VI หาดใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1201
มาขอติดตามในห้องนี้ด้วยคนครับ ปีนี้ในความรู้สึกผมลงทุนยากจริงๆครับเพราะหุ้นในตลาดส่วนใหญ่แพง
หรือ อาจจะเป็นเพราะความรู้อันน้อยนิดของผมทำให้ขอบเขตในการลงทุนอยู่ในวงกลมเล็กๆ
แต่ก็เป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ได้หยุดพักไปเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อรอวันที่จะหาหุ้นดีๆในราคาเหมาะสมได้อีกครั้ง
ป.ล.ขอสมัครเป็นแฟนคลับ อ.never.cryboy กับ อ.leky หน่อยนะครับ
หรือ อาจจะเป็นเพราะความรู้อันน้อยนิดของผมทำให้ขอบเขตในการลงทุนอยู่ในวงกลมเล็กๆ
แต่ก็เป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ได้หยุดพักไปเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อรอวันที่จะหาหุ้นดีๆในราคาเหมาะสมได้อีกครั้ง
ป.ล.ขอสมัครเป็นแฟนคลับ อ.never.cryboy กับ อ.leky หน่อยนะครับ
จงเตือนตนไม่ให้หลงไปกับตลาดกระทิง และ มีสติกับตลาดหมี
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1203
สงสัยต้องไปดูบ้างซะแล้ว ดูน่าสนใจทีเดียวครับarica เขียน:เล่ม นี้ไม่ทราบ อาจารย์ ท่านใด เคยอ่านแล้วบ้างครับ ดีไหมครับ
http://thecapitalpublishing.com/2015/03 ... %E0%B9%8C/
https://www.facebook.com/thecapitalpub
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1204
เล่มนี้น่าสนใจอยู่เหมือนกันครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าผู้เขียนมโนแต่งขึ้นมาหรือไม่
ท่านใดอ่านแล้วช่วยแชร์หน่อยนะครับ อยากรู้จังว่าจะแตกต่าง หรือ เหมือนกับของอาจารย์ฟิชเชอร์อย่างไร
ท่านใดอ่านแล้วช่วยแชร์หน่อยนะครับ อยากรู้จังว่าจะแตกต่าง หรือ เหมือนกับของอาจารย์ฟิชเชอร์อย่างไร
จงเตือนตนไม่ให้หลงไปกับตลาดกระทิง และ มีสติกับตลาดหมี
-
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1205
ขอเข้าเป็น สมาชิก ชาว VI หาดใหญ่ ด้วยครับ กำลังหัดเรียนรู้ศาตร์วิชาสำนักเซียนเต่า สายใต้ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1206
ยินดีต้อนรับท่านหมีมาเยือนนะคะ มาเปิดซิงโพสต์ห้องนี้ที่แรกเลย
ถามว่า เห็นหมีมาแล้วกลัวมั้ย "ไม่กลัวค่ะ" ดูปากนัดชานะคะ เห็นมั้ยคะว่าสั่นอยู่..
ท่านbluesea_SKฮะ หัวหน้าคณะ(ที่ท่านkongkittiเพิ่งแต่งตั้ง) ขอปรับทัศนะคติ นะ
ก็ต้องช่วยๆกัน นะ ถนัดแบบฝ่ายวิชาการ ฝ่ายเทคนิค ก็ไปช่วยอ.leky อ.NB เค้า นะ
ถ้าถนัดฝ่ายปฏิกูล ขี้หมูราขี้หมาแห้ง ปล่อยไก่ โชว์โง่ ประเคนมุกฮาบูชาครู ก็มาทางนี้ นะ
อย่าสร้างความแตกแยก นะ จะน้ำหรือหน้าแตกก็แล้วแต่ท่าน นะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน นะ
เอ๊ะมันยังไง นะ ยิ่งพูดยิ่งงงไปหมดแล้ว นะ..
ไปฟังเค้าพูดเรื่องทองมาฮะ
ภาพใหญ่
ทองผลิตราว4,000ตัน จากเหมือง3,000 รีโซเคิล1,000(ลดลงเรื่อยๆเพราะคนเก็บ,ใช้มากขึ้น)
จีนอินเดียใช้ราว2,000 รัสเซียเก็บ170ขุดเอง เก็บเองเพราะโดนแบนส่งออกไม่ได้ มากสุดใน50ปีธ.กลาง
อุตฯไฟฟ้า 270ทันตกรรม180 อื่นๆ36
ความต้องการ3,600-4,800(พีคตอนคิดว่าไป30,000/บาท ติดดอยกันเยอะ) เกิน4,000ราคาพุ่ง
ราคาผันผวนจากETF 2008-9ซื้อเก็บตลอด ราคาจาก600ไป1,900
ขายถล่ม 8-900ตัน(25%)ปีเดียว2013 SPDR ขายทั้งทองจริง ทองกระดาษออกมาก 2014ขายน้อยลง
ต้นทุน
เพิ่มจาก900ไป1,000 แต่ละที่ไม่เท่ากัน แคนาดา598 อัฟริกา957แพงจากใต้โต๊ะ สัมปทาน
ออสเตรเลีย700 +ต้นทุนการเงิน แปรรูบ ขนส่ง ประกันภัย เป็น1,300-1,400
ดังนั้นต่ำ1,200น่าเล่น 1,000น่าเก็บ
แนวโน้มupside (ผู้บรรยายแช่งมาสามปี ตอนนี้จะเชียร์อีกสามปี)
1. อินเดียเคยนำเข้า1,000ตัน ต่อมาเพิ่มภาษี2-5-8-10%ปีละสามรอบ จากขาดดุล
แถมมีกฎ20-80 จะใช้80%ต้องส่งออก20%โดนภาษีแถมไม่รู้จะไปขายใคร
นำเข้าเหลือ800แต่ลักลอบอีก200(เท่าไทยใช้=200) ต่อมาน้ำมันถูกลง ขาดดุลลด น่าจะลดภาษี
ยังไงก็ใช้ทองเท่าหัว ไปแลกผัวมาใช้(ใช้งานเมีย)
2. จีน
ลดดอกให้โต7%เพิ่มค่าแรง เพิ่มเงินเฟ้อ เพราะช่องว่างรายได้จนรวยกว้างขึ้น ต้องหนุนรากหญ้าขึ้น
คนน่าจะซื้อทองสู้เงินเฟ้อ
3.หนี้ยูโร
92.7% กรีก176% อิตาลี131% โปรตุเกส137% (เมกา62% ยุ่น200%ไทย43%)
อะไรจะพัง คนจะวิ่งหาทอง
4. สงครามตะวันออกกลาง ยูเครน
แนวโน้มdownside
ดอกเมกา ตอนลด5% เหลือ0%ทองขึ้นสวย
อาจขึ้นดอก แต่ไม่มาก เดิม1.25%เหลือ0.65%เพราะเงินฝืดจาก GDPกับน้ำมันร่วง
เทคนิค(อิเลียต)
"เชื่อว่า"เวฟ4กำลังจะไป5ที่1,920ใน3ปี ด้วยโอกาส100% น่าจะเห็น30,000
ถ้านับฐานที่1,000 เสีย:ได้ราว1:5
Consolidate 4 ใน1ปี อาจมี1130อีกแท่งเดียว ตอนFED ลดดอก june แต่จะไม่ช๊อต
ทองแท่ง
1. มองยาว3,6เดือน1ปี
2. แบ่ง%ทะยอยขาลง20%30%50%ยิ่งลงยิ่งซื้อมาก
3. ใช้ชีวิตปกติ ไม่ต้องเฝ้ามาก
ทองฟิวเจ้อร์
1.ห้ามสวนเทรนด์ ตามเทรนด์ให้ได้(3ปีนี้คิดว่าขึ้น) เล่นหน้าเดียว บริหารเงินให้ดี
2. ห้ามเล่นเกิน10%ที่เปิดผอร์ท เหวี่ยงทีเดียวเจ๊งได้
3. หัดปิดทำกำไรระยะสั้น
4. หมดสัญญาเปิดใหม่ได้ ค่าต่อ80บาท ไม่จำเป็นต้องคัท
บริหารการลงทุน(เก็งกำไร) "โลภ กับ กลัว"
ทำไมไม่คัทลอส เงินเย็นแต่เหงื่อแตก
ทำตัวเป็นหุ่นยนต์ให้ได้ เชื่อมั่นมากไป เลือกฟัง อ่านแต่เรื่องเข้าข้างตัวเอง หาพวก ยึกติดมากไป
1. จดเหตุผลทุกครั้งว่าทำไมถึงเข้า
2. ถามตัวเองอีกที ว่าราคานี้ซื้อมั้ย ถ้าไม่ซื้อ จะถือทำไม ใครจะมาซื้อ?
3. ขายแล้วเอาเงินเข้าแบ็งค์ รอซื้อตอนถูก ได้ของเท่าเดิม แต่เหลือเงิน ดีกว่ามั้ย?
วิธีคัทลอส
1. ปิดสถานะ ขายทิ้ง ยอมแพ้
2. Hedge หรือ"ค้ำ"สถานะ กองทุนใช้บ่อย ทำแล้วชีวิตปกติ ดอยทองแต่กำไรฟิวเจ้อร์มาชดเชย
ทำไมกำไรแล้วขายไม่เป็น แดงมานาน เขียวแท่งเดียวรีบเผ่น
1. ทนกำไรไม่เป็น เฉลี่ย60%แทงถูก แต่กำไรแค่5% อย่ามือคัน
2. ไม่มีเป้าหมาย อย่าใช้อารมน์ จดเหตุผลทุกครั้ง
3. ตั้งกำไรในใจก่อนมองกราฟ ตั้งเป้าได้ก่อนตั้งเป้าเสีย (ทำตรงข้าม?)
4. ตามกระแส จงตัดสินใจด้วยตัวเอง
5. มวยเมาหมัด หวังลูกสวนทีเดียว มักไม่สำเร็จ
โลโซชาวดิน รายงานภาคดึกเพราะพิมพ์ช้า จากไฮโซชาวดอย(ชื่อยังกะร้านกาแฟแฮะ)
ถามว่า เห็นหมีมาแล้วกลัวมั้ย "ไม่กลัวค่ะ" ดูปากนัดชานะคะ เห็นมั้ยคะว่าสั่นอยู่..
ท่านbluesea_SKฮะ หัวหน้าคณะ(ที่ท่านkongkittiเพิ่งแต่งตั้ง) ขอปรับทัศนะคติ นะ
ก็ต้องช่วยๆกัน นะ ถนัดแบบฝ่ายวิชาการ ฝ่ายเทคนิค ก็ไปช่วยอ.leky อ.NB เค้า นะ
ถ้าถนัดฝ่ายปฏิกูล ขี้หมูราขี้หมาแห้ง ปล่อยไก่ โชว์โง่ ประเคนมุกฮาบูชาครู ก็มาทางนี้ นะ
อย่าสร้างความแตกแยก นะ จะน้ำหรือหน้าแตกก็แล้วแต่ท่าน นะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน นะ
เอ๊ะมันยังไง นะ ยิ่งพูดยิ่งงงไปหมดแล้ว นะ..
ไปฟังเค้าพูดเรื่องทองมาฮะ
ภาพใหญ่
ทองผลิตราว4,000ตัน จากเหมือง3,000 รีโซเคิล1,000(ลดลงเรื่อยๆเพราะคนเก็บ,ใช้มากขึ้น)
จีนอินเดียใช้ราว2,000 รัสเซียเก็บ170ขุดเอง เก็บเองเพราะโดนแบนส่งออกไม่ได้ มากสุดใน50ปีธ.กลาง
อุตฯไฟฟ้า 270ทันตกรรม180 อื่นๆ36
ความต้องการ3,600-4,800(พีคตอนคิดว่าไป30,000/บาท ติดดอยกันเยอะ) เกิน4,000ราคาพุ่ง
ราคาผันผวนจากETF 2008-9ซื้อเก็บตลอด ราคาจาก600ไป1,900
ขายถล่ม 8-900ตัน(25%)ปีเดียว2013 SPDR ขายทั้งทองจริง ทองกระดาษออกมาก 2014ขายน้อยลง
ต้นทุน
เพิ่มจาก900ไป1,000 แต่ละที่ไม่เท่ากัน แคนาดา598 อัฟริกา957แพงจากใต้โต๊ะ สัมปทาน
ออสเตรเลีย700 +ต้นทุนการเงิน แปรรูบ ขนส่ง ประกันภัย เป็น1,300-1,400
ดังนั้นต่ำ1,200น่าเล่น 1,000น่าเก็บ
แนวโน้มupside (ผู้บรรยายแช่งมาสามปี ตอนนี้จะเชียร์อีกสามปี)
1. อินเดียเคยนำเข้า1,000ตัน ต่อมาเพิ่มภาษี2-5-8-10%ปีละสามรอบ จากขาดดุล
แถมมีกฎ20-80 จะใช้80%ต้องส่งออก20%โดนภาษีแถมไม่รู้จะไปขายใคร
นำเข้าเหลือ800แต่ลักลอบอีก200(เท่าไทยใช้=200) ต่อมาน้ำมันถูกลง ขาดดุลลด น่าจะลดภาษี
ยังไงก็ใช้ทองเท่าหัว ไปแลกผัวมาใช้(ใช้งานเมีย)
2. จีน
ลดดอกให้โต7%เพิ่มค่าแรง เพิ่มเงินเฟ้อ เพราะช่องว่างรายได้จนรวยกว้างขึ้น ต้องหนุนรากหญ้าขึ้น
คนน่าจะซื้อทองสู้เงินเฟ้อ
3.หนี้ยูโร
92.7% กรีก176% อิตาลี131% โปรตุเกส137% (เมกา62% ยุ่น200%ไทย43%)
อะไรจะพัง คนจะวิ่งหาทอง
4. สงครามตะวันออกกลาง ยูเครน
แนวโน้มdownside
ดอกเมกา ตอนลด5% เหลือ0%ทองขึ้นสวย
อาจขึ้นดอก แต่ไม่มาก เดิม1.25%เหลือ0.65%เพราะเงินฝืดจาก GDPกับน้ำมันร่วง
เทคนิค(อิเลียต)
"เชื่อว่า"เวฟ4กำลังจะไป5ที่1,920ใน3ปี ด้วยโอกาส100% น่าจะเห็น30,000
ถ้านับฐานที่1,000 เสีย:ได้ราว1:5
Consolidate 4 ใน1ปี อาจมี1130อีกแท่งเดียว ตอนFED ลดดอก june แต่จะไม่ช๊อต
ทองแท่ง
1. มองยาว3,6เดือน1ปี
2. แบ่ง%ทะยอยขาลง20%30%50%ยิ่งลงยิ่งซื้อมาก
3. ใช้ชีวิตปกติ ไม่ต้องเฝ้ามาก
ทองฟิวเจ้อร์
1.ห้ามสวนเทรนด์ ตามเทรนด์ให้ได้(3ปีนี้คิดว่าขึ้น) เล่นหน้าเดียว บริหารเงินให้ดี
2. ห้ามเล่นเกิน10%ที่เปิดผอร์ท เหวี่ยงทีเดียวเจ๊งได้
3. หัดปิดทำกำไรระยะสั้น
4. หมดสัญญาเปิดใหม่ได้ ค่าต่อ80บาท ไม่จำเป็นต้องคัท
บริหารการลงทุน(เก็งกำไร) "โลภ กับ กลัว"
ทำไมไม่คัทลอส เงินเย็นแต่เหงื่อแตก
ทำตัวเป็นหุ่นยนต์ให้ได้ เชื่อมั่นมากไป เลือกฟัง อ่านแต่เรื่องเข้าข้างตัวเอง หาพวก ยึกติดมากไป
1. จดเหตุผลทุกครั้งว่าทำไมถึงเข้า
2. ถามตัวเองอีกที ว่าราคานี้ซื้อมั้ย ถ้าไม่ซื้อ จะถือทำไม ใครจะมาซื้อ?
3. ขายแล้วเอาเงินเข้าแบ็งค์ รอซื้อตอนถูก ได้ของเท่าเดิม แต่เหลือเงิน ดีกว่ามั้ย?
วิธีคัทลอส
1. ปิดสถานะ ขายทิ้ง ยอมแพ้
2. Hedge หรือ"ค้ำ"สถานะ กองทุนใช้บ่อย ทำแล้วชีวิตปกติ ดอยทองแต่กำไรฟิวเจ้อร์มาชดเชย
ทำไมกำไรแล้วขายไม่เป็น แดงมานาน เขียวแท่งเดียวรีบเผ่น
1. ทนกำไรไม่เป็น เฉลี่ย60%แทงถูก แต่กำไรแค่5% อย่ามือคัน
2. ไม่มีเป้าหมาย อย่าใช้อารมน์ จดเหตุผลทุกครั้ง
3. ตั้งกำไรในใจก่อนมองกราฟ ตั้งเป้าได้ก่อนตั้งเป้าเสีย (ทำตรงข้าม?)
4. ตามกระแส จงตัดสินใจด้วยตัวเอง
5. มวยเมาหมัด หวังลูกสวนทีเดียว มักไม่สำเร็จ
โลโซชาวดิน รายงานภาคดึกเพราะพิมพ์ช้า จากไฮโซชาวดอย(ชื่อยังกะร้านกาแฟแฮะ)
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1207
สวัสดีครับอาจารย์หมอหนึ่ง ยอดนักลงทุนวัยอาวุโส ผมมีคำถามอยากจะถามอาจารย์ และ พี่ๆหน่อยครับ ถ้าภาพใหญ่มีโอกาสที่ประเทศของเราจะเริ่มโตช้าลง และ ไทย ใกล้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่ไม่ได้เตรียมตัว(มีคนแก่ที่ไม่ได้เตรียมตัวเกษียณ)เต็มไปหมดเราจะลงทุนอย่างไร เรายังพัฒนาประเทศได้ไม่ดีพอ อีกทั้งธุรกิจที่เน้นนวัตกรรมยังมีอยู่น้อยมากๆ ผมยังมองไม่เห็นหนทางที่สดใสเลยครับ หลักๆที่มองออกตอนนี้คือการเป็นเจ้าของสุดยอดกิจการที่มีโอกาสไปเติบโตที่ประเทศอื่นๆรอบเรา หรือ เป็นเจ้าของกิจการที่ทุกคนในประเทศต้องใช้ แต่กิจการเหล่านี้ตลาดรับรู้แล้วและแพงมากแล้ว สงสัยผมคงต้องล่าส่วนต่างไปเรื่อยๆอยากได้คำชี้แนะหน่อยครับ
จงเตือนตนไม่ให้หลงไปกับตลาดกระทิง และ มีสติกับตลาดหมี
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1208
ตอบคุณ เมื่อหมีมาเยือน
หากให้เข้า Theme ประเทศไทยตอนนี้ก็ต้อง
1. Healthcare & ธุรกิจความงาม
2. Brand ที่ขยายออกไป ตปท ได้
3. พลังงานทางเลือก?? (บูมมากเลย...ราคาหุ้นนะ)
4. New Technology
5. Turnaround?? (ส่วนใหญ่ Turndown)
6. ไปลงทุน ตปท โดยพลัน
หากให้เข้า Theme ประเทศไทยตอนนี้ก็ต้อง
1. Healthcare & ธุรกิจความงาม
2. Brand ที่ขยายออกไป ตปท ได้
3. พลังงานทางเลือก?? (บูมมากเลย...ราคาหุ้นนะ)
4. New Technology
5. Turnaround?? (ส่วนใหญ่ Turndown)
6. ไปลงทุน ตปท โดยพลัน
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1209
อาห์ ไม่รับลูกศิษย์ผู้ชายครับ
เอ๊ยไม่ใช่ ความรู้ข้าพเจ้าไม่มากพอครับ
แถมเป็นสายสีเทาอีก อารมณ์ประมาณมิสเตอร์เกรย์ ในหนังผู้ใหญ่ ฟิฟตี้เฉดออฟเกรย์ นั่นแลครับ
เอ๊ยไม่ใช่ ความรู้ข้าพเจ้าไม่มากพอครับ
แถมเป็นสายสีเทาอีก อารมณ์ประมาณมิสเตอร์เกรย์ ในหนังผู้ใหญ่ ฟิฟตี้เฉดออฟเกรย์ นั่นแลครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1210
เมื่อคนอื่นหดหู่ เราจะสดใสเมื่อหมีมาเยือน เขียน:สวัสดีครับอาจารย์หมอหนึ่ง ยอดนักลงทุนวัยอาวุโส ผมมีคำถามอยากจะถามอาจารย์ และ พี่ๆหน่อยครับ ถ้าภาพใหญ่มีโอกาสที่ประเทศของเราจะเริ่มโตช้าลง และ ไทย ใกล้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่ไม่ได้เตรียมตัว(มีคนแก่ที่ไม่ได้เตรียมตัวเกษียณ)เต็มไปหมดเราจะลงทุนอย่างไร เรายังพัฒนาประเทศได้ไม่ดีพอ อีกทั้งธุรกิจที่เน้นนวัตกรรมยังมีอยู่น้อยมากๆ ผมยังมองไม่เห็นหนทางที่สดใสเลยครับ หลักๆที่มองออกตอนนี้คือการเป็นเจ้าของสุดยอดกิจการที่มีโอกาสไปเติบโตที่ประเทศอื่นๆรอบเรา หรือ เป็นเจ้าของกิจการที่ทุกคนในประเทศต้องใช้ แต่กิจการเหล่านี้ตลาดรับรู้แล้วและแพงมากแล้ว สงสัยผมคงต้องล่าส่วนต่างไปเรื่อยๆอยากได้คำชี้แนะหน่อยครับ
เมื่อมันน่าเบื่อ มันจึงน่าสนใจ
เมื่อวีไอเต็มตลาด เราจะเก็งกำไร
และเมื่อวีไอถอดใจ ผมจะกลับมาลงทุนอีกครั้ง
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1212
Invert
จงเตือนตนไม่ให้หลงไปกับตลาดกระทิง และ มีสติกับตลาดหมี
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1213
ชาบูๆดำ เขียน:ยอดเยี่ยมครับNevercry.boy เขียน:เมื่อคนอื่นหดหู่ เราจะสดใส
เมื่อมันน่าเบื่อ มันจึงน่าสนใจ
เมื่อวีไอเต็มตลาด เราจะเก็งกำไร
และเมื่อวีไอถอดใจ ผมจะกลับมาลงทุนอีกครั้ง
คำคมประจำปี 2015 เลยครัช
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
-
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1214
สุดยอด ครับNevercry.boy เขียน:เมื่อคนอื่นหดหู่ เราจะสดใสเมื่อหมีมาเยือน เขียน:สวัสดีครับอาจารย์หมอหนึ่ง ยอดนักลงทุนวัยอาวุโส ผมมีคำถามอยากจะถามอาจารย์ และ พี่ๆหน่อยครับ ถ้าภาพใหญ่มีโอกาสที่ประเทศของเราจะเริ่มโตช้าลง และ ไทย ใกล้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่ไม่ได้เตรียมตัว(มีคนแก่ที่ไม่ได้เตรียมตัวเกษียณ)เต็มไปหมดเราจะลงทุนอย่างไร เรายังพัฒนาประเทศได้ไม่ดีพอ อีกทั้งธุรกิจที่เน้นนวัตกรรมยังมีอยู่น้อยมากๆ ผมยังมองไม่เห็นหนทางที่สดใสเลยครับ หลักๆที่มองออกตอนนี้คือการเป็นเจ้าของสุดยอดกิจการที่มีโอกาสไปเติบโตที่ประเทศอื่นๆรอบเรา หรือ เป็นเจ้าของกิจการที่ทุกคนในประเทศต้องใช้ แต่กิจการเหล่านี้ตลาดรับรู้แล้วและแพงมากแล้ว สงสัยผมคงต้องล่าส่วนต่างไปเรื่อยๆอยากได้คำชี้แนะหน่อยครับ
เมื่อมันน่าเบื่อ มันจึงน่าสนใจ
เมื่อวีไอเต็มตลาด เราจะเก็งกำไร
และเมื่อวีไอถอดใจ ผมจะกลับมาลงทุนอีกครั้ง
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1215
อันนั้นเป็นการลงทุนโดยมองที่ภาพกว้าง ๆ แต่ในความเป็นจริง เราอาจจะมองที่หุ้นรายตัวก็ได้ครับ เพราะไม่จำเป็นว่าหุ้นที่ไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมที่เป็นเทรนด์ของภาพกว้าง มันจะไม่มีโอกาสโตครับเมื่อหมีมาเยือน เขียน:สวัสดีครับอาจารย์หมอหนึ่ง ยอดนักลงทุนวัยอาวุโส ผมมีคำถามอยากจะถามอาจารย์ และ พี่ๆหน่อยครับ ถ้าภาพใหญ่มีโอกาสที่ประเทศของเราจะเริ่มโตช้าลง และ ไทย ใกล้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่ไม่ได้เตรียมตัว(มีคนแก่ที่ไม่ได้เตรียมตัวเกษียณ)เต็มไปหมดเราจะลงทุนอย่างไร เรายังพัฒนาประเทศได้ไม่ดีพอ อีกทั้งธุรกิจที่เน้นนวัตกรรมยังมีอยู่น้อยมากๆ ผมยังมองไม่เห็นหนทางที่สดใสเลยครับ หลักๆที่มองออกตอนนี้คือการเป็นเจ้าของสุดยอดกิจการที่มีโอกาสไปเติบโตที่ประเทศอื่นๆรอบเรา หรือ เป็นเจ้าของกิจการที่ทุกคนในประเทศต้องใช้ แต่กิจการเหล่านี้ตลาดรับรู้แล้วและแพงมากแล้ว สงสัยผมคงต้องล่าส่วนต่างไปเรื่อยๆอยากได้คำชี้แนะหน่อยครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1216
ขอบคุณพี่ๆทุกคนครับ
จงเตือนตนไม่ให้หลงไปกับตลาดกระทิง และ มีสติกับตลาดหมี
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1217
ผมไม่แน่ใจว่าน้องมีแนวทางในการลงทุนอย่างไร แต่ผมจะบอกว่าถ้าน้องยังหาแนวทางไม่ได้ ก็น่าจะกำหนดแนวทางกว้าง ๆ ไว้ก่อนครับ เพราะที่พวกเราคุยกันมาตั้งแต่ต้นนั้น ละไว้ในฐานที่เข้าใจกันว่า เหมือนผสมผสานครับ ผมเองไม่ใช่สายเทคนิค แต่ก็ฟังได้ครับ ไม่ได้คัดค้าน แต่ถ้าชั่วโมงบินสูง ๆ คราวนี้มันจะมีรูปแบบหลายวิธีแล้ว ไม่ยึดติดครับเมื่อหมีมาเยือน เขียน:ขอบคุณพี่ๆทุกคนครับ
ถ้าเป็นแนวทางของผม ผมจะแนะนำว่าให้รู้จักหุ้น และ "ธรรมชาติ" หรือ "นิสัย" หุ้นให้มาก ๆ ครับ ถ้ามีคลังข้อมูลตรงนี้มาก ก็ได้เปรียบครับ ตรงนี้ต้องเข้าใจว่า คำว่า "นิสัยของหุ้น" มันเป็นเรื่องที่บางครั้งไม่มีคำอธิบายได้ แล้วจึงไปต่อด้วยกระบวนการหาหุ้นด้วยตัวเอง การคัดกรองหุ้นจาก 500-600 ตัว ผ่านทางสื่อทั่วไป ข่าวจากตลาด โดยเฉพาะข่าวผลประกอบการ พอคัดมาจำนวนหนึ่งแล้ว ก็จัดกลุ่มครับ เช่น น่าสนใจมาก ๆ, น่าสนใจ, เฉย ๆ แต่ควรติดตาม, เฉย ๆ และไม่น่าติดตาม, ไร้สาระไม่ต้องสนใจ จบแล้วจึงเข้า mode วิเคราะห์หุ้น 4 อย่าง แบบที่ผมเคยเล่าให้ฟัง
Q หนึ่ง ๆ อาจจะมีหุ้นที่ผ่านเกณฑ์จำนวนหนึ่ง แต่มันจะยากหน่อยตรงที่ว่า พวกที่เข้าวินมาถึงรอบสุดท้าย เราจะคัดยังไงให้เหลือแค่ไม่เกิน 3 ตัว และไม่ได้แปรว่าเราได้มาแล้วเราจะซื้อหมดนะครับ เพราะเราก็มีหุ้นเก่าในพอร์ตอยู่ บางทีเราอาจจะซื้อได้แค่หนึ่งตัว หรืออาจจะไม่ซื้อเลย
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1218
ต่อครับ ซึ่งในกระบวนการจัดกลุ่มหุ้นนั้น แต่ละกลุ่มอาจจะมีเหตุผลต่างกันได้ครับ เช่น กลุ่มน่าสนใจมาก ๆ อาจจะเป็นหุ้นที่รายได้ดูโตมาก ๆ และเพิ่งจะเริ่มเกิดขึ้น หรืออาจจะเป็นหุ้นที่แย่มานาน จนไม่รู้จะแย่ยังไง จนราคาหุ้นต่ำเตี้ย แต่มีสัญญาณว่าจะดีขึ้น
เช่นกันพวกหุ้นกลุ่มที่ไร้สาระอาจจะเป็นหุ้นที่เราแค่เห็นชื่อแล้วไม่ต้องไปตามดูเลย เช่นพวกหุ้นที่มี "มือที่มองไม่เห็น" หุ้นที่ชื่อเสียงของผบห.มีแต่ "ชื่อเสีย"
ถ้าทำแบบนี้แล้ว เราจะมีหุ้นในสต๊อกเยอะมากครับ สิ่งที่ตามมาก็คือ หุ้นตัวไหนถ้าเราซื้อไม่ได้ เราก็จะไม่ง้อครับ เพราะเราจะมีตัวเลือกสำรองอยู่เสมอครับ
เช่นกันพวกหุ้นกลุ่มที่ไร้สาระอาจจะเป็นหุ้นที่เราแค่เห็นชื่อแล้วไม่ต้องไปตามดูเลย เช่นพวกหุ้นที่มี "มือที่มองไม่เห็น" หุ้นที่ชื่อเสียงของผบห.มีแต่ "ชื่อเสีย"
ถ้าทำแบบนี้แล้ว เราจะมีหุ้นในสต๊อกเยอะมากครับ สิ่งที่ตามมาก็คือ หุ้นตัวไหนถ้าเราซื้อไม่ได้ เราก็จะไม่ง้อครับ เพราะเราจะมีตัวเลือกสำรองอยู่เสมอครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1219
หลังจากนั้น ก็เติมเรื่องจิตวิทยาในตลาดหุ้น และฝึก "มุมมอง"
เราคงเคยได้ยินมาว่า 80% ของคนในตลาดขาดทุน เอาเป็นว่าผมขอใช้คำว่า ไม่ค่อยประสบความสำเร็จแล้วกัน ซึ่งจะรวมพวกที่ขาดทุนและไม่ขาดทุนแต่ไม่ค่อยจะกำไรเข้าไปด้วย
นั่นแปลว่า ถ้าเรามองเหมือนคนส่วนใหญ่ มันก็คงหนีไม่พ้นที่เราจะอยู่ในกลุ่มคน 80% นั้นครับ
เราคงเคยได้ยินมาว่า 80% ของคนในตลาดขาดทุน เอาเป็นว่าผมขอใช้คำว่า ไม่ค่อยประสบความสำเร็จแล้วกัน ซึ่งจะรวมพวกที่ขาดทุนและไม่ขาดทุนแต่ไม่ค่อยจะกำไรเข้าไปด้วย
นั่นแปลว่า ถ้าเรามองเหมือนคนส่วนใหญ่ มันก็คงหนีไม่พ้นที่เราจะอยู่ในกลุ่มคน 80% นั้นครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1220
ขอบคุณพี่lekyมากครับ ผมพึ่งเข้าตลาดมาได้2ปี หลักการที่ผมยึดถือมาโดยตลอด2ปีที่ผ่านมาคือการลงทุนแบบเน้นคุณค่าครับ พอดีหนังสือหุ้นเล่มแรกที่ผมอ่านคือตีแตกครับ เมื่อประมาณ5ปีที่แล้วสมัยยัง ม.ปลาย และ ผมไม่เข้าใจเรื่องทางด้านเทคนิคคอลเลย ขอยึดหลักการเดียวครับ ตอนช่วงที่ลงทุนปีแรกผมซื้อแต่หุ้น pe ต่ำ และ pb ต่ำ กว่า1 โดยตัดหุ้นวัฏจักรออกไป และ ต้องเป็นหุ้นที่ปันผลสูงสม่ำเสมอ ในรอบ10ปี ที่ผ่านมาต้องแทบไม่ขาดทุน หนี้สินระยะยาวมีน้อย เป็นกิจการที่ผมต้องพอทำความเข้าใจธุรกิจได้ครับ (ผมไม่ซื้อธุรกิจที่ไม่เข้าใจครับแต่ก็พยายามขยายขอบเขตครับ)แต่ในรอบ2ปีที่ผ่านมาหุ้นที่ผมลงทุนได้ขึ้นมาในราคาที่ผมคิดว่าสูงเกินพื้นฐาน ผลตอบแทนสูงๆที่ผ่านมาผมคิดว่าเป็นเพราะโชคมากกว่าฝีมือเลยเลือกที่จะมาหาความรู้เพิ่มเติมครับแล้วอีกอย่างวิธีการเดิมที่ผ่านมาผมคิดว่ายังมีข้อผิดพลาดคือ ผมซื้อโดยยังเข้าใจธุรกิจไม่ดีพอ และใส่ใจเรื่องคุณภาพน้อยไปครับ อีกทั้ง ณ ตอนนี้หุ้นที่ผมพอทำความเข้าใจได้ถูกดันไปจนไม่เหลือmos เลยครับ เลยเข้ามาขอมุมมองใหม่ๆจากพวกพี่ๆครับ แต่ผมยังโชคดีที่อายุยังน้อยผมอดทนรอได้ครับเมื่อคนส่วนใหญ่หดหู่ผมจะกลับมาครับ ขอบคุณจริงๆที่ชี้แนะครับ
จงเตือนตนไม่ให้หลงไปกับตลาดกระทิง และ มีสติกับตลาดหมี
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1221
ดูจากที่เล่ามา อนาคตมีแววสดใสมากเลยครับเมื่อหมีมาเยือน เขียน:ขอบคุณพี่lekyมากครับ ผมพึ่งเข้าตลาดมาได้2ปี หลักการที่ผมยึดถือมาโดยตลอด2ปีที่ผ่านมาคือการลงทุนแบบเน้นคุณค่าครับ พอดีหนังสือหุ้นเล่มแรกที่ผมอ่านคือตีแตกครับ เมื่อประมาณ5ปีที่แล้วสมัยยัง ม.ปลาย และ ผมไม่เข้าใจเรื่องทางด้านเทคนิคคอลเลย ขอยึดหลักการเดียวครับ ตอนช่วงที่ลงทุนปีแรกผมซื้อแต่หุ้น pe ต่ำ และ pb ต่ำ กว่า1 โดยตัดหุ้นวัฏจักรออกไป และ ต้องเป็นหุ้นที่ปันผลสูงสม่ำเสมอ ในรอบ10ปี ที่ผ่านมาต้องแทบไม่ขาดทุน หนี้สินระยะยาวมีน้อย เป็นกิจการที่ผมต้องพอทำความเข้าใจธุรกิจได้ครับ (ผมไม่ซื้อธุรกิจที่ไม่เข้าใจครับแต่ก็พยายามขยายขอบเขตครับ)แต่ในรอบ2ปีที่ผ่านมาหุ้นที่ผมลงทุนได้ขึ้นมาในราคาที่ผมคิดว่าสูงเกินพื้นฐาน ผลตอบแทนสูงๆที่ผ่านมาผมคิดว่าเป็นเพราะโชคมากกว่าฝีมือเลยเลือกที่จะมาหาความรู้เพิ่มเติมครับแล้วอีกอย่างวิธีการเดิมที่ผ่านมาผมคิดว่ายังมีข้อผิดพลาดคือ ผมซื้อโดยยังเข้าใจธุรกิจไม่ดีพอ และใส่ใจเรื่องคุณภาพน้อยไปครับ อีกทั้ง ณ ตอนนี้หุ้นที่ผมพอทำความเข้าใจได้ถูกดันไปจนไม่เหลือmos เลยครับ เลยเข้ามาขอมุมมองใหม่ๆจากพวกพี่ๆครับ แต่ผมยังโชคดีที่อายุยังน้อยผมอดทนรอได้ครับเมื่อคนส่วนใหญ่หดหู่ผมจะกลับมาครับ ขอบคุณจริงๆที่ชี้แนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1222
ถ้าเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกัน น้องเริ่มได้ดีกว่าผมมากครับเมื่อหมีมาเยือน เขียน:ขอบคุณพี่lekyมากครับ ผมพึ่งเข้าตลาดมาได้2ปี หลักการที่ผมยึดถือมาโดยตลอด2ปีที่ผ่านมาคือการลงทุนแบบเน้นคุณค่าครับ พอดีหนังสือหุ้นเล่มแรกที่ผมอ่านคือตีแตกครับ เมื่อประมาณ5ปีที่แล้วสมัยยัง ม.ปลาย และ ผมไม่เข้าใจเรื่องทางด้านเทคนิคคอลเลย ขอยึดหลักการเดียวครับ ตอนช่วงที่ลงทุนปีแรกผมซื้อแต่หุ้น pe ต่ำ และ pb ต่ำ กว่า1 โดยตัดหุ้นวัฏจักรออกไป และ ต้องเป็นหุ้นที่ปันผลสูงสม่ำเสมอ ในรอบ10ปี ที่ผ่านมาต้องแทบไม่ขาดทุน หนี้สินระยะยาวมีน้อย เป็นกิจการที่ผมต้องพอทำความเข้าใจธุรกิจได้ครับ (ผมไม่ซื้อธุรกิจที่ไม่เข้าใจครับแต่ก็พยายามขยายขอบเขตครับ)แต่ในรอบ2ปีที่ผ่านมาหุ้นที่ผมลงทุนได้ขึ้นมาในราคาที่ผมคิดว่าสูงเกินพื้นฐาน ผลตอบแทนสูงๆที่ผ่านมาผมคิดว่าเป็นเพราะโชคมากกว่าฝีมือเลยเลือกที่จะมาหาความรู้เพิ่มเติมครับแล้วอีกอย่างวิธีการเดิมที่ผ่านมาผมคิดว่ายังมีข้อผิดพลาดคือ ผมซื้อโดยยังเข้าใจธุรกิจไม่ดีพอ และใส่ใจเรื่องคุณภาพน้อยไปครับ อีกทั้ง ณ ตอนนี้หุ้นที่ผมพอทำความเข้าใจได้ถูกดันไปจนไม่เหลือmos เลยครับ เลยเข้ามาขอมุมมองใหม่ๆจากพวกพี่ๆครับ แต่ผมยังโชคดีที่อายุยังน้อยผมอดทนรอได้ครับเมื่อคนส่วนใหญ่หดหู่ผมจะกลับมาครับ ขอบคุณจริงๆที่ชี้แนะครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1223
เอารูปมาให้ดูครับ เป็นผลสำรวจของ FETCO NIDA Investor Sentiment Index ประจำเดือนเมษายน 2558 จากFB คุณวรวรรณ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย
แปลง่ายๆว่า อีก3เดือนข้างหน้า นักลงทุน4เหล่า มองลงมากกว่ามองขึ้น แต่ในระหว่างทางก็จะมีเด้งขึ้นเบาๆไรงี้
สังเกตุว่าเส้นสีแดงคือค่าความเชื่อมั่น จะล้อไปกับเส้นสีเหลืองคือset index
แปลง่ายๆว่า อีก3เดือนข้างหน้า นักลงทุน4เหล่า มองลงมากกว่ามองขึ้น แต่ในระหว่างทางก็จะมีเด้งขึ้นเบาๆไรงี้
สังเกตุว่าเส้นสีแดงคือค่าความเชื่อมั่น จะล้อไปกับเส้นสีเหลืองคือset index
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
You only live once, but if you do it right, once is enough.
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1224
ขอบคุณท่านromeeครับ ถ้าลงจริง ถูกพอ พวกเราเหล่าวีไอก็พร้อมเป็นชาวสวนชิมิ อิอิ
งานหนังสือเที่ยวนี้ ผมไม่ได้ไป (ครั้งโน้น เจอะท่านromeeทัก+แนะนำหนังสือoutlier)
แต่น้องสาวที่รับจ้างงานวิทยุ(มันเป็นradiologist)อยู่บางกอก แวะไปสอยหนังสือdare to dieเอ๊ย do
มาฝากเตี่ย มีลายเซ็นคุณกรณ์ด้วยว่า "มอบให้คุณพ่อ...(ขอสงวนนาม, ไม่ให้เพื่อนล้อช่ือพ่อ)"
เตี่ยอ่านแล้วชอบใจสัมภาษณ์คุณวีระ (รู้สึกว่าช่วงหลังจะลดความแด..เอ๊ย ดุดันตอนจัดรายการไปเยอะ)กะคุณภาววิทย์ฮะ
เพิ่งอ่านสัมภาษณ์คุณใบพัด ที่อ.lekyกะท่านromeeลงคลิป"การลาออกครั้งสุดท้าย"(ครั้งต่อไปผมจะไม่ลาออกอีกแล้ว..บอกตอนสมัครกลับเข้าไปใหม่)
บอกตอนนี้ก็มีชีวิตที่สมดุล กับภรรยาที่วางแผนไม่มีลูก เช่าคอนโดราคาเกือบสามล้านในค่าเช่าเท่าผ่อน
เพราะไม่ต้องการภาระอีกสามสิบปีพร้อมดอกเบี้ยอีกกว่าสามล้าน แต่มีอิสระในการย้ายที่อยู่ กะเดินทางไกลไปตปท.
มีรายได้จากค่าลิขสิทธ์หนังสือ ดอกเบี้ยหุ้นกู้(passive incomeก็มี ดอกเบี้ย ค่าลิขสิทธ์ ปันผล ค่าเช่า ฯ แบบที่พวกขายตรงเค้าจูงใจสาวก)
นึกถึงการบ้าน"อิสรภาพทางการเงิน คืออะไร" ที่อ.NBถามไว้ในห้องใหญ่ เลยขอลองมาตอบนะฮะ
อิสรภาพ คือไม่ยึดเกี่ยวติดกัน ต่างคนต่างไปตามทางตัวเอง
เงิน คือตัวแทนของวัตถุ แต่ก่อนคือโลหะมีค่า(silver) ตอนนี้เป็นแค่สัญญานกระแสอิเล็คทรอนิคส์ในรูปตัวเลข
(แปลกดี จากของมีตัวตนจับต้องได้ เป็นของไม่มีตัวตนจับต้องไม่ได้ แต่ใช้แทนวัตถุนอกกาย ยังกะควอนตัมฟิสิกส์(มั้ง))
1. ช่วงแรกเงินกะเราเป็นอิสระต่อกัน คือเงินมันเป็นอิสระต่อเรา ต่างคนต่างไป แต่เราก็พยามไปตามล่าหาเงินมา
2. ต่อมาเราก็เก่งขึ้น สร้างระบบให้เงินมาหาเรา แล้วเราก็บอกว่า"เรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว"(แต่เงินไม่มีอิสรภาพต่อเราแฮะ)
พอสักพักเงินมันก็มาถมใส่เรามากขึ้น ยิ่งเยอะยิ่งมีอิสรภาพมาก รึยิ่งมีภาระมากก็ไม่รุ จนเราไม่รู้จะเอาเงินไปทำไร
เพราะปกติพวกวีไอใช้เงินน้อยอยู่แล้ว รวยเท่าไรก็ไม่ได้กินเพราะหมอห้าม ยิ่งกินยิ่งใช้ยิ่งตายเร็ว
3. เราก็ปล่อยเงินให้มีอิสรภาพอีกครั้ง (รึพยามทำตัวเราให้มีอิสรภาพจากเงินกองใหญ่มั้ง)โดยบริจาคมั่ง ตั้งมูลนิธิมั่ง เผลอๆยิ่งให้ยิ่งได้อีก แล้วมันจะมีอิสรภาพจากเงินตอนไหนเนี่ย..
สรุปว่าทั้ง1,2,3 คืออิสรภาพทางการเงินในรูปแบบต่างๆกันมั้งฮะ ยิ่งตอบยิ่งงงแฮะ..
งานหนังสือเที่ยวนี้ ผมไม่ได้ไป (ครั้งโน้น เจอะท่านromeeทัก+แนะนำหนังสือoutlier)
แต่น้องสาวที่รับจ้างงานวิทยุ(มันเป็นradiologist)อยู่บางกอก แวะไปสอยหนังสือdare to dieเอ๊ย do
มาฝากเตี่ย มีลายเซ็นคุณกรณ์ด้วยว่า "มอบให้คุณพ่อ...(ขอสงวนนาม, ไม่ให้เพื่อนล้อช่ือพ่อ)"
เตี่ยอ่านแล้วชอบใจสัมภาษณ์คุณวีระ (รู้สึกว่าช่วงหลังจะลดความแด..เอ๊ย ดุดันตอนจัดรายการไปเยอะ)กะคุณภาววิทย์ฮะ
เพิ่งอ่านสัมภาษณ์คุณใบพัด ที่อ.lekyกะท่านromeeลงคลิป"การลาออกครั้งสุดท้าย"(ครั้งต่อไปผมจะไม่ลาออกอีกแล้ว..บอกตอนสมัครกลับเข้าไปใหม่)
บอกตอนนี้ก็มีชีวิตที่สมดุล กับภรรยาที่วางแผนไม่มีลูก เช่าคอนโดราคาเกือบสามล้านในค่าเช่าเท่าผ่อน
เพราะไม่ต้องการภาระอีกสามสิบปีพร้อมดอกเบี้ยอีกกว่าสามล้าน แต่มีอิสระในการย้ายที่อยู่ กะเดินทางไกลไปตปท.
มีรายได้จากค่าลิขสิทธ์หนังสือ ดอกเบี้ยหุ้นกู้(passive incomeก็มี ดอกเบี้ย ค่าลิขสิทธ์ ปันผล ค่าเช่า ฯ แบบที่พวกขายตรงเค้าจูงใจสาวก)
นึกถึงการบ้าน"อิสรภาพทางการเงิน คืออะไร" ที่อ.NBถามไว้ในห้องใหญ่ เลยขอลองมาตอบนะฮะ
อิสรภาพ คือไม่ยึดเกี่ยวติดกัน ต่างคนต่างไปตามทางตัวเอง
เงิน คือตัวแทนของวัตถุ แต่ก่อนคือโลหะมีค่า(silver) ตอนนี้เป็นแค่สัญญานกระแสอิเล็คทรอนิคส์ในรูปตัวเลข
(แปลกดี จากของมีตัวตนจับต้องได้ เป็นของไม่มีตัวตนจับต้องไม่ได้ แต่ใช้แทนวัตถุนอกกาย ยังกะควอนตัมฟิสิกส์(มั้ง))
1. ช่วงแรกเงินกะเราเป็นอิสระต่อกัน คือเงินมันเป็นอิสระต่อเรา ต่างคนต่างไป แต่เราก็พยามไปตามล่าหาเงินมา
2. ต่อมาเราก็เก่งขึ้น สร้างระบบให้เงินมาหาเรา แล้วเราก็บอกว่า"เรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว"(แต่เงินไม่มีอิสรภาพต่อเราแฮะ)
พอสักพักเงินมันก็มาถมใส่เรามากขึ้น ยิ่งเยอะยิ่งมีอิสรภาพมาก รึยิ่งมีภาระมากก็ไม่รุ จนเราไม่รู้จะเอาเงินไปทำไร
เพราะปกติพวกวีไอใช้เงินน้อยอยู่แล้ว รวยเท่าไรก็ไม่ได้กินเพราะหมอห้าม ยิ่งกินยิ่งใช้ยิ่งตายเร็ว
3. เราก็ปล่อยเงินให้มีอิสรภาพอีกครั้ง (รึพยามทำตัวเราให้มีอิสรภาพจากเงินกองใหญ่มั้ง)โดยบริจาคมั่ง ตั้งมูลนิธิมั่ง เผลอๆยิ่งให้ยิ่งได้อีก แล้วมันจะมีอิสรภาพจากเงินตอนไหนเนี่ย..
สรุปว่าทั้ง1,2,3 คืออิสรภาพทางการเงินในรูปแบบต่างๆกันมั้งฮะ ยิ่งตอบยิ่งงงแฮะ..
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 1959
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1225
dr1 เขียน: นึกถึงการบ้าน"อิสรภาพทางการเงิน คืออะไร" ที่อ.NBถามไว้ในห้องใหญ่ เลยขอลองมาตอบนะฮะ
อิสรภาพ คือไม่ยึดเกี่ยวติดกัน ต่างคนต่างไปตามทางตัวเอง
เงิน คือตัวแทนของวัตถุ แต่ก่อนคือโลหะมีค่า(silver) ตอนนี้เป็นแค่สัญญานกระแสอิเล็คทรอนิคส์ในรูปตัวเลข
(แปลกดี จากของมีตัวตนจับต้องได้ เป็นของไม่มีตัวตนจับต้องไม่ได้ แต่ใช้แทนวัตถุนอกกาย ยังกะควอนตัมฟิสิกส์(มั้ง))
1. ช่วงแรกเงินกะเราเป็นอิสระต่อกัน คือเงินมันเป็นอิสระต่อเรา ต่างคนต่างไป แต่เราก็พยามไปตามล่าหาเงินมา
2. ต่อมาเราก็เก่งขึ้น สร้างระบบให้เงินมาหาเรา แล้วเราก็บอกว่า"เรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว"(แต่เงินไม่มีอิสรภาพต่อเราแฮะ)
พอสักพักเงินมันก็มาถมใส่เรามากขึ้น ยิ่งเยอะยิ่งมีอิสรภาพมาก รึยิ่งมีภาระมากก็ไม่รุ จนเราไม่รู้จะเอาเงินไปทำไร
เพราะปกติพวกวีไอใช้เงินน้อยอยู่แล้ว รวยเท่าไรก็ไม่ได้กินเพราะหมอห้าม ยิ่งกินยิ่งใช้ยิ่งตายเร็ว
3. เราก็ปล่อยเงินให้มีอิสรภาพอีกครั้ง (รึพยามทำตัวเราให้มีอิสรภาพจากเงินกองใหญ่มั้ง)โดยบริจาคมั่ง ตั้งมูลนิธิมั่ง เผลอๆยิ่งให้ยิ่งได้อีก แล้วมันจะมีอิสรภาพจากเงินตอนไหนเนี่ย..
สรุปว่าทั้ง1,2,3 คืออิสรภาพทางการเงินในรูปแบบต่างๆกันมั้งฮะ ยิ่งตอบยิ่งงงแฮะ..
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
" สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1226
เพื่อนกรุงเทพโทรมาเล่าให้ฟังเรื่องมอเตอร์โชว์ฮะ ว่ารถขายฝืดมาก
โปรโมชั่นของแถมแบบ ซื้อรถแถมพวงมาลัยพร้อมยางอะหลั่ย ยังชนะใจลูกค้าไม่สำเร็จ
ค่ายใบพัด(BM)พยามดึงลูกค้าจากค่ายดวงดาว(MB)บอกว่าถ้าโชว์ทะเบียนดวงดาวจะได้ส่วนลดจากใบพัด
สองแสนโดยไม่ต้องแลกซื้อ แล้วลดเพิ่มอีกแสนนึง มันเลยสอยบีเอ็มเอ็กซ์(ที่ไม่ใช่จักรยาน)มาในราคาเกือบเท่าซีอาร์วี(อิจฉาจุงเบย)
ส่วนที่หาดใหญ่ก็มีมอร์เตอร์โชว์ เตี่ยบ่นอยากไปดู เลยพาไปกะน้องสาว
ไปถึง เตี่ยทึ่งกะรถที่แต่งโชว์แบบโยคีเพล์บอย(คือทรมานตัวเองให้สาวสนใจ)
ไม่ว่าจะเป็นล้อแบะปลิ้นชิดขอบบังโคลนแบบ"flush"(ไม่น่าจะแปลว่าชักโครกนะ)
ถังไนตรัสออกไซด์กลางเบาะหลัง(คงจะให้คนนั่งดมให้เคลิ้ม มากกว่าจะให้เคร่ืองดม)
สปอยเล่อร์ติดพื้น(คงต้องให้คนนั่งช่วยกันยกรถข้ามเนิน)จอเล็กจอน้อยในฝากระโปรงหลัง(ไว้ให้คนในที่เก็บของดู)
กากเพชรแวววาวตรงโน่นนี่นั่นนู่นแบบVIP วาววับแสบตาทั้งคัน
(เพิ่มชฎาบนหลังคาเป็น แบบeast meet westเป็นthai traditional dramatic performance style(ลิเก)ได้เลย)
คนนิดเดียวตามเคย มีMG3หลากสีดูน่าสนใจ แต่ไม่รุว่าขับมันส์handlingดีแบบswift(นี่ก็อีก ตั้งชื่อรุ่นเหมือนยาระบาย)ป่าว
ผมซื้อชุดน้ำยาดูแลรถมาชุดนึง ประเดิมให้เค้า (ทั้งๆที่ผมสำเร็จวิชาล้างรถด้วยมือเปล่าตอนฝนตกมาแล้วฮะ)
ในภาวะเศรษฐกิจหดเหี่ยวแบบนี้ ผมมีวิธีแต่งรถแบบวีไอ มานำเสนอฮะ คือ แต่งรถด้วยสติกเกอร์(แผ่นละสิบบาทเอง)
"รถคันนี้สีหวาน(น้ำตาล)" ติดแล้วเปิดมุมมองของการคิดนอกกรอบ แถมเปลี่ยนสีรถได้ตามใจชอบด้วยเงินสิบบาท
"พอใจในสิ่งที่มี" ให้ความหมายถึงความพอเพียง
"ดีกว่าเดิน" แสดงถึงpositive thinking
"รถกรูแรงส์ แต่ไม่แสดงออก" มีความถ่อมตน และทำตัวแวลยู่(ภายนอกดูต่ำกว่าคุณค่าภายใน)
"ถ้าแขบ ไซไม่ไปแรกวา"(ถ้าคุณรีบ ทำไมไม่ไปตั้งแต่เมื่อวาน (มาบีบแตรไล่กรูอยู่ได้..))บอกถึงความระมัดระวังการวางแผนล่วงหน้า
"รุนถ็อกTEAM"(รุนถ็อก=เทคนิคขั้นสูงในการสตาร์ทรถโดยให้เพื่อนๆเข็นกระตุก)
วีไอแก่ ขับรถเก่า รายงาน
โปรโมชั่นของแถมแบบ ซื้อรถแถมพวงมาลัยพร้อมยางอะหลั่ย ยังชนะใจลูกค้าไม่สำเร็จ
ค่ายใบพัด(BM)พยามดึงลูกค้าจากค่ายดวงดาว(MB)บอกว่าถ้าโชว์ทะเบียนดวงดาวจะได้ส่วนลดจากใบพัด
สองแสนโดยไม่ต้องแลกซื้อ แล้วลดเพิ่มอีกแสนนึง มันเลยสอยบีเอ็มเอ็กซ์(ที่ไม่ใช่จักรยาน)มาในราคาเกือบเท่าซีอาร์วี(อิจฉาจุงเบย)
ส่วนที่หาดใหญ่ก็มีมอร์เตอร์โชว์ เตี่ยบ่นอยากไปดู เลยพาไปกะน้องสาว
ไปถึง เตี่ยทึ่งกะรถที่แต่งโชว์แบบโยคีเพล์บอย(คือทรมานตัวเองให้สาวสนใจ)
ไม่ว่าจะเป็นล้อแบะปลิ้นชิดขอบบังโคลนแบบ"flush"(ไม่น่าจะแปลว่าชักโครกนะ)
ถังไนตรัสออกไซด์กลางเบาะหลัง(คงจะให้คนนั่งดมให้เคลิ้ม มากกว่าจะให้เคร่ืองดม)
สปอยเล่อร์ติดพื้น(คงต้องให้คนนั่งช่วยกันยกรถข้ามเนิน)จอเล็กจอน้อยในฝากระโปรงหลัง(ไว้ให้คนในที่เก็บของดู)
กากเพชรแวววาวตรงโน่นนี่นั่นนู่นแบบVIP วาววับแสบตาทั้งคัน
(เพิ่มชฎาบนหลังคาเป็น แบบeast meet westเป็นthai traditional dramatic performance style(ลิเก)ได้เลย)
คนนิดเดียวตามเคย มีMG3หลากสีดูน่าสนใจ แต่ไม่รุว่าขับมันส์handlingดีแบบswift(นี่ก็อีก ตั้งชื่อรุ่นเหมือนยาระบาย)ป่าว
ผมซื้อชุดน้ำยาดูแลรถมาชุดนึง ประเดิมให้เค้า (ทั้งๆที่ผมสำเร็จวิชาล้างรถด้วยมือเปล่าตอนฝนตกมาแล้วฮะ)
ในภาวะเศรษฐกิจหดเหี่ยวแบบนี้ ผมมีวิธีแต่งรถแบบวีไอ มานำเสนอฮะ คือ แต่งรถด้วยสติกเกอร์(แผ่นละสิบบาทเอง)
"รถคันนี้สีหวาน(น้ำตาล)" ติดแล้วเปิดมุมมองของการคิดนอกกรอบ แถมเปลี่ยนสีรถได้ตามใจชอบด้วยเงินสิบบาท
"พอใจในสิ่งที่มี" ให้ความหมายถึงความพอเพียง
"ดีกว่าเดิน" แสดงถึงpositive thinking
"รถกรูแรงส์ แต่ไม่แสดงออก" มีความถ่อมตน และทำตัวแวลยู่(ภายนอกดูต่ำกว่าคุณค่าภายใน)
"ถ้าแขบ ไซไม่ไปแรกวา"(ถ้าคุณรีบ ทำไมไม่ไปตั้งแต่เมื่อวาน (มาบีบแตรไล่กรูอยู่ได้..))บอกถึงความระมัดระวังการวางแผนล่วงหน้า
"รุนถ็อกTEAM"(รุนถ็อก=เทคนิคขั้นสูงในการสตาร์ทรถโดยให้เพื่อนๆเข็นกระตุก)
วีไอแก่ ขับรถเก่า รายงาน
samatah
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1227
dr1 เขียน: นึกถึงการบ้าน"อิสรภาพทางการเงิน คืออะไร" ที่อ.NBถามไว้ในห้องใหญ่ เลยขอลองมาตอบนะฮะ
อิสรภาพ คือไม่ยึดเกี่ยวติดกัน ต่างคนต่างไปตามทางตัวเอง
เงิน คือตัวแทนของวัตถุ แต่ก่อนคือโลหะมีค่า(silver) ตอนนี้เป็นแค่สัญญานกระแสอิเล็คทรอนิคส์ในรูปตัวเลข
(แปลกดี จากของมีตัวตนจับต้องได้ เป็นของไม่มีตัวตนจับต้องไม่ได้ แต่ใช้แทนวัตถุนอกกาย ยังกะควอนตัมฟิสิกส์(มั้ง))
1. ช่วงแรกเงินกะเราเป็นอิสระต่อกัน คือเงินมันเป็นอิสระต่อเรา ต่างคนต่างไป แต่เราก็พยามไปตามล่าหาเงินมา
2. ต่อมาเราก็เก่งขึ้น สร้างระบบให้เงินมาหาเรา แล้วเราก็บอกว่า"เรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว"(แต่เงินไม่มีอิสรภาพต่อเราแฮะ)
พอสักพักเงินมันก็มาถมใส่เรามากขึ้น ยิ่งเยอะยิ่งมีอิสรภาพมาก รึยิ่งมีภาระมากก็ไม่รุ จนเราไม่รู้จะเอาเงินไปทำไร
เพราะปกติพวกวีไอใช้เงินน้อยอยู่แล้ว รวยเท่าไรก็ไม่ได้กินเพราะหมอห้าม ยิ่งกินยิ่งใช้ยิ่งตายเร็ว
3. เราก็ปล่อยเงินให้มีอิสรภาพอีกครั้ง (รึพยามทำตัวเราให้มีอิสรภาพจากเงินกองใหญ่มั้ง)โดยบริจาคมั่ง ตั้งมูลนิธิมั่ง เผลอๆยิ่งให้ยิ่งได้อีก แล้วมันจะมีอิสรภาพจากเงินตอนไหนเนี่ย..
สรุปว่าทั้ง1,2,3 คืออิสรภาพทางการเงินในรูปแบบต่างๆกันมั้งฮะ ยิ่งตอบยิ่งงงแฮะ..
นักเรียนกราบ
ผมขอเก้าอี้นะครับ (ขอแชร์นะครับ)
พ่อหมอหนึ่ง
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1228
ว่าจะพิมพ์บทสรุปอีกนิดหน่อย แต่ยุ่ง ๆ เลยเว้นมาหลายวันleky เขียน:หลังจากนั้น ก็เติมเรื่องจิตวิทยาในตลาดหุ้น และฝึก "มุมมอง"
เราคงเคยได้ยินมาว่า 80% ของคนในตลาดขาดทุน เอาเป็นว่าผมขอใช้คำว่า ไม่ค่อยประสบความสำเร็จแล้วกัน ซึ่งจะรวมพวกที่ขาดทุนและไม่ขาดทุนแต่ไม่ค่อยจะกำไรเข้าไปด้วย
นั่นแปลว่า ถ้าเรามองเหมือนคนส่วนใหญ่ มันก็คงหนีไม่พ้นที่เราจะอยู่ในกลุ่มคน 80% นั้นครับ
สุดท้ายแล้ว ผมอยากจะบอกว่า การเอาชนะเกมส์ในตลาดหุ้นนั้น มันไม่ใช่การที่เราจะเป็นคนใน 20% แล้วชนะคนใน 80% ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
เพราะจริง ๆ แล้ว เราไม่ได้แข่งกับใครในตลาดหุ้นทั้งนั้น น้องไม่ได้แข่งกับผม ไม่ได้แข่งกับอ.หนึ่ง ไม่ได้แข่งกับคุณ NB
แต่แก่นแท้ของมันก็คือ "น้องจะต้องแข่งกับความโลภและความกลัวในใจของน้องเอง" ครับ
ทุกครั้งที่เราซื้อหุ้น นั่นก็คือ ภาวะที่จิตใจเรา "มีความโลภมากกว่าความกลัว" ความโลภที่มองเห็นกำไรในอนาคตข้างหน้า
ในมุมกลับ ทุกครั้งที่เราขายหุ้น นั่นก็คือ ภาวะที่จิตใจเรา "มีความกลัวมากกว่าความโลภ" ความกลัวที่กำไรก้อนโตมันจะหายไป ความกลัวที่จะขาดทุนมากกว่าเดิม
ในแต่ละช่วงเวลาทั้งความโลภและความกลัวมันจะเหมือนคานที่คอยถ่วงดุลกันตลอดเวลา
ความโลภที่มากเกินไปมักจะทำให้เราซื้อหุ้นแพง และในทางกลับกัน ความกลัวที่มากเกินไปก็มักทำให้เราขายหมูหรือมัวแต่ต่อราคาหุ้นมากจนเกินไปหรือ panic ขายหุ้นตามคนอื่นทั้ง ๆ ที่มันอาจจะไม่มีอะไร
จริง ๆ แล้วเราไม่ได้ต้องการแข่งกับใครทั้งนั้นครับ เพราะคนที่เราต้องแข่งด้วยมีอยู่เพียงคนเดียวก็คือ "ตัวเราเอง" ครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1229
อ.หนึ่งครับ ผมเลือดไหลไม่หยุดเลยครับ อ่านแล้วมัน "คมมาก" ครับdr1 เขียน: 1. ช่วงแรกเงินกะเราเป็นอิสระต่อกัน คือเงินมันเป็นอิสระต่อเรา ต่างคนต่างไป แต่เราก็พยามไปตามล่าหาเงินมา
2. ต่อมาเราก็เก่งขึ้น สร้างระบบให้เงินมาหาเรา แล้วเราก็บอกว่า"เรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว"(แต่เงินไม่มีอิสรภาพต่อเราแฮะ)
พอสักพักเงินมันก็มาถมใส่เรามากขึ้น ยิ่งเยอะยิ่งมีอิสรภาพมาก รึยิ่งมีภาระมากก็ไม่รุ จนเราไม่รู้จะเอาเงินไปทำไร
เพราะปกติพวกวีไอใช้เงินน้อยอยู่แล้ว รวยเท่าไรก็ไม่ได้กินเพราะหมอห้าม ยิ่งกินยิ่งใช้ยิ่งตายเร็ว
3. เราก็ปล่อยเงินให้มีอิสรภาพอีกครั้ง (รึพยามทำตัวเราให้มีอิสรภาพจากเงินกองใหญ่มั้ง)โดยบริจาคมั่ง ตั้งมูลนิธิมั่ง เผลอๆยิ่งให้ยิ่งได้อีก แล้วมันจะมีอิสรภาพจากเงินตอนไหนเนี่ย..
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1230
ขอบคุณพี่ Leky มากครับ ผมเริ่มมาเข้าใจว่าจิตวิทยาการลงทุนสำคัญกับเรายังไงเมื่อพอร์ตของผมใหญ่ขึ้นนี้แหละครับ ตอนนี้ก็พยายามฝึกควบคุมตัวเองให้ ซื้อ ขาย ด้วยเหตุผล เท่านั้นครับ การควบคุมจิตใจสำคัญไม่แพ้ ความเข้าใจในหลักการลงทุน หรือ การวิเคราะห์งบการเงินเลยครับ
จงเตือนตนไม่ให้หลงไปกับตลาดกระทิง และ มีสติกับตลาดหมี