมได้
ไม่มีใครบอกได้ว่าอะไรถูก/ผิด ดี/เลว เหมาะสม
แต่ละคนใช้มาตรฐานคนละอย่างแตกต่างกันออกไป
ชีวิตเป็นของใครๆก็เลือกเอาเอง
แต่ทุกข์ที่เกิดขึ้นบ่อยมากจนถึงบ่อยสุดๆก็คือ
ไปคิดไปเห็นกับสิ่งนอกตัวที่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย
เพราะสิ่งที่พอจะเปลี่ยนได้คือตัวของตัวเองยังเปลี่ยนยากเลย
ในชีวิตที่ผ่านมาผม อาศัยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในการดำรงชีวิตไม่ให้เป๋ไปมาเกินไปนัก
ผมพบว่าที่ท่านสอนไม่มีข้อใดไม่จริง เพียงแต่เราจะทำได้หรือเปล่า
(ความจริงตอนเด็กๆ แม่อุ้มไปรับศีลมาเเล้วนะ แต่ผมพบว่าตัวเอง
ชอบแนวนี้มากกว่า เหมีอน เวลาศึกษาหุ้นผมก็ชอบแนวแวลูนั่นแล สาธุ)
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 10, 2004 2:53 pm
โดย VIB007
chatchai เขียน:แปลกแต่จริงนะครับ ที่คนไทยมีรายได้มากขึ้น แต่มีความสุขน้อยลง ทั้งๆที่ราคาสินค้าหลายอย่างมีราคาถูกลง สมัยผมจบใหม่ๆ ซื้อโทรทัศน์ 14 นิ้ว ราคาตั้ง 7000 บาท แต่เดี๋ยวนี้ซื้อ 25 นิ้วได้เลยมั๊ง แต่คนก็ไม่พอใจ 25 นิ้วแล้วครับ ต้อง 29 นิ้วเป็นอย่างต่ำ ความต้องการไม่เคยหยุดนิ่งเลยครับ เลยต้องทุกข์กังวลไปตลอดชีวิต
ทุกวันนี้ผมยังใช้ทีวีเครื่องเก่าขนาด 19 นิ้วอยู่เลยครับ
พอดีพ่อตาบริจาคให้มา เพราะบ้านผมไม่มีทีวี!
ไม่ได้อวดตัวเอง แต่ผมพบว่าทีวีแย่ง"เวลาชีวิต"เราไปเยอะมาก
เคยคิดไหมว่า ชีวิตเราขาดทีวีได้หรือไม่
ผมว่า หลานๆผมคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีทีวี
บ้านผมรับช่อง 3 ไม่ได้ หลานผมเลยต้องรีบกลับบ้านไปดูละคร
บ้านผมไม่มี UBC พี่ๆผมต้องไปดูถ่ายทอดบอลอังกฤษที่บ้านพี่ชายใกล้ๆแทน
ใครมาเห็นทีวีบ้านผมคงคิดสองอย่าง
หนึ่ง..... ไอ้นี่บ้า
สอง..... ไอ้นี่ไม่มีตังค์
ก็ดีไปอย่าง ทำให้ผมพบว่ามนุษย์ส่วนใหญ่เป็นพวกวัตถุนิยม
มองคนจากวัตถุภายนอก
มากกว่าที่จะค้นหา"ความจริง"ที่"ตามองไม่เห็น"
สมัยนี้หาคนที่ไม่"วัตถุนิยม"ยากเสียเหลือเกิน
moo เขียน:เชื่อเหลือเกินว่าพี่ๆที่นี่ก็เดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง
ดูดูแล้ว VI ก็คล้ายๆกับเดินอยู่ในแนวทางนี้นะครับ
เพราะว่าดุมีความสุขทุกท่านเลยครับ
ถ้าจะลงทุนก็ต้อง"ลงทุนอย่างมีความสุข"ครับ
วันนี้เพื่อนๆโทรมาหาผมกันใหญ่
เพราะพี่เทพกำลังถูกถล่มขายอย่างหนัก
ตอนนี้หลุด 300 ไปแล้ว
วันนี้ลบไป 10 บาทวันเดียว
พวกเขาเป็นห่วงผมนะครับ
แต่ผมก็ยังยิ้มได้
แถมในใจอยากให้ขายออกมาเยอะๆ
ราคาต่ำๆ ผมจะได้เข้าไปเก็บอีกรอบ
แน่จริงก็ขายกันมาเลย เอาต่ำกว่า 200 ได้ยิ่งดี
มีใครชอบแช่งให้หุ้นตัวเองราคาตกบ้างหว่า....บ้าก็บ้าว่ะ
pom เขียน:ชีวิตเป็นของใครๆก็เลือกเอาเอง
แต่ทุกข์ที่เกิดขึ้นบ่อยมากจนถึงบ่อยสุดๆก็คือ
ไปคิดไปเห็นกับสิ่งนอกตัวที่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย
เพราะสิ่งที่พอจะเปลี่ยนได้คือตัวของตัวเองยังเปลี่ยนยากเลย
ขอบคุณพี่pomครับสำหรับคำแนะนำ
และเรื่องราวของ SCC
กำลังรอฟังข้อเสียอยู่ครับ
และพี่คิดว่าอนาคตของ SCC เป็นอย่างไรบ้างในภาพรวมอีก 3-5 ปีข้างหน้า
จะยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่
เห็นพี่ไปโพสไว้หลายกระทู้ในเรื่องเดียว
เอามาตอบที่นี่ก็ได้ครับ จะได้รวบรวมไว้ในที่เดียว
ส่วนเรื่องสังคมและการศึกษานั้น
ผมมองว่า คนเราอยากจะ"เปลี่ยนแปลงสังคม"แต่ไม่ยอม"เปลี่ยนตัวเอง"
เพราะคิดว่า แค่เราคนเดียวจะไปทำอะไรได้
แล้วก็ทำตามเหมือนเดิมต่อๆไป
แต่ที่สุดแล้ว
ตัวเราเองนั่นหละคือ"สังคม"
อย่างที่นักปราชญ์ท่านว่าไว้ว่า "You are the World"
ถ้าท่านเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ นั่นคือท่านเปลี่ยนแปลงโลกได้ทั้งโลกแล้ว
ถ้าเราอยากให้สังคมเป็นสังคมที่ดี มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
แต่เรายังเป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้
เพราะคิดว่าเราเปลี่ยนแปลงไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
ถ้าคิดเช่นนั้น สังคมก็จะไม่มีวันที่จะเป็นสังคมที่ดีมีน้ำใจได้
ดังนั้น การปฏิวัติ เริ่มต้นจากภายในตัวเราเองครับ
ถ้าเรามัวแต่กังวลกับสิ่งภายนอก
โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง
เท่ากับว่า เราคงอยู่ในโลกนี้ด้วยความทุกข์ละครับ ผมว่า
ถ้าใครอยาก"เปลี่ยนสังคม"ให้เปลี่ยน"ตัวเราเอง"ก่อน
ayethebing เขียน:สรุปว่ามีกลุ่มธุรกิจปูนเท่านั้นที่เป็นเจ้าตลาดอย่างแท้จริง ที่เหลือต้องเจอกับคู่แข่งระดับ global ครับ
ความเห็นส่วนตัวจากความรู้เท่าหางอึ่ง ซึ่งอาจจะผิดก็ได้นะครับ ไว้ผมรอฟังท่านอาจารย์ pom ว่าเล่าต่อดีกว่า
สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ayethebing
ไม่ได้พูดคุยกันซะนาน สบายดีไหมครับ
ธุรกิจส่วนตัวเป็นอย่างไรบ้าง ไปได้ดีหรือเปล่า
ขอเอาใจช่วยครับ สู้ต่อไปเถอะ....ไอ้มดแดง
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 10, 2004 9:14 pm
โดย Mon money
สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆทุกท่าน ผมมาพบท่านในวันที่พี่เทพแกไปตรวจงานภาคใต้ครับ วันนี้โทรหาเสี่ยบูลย์ ณ หลุมอาทิตย์ แกยังสบายใจดีครับ ผมถามว่าจะลุยได้ยัง แกบอกว่ายังรอก่อน ส่วนผมเห็นว่าอั้งม้อมันยังขายไม่หมดก็เลยรอเช่นกัน
วันนี้หุ้นปั่นหุ้นลากกลิ้งลงมาตามๆกัน เจ้ามือแสนจะใจร้าย ทำได้แม้กระทั้งแมงเม่าตัวน้อยๆ บางตัวขาดทุน30%ในวันเดียวน่าสมน้ำหน้านัก
เรื่องสังคมที่เปลี่ยนไปนั้น ถ้าถามเสี่ยบูลย์ ณ หลุมแก็ส ตอนนี้แกคงเบื่อแย่แล้วครับ ผมแนะนำให้ลางานไปบรรพชาสักเดือนหนึ่งจะสุขยิ่ง ผมจะคอยส่งข้าวส่งน้ำเป็นลูกศิษย์เอง .....เอาไหม?
ว่าไปแล้วก็อาการเดียวกับผมเมื่อสองสามปีก่อนออกจากงานประจำนั่นแหละ ทนๆหน่อยเดี๋ยวจะพบงานที่เหมาะกับเราเอง....
ส่วนเรื่อง SCCขอบายครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 10, 2004 9:19 pm
โดย ayethebing
สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ayethebing
ไม่ได้พูดคุยกันซะนาน สบายดีไหมครับ
ธุรกิจส่วนตัวเป็นอย่างไรบ้าง ไปได้ดีหรือเปล่า
ขอเอาใจช่วยครับ สู้ต่อไปเถอะ....ไอ้มดแดง
สะบายดีครับซือแป๋ งานหนักหน่อย หาลูกค้าใหม่อยู่ครับ ปีหน้าคงรอดไปได้อีกปี ถัดจากนั้นค่อยว่ากันเป็นปีๆ ครับ ตอนนี้ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ ต้องอดทนสู้ต่อไปครับ ตำรวจอวกาศเกียบัน (ใหม่ก่าไอ้มดแดงหน่อยนึง)
เรื่องปูนใหญ่ ผมก็ได้แค่เท่าที่พูดแหละครับ อิอิ หมดมุขครับช่วงนี้ ว่าจะไปรอพี่เทพตามซือแป๋บ้างเหมียนกัน เผื่อว่าจะเห็นหลุมแก็สหลุมละ 180 เหอ เหอ
แล้วท่านอาจารย์มน เป็นไงครับ งานยังเยอะมากอยู่มั้ยครับ (งานเยอะเงินก็เยอะเนาะ อิจฉาเล็กๆ)
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 11, 2004 9:16 am
โดย mtidus
vib007 wrote
ขอบคุณพี่pomครับสำหรับคำแนะนำ
และเรื่องราวของ SCC
กำลังรอฟังข้อเสียอยู่ครับ
และพี่คิดว่าอนาคตของ SCC เป็นอย่างไรบ้างในภาพรวมอีก 3-5 ปีข้างหน้า
จะยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่
เห็นพี่ไปโพสไว้หลายกระทู้ในเรื่องเดียว
เอามาตอบที่นี่ก็ได้ครับ จะได้รวบรวมไว้ในที่เดียว
ผมเพิ่งพิมพ์ดีดเป็น ไม่เคยpostกับใครที่ไหนทั้งนั้น
จริงๆตั้งใจจะpostไว้ในกระทู้นี้
แต่ส่งผิดส่งถูกไปไหนมั่งไม่รู้
ตอนนี้รู้แล้ว หลังจากลองผิดลองถูกอยู่ซักพัก
detail เรื่องปูนใหญ่ ขอยกยอดไปก่อน
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 11, 2004 11:44 am
โดย VIB007
Mon money เขียน:
วันนี้หุ้นปั่นหุ้นลากกลิ้งลงมาตามๆกัน เจ้ามือแสนจะใจร้าย ทำได้แม้กระทั้งแมงเม่าตัวน้อยๆ บางตัวขาดทุน30%ในวันเดียวน่าสมน้ำหน้านัก
ผมว่างานนี้ กลต คงหัวเราะชอบใจ
อยากเล่นหุ้นปั่นหันดีนัก
เจ็บแล้วไม่จำ
สมมั๊ยละสม
ผมว่า กลต คงทำเฉยตามฟอร์ม
เพราะคงถือว่า อยากไปเสี่ยงเองทำไม.......โง่เองช่วยไม่ได้
ว่ามั๊ย คุณมน
จะว่าไป เจ้ามือนี่โหดจริงๆ
เวลาเอาขึ้นค่อยๆขยับ วันละ 4-5%
แต่พอเวลาทุบวันเดียวเล่นซะคืนกำไรหมดเลย
หุ้นเมื่อวานนี้ก็หุ้น NCH ครับดาวเด่นเป็นสง่า
จาก 8 บาทลงติดพื้นเหลือ 5 บาทอย่างสวยงาม
ใคร"โดด"ไม่ทันก็"ซวย"ตามฟอร์ม
Mon money เขียน: เรื่องสังคมที่เปลี่ยนไปนั้น ถ้าถามเสี่ยบูลย์ ณ หลุมแก็ส ตอนนี้แกคงเบื่อแย่แล้วครับ ผมแนะนำให้ลางานไปบรรพชาสักเดือนหนึ่งจะสุขยิ่ง ผมจะคอยส่งข้าวส่งน้ำเป็นลูกศิษย์เอง .....เอาไหม?
ว่าไปแล้วก็อาการเดียวกับผมเมื่อสองสามปีก่อนออกจากงานประจำนั่นแหละ ทนๆหน่อยเดี๋ยวจะพบงานที่เหมาะกับเราเอง....
ผมแค่บ่นตามประสาคนแก่ไปอย่างนั้นหละครับ
ตอนนี้ถือคติ
"จงพอใจในสิ่งที่มีอยู่"
งานก็ทำไปเรื่อยๆ
ถ้าเป็นวิแล้วก็ไม่ต้องไปเฝ้าหน้าจอเหมือนเก็งกำไร
เวลาเหลือถมเถ
มานั่งทำงานเล่นๆสนุกๆดีกว่า
แถมมีเงินเดือนมาให้อีกตอนปลายเดือน
สุขใดจะเหมือน
ออกไปก็ไม่มีอะไรทำ ประสาทจะกินเปล่าๆ
จะว่าไปผมว่า เกษียณจากการทำงานนี่ไม่ยาก
แต่จะหาอะไรทำหลังเกษียณนี่สิ ยากกว่า
บางคนบอกว่าออกมาอยู่บ้านเฉยๆ
ผมอยากให้ลองลางานมาอยู่บ้านเฉยๆสักสองอาทิตย์
แล้วจะสุดเซ็ง อยากไปหาอะไรทำ
ผมเคยลองลางานมานอนอยู่บ้านเฉยๆอาทิตย์นึง
ไม่ออกไปไหน ไม่ทำอะไรเลย นอนลูกเดียว
อยู่ได้สามวัน ผมก็ไม่ไหวแล้ว ออกไปทำงานเล่นๆดีกว่า
ส่วนเรื่อง"บวช"นั้น คุยแล้วจะยาว เลยไม่คุยละกัน
เขาบอกว่า อย่าคุยเรื่องการเมือง ศาสนา เพราะจะทะเลาะกัน
เพราะต่างคนต่างคิดไม่เหมือนกัน แถมยอมกันไม่ได้
ผมเลยมีกฏส่วนตัวว่า ไม่ขอคุยเรื่อง"การเมืองและศาสนา"
ayethebing เขียน: สะบายดีครับซือแป๋ งานหนักหน่อย หาลูกค้าใหม่อยู่ครับ ปีหน้าคงรอดไปได้อีกปี ถัดจากนั้นค่อยว่ากันเป็นปีๆ ครับ ตอนนี้ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ ต้องอดทนสู้ต่อไปครับ ตำรวจอวกาศเกียบัน (ใหม่ก่าไอ้มดแดงหน่อยนึง)
ดีครับ เป็นนายจ้างตัวเองก็มี"ความสุข"ไปอีกแบบ
ขอให้บริษัทเจริญรุ่งเรืองครับ
เอาใจช่วยอยู่ห่างๆ
pom เขียน:ผมเพิ่งพิมพ์ดีดเป็น ไม่เคยpostกับใครที่ไหนทั้งนั้น
จริงๆตั้งใจจะpostไว้ในกระทู้นี้
แต่ส่งผิดส่งถูกไปไหนมั่งไม่รู้
ตอนนี้รู้แล้ว หลังจากลองผิดลองถูกอยู่ซักพัก
detail เรื่องปูนใหญ่ ขอยกยอดไปก่อน
จะว่าไปผมก็"จิ้มดีด"เหมือนกันครับ
แต่อาศัยความอึด เลยจิ้มมาได้เป็นเวลานาน
ก็รอฟังเรื่องปูนใหญ่อยู่นะครับ อย่าลืมนะครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 11, 2004 2:02 pm
โดย chatchai
น้องวิบูลย์ ถ้ากลัวว่าลาออกแล้วไม่มีอะไรทำ ก็ลองมีลูกซักสองสามคน แล้วเลี้ยงเองดูซิครับ มีอะไรทำทั้งวันแน่ๆครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 11, 2004 8:29 pm
โดย Mon money
วันนี้บ้านฟ้า กลายเป็นบ้านผีสิงไปเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนหมอผีเงียบตามเคย
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า พื้นฐานของบริษัทจะเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วภายในสองวัน และไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ราคาหุ้นส่วงกว่า 50%ได้เพราะน้ำมือรายย่อย ท่านกลต.ครับ ถ้าว่างมากลองวางมือจากการออกกฎคุมเข้มwebboradมาดูงานสำคัญชิ้นนี้หน่อยก้จะเป็นผลบุญส่งไปสู่ชาติหน้าได้นะครับ
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 12, 2004 12:03 am
โดย mtidus
chatchai said:
น้องวิบูลย์ ถ้ากลัวว่าลาออกแล้วไม่มีอะไรทำ ก็ลองมีลูกซักสองสามคน แล้วเลี้ยงเองดูซิครับ มีอะไรๆทำทั้งวันแน่ๆครับ
สวัสดีครับคุณchatchai
ผมมีลูก2คน คนโตผู้หญิงอายุ21 คนเล็กผู้ชายอายุ15
ตอนนี้เลยไม่ค่อยมีอะไรทำ เพราะเขาไม่ค่อยจะสนใจ
เราสักเท่าไร
สนใจแต่เพื่อนและกิจกรรมของเขาเอง
ตอนนี้คุณchatchaiกำลังทำในสิ่งที้คนทั่วไป
กำลังอิจฉา นั่นคือมีเวลาให้กับเขาในเวลา
ที่เขาต้องการ
ตอนผมอายุเท่าคุณ ผมยังทำอย่างคุณไม่ได้เลย
[/u]
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 12, 2004 12:13 am
โดย ch_army
เอ พี่ๆนี่ลูกมีครอบครัวกัน หมดทุกคนเลยหรือครับอืม อย่างนี้ตอนนี้ลูกกำลังซนเนี่ย เหนื่อยไหมครับ อยากรู้แฮะ แล้วพ่อ-แม่รุ่นใหม่ๆอย่างพี่ๆ เลี้ยงดูแนวไหนกันครับ ตอนนี้มันมี trend การเลี้ยงลูกใหม่ๆไหมครับ
จริงแล้วน่าสนใจเนอะเด็กๆน่ารัก ใสซื่อดี เราอาจเรียนรู้เรื่องความจริงใจจากเค้าก็ได้ เผื่อทำให้เราจริงใจต่อบริษัทที่เราเข้าร่วมหุ้นด้วย
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 12, 2004 12:24 am
โดย mtidus
ต้องขอโทษด้วย กดsubmitไป2ครั้ง
mon money said:
เรื่องสังคมที่เปลี่ยนไปนั้น ถ้าถามเสี่ยบูลย์ ณ หลุมแก็ส ตอนนี้แกคงเบื่อแย่แล้วครับ ผมแนะนำให้ลางานไปบรรพชาสักเดือนหนึ่งจะสุขยิ่ง ผมจะคอยส่งข้าวส่งน้ำเป็นลูกศิษย์เอง .....เอาไหม?
ว่าไปแล้วก็อาการเดียวกับผมเมื่อสองสามปีก่อนออกจากงานประจำนั่นแหละ ทนๆหน่อยเดี๋ยวจะพบงานที่เหมาะกับเราเอง....
สวัสดีครับ
เรื่องเบื่อเรื่องเครียด มันเป็นของคู่กับชีวิต
มันขึ้นอยู่ว่าใครจะhandleมันได้ดีกว่ากัน
ไม่มีใครหนีพ้นหรอก
เรื่องอึด นี่ก็เหมือนกัน
ทั้งเก่งทั้งเฮง หรือ จะสู้อึด เข็นมันไปเรื่อยเดี๋ยวก็หาฝั่งเจอ
และแล้วผมก็ยังไม่รู้วิธีmark ข้อความที่อยากจะreferถึง
ช่วยหน่อย กลัวคนอ่านจะรำคาญ