Re: ระหว่าง ขุดหุ้น กับ ลอกหุ้น อันไหน รวยระยะยาว กว่ากัน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 26, 2012 5:17 pm
แต่มาคิดอีกที ต้นกำเนิด ต่างเวลา ต่างเหตุผล กัน เวบไทยวิ แบบนี้ก็ดี แต่ไม่อยากเครียด
เว็บบอร์ดเพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
https://thaiviv3.mdsoft.co.th/./
ผมว่าหลายอุตสาหกรรม มันมีจุดที่ทำให้คนไม่อยากเข้าไปศึกษาครับ เช่น หุ้นการเงิน ควรต้องดูอะไร การตีความงบการเงินมันต่างจากหุ้นทั่วไปอย่างไร หรืออย่างอสังหาฯ รายได้ที่เห็นมันคืออะไร การประเมินรายได้โครงการควรดูอะไร กลุ่มรับเหมามีวิธีในการดูอย่างไรเพราะรายได้เป็นงวด ๆNevercry.boy เขียน:แนวคิดนี้ดีมากครับคุณ Leky ยิ่งถ้าได้ตัวจริงในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ด้วย พี่สนับสนุนแนวคิดนี้เต็มที่ และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนส่วนมากด้วยเช่นเดียวกันleky เขียน:ผมว่าถ้ามีงาน meeting อาจจะเปลี่ยนวิธีการหา speaker โดยอ้างอิงจากอุตสาหกรรมก็น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งนะครับ
ถ้าเทียบกับการฟัง ผบห. พูด ถึงธุรกิจตัวเอง คุณ leky คิดว่ามีข้อเสียอย่างไรครับ?leky เขียน:ผมว่าหลายอุตสาหกรรม มันมีจุดที่ทำให้คนไม่อยากเข้าไปศึกษาครับ เช่น หุ้นการเงิน ควรต้องดูอะไร การตีความงบการเงินมันต่างจากหุ้นทั่วไปอย่างไร หรืออย่างอสังหาฯ รายได้ที่เห็นมันคืออะไร การประเมินรายได้โครงการควรดูอะไร กลุ่มรับเหมามีวิธีในการดูอย่างไรเพราะรายได้เป็นงวด ๆNevercry.boy เขียน:แนวคิดนี้ดีมากครับคุณ Leky ยิ่งถ้าได้ตัวจริงในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ด้วย พี่สนับสนุนแนวคิดนี้เต็มที่ และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนส่วนมากด้วยเช่นเดียวกันleky เขียน:ผมว่าถ้ามีงาน meeting อาจจะเปลี่ยนวิธีการหา speaker โดยอ้างอิงจากอุตสาหกรรมก็น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งนะครับ
จริง ๆ มันอาจจะไม่ต้องเอาสมาชิกในเว็บก็ได้นะครับ เพราะผมว่าถ้าหาแบบนี้บางคนอาจจะกลัวว่าไม่ได้อยู่ในวงการนั้นจริง แต่อาจจะเป็นคนที่อยู่ในวงการจริง ๆ ที่มีความรู้และเค้าเต็มใจที่จะมาสอนครับ
ผมว่าถ้าเรายกระดับเป็นสมาคมแล้วการทำอะไรในทำนองแบบนี้รวมทั้งการเชิญวิทยากรจะทำได้ง่ายครับ
ผมหมายถึงคนที่จะเชิญมาอาจจะเคยทำงานหรือทำงานอยู่ในองค์กรที่เกี่ยวข้องครับ เช่นสมาคมธนาคารไทย เป็นต้นครับ และผมเองก็ไม่เห็นด้วยถ้าจะเอาคนที่ทำงานในบ.โดยเฉพาะที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ครับ เพราะอาจจะทำให้มีปัญหาว่าจะมีการโฆษณาแฝงอะไรหรือไม่ ที่สำคัญถ้าเชิญคนที่มาจากองค์กรที่เป็นส่วนกลาง จะไม่ bias และจะได้ข้อมูลในเชิงกว้างมากกว่าครับNevercry.boy เขียน:ถ้าเทียบกับการฟัง ผบห. พูด ถึงธุรกิจตัวเอง คุณ leky คิดว่ามีข้อเสียอย่างไรครับ?leky เขียน:ผมว่าหลายอุตสาหกรรม มันมีจุดที่ทำให้คนไม่อยากเข้าไปศึกษาครับ เช่น หุ้นการเงิน ควรต้องดูอะไร การตีความงบการเงินมันต่างจากหุ้นทั่วไปอย่างไร หรืออย่างอสังหาฯ รายได้ที่เห็นมันคืออะไร การประเมินรายได้โครงการควรดูอะไร กลุ่มรับเหมามีวิธีในการดูอย่างไรเพราะรายได้เป็นงวด ๆNevercry.boy เขียน:แนวคิดนี้ดีมากครับคุณ Leky ยิ่งถ้าได้ตัวจริงในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ด้วย พี่สนับสนุนแนวคิดนี้เต็มที่ และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนส่วนมากด้วยเช่นเดียวกันleky เขียน:ผมว่าถ้ามีงาน meeting อาจจะเปลี่ยนวิธีการหา speaker โดยอ้างอิงจากอุตสาหกรรมก็น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งนะครับ
จริง ๆ มันอาจจะไม่ต้องเอาสมาชิกในเว็บก็ได้นะครับ เพราะผมว่าถ้าหาแบบนี้บางคนอาจจะกลัวว่าไม่ได้อยู่ในวงการนั้นจริง แต่อาจจะเป็นคนที่อยู่ในวงการจริง ๆ ที่มีความรู้และเค้าเต็มใจที่จะมาสอนครับ
ผมว่าถ้าเรายกระดับเป็นสมาคมแล้วการทำอะไรในทำนองแบบนี้รวมทั้งการเชิญวิทยากรจะทำได้ง่ายครับ
แนวคิดนี้ดีมากครับ ถ้าน้องหมอเคอ่านอยู่ช่วยสนับสนุนเป็นแนวทางหรือนโยบายหนึ่งได้ยิ่งดีครับleky เขียน:
ผมหมายถึงคนที่จะเชิญมาอาจจะเคยทำงานหรือทำงานอยู่ในองค์กรที่เกี่ยวข้องครับ เช่นสมาคมธนาคารไทย เป็นต้นครับ และผมเองก็ไม่เห็นด้วยถ้าจะเอาคนที่ทำงานในบ.โดยเฉพาะที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ครับ เพราะอาจจะทำให้มีปัญหาว่าจะมีการโฆษณาแฝงอะไรหรือไม่ ที่สำคัญถ้าเชิญคนที่มาจากองค์กรที่เป็นส่วนกลาง จะไม่ bias และจะได้ข้อมูลในเชิงกว้างมากกว่าครับ
Nevercry.boy เขียน:แนวคิดนี้ดีมากครับ ถ้าน้องหมอเคอ่านอยู่ช่วยสนับสนุนเป็นแนวทางหรือนโยบายหนึ่งได้ยิ่งดีครับleky เขียน:
ผมหมายถึงคนที่จะเชิญมาอาจจะเคยทำงานหรือทำงานอยู่ในองค์กรที่เกี่ยวข้องครับ เช่นสมาคมธนาคารไทย เป็นต้นครับ และผมเองก็ไม่เห็นด้วยถ้าจะเอาคนที่ทำงานในบ.โดยเฉพาะที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ครับ เพราะอาจจะทำให้มีปัญหาว่าจะมีการโฆษณาแฝงอะไรหรือไม่ ที่สำคัญถ้าเชิญคนที่มาจากองค์กรที่เป็นส่วนกลาง จะไม่ bias และจะได้ข้อมูลในเชิงกว้างมากกว่าครับ
ผมขอยกประสบการณ์ส่วนตัวครับ เมื่อ 2-3 ปีก่อน ผมได้เริ่มต้นลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรกลางน้ำค่อนข้างปลายบริษัทหนึ่ง จากการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์เบื้องต้น ณ ขณะนั้น ราคาอยู่ประมาณ 5.x ถึง 6.x ขึ้น ๆ ลง ๆ แต่จากการสำรวจทำการบ้าน อ่านรายงานประจำปีย้อนหลังประมาณหลายปี และทำการบ้านหาข้อมูลอีกสารพัด ผมก็เริ่มทะยอยสะสม เวลาเปลี่ยนไปก็ยังราคาขึ้น ๆ ลง ๆ จนกระทั่งผมได้พูดคุยกับคนในอุตสาหกรรม (ซึ่งตอนหลังผมพบว่ามันเป็นหลักการณ์ของ Scuttlebutt ของฟิชเชอร์) ผมมีความมั่นใจขึ้น ณ ขณะนั้น
นักวิเคราะห์ให้ราคาอยู่ประมาณ 7.x ถึง 8 แถว ๆ นั้นมั๊งครับ และก็มีเพียงไม่กี่รายที่ตามบริษัทนี้ แต่หลังจากนั้น ผลประกอบการณ์ก็เป็นไปดังคาด ราคาเกินจุดนั้นไปเยอะผมได้รู้จักเพื่อนหลายคนจนปัจจุบันก็จากกระทู้นั้น นั่นก็เพราะการได้พูดคุยกับคนในอุตสาหกรรมซึ่งผมเห็นว่าแนวทางนี้เป็นประโยชน์มาก ๆ ครับ
อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้มาผมไม่สนับสนุนให้โพสในเวปเพราะเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้กรองพูดก็คือเป็นข่าวไม่ได้กรองนั่นเอง แต่ถ้าเราจัดเป็นสัมมนาให้ความรู้ในแนวทางนี้ผมว่าไม่น่าผิดอะไรครับดีเสียอีกได้ความรู้กว้างกัน
น้องหมอเค มาวิเคราะห์โรงพยาบาลให้ฟังก่อนเลยครับcrazyrisk เขียน: สรุปแล้ว เห็นด้วย จริงๆครับ
แต่เผอิญ การจะหาคนแบบนั้นยากเหมือนกันนะครับ ถ้าใครรู้จัก รบกวนสะกิดผมดังๆได้เลยครับ
จะรีบเทียบเชิญมาขึ้นเวทีทันทีครับ
รอฟังด้วยคนครับNevercry.boy เขียน:น้องหมอเค มาวิเคราะห์โรงพยาบาลให้ฟังก่อนเลยครับcrazyrisk เขียน: สรุปแล้ว เห็นด้วย จริงๆครับ
แต่เผอิญ การจะหาคนแบบนั้นยากเหมือนกันนะครับ ถ้าใครรู้จัก รบกวนสะกิดผมดังๆได้เลยครับ
จะรีบเทียบเชิญมาขึ้นเวทีทันทีครับ
dome@perth เขียน:รอฟังด้วยคนครับNevercry.boy เขียน:น้องหมอเค มาวิเคราะห์โรงพยาบาลให้ฟังก่อนเลยครับcrazyrisk เขียน: สรุปแล้ว เห็นด้วย จริงๆครับ
แต่เผอิญ การจะหาคนแบบนั้นยากเหมือนกันนะครับ ถ้าใครรู้จัก รบกวนสะกิดผมดังๆได้เลยครับ
จะรีบเทียบเชิญมาขึ้นเวทีทันทีครับ
คนที่ไม่ชอบลงทุนในธุรกิจที่ตัวเองทำงานอยู่ ผมว่ามันน่าจะมีหลายสาเหตุนะครับcrazyrisk เขียน:
แหม พี่ ผมก้บอกอยู่หยกๆว่า คนมักชอบลงทุนในธุรกิจที่ตัวเองไม่ได้ทำ
Nevercry.boy เขียน:น้องหมอเค มาวิเคราะห์โรงพยาบาลให้ฟังก่อนเลยครับcrazyrisk เขียน: สรุปแล้ว เห็นด้วย จริงๆครับ
แต่เผอิญ การจะหาคนแบบนั้นยากเหมือนกันนะครับ ถ้าใครรู้จัก รบกวนสะกิดผมดังๆได้เลยครับ
จะรีบเทียบเชิญมาขึ้นเวทีทันทีครับ
คุณหมอครับcrazyrisk เขียน: fix cost เรื่องเครื่องมือแพทย์ ก็จะสูงมาก ที่เห็นจ่ายค่ารักษาแพงๆ ไม่ใช่ว่า เก็บไปเข้ากระเป๋ารพ.สบายๆนะครับ
ค่าเครื่องมือ แต่ละอัน นี่ระดับ ล้านทั้งนั้น
siebelize เขียน:คุณหมอครับcrazyrisk เขียน: fix cost เรื่องเครื่องมือแพทย์ ก็จะสูงมาก ที่เห็นจ่ายค่ารักษาแพงๆ ไม่ใช่ว่า เก็บไปเข้ากระเป๋ารพ.สบายๆนะครับ
ค่าเครื่องมือ แต่ละอัน นี่ระดับ ล้านทั้งนั้น
ฟังดูเหมือนกับว่า ถ้า รพ.เป็น Red Ocean
ธุรกิจที่น่าลงทุนกว่าคือธุรกิจที่ขายเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ราคาแพง พวกนั้นรึเปล่าครับ
Nevercry.boy เขียน:ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหมอเล่นหุ้นนี่เก่งกันทุกคน
ขอบคุณมากครับน้องหมอเค
CONNICHIWA เขียน:ขอโทษนะครับ
น่าจะมีการแชร์ความรู้ในอุตสาหกรรมที่ตัวเองทำงานอยู่
บ.ผลิตเครื่องมือแพทย์หรือแม้แต่ยารักษาโรค มักจะเป็นบ.ข้ามชาติขนาดใหญ่ทั้งสิ้นครับ ต้องเข้าใจก่อนว่าการจะผลิตเครื่องมืออะไรหรือยาตัวใหม่ ๆ ออกมา สิ่งที่สำคัญที่สุดคืองบประมาณการวิจัยมหาศาลครับ ซึ่งทีมงานและความรู้พวกนี้ต้องยอมรับว่ามาจากทางตะวันตกทั้งสิ้นsiebelize เขียน:คุณหมอครับcrazyrisk เขียน: fix cost เรื่องเครื่องมือแพทย์ ก็จะสูงมาก ที่เห็นจ่ายค่ารักษาแพงๆ ไม่ใช่ว่า เก็บไปเข้ากระเป๋ารพ.สบายๆนะครับ
ค่าเครื่องมือ แต่ละอัน นี่ระดับ ล้านทั้งนั้น
ฟังดูเหมือนกับว่า ถ้า รพ.เป็น Red Ocean
ธุรกิจที่น่าลงทุนกว่าคือธุรกิจที่ขายเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ราคาแพง พวกนั้นรึเปล่าครับ