Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 13, 2012 8:24 am
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 21.57 จุดรับผลประมูลบอนด์อิตาลี-สเปน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 06:33:31 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลอิตาลีและสเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้มากกว่าเป้าหมาย และต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวลดลง ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในช่วงเช้าอันเนื่องมาจากข้อมเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 21.57 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 12,471.02 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.02 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 0.23% แตะที่ 1,295.50 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 13.94 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 2,724.70 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.1% น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.4% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. เพิ่มขึ้น 24,000 ราย แตะ 399,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 375,000 ราย
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีและสเปนช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยเมื่อวานนี้ รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% ขณะที่สเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์) ด้วยอัตราการเสนอซื้อมีอยู่มากกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายกว่า 2 เท่า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.0% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบียังได้แสดงความเชื่อมั่นในมาตรการปล่อยเงินกู้ให้กับภาคธนาคาร แม้เขามองว่าภาวะตึงตัวในตลาดการเงินยังคงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในยูโรโซนก็ตาม
การแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของนายดรากิ โดยเฉพาะการคาดการณ์ที่ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในปี 2555 เพราะได้แรงหนุนจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ปรับตัวดีขึ้นนั้น ช่วยชดเชยปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และยังช่วยให้นักลงทุนรู้สึกผ่อนคลายจากความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรป
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีข่าวว่าสหภาพยุโรป (อียู) อาจจะเลื่อนการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งการปรับตัวลงของราคาน้ำมันทำให้นักลงทุนมองว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าครองชีพของผู้บริโภค และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวในอีกทางหนึ่งด้วย
หุ้นเชฟรอน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ร่วงลง 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 4 ที่ต่ำเกินคาด ขณะที่หุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก ดีดขึ้น 3.1% หุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 2.3%
หุ้นดาว เคมิคอล พุ่งขึ้น 3.6% หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศยกเลิกภาษีนำเข้าเคมีภัณฑ์จากสหรัฐที่ใช้ในงานเคลือบกระดาษและสี
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากันไป โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค บวก 0.5% ก่อนที่เจพีมอร์แกนจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.2% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวลง 0.1%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นค้าปลีก ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 8.4 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 07:43:32 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัท เทสโก้ เปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกและข้อมูลด้านแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 8.4 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 5,662.42 จุด
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นเทสโก้ ร่วงลง 16% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ และยังได้ปรับดลคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นเจ แซนบิวรี และหุ้นวิลเลียม มอร์ริสัน ซูเปอร์มากเก็ต ดิ่งลงกว่า 5% ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. เพิ่มขึ้น 24,000 ราย มาอยู่ที่ 399,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 375,000 ราย
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 5.6 % ซึ่งเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มบลูชิพ หลังจาก RBS ประกาศแผนลดพนักงานในส่วนของวาณิชธนกิจ 3,500 คน และอาจจะขายหรือปิดธุรกิจหุ้นและการให้คำปรึกษา ส่วนหุ้นธนาคารนลอยด์ แบงกิง พุ่งขึ้น 3.5% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดีดตัวขึ้น 1.7%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาทองแดงในตลาดลอนดอน หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่าตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยหุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส พุ่งขึ้น 4.7% หุ้นคาซัคมิส บวก 2.4% และหุ้นอันโตฟากัสต้า บวก 2%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปร่วงหลังเทสโก้ลดคาดการณ์ผลประกอบการณ์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 08:00:57 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) หลังจากเทสโก้ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ หลังจากยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกที่อ่อนแอลงของสหรัฐ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้บดบังผลการประมูลพันธบัตรของอิตาลีและสเปน
ดัชนี Stoxx Europe 600 Index ร่วงลง 0.2% ปิดที่ 249.50 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีบวก 26.87 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 6,179.21 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลง 4.85 จุด หรือ 0.15 % ปิดที่ 3,199.98 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษขยับลง 8.40 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 5,662.42 จุด
หุ้นเทสโก้ร่วงลง 16 % ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ และยังได้ปรับดลคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นเจ แซนบิวรี และหุ้นวิลเลียม มอร์ริสัน ซูเปอร์มากเก็ต ดิ่งลงกว่า 5% ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.1% น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.4% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% และสเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์)
หุ้นยูนิเครดิตพุ่งขึ้น 14% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นยูนิเครดิตขึ้นสู่ระดับ “buy" จากระดับ “neutral"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 06:33:31 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลอิตาลีและสเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้มากกว่าเป้าหมาย และต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวลดลง ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในช่วงเช้าอันเนื่องมาจากข้อมเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 21.57 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 12,471.02 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.02 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 0.23% แตะที่ 1,295.50 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 13.94 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 2,724.70 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.1% น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.4% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. เพิ่มขึ้น 24,000 ราย แตะ 399,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 375,000 ราย
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีและสเปนช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยเมื่อวานนี้ รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% ขณะที่สเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์) ด้วยอัตราการเสนอซื้อมีอยู่มากกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายกว่า 2 เท่า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.0% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบียังได้แสดงความเชื่อมั่นในมาตรการปล่อยเงินกู้ให้กับภาคธนาคาร แม้เขามองว่าภาวะตึงตัวในตลาดการเงินยังคงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในยูโรโซนก็ตาม
การแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของนายดรากิ โดยเฉพาะการคาดการณ์ที่ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในปี 2555 เพราะได้แรงหนุนจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ปรับตัวดีขึ้นนั้น ช่วยชดเชยปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และยังช่วยให้นักลงทุนรู้สึกผ่อนคลายจากความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรป
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีข่าวว่าสหภาพยุโรป (อียู) อาจจะเลื่อนการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งการปรับตัวลงของราคาน้ำมันทำให้นักลงทุนมองว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าครองชีพของผู้บริโภค และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวในอีกทางหนึ่งด้วย
หุ้นเชฟรอน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ร่วงลง 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 4 ที่ต่ำเกินคาด ขณะที่หุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก ดีดขึ้น 3.1% หุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 2.3%
หุ้นดาว เคมิคอล พุ่งขึ้น 3.6% หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศยกเลิกภาษีนำเข้าเคมีภัณฑ์จากสหรัฐที่ใช้ในงานเคลือบกระดาษและสี
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากันไป โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค บวก 0.5% ก่อนที่เจพีมอร์แกนจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.2% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวลง 0.1%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นค้าปลีก ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 8.4 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 07:43:32 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัท เทสโก้ เปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกและข้อมูลด้านแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 8.4 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 5,662.42 จุด
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นเทสโก้ ร่วงลง 16% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ และยังได้ปรับดลคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นเจ แซนบิวรี และหุ้นวิลเลียม มอร์ริสัน ซูเปอร์มากเก็ต ดิ่งลงกว่า 5% ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. เพิ่มขึ้น 24,000 ราย มาอยู่ที่ 399,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 375,000 ราย
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 5.6 % ซึ่งเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มบลูชิพ หลังจาก RBS ประกาศแผนลดพนักงานในส่วนของวาณิชธนกิจ 3,500 คน และอาจจะขายหรือปิดธุรกิจหุ้นและการให้คำปรึกษา ส่วนหุ้นธนาคารนลอยด์ แบงกิง พุ่งขึ้น 3.5% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดีดตัวขึ้น 1.7%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาทองแดงในตลาดลอนดอน หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่าตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยหุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส พุ่งขึ้น 4.7% หุ้นคาซัคมิส บวก 2.4% และหุ้นอันโตฟากัสต้า บวก 2%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปร่วงหลังเทสโก้ลดคาดการณ์ผลประกอบการณ์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 08:00:57 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) หลังจากเทสโก้ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ หลังจากยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกที่อ่อนแอลงของสหรัฐ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้บดบังผลการประมูลพันธบัตรของอิตาลีและสเปน
ดัชนี Stoxx Europe 600 Index ร่วงลง 0.2% ปิดที่ 249.50 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีบวก 26.87 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 6,179.21 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลง 4.85 จุด หรือ 0.15 % ปิดที่ 3,199.98 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษขยับลง 8.40 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 5,662.42 จุด
หุ้นเทสโก้ร่วงลง 16 % ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ และยังได้ปรับดลคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นเจ แซนบิวรี และหุ้นวิลเลียม มอร์ริสัน ซูเปอร์มากเก็ต ดิ่งลงกว่า 5% ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.1% น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.4% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% และสเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์)
หุ้นยูนิเครดิตพุ่งขึ้น 14% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นยูนิเครดิตขึ้นสู่ระดับ “buy" จากระดับ “neutral"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--