รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 121
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 21.57 จุดรับผลประมูลบอนด์อิตาลี-สเปน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 06:33:31 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลอิตาลีและสเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้มากกว่าเป้าหมาย และต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวลดลง ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในช่วงเช้าอันเนื่องมาจากข้อมเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 21.57 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 12,471.02 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.02 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 0.23% แตะที่ 1,295.50 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 13.94 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 2,724.70 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.1% น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.4% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. เพิ่มขึ้น 24,000 ราย แตะ 399,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 375,000 ราย
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีและสเปนช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยเมื่อวานนี้ รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% ขณะที่สเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์) ด้วยอัตราการเสนอซื้อมีอยู่มากกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายกว่า 2 เท่า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.0% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบียังได้แสดงความเชื่อมั่นในมาตรการปล่อยเงินกู้ให้กับภาคธนาคาร แม้เขามองว่าภาวะตึงตัวในตลาดการเงินยังคงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในยูโรโซนก็ตาม
การแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของนายดรากิ โดยเฉพาะการคาดการณ์ที่ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในปี 2555 เพราะได้แรงหนุนจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ปรับตัวดีขึ้นนั้น ช่วยชดเชยปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และยังช่วยให้นักลงทุนรู้สึกผ่อนคลายจากความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรป
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีข่าวว่าสหภาพยุโรป (อียู) อาจจะเลื่อนการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งการปรับตัวลงของราคาน้ำมันทำให้นักลงทุนมองว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าครองชีพของผู้บริโภค และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวในอีกทางหนึ่งด้วย
หุ้นเชฟรอน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ร่วงลง 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 4 ที่ต่ำเกินคาด ขณะที่หุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก ดีดขึ้น 3.1% หุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 2.3%
หุ้นดาว เคมิคอล พุ่งขึ้น 3.6% หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศยกเลิกภาษีนำเข้าเคมีภัณฑ์จากสหรัฐที่ใช้ในงานเคลือบกระดาษและสี
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากันไป โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค บวก 0.5% ก่อนที่เจพีมอร์แกนจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.2% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวลง 0.1%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นค้าปลีก ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 8.4 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 07:43:32 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัท เทสโก้ เปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกและข้อมูลด้านแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 8.4 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 5,662.42 จุด
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นเทสโก้ ร่วงลง 16% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ และยังได้ปรับดลคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นเจ แซนบิวรี และหุ้นวิลเลียม มอร์ริสัน ซูเปอร์มากเก็ต ดิ่งลงกว่า 5% ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. เพิ่มขึ้น 24,000 ราย มาอยู่ที่ 399,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 375,000 ราย
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 5.6 % ซึ่งเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มบลูชิพ หลังจาก RBS ประกาศแผนลดพนักงานในส่วนของวาณิชธนกิจ 3,500 คน และอาจจะขายหรือปิดธุรกิจหุ้นและการให้คำปรึกษา ส่วนหุ้นธนาคารนลอยด์ แบงกิง พุ่งขึ้น 3.5% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดีดตัวขึ้น 1.7%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาทองแดงในตลาดลอนดอน หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่าตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยหุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส พุ่งขึ้น 4.7% หุ้นคาซัคมิส บวก 2.4% และหุ้นอันโตฟากัสต้า บวก 2%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปร่วงหลังเทสโก้ลดคาดการณ์ผลประกอบการณ์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 08:00:57 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) หลังจากเทสโก้ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ หลังจากยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกที่อ่อนแอลงของสหรัฐ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้บดบังผลการประมูลพันธบัตรของอิตาลีและสเปน
ดัชนี Stoxx Europe 600 Index ร่วงลง 0.2% ปิดที่ 249.50 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีบวก 26.87 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 6,179.21 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลง 4.85 จุด หรือ 0.15 % ปิดที่ 3,199.98 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษขยับลง 8.40 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 5,662.42 จุด
หุ้นเทสโก้ร่วงลง 16 % ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ และยังได้ปรับดลคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นเจ แซนบิวรี และหุ้นวิลเลียม มอร์ริสัน ซูเปอร์มากเก็ต ดิ่งลงกว่า 5% ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.1% น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.4% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% และสเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์)
หุ้นยูนิเครดิตพุ่งขึ้น 14% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นยูนิเครดิตขึ้นสู่ระดับ “buy" จากระดับ “neutral"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 06:33:31 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลอิตาลีและสเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้มากกว่าเป้าหมาย และต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวลดลง ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในช่วงเช้าอันเนื่องมาจากข้อมเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 21.57 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 12,471.02 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.02 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 0.23% แตะที่ 1,295.50 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 13.94 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 2,724.70 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.1% น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.4% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. เพิ่มขึ้น 24,000 ราย แตะ 399,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 375,000 ราย
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีและสเปนช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยเมื่อวานนี้ รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% ขณะที่สเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์) ด้วยอัตราการเสนอซื้อมีอยู่มากกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายกว่า 2 เท่า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.0% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบียังได้แสดงความเชื่อมั่นในมาตรการปล่อยเงินกู้ให้กับภาคธนาคาร แม้เขามองว่าภาวะตึงตัวในตลาดการเงินยังคงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในยูโรโซนก็ตาม
การแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของนายดรากิ โดยเฉพาะการคาดการณ์ที่ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในปี 2555 เพราะได้แรงหนุนจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ปรับตัวดีขึ้นนั้น ช่วยชดเชยปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และยังช่วยให้นักลงทุนรู้สึกผ่อนคลายจากความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรป
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีข่าวว่าสหภาพยุโรป (อียู) อาจจะเลื่อนการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งการปรับตัวลงของราคาน้ำมันทำให้นักลงทุนมองว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าครองชีพของผู้บริโภค และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวในอีกทางหนึ่งด้วย
หุ้นเชฟรอน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ร่วงลง 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 4 ที่ต่ำเกินคาด ขณะที่หุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก ดีดขึ้น 3.1% หุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 2.3%
หุ้นดาว เคมิคอล พุ่งขึ้น 3.6% หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศยกเลิกภาษีนำเข้าเคมีภัณฑ์จากสหรัฐที่ใช้ในงานเคลือบกระดาษและสี
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากันไป โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค บวก 0.5% ก่อนที่เจพีมอร์แกนจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.2% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวลง 0.1%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นค้าปลีก ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 8.4 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 07:43:32 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัท เทสโก้ เปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกและข้อมูลด้านแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 8.4 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 5,662.42 จุด
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นเทสโก้ ร่วงลง 16% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ และยังได้ปรับดลคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นเจ แซนบิวรี และหุ้นวิลเลียม มอร์ริสัน ซูเปอร์มากเก็ต ดิ่งลงกว่า 5% ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. เพิ่มขึ้น 24,000 ราย มาอยู่ที่ 399,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 375,000 ราย
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 5.6 % ซึ่งเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มบลูชิพ หลังจาก RBS ประกาศแผนลดพนักงานในส่วนของวาณิชธนกิจ 3,500 คน และอาจจะขายหรือปิดธุรกิจหุ้นและการให้คำปรึกษา ส่วนหุ้นธนาคารนลอยด์ แบงกิง พุ่งขึ้น 3.5% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดีดตัวขึ้น 1.7%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาทองแดงในตลาดลอนดอน หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่าตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยหุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส พุ่งขึ้น 4.7% หุ้นคาซัคมิส บวก 2.4% และหุ้นอันโตฟากัสต้า บวก 2%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปร่วงหลังเทสโก้ลดคาดการณ์ผลประกอบการณ์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 08:00:57 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) หลังจากเทสโก้ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ หลังจากยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกที่อ่อนแอลงของสหรัฐ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้บดบังผลการประมูลพันธบัตรของอิตาลีและสเปน
ดัชนี Stoxx Europe 600 Index ร่วงลง 0.2% ปิดที่ 249.50 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีบวก 26.87 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 6,179.21 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลง 4.85 จุด หรือ 0.15 % ปิดที่ 3,199.98 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษขยับลง 8.40 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 5,662.42 จุด
หุ้นเทสโก้ร่วงลง 16 % ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ และยังได้ปรับดลคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นเจ แซนบิวรี และหุ้นวิลเลียม มอร์ริสัน ซูเปอร์มากเก็ต ดิ่งลงกว่า 5% ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.1% น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.4% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% และสเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์)
หุ้นยูนิเครดิตพุ่งขึ้น 14% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นยูนิเครดิตขึ้นสู่ระดับ “buy" จากระดับ “neutral"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 122
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดบวก 85.51 จุดรับผลประมูลบอนด์อิตาลี-สเปน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 08:09:30 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดพุ่งขึ้น 85.51 จุด แตะที่ 8,471.10 จุดในวันนี้ (13 ม.ค.) เนื่องจากผลการประมูลพันธบัตรที่ราบรื่นของรัฐบาลสเปนและอิตาลี ช่วยให้บรรยากาศการซื้อขายคึกคักขึ้น และยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวตามตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่าอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% ขณะที่สเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์) ด้วยอัตราการเสนอซื้อมีอยู่มากกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายกว่า 2 เท่า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 08:09:30 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดพุ่งขึ้น 85.51 จุด แตะที่ 8,471.10 จุดในวันนี้ (13 ม.ค.) เนื่องจากผลการประมูลพันธบัตรที่ราบรื่นของรัฐบาลสเปนและอิตาลี ช่วยให้บรรยากาศการซื้อขายคึกคักขึ้น และยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวตามตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่าอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% ขณะที่สเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์) ด้วยอัตราการเสนอซื้อมีอยู่มากกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายกว่า 2 เท่า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 123
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ร่วง 48.96 จุดจากวิตกหั่นเครดิตปท.ยูโรโซน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 14 มกราคม 2555 06:23:44 น.
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดต่ำลงเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) ในขณะที่เจพีมอร์แกน เชสรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ที่ย่ำแย่กว่าที่คาดไว้ ขณะที่รายงานที่ว่า หลายประเทศในยุโรปจะถูกลดอันดับเครดิต กระตุ้นความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับวิกฤติหนี้ของภูมิภาค
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 48.96 จุด หรือ 0.39% มาที่ 12,422.06 จุด หลังจากที่ปรับขึ้น 21.57 จุดเมื่อวันพฤหัสบดี ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 6.41 จุด หรือ 0.49% มาที่ 1,289.09 จุด ดัชนี Nasdaq ติดลบ 14.03 จุด หรือ 0.51% มาที่ 2,710.67 จุด
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ตลาดหุ้นเผชิญแรงเทขายอย่างหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหุ้นกลุ่มการเงิน ในขณะที่ดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 160 จุดจากรายงานที่ว่า สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (เอสแอนด์พี) จะลดอันดับเครดิตระยะยาวของฝรั่งเศสและบางประเทศในยูโรโซนเมื่อวานนี้ ในขณะที่เอสแอนด์พีประกาศเครดิตพินิจเชิงลบต่อ 15 ประเทศเมื่อต้นเดือนธ.ค.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รมว.คลังฝรั่งเศสได้ยืนยันก่อนปิดตลาดว่า อันดับเครดิต AAA ของฝรั่งเศสจะถูกปรับลด 1 ขั้น โดยต่อมาเอสแอนด์พีประกาศว่า จะปรับลดอันดับเครดิตของฝรั่งเศสลง 1 ขั้น จาก AAA สู่ AA+
ประเทศอื่นๆในยุโรป อาทิ อิตาลี, สเปน และโปรตุเกส อยู่ในรายชื่อที่อาจจะถูกปรับลดเครดิตเช่นกัน
การปรับลดอันดับเครดิตจำนวนมากทำให้นักลงทุนวิตก ในขณะที่ความต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงถ่วงตลาด
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในช่วงท้ายของการซื้อขาย ตลาดฟื้นตัวขึ้นบางส่วน เช่นเดียวกับตลาดยุโรป ท่ามกลางทัศนะที่ว่า การปรับลดอันดับเครดิตอาจจะอยู่ภายในขอบเขตที่คาดไว้
ในขณะเดียวกัน ผลประกอบการไตรมาส 4 ของเจพี มอร์แกน เชส ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของตลาด ในขณะที่ทั้งรายได้และผลกำไรลดลงอย่างมาก ผลประกอบการรายไตรมาสที่ย่ำแย่ของเจพี มอร์แกน เชสถ่วงหุ้นกลุ่มการธนาคารและสร้างแรงกดดันต่อตลาด
ในด้านเศรษฐกิจนั้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับขึ้นสู่ 74 ในเดือนม.ค. จาก 69.9 ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 71.5
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน:ฟุตซี่ร่วง 25.78 จุดหลังปท.ยูโรโซนอาจถูกลดเครดิต
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 14 มกราคม 2555 10:05:25 น.
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) จากข่าวที่ว่า สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) อาจจะลดอันดับเครดิตหลายประเทศในภูมิภาคยูโรโซนในเร็วๆนี้
หุ้นโวดาโฟน กรุ๊ป ร่วงลง 2.5% สู่จุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากที่มอร์แกน สแตนเลย์เตือนถึง"ความอ่อนแอที่อาจจะเกิดขึ้น"ในบทวิเคราะห์
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 25.78 จุด หรือ 0.5% มาที่ 5,636.64 จุดในช่วงปิดตลาดลอนดอน โดยในช่วงแรกดัชนีพุ่งขึ้นมากถึง 0.8%
ตลาดหุ้นลดแรงบวกลง หลังจากที่มีรายงานว่า เอสแอนด์พีจะลดอันดับเครดิตหลายประเทศในยูโรโซน ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศสและออสเตรีย ส่วนเยอรมนีจะยังคงมีอันดับเครดิตที่ AAA
เจ้าหน้าที่ยุโรปกล่าวว่า อาจจะมีการประกาศในเวลา 21.00 น.ตามเวลาบรัสเซลส์
หุ้นอินเวนซิส ร่วงลง 19% ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546 หลังจากที่ทางบริษัทเปิดเผยถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 60 ล้านปอนด์ (92 ล้านดอลลาร์) ในการปฏิบัติตามสัญญา โดยทางบริษัทระบุว่า ผลประกอบการจะต่ำกว่าปีที่แล้วอย่างมาก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปร่วง จากข่าว S&P จ่อหั่นเครดิตปท.ยูโรโซน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 16 มกราคม 2555 06:38:56 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) หลังจากมีรายงานงานว่า สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) มีแนวโน้มที่จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศต่างๆในยูโรโซน รวมถึงฝรั่งเศส ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลอย่างมากต่อตลาด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3196.49 ลบ 3.49 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6143.08 ลบ 36.13 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5636.64 ลบ 25.78 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวนหลังจากมีข่าวลือในระหว่างวันว่า เอสแอนด์พีจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศยูโรโซน
อย่างไรก็ตาม หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดทำการแล้ว เอสแอนด์พีได้ลดอันดับเครดิตระยะยาวของฝรั่งเศสลง 1 ขั้น จาก AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และยังได้ปรับลดอันดับเครดิตของประเทศอื่นๆในยูโรโซนอีก 8 ประเทศเช่นกัน โดยระบุว่า ข้อตกลงที่ผู้นำยุโรปบรรลุในเดือนธ.ค.ไม่เพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาหนี้สินของภูมิภาค
หุ้นโวดาโฟน กรุ๊ป ร่วงลง 2.5% ปิดที่ 175 เพนซ์ ซึ่งเป็นแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. ขณะที่หุ้นโนวาร์ติส กรุ๊ป ร่วงลง 0.7% หลังจากบริษัทประกาศลดจำนวนพนักงาน 1,960 ตำแหน่งในสหรัฐ
หุ้นแอร์ ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ร่วงลง 1.1% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 4.8%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิร่วง 107.93 จุด หลัง S&P หั่นเครดิตฝรั่งเศส
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 16 มกราคม 2555 07:37:11 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 107.93 จุด หรือ 1.27% แตะที่ 8,392.09 จุดในวันนี้ (16 ม.ค.) เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากข่าวสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศส
เอสแอนด์พีปรับลดอันดับเครดิตระยะยาวของฝรั่งเศสลง 1 ขั้น สู่ระดับ AA+ จาก AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ขณะที่ปรับลดอันดับเครดิตของประเทศอื่นๆในยูโรโซนอีก 8 ประเทศเช่นกัน โดยระบุว่า ข้อตกลงที่ผู้นำยุโรปบรรลุในเดือนธ.ค.ไม่เพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาหนี้สินของภูมิภาค
นอกจากนี้ การร่วงลงของสกุลเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินเยน ยังได้ฉุดหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกดิ่งลงด้วย สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.17 เยนในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 14 มกราคม 2555 06:23:44 น.
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดต่ำลงเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) ในขณะที่เจพีมอร์แกน เชสรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ที่ย่ำแย่กว่าที่คาดไว้ ขณะที่รายงานที่ว่า หลายประเทศในยุโรปจะถูกลดอันดับเครดิต กระตุ้นความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับวิกฤติหนี้ของภูมิภาค
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 48.96 จุด หรือ 0.39% มาที่ 12,422.06 จุด หลังจากที่ปรับขึ้น 21.57 จุดเมื่อวันพฤหัสบดี ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 6.41 จุด หรือ 0.49% มาที่ 1,289.09 จุด ดัชนี Nasdaq ติดลบ 14.03 จุด หรือ 0.51% มาที่ 2,710.67 จุด
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ตลาดหุ้นเผชิญแรงเทขายอย่างหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหุ้นกลุ่มการเงิน ในขณะที่ดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 160 จุดจากรายงานที่ว่า สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (เอสแอนด์พี) จะลดอันดับเครดิตระยะยาวของฝรั่งเศสและบางประเทศในยูโรโซนเมื่อวานนี้ ในขณะที่เอสแอนด์พีประกาศเครดิตพินิจเชิงลบต่อ 15 ประเทศเมื่อต้นเดือนธ.ค.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รมว.คลังฝรั่งเศสได้ยืนยันก่อนปิดตลาดว่า อันดับเครดิต AAA ของฝรั่งเศสจะถูกปรับลด 1 ขั้น โดยต่อมาเอสแอนด์พีประกาศว่า จะปรับลดอันดับเครดิตของฝรั่งเศสลง 1 ขั้น จาก AAA สู่ AA+
ประเทศอื่นๆในยุโรป อาทิ อิตาลี, สเปน และโปรตุเกส อยู่ในรายชื่อที่อาจจะถูกปรับลดเครดิตเช่นกัน
การปรับลดอันดับเครดิตจำนวนมากทำให้นักลงทุนวิตก ในขณะที่ความต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงถ่วงตลาด
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในช่วงท้ายของการซื้อขาย ตลาดฟื้นตัวขึ้นบางส่วน เช่นเดียวกับตลาดยุโรป ท่ามกลางทัศนะที่ว่า การปรับลดอันดับเครดิตอาจจะอยู่ภายในขอบเขตที่คาดไว้
ในขณะเดียวกัน ผลประกอบการไตรมาส 4 ของเจพี มอร์แกน เชส ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของตลาด ในขณะที่ทั้งรายได้และผลกำไรลดลงอย่างมาก ผลประกอบการรายไตรมาสที่ย่ำแย่ของเจพี มอร์แกน เชสถ่วงหุ้นกลุ่มการธนาคารและสร้างแรงกดดันต่อตลาด
ในด้านเศรษฐกิจนั้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับขึ้นสู่ 74 ในเดือนม.ค. จาก 69.9 ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 71.5
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน:ฟุตซี่ร่วง 25.78 จุดหลังปท.ยูโรโซนอาจถูกลดเครดิต
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 14 มกราคม 2555 10:05:25 น.
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) จากข่าวที่ว่า สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) อาจจะลดอันดับเครดิตหลายประเทศในภูมิภาคยูโรโซนในเร็วๆนี้
หุ้นโวดาโฟน กรุ๊ป ร่วงลง 2.5% สู่จุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากที่มอร์แกน สแตนเลย์เตือนถึง"ความอ่อนแอที่อาจจะเกิดขึ้น"ในบทวิเคราะห์
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 25.78 จุด หรือ 0.5% มาที่ 5,636.64 จุดในช่วงปิดตลาดลอนดอน โดยในช่วงแรกดัชนีพุ่งขึ้นมากถึง 0.8%
ตลาดหุ้นลดแรงบวกลง หลังจากที่มีรายงานว่า เอสแอนด์พีจะลดอันดับเครดิตหลายประเทศในยูโรโซน ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศสและออสเตรีย ส่วนเยอรมนีจะยังคงมีอันดับเครดิตที่ AAA
เจ้าหน้าที่ยุโรปกล่าวว่า อาจจะมีการประกาศในเวลา 21.00 น.ตามเวลาบรัสเซลส์
หุ้นอินเวนซิส ร่วงลง 19% ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546 หลังจากที่ทางบริษัทเปิดเผยถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 60 ล้านปอนด์ (92 ล้านดอลลาร์) ในการปฏิบัติตามสัญญา โดยทางบริษัทระบุว่า ผลประกอบการจะต่ำกว่าปีที่แล้วอย่างมาก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปร่วง จากข่าว S&P จ่อหั่นเครดิตปท.ยูโรโซน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 16 มกราคม 2555 06:38:56 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) หลังจากมีรายงานงานว่า สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) มีแนวโน้มที่จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศต่างๆในยูโรโซน รวมถึงฝรั่งเศส ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลอย่างมากต่อตลาด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3196.49 ลบ 3.49 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6143.08 ลบ 36.13 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5636.64 ลบ 25.78 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวนหลังจากมีข่าวลือในระหว่างวันว่า เอสแอนด์พีจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศยูโรโซน
อย่างไรก็ตาม หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดทำการแล้ว เอสแอนด์พีได้ลดอันดับเครดิตระยะยาวของฝรั่งเศสลง 1 ขั้น จาก AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และยังได้ปรับลดอันดับเครดิตของประเทศอื่นๆในยูโรโซนอีก 8 ประเทศเช่นกัน โดยระบุว่า ข้อตกลงที่ผู้นำยุโรปบรรลุในเดือนธ.ค.ไม่เพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาหนี้สินของภูมิภาค
หุ้นโวดาโฟน กรุ๊ป ร่วงลง 2.5% ปิดที่ 175 เพนซ์ ซึ่งเป็นแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. ขณะที่หุ้นโนวาร์ติส กรุ๊ป ร่วงลง 0.7% หลังจากบริษัทประกาศลดจำนวนพนักงาน 1,960 ตำแหน่งในสหรัฐ
หุ้นแอร์ ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ร่วงลง 1.1% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 4.8%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิร่วง 107.93 จุด หลัง S&P หั่นเครดิตฝรั่งเศส
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 16 มกราคม 2555 07:37:11 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 107.93 จุด หรือ 1.27% แตะที่ 8,392.09 จุดในวันนี้ (16 ม.ค.) เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากข่าวสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศส
เอสแอนด์พีปรับลดอันดับเครดิตระยะยาวของฝรั่งเศสลง 1 ขั้น สู่ระดับ AA+ จาก AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ขณะที่ปรับลดอันดับเครดิตของประเทศอื่นๆในยูโรโซนอีก 8 ประเทศเช่นกัน โดยระบุว่า ข้อตกลงที่ผู้นำยุโรปบรรลุในเดือนธ.ค.ไม่เพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาหนี้สินของภูมิภาค
นอกจากนี้ การร่วงลงของสกุลเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินเยน ยังได้ฉุดหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกดิ่งลงด้วย สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.17 เยนในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 124
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหนุนฟุตซี่ปิดบวก 20.80 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 มกราคม 2555 06:28:58 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวก 20.80 จุด แตะที่ 5,657.44 จุดเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าเข้าซื้อหุ้น หลังจากที่ได้ซึมซับข่าวสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสและประเทศต่างๆอีก 8 ประเทศในยูโรโซน
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเริ่มซึมซับข่าวที่ว่า เอสแอนด์พี ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศในยูโรโซน รวมถึงฝรั่งเศส
หุ้นเพียร์สัน ซึ่งเป็นเจ้าของสำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทมส์ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอส เอจี ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
หุ้น Robert Wiseman Dairies Plc ซึ่งเป็นผู้ผลิตนมรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 18% หลังจากมีรายงานว่า บริษัท Unternehmensgruppe Theo Mueller GmbH & Co. KG อาจจะทำข้อตกลงซื้อกิจการของ Robert Wiseman Dairies มูลค่า 279.5 ล้านปอนด์ หรือ 428 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม หุ้นคาร์นิวัล ร่วงลง 16% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่บริษัทนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อเดือนต.ค. 2543 หลังจากเรือคอสต้า คอนคอร์เดีย ของบริษัทอับปางลงนอกชายฝั่งทัสแคนของอิตาลี ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับผลประมูลตราสารหนี้ฝรั่งเศส
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 มกราคม 2555 06:45:05 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ฝรั่งเศสสามารถระดมทุนจากการขายตราสารหนี้ในการประมูลเมื่อวานนี้ ด้วยต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวลดลง แม้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดตัวขึ้น 0.8% ปิดที่ 251.12 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3225.00 จุด บวก 28.51 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6220.01 จุด บวก 76.93 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5657.44 จุด บวก 20.80 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนตัวผันผวนเนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากข่าวเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลง 1 ขั้น และยังได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถืออีก 8 ประเทศในยูโรโซน แต่หลังจากที่รัฐบาลฝรั่งเศสเปิดเผยผลการประมูลตราสารหนี้และพันธบัตรที่ออกมาเป็นบวก ตลาดหุ้นยุโรปก็ดีดตัวขึ้นขานรับทันที
ฝรั่งเศสสามารถระดมทุนด้วยการขายตราสารหนี้ระยะสั้นอายุ 12 สัปดาห์ ได้ 4.4 พันล้านยูโร (5.6 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ โดยให้อัตราผลตอบแทน 0.156% เพิ่มขึ้นจากการประมูลครั้งก่อนที่ 0.023% แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของฝรั่งเศส ปรับตัวลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อฝรั่งเศส แม้ว่าฝรั่งเศสเพิ่งถูกเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงก็ตาม
ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสที่ระดับ AAA และยังคงแนวโน้มความน่าเชื่อถือไว้ที่ "มีเสถียรภาพ" เนื่องจากมองว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของฝรั่งเศสยังคงแข็งแกร่ง
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้แสดงความคิดเห็นในด้านบวกต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยหุ้นเฟียตพุ่งขึ้น 7% ขณะที่หุ้นเฟียต อินดัสทรี ดีดตัวขึ้น 3.9% และหุ้น Pirelli & C พุ่งขึ้น 4.3%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดบวก 41.76 จุดขานรับผลประมูลบอนด์ฝรั่งเศส
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 มกราคม 2555 08:00:18 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดบวก 41.76 จุด แตะที่ 8,420.12 จุดในวันนี้ (17 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน หลังจากฝรั่งเศสประสบความสำเร็จในการประมูลขายตราสารหนี้ระยะสั้นเมื่อวานนี้ แม้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสก็ตาม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ฝรั่งเศสสามารถระดมทุนด้วยการขายตราสารหนี้ระยะสั้นอายุ 12 สัปดาห์ ได้ 4.4 พันล้านยูโร (5.6 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ ซึ่งแม้ว่าต้นทุนการกู้ยืมตราสารหนี้ดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนการกู้ยืมพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อฝรั่งเศส แม้ว่าฝรั่งเศสเพิ่งถูกเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงก็ตาม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 มกราคม 2555 06:28:58 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวก 20.80 จุด แตะที่ 5,657.44 จุดเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าเข้าซื้อหุ้น หลังจากที่ได้ซึมซับข่าวสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสและประเทศต่างๆอีก 8 ประเทศในยูโรโซน
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเริ่มซึมซับข่าวที่ว่า เอสแอนด์พี ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศในยูโรโซน รวมถึงฝรั่งเศส
หุ้นเพียร์สัน ซึ่งเป็นเจ้าของสำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทมส์ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอส เอจี ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
หุ้น Robert Wiseman Dairies Plc ซึ่งเป็นผู้ผลิตนมรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 18% หลังจากมีรายงานว่า บริษัท Unternehmensgruppe Theo Mueller GmbH & Co. KG อาจจะทำข้อตกลงซื้อกิจการของ Robert Wiseman Dairies มูลค่า 279.5 ล้านปอนด์ หรือ 428 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม หุ้นคาร์นิวัล ร่วงลง 16% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่บริษัทนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อเดือนต.ค. 2543 หลังจากเรือคอสต้า คอนคอร์เดีย ของบริษัทอับปางลงนอกชายฝั่งทัสแคนของอิตาลี ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับผลประมูลตราสารหนี้ฝรั่งเศส
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 มกราคม 2555 06:45:05 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ฝรั่งเศสสามารถระดมทุนจากการขายตราสารหนี้ในการประมูลเมื่อวานนี้ ด้วยต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวลดลง แม้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดตัวขึ้น 0.8% ปิดที่ 251.12 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3225.00 จุด บวก 28.51 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6220.01 จุด บวก 76.93 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5657.44 จุด บวก 20.80 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนตัวผันผวนเนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากข่าวเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลง 1 ขั้น และยังได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถืออีก 8 ประเทศในยูโรโซน แต่หลังจากที่รัฐบาลฝรั่งเศสเปิดเผยผลการประมูลตราสารหนี้และพันธบัตรที่ออกมาเป็นบวก ตลาดหุ้นยุโรปก็ดีดตัวขึ้นขานรับทันที
ฝรั่งเศสสามารถระดมทุนด้วยการขายตราสารหนี้ระยะสั้นอายุ 12 สัปดาห์ ได้ 4.4 พันล้านยูโร (5.6 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ โดยให้อัตราผลตอบแทน 0.156% เพิ่มขึ้นจากการประมูลครั้งก่อนที่ 0.023% แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของฝรั่งเศส ปรับตัวลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อฝรั่งเศส แม้ว่าฝรั่งเศสเพิ่งถูกเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงก็ตาม
ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสที่ระดับ AAA และยังคงแนวโน้มความน่าเชื่อถือไว้ที่ "มีเสถียรภาพ" เนื่องจากมองว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของฝรั่งเศสยังคงแข็งแกร่ง
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้แสดงความคิดเห็นในด้านบวกต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยหุ้นเฟียตพุ่งขึ้น 7% ขณะที่หุ้นเฟียต อินดัสทรี ดีดตัวขึ้น 3.9% และหุ้น Pirelli & C พุ่งขึ้น 4.3%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดบวก 41.76 จุดขานรับผลประมูลบอนด์ฝรั่งเศส
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 มกราคม 2555 08:00:18 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดบวก 41.76 จุด แตะที่ 8,420.12 จุดในวันนี้ (17 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน หลังจากฝรั่งเศสประสบความสำเร็จในการประมูลขายตราสารหนี้ระยะสั้นเมื่อวานนี้ แม้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสก็ตาม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ฝรั่งเศสสามารถระดมทุนด้วยการขายตราสารหนี้ระยะสั้นอายุ 12 สัปดาห์ ได้ 4.4 พันล้านยูโร (5.6 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ ซึ่งแม้ว่าต้นทุนการกู้ยืมตราสารหนี้ดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนการกู้ยืมพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อฝรั่งเศส แม้ว่าฝรั่งเศสเพิ่งถูกเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงก็ตาม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 125
http://bit.ly/whxCQQ
การเงิน - การลงทุน : ถนนนักลงทุน
วันที่ 17 มกราคม 2555 01:00
'โหรหุ้น'แนะ'ตั้งการ์ดสู้''ไตรมาสแรก' SET 'ร่วง' รีบ 'เก็บ'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เซียนหุ้นรุ่นใหญ่แนะ 'ตั้งการ์ดรับ'หาก SET Index ช่วง 3 เดือนแรกถอยหลัง 'ลงคลอง' หาจังหวะ 'เก็บเล่นรอบ' ปีนี้ เชียร์กลุ่มพลังงานและอาหาร
ตลาดหุ้นปี 2555 ยังคงอบอวลไปด้วยปัจจัยลบเดิมๆ ปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่คลี่คลาย สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นก็ยังไม่ฟื้นตัว ซ้ำร้ายปัญหาการเมืองภายในประเทศที่มีคลื่นใต้น้ำมาตั้งแต่ปีที่แล้วทำท่าจะมาปะทุในปีนี้ เซียนหุ้นที่ใช้การนับทฤษฎีคลื่นมาวิเคราะห์กราฟดัชนี ต่างมองว่า SET Index ปีนี้ มีโอกาส "ลงลึก" มีโอกาสเห็นเลข 700 จุดได้ แถมหลายคนยังเชื่อด้วยว่า "ไตรมาส 1" ปีนี้ ตลาดหุ้นไทยน่าจะ "ลง" มากกว่า "ขึ้น"
"ถนนนักลงทุน" กรุงเทพธุรกิจ BizWeek มีมุมมองจาก "เซียนหุ้นรุ่นใหญ่" ตลาดหุ้นปี “มังกร” (งูใหญ่) จะออกแนว “ซึม” เป็น “หมี” หรือ “คึกคัก” เป็น “กระทิง”!!!
เอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ และนักลงทุนรายใหญ่ มองตลาดหุ้นในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2555 ว่า นักลงทุนต้องจับตาดูสงคราม (จิตวิทยา) ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น ในช่วงสั้นๆ SET Index อาจปรับตัวลดลงได้ประมาณ 10% ถ้าเป็นไปตามคาดให้นักลงทุนรีบหาจังหวะ "เก็บหุ้นเข้าพอร์ตทันที..ยิ่งหุ้นลงแรงยิ่งต้องรีบช้อน" เชื่อว่าสงครามอิหร่านจะไม่ยืดเยื้อ และจบเร็วแน่นอน
สำหรับหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากความตึงเครียดครั้งนี้ ก็คงหนีไม่พ้น "หุ้นกลุ่มพลังงาน" ถ้ามีสงครามเกิดขึ้นจริงรับรองราคาพลังงานพุ่งพรวดแน่นอน โดยส่วนตัวให้น้ำหนักในหุ้น ปตท. (PTT) ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) และ พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) มากกว่าหุ้นตัวอื่นในกลุ่ม
“ผมมองว่าในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม ตลาดหุ้นอาจปรับตัวลดลงได้ เพราะกองทุน LTF และ RMF อาจมีการขายหุ้นทำกำไรออกมา”
นอกจากหุ้นกลุ่มพลังงานแล้ว เอกยุทธ ยังเชียร์หุ้นที่คาดว่าจะได้รับโยชน์หลังน้ำท่วมในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้เหตุผลว่าผลกระทบจากน้ำท่วมช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ทำให้สินค้าขาดตลาดมานานเมื่อโรงงานกลับมาผลิตได้ บ้านเรือนต้องทำการซ่อมแซม คำสั่งซื้อก็จะกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่หุ้นที่เซียนหุ้นรายนี้ชอบและให้น้ำหนักมากที่สุดกลับเป็นหุ้น เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) และ แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เพราะเป็นหุ้นบิ๊กแคปที่ยังมีสตอรี่ให้ลงทุนได้ต่อเนื่อง
สำหรับนักลงทุนที่นิยม "เล่นรอบ" เอกยุทธ ให้มองที่ตัว SET Index เป็นหลัก หากดัชนีปรับตัวมายืนที่ระดับ 1,000 จุด ให้นักลงทุน "รีบช้อนหุ้นที่อยากได้" และเมื่อดัชนีขึ้นไป 8-10% (80-100 จุด) ให้ "รีบขายทันที" ส่วนนักลงทุนที่ชื่นชอบการ "ลงทุนรอบใหญ่" ก็ให้รอซื้อที่บริเวณ 1,000 จุด แต่ให้ไปขายตอนดัชนีขึ้นไป 15-20% หรือที่ระดับดัชนี 1,150-1,200 จุด
“ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 นอกจากเรื่องสงครามอิหร่านที่นักลงทุนจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังมีเรื่องหนี้ยุโรป เรื่องเกาหลีเหนือที่จะเปลี่ยนผู้นำคนใหม่อาจมีเรื่องเซอร์ไพรส์โลกก็ได้ใครจะไปรู้”
เอกยุทธ ให้นิยามตลาดหุ้นไทย ในปี 2555 ว่าเป็น “Dragon Gold” (มังกรทอง) โดยมองต่างจากเซียนหุ้นหลายๆ คน เขาคิดว่าหุ้นไทยน่าจะ "ดีที่สุดในรอบ 4-5 ปี" เพราะฐานะการเงินของสหรัฐอเมริกาและยุโรปน่าจะไปทางที่ดีขึ้นมากกว่าแย่ลง ที่สำคัญเศรษฐกิจโลกตกต่ำมาตั้งแต่ปี 2550 ตามหลักการแล้ว "มันต้องดีขึ้น" ดูอย่างปี 2554 เจอวิกฤติร้ายแรง (สึนามิญี่ปุ่น,หนี้ยุโรป,น้ำท่วมใหญ่) แต่ตลาดหุ้นไม่ตกเลย..ไม่น่าเชื่อ!!! ด้วยเหตุนี้ส่วนตัวจึงเชื่อว่าปลายปี 2555 นักลงทุน "คงขายหุ้นได้กำไร"
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำให้ลงทุนในหุ้น 60% ที่เหลือก็ลงทุนทองคำ 20% พันธบัตร 20% ซึ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทน 20-30% ส่วนนักลงทุนที่ไม่ชอบเสี่ยงให้ลงหุ้น 40% ทองคำ 20% ที่เหลือเทไปในพันธบัตร 40% โอกาสได้ผลตอบแทน 15% ไม่น่าพลาด
เอกยุทธ กล่าวปิดท้ายว่า นักลงทุนที่ดี ต้องรู้จักแยกเรื่องการเมืองออกจากการลงทุน อย่าไปรับรู้เรื่องการเมืองมาก ไม่เช่นนั้นคุณจะลงทุนไม่ได้
สุทัศน์ ขันเจริญสุข ประธานรุ่นที่ 4 เว็บไซต์ไทยวีไอดอทคอม เจ้าของพอร์ตลงทุนหลักร้อยล้านบาท ประเมินว่า สามปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัญหาการเมืองในประเทศ ผลกระทบจากน้ำท่วม และหนี้ยุโรป ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้การตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนเชื่องช้า มีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 จะเคลื่อนไหว "ไซด์เวย์" (ออกด้านข้าง) ขึ้นได้ 2-3% ลง 2-3%
วีไอรุ่นใหญ่ มองว่า แม้จะมีปัจจัยต่างๆ คอยกดดันดัชนี แต่ก็เป็นเรื่องเดิมๆ ที่นักลงทุนซึมซับข่าว (ร้าย) มานานแล้ว ในกรณีที่นักลงทุนถือหุ้นดีๆ อยู่ในมือ และบริษัทจดทะเบียนรายนั้นยังทำธุรกิจตามปกติไม่ได้ล่มสลาย หรือมีปัจจัยลบมากระทบธุรกิจในระยะยาว ขอแนะนำให้นักลงทุนควรลงทุนต่อไป "เทหมดแม็ก (ซื้อหุ้น 100%) ยังได้เลย หากคุณรู้ไส้ในของบริษัทนั้นอย่างแท้จริง" แต่จะซื้อในสัดส่วนเท่าไร คงต้องขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล
สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลออกแนว “กินไม่ได้นอนไม่หลับ” แนะนำให้ "ถือเงินสด..สบายใจสุด" เมื่อปัญหาต่างๆ ชัดเจนมากขึ้นค่อยหวนกลับมาลงทุนใหม่ ซึ่งก็ไม่สาย (หุ้นคงไม่ขึ้นเร็ว) สิ่งสำคัญที่อยากฝากไว้การเลือกหุ้น "อย่าใจร้อน เดี๋ยวได้ของไม่ดี" ถ้ากลัวตกรถไฟก็ควักเงินลงทุนนิดหน่อยพอ เมื่อศึกษาแผนธุรกิจและอนาคตของบริษัทนั้นดีแล้ว ถ้ามั่นใจแล้วค่อยซื้อก้อนใหญ่
"อย่าถามเลยว่าปีนี้ ควรจัดพอร์ตลงทุนอย่างไร แต่ละคนมีความต้องการต่างกัน และเม็ดเงินลงทุนก็ไม่เท่ากัน เอาเป็นว่าถ้ามั่นใจจัดหนัก จัดเต็มไปเลย หลายคนถามว่า ทองคำน่าซื้อหรือไม่ ผมไม่ชอบทองคำ เพราะมันไม่ได้เงินปันผล และแนวโน้มราคาทองคงไปไหนไม่ไกล"
ถามถึงหุ้นที่น่าลงทุนในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2555 สุทัศน์ กล่าวว่า ขอไม่แนะนำเป็นรายตัวแต่หุ้นประเภท "ของกินของใช้" ยังคงโดดเด่นมากที่สุด เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีจะร้าย คนก็ยังต้องกินต้องใช้ กลุ่มธนาคารก็น่าสนใจ ปีนี้คงปล่อยสินเชื่อจำนวนมากเพื่อฟื้นฟูน้ำท่วม
พี่ใหญ่ของชาววีไอ กล่าวอีกว่า ตลาดหุ้นปี 2555 คงไม่ใช่ “ปีมังกรทอง” ภาพรวมยังมีปัจจัยลบมากกว่าปัจจัยบวก ถ้าจะให้นิยามตลาดหุ้นไทยปีนี้ น่าจะเป็น มังกรย่ำ..อยู่ที่เดิม คือ บินไม่สูง ไม่ทะยาน แต่ไม่ถอยหลังหรือจมดิ่ง นักลงทุนยังคง "ซื้อได้" เพียงแต่ต้องเลือกตัวที่เรารู้จักมันดีที่สุด ตลาดหุ้นมีหุ้นตั้ง 500 กว่าตัว หาหุ้นดีๆ สัก 5-10 ตัว คงไม่ใช่เรื่องยาก
"พอร์ตผมปี 2554 พลาดเป้าไปเล็กน้อย เพราะหุ้นที่ครอบครองอยู่ 10 ตัว บางตัวก็ดี บางตัวก็สะดุด แต่รวมๆ แล้วก็โอเค มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว มีเงินทำบุญ แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว...หุ้นบางตัวปันผลไม่ดีเท่าปีก่อน แต่อย่าเหมาว่าเครื่องยนต์มันพัง เพราะจริงๆ แล้วแค่ยางแตก เปลี่ยนยางก็วิ่งต่อได้ ผมกำลังจะบอกคุณว่าก่อนจะซื้อหรือขายหุ้นตัวไหน สำรวจเครื่องในให้ดีๆ" เซียนหุ้นวีไอ ฝากเตือน
เซียนหุ้นรายใหญ่อีกคน สง่า ตั้งจันสิริ ประเมินทิศทางตลาดหุ้นในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เชื่อว่า ดัชนีจะไม่ขึ้นและไม่ลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะยังมีเรื่องสงครามอิหร่านที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น แต่ในแง่ของหุ้นรายตัวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีหลายตัวที่น่าสนใจมาก
"ตอนนี้ผมสนใจกลุ่มอาหารมากที่สุด ดูจากกราฟหุ้นกลุ่มนี้จะดีขึ้นหลังงบไตรมาส 4 ปี 2554 ออก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 1-2 ของทุกปี ส่วนตัวผมเล็งจะซื้อหุ้น CPF เพิ่ม เน้นถือยาวๆ กินเงินปันผล หุ้นตัวนี้ผมซื้อตลอดไม่เคยขายเลย"
เขาเชื่อว่า ราคาหุ้น CPF ยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งเคยบอกใครหลายคนว่าถ้าราคาไม่ถึง 50 บาท คงไม่ขาย (หัวเราะ) เชื่อว่าภายใน 2 ปีนี้ คงได้เห็น หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็น่าลงทุน ตอนนี้เล็งซื้อหุ้น พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) เพิ่มเติม ส่วนตัวยังเชื่อในความเป็นมืออาชีพของ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ น้ำท่วมใหญ่รอบนี้พฤกษาถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่โดนผลกระทบหนักสุด หุ้น ไรมอน แลนด์ (RAIMON) ก็โอเค! เพราะหลายๆ โครงการของเขาจะส่งมอบลูกค้าภายในปีนี้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในปีนี้ สง่า บอกว่า ตั้งใจจะลงทุนในตลาดหุ้น 50% ที่เหลือจะให้น้ำหนักลงทุนในทองคำ และที่ดินมากขึ้น แต่จะเน้นเก็งกำไรเป็นหลัก อย่างทองคำก็เล็งจะซื้อตอนราคาบาทละ 23,000 บาท เคยขายส่วนหนึ่งไปตอนบาทละ 28,000 บาท
"ผมมั่นใจ อีกไม่นานราคาทองคำจะดีดกลับมา เพราะซัพพลายมีจำกัด แต่ดีมานด์สูงขึ้น โดยเฉพาะดีมานด์จากจีนและอินเดีย ผมเชื่อว่าภายในไม่เกิน 5 ปี ราคาทองคำจะขึ้นไปแตะบาทละ 30,000 บาทได้แน่นอน"
ส่วนการเก็งกำไรที่ดิน มองแถวๆ ภาคอีสานอยู่ เท่าที่รู้จากคนในท้องถิ่นที่ดินหลายแปลงกำลังจะถูกพัฒนา ส่วนรายละเอียดการลงทุนในที่ดินขอเก็บไว้เป็นความลับ เคล็ดลับที่ใช้คือ หาซื้อที่ดินแปลงสวยซื้อมาเก็บไว้รอจนกว่าจะมีคนมาพัฒนาที่ดินแถวนั้น หรือมีถนนตัดผ่านแล้วค่อยขายออกเพื่อทำกำไร
การเงิน - การลงทุน : ถนนนักลงทุน
วันที่ 17 มกราคม 2555 01:00
'โหรหุ้น'แนะ'ตั้งการ์ดสู้''ไตรมาสแรก' SET 'ร่วง' รีบ 'เก็บ'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เซียนหุ้นรุ่นใหญ่แนะ 'ตั้งการ์ดรับ'หาก SET Index ช่วง 3 เดือนแรกถอยหลัง 'ลงคลอง' หาจังหวะ 'เก็บเล่นรอบ' ปีนี้ เชียร์กลุ่มพลังงานและอาหาร
ตลาดหุ้นปี 2555 ยังคงอบอวลไปด้วยปัจจัยลบเดิมๆ ปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่คลี่คลาย สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นก็ยังไม่ฟื้นตัว ซ้ำร้ายปัญหาการเมืองภายในประเทศที่มีคลื่นใต้น้ำมาตั้งแต่ปีที่แล้วทำท่าจะมาปะทุในปีนี้ เซียนหุ้นที่ใช้การนับทฤษฎีคลื่นมาวิเคราะห์กราฟดัชนี ต่างมองว่า SET Index ปีนี้ มีโอกาส "ลงลึก" มีโอกาสเห็นเลข 700 จุดได้ แถมหลายคนยังเชื่อด้วยว่า "ไตรมาส 1" ปีนี้ ตลาดหุ้นไทยน่าจะ "ลง" มากกว่า "ขึ้น"
"ถนนนักลงทุน" กรุงเทพธุรกิจ BizWeek มีมุมมองจาก "เซียนหุ้นรุ่นใหญ่" ตลาดหุ้นปี “มังกร” (งูใหญ่) จะออกแนว “ซึม” เป็น “หมี” หรือ “คึกคัก” เป็น “กระทิง”!!!
เอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ และนักลงทุนรายใหญ่ มองตลาดหุ้นในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2555 ว่า นักลงทุนต้องจับตาดูสงคราม (จิตวิทยา) ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น ในช่วงสั้นๆ SET Index อาจปรับตัวลดลงได้ประมาณ 10% ถ้าเป็นไปตามคาดให้นักลงทุนรีบหาจังหวะ "เก็บหุ้นเข้าพอร์ตทันที..ยิ่งหุ้นลงแรงยิ่งต้องรีบช้อน" เชื่อว่าสงครามอิหร่านจะไม่ยืดเยื้อ และจบเร็วแน่นอน
สำหรับหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากความตึงเครียดครั้งนี้ ก็คงหนีไม่พ้น "หุ้นกลุ่มพลังงาน" ถ้ามีสงครามเกิดขึ้นจริงรับรองราคาพลังงานพุ่งพรวดแน่นอน โดยส่วนตัวให้น้ำหนักในหุ้น ปตท. (PTT) ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) และ พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) มากกว่าหุ้นตัวอื่นในกลุ่ม
“ผมมองว่าในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม ตลาดหุ้นอาจปรับตัวลดลงได้ เพราะกองทุน LTF และ RMF อาจมีการขายหุ้นทำกำไรออกมา”
นอกจากหุ้นกลุ่มพลังงานแล้ว เอกยุทธ ยังเชียร์หุ้นที่คาดว่าจะได้รับโยชน์หลังน้ำท่วมในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้เหตุผลว่าผลกระทบจากน้ำท่วมช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ทำให้สินค้าขาดตลาดมานานเมื่อโรงงานกลับมาผลิตได้ บ้านเรือนต้องทำการซ่อมแซม คำสั่งซื้อก็จะกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่หุ้นที่เซียนหุ้นรายนี้ชอบและให้น้ำหนักมากที่สุดกลับเป็นหุ้น เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) และ แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เพราะเป็นหุ้นบิ๊กแคปที่ยังมีสตอรี่ให้ลงทุนได้ต่อเนื่อง
สำหรับนักลงทุนที่นิยม "เล่นรอบ" เอกยุทธ ให้มองที่ตัว SET Index เป็นหลัก หากดัชนีปรับตัวมายืนที่ระดับ 1,000 จุด ให้นักลงทุน "รีบช้อนหุ้นที่อยากได้" และเมื่อดัชนีขึ้นไป 8-10% (80-100 จุด) ให้ "รีบขายทันที" ส่วนนักลงทุนที่ชื่นชอบการ "ลงทุนรอบใหญ่" ก็ให้รอซื้อที่บริเวณ 1,000 จุด แต่ให้ไปขายตอนดัชนีขึ้นไป 15-20% หรือที่ระดับดัชนี 1,150-1,200 จุด
“ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 นอกจากเรื่องสงครามอิหร่านที่นักลงทุนจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังมีเรื่องหนี้ยุโรป เรื่องเกาหลีเหนือที่จะเปลี่ยนผู้นำคนใหม่อาจมีเรื่องเซอร์ไพรส์โลกก็ได้ใครจะไปรู้”
เอกยุทธ ให้นิยามตลาดหุ้นไทย ในปี 2555 ว่าเป็น “Dragon Gold” (มังกรทอง) โดยมองต่างจากเซียนหุ้นหลายๆ คน เขาคิดว่าหุ้นไทยน่าจะ "ดีที่สุดในรอบ 4-5 ปี" เพราะฐานะการเงินของสหรัฐอเมริกาและยุโรปน่าจะไปทางที่ดีขึ้นมากกว่าแย่ลง ที่สำคัญเศรษฐกิจโลกตกต่ำมาตั้งแต่ปี 2550 ตามหลักการแล้ว "มันต้องดีขึ้น" ดูอย่างปี 2554 เจอวิกฤติร้ายแรง (สึนามิญี่ปุ่น,หนี้ยุโรป,น้ำท่วมใหญ่) แต่ตลาดหุ้นไม่ตกเลย..ไม่น่าเชื่อ!!! ด้วยเหตุนี้ส่วนตัวจึงเชื่อว่าปลายปี 2555 นักลงทุน "คงขายหุ้นได้กำไร"
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำให้ลงทุนในหุ้น 60% ที่เหลือก็ลงทุนทองคำ 20% พันธบัตร 20% ซึ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทน 20-30% ส่วนนักลงทุนที่ไม่ชอบเสี่ยงให้ลงหุ้น 40% ทองคำ 20% ที่เหลือเทไปในพันธบัตร 40% โอกาสได้ผลตอบแทน 15% ไม่น่าพลาด
เอกยุทธ กล่าวปิดท้ายว่า นักลงทุนที่ดี ต้องรู้จักแยกเรื่องการเมืองออกจากการลงทุน อย่าไปรับรู้เรื่องการเมืองมาก ไม่เช่นนั้นคุณจะลงทุนไม่ได้
สุทัศน์ ขันเจริญสุข ประธานรุ่นที่ 4 เว็บไซต์ไทยวีไอดอทคอม เจ้าของพอร์ตลงทุนหลักร้อยล้านบาท ประเมินว่า สามปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัญหาการเมืองในประเทศ ผลกระทบจากน้ำท่วม และหนี้ยุโรป ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้การตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนเชื่องช้า มีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 จะเคลื่อนไหว "ไซด์เวย์" (ออกด้านข้าง) ขึ้นได้ 2-3% ลง 2-3%
วีไอรุ่นใหญ่ มองว่า แม้จะมีปัจจัยต่างๆ คอยกดดันดัชนี แต่ก็เป็นเรื่องเดิมๆ ที่นักลงทุนซึมซับข่าว (ร้าย) มานานแล้ว ในกรณีที่นักลงทุนถือหุ้นดีๆ อยู่ในมือ และบริษัทจดทะเบียนรายนั้นยังทำธุรกิจตามปกติไม่ได้ล่มสลาย หรือมีปัจจัยลบมากระทบธุรกิจในระยะยาว ขอแนะนำให้นักลงทุนควรลงทุนต่อไป "เทหมดแม็ก (ซื้อหุ้น 100%) ยังได้เลย หากคุณรู้ไส้ในของบริษัทนั้นอย่างแท้จริง" แต่จะซื้อในสัดส่วนเท่าไร คงต้องขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล
สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลออกแนว “กินไม่ได้นอนไม่หลับ” แนะนำให้ "ถือเงินสด..สบายใจสุด" เมื่อปัญหาต่างๆ ชัดเจนมากขึ้นค่อยหวนกลับมาลงทุนใหม่ ซึ่งก็ไม่สาย (หุ้นคงไม่ขึ้นเร็ว) สิ่งสำคัญที่อยากฝากไว้การเลือกหุ้น "อย่าใจร้อน เดี๋ยวได้ของไม่ดี" ถ้ากลัวตกรถไฟก็ควักเงินลงทุนนิดหน่อยพอ เมื่อศึกษาแผนธุรกิจและอนาคตของบริษัทนั้นดีแล้ว ถ้ามั่นใจแล้วค่อยซื้อก้อนใหญ่
"อย่าถามเลยว่าปีนี้ ควรจัดพอร์ตลงทุนอย่างไร แต่ละคนมีความต้องการต่างกัน และเม็ดเงินลงทุนก็ไม่เท่ากัน เอาเป็นว่าถ้ามั่นใจจัดหนัก จัดเต็มไปเลย หลายคนถามว่า ทองคำน่าซื้อหรือไม่ ผมไม่ชอบทองคำ เพราะมันไม่ได้เงินปันผล และแนวโน้มราคาทองคงไปไหนไม่ไกล"
ถามถึงหุ้นที่น่าลงทุนในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2555 สุทัศน์ กล่าวว่า ขอไม่แนะนำเป็นรายตัวแต่หุ้นประเภท "ของกินของใช้" ยังคงโดดเด่นมากที่สุด เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีจะร้าย คนก็ยังต้องกินต้องใช้ กลุ่มธนาคารก็น่าสนใจ ปีนี้คงปล่อยสินเชื่อจำนวนมากเพื่อฟื้นฟูน้ำท่วม
พี่ใหญ่ของชาววีไอ กล่าวอีกว่า ตลาดหุ้นปี 2555 คงไม่ใช่ “ปีมังกรทอง” ภาพรวมยังมีปัจจัยลบมากกว่าปัจจัยบวก ถ้าจะให้นิยามตลาดหุ้นไทยปีนี้ น่าจะเป็น มังกรย่ำ..อยู่ที่เดิม คือ บินไม่สูง ไม่ทะยาน แต่ไม่ถอยหลังหรือจมดิ่ง นักลงทุนยังคง "ซื้อได้" เพียงแต่ต้องเลือกตัวที่เรารู้จักมันดีที่สุด ตลาดหุ้นมีหุ้นตั้ง 500 กว่าตัว หาหุ้นดีๆ สัก 5-10 ตัว คงไม่ใช่เรื่องยาก
"พอร์ตผมปี 2554 พลาดเป้าไปเล็กน้อย เพราะหุ้นที่ครอบครองอยู่ 10 ตัว บางตัวก็ดี บางตัวก็สะดุด แต่รวมๆ แล้วก็โอเค มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว มีเงินทำบุญ แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว...หุ้นบางตัวปันผลไม่ดีเท่าปีก่อน แต่อย่าเหมาว่าเครื่องยนต์มันพัง เพราะจริงๆ แล้วแค่ยางแตก เปลี่ยนยางก็วิ่งต่อได้ ผมกำลังจะบอกคุณว่าก่อนจะซื้อหรือขายหุ้นตัวไหน สำรวจเครื่องในให้ดีๆ" เซียนหุ้นวีไอ ฝากเตือน
เซียนหุ้นรายใหญ่อีกคน สง่า ตั้งจันสิริ ประเมินทิศทางตลาดหุ้นในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เชื่อว่า ดัชนีจะไม่ขึ้นและไม่ลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะยังมีเรื่องสงครามอิหร่านที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น แต่ในแง่ของหุ้นรายตัวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีหลายตัวที่น่าสนใจมาก
"ตอนนี้ผมสนใจกลุ่มอาหารมากที่สุด ดูจากกราฟหุ้นกลุ่มนี้จะดีขึ้นหลังงบไตรมาส 4 ปี 2554 ออก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 1-2 ของทุกปี ส่วนตัวผมเล็งจะซื้อหุ้น CPF เพิ่ม เน้นถือยาวๆ กินเงินปันผล หุ้นตัวนี้ผมซื้อตลอดไม่เคยขายเลย"
เขาเชื่อว่า ราคาหุ้น CPF ยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งเคยบอกใครหลายคนว่าถ้าราคาไม่ถึง 50 บาท คงไม่ขาย (หัวเราะ) เชื่อว่าภายใน 2 ปีนี้ คงได้เห็น หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็น่าลงทุน ตอนนี้เล็งซื้อหุ้น พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) เพิ่มเติม ส่วนตัวยังเชื่อในความเป็นมืออาชีพของ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ น้ำท่วมใหญ่รอบนี้พฤกษาถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่โดนผลกระทบหนักสุด หุ้น ไรมอน แลนด์ (RAIMON) ก็โอเค! เพราะหลายๆ โครงการของเขาจะส่งมอบลูกค้าภายในปีนี้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในปีนี้ สง่า บอกว่า ตั้งใจจะลงทุนในตลาดหุ้น 50% ที่เหลือจะให้น้ำหนักลงทุนในทองคำ และที่ดินมากขึ้น แต่จะเน้นเก็งกำไรเป็นหลัก อย่างทองคำก็เล็งจะซื้อตอนราคาบาทละ 23,000 บาท เคยขายส่วนหนึ่งไปตอนบาทละ 28,000 บาท
"ผมมั่นใจ อีกไม่นานราคาทองคำจะดีดกลับมา เพราะซัพพลายมีจำกัด แต่ดีมานด์สูงขึ้น โดยเฉพาะดีมานด์จากจีนและอินเดีย ผมเชื่อว่าภายในไม่เกิน 5 ปี ราคาทองคำจะขึ้นไปแตะบาทละ 30,000 บาทได้แน่นอน"
ส่วนการเก็งกำไรที่ดิน มองแถวๆ ภาคอีสานอยู่ เท่าที่รู้จากคนในท้องถิ่นที่ดินหลายแปลงกำลังจะถูกพัฒนา ส่วนรายละเอียดการลงทุนในที่ดินขอเก็บไว้เป็นความลับ เคล็ดลับที่ใช้คือ หาซื้อที่ดินแปลงสวยซื้อมาเก็บไว้รอจนกว่าจะมีคนมาพัฒนาที่ดินแถวนั้น หรือมีถนนตัดผ่านแล้วค่อยขายออกเพื่อทำกำไร
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 126
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 60.01 จุดขานรับข้อมูลศก.จีน-สหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 06:31:16 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ของจีนและดัชนีภาวะธุรกิจในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากการที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศในยูโรโซน
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 60.01 จุด หรือ 0.48% แตะที่ 12,482.07 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.58 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 1,293.67 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 17.41 จุด หรือ 0.64% แตะที่ 2,728.08 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ว่า จีดีพีของจีนขยายตัว 9.2% ในปี 2554 จากสถิติปีก่อนหน้านั้น ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2554 ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ แม้ว่าจีดีพีไตรมาส 4 ขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 10 ไตรมาส แต่ก็ยังสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนจีดีพีตลอดปี 2554 นั้น แม้ขยายตัวได้น้อยกว่าปี 2553 ที่ระดับ 10.3% แต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 8%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีดีพีที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดของจีนช่วยพยุงตลาดหุ้นนิวยอร์กเอาไว้จนแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวเอสแอนด์พีประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสและอีก 8 ประเทศของยุโรโซน รวมทั้งลดอันดับความน่าเชื่อถือของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ลง 1 ขั้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกมากขึ้นเมื่อธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) รายงานว่า กองทุน EFSF สามารถระดมทุนด้วยการขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนล็อตใหม่ได้ 1.501 พันล้านยูโรเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลายุโรป ด้วยอัตราส่วนความต้องการซื้อต่อปริมาณที่นำออกจำหน่ายอยู่ที่ 3.1 เท่า ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดการเงินยังคงมีความเชื่อมั่นในตราสารหนี้ของ EFSF ถึงแม้ว่า EFSF เพิ่งจะถูกเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือก็ตาม
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 12 เดือนและ 18 เดือนได้ 4.88 พันล้านยูโรหรือประมาณ 6.23 พันล้านดอลลาร์ โดยต้นทุนในการกู้ยืมลดลง และรัฐบาลกรีซสามารถประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 1.625 พันล้านยูโร หรือประมาณ 2.06 พันล้านดอลลาร์ โดยต้นทุนในการกู้ยืมลดลงเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กที่ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนม.ค.ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 13.48 จุด จากระดับ 8.19 จุดของเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐ
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากันไป โดยหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ดีดตัวขึ้น 0.7% หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด แต่หุ้นซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ร่วงลง 8.2% และหุ้นเอ็มแอนด์ที แบงก์ ร่วงลง 1.6% หลังจากธนาคารทั้งสองแห่งรายงานผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาดวอลล์สตรีท
หุ้นคาร์นิวาล ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือสำราญรายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 13.7% หลังจากเรือคอสต้า คอนคอร์เดีย ของบริษัทอับปางลงนอกชายฝั่งทัสแคนของอิตาลี ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และทางการอิตาลีกำลังดำเนินคดีกับกัปตันเรือในข้อหาประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนพ.ย., ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนธ.ค. และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 36.51 จุด หลัง GDP จีนโตเกินคาด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 07:41:29 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ของจีนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 36.51 จุด หรือ 0.7% แตะที่ 5,693.95 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดลอนดอน หลังจากจีนเปิดเผยว่าจีดีพีของจีนขยายตัว 8.9% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนจีดีพีตลอดปี 2554 ขยายตัว 9.2% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 8%
ทั้งนี้ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 2% หุ้นริโอทินโต ดีดตัวขึ้น 2.9% หุ้นคาซัคมิสบวก 2% หุ้นแองโกล อเมริกัน บวก 1.5% และหุ้นเกลนคอร์ อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้น 2.2%
หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 1.8% หลังจาก RBS ทำข้อตกลงขายธุรกิจเช่าซื้อเครื่องบินมูลค่า 7.3 พันล้านดอลลาร์ ให้กับกลุ่มธุรกิจซึ่งนำโดยซูมิโตโม่ มิตซุย ไฟแนนเชียล กรุ๊ป
หุ้นบริติช แลนด์ ดีดตัวขึ้น 2.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ "buy" จากระดับ "neutral"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดพุ่ง รับข้อมูลศก.จีน,ผลประมูลบอนด์ EFSFข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 08:01:24 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมองว่า การที่เศรษฐกิจจีนขยายตัว 8.9 % ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง จะทำให้ทางการจีนเริ่มหันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)
ดัชนี Stoxx 600 พุ่งขึ้น 0.9% ปิดที่ 253.27 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 112.92 จุด หรือ 1.82% ปิดที่ 6,332.93 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,270.97 - 6,343.04 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้น 44.99 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 3,269.99 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,243.37 - 3,292.59 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษดีดขึ้น 36.51 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 5,693.95 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,657.44 - 5,724.41 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ว่า จีดีพีของจีนขยายตัว 9.2% ในปี 2554 จากสถิติปีก่อนหน้านั้น ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2554 ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ทำให้นักลงทุนมองว่าจะปูทางให้รัฐบาลจีนหันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินมูลค่า 1.96 แสนล้านหยวน หรือ 2.68 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าสู่ตลาดการเงินโดยผ่านการซื้อคืนพันธบัตรอายุ 14 วัน โดยให้อัตราดอกเบี้ย 5.47%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า กองทุน EFSF สามารถระดมทุนด้วยการขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนล็อตใหม่ได้ 1.501 พันล้านยูโรเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลายุโรป ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดการเงินยังคงมีความเชื่อมั่นในตราสารหนี้ของ EFSF ถึงแม้ว่า EFSF เพิ่งจะถูกสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือก็ตาม
หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นอุตสาหกรรม 19 ประเภทที่คำนวณในดัชนี Stoxx 600 โดยหุ้นเดมเลอร์ทะยานขึ้น 3.8% และหุ้นเรโนลท์พุ่งขึ้น 2.6%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเอสซาร์ เอ็นเนอร์จีซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันและผลิตกระแสไฟฟ้า ร่วงลง 26% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2553 หลังจากศาลฎีกาอินเดียตัดสินให้เอสซาร์แพ้คดีเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 06:31:16 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ของจีนและดัชนีภาวะธุรกิจในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากการที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศในยูโรโซน
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 60.01 จุด หรือ 0.48% แตะที่ 12,482.07 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.58 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 1,293.67 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 17.41 จุด หรือ 0.64% แตะที่ 2,728.08 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ว่า จีดีพีของจีนขยายตัว 9.2% ในปี 2554 จากสถิติปีก่อนหน้านั้น ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2554 ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ แม้ว่าจีดีพีไตรมาส 4 ขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 10 ไตรมาส แต่ก็ยังสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนจีดีพีตลอดปี 2554 นั้น แม้ขยายตัวได้น้อยกว่าปี 2553 ที่ระดับ 10.3% แต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 8%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีดีพีที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดของจีนช่วยพยุงตลาดหุ้นนิวยอร์กเอาไว้จนแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวเอสแอนด์พีประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสและอีก 8 ประเทศของยุโรโซน รวมทั้งลดอันดับความน่าเชื่อถือของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ลง 1 ขั้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกมากขึ้นเมื่อธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) รายงานว่า กองทุน EFSF สามารถระดมทุนด้วยการขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนล็อตใหม่ได้ 1.501 พันล้านยูโรเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลายุโรป ด้วยอัตราส่วนความต้องการซื้อต่อปริมาณที่นำออกจำหน่ายอยู่ที่ 3.1 เท่า ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดการเงินยังคงมีความเชื่อมั่นในตราสารหนี้ของ EFSF ถึงแม้ว่า EFSF เพิ่งจะถูกเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือก็ตาม
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 12 เดือนและ 18 เดือนได้ 4.88 พันล้านยูโรหรือประมาณ 6.23 พันล้านดอลลาร์ โดยต้นทุนในการกู้ยืมลดลง และรัฐบาลกรีซสามารถประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 1.625 พันล้านยูโร หรือประมาณ 2.06 พันล้านดอลลาร์ โดยต้นทุนในการกู้ยืมลดลงเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กที่ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนม.ค.ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 13.48 จุด จากระดับ 8.19 จุดของเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐ
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากันไป โดยหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ดีดตัวขึ้น 0.7% หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด แต่หุ้นซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ร่วงลง 8.2% และหุ้นเอ็มแอนด์ที แบงก์ ร่วงลง 1.6% หลังจากธนาคารทั้งสองแห่งรายงานผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาดวอลล์สตรีท
หุ้นคาร์นิวาล ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือสำราญรายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 13.7% หลังจากเรือคอสต้า คอนคอร์เดีย ของบริษัทอับปางลงนอกชายฝั่งทัสแคนของอิตาลี ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และทางการอิตาลีกำลังดำเนินคดีกับกัปตันเรือในข้อหาประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนพ.ย., ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนธ.ค. และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 36.51 จุด หลัง GDP จีนโตเกินคาด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 07:41:29 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ของจีนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 36.51 จุด หรือ 0.7% แตะที่ 5,693.95 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดลอนดอน หลังจากจีนเปิดเผยว่าจีดีพีของจีนขยายตัว 8.9% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนจีดีพีตลอดปี 2554 ขยายตัว 9.2% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 8%
ทั้งนี้ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 2% หุ้นริโอทินโต ดีดตัวขึ้น 2.9% หุ้นคาซัคมิสบวก 2% หุ้นแองโกล อเมริกัน บวก 1.5% และหุ้นเกลนคอร์ อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้น 2.2%
หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 1.8% หลังจาก RBS ทำข้อตกลงขายธุรกิจเช่าซื้อเครื่องบินมูลค่า 7.3 พันล้านดอลลาร์ ให้กับกลุ่มธุรกิจซึ่งนำโดยซูมิโตโม่ มิตซุย ไฟแนนเชียล กรุ๊ป
หุ้นบริติช แลนด์ ดีดตัวขึ้น 2.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ "buy" จากระดับ "neutral"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดพุ่ง รับข้อมูลศก.จีน,ผลประมูลบอนด์ EFSFข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 08:01:24 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมองว่า การที่เศรษฐกิจจีนขยายตัว 8.9 % ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง จะทำให้ทางการจีนเริ่มหันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)
ดัชนี Stoxx 600 พุ่งขึ้น 0.9% ปิดที่ 253.27 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 112.92 จุด หรือ 1.82% ปิดที่ 6,332.93 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,270.97 - 6,343.04 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้น 44.99 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 3,269.99 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,243.37 - 3,292.59 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษดีดขึ้น 36.51 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 5,693.95 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,657.44 - 5,724.41 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ว่า จีดีพีของจีนขยายตัว 9.2% ในปี 2554 จากสถิติปีก่อนหน้านั้น ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2554 ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ทำให้นักลงทุนมองว่าจะปูทางให้รัฐบาลจีนหันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินมูลค่า 1.96 แสนล้านหยวน หรือ 2.68 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าสู่ตลาดการเงินโดยผ่านการซื้อคืนพันธบัตรอายุ 14 วัน โดยให้อัตราดอกเบี้ย 5.47%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า กองทุน EFSF สามารถระดมทุนด้วยการขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนล็อตใหม่ได้ 1.501 พันล้านยูโรเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลายุโรป ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดการเงินยังคงมีความเชื่อมั่นในตราสารหนี้ของ EFSF ถึงแม้ว่า EFSF เพิ่งจะถูกสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือก็ตาม
หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นอุตสาหกรรม 19 ประเภทที่คำนวณในดัชนี Stoxx 600 โดยหุ้นเดมเลอร์ทะยานขึ้น 3.8% และหุ้นเรโนลท์พุ่งขึ้น 2.6%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเอสซาร์ เอ็นเนอร์จีซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันและผลิตกระแสไฟฟ้า ร่วงลง 26% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2553 หลังจากศาลฎีกาอินเดียตัดสินให้เอสซาร์แพ้คดีเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 127
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดลบ 8.11 จุดหลังซิตี้กรุ๊ปเผยกำไรลดลง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 08:08:37 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดลบ 8.11 จุด แตะที่ 8,458.29 จุดในวันนี้ (18 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากซิตี้กรุ๊ป อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กำไรในไตรมาส 4 ปี 2554 ของซิตี้กรุ๊ป ปรับตัวลง 11% ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความหวังในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากสหรัฐและเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนม.ค.ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 13.48 จุด จากระดับ 8.19 จุดของเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะที่สถาบัน ZEW ของเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจพุ่งขึ้นแตะระดับ -21.6 จุดในเดือนม.ค. จากระดับ -53.8 ของเดือนธ.ค. ซึ่งนับเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ ZEW เริ่มจัดทำผลสำรวจนี้ในปี 2534 เป็นต้นมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 08:08:37 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดลบ 8.11 จุด แตะที่ 8,458.29 จุดในวันนี้ (18 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากซิตี้กรุ๊ป อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กำไรในไตรมาส 4 ปี 2554 ของซิตี้กรุ๊ป ปรับตัวลง 11% ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความหวังในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากสหรัฐและเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนม.ค.ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 13.48 จุด จากระดับ 8.19 จุดของเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะที่สถาบัน ZEW ของเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจพุ่งขึ้นแตะระดับ -21.6 จุดในเดือนม.ค. จากระดับ -53.8 ของเดือนธ.ค. ซึ่งนับเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ ZEW เริ่มจัดทำผลสำรวจนี้ในปี 2534 เป็นต้นมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 128
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 96.88 จุดรับข่าว IMF เพิ่มทุนทรัพย์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 06:32:42 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยืนยันว่า ไอเอ็มเอฟจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่าง และป้องกันเศรษฐกิจโลกจากวิกฤตหนี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของโกลด์แมน แซคส์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 96.88 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 12,578.95. จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 14.37 จุด หรือ 1.11% ปิดที่ 1,308.04 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 41.63 จุด หรือ 1.53% ปิดที่ 2,769.71 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,300 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว หลังจากโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่ากำไรในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.ที่ผ่านมามีอยู่ทั้งสิ้น 1.01 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.84 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งแม้ว่าลดลงจากระดับ 2.39 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.79 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งคาดไว้ที่ราว 1.23-1.28 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ผลประกอบการที่ดีเกินคาดช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 6.8% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดตัวขึ้น 6.8% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 4.9% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดีดขึ้น 4.7% และหุ้นซิตี้กรุ๊ปปรับตัวขึ้น 2.9%
ตลาดได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อโฆษกของไอเอ็มเอฟยืนยันว่า ไอเอ็มเอฟจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่คณะทำงานของไอเอ็มเอฟประเมินแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศทั่วโลกต้องการเงินทุนราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านทะยานขึ้นหลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2550 โดยหุ้นพัลท์กรุ๊ป อิงค์ พุ่งขึ้น 6% หุ้นโทลล์ บราเธอร์ส ดีดตัวขึ้น 5% และหุ้นเคบี โฮม ทะยานขึ้น 8%
หุ้นยาฮู อิงค์ พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากมีรายงานว่านายเจอร์รี หยาง ผู้บริหารของยาฮูได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง รวมถึงลาออกจากบอร์ดบริหารของยาฮู เจแปน และอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ขยายตัว 0.4% ซึ่งทำสถิติแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 1 ปี
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 8.42 จุดหลัง IMF ประกาศเพิ่มทุนทรัพย์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 07:29:12 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) โดยดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 สัปดาห์ ขานรับรายงานที่ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตรียมเพิ่มทุนทรัพย์เพื่อหนุนเศรษฐกิจโลกให้ปลอดภัยจากวิกฤตหนี้ยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 8.42 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 5702.37 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากไอเอ็มเอฟแถลงว่าจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด หลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2.5% จากเดิมที่คาดว่า จะขยายตัว 3.6% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.1% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.6%
หุ้นแมน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุน พุ่งขึ้น 6.8% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะลดต้นทุนลง 75 ล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ปรับตัวลดลง 9.5% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
หุ้นเอสซาร์ เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 7.2% แต่หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ร่วงลง 4.2% หลังจากบริษัทได้เลื่อนเวลาการผลิตที่บ่อน้ำมันยูบิลี ในประเทศกาน่า ออกไปอย่างน้อย 1 ปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 06:32:42 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยืนยันว่า ไอเอ็มเอฟจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่าง และป้องกันเศรษฐกิจโลกจากวิกฤตหนี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของโกลด์แมน แซคส์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 96.88 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 12,578.95. จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 14.37 จุด หรือ 1.11% ปิดที่ 1,308.04 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 41.63 จุด หรือ 1.53% ปิดที่ 2,769.71 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,300 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว หลังจากโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่ากำไรในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.ที่ผ่านมามีอยู่ทั้งสิ้น 1.01 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.84 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งแม้ว่าลดลงจากระดับ 2.39 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.79 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งคาดไว้ที่ราว 1.23-1.28 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ผลประกอบการที่ดีเกินคาดช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 6.8% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดตัวขึ้น 6.8% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 4.9% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดีดขึ้น 4.7% และหุ้นซิตี้กรุ๊ปปรับตัวขึ้น 2.9%
ตลาดได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อโฆษกของไอเอ็มเอฟยืนยันว่า ไอเอ็มเอฟจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่คณะทำงานของไอเอ็มเอฟประเมินแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศทั่วโลกต้องการเงินทุนราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านทะยานขึ้นหลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2550 โดยหุ้นพัลท์กรุ๊ป อิงค์ พุ่งขึ้น 6% หุ้นโทลล์ บราเธอร์ส ดีดตัวขึ้น 5% และหุ้นเคบี โฮม ทะยานขึ้น 8%
หุ้นยาฮู อิงค์ พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากมีรายงานว่านายเจอร์รี หยาง ผู้บริหารของยาฮูได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง รวมถึงลาออกจากบอร์ดบริหารของยาฮู เจแปน และอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ขยายตัว 0.4% ซึ่งทำสถิติแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 1 ปี
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 8.42 จุดหลัง IMF ประกาศเพิ่มทุนทรัพย์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 07:29:12 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) โดยดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 สัปดาห์ ขานรับรายงานที่ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตรียมเพิ่มทุนทรัพย์เพื่อหนุนเศรษฐกิจโลกให้ปลอดภัยจากวิกฤตหนี้ยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 8.42 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 5702.37 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากไอเอ็มเอฟแถลงว่าจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด หลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2.5% จากเดิมที่คาดว่า จะขยายตัว 3.6% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.1% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.6%
หุ้นแมน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุน พุ่งขึ้น 6.8% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะลดต้นทุนลง 75 ล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ปรับตัวลดลง 9.5% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
หุ้นเอสซาร์ เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 7.2% แต่หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ร่วงลง 4.2% หลังจากบริษัทได้เลื่อนเวลาการผลิตที่บ่อน้ำมันยูบิลี ในประเทศกาน่า ออกไปอย่างน้อย 1 ปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 129
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกรับข่าว IMF เพิ่มทุนทรัพย์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 07:49:26 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศเพิ่มทุนทรัพย์เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ และข่าวที่ว่ากรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับลดมูลค่าพันธบัตรร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.1% ปิดที่ 253.48 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3264.93 จุด ลบ 5.06 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6354.57 จุด บวก 21.64 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5702.37 จุด บวก 8.42 จุด
ในช่วงแรกนั้นตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัวลงหลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2.5% จากเดิมที่คาดว่า จะขยายตัว 3.6% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป
แต่หลังจากนั้นตลาดก็เริ่มดีดตัวขึ้นหลังจากที่โฆษกของไอเอ็มเอฟยืนยันว่า ไอเอ็มเอฟจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ หลังจากที่คณะทำงานของไอเอ็มเอฟประเมินแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศทั่วโลกต้องการเงินทุนราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า กรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงการปรับลดมูลค่าพันธบัตร หรือการทำ hair cut ร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน
หุ้นแอคคอร์ เอสเอ ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรมรายใหญ่ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2554
อย่างไรก็ตาม หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ร่วงลง 1.7% หลังจากมูดีส์ปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของคอมเมิร์ซแบงก์ ลงสู่ระดับ D+ จากระดับ C-
ขณะที่หุ้น ThyssenKrupp AG ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของเยอรมนี ดิ่งลง 1.6% แม้บริษัทยังคงระดับคาดการณ์ผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ก็ตาม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 72.25 จุดรับข่าว IMF ประกาศเพิ่มทุน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 07:54:12 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวขึ้น 72.25 จุด หรือ 0.84% แตะที่ 8,622.83 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยืนยันว่าจะเพิ่มทุนทรัพย์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะรับมือกับวิกฤตหนี้
โฆษกของไอเอ็มเอฟยืนยันว่า ไอเอ็มเอฟจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ โดยเป้าหมายหลักคือการปกป้องเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากที่คณะทำงานของไอเอ็มเอฟประเมินแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศทั่วโลกต้องการเงินทุนราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 07:49:26 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศเพิ่มทุนทรัพย์เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ และข่าวที่ว่ากรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับลดมูลค่าพันธบัตรร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.1% ปิดที่ 253.48 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3264.93 จุด ลบ 5.06 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6354.57 จุด บวก 21.64 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5702.37 จุด บวก 8.42 จุด
ในช่วงแรกนั้นตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัวลงหลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2.5% จากเดิมที่คาดว่า จะขยายตัว 3.6% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป
แต่หลังจากนั้นตลาดก็เริ่มดีดตัวขึ้นหลังจากที่โฆษกของไอเอ็มเอฟยืนยันว่า ไอเอ็มเอฟจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ หลังจากที่คณะทำงานของไอเอ็มเอฟประเมินแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศทั่วโลกต้องการเงินทุนราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า กรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงการปรับลดมูลค่าพันธบัตร หรือการทำ hair cut ร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน
หุ้นแอคคอร์ เอสเอ ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรมรายใหญ่ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2554
อย่างไรก็ตาม หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ร่วงลง 1.7% หลังจากมูดีส์ปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของคอมเมิร์ซแบงก์ ลงสู่ระดับ D+ จากระดับ C-
ขณะที่หุ้น ThyssenKrupp AG ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของเยอรมนี ดิ่งลง 1.6% แม้บริษัทยังคงระดับคาดการณ์ผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ก็ตาม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 72.25 จุดรับข่าว IMF ประกาศเพิ่มทุน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 07:54:12 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวขึ้น 72.25 จุด หรือ 0.84% แตะที่ 8,622.83 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยืนยันว่าจะเพิ่มทุนทรัพย์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะรับมือกับวิกฤตหนี้
โฆษกของไอเอ็มเอฟยืนยันว่า ไอเอ็มเอฟจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ โดยเป้าหมายหลักคือการปกป้องเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากที่คณะทำงานของไอเอ็มเอฟประเมินแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศทั่วโลกต้องการเงินทุนราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 130
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 45.03 จุดขานรับผลประมูลบอนด์ยุโรป
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 06:31:45 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี และความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรของฝรั่งเศสและสเปน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนมีมุมมองในแง่บวกต่อผลประกอบการของภาคเอกชน รวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 45.03 จุด หรือ 0.36% แตที่ 12,623.98 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.46 จุด หรือ 0.49% แตะที่ 0.49% แตะที่ 1,314.50 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 18.62 จุด หรือ 0.67% แตะที่ 2,788.33 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ ขานรับรายงานที่ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสสามารถประมูลขายพันธบัตรระยะยาวได้ 9.5 พันล้านยูโร (1.22 หมื่นล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.12% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลขายพันธบัตรประเภทเดียวกันหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ด้านรัฐบาลสเปนสามารถประมูลขายพันธบัตรที่จะครบกำหนดในปี 2559, 2562 และ 2565 ได้ 6.6 พันล้านยูโร (8.5 พันล้านดอลลาร์) มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ระหว่าง 3.5-4.5 พันล้านยูโร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2565 ลดลงแตะ 5.40% จาก 5.54% ในการประมูลเมื่อเดือนธันวาคม
ความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของฝรั่งเศสและสเปนช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนไม่สนใจที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสและสเปนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศทั้งสอง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 50,000 ราย แตะที่ 352,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 14 มกราคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2551 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 385,000 ราย
นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของภาคเอกชนสหรัฐ หลังจากแบงก์ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดตัวขึ้น 5%
หุ้นอีเบย์ อิงค์ พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดและยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีหน้า ขณะที่หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาส 4 พุ่งขึ้นเกินคาด ส่วนหุ้นรีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตไบโอดีเซลรายใหญ่สุดของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 10 เซนต์ ในการซื้อขายวันแรก
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนในระหว่างวัน หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ ประกาศระงับการซื้อขายหุ้นอีสต์แมน โกดัก ภายหลังจากที่บริษัทได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากการล้มละลายเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า บริษัทได้รับเงินกู้ระยะเวลา 18 เดือนมูลค่า 950 ล้านดอลลาร์จากซิตี้กรุ๊ป เพื่อให้บริษัทสามารถประคับประคองกิจการได้ต่อไป
นักลงทุนจับตาดูยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.ของสหรัฐ ซึ่งสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะรายงานในวันนี้ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 4.65 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 4.42 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นแบงก์หนุนฟุตซี่ปิดบวก 38.78 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 07:38:00 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างคึกคัก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนและฝรั่งเศสปรับตัวลดลงในการประมูลเมื่อวานนี้ รวมทั้งผลประกอบการที่ดีเกินคาดของแบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 38.78 จุด หรือ 0.7% แตะที่ 5,741.15 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นขานรับข่าวรัฐบาลสเปนและฝรั่งเศสที่ประสบความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรเมื่อวานนี้ โดยมีอัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวลดลง ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของแบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์ โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 8.9% หุ้น HSBC พุ่งขึ้น 4% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ทะยานขึ้น 10% และหุ้นธนาคารลอยด์พุ่งขึ้น 9.1%
หุ้นเทสโก้ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่พุ่งขึ้น 1.9% หลังจากมีข่าวว่า บริษัทเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ปรับเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นเทสโก้ขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 5%
หุ้น IAG ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส พุ่งขึ้น 6.5%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ผลประมูลบอนด์ฝรั่งเศส-สเปนสดใส หนุนหุ้นยุโรปปิดบวก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 07:51:35 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ ขานรับข่าวฝรั่งเศสและสเปนที่ประสบความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตร และตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ดัชนี Stoxx 600 พุ่งขึ้น 1.2% ปิดที่ 256.57 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3328.94 จุด บวก 64.01 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6416.26 จุด บวก 61.69 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5741.15 จุด บวก 38.78 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลฝรั่งเศสและสเปน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของฝรั่งเศสและสเปน โดยไม่สนใจที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสสามารถประมูลขายพันธบัตรระยะยาวได้ 9.5 พันล้านยูโร (1.22 หมื่นล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.12% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลขายพันธบัตรประเภทเดียวกันหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ด้านรัฐบาลสเปนสามารถประมูลขายพันธบัตรที่จะครบกำหนดในปี 2559, 2562 และ 2565 ได้ 6.6 พันล้านยูโร (8.5 พันล้านดอลลาร์) มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ระหว่าง 3.5-4.5 พันล้านยูโร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2565 ลดลงแตะ 5.40% จาก 5.54% ในการประมูลเมื่อเดือนธันวาคม
นักลงทุนจับตาดูกลุ่มทรอยก้า (troika) ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่จะเดินทางไปยังกรุงเอเธนส์ในวันนี้ เพื่อเจรจาเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบใหม่ พร้อมกับจับตาดูการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันจันทร์ที่ 23 ม.ค.นี้ด้วย
หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 15% หลังจากธนาคารยืนยันว่าสามารถระดมเงินทุนได้ราว 6.3 พันล้านยูโรภายในเดือนมิ.ย.ปีนี้ ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดที่ 5.3 พันล้านยูโรของคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการธนาคารของยุโรป
อย่างไรก็ตาม หุ้นคาร์ฟูร์ ร่วงลง 1.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรลดลงในปี 2554 ขณะที่หุ้นแอสตราเซเนก้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่อันดับ 2 ของอังกฤษ ลดลง 1.3%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: ฮั่งเส็งเปิดพุ่ง 218.77 จุดหลังยุโรปประมูลบอนด์สดใสข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 08:39:48 น.
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดทะยานขึ้น 218.77 จุด หรือ 1.1% แตะที่ 20,161.72 จุดในวันนี้ (20 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของยุโรป และผลประกอบการที่ดีเกินคาดของแบงก์ ออฟ อเมริกา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 06:31:45 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี และความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรของฝรั่งเศสและสเปน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนมีมุมมองในแง่บวกต่อผลประกอบการของภาคเอกชน รวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 45.03 จุด หรือ 0.36% แตที่ 12,623.98 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.46 จุด หรือ 0.49% แตะที่ 0.49% แตะที่ 1,314.50 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 18.62 จุด หรือ 0.67% แตะที่ 2,788.33 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ ขานรับรายงานที่ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสสามารถประมูลขายพันธบัตรระยะยาวได้ 9.5 พันล้านยูโร (1.22 หมื่นล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.12% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลขายพันธบัตรประเภทเดียวกันหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ด้านรัฐบาลสเปนสามารถประมูลขายพันธบัตรที่จะครบกำหนดในปี 2559, 2562 และ 2565 ได้ 6.6 พันล้านยูโร (8.5 พันล้านดอลลาร์) มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ระหว่าง 3.5-4.5 พันล้านยูโร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2565 ลดลงแตะ 5.40% จาก 5.54% ในการประมูลเมื่อเดือนธันวาคม
ความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของฝรั่งเศสและสเปนช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนไม่สนใจที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสและสเปนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศทั้งสอง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 50,000 ราย แตะที่ 352,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 14 มกราคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2551 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 385,000 ราย
นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของภาคเอกชนสหรัฐ หลังจากแบงก์ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดตัวขึ้น 5%
หุ้นอีเบย์ อิงค์ พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดและยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีหน้า ขณะที่หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาส 4 พุ่งขึ้นเกินคาด ส่วนหุ้นรีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตไบโอดีเซลรายใหญ่สุดของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 10 เซนต์ ในการซื้อขายวันแรก
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนในระหว่างวัน หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ ประกาศระงับการซื้อขายหุ้นอีสต์แมน โกดัก ภายหลังจากที่บริษัทได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากการล้มละลายเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า บริษัทได้รับเงินกู้ระยะเวลา 18 เดือนมูลค่า 950 ล้านดอลลาร์จากซิตี้กรุ๊ป เพื่อให้บริษัทสามารถประคับประคองกิจการได้ต่อไป
นักลงทุนจับตาดูยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.ของสหรัฐ ซึ่งสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะรายงานในวันนี้ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 4.65 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 4.42 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นแบงก์หนุนฟุตซี่ปิดบวก 38.78 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 07:38:00 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างคึกคัก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนและฝรั่งเศสปรับตัวลดลงในการประมูลเมื่อวานนี้ รวมทั้งผลประกอบการที่ดีเกินคาดของแบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 38.78 จุด หรือ 0.7% แตะที่ 5,741.15 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นขานรับข่าวรัฐบาลสเปนและฝรั่งเศสที่ประสบความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรเมื่อวานนี้ โดยมีอัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวลดลง ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของแบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์ โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 8.9% หุ้น HSBC พุ่งขึ้น 4% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ทะยานขึ้น 10% และหุ้นธนาคารลอยด์พุ่งขึ้น 9.1%
หุ้นเทสโก้ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่พุ่งขึ้น 1.9% หลังจากมีข่าวว่า บริษัทเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ปรับเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นเทสโก้ขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 5%
หุ้น IAG ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส พุ่งขึ้น 6.5%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ผลประมูลบอนด์ฝรั่งเศส-สเปนสดใส หนุนหุ้นยุโรปปิดบวก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 07:51:35 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ ขานรับข่าวฝรั่งเศสและสเปนที่ประสบความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตร และตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ดัชนี Stoxx 600 พุ่งขึ้น 1.2% ปิดที่ 256.57 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3328.94 จุด บวก 64.01 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6416.26 จุด บวก 61.69 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5741.15 จุด บวก 38.78 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลฝรั่งเศสและสเปน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของฝรั่งเศสและสเปน โดยไม่สนใจที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสสามารถประมูลขายพันธบัตรระยะยาวได้ 9.5 พันล้านยูโร (1.22 หมื่นล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.12% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลขายพันธบัตรประเภทเดียวกันหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ด้านรัฐบาลสเปนสามารถประมูลขายพันธบัตรที่จะครบกำหนดในปี 2559, 2562 และ 2565 ได้ 6.6 พันล้านยูโร (8.5 พันล้านดอลลาร์) มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ระหว่าง 3.5-4.5 พันล้านยูโร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2565 ลดลงแตะ 5.40% จาก 5.54% ในการประมูลเมื่อเดือนธันวาคม
นักลงทุนจับตาดูกลุ่มทรอยก้า (troika) ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่จะเดินทางไปยังกรุงเอเธนส์ในวันนี้ เพื่อเจรจาเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบใหม่ พร้อมกับจับตาดูการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันจันทร์ที่ 23 ม.ค.นี้ด้วย
หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 15% หลังจากธนาคารยืนยันว่าสามารถระดมเงินทุนได้ราว 6.3 พันล้านยูโรภายในเดือนมิ.ย.ปีนี้ ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดที่ 5.3 พันล้านยูโรของคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการธนาคารของยุโรป
อย่างไรก็ตาม หุ้นคาร์ฟูร์ ร่วงลง 1.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรลดลงในปี 2554 ขณะที่หุ้นแอสตราเซเนก้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่อันดับ 2 ของอังกฤษ ลดลง 1.3%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: ฮั่งเส็งเปิดพุ่ง 218.77 จุดหลังยุโรปประมูลบอนด์สดใสข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 08:39:48 น.
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดทะยานขึ้น 218.77 จุด หรือ 1.1% แตะที่ 20,161.72 จุดในวันนี้ (20 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของยุโรป และผลประกอบการที่ดีเกินคาดของแบงก์ ออฟ อเมริกา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 131
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 11.66 จุด ตลาดจับตาเจรจาหนี้กรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2555 06:21:50 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่จะทราบผลการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน และก่อนที่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งของสหรัฐ รวมถึงแอปเปิล อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าสหภาพยุโรป (อียู) ได้ตัดสินใจคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านยังทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงานและทำให้ตลาดการเงินไร้เสถียรภาพ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 11.66 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 12,708.82 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.62 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 1,316.00 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 2.53 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 2,784.17 จุด
นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้เอกชน โดยรมว.คลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ได้จัดการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อร่างแผนระยะยาวในการจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน และจะพิจารณาเรื่องเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ หลังจากที่เจ้าหนี้ภาคเอกชนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับทางการกรีซในการเจรจาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข่าวอียูมีมติห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านเพื่อตอบโต้อิหร่านที่ดำเนินโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงานและทำให้ตลาดการเงินไร้เสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า กรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวร่วมกับเจ้าหนี้ได้ นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข่าวรัฐบาลเยอรมนีประสบความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรอายุ 12 เดือนเมื่อวานนี้ โดยมีต้นทุนการกู้ยืมโดยเฉลี่ยเพียง 0.07% ซึ่งน้อยกว่าการประมูลครั้งก่อนที่ระดับ 0.346% สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพของเยอรมนี
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยหุ้น Chesapeake Energy Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐพุ่งขึ้น 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนลดการผลิตเพื่อรับมือกับราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 10% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นพลังงานที่คำนวณในดัชนี S&P 500 และหุ้น Cabot Oil & Gas Corp พุ่งขึ้น 6.5%
ส่วนหุ้น Apache Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ ดีดตัวขึ้น 1.6% หลังจากบริษัทวางแผนซื้อกิจการบริษัท Cordillera Energy Partners มูลค่า 2.85 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการควบรวมกิจการที่มีมูลค่าสูงสุดในสหรัฐในปีนี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นรีเสิร์ช อิน โมชัน (อาร์ไอเอ็ม) ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอร์รี่ ดิ่งลง 8.5% หลังจากอาร์ไอเอ็มประกาศว่า นายจิม บาลซิลลี และนายไมค์ ลาซาริดิส ซีอีโอร่วมของอาร์ไอเอ็ม ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากที่ทำหน้าที่ผู้บริหารอาร์ไอเอ็มมานานถึง 20 ปี และไม่สามารถผลักดันให้อาร์ไอเอ็มต้านทานคู่แข่งรายใหญ่อย่างบริษัท แอปเปิล อิงค์ ได้
นักลงทุนจับตาดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงแอปเปิล อิงค์ และยังจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดอาจจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย(pending home sales) เดือนธ.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกรับความหวังกรีซปรับโครงสร้างหนี้
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2555 07:31:28 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่ากรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศยูโรโซนเพิ่มขนาดกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM)
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 0.5% แตะที่ 257.01 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีบวก 32.23 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 6,436.62 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสบวก 16.92 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 3,338.42 จุด และดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 54.01 จุด หรือ 0.9% แตะที่ 5,782.56 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า กรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน และจากข่าวที่ว่านางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศยูโรโซนหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น และเพิ่มขนาดของกองทุน ESM เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้และป้องกันไม่ให้ผลกระทบของวิกฤตหนี้ลุกลามไปทั่วโลก
หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นขานรับความคาดหวังดังกล่าว โดยหุ้นยูนิเครดิต ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอิตาลี พุ่งขึ้น 10% ขณะที่หุ้นบังคา มอนเต เดอ ปาเช เดอ เซียนา ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของอิตาลี พุ่งขึ้น 14% และหุ้นธนาคารอินเทซา ซาเปาโล พุ่งขึ้น 5.4% หุ้นธนาคารคอมเมิร์ซแบงก์ พุ่งขึ้น 13% หุ้นธนาคารโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) พุ่งขึ้น 8.6%
หุ้น ThyssenKrupp ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของอิตาลี พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทยืนยันว่ายังไม่มีการเจรจาเรื่องการนำบริษัท Inoxum ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ ควบกิจการกับบริษัท Outokumpu ของฟินแลนด์
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมรมว.คลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งที่ประชุมจะร่างแผนระยะยาวในการจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน และจะพิจารณาเรื่องเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: คาดกรีซบรรลุข้อตกลงเจ้าหนี้ หนุนฟุตซี่ปิดบวก 54 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2555 07:13:48 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า รัฐบาลกรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้ภาคเอกชน
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 54.01 จุด หรือ 0.9% แตะที่ 5,782.56 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า รัฐบาลกรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับโครงสร้งหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน พร้อมกับจับตาดูผลรมว.คลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งที่ประชุมจะร่างแผนระยะยาวในการจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน และจะพิจารณาเรื่องเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ หลังจากที่เจ้าหนี้ภาคเอกชนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับทางการกรีซในการเจรจาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นบีพีดีดตัวขึ้น 2% หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกอียูมีมติห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านอย่างเป็นทางการแล้วในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวานนี้ เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ดำเนินโครงการนิวเคลียร์
หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 2.6% ขณะที่หุ้นเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส เวิล์ดไวด์ พุ่งขึ้น 34%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 42.20 จุดเช้านี้ หลังหุ้นส่งออกพุ่ง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2555 07:38:00 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวขึ้น 42.20 จุด หรือ 0.48% แตะที่ 8,808.10 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (24 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออก หลังจากสกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวค่อนข้างคึกคักในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกของญี่ปุ่น หลังจากสกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 100.49 เยนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2555 06:21:50 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่จะทราบผลการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน และก่อนที่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งของสหรัฐ รวมถึงแอปเปิล อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าสหภาพยุโรป (อียู) ได้ตัดสินใจคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านยังทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงานและทำให้ตลาดการเงินไร้เสถียรภาพ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 11.66 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 12,708.82 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.62 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 1,316.00 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 2.53 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 2,784.17 จุด
นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้เอกชน โดยรมว.คลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ได้จัดการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อร่างแผนระยะยาวในการจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน และจะพิจารณาเรื่องเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ หลังจากที่เจ้าหนี้ภาคเอกชนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับทางการกรีซในการเจรจาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข่าวอียูมีมติห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านเพื่อตอบโต้อิหร่านที่ดำเนินโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงานและทำให้ตลาดการเงินไร้เสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า กรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวร่วมกับเจ้าหนี้ได้ นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข่าวรัฐบาลเยอรมนีประสบความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรอายุ 12 เดือนเมื่อวานนี้ โดยมีต้นทุนการกู้ยืมโดยเฉลี่ยเพียง 0.07% ซึ่งน้อยกว่าการประมูลครั้งก่อนที่ระดับ 0.346% สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพของเยอรมนี
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยหุ้น Chesapeake Energy Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐพุ่งขึ้น 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนลดการผลิตเพื่อรับมือกับราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 10% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นพลังงานที่คำนวณในดัชนี S&P 500 และหุ้น Cabot Oil & Gas Corp พุ่งขึ้น 6.5%
ส่วนหุ้น Apache Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ ดีดตัวขึ้น 1.6% หลังจากบริษัทวางแผนซื้อกิจการบริษัท Cordillera Energy Partners มูลค่า 2.85 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการควบรวมกิจการที่มีมูลค่าสูงสุดในสหรัฐในปีนี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นรีเสิร์ช อิน โมชัน (อาร์ไอเอ็ม) ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอร์รี่ ดิ่งลง 8.5% หลังจากอาร์ไอเอ็มประกาศว่า นายจิม บาลซิลลี และนายไมค์ ลาซาริดิส ซีอีโอร่วมของอาร์ไอเอ็ม ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากที่ทำหน้าที่ผู้บริหารอาร์ไอเอ็มมานานถึง 20 ปี และไม่สามารถผลักดันให้อาร์ไอเอ็มต้านทานคู่แข่งรายใหญ่อย่างบริษัท แอปเปิล อิงค์ ได้
นักลงทุนจับตาดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงแอปเปิล อิงค์ และยังจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดอาจจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย(pending home sales) เดือนธ.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกรับความหวังกรีซปรับโครงสร้างหนี้
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2555 07:31:28 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่ากรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศยูโรโซนเพิ่มขนาดกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM)
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 0.5% แตะที่ 257.01 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีบวก 32.23 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 6,436.62 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสบวก 16.92 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 3,338.42 จุด และดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 54.01 จุด หรือ 0.9% แตะที่ 5,782.56 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า กรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน และจากข่าวที่ว่านางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศยูโรโซนหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น และเพิ่มขนาดของกองทุน ESM เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้และป้องกันไม่ให้ผลกระทบของวิกฤตหนี้ลุกลามไปทั่วโลก
หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นขานรับความคาดหวังดังกล่าว โดยหุ้นยูนิเครดิต ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอิตาลี พุ่งขึ้น 10% ขณะที่หุ้นบังคา มอนเต เดอ ปาเช เดอ เซียนา ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของอิตาลี พุ่งขึ้น 14% และหุ้นธนาคารอินเทซา ซาเปาโล พุ่งขึ้น 5.4% หุ้นธนาคารคอมเมิร์ซแบงก์ พุ่งขึ้น 13% หุ้นธนาคารโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) พุ่งขึ้น 8.6%
หุ้น ThyssenKrupp ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของอิตาลี พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทยืนยันว่ายังไม่มีการเจรจาเรื่องการนำบริษัท Inoxum ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ ควบกิจการกับบริษัท Outokumpu ของฟินแลนด์
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมรมว.คลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งที่ประชุมจะร่างแผนระยะยาวในการจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน และจะพิจารณาเรื่องเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: คาดกรีซบรรลุข้อตกลงเจ้าหนี้ หนุนฟุตซี่ปิดบวก 54 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2555 07:13:48 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า รัฐบาลกรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้ภาคเอกชน
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 54.01 จุด หรือ 0.9% แตะที่ 5,782.56 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า รัฐบาลกรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับโครงสร้งหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน พร้อมกับจับตาดูผลรมว.คลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งที่ประชุมจะร่างแผนระยะยาวในการจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน และจะพิจารณาเรื่องเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ หลังจากที่เจ้าหนี้ภาคเอกชนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับทางการกรีซในการเจรจาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นบีพีดีดตัวขึ้น 2% หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกอียูมีมติห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านอย่างเป็นทางการแล้วในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวานนี้ เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ดำเนินโครงการนิวเคลียร์
หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 2.6% ขณะที่หุ้นเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส เวิล์ดไวด์ พุ่งขึ้น 34%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 42.20 จุดเช้านี้ หลังหุ้นส่งออกพุ่ง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2555 07:38:00 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวขึ้น 42.20 จุด หรือ 0.48% แตะที่ 8,808.10 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (24 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออก หลังจากสกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวค่อนข้างคึกคักในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกของญี่ปุ่น หลังจากสกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 100.49 เยนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 132
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: วิตกหนี้ยุโรป ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 33.07 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2555 06:30:11 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากรมว.คลังยูโรโซนได้ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้เอกชนในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 33.07 จุด หรือ 0.26% แตะที่ 12,675.75 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.35 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 1,314.65 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 2.47 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 2,786.64 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวัน หลังจากมีรายงานว่า รัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ภาคเอกชน ที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาวที่มีการออกใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรชุดปัจจุบันของกรีซ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการปรับโครงสร้างหนี้
ขณะที่สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินเอกชน เปิดเผยว่า อัตราผลตอบแทนที่ 4.0% ถือเป็นระดับต่ำสุดที่พวกเขาสามารถยอมรับได้ ถ้าหากจะมีการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีของพันธบัตรที่พวกเขาถือครองอยู่ลง 50%โดยนายชาร์ลส์ ดัลลารา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ IIF เตือนว่าเสถียรภาพการเงินของยุโรปจะตกอยู่ในความเสี่ยง หากข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้กรีซล้มเหลว
การปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมีเป้าหมายที่จะทำให้ตัวเลขหนี้สินของกรีซลดลงราว 1.00 แสนล้านยูโร ซึ่งจะทำให้สัดส่วนหนี้สินปรับตัวดลลงจากระดับ 160% ของจีดีพี มาอยู่ที่ระดับ 120% ของจีดีพี ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับที่เจ้าหน้าที่ของอียูและไอเอ็มเอฟมองว่าจะสามารถทำให้กรีซบริหารจัดการได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ยังคงยืดเยื้อ เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องอัตราผลตอบแทน
ดัชนี CBOE Volatility Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความผันผวนและความวิตกกังวลในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 19 จุด
หุ้นดูปองท์ปิดทรงตัว หลังจากบริษัท ดูปองท์ โค ซึ่งเป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์รายใหญ่เปิดเผยว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 4 ปรับตัวลดลง หลังจากยอดขายชะลอตัวลงและต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้นเพียบอดี้ เอนเนอร์จี คอร์ป ร่วงลง 2% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
หุ้นแมคโดนัล ร่วงลงกว่า 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 11% แต่คาดว่าผลประกอบการในปี 2555 อาจจะลดลง 16-18 เซนต์ต่อหุ้น เนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ โดยเฉพาะสกุลเงินยูโร
นักลงทุนจับตาดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงแอปเปิล อิงค์ และยังจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดอาจจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกหนี้กรีซ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 30.66 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2555 07:28:58 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) จากรมว.คลังยูโรโซนได้ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้เอกชนในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 30.66 จุด หรือ 0.5% แตะที่ 5,751.9 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ภาคเอกชน ที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาวที่มีการออกใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรชุดปัจจุบันของกรีซ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการปรับโครงสร้างหนี้
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ร่วงลง 1.9% หุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ดิ่งลง 2.8% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ร่วงลง 3.9%
อย่างไรก็ตาม หุ้นคาร์โฟน แวร์เฮาส์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกโทรศัพท์มือถือรายใหญ่สุดในญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 7.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กรีซไม่คืบหน้า
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2555 07:42:55 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) หลังจากรมว.คลังยูโรโซนได้ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้เอกชนในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.4% แตะที่ 256.04 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดลบ 17.40 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 6,419.22 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ 15.77 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 3,322.65 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ 30.66 จุด หรือ 0.5% แตะที่ 5,751.9 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนได้ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ภาคเอกชน ที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาวที่มีการออกใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรชุดปัจจุบันของกรีซ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการปรับโครงสร้างหนี้
ชาร์ลส์ ดัลลารา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เตือนว่าเสถียรภาพการเงินของยุโรปจะตกอยู่ในความเสี่ยง หากข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้กรีซล้มเหลว
หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปร่วงลง โดยหุ้นธนาคารโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ร่วงลง 5.4% หุ้นธนาคารเครดิต อากริโคล ร่วงลง 4.1% หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดความน่าเชื่อถือของธนาคารทั้งสองแห่ง
หุ้นซีเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมรายใหญ่สุดของยุโรป ดิ่งลง 1.2% หลังจากบริษัทยอมรับว่าการจะบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจในปีนี้อาจเป็นไปอย่างยากลำยากลำบาก
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดบวก 56.68 จุดหลังเยนอ่อน,หุ้นเทคโนพุ่ง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2555 07:57:11 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดบวก 56.68 จุด แตะที่ 8,842.01 จุดในวันนี้ (25 ม.ค.) หลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์และยูโร ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุน หลังจากบริษัท แอปเปิล อิงค์รายงานว่า รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4/2554 อันเนื่องมาจากยอดขายที่แข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ไอโฟน และไอแพด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2555 06:30:11 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากรมว.คลังยูโรโซนได้ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้เอกชนในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 33.07 จุด หรือ 0.26% แตะที่ 12,675.75 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.35 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 1,314.65 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 2.47 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 2,786.64 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวัน หลังจากมีรายงานว่า รัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ภาคเอกชน ที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาวที่มีการออกใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรชุดปัจจุบันของกรีซ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการปรับโครงสร้างหนี้
ขณะที่สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินเอกชน เปิดเผยว่า อัตราผลตอบแทนที่ 4.0% ถือเป็นระดับต่ำสุดที่พวกเขาสามารถยอมรับได้ ถ้าหากจะมีการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีของพันธบัตรที่พวกเขาถือครองอยู่ลง 50%โดยนายชาร์ลส์ ดัลลารา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ IIF เตือนว่าเสถียรภาพการเงินของยุโรปจะตกอยู่ในความเสี่ยง หากข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้กรีซล้มเหลว
การปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมีเป้าหมายที่จะทำให้ตัวเลขหนี้สินของกรีซลดลงราว 1.00 แสนล้านยูโร ซึ่งจะทำให้สัดส่วนหนี้สินปรับตัวดลลงจากระดับ 160% ของจีดีพี มาอยู่ที่ระดับ 120% ของจีดีพี ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับที่เจ้าหน้าที่ของอียูและไอเอ็มเอฟมองว่าจะสามารถทำให้กรีซบริหารจัดการได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ยังคงยืดเยื้อ เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องอัตราผลตอบแทน
ดัชนี CBOE Volatility Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความผันผวนและความวิตกกังวลในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 19 จุด
หุ้นดูปองท์ปิดทรงตัว หลังจากบริษัท ดูปองท์ โค ซึ่งเป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์รายใหญ่เปิดเผยว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 4 ปรับตัวลดลง หลังจากยอดขายชะลอตัวลงและต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้นเพียบอดี้ เอนเนอร์จี คอร์ป ร่วงลง 2% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
หุ้นแมคโดนัล ร่วงลงกว่า 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 11% แต่คาดว่าผลประกอบการในปี 2555 อาจจะลดลง 16-18 เซนต์ต่อหุ้น เนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ โดยเฉพาะสกุลเงินยูโร
นักลงทุนจับตาดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงแอปเปิล อิงค์ และยังจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดอาจจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกหนี้กรีซ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 30.66 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2555 07:28:58 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) จากรมว.คลังยูโรโซนได้ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้เอกชนในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 30.66 จุด หรือ 0.5% แตะที่ 5,751.9 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ภาคเอกชน ที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาวที่มีการออกใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรชุดปัจจุบันของกรีซ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการปรับโครงสร้างหนี้
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ร่วงลง 1.9% หุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ดิ่งลง 2.8% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ร่วงลง 3.9%
อย่างไรก็ตาม หุ้นคาร์โฟน แวร์เฮาส์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกโทรศัพท์มือถือรายใหญ่สุดในญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 7.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กรีซไม่คืบหน้า
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2555 07:42:55 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) หลังจากรมว.คลังยูโรโซนได้ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้เอกชนในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.4% แตะที่ 256.04 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดลบ 17.40 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 6,419.22 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ 15.77 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 3,322.65 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ 30.66 จุด หรือ 0.5% แตะที่ 5,751.9 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนได้ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ภาคเอกชน ที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาวที่มีการออกใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรชุดปัจจุบันของกรีซ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการปรับโครงสร้างหนี้
ชาร์ลส์ ดัลลารา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เตือนว่าเสถียรภาพการเงินของยุโรปจะตกอยู่ในความเสี่ยง หากข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้กรีซล้มเหลว
หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปร่วงลง โดยหุ้นธนาคารโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ร่วงลง 5.4% หุ้นธนาคารเครดิต อากริโคล ร่วงลง 4.1% หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดความน่าเชื่อถือของธนาคารทั้งสองแห่ง
หุ้นซีเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมรายใหญ่สุดของยุโรป ดิ่งลง 1.2% หลังจากบริษัทยอมรับว่าการจะบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจในปีนี้อาจเป็นไปอย่างยากลำยากลำบาก
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดบวก 56.68 จุดหลังเยนอ่อน,หุ้นเทคโนพุ่ง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2555 07:57:11 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดบวก 56.68 จุด แตะที่ 8,842.01 จุดในวันนี้ (25 ม.ค.) หลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์และยูโร ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุน หลังจากบริษัท แอปเปิล อิงค์รายงานว่า รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4/2554 อันเนื่องมาจากยอดขายที่แข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ไอโฟน และไอแพด
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 133
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 81.21 จุด หลังเฟดยืนยันตรึงดบ.ต่ำ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 06:36:42 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) ขานรับแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2557 ซึ่งถือเป็นการย้ำจุดยืนด้านนโยบายผ่อนคลายทางการเงินและมีเป้าหมายจะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท แอปเปิล อิงค์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 81.21 จุด หรือ 0.64% แตะที่ 12,756.96 ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 11.41 จุด หรือ 0.87% แตะที่ 1,326.06 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 31.67 จุด หรือ 1.14% แตะที่ 2,818.31 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติด้วยคะแนนเสียง 9-1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0 - 0.25% พร้อมระบุว่า เมื่อพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงอัตราการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ และแนวโน้มเงินเฟ้อที่ซบเซาในระยะกลางแล้ว เฟดคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะเอื้ออำนวยให้เฟดสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงปี 2557 ได้ ซึ่งการตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์จากแอลพีแอล ไฟแนนเชียล กล่าวว่า นักลงทุนขานรับแถลงการณ์ของเฟดเพราะว่า การตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมอยู่ในระดับที่ต่ำด้วย ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถระดมทุนซื้อสินทรัพย์ระยะยาวได้ง่ายขึ้น ซึ่งรวมถึงพันธบัตรอายุ 10 และ 30 ปี อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการตัดสินใจของเฟดอาจจะสามารถขับเคลื่อนตลาดแค่ในระยะสั้นๆเท่านั้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากแอปเปิล อิงค์เปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาสที่ผ่านมามีมูลค่าทั้งสิ้น 4.633 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.674 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.306 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 13.87 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับ 6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 6.43 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงดังกล่าว
ขณะที่บริษัท โมโตโรลา โซลูชั่น ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการสื่อสารเปิดเผยว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 4 อยู่ที่ 184 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้โดยรวมอยู่ที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% จากปีที่แล้ว และบริษัท โบอิ้ง โค รายงานว่า กำไรไตรมาส 4 พุ่งขึ้นเกินคาดถึง 20%
หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 6.3% หลังจากผลประกอบการของแอปเปิลพุ่งขึ้นแซงหน้าเอ็กซอนโมบิล ในฐานะบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงของวอลล์สตรีท ขณะที่หุ้นเน็ทฟลิกซ์ อิงค์ พุ่งขึ้น 13% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นยูเอส แอร์เวย์ส พุ่งขึ้น 17.3% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 6.2% หลังจากสายการบินทั้งสองเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 28.90 จุดหลังศก.อังกฤษหดตัวไตรมาส 4ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 07:45:55 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า เศรษฐกิจอังกฤษหดตัวลงในไตรมาสที่ 4 และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่าจะคัดค้านการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5,723.00 จุด ลดลง 28.90 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่าว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2554 หดตัวลง 0.2% จากไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 0.6% เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตได้ปรับลดการผลิต และภาคบริการซบเซาลง ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า อีซีบีได้ออกมาคัดค้านแผนการปรับโครงสร้างหนี้ ในขณะที่คณะกรรมการอำนวยการของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าหนี้ภาคเอกชนผู้ถือครองพันธบัตรกรีซ กำลังประชุมกันที่กรุงปารีสเพื่อหารือว่าจะเดินหน้าเจรจาเรื่องสวอปพันธบัตรหรือไม่และอย่างไร หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) สร้างเงื่อนไขเพิ่มขึ้น
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นลอยด์ แบงกิง กรุ๊ป ดิ่งลง 2.4% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ร่วงลง 1.1%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเออาร์เอ็ม ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพสำหรับใช้ในสมาร์ทโฟนของแอปเปิลดีดตัวขึ้น 3% หลังจากแอปเปิลเปิดเผยรายได้รายไตรมาส 4.633 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.674 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายไอโฟนและไอแพดปรับตัวสูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังเอกชนเผยผลประกอบการอ่อนแอ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 07:59:00 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทเอกชน รวมถึงอิริกสัน และโนวาร์ติส นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กรีซยังไม่มีความคืบหน้าจนถึงขณะนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.4% ปิดที่ 254.95 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวก 2.63 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 6,421.85 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ 10.17 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 3,312.48 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลบ 28.90 จุดหรือ 0.5% แตะที่ 5,723.00 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากบริษัทรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง รวมถึงอิริกสัน และโนวาร์ติส โดยหุ้นอิริกสัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครือข่ายไร้สายรายใหญ่ของโลก ดิ่งลง 14% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 4 มีอยู่ทั้งสิ้น 1.15 พันล้านโครเนอร์ (169 ล้านดลอลาร์สหรัฐ) ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.24 พันล้านโครเนอร์
ขณะที่หุ้นโนวาร์ติส ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของยุโรป ดิ่งลง 2.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 4 เพิ่มขึ้แตะ 3 พันล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของคณะกรรมการอำนวยการของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าหนี้ภาคเอกชนผู้ถือครองพันธบัตรกรีซ โดยที่ประชุมกำลังเพื่อหารือว่าจะเดินหน้าเจรจาเรื่องสวอปพันธบัตรหรือไม่และอย่างไร หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) สร้างเงื่อนไขเพิ่มขึ้น
การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กรีซได้ประสบกับภาวะชะงักงันมาตั้งแต่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสำหรับพันธบัตรชุดใหม่ที่จะมีการออกมาแทนพันธบัตรล็อตเก่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้าง โดยรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของพันธบัตรชุดใหม่ไว้ต่ำกว่า 4% ขณะที่เจ้าหนี้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยควรอยู่เหนือ 4%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิลบ 7.64 จุด หวั่นเฟดตรึงดบ.หนุนเยน/ดอลล์แข็ง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 08:13:05 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลง 7.64 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 8,876.05 จุดหลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (26 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า สกุลเงินเยนอาจจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ต่อไปอีก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงปลายปี 2557
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ พร้อมกับยืนยันว่าจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2557 ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ซึ่งการแข็งค่าของเงินเยนจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มบริษัทส่งออกของญี่ปุ่น
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 06:36:42 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) ขานรับแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2557 ซึ่งถือเป็นการย้ำจุดยืนด้านนโยบายผ่อนคลายทางการเงินและมีเป้าหมายจะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท แอปเปิล อิงค์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 81.21 จุด หรือ 0.64% แตะที่ 12,756.96 ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 11.41 จุด หรือ 0.87% แตะที่ 1,326.06 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 31.67 จุด หรือ 1.14% แตะที่ 2,818.31 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติด้วยคะแนนเสียง 9-1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0 - 0.25% พร้อมระบุว่า เมื่อพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงอัตราการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ และแนวโน้มเงินเฟ้อที่ซบเซาในระยะกลางแล้ว เฟดคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะเอื้ออำนวยให้เฟดสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงปี 2557 ได้ ซึ่งการตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์จากแอลพีแอล ไฟแนนเชียล กล่าวว่า นักลงทุนขานรับแถลงการณ์ของเฟดเพราะว่า การตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมอยู่ในระดับที่ต่ำด้วย ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถระดมทุนซื้อสินทรัพย์ระยะยาวได้ง่ายขึ้น ซึ่งรวมถึงพันธบัตรอายุ 10 และ 30 ปี อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการตัดสินใจของเฟดอาจจะสามารถขับเคลื่อนตลาดแค่ในระยะสั้นๆเท่านั้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากแอปเปิล อิงค์เปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาสที่ผ่านมามีมูลค่าทั้งสิ้น 4.633 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.674 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.306 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 13.87 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับ 6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 6.43 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงดังกล่าว
ขณะที่บริษัท โมโตโรลา โซลูชั่น ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการสื่อสารเปิดเผยว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 4 อยู่ที่ 184 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้โดยรวมอยู่ที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% จากปีที่แล้ว และบริษัท โบอิ้ง โค รายงานว่า กำไรไตรมาส 4 พุ่งขึ้นเกินคาดถึง 20%
หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 6.3% หลังจากผลประกอบการของแอปเปิลพุ่งขึ้นแซงหน้าเอ็กซอนโมบิล ในฐานะบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงของวอลล์สตรีท ขณะที่หุ้นเน็ทฟลิกซ์ อิงค์ พุ่งขึ้น 13% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นยูเอส แอร์เวย์ส พุ่งขึ้น 17.3% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 6.2% หลังจากสายการบินทั้งสองเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 28.90 จุดหลังศก.อังกฤษหดตัวไตรมาส 4ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 07:45:55 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า เศรษฐกิจอังกฤษหดตัวลงในไตรมาสที่ 4 และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่าจะคัดค้านการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5,723.00 จุด ลดลง 28.90 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่าว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2554 หดตัวลง 0.2% จากไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 0.6% เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตได้ปรับลดการผลิต และภาคบริการซบเซาลง ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า อีซีบีได้ออกมาคัดค้านแผนการปรับโครงสร้างหนี้ ในขณะที่คณะกรรมการอำนวยการของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าหนี้ภาคเอกชนผู้ถือครองพันธบัตรกรีซ กำลังประชุมกันที่กรุงปารีสเพื่อหารือว่าจะเดินหน้าเจรจาเรื่องสวอปพันธบัตรหรือไม่และอย่างไร หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) สร้างเงื่อนไขเพิ่มขึ้น
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นลอยด์ แบงกิง กรุ๊ป ดิ่งลง 2.4% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ร่วงลง 1.1%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเออาร์เอ็ม ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพสำหรับใช้ในสมาร์ทโฟนของแอปเปิลดีดตัวขึ้น 3% หลังจากแอปเปิลเปิดเผยรายได้รายไตรมาส 4.633 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.674 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายไอโฟนและไอแพดปรับตัวสูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังเอกชนเผยผลประกอบการอ่อนแอ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 07:59:00 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทเอกชน รวมถึงอิริกสัน และโนวาร์ติส นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กรีซยังไม่มีความคืบหน้าจนถึงขณะนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.4% ปิดที่ 254.95 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวก 2.63 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 6,421.85 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ 10.17 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 3,312.48 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลบ 28.90 จุดหรือ 0.5% แตะที่ 5,723.00 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากบริษัทรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง รวมถึงอิริกสัน และโนวาร์ติส โดยหุ้นอิริกสัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครือข่ายไร้สายรายใหญ่ของโลก ดิ่งลง 14% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 4 มีอยู่ทั้งสิ้น 1.15 พันล้านโครเนอร์ (169 ล้านดลอลาร์สหรัฐ) ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.24 พันล้านโครเนอร์
ขณะที่หุ้นโนวาร์ติส ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของยุโรป ดิ่งลง 2.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 4 เพิ่มขึ้แตะ 3 พันล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของคณะกรรมการอำนวยการของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าหนี้ภาคเอกชนผู้ถือครองพันธบัตรกรีซ โดยที่ประชุมกำลังเพื่อหารือว่าจะเดินหน้าเจรจาเรื่องสวอปพันธบัตรหรือไม่และอย่างไร หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) สร้างเงื่อนไขเพิ่มขึ้น
การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กรีซได้ประสบกับภาวะชะงักงันมาตั้งแต่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสำหรับพันธบัตรชุดใหม่ที่จะมีการออกมาแทนพันธบัตรล็อตเก่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้าง โดยรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของพันธบัตรชุดใหม่ไว้ต่ำกว่า 4% ขณะที่เจ้าหนี้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยควรอยู่เหนือ 4%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิลบ 7.64 จุด หวั่นเฟดตรึงดบ.หนุนเยน/ดอลล์แข็ง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 08:13:05 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลง 7.64 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 8,876.05 จุดหลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (26 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า สกุลเงินเยนอาจจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ต่อไปอีก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงปลายปี 2557
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ พร้อมกับยืนยันว่าจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2557 ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ซึ่งการแข็งค่าของเงินเยนจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มบริษัทส่งออกของญี่ปุ่น
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 134
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังสหรัฐเผย GDP Q4/54 โตน้อยกว่าคาด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 30 มกราคม 2555 06:18:09 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2554 ที่ขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังในขณะที่การเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนยังคงดำเนินต่อไป
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% แตะที่ 255.4 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดวันศุกร์ที่ 6511.98 ลบ 27.87 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันศุกร์ที่ 3318.76 ลบ 44.47 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันศุกร์ที่ 5733.45 ลบ 61.75 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 ขยายตัว 2.8% ต่อปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 3% นอกจากนี้ จีดีพีตลอดทั้งปี 2554 ขยายตัวเพียง 1.7% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับระดับ 3% ของปี 2553
นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังพร้อมไปกับการจับตาดูความคืบหน้าของการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน ขณะที่นายออลลี เรห์น กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า กลุ่มเจ้าหนี้เอกชนและรัฐบาลกรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงในเรื่องดังกล่าว
หุ้นบีพีซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ร่วงลง 2.6% เนื่องจากบีพียังคงได้รับผลกระทบจากคดีน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก ขณะที่หุ้นธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ ร่วงลง 3.3% หลังจากเจพีมอร์แกน ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงมาอยู่ที่ระดับ "neutral" จากระดับ "overweight"
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี สเปน และอีก 3 ประเทศในยูโรโซนเมื่อวานนี้ โดยระบุว่าประเทศเหล่านี้ไม่มีความยืดหยุ่นทางการเงินมากพอที่จะสามารถรับมือกับวิกฤตหนี้ยุโรปได้
ทั้งนี้ ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในยูโรโซน ลง 2 ขั้น มาอยู่ที่ระดับ A- จากระดับ A+ พร้อมกับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 2 ขั้น มาอยู่ที่ระดับ A จากระดับ AA-
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดลบ 37.43 จุดหลัง GDP สหรัฐโตน้อยกว่าคาด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 30 มกราคม 2555 07:50:32 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดร่วงลง 37.43 จุด แตะที่ 8,803.79 จุดในวันนี้ (30 ม.ค.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 ขยายตัว 2.8% ต่อปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 3% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 30 มกราคม 2555 06:18:09 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2554 ที่ขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังในขณะที่การเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนยังคงดำเนินต่อไป
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% แตะที่ 255.4 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดวันศุกร์ที่ 6511.98 ลบ 27.87 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันศุกร์ที่ 3318.76 ลบ 44.47 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันศุกร์ที่ 5733.45 ลบ 61.75 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 ขยายตัว 2.8% ต่อปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 3% นอกจากนี้ จีดีพีตลอดทั้งปี 2554 ขยายตัวเพียง 1.7% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับระดับ 3% ของปี 2553
นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังพร้อมไปกับการจับตาดูความคืบหน้าของการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน ขณะที่นายออลลี เรห์น กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า กลุ่มเจ้าหนี้เอกชนและรัฐบาลกรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงในเรื่องดังกล่าว
หุ้นบีพีซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ร่วงลง 2.6% เนื่องจากบีพียังคงได้รับผลกระทบจากคดีน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก ขณะที่หุ้นธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ ร่วงลง 3.3% หลังจากเจพีมอร์แกน ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงมาอยู่ที่ระดับ "neutral" จากระดับ "overweight"
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี สเปน และอีก 3 ประเทศในยูโรโซนเมื่อวานนี้ โดยระบุว่าประเทศเหล่านี้ไม่มีความยืดหยุ่นทางการเงินมากพอที่จะสามารถรับมือกับวิกฤตหนี้ยุโรปได้
ทั้งนี้ ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในยูโรโซน ลง 2 ขั้น มาอยู่ที่ระดับ A- จากระดับ A+ พร้อมกับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 2 ขั้น มาอยู่ที่ระดับ A จากระดับ AA-
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดลบ 37.43 จุดหลัง GDP สหรัฐโตน้อยกว่าคาด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 30 มกราคม 2555 07:50:32 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดร่วงลง 37.43 จุด แตะที่ 8,803.79 จุดในวันนี้ (30 ม.ค.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 ขยายตัว 2.8% ต่อปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 3% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 135
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 6.74 จุด หวั่นเจรจาหนี้กรีซไม่คืบ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 06:51:41 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าหากการเจรจายืดเยื้อออกไปอีก ก็อาจทำให้กรีซมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 6.74 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 12,653.72 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.32 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 1,313.01 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 4.61 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,811.94 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมูลค่า 2 แสนล้านยูโรได้ก่อนที่การประชุมผู้นำอียูจะเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในวันที่ 20 มี.ค.นี้
การปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมีเป้าหมายที่จะทำให้สัดส่วนหนี้สินปรับตัวดลลงจากระดับ 160% ของจีดีพี มาอยู่ที่ระดับ 120% ของจีดีพี ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับที่เจ้าหน้าที่ของอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มองว่า จะสามารถทำให้กรีซบริหารจัดการได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ยังคงยืดเยื้อ เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องอัตราผลตอบแทน นอกจากนี้ กรีซยังได้ปฏิเสธข้อเสนอการปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องการใช้มาตรการรัดเข็มขัด
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทรงตัวในเดือนธ.ค. ซึ่งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคได้รับการจับตาจากตลาดอย่างใกล้ชิด เพราะคิดเป็นสัดส่วน 70% ของกิจกรรมโดยรวมทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากการร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวันได้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตพุ่งขึ้นแตะระดับ 15.3 จุดในเดือนม.ค. จากระดับ -0.3 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่แข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
ส่วนผลการประชุมอียูครั้งล่าสุดนี้ นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรปเปิดเผยว่าประเทศสมาชิกอียูที่จะเข้าร่วมและลงนามในสนธิสัญญาด้านการคลังซึ่งมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มวินัยด้านการคลังและหนี้สินนั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 25 ประเทศด้วยกัน ขณะที่อังกฤษและสาธารณรัฐเชค ปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติรับรองข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่าง 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน เกี่ยวกับสนธิสัญญาการจัดตั้งกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนถาวรวงเงิน 5 แสนล้านยูโรที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.
หุ้นยูเอส แอร์เวย์ ดีดตัวขึ้น 4.2% หลังจากมีรายงานว่าสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ กำลังพิจารณาเรื่องการเข้าซื้อกิจการยูเอส แอร์เวย์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดิ่งลง 3.7%
หุ้นเอ็กซอนโมบิล ลดลง 0.4% หลังจากเอ็กซอนโมบิล ตกลงขายหุ้น 99% ในบริษัท เอ็กซอน โมบิล ยูเง็น ไกชะ ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงในญี่ปุ่น ให้กับบริษัท โทเนนเจนเนอรัล เซกิยุ เคเค มูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 4/2554, สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดือนพ.ย., สมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนม.ค.
วันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนม.ค., สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนธ.ค.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และเฟดจะเปิดเผยประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 4/2554 ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 62.36 จุดเหตุวิตกเจรจาหนี้กรีซยืดเยื้อ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 07:39:52 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) จากนักลงทุนผิดหวังที่กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู)
ดัชนี FTSE 100The FTSE 100 ปิดลบ 62.36 จุด หรือ 1.1% แตะที่ 5,671.09 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กรีซมูลค่า 2 แสนล้านยูโรยังไม่ความคืบหน้าก่อนที่การประชุมผู้นำอียูจะเริ่มขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในวันที่ 20 มี.ค.นี้
ความไม่คืบหน้าเรื่องการเจรจาหนี้กรีซส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ร่วงลงราว 3.5%
หุ้นเวแดนต้า ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ทองแดงรายใหญ่สุดของอินเดีย ร่วงลง 4.1% หุ้นเอ็กสตราต้า ดิ่งลง 2.3% หลังจากราคาทองแดงในตลาดลอนดอนร่วงลง อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าความต้องการทองแดงในประเทศจีนจะชะลอตัวลง
หุ้นกลุ่มประกันร่วงลง โดยหุ้นเอวิวา ดิ่งลง 3.8% หุ้นพรูเดนเชียล ร่วงลง 2.8%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง วิตกผู้นำ EU ไม่สามารถกู้วิกฤตหนี้
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 07:59:13 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงหนักสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าที่ประชุมผู้นำสภาพยุโรป (อียู) จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่การเจรจาหนี้กรีซยังไม่มีความคืบหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 252.52 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 67.53 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 6,444.45 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 53.12 จุด หรือ 1.6% ปิดที่ 3,265.64 จุด และดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 62.36 จุด หรือ 1.09% ปิดที่ 5,671.09 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงลังจากรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมูลค่า 2 แสนล้านยูโร ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะได้ โดยผลการประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการ ซึ่งที่ประชุมมีมติรับรองข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่าง 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน เกี่ยวกับสนธิสัญญาการจัดตั้ง ESM ซึ่งเป็นกองทุนถาวรวงเงิน 5 แสนล้านยูโรที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.
หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ร่วงลง 7.1% หุ้นโซซิเอเต เจนเนอราล (ซอคเจน) ร่วงลง 6.5%
หุ้นรอยัง ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ ร่วงลง 2.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนที่สูงกว่าการคาดการร์ของนักวิเคราะห์
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดลบ 11.61 จุด วิตกเยนแข็งฉุดหุ้นส่งออก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 08:08:10 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดลบ 11.61 จุด แตะที่ 8,781.44 จุดในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออก หลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเที่ยบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร
ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงจากระดับ 76 เยนของเมื่อวันจันทร์ ขณะที่เงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำกว่า 100 เยน ซึ่งการแข็งค่าของสกุลเงินเยนทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า ผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 06:51:41 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าหากการเจรจายืดเยื้อออกไปอีก ก็อาจทำให้กรีซมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 6.74 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 12,653.72 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.32 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 1,313.01 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 4.61 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,811.94 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมูลค่า 2 แสนล้านยูโรได้ก่อนที่การประชุมผู้นำอียูจะเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในวันที่ 20 มี.ค.นี้
การปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมีเป้าหมายที่จะทำให้สัดส่วนหนี้สินปรับตัวดลลงจากระดับ 160% ของจีดีพี มาอยู่ที่ระดับ 120% ของจีดีพี ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับที่เจ้าหน้าที่ของอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มองว่า จะสามารถทำให้กรีซบริหารจัดการได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ยังคงยืดเยื้อ เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องอัตราผลตอบแทน นอกจากนี้ กรีซยังได้ปฏิเสธข้อเสนอการปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องการใช้มาตรการรัดเข็มขัด
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทรงตัวในเดือนธ.ค. ซึ่งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคได้รับการจับตาจากตลาดอย่างใกล้ชิด เพราะคิดเป็นสัดส่วน 70% ของกิจกรรมโดยรวมทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากการร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวันได้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตพุ่งขึ้นแตะระดับ 15.3 จุดในเดือนม.ค. จากระดับ -0.3 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่แข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
ส่วนผลการประชุมอียูครั้งล่าสุดนี้ นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรปเปิดเผยว่าประเทศสมาชิกอียูที่จะเข้าร่วมและลงนามในสนธิสัญญาด้านการคลังซึ่งมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มวินัยด้านการคลังและหนี้สินนั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 25 ประเทศด้วยกัน ขณะที่อังกฤษและสาธารณรัฐเชค ปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติรับรองข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่าง 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน เกี่ยวกับสนธิสัญญาการจัดตั้งกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนถาวรวงเงิน 5 แสนล้านยูโรที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.
หุ้นยูเอส แอร์เวย์ ดีดตัวขึ้น 4.2% หลังจากมีรายงานว่าสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ กำลังพิจารณาเรื่องการเข้าซื้อกิจการยูเอส แอร์เวย์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดิ่งลง 3.7%
หุ้นเอ็กซอนโมบิล ลดลง 0.4% หลังจากเอ็กซอนโมบิล ตกลงขายหุ้น 99% ในบริษัท เอ็กซอน โมบิล ยูเง็น ไกชะ ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงในญี่ปุ่น ให้กับบริษัท โทเนนเจนเนอรัล เซกิยุ เคเค มูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 4/2554, สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดือนพ.ย., สมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนม.ค.
วันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนม.ค., สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนธ.ค.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และเฟดจะเปิดเผยประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 4/2554 ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 62.36 จุดเหตุวิตกเจรจาหนี้กรีซยืดเยื้อ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 07:39:52 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) จากนักลงทุนผิดหวังที่กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู)
ดัชนี FTSE 100The FTSE 100 ปิดลบ 62.36 จุด หรือ 1.1% แตะที่ 5,671.09 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กรีซมูลค่า 2 แสนล้านยูโรยังไม่ความคืบหน้าก่อนที่การประชุมผู้นำอียูจะเริ่มขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในวันที่ 20 มี.ค.นี้
ความไม่คืบหน้าเรื่องการเจรจาหนี้กรีซส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ร่วงลงราว 3.5%
หุ้นเวแดนต้า ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ทองแดงรายใหญ่สุดของอินเดีย ร่วงลง 4.1% หุ้นเอ็กสตราต้า ดิ่งลง 2.3% หลังจากราคาทองแดงในตลาดลอนดอนร่วงลง อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าความต้องการทองแดงในประเทศจีนจะชะลอตัวลง
หุ้นกลุ่มประกันร่วงลง โดยหุ้นเอวิวา ดิ่งลง 3.8% หุ้นพรูเดนเชียล ร่วงลง 2.8%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง วิตกผู้นำ EU ไม่สามารถกู้วิกฤตหนี้
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 07:59:13 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงหนักสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าที่ประชุมผู้นำสภาพยุโรป (อียู) จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่การเจรจาหนี้กรีซยังไม่มีความคืบหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 252.52 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 67.53 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 6,444.45 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 53.12 จุด หรือ 1.6% ปิดที่ 3,265.64 จุด และดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 62.36 จุด หรือ 1.09% ปิดที่ 5,671.09 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงลังจากรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมูลค่า 2 แสนล้านยูโร ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะได้ โดยผลการประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการ ซึ่งที่ประชุมมีมติรับรองข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่าง 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน เกี่ยวกับสนธิสัญญาการจัดตั้ง ESM ซึ่งเป็นกองทุนถาวรวงเงิน 5 แสนล้านยูโรที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.
หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ร่วงลง 7.1% หุ้นโซซิเอเต เจนเนอราล (ซอคเจน) ร่วงลง 6.5%
หุ้นรอยัง ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ ร่วงลง 2.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนที่สูงกว่าการคาดการร์ของนักวิเคราะห์
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดลบ 11.61 จุด วิตกเยนแข็งฉุดหุ้นส่งออก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 08:08:10 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดลบ 11.61 จุด แตะที่ 8,781.44 จุดในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออก หลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเที่ยบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร
ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงจากระดับ 76 เยนของเมื่อวันจันทร์ ขณะที่เงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำกว่า 100 เยน ซึ่งการแข็งค่าของสกุลเงินเยนทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า ผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบ
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 136
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 11.05 จุด ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 06:37:30 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความระวัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย หลังจากที่พุ่งขึ้นในช่วงเช้า เพราะตลาดได้แรงหนุนจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก เพราะได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งบริษัท ควอลคอมม์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพรายใหญ่ของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 11.05 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 12,705.41 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 1.45 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 1,325.54 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 11. 41 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 2,859.68 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ม.ค. ลดลง 12,000 ราย มาอยู่ที่ 367,000 รายซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากระดับ 379,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 375,750 ราย
ข้อมูลดังกล่าวมีความสอดคล้องกับรายงานของ ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐซึ่งระบุว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐเพิ่มการจ้างงาน 170,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลด้านแรงงานออกมาในด้านบวก แต่นักลงทุนกลับมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 145,000 - 150,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 8.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี
ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นสวนทางกับการปิดลบของดัชนีดาวโจนส์ หลังจากบริษัทควอลคอมม์คาดการณ์ว่า ยอดขายในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ เดือนมี.ค. จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.6-5 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่ารายได้ในปีงบการเงินปีนี้จะเพิ่มขึ้น 25-32% สู่ระดับ 1.87-1.97 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นบริษัทเหมืองแร่ของสหรัฐดีดตัวขึ้น หลังจากเอ็กสตราต้า ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ของอังกฤษยืนยันว่าทางบริษัทกำลังเจรจาเรื่องการควบรวมกิจการกับเกลนคอร์ ซึ่งเป็นเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์ โดยหุ้น นิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป พุ่งขึ้น 19% หุ้นอัลโค อิงค์ ดีดขึ้น 2.2% และหุ้นคลิฟส์ เนเชอรัล รีซอสเซส ขยับขึ้น 0.3%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้น หลังจากบริษัทหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการเมื่อวานนี้ โดยหุ้นคอสโค ดีดขึ้น 2.8% หุ้นทาร์เก็ต ขยับขึ้น 1.1% และหุ้นแก๊ป พุ่งขึ้น 10.7% หลังจากทั้ง 3 บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นมาสเตอร์การ์ด พุ่งขึ้น 6.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 4 ที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดีดขึ้น 1.3% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.2%
หุ้นกลุ่มอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า เพราะได้แรงหนุนจากข่าวเฟซบุ๊กเสนอขายหุ้น IPO โดยหุ้นซินก้า ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกมสำหรับเครือข่ายเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 17% หุ้น Groupon พุ่งขึ้น 7.4% และหุ้น Renren Inc ทะยานขึ้น 8.2%
นอกเหนือจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.แล้ว สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการ เดือนม.ค.ในวันนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนี ISM ภาคบริการของสหรัฐจะอยู่ที่ 53.0 จุดในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.6 จุดของเดือนธ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 5.35 จุด หลังตัวเลขว่างงานสหรัฐร่วง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 07:47:25 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) ขานรับตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยพยุงตลาดให้ปิดในแดนบวก หลังจากที่ร่วงลงในช่วงเช้า อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่งในอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 5.35 จุด ปิดที่ 5796.07 จุด ซึ่งเป็ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ม.ค. ลดลง 12,000 ราย มาอยู่ที่ 367,000 รายซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากระดับ 379,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 375,750 ราย
หุ้นเอ็กสตราต้า ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองของอังกฤษ พุ่งขึ้น 9.9% หลังจากมีรายงานว่า เกลนคอร์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่สุดของโลก กำลังเจรจาเพื่อซื้อหุ้นของเอ็กสตราต้า ขณะที่หุ้นเกลนคอร์พุ่งขึ้น 6.9%
หุ้นยูนิลีเวอร์ ร่วงลง 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาส 4 ที่อ่อนแอเกินคาด และคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังคงซบเซาในปีนี้ อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่หุ้นแอสตราเซเนก้าปิดร่วงลง 3.4% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการในปี 2555 อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาในอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์
ส่วนหุ้นบีพี ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ร่วงลง 1.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ข้อมูลแรงงานสหรัฐหนุนหุ้นยุโรปปิดบวก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 08:01:37 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ร่วงลงเกินคาด นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าบริษัทเกลนคอร์ อินเตอร์เนชันแนล ที่กำลังเจาจาซื้อกิจการบริษัทเอ็กสตราต้า ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 0.2% ปิดที่ 260.11 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้น 38.99 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 6,655.63 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 9.20 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 3,376.66 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษ ขยับขึ้น 5.35 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 5,796.07 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้น หลังจากมีรายงานว่า เกลนคอร์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่สุดของโลก กำลังเจรจาเพื่อซื้อหุ้นของเอ็กสตราต้า ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเอ็กสตราต้าพุ่งขึ้น 9.9% หุ้นเกลนคอร์พุ่งขึ้น 6.9%
ภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ม.ค. ลดลง 12,000 ราย มาอยู่ที่ 367,000 รายซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากระดับ 379,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 375,750 ราย
หุ้นเบเนตอง กรุ๊ป พุ่งขึ้น 17% หลังจากครอบครัวเบเนตอง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเปิดเผยว่า ทางครอบครัวจะเพิ่มการถือครองหุ้นอีก มูลค่า 276.6 ล้านยูโร หรือ 364 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาเรื่องการปรับโครงสรางหนี้ของกรีซ หลังจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นผู้นำการเจรจาในนามเจ้าหนี้ของกรีซ เปิดเผยว่า เจ้าหนี้ภาคเอกชนและรัฐบาลกรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
นายพอล ธอมเซน หัวหน้าคณะผู้ตรวจสอบจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า กรีซต้องเร่งดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและชะลอการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ หลังจากนโยบายรัดเข็มขัดที่กำหนดขึ้นในปี 2553 เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือ 1.10 แสนล้านยูโรจากอียู/ไอเอ็มเอฟนั้น ได้กระตุ้นให้เกิดความไม่สงบทางสังคม และทำให้กรีซเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงเกินคาด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิลบ 27.65 จุดเช้านี้ ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 08:07:56 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลง 27.65 จุด แตะที่ 8,849.17 จุดในวันนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ระบบการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวได้กลับสู่ภาวะปกติแล้วในวันนี้ หลังจากที่ตลาดต้องพักการซื้อขายชั่วคราวในช่วงเช้าวานนี้ เนื่องจากระบบการซื้อขายล่ม
ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) ได้ระงับการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งหมด 241 รายการ ซึ่งรวมถึงกองทุน EFT และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ตลาดเปิดทำการซื้อขายเมื่อเวลา 09.00 น.ตามเวลาโตเกียวเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นของ 153 บริษัท รวมถึงหุ้นโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ และหุ้นได-อิจิ ไลฟ์ อินชัวรันซ์ ก่อนที่ตลาดจะกลับมาซื้อขายตามปกติในเวลา 12.30 น.ตามเวลาโตเกียว (10.30 น.ตามเวลาไทย) เมื่อวานนี้
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 145,000-150,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 8.5% ในเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 06:37:30 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความระวัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย หลังจากที่พุ่งขึ้นในช่วงเช้า เพราะตลาดได้แรงหนุนจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก เพราะได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งบริษัท ควอลคอมม์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพรายใหญ่ของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 11.05 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 12,705.41 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 1.45 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 1,325.54 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 11. 41 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 2,859.68 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ม.ค. ลดลง 12,000 ราย มาอยู่ที่ 367,000 รายซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากระดับ 379,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 375,750 ราย
ข้อมูลดังกล่าวมีความสอดคล้องกับรายงานของ ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐซึ่งระบุว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐเพิ่มการจ้างงาน 170,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลด้านแรงงานออกมาในด้านบวก แต่นักลงทุนกลับมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 145,000 - 150,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 8.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี
ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นสวนทางกับการปิดลบของดัชนีดาวโจนส์ หลังจากบริษัทควอลคอมม์คาดการณ์ว่า ยอดขายในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ เดือนมี.ค. จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.6-5 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่ารายได้ในปีงบการเงินปีนี้จะเพิ่มขึ้น 25-32% สู่ระดับ 1.87-1.97 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นบริษัทเหมืองแร่ของสหรัฐดีดตัวขึ้น หลังจากเอ็กสตราต้า ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ของอังกฤษยืนยันว่าทางบริษัทกำลังเจรจาเรื่องการควบรวมกิจการกับเกลนคอร์ ซึ่งเป็นเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์ โดยหุ้น นิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป พุ่งขึ้น 19% หุ้นอัลโค อิงค์ ดีดขึ้น 2.2% และหุ้นคลิฟส์ เนเชอรัล รีซอสเซส ขยับขึ้น 0.3%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้น หลังจากบริษัทหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการเมื่อวานนี้ โดยหุ้นคอสโค ดีดขึ้น 2.8% หุ้นทาร์เก็ต ขยับขึ้น 1.1% และหุ้นแก๊ป พุ่งขึ้น 10.7% หลังจากทั้ง 3 บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นมาสเตอร์การ์ด พุ่งขึ้น 6.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 4 ที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดีดขึ้น 1.3% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.2%
หุ้นกลุ่มอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า เพราะได้แรงหนุนจากข่าวเฟซบุ๊กเสนอขายหุ้น IPO โดยหุ้นซินก้า ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกมสำหรับเครือข่ายเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 17% หุ้น Groupon พุ่งขึ้น 7.4% และหุ้น Renren Inc ทะยานขึ้น 8.2%
นอกเหนือจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.แล้ว สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการ เดือนม.ค.ในวันนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนี ISM ภาคบริการของสหรัฐจะอยู่ที่ 53.0 จุดในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.6 จุดของเดือนธ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 5.35 จุด หลังตัวเลขว่างงานสหรัฐร่วง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 07:47:25 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) ขานรับตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยพยุงตลาดให้ปิดในแดนบวก หลังจากที่ร่วงลงในช่วงเช้า อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่งในอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 5.35 จุด ปิดที่ 5796.07 จุด ซึ่งเป็ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ม.ค. ลดลง 12,000 ราย มาอยู่ที่ 367,000 รายซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากระดับ 379,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 375,750 ราย
หุ้นเอ็กสตราต้า ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองของอังกฤษ พุ่งขึ้น 9.9% หลังจากมีรายงานว่า เกลนคอร์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่สุดของโลก กำลังเจรจาเพื่อซื้อหุ้นของเอ็กสตราต้า ขณะที่หุ้นเกลนคอร์พุ่งขึ้น 6.9%
หุ้นยูนิลีเวอร์ ร่วงลง 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาส 4 ที่อ่อนแอเกินคาด และคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังคงซบเซาในปีนี้ อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่หุ้นแอสตราเซเนก้าปิดร่วงลง 3.4% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการในปี 2555 อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาในอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์
ส่วนหุ้นบีพี ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ร่วงลง 1.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ข้อมูลแรงงานสหรัฐหนุนหุ้นยุโรปปิดบวก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 08:01:37 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ร่วงลงเกินคาด นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าบริษัทเกลนคอร์ อินเตอร์เนชันแนล ที่กำลังเจาจาซื้อกิจการบริษัทเอ็กสตราต้า ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 0.2% ปิดที่ 260.11 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้น 38.99 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 6,655.63 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 9.20 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 3,376.66 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษ ขยับขึ้น 5.35 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 5,796.07 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้น หลังจากมีรายงานว่า เกลนคอร์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่สุดของโลก กำลังเจรจาเพื่อซื้อหุ้นของเอ็กสตราต้า ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเอ็กสตราต้าพุ่งขึ้น 9.9% หุ้นเกลนคอร์พุ่งขึ้น 6.9%
ภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ม.ค. ลดลง 12,000 ราย มาอยู่ที่ 367,000 รายซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากระดับ 379,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 375,750 ราย
หุ้นเบเนตอง กรุ๊ป พุ่งขึ้น 17% หลังจากครอบครัวเบเนตอง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเปิดเผยว่า ทางครอบครัวจะเพิ่มการถือครองหุ้นอีก มูลค่า 276.6 ล้านยูโร หรือ 364 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาเรื่องการปรับโครงสรางหนี้ของกรีซ หลังจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นผู้นำการเจรจาในนามเจ้าหนี้ของกรีซ เปิดเผยว่า เจ้าหนี้ภาคเอกชนและรัฐบาลกรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
นายพอล ธอมเซน หัวหน้าคณะผู้ตรวจสอบจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า กรีซต้องเร่งดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและชะลอการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ หลังจากนโยบายรัดเข็มขัดที่กำหนดขึ้นในปี 2553 เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือ 1.10 แสนล้านยูโรจากอียู/ไอเอ็มเอฟนั้น ได้กระตุ้นให้เกิดความไม่สงบทางสังคม และทำให้กรีซเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงเกินคาด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิลบ 27.65 จุดเช้านี้ ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 08:07:56 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลง 27.65 จุด แตะที่ 8,849.17 จุดในวันนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ระบบการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวได้กลับสู่ภาวะปกติแล้วในวันนี้ หลังจากที่ตลาดต้องพักการซื้อขายชั่วคราวในช่วงเช้าวานนี้ เนื่องจากระบบการซื้อขายล่ม
ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) ได้ระงับการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งหมด 241 รายการ ซึ่งรวมถึงกองทุน EFT และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ตลาดเปิดทำการซื้อขายเมื่อเวลา 09.00 น.ตามเวลาโตเกียวเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นของ 153 บริษัท รวมถึงหุ้นโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ และหุ้นได-อิจิ ไลฟ์ อินชัวรันซ์ ก่อนที่ตลาดจะกลับมาซื้อขายตามปกติในเวลา 12.30 น.ตามเวลาโตเกียว (10.30 น.ตามเวลาไทย) เมื่อวานนี้
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 145,000-150,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 8.5% ในเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 137
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 156.82 จุดขานรับข้อมูลแรงงานดีเกินคาด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2555 06:20:06 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีครึ่ง เมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่อัตราว่างงานก็ลดลงอีกสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 35 เดือน ซึ่งข้อมูลที่ออกมากดีกว่าการคาดการณ์ของตลาดได้ช่วยเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างมั่นคง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 156.82 จุด หรือ 1.23% ปิดที่ 12,862.23 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2551 ขณะที่ ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 19.36 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 1,344.90 จุด และดัชนี Nasdaq ทะยาน 45.98 จุด หรือ 1.61% ปิดที่ 2,905.66 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดตั้งแต่ธ.ค.2543 หรือในรอบประมาณ 11 ปี
ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวอย่างคึกคักโดยมีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่งทั่วทั้งกระดาน หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 140,000 - 150,000 ตำแหน่ง และมากกว่าระดับ 203,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.
ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% จากระดับ 8.5% ของเดือนธ.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว ซึ่งข้อมูลแรงงานทั้งสองตัวที่ออกมาดีกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้นั้นได้ช่วยสนับสนุนมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจจจะเริ่มมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงรอดูผลการเจรจาเรื่องการสว็อปหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชน ซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนที่แล้วและยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ข้อยุติในวันสองวันนี้ ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจต้องยอมขาดทุนจากหนี้บางส่วน
นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กและประธานยูโรกรุ๊ป (กลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า รมว.คลังยูโรโซนจะไม่ประชุมเพื่อหารือเรื่องกรีซในวันจันทร์ที่ 6 ก.พ.นี้ แต่อาจจะเลื่อนไปเป็นสัปดาห์หน้าแทน
ทั้งนี้ นายยุงเกอร์กล่าวที่ลักเซมเบิร์กเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การเจรจาหนี้กรีซถือเป็นเรื่องที่ยากมาก พร้อมทั้งระบุด้วยว่า มาตรการแก้ไขวิกฤตหนี้ซึ่งบรรดาผู้นำสหภาพยุโรปมีมติเห็นชอบร่วมกันในการประชุมสุดยอดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น โดยส่วนใหญ่แล้วยังไม่เพียงพอ
นายยุงเกอร์กล่าวว่า ผู้นำอียูจำเป็นที่จะต้องพิจารณาดำเนินมาตรการเพิ่มเติมในการประชุมสุดยอดครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนมี.ค. และกล่าวว่า เขาจะพยายามหาทางประสานนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 105 จุด ขานรับข้อมูลแรงงานสหรัฐดีเกินคาด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2555 07:31:00 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเดินหน้าแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขานรับตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาสูงเกินคาดในเดือนที่แล้ว ขณะที่อัตราว่างงานก็ลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย รวมทั้งยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลภาคบริการเดือนม.ค.ของอังกฤษที่ดีเกินคาดเช่นกัน
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 105 จุด หรือ 1.8% ปิดที่ 5,901.07 จุด
วานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 150,000 ตำแหน่ง และมากกว่าระดับ 203,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ อัตราว่างงานสหรัฐยังปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 8.5%
ด้านรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของมาร์กิตและสถาบันการจัดซื้อและซัพพลายแห่งประเทศอังกฤษ (CIPS) แสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมบริการในประเทศปรับตัวดีขึ้นเหนือความคาดหมายในเดือนที่แล้ว โดยดัชนี PMI ภาคบริการเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56 จาก 54 ในเดือนธ.ค. สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะร่วงลงแตะที่ประมาณ 53.5
การเปิดเผยข้อมูลที่สดใสดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดี มาร์กิตและสถาบัน CIPS เพิ่งรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตที่ทะยานแตะ 52.1 จุดในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จาก 49.7 จุดในเดือนธ.ค. โดยตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว ส่วนตัวเลขต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงการหดตัว
สำหรับหุ้นที่โดดเด่นในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ได้แก่ แอดไมรัล กรุ๊ป บริษัทประกันรถที่พุ่งขึ้นถึง 7.9% หลังจากที่บริษัทได้ต่อสัญญาการประกันภัยต่อกับบริษัทพันธมิตรหลายราย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2555 06:20:06 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีครึ่ง เมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่อัตราว่างงานก็ลดลงอีกสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 35 เดือน ซึ่งข้อมูลที่ออกมากดีกว่าการคาดการณ์ของตลาดได้ช่วยเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างมั่นคง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 156.82 จุด หรือ 1.23% ปิดที่ 12,862.23 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2551 ขณะที่ ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 19.36 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 1,344.90 จุด และดัชนี Nasdaq ทะยาน 45.98 จุด หรือ 1.61% ปิดที่ 2,905.66 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดตั้งแต่ธ.ค.2543 หรือในรอบประมาณ 11 ปี
ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวอย่างคึกคักโดยมีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่งทั่วทั้งกระดาน หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 140,000 - 150,000 ตำแหน่ง และมากกว่าระดับ 203,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.
ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% จากระดับ 8.5% ของเดือนธ.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว ซึ่งข้อมูลแรงงานทั้งสองตัวที่ออกมาดีกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้นั้นได้ช่วยสนับสนุนมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจจจะเริ่มมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงรอดูผลการเจรจาเรื่องการสว็อปหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชน ซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนที่แล้วและยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ข้อยุติในวันสองวันนี้ ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจต้องยอมขาดทุนจากหนี้บางส่วน
นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กและประธานยูโรกรุ๊ป (กลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า รมว.คลังยูโรโซนจะไม่ประชุมเพื่อหารือเรื่องกรีซในวันจันทร์ที่ 6 ก.พ.นี้ แต่อาจจะเลื่อนไปเป็นสัปดาห์หน้าแทน
ทั้งนี้ นายยุงเกอร์กล่าวที่ลักเซมเบิร์กเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การเจรจาหนี้กรีซถือเป็นเรื่องที่ยากมาก พร้อมทั้งระบุด้วยว่า มาตรการแก้ไขวิกฤตหนี้ซึ่งบรรดาผู้นำสหภาพยุโรปมีมติเห็นชอบร่วมกันในการประชุมสุดยอดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น โดยส่วนใหญ่แล้วยังไม่เพียงพอ
นายยุงเกอร์กล่าวว่า ผู้นำอียูจำเป็นที่จะต้องพิจารณาดำเนินมาตรการเพิ่มเติมในการประชุมสุดยอดครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนมี.ค. และกล่าวว่า เขาจะพยายามหาทางประสานนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 105 จุด ขานรับข้อมูลแรงงานสหรัฐดีเกินคาด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2555 07:31:00 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเดินหน้าแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขานรับตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาสูงเกินคาดในเดือนที่แล้ว ขณะที่อัตราว่างงานก็ลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย รวมทั้งยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลภาคบริการเดือนม.ค.ของอังกฤษที่ดีเกินคาดเช่นกัน
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 105 จุด หรือ 1.8% ปิดที่ 5,901.07 จุด
วานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 150,000 ตำแหน่ง และมากกว่าระดับ 203,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ อัตราว่างงานสหรัฐยังปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 8.5%
ด้านรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของมาร์กิตและสถาบันการจัดซื้อและซัพพลายแห่งประเทศอังกฤษ (CIPS) แสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมบริการในประเทศปรับตัวดีขึ้นเหนือความคาดหมายในเดือนที่แล้ว โดยดัชนี PMI ภาคบริการเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56 จาก 54 ในเดือนธ.ค. สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะร่วงลงแตะที่ประมาณ 53.5
การเปิดเผยข้อมูลที่สดใสดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดี มาร์กิตและสถาบัน CIPS เพิ่งรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตที่ทะยานแตะ 52.1 จุดในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จาก 49.7 จุดในเดือนธ.ค. โดยตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว ส่วนตัวเลขต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงการหดตัว
สำหรับหุ้นที่โดดเด่นในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ได้แก่ แอดไมรัล กรุ๊ป บริษัทประกันรถที่พุ่งขึ้นถึง 7.9% หลังจากที่บริษัทได้ต่อสัญญาการประกันภัยต่อกับบริษัทพันธมิตรหลายราย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 138
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดพุ่ง ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 06:24:14 น.
ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.พ. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.7% ปิดที่ 264.6 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.ปีที่แล้ว
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3427.92 จุด บวก 51.26 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6766.67 จุด บวก 111.04 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5901.07 จุด บวก 105.00 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 - 150,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% จากระดับ 8.5% ของเดือนธ.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว
หุ้นเทเมนอส กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟแวร์สำหรับธนาคารพาณิชย์ พุ่งขึ้น 16% ขณะที่หุ้นแอดไมรัล ซึ่งเป็นบริษัทประกันรถยนต์ พุ่งขึ้น 7.9% หลังจากที่บริษัทได้ต่อสัญญาการประกันภัยต่อกับบริษัทพันธมิตรหลายราย
หุ้นกลุ่มบริษัทรถยนต์ทะยานขึ้น โดยหุ้นเดมเลอร์พุ่งขึ้น 24% หุ้นวอลโว่พุ่งขึ้น 4.4%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดพุ่ง 108.06 จุดรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 07:54:44 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดพุ่งขึ้น 108.06 จุด แตะที่ 8,939.99 จุดในวันนี้ (6 ก.พ.) ก่อนที่จะทะยานขึ้นแตระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนที่ 8,944.04 จุดหลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 156.82 จุด หรือ 1.23% ปิดที่ 12,862.23 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2551 หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 - 150,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% จากระดับ 8.5% ของเดือนธ.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 06:24:14 น.
ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.พ. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.7% ปิดที่ 264.6 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.ปีที่แล้ว
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3427.92 จุด บวก 51.26 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6766.67 จุด บวก 111.04 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5901.07 จุด บวก 105.00 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 - 150,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% จากระดับ 8.5% ของเดือนธ.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว
หุ้นเทเมนอส กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟแวร์สำหรับธนาคารพาณิชย์ พุ่งขึ้น 16% ขณะที่หุ้นแอดไมรัล ซึ่งเป็นบริษัทประกันรถยนต์ พุ่งขึ้น 7.9% หลังจากที่บริษัทได้ต่อสัญญาการประกันภัยต่อกับบริษัทพันธมิตรหลายราย
หุ้นกลุ่มบริษัทรถยนต์ทะยานขึ้น โดยหุ้นเดมเลอร์พุ่งขึ้น 24% หุ้นวอลโว่พุ่งขึ้น 4.4%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดพุ่ง 108.06 จุดรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 07:54:44 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดพุ่งขึ้น 108.06 จุด แตะที่ 8,939.99 จุดในวันนี้ (6 ก.พ.) ก่อนที่จะทะยานขึ้นแตระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนที่ 8,944.04 จุดหลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 156.82 จุด หรือ 1.23% ปิดที่ 12,862.23 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2551 หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 - 150,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% จากระดับ 8.5% ของเดือนธ.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 139
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: วิตกกรีซผิดนัดชำระหนี้ ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 17.10 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 06:30:29 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซต้องยืดเยื้อออกไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของยูโรสแตทที่ระบุว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของกรีซอยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มยูโรโซน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 17.10 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 12,845.13 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.57 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 1,344.33 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 3.67 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 2,901.99 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากสำนักนายกรัฐมนตรีกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น
การประกาศเลื่อนการประชุมดังกล่าวมีขึ้น แม้ว่ากรีซกำลังได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากสหภาพยุโรป (อียู) ให้เร่งบรรลุข้อตกลงที่มีความสำคัญอย่างยิ่งให้ได้โดยเร็ว เพราะจะเป็นการเปิดทางให้กรีซสามารถขอรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่จากอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อที่จะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่จวนจะมาถึงในเดือนหน้านี้ได้
ผู้นำอียูได้เรียกร้องให้กรีซจัดทำแผนลดรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือมูลค่า 1.30 แสนล้านยูโร (1.7 แสนล้านดอลลาร์) จากอียูและไอเอ็มเอฟ รวมถึงการที่เจ้าหนี้ภาคเอกชนจะยอมล้างหนี้จำนวน 1 แสนล้านยูโร ซึ่งรัฐบาลกรีซจำเป็นที่จะต้องได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อช่วยให้ประเทศหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ภายในเดือนมีนาคม โดยกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระเงินกู้คืนเจ้าหนี้เอกชนเป็นจำนวน 1.44 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มีนาคมนี้
ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซกำลังกลายเป็นประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลในวงกว้าง โดยรายงานล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท ระบุว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของกรีซพุ่งขึ้นสู่ระดับ 159.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2554 เพิ่มขึ้นจากระดับ 154.7% ของจีดีพี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มยูโรโซน และสะท้อนให้เห็นว่ากรีซยังคงเผชิญกับภาระหนี้สินมูลค่ามหาศาล แม้รัฐบาลพยายามลดการใช้จ่ายลงจำนวนมากก็ตาม
หุ้นโบอิ้ง โค ร่วงลง 1.2% หลังจากมีรายงานการตรวจพบปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้ง 787 Dreamliner แม้ทางบริษัทได้ออกแถลงการณ์ว่ากำลังดำเนินการซ่อมแซมและไม่มีความกังวลเรื่องความปลอดภับก็ตาม
หุ้นไมโครอน เทคโนโลยี ดิ่งลง 2.8% หลังจากมีรายงานว่านายสตีเฟน แอพเพิลตัน วัย 51 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ขณะที่หุ้นเวริซอน คอมมูนิเคชันส์ ดีดตัวขึ้น 0.8% หุ้นคอยสตาร์พุ่งขึ้น 1.8% หุ้น Sohu.com ซึ่งเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตของจีน ร่วงลงกว่า 15% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นและช่วยพยุงตลาดไว้ไม่ให้ร่วงลงมากเกินไป โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล หุ้นเชฟรอน และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ดีดตัวขึ้นอย่างน้อย 1%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกกรีซผิดนัดชำระหนี้ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 8.87 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 07:31:48 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) จากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซต้องยืดเยื้อออกไป
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5892.20 จุด ลบ 8.87 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงหลังจากทางการกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
หุ้นเกลนคอร์ร่วงลง 4.5% หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า เกลนคอร์อาจจะเสนอซื้อหุ้นของบริษัท เอ็กสตราต้า สูงกว่าระดับปิดของราคาหุ้นเอ็สตราต้าเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเอ็กสตราต้าดิ่งลง 1.7%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะในตลาดลอนดอน โดยหุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส ร่วงลง 3.1% หุ้นริโอทินโต้ร่วงลง 1.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกเจรจาหนี้กรีซยืดเยื้อ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 07:47:48 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากรัฐบาลกรีซประกาศเลื่อนการเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่กรีซจะต้องดำเนินการให้ได้ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่
ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลง 0.1% แตะที่ 264.27 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดลบ 1.84 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 6,764.83 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ 22.65 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 3,405.27 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลบ 8.87 จุดหรือ 0.15% แตะระดับ 5,892.20 จุด
รัฐบาลกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท ระบุว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของกรีซพุ่งขึ้นสู่ระดับ 159.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2554 เพิ่มขึ้นจากระดับ 154.7% ของจีดีพี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มยูโรโซน และสะท้อนให้เห็นว่ากรีซยังคงเผชิญกับภาระหนี้สินมูลค่ามหาศาล แม้รัฐบาลพยายามลดการใช้จ่ายลงจำนวนมากก็ตาม
หุ้นธนาคารโซซิเอเต เจนเนอรัล (ซอคเจน) ร่วงลง 2.9% หุ้นเครดิต อากริโคล ดิ่งลง 2.7%
หุ้นแอร์ ฟรานซ์ ดิ่งลง 4.1% หลังจากสหภาพแรงงานของสายการบินแอร์ ฟรานซ์ ได้ผละงานประท้วงในฝรั่งเศส ส่วนหุ้นเวสตัส วินด์ ซินเต็มส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตกังหันลมรายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 7.7% หลังจากราคาหุ้นของบริษัทถูกปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนโดยนักวิเคราะห์ของไอเอ็นจี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: หวั่นกรีซผิดนัดชำระหนี้ ฉุดนิกเกอิเปิดลบ 25.04 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 08:04:26 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดปรับตัวลง 25.04 จุด แตะที่ 8,904.16 จุดในวันนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มระบบการเงินทั่วโลก อันเป็นผลมาจากความเป็นไปได้ที่ว่า กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้
รัฐบาลกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 06:30:29 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซต้องยืดเยื้อออกไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของยูโรสแตทที่ระบุว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของกรีซอยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มยูโรโซน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 17.10 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 12,845.13 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.57 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 1,344.33 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 3.67 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 2,901.99 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากสำนักนายกรัฐมนตรีกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น
การประกาศเลื่อนการประชุมดังกล่าวมีขึ้น แม้ว่ากรีซกำลังได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากสหภาพยุโรป (อียู) ให้เร่งบรรลุข้อตกลงที่มีความสำคัญอย่างยิ่งให้ได้โดยเร็ว เพราะจะเป็นการเปิดทางให้กรีซสามารถขอรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่จากอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อที่จะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่จวนจะมาถึงในเดือนหน้านี้ได้
ผู้นำอียูได้เรียกร้องให้กรีซจัดทำแผนลดรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือมูลค่า 1.30 แสนล้านยูโร (1.7 แสนล้านดอลลาร์) จากอียูและไอเอ็มเอฟ รวมถึงการที่เจ้าหนี้ภาคเอกชนจะยอมล้างหนี้จำนวน 1 แสนล้านยูโร ซึ่งรัฐบาลกรีซจำเป็นที่จะต้องได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อช่วยให้ประเทศหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ภายในเดือนมีนาคม โดยกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระเงินกู้คืนเจ้าหนี้เอกชนเป็นจำนวน 1.44 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มีนาคมนี้
ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซกำลังกลายเป็นประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลในวงกว้าง โดยรายงานล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท ระบุว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของกรีซพุ่งขึ้นสู่ระดับ 159.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2554 เพิ่มขึ้นจากระดับ 154.7% ของจีดีพี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มยูโรโซน และสะท้อนให้เห็นว่ากรีซยังคงเผชิญกับภาระหนี้สินมูลค่ามหาศาล แม้รัฐบาลพยายามลดการใช้จ่ายลงจำนวนมากก็ตาม
หุ้นโบอิ้ง โค ร่วงลง 1.2% หลังจากมีรายงานการตรวจพบปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้ง 787 Dreamliner แม้ทางบริษัทได้ออกแถลงการณ์ว่ากำลังดำเนินการซ่อมแซมและไม่มีความกังวลเรื่องความปลอดภับก็ตาม
หุ้นไมโครอน เทคโนโลยี ดิ่งลง 2.8% หลังจากมีรายงานว่านายสตีเฟน แอพเพิลตัน วัย 51 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ขณะที่หุ้นเวริซอน คอมมูนิเคชันส์ ดีดตัวขึ้น 0.8% หุ้นคอยสตาร์พุ่งขึ้น 1.8% หุ้น Sohu.com ซึ่งเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตของจีน ร่วงลงกว่า 15% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นและช่วยพยุงตลาดไว้ไม่ให้ร่วงลงมากเกินไป โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล หุ้นเชฟรอน และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ดีดตัวขึ้นอย่างน้อย 1%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกกรีซผิดนัดชำระหนี้ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 8.87 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 07:31:48 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) จากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซต้องยืดเยื้อออกไป
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5892.20 จุด ลบ 8.87 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงหลังจากทางการกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
หุ้นเกลนคอร์ร่วงลง 4.5% หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า เกลนคอร์อาจจะเสนอซื้อหุ้นของบริษัท เอ็กสตราต้า สูงกว่าระดับปิดของราคาหุ้นเอ็สตราต้าเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเอ็กสตราต้าดิ่งลง 1.7%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะในตลาดลอนดอน โดยหุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส ร่วงลง 3.1% หุ้นริโอทินโต้ร่วงลง 1.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกเจรจาหนี้กรีซยืดเยื้อ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 07:47:48 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากรัฐบาลกรีซประกาศเลื่อนการเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่กรีซจะต้องดำเนินการให้ได้ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่
ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลง 0.1% แตะที่ 264.27 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดลบ 1.84 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 6,764.83 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ 22.65 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 3,405.27 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลบ 8.87 จุดหรือ 0.15% แตะระดับ 5,892.20 จุด
รัฐบาลกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท ระบุว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของกรีซพุ่งขึ้นสู่ระดับ 159.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2554 เพิ่มขึ้นจากระดับ 154.7% ของจีดีพี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มยูโรโซน และสะท้อนให้เห็นว่ากรีซยังคงเผชิญกับภาระหนี้สินมูลค่ามหาศาล แม้รัฐบาลพยายามลดการใช้จ่ายลงจำนวนมากก็ตาม
หุ้นธนาคารโซซิเอเต เจนเนอรัล (ซอคเจน) ร่วงลง 2.9% หุ้นเครดิต อากริโคล ดิ่งลง 2.7%
หุ้นแอร์ ฟรานซ์ ดิ่งลง 4.1% หลังจากสหภาพแรงงานของสายการบินแอร์ ฟรานซ์ ได้ผละงานประท้วงในฝรั่งเศส ส่วนหุ้นเวสตัส วินด์ ซินเต็มส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตกังหันลมรายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 7.7% หลังจากราคาหุ้นของบริษัทถูกปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนโดยนักวิเคราะห์ของไอเอ็นจี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: หวั่นกรีซผิดนัดชำระหนี้ ฉุดนิกเกอิเปิดลบ 25.04 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 08:04:26 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดปรับตัวลง 25.04 จุด แตะที่ 8,904.16 จุดในวันนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มระบบการเงินทั่วโลก อันเป็นผลมาจากความเป็นไปได้ที่ว่า กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้
รัฐบาลกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 140
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 33.07 จุด จากความหวังเจรจากรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 06:27:53 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าการเจรจาในเงื่อนไขต่างๆที่จะนำไปสู่การทำข้อตกลงให้ความช่วยเหลือกรีซรอบใหม่นั้น จะผ่านไปอย่างราบรื่น และจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 33.07 จุด หรือ 0.26% แตะที่ 12,878.20 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.72 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 1,347.05 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 2.09 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 2,904.09 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ในตลาดว่า กรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนที่ถือครองพันธบัตรของกรีซ และคาดว่าการเจรจาของกลุ่มผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องมาตรการลดการใช้จ่ายเพื่อปูทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่นั้น จะมีความคืบหน้าเช่นกัน
ผู้นำพรรคการเมือง 3 พรรคของกรีซได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอสในช่วงกลางดึกวานนี้ตามเวลาไทย เพื่อหาบทสรุปมาตรการหั่นลดค่าใช้จ่ายขั้นเด็ดขาด อาทิ การปรับลดเงินเดือนและแก้ปัญหาการว่างงาน ตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้
ประเทศเจ้าหนี้ในกลุ่มยูโรโซน และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ต้องการให้กรีซดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดอย่างเด็ดขาด เพื่อแลกกับเงินกู้ช่วยเหลือก้อนใหม่มูลค่า 1.30 แสนล้านยูโร หรือประมาณ 1.70 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการนำพาประเทศเข้าสู่ภาวะล้มละลาย จากเหตุผิดนัดชำระหนี้ โดยกรีซจะถึงกำหนดต้องชำระหนี้ 1.45 หมื่นล้านยูโร (1.85 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ กรีซยังมีการเจรจากับธนาคารและผู้ถือพันธบัตรในภาคเอกชนรายอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระหนี้ของกรีซ ลงราว 1 แสนล้านยูโร ซึ่งจะเป็นการลดหนี้ลงจาก 160% ของจีดีพี สู่ระดับ 120% ภายในปี 2563
หุ้นแมคโดนัลด์พุ่งขึ้น 1.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ขณะที่หุ้นโคคา-โคลา พุ่งขึ้น 0.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ามีกำไรรายไตรมาส 1.65 พันล้านดอลลาร์ หรือ 0.72 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้โดยรวมพุ่งขึ้น 5.2% แตะที่ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นยัม แบรนด์ส พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้พุ่งขึ้น 30% ในไตรมาส 4 และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของร้าน Pizza Hut ในสหรัฐ ซึ่งยัม แบรนด์ เป็นเจ้าของเชนร้านอาหาร Taco Bell, KFC และ Pizza Hut
อย่างไรก็ตาม หุ้นเอมเมอร์สัน อิเล็กทริก ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการผลิต ดิ่งลง 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรร่วงลง 23% อันเนื่องมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น และยอดขายของบริษัทได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 1.94 จุด ขณะตลาดจับตาเจรจากรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 07:27:33 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมระหว่างผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องข้อตกลงการปรับลดการใช้จ่าย ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่จำเป็นต่อการรับความช่วยเหลือด้านการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากจีนระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนอาจจะชะลอตัวลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5890.26 จุด ลบ 1.94 จุด
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาของกลุ่มผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องมาตรการลดการใช้จ่ายเพื่อปูทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่ โดยเมื่อวานนี้ผู้นำพรรคการเมือง 3 พรรคของกรีซได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอส เพื่อหาบทสรุปมาตรการหั่นลดค่าใช้จ่ายขั้นเด็ดขาด อาทิ การปรับลดเงินเดือนและแก้ปัญหาการว่างงาน ตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้
การเจรจาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระหนี้ของกรีซ ลงราว 1 แสนล้านยูโร ซึ่งจะเป็นการลดหนี้ลงจาก 160% ของจีดีพี สู่ระดับ 120% ภายในปี 2563 และยังเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง หลังจากราคาโลหะพื้นฐานในตลาดลอนดอนร่วงลง อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ของจีนที่ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนอาจจะชะลอตัวลง ดดยหุ้นเอ็กสตราต้าร่วงลง 4.9% หุ้นริโอทินโต้ร่วงลง 1.9% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับตัวลง 0.9%
หุ้นเบอร์เบอรี่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าหรูหรารายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 1.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ลดลงในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทั่วโลกทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกเจรจากรีซ,ภาคการผลิตเยอรมนีหดตัว
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 07:55:40 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมระหว่างผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องข้อตกลงการปรับลดการใช้จ่าย ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่จำเป็นต่อการรับความช่วยเหลือด้านการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.3% แตะที่ 263.55 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3411.54 จุด บวก 6.27 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6754.20 จุด ลบ 10.63 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5890.26 จุด ลบ 1.94 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา ในขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาของกลุ่มผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องมาตรการลดการใช้จ่ายเพื่อปูทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่ โดยเมื่อวานนี้ผู้นำพรรคการเมือง 3 พรรคของกรีซได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอส เพื่อหาบทสรุปมาตรการหั่นลดค่าใช้จ่ายขั้นเด็ดขาด อาทิ การปรับลดเงินเดือนและแก้ปัญหาการว่างงาน ตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.9% จากเดือนพ.ย. บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีอาจจะชะลอตัวในขั้นที่รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากที่วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดการเงินทั่วดลก นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้ความต้องการสินค้าของเยอรมนีหดตัวลงด้วย
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ร่วงลง โดยหุ้น Bayerische Motoren Werke (BMW) ร่วงลง 2% หุ้นเรโนลท์ ดิ่งลง 1%
ส่วนหุ้นแอลวีเอ็มเอช โมเอต์ อองเนสซี หลุยส์ วิตตอง ผู้จำหน่ายสินค้าหรูหรา เช่นกระเป๋า Celine และนาฬิกา TAG Heuer ร่วงลง 2.6% หลังจากมีรายงานว่าเปาโลและนิโคลา บุลการี ประธานและรองประธานของบุลการี และฟรานเซสโก ทราปานี ได้ขายหุ้นในบริษัทแอลวีเอ็มเอช จำนวน 4.48 ล้านหุ้น มูลค่า 558 ล้านยูโร หรือ 733 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นสวอช ซึ่งเป็นผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ของโลก ดิ่งลง 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 1.61 พันล้านฟรังค์ หรือ 1.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม หุ้นอาร์เซเลอร์มิตตัล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ารายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 1.71 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 1.68 พันล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: แรงซื้อหุ้นส่งออก หนุนนิกเกอิเปิดบวก 54.36 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 08:10:54 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดบวก 54.36 จุด แตะที่ 8,971.88 จุดในวันนี้ (8 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก อันเนื่องมาจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร
โบรกเกอร์กล่าวว่า หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น หลังจากสกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 101 เยนในช่วงเช้าวันนี้ อันเนื่องมาจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 06:27:53 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าการเจรจาในเงื่อนไขต่างๆที่จะนำไปสู่การทำข้อตกลงให้ความช่วยเหลือกรีซรอบใหม่นั้น จะผ่านไปอย่างราบรื่น และจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 33.07 จุด หรือ 0.26% แตะที่ 12,878.20 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.72 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 1,347.05 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 2.09 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 2,904.09 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ในตลาดว่า กรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนที่ถือครองพันธบัตรของกรีซ และคาดว่าการเจรจาของกลุ่มผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องมาตรการลดการใช้จ่ายเพื่อปูทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่นั้น จะมีความคืบหน้าเช่นกัน
ผู้นำพรรคการเมือง 3 พรรคของกรีซได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอสในช่วงกลางดึกวานนี้ตามเวลาไทย เพื่อหาบทสรุปมาตรการหั่นลดค่าใช้จ่ายขั้นเด็ดขาด อาทิ การปรับลดเงินเดือนและแก้ปัญหาการว่างงาน ตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้
ประเทศเจ้าหนี้ในกลุ่มยูโรโซน และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ต้องการให้กรีซดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดอย่างเด็ดขาด เพื่อแลกกับเงินกู้ช่วยเหลือก้อนใหม่มูลค่า 1.30 แสนล้านยูโร หรือประมาณ 1.70 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการนำพาประเทศเข้าสู่ภาวะล้มละลาย จากเหตุผิดนัดชำระหนี้ โดยกรีซจะถึงกำหนดต้องชำระหนี้ 1.45 หมื่นล้านยูโร (1.85 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ กรีซยังมีการเจรจากับธนาคารและผู้ถือพันธบัตรในภาคเอกชนรายอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระหนี้ของกรีซ ลงราว 1 แสนล้านยูโร ซึ่งจะเป็นการลดหนี้ลงจาก 160% ของจีดีพี สู่ระดับ 120% ภายในปี 2563
หุ้นแมคโดนัลด์พุ่งขึ้น 1.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ขณะที่หุ้นโคคา-โคลา พุ่งขึ้น 0.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ามีกำไรรายไตรมาส 1.65 พันล้านดอลลาร์ หรือ 0.72 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้โดยรวมพุ่งขึ้น 5.2% แตะที่ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นยัม แบรนด์ส พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้พุ่งขึ้น 30% ในไตรมาส 4 และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของร้าน Pizza Hut ในสหรัฐ ซึ่งยัม แบรนด์ เป็นเจ้าของเชนร้านอาหาร Taco Bell, KFC และ Pizza Hut
อย่างไรก็ตาม หุ้นเอมเมอร์สัน อิเล็กทริก ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการผลิต ดิ่งลง 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรร่วงลง 23% อันเนื่องมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น และยอดขายของบริษัทได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 1.94 จุด ขณะตลาดจับตาเจรจากรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 07:27:33 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมระหว่างผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องข้อตกลงการปรับลดการใช้จ่าย ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่จำเป็นต่อการรับความช่วยเหลือด้านการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากจีนระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนอาจจะชะลอตัวลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5890.26 จุด ลบ 1.94 จุด
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาของกลุ่มผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องมาตรการลดการใช้จ่ายเพื่อปูทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่ โดยเมื่อวานนี้ผู้นำพรรคการเมือง 3 พรรคของกรีซได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอส เพื่อหาบทสรุปมาตรการหั่นลดค่าใช้จ่ายขั้นเด็ดขาด อาทิ การปรับลดเงินเดือนและแก้ปัญหาการว่างงาน ตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้
การเจรจาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระหนี้ของกรีซ ลงราว 1 แสนล้านยูโร ซึ่งจะเป็นการลดหนี้ลงจาก 160% ของจีดีพี สู่ระดับ 120% ภายในปี 2563 และยังเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง หลังจากราคาโลหะพื้นฐานในตลาดลอนดอนร่วงลง อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ของจีนที่ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนอาจจะชะลอตัวลง ดดยหุ้นเอ็กสตราต้าร่วงลง 4.9% หุ้นริโอทินโต้ร่วงลง 1.9% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับตัวลง 0.9%
หุ้นเบอร์เบอรี่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าหรูหรารายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 1.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ลดลงในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทั่วโลกทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกเจรจากรีซ,ภาคการผลิตเยอรมนีหดตัว
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 07:55:40 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมระหว่างผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องข้อตกลงการปรับลดการใช้จ่าย ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่จำเป็นต่อการรับความช่วยเหลือด้านการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.3% แตะที่ 263.55 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3411.54 จุด บวก 6.27 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6754.20 จุด ลบ 10.63 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5890.26 จุด ลบ 1.94 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา ในขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาของกลุ่มผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องมาตรการลดการใช้จ่ายเพื่อปูทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่ โดยเมื่อวานนี้ผู้นำพรรคการเมือง 3 พรรคของกรีซได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอส เพื่อหาบทสรุปมาตรการหั่นลดค่าใช้จ่ายขั้นเด็ดขาด อาทิ การปรับลดเงินเดือนและแก้ปัญหาการว่างงาน ตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.9% จากเดือนพ.ย. บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีอาจจะชะลอตัวในขั้นที่รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากที่วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดการเงินทั่วดลก นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้ความต้องการสินค้าของเยอรมนีหดตัวลงด้วย
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ร่วงลง โดยหุ้น Bayerische Motoren Werke (BMW) ร่วงลง 2% หุ้นเรโนลท์ ดิ่งลง 1%
ส่วนหุ้นแอลวีเอ็มเอช โมเอต์ อองเนสซี หลุยส์ วิตตอง ผู้จำหน่ายสินค้าหรูหรา เช่นกระเป๋า Celine และนาฬิกา TAG Heuer ร่วงลง 2.6% หลังจากมีรายงานว่าเปาโลและนิโคลา บุลการี ประธานและรองประธานของบุลการี และฟรานเซสโก ทราปานี ได้ขายหุ้นในบริษัทแอลวีเอ็มเอช จำนวน 4.48 ล้านหุ้น มูลค่า 558 ล้านยูโร หรือ 733 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นสวอช ซึ่งเป็นผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ของโลก ดิ่งลง 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 1.61 พันล้านฟรังค์ หรือ 1.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม หุ้นอาร์เซเลอร์มิตตัล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ารายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 1.71 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 1.68 พันล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: แรงซื้อหุ้นส่งออก หนุนนิกเกอิเปิดบวก 54.36 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 08:10:54 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดบวก 54.36 จุด แตะที่ 8,971.88 จุดในวันนี้ (8 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก อันเนื่องมาจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร
โบรกเกอร์กล่าวว่า หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น หลังจากสกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 101 เยนในช่วงเช้าวันนี้ อันเนื่องมาจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 141
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 5.75 จุด จากความหวังเจรจากรีซราบรื่น
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 06:32:17 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังว่าผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลของกรีซจะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับลดการใช้จ่าย ซึ่งจะปูทางให้กรีซสามารถรับความช่วยเหลือครั้งใหม่จากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 5.75 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 12,883.95 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.91 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 1,349.96 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 11.78 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 2,915.86 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนต่างก็คาดหวังว่าการเจรจาเรื่องหนี้สินของกรีซจะลุล่วงไปด้วยดี และคาดว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยอมรับเงื่อนไขการปรับลดมูลค่าพันธบัตรของกรีซที่อีซีบีถือครองอยู่ ตามโครงการปรับโครงสร้างหนี้ที่มีเป้าหมายในการลดภาระหนี้สินของกรีซ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนหนึ่งวิตกกังวลว่า การเจรจาที่ยืดเยื้อยาวนานอาจจะทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และจะฉุดรั้งเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคให้ถดถอยลงด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลกรีซจะต้องชำระหนี้ 1.45 หมื่นล้านยูโร (1.85 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ 20 มีนาคมนี้แล้ว แต่กรีซก็ยังไม่สามารถหาเงินได้ ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปยูโรโซนก็เสี่ยงเผชิญวิกฤตการเงินระลอกใหม่
นายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอส ของกรีซ ได้จัดการเจรจากับบรรดาผู้นำทางการเมืองของกรีซที่สนับสนุนรัฐบาลที่กรุงเอเธนส์ เมื่อวานนี้เวลา 15.00 น.ตามเวลากรีซ หลังจากที่เขาเลื่อนการประชุมดังกล่าวออกไปหนึ่งวัน เพื่อจัดประชุมกับกลุ่มทรอยก้า (troika) ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี), อีซีบี และไอเอ็มเอฟแทน เพื่อต่อรองเงื่อนไขในการขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมมูลค่า 1.3 แสนล้านยูโร (1.72 พันล้านดอลลาร์)
นักวิเคราะห์มองว่าการที่ผู้นำพรรคการเมืองกรีซลังเลที่จะยอมรับเงื่อนไขที่เข้มงวดจากในมาตรการรัดเข็มขัดนั้น เพราะมองว่าอาจจะทำให้ชาวกรีซมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากมากขึ้น และอาจสร้างความไม่พอใจแก่ประชาชน และในที่สุดก็อาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของบรรดาพรรคการเมืองในช่วงใกล้เลือกตั้งในเดือนเม.ย.
หุ้นวอลท์ ดีสนีย์ ดีดตัวขึ้น 0.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นซีซาร์ส เอนเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทคาสิโนรายใหญ่ของสหรัฐทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 71% หลังจากบริษัทเสนอขายหุ้น IPO เมื่อวานนี้
หุ้นราล์ฟ ลอเรน พุ่งขึ้น 9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิและผลประกอบการไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผู้บริโภคกลุ่มที่ร่ำรวยนั้น เริ่มกลับมาจับจ่ายซื้อของกันมากขึ้น แม้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าและอัตราว่างงานยังอยู่ในระดับที่สูงมากก็ตาม
หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4 ทะยานขึ้น 43%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในคืนนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกเจรจาหนี้กรีซยืดเยื้อ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 14.33 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 07:47:46 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนนักลงทุนวิตกกังวลว่าผู้นำพรรคการเมืองของกรีซอาจจะไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆที่จะทำให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่จากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง 14.33 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 5,875.93 จุด
นักลงทุนกังวลว่าการเจรจาระหว่างผู้นำการเมืองของกรีซอาจจะยืดเยื้อจนเป็นเหตุให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และจะฉุดรั้งเศรษฐกิจในยูโรโซนให้ถดถอยลงด้วย
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 2.3% หลังจากผลกำไรของบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเมืองรายใหญ่สุดของโลก ปรับตัวลดลง 5.5% สู่ระดับ 9.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลา 6 เดือนซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2554 อันเป็นผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง รวมถึงข้อจำกัดในการผลิต
บีเอชพี บิลลิตันระบุว่า วิกฤตเศรษฐกิจยุโรปได้ส่งผลให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์หดตัวลงและฉุดราคาสินค้าหลายรายการของบีเอชพี บิลลิตันลดลงในปีที่แล้ว
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล เพาเวอร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า ดิ่งลง 2.8% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการรืผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นเซนทริกา ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายพลังงานไฟฟ้าและก๊าซรายใหญ่สุดของอังกฤษ ร่วงลง 2.7% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทปิโตรเลียม เนชันแนล ของมาเลเซีย จะขายหุ้นทั้งหมด 199.4 หุ้นที่ถืออยู่ในเซนทริกา
อย่างไรก็ตาม หุ้นเรคคิทท์ เบนไคเซอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำยาทำความสะอาด "Dettol" พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถทำยอดขายในปี 2555 ได้เพิ่มขึ้น ภายหลังจากผลประกอบการไตรมาส 4 ออกมาดีเกินคาด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หวั่นเจรจาหนี้กรีซไม่คืบหน้า ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 08:01:25 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ระดับโลก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.2% ปิดที่ 263.01 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง 5.44 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 6,748.76 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสขยับลง 1.54 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 3,410.00 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวลง 14.33 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 5,875.93 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบียังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่าการเจรจาข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือกรีซใกล้จะได้ข้อสรุป
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลง 2.3 ของราคาหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน หลังจากผลกำไรของบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเมืองรายใหญ่สุดของโลก ปรับตัวลดลง 5.5% สู่ระดับ 9.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลา 6 เดือนซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2554 อันเป็นผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง รวมถึงข้อจำกัดในการผลิต
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปดีดตัวขึ้น โดยหุ้นยูนิเครดิต ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอิตาลี พุ่งขึ้น 2.25 และหุ้นอินเทซา ซานเปาโล ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของอิตาลี ทะยานขึ้น 3%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมอีซีบีในเวลา 19.45 น.ในวันนี้ตามเวลาไทย โดยที่ประชุมจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และจากนั้นเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย จะเป็นการแถลงข่าวของประธานอีซีบี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 25.37 จุดเช้านี้ ตลาดจับตา CPI จีน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 08:12:56 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลง 25.37 จุด หรือ 0.285 แตะที่ 8,990.22 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความระมัดระวังในการซื้อขาย ก่อนที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) จะเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในวันนี้
โบรกเกอร์กล่าว่า นักลงทุนจับตาดู NBS ที่จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) และดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ประจำเดือนม.ค.ของจีน ซึ่งจะมีการประกาศในวันนี้เวลา 08.30 น.ตามเวลาไทย โดยคาดว่าหากตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลง ก็อาจทำให้รัฐบาลจีนตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 06:32:17 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังว่าผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลของกรีซจะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับลดการใช้จ่าย ซึ่งจะปูทางให้กรีซสามารถรับความช่วยเหลือครั้งใหม่จากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 5.75 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 12,883.95 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.91 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 1,349.96 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 11.78 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 2,915.86 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนต่างก็คาดหวังว่าการเจรจาเรื่องหนี้สินของกรีซจะลุล่วงไปด้วยดี และคาดว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยอมรับเงื่อนไขการปรับลดมูลค่าพันธบัตรของกรีซที่อีซีบีถือครองอยู่ ตามโครงการปรับโครงสร้างหนี้ที่มีเป้าหมายในการลดภาระหนี้สินของกรีซ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนหนึ่งวิตกกังวลว่า การเจรจาที่ยืดเยื้อยาวนานอาจจะทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และจะฉุดรั้งเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคให้ถดถอยลงด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลกรีซจะต้องชำระหนี้ 1.45 หมื่นล้านยูโร (1.85 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ 20 มีนาคมนี้แล้ว แต่กรีซก็ยังไม่สามารถหาเงินได้ ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปยูโรโซนก็เสี่ยงเผชิญวิกฤตการเงินระลอกใหม่
นายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอส ของกรีซ ได้จัดการเจรจากับบรรดาผู้นำทางการเมืองของกรีซที่สนับสนุนรัฐบาลที่กรุงเอเธนส์ เมื่อวานนี้เวลา 15.00 น.ตามเวลากรีซ หลังจากที่เขาเลื่อนการประชุมดังกล่าวออกไปหนึ่งวัน เพื่อจัดประชุมกับกลุ่มทรอยก้า (troika) ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี), อีซีบี และไอเอ็มเอฟแทน เพื่อต่อรองเงื่อนไขในการขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมมูลค่า 1.3 แสนล้านยูโร (1.72 พันล้านดอลลาร์)
นักวิเคราะห์มองว่าการที่ผู้นำพรรคการเมืองกรีซลังเลที่จะยอมรับเงื่อนไขที่เข้มงวดจากในมาตรการรัดเข็มขัดนั้น เพราะมองว่าอาจจะทำให้ชาวกรีซมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากมากขึ้น และอาจสร้างความไม่พอใจแก่ประชาชน และในที่สุดก็อาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของบรรดาพรรคการเมืองในช่วงใกล้เลือกตั้งในเดือนเม.ย.
หุ้นวอลท์ ดีสนีย์ ดีดตัวขึ้น 0.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นซีซาร์ส เอนเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทคาสิโนรายใหญ่ของสหรัฐทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 71% หลังจากบริษัทเสนอขายหุ้น IPO เมื่อวานนี้
หุ้นราล์ฟ ลอเรน พุ่งขึ้น 9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิและผลประกอบการไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผู้บริโภคกลุ่มที่ร่ำรวยนั้น เริ่มกลับมาจับจ่ายซื้อของกันมากขึ้น แม้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าและอัตราว่างงานยังอยู่ในระดับที่สูงมากก็ตาม
หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4 ทะยานขึ้น 43%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในคืนนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกเจรจาหนี้กรีซยืดเยื้อ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 14.33 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 07:47:46 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนนักลงทุนวิตกกังวลว่าผู้นำพรรคการเมืองของกรีซอาจจะไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆที่จะทำให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่จากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง 14.33 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 5,875.93 จุด
นักลงทุนกังวลว่าการเจรจาระหว่างผู้นำการเมืองของกรีซอาจจะยืดเยื้อจนเป็นเหตุให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และจะฉุดรั้งเศรษฐกิจในยูโรโซนให้ถดถอยลงด้วย
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 2.3% หลังจากผลกำไรของบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเมืองรายใหญ่สุดของโลก ปรับตัวลดลง 5.5% สู่ระดับ 9.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลา 6 เดือนซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2554 อันเป็นผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง รวมถึงข้อจำกัดในการผลิต
บีเอชพี บิลลิตันระบุว่า วิกฤตเศรษฐกิจยุโรปได้ส่งผลให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์หดตัวลงและฉุดราคาสินค้าหลายรายการของบีเอชพี บิลลิตันลดลงในปีที่แล้ว
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล เพาเวอร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า ดิ่งลง 2.8% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการรืผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นเซนทริกา ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายพลังงานไฟฟ้าและก๊าซรายใหญ่สุดของอังกฤษ ร่วงลง 2.7% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทปิโตรเลียม เนชันแนล ของมาเลเซีย จะขายหุ้นทั้งหมด 199.4 หุ้นที่ถืออยู่ในเซนทริกา
อย่างไรก็ตาม หุ้นเรคคิทท์ เบนไคเซอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำยาทำความสะอาด "Dettol" พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถทำยอดขายในปี 2555 ได้เพิ่มขึ้น ภายหลังจากผลประกอบการไตรมาส 4 ออกมาดีเกินคาด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หวั่นเจรจาหนี้กรีซไม่คืบหน้า ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 08:01:25 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ระดับโลก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.2% ปิดที่ 263.01 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง 5.44 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 6,748.76 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสขยับลง 1.54 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 3,410.00 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวลง 14.33 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 5,875.93 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบียังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่าการเจรจาข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือกรีซใกล้จะได้ข้อสรุป
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลง 2.3 ของราคาหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน หลังจากผลกำไรของบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเมืองรายใหญ่สุดของโลก ปรับตัวลดลง 5.5% สู่ระดับ 9.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลา 6 เดือนซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2554 อันเป็นผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง รวมถึงข้อจำกัดในการผลิต
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปดีดตัวขึ้น โดยหุ้นยูนิเครดิต ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอิตาลี พุ่งขึ้น 2.25 และหุ้นอินเทซา ซานเปาโล ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของอิตาลี ทะยานขึ้น 3%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมอีซีบีในเวลา 19.45 น.ในวันนี้ตามเวลาไทย โดยที่ประชุมจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และจากนั้นเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย จะเป็นการแถลงข่าวของประธานอีซีบี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 25.37 จุดเช้านี้ ตลาดจับตา CPI จีน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 08:12:56 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลง 25.37 จุด หรือ 0.285 แตะที่ 8,990.22 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความระมัดระวังในการซื้อขาย ก่อนที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) จะเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในวันนี้
โบรกเกอร์กล่าว่า นักลงทุนจับตาดู NBS ที่จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) และดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ประจำเดือนม.ค.ของจีน ซึ่งจะมีการประกาศในวันนี้เวลา 08.30 น.ตามเวลาไทย โดยคาดว่าหากตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลง ก็อาจทำให้รัฐบาลจีนตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 142
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก 6.51 จุดรับข่าวกรีซ,ข้อมูลศก.สหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 06:40:08 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ ซึ่งจะปูทางให้กรีซได้รับเงินกู้รอบสอง อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลหลังจากรมว.คลังเยอรมนีได้แสดงความวิตกกังวลว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจมีคุณสมบัติไม่มากพอที่จะช่วยให้กรีซได้รับความช่วยเหลือรอบสองได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 6.51 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 12,890.46 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.99 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 1,351.95 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 11.37 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 2,927.23 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ตามที่กลุ่มเจ้าหนี้เรียกร้อง เพื่อแลกกับเงินกู้รอบสองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระเงินกู้คืนเจ้าหนี้เอกชนเป็นจำนวน 1.44 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มีนาคมนี้
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ก.พ. ลดลง 15,000 ราย มาอยู่ที่ 358,000 ราย สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ นับเป็นหลักฐานล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1% และธนาคารกลางอังกฤษประกาศขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ในการประชุมเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากที่รมว.คลังเยอรมนีได้ออกมาแสดงความกังวลว่า ข้อตกลงที่ผู้นำทางการเมืองของกรีซทำร่วมกันนั้นอาจมีคุณสมบัติไม่มากพอที่จะช่วยให้กรีซได้รับความช่วยเหลือรอบสองได้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่า กรีซอาจจะไม่สามารถดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดได้อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากขณะนี้ประชาชนจำนวนมากได้ออกมาชุมนุมประท้วงเรื่องการตำแหน่งงานและลดค่าแรง ซึ่งการชุมนุมประท้วงมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงมากขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข่าวบริษัท เป๊ปซี่ อิงค์ วางแผนปรับลดจำนวนพนักงาน 8,700 ตำแหน่ง หรือคิดเป็นสัดส่วน 3% ของกำลังคนทั้งหมดของบริษัท นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2555 ด้วย ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นเป๊ปซี่ร่วงลง 4%
หุ้นไดมอน ฟู๊ดส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตขนมขบเคี้ยว "Emerald Nuts" และ "Pop Secret" ดิ่งลง 37% หลังจากมีรายงานว่าไดมอน ฟู๊ดส์ ได้ปลดผู้บริหาร 2 คนออกจากตำแหน่ง อันเนื่องมาจากเรื่องอื้อฉาวด้านบัญชี
อย่างไรก็ดี หุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 3.46% เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าแอปเปิลจะมียอดจำหน่าย iPhone 4S ที่สูงมาก และนักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่าแอปเปิลเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPad 3 ในเดือนมี.ค.นี้
นักลงทุนจับตาดุข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 19.54 จุดหลังแบงก์ชาติอังกฤษขยาย QE
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 07:35:26 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ ซึ่งจะปูทางให้กรีซได้รับเงินกู้รอบสอง และธนาคารกลางอังกฤษประกาศขยายโครงการซื้อสินทรัพย์
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 19.54 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 5,895.47 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นขานรับข่าวผู้นำพรรคการเมืองของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่เพื่อแลกกับเงินกู้รอบสองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโรจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางอังกฤษประกาศขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ในการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนธ.ค. อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตอุปกรณ์ด้าการขนส่งและอุตสาหกรมอาหาร รวมทั้งรายงานจากทางสหรัฐที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ก.พ. ซึ่งปรับตัวลดลง 15,000 ราย มาอยู่ที่ 358,000 ราย
หุ้นบีจี กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ พ่งขึ้น 3.25 หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่หุ้นแกลคโซสมิธไคลน์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ ดีดขึ้น 1.2% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในหลายประเทศของยุโรป
อย่างไรก็ตาม หุ้นเทท แอนด์ ไลล์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลเทียมรายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 3.2% หลัจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงมาอยู่ที่ระดับ “underperform"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ข้อตกลงกรีซ,อีซีบีตรึงดบ.หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 08:00:27 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากผู้นำพรรคการเมืองของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบสอง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% แตะที่ 263.64 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีดีดขึ้น 40.04 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 6,788.80 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 14.71 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 3,424.71 จุด และดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 19.54 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 5,895.47 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่เพื่อแลกกับเงินกู้รอบสองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโรจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระเงินกู้คืนเจ้าหนี้เอกชนเป็นจำนวน 1.44 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนหลังจากอีซีบีตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับแถลงว่า อีซีบีจะรอดูผลของมาตรการปล่อยเงินกู้ระยะยาวที่ได้ดำเนินการไปเมื่อปลายปีที่แล้วและเตรียมที่จะดำเนินการอีกเป็นครั้งที่สองในปลายเดือนนี้
หุ้นเดมเลอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 39%
หุ้นกลุ่มการเงินของยุโรปปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยหุ้นเคบีซี กรุ๊ป ซึ่เงป็นธนาคารและบริษัทประกันรายใหญ่ของเบลเยี่ยม พุ่งขึ้น 8.3% หุ้นดีเอ็นบี เอเอสเอ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของนอร์เวย์ พุ่งขึ้น 8.3% ส่วนหุ้น Danske Bank ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเดนมาร์ก ทะยานขึ้น 5%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเครดิต สวิส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ร่วงลง 3.5% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่ามียอดขาดทุนสุทธิ 637 ล้านฟรังก์สวิส (698 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างวาณิชธนกิจ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: ข่าวกรีซหนุนนิกเกอิเปิดตลาดบวก 8.29 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 08:09:10 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดบวก 8.29 จุด แตะที่ 9,010.53 จุดในวันนี้ (10 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวผู้นำพรรคการเมืองของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้
นายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่เพื่อแลกกับเงินกู้รอบสองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโรจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ก่อนที่ขยับลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มได้เข้ามาทุบขายทำกำไร หลังจากนิกเกอิทะยานขึ้นเหนือแนวต้านที่ระดับ 9,000 จุดเมื่อวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 06:40:08 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ ซึ่งจะปูทางให้กรีซได้รับเงินกู้รอบสอง อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลหลังจากรมว.คลังเยอรมนีได้แสดงความวิตกกังวลว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจมีคุณสมบัติไม่มากพอที่จะช่วยให้กรีซได้รับความช่วยเหลือรอบสองได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 6.51 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 12,890.46 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.99 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 1,351.95 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 11.37 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 2,927.23 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ตามที่กลุ่มเจ้าหนี้เรียกร้อง เพื่อแลกกับเงินกู้รอบสองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระเงินกู้คืนเจ้าหนี้เอกชนเป็นจำนวน 1.44 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มีนาคมนี้
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ก.พ. ลดลง 15,000 ราย มาอยู่ที่ 358,000 ราย สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ นับเป็นหลักฐานล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1% และธนาคารกลางอังกฤษประกาศขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ในการประชุมเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากที่รมว.คลังเยอรมนีได้ออกมาแสดงความกังวลว่า ข้อตกลงที่ผู้นำทางการเมืองของกรีซทำร่วมกันนั้นอาจมีคุณสมบัติไม่มากพอที่จะช่วยให้กรีซได้รับความช่วยเหลือรอบสองได้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่า กรีซอาจจะไม่สามารถดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดได้อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากขณะนี้ประชาชนจำนวนมากได้ออกมาชุมนุมประท้วงเรื่องการตำแหน่งงานและลดค่าแรง ซึ่งการชุมนุมประท้วงมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงมากขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข่าวบริษัท เป๊ปซี่ อิงค์ วางแผนปรับลดจำนวนพนักงาน 8,700 ตำแหน่ง หรือคิดเป็นสัดส่วน 3% ของกำลังคนทั้งหมดของบริษัท นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2555 ด้วย ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นเป๊ปซี่ร่วงลง 4%
หุ้นไดมอน ฟู๊ดส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตขนมขบเคี้ยว "Emerald Nuts" และ "Pop Secret" ดิ่งลง 37% หลังจากมีรายงานว่าไดมอน ฟู๊ดส์ ได้ปลดผู้บริหาร 2 คนออกจากตำแหน่ง อันเนื่องมาจากเรื่องอื้อฉาวด้านบัญชี
อย่างไรก็ดี หุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 3.46% เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าแอปเปิลจะมียอดจำหน่าย iPhone 4S ที่สูงมาก และนักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่าแอปเปิลเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPad 3 ในเดือนมี.ค.นี้
นักลงทุนจับตาดุข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 19.54 จุดหลังแบงก์ชาติอังกฤษขยาย QE
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 07:35:26 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ ซึ่งจะปูทางให้กรีซได้รับเงินกู้รอบสอง และธนาคารกลางอังกฤษประกาศขยายโครงการซื้อสินทรัพย์
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 19.54 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 5,895.47 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นขานรับข่าวผู้นำพรรคการเมืองของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่เพื่อแลกกับเงินกู้รอบสองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโรจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางอังกฤษประกาศขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ในการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนธ.ค. อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตอุปกรณ์ด้าการขนส่งและอุตสาหกรมอาหาร รวมทั้งรายงานจากทางสหรัฐที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ก.พ. ซึ่งปรับตัวลดลง 15,000 ราย มาอยู่ที่ 358,000 ราย
หุ้นบีจี กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ พ่งขึ้น 3.25 หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่หุ้นแกลคโซสมิธไคลน์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ ดีดขึ้น 1.2% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในหลายประเทศของยุโรป
อย่างไรก็ตาม หุ้นเทท แอนด์ ไลล์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลเทียมรายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 3.2% หลัจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงมาอยู่ที่ระดับ “underperform"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ข้อตกลงกรีซ,อีซีบีตรึงดบ.หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 08:00:27 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากผู้นำพรรคการเมืองของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบสอง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% แตะที่ 263.64 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีดีดขึ้น 40.04 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 6,788.80 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 14.71 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 3,424.71 จุด และดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 19.54 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 5,895.47 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่เพื่อแลกกับเงินกู้รอบสองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโรจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระเงินกู้คืนเจ้าหนี้เอกชนเป็นจำนวน 1.44 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนหลังจากอีซีบีตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับแถลงว่า อีซีบีจะรอดูผลของมาตรการปล่อยเงินกู้ระยะยาวที่ได้ดำเนินการไปเมื่อปลายปีที่แล้วและเตรียมที่จะดำเนินการอีกเป็นครั้งที่สองในปลายเดือนนี้
หุ้นเดมเลอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 39%
หุ้นกลุ่มการเงินของยุโรปปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยหุ้นเคบีซี กรุ๊ป ซึ่เงป็นธนาคารและบริษัทประกันรายใหญ่ของเบลเยี่ยม พุ่งขึ้น 8.3% หุ้นดีเอ็นบี เอเอสเอ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของนอร์เวย์ พุ่งขึ้น 8.3% ส่วนหุ้น Danske Bank ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเดนมาร์ก ทะยานขึ้น 5%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเครดิต สวิส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ร่วงลง 3.5% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่ามียอดขาดทุนสุทธิ 637 ล้านฟรังก์สวิส (698 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างวาณิชธนกิจ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: ข่าวกรีซหนุนนิกเกอิเปิดตลาดบวก 8.29 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 08:09:10 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดบวก 8.29 จุด แตะที่ 9,010.53 จุดในวันนี้ (10 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวผู้นำพรรคการเมืองของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้
นายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่เพื่อแลกกับเงินกู้รอบสองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโรจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ก่อนที่ขยับลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มได้เข้ามาทุบขายทำกำไร หลังจากนิกเกอิทะยานขึ้นเหนือแนวต้านที่ระดับ 9,000 จุดเมื่อวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 143
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังยูโรโซนเลื่อนตัดสินใจอุ้มกรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 06:36:10 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเลื่อนการตัดสินใจเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสอง ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดในเดือนหน้านี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.9% ปิดที่ 261.24 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6692.96 จุด ลบ 95.84 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3373.14 จุด ลบ 51.57 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5852.39 จุด ลบ 43.08 จุด
ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้เลื่อนการตัดสินใจเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 โดยระบุว่า รัฐบาลกรีซยังดำเนินการไม่มากพอที่จะโน้มน้าวให้สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อนุมัติการให้ความช่วยเหลือรอบใหม่ได้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานศุลกากรแห่งจีน (GAC) ที่ระบุว่า ยอดการส่งออกของจีนในเดือนม.ค.ลดลง 0.5% เทียบรายปี มาอยู่ที่ระดับ 1.4994 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดการนำเข้าร่วงลง 15.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 1.2266 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนลดลง 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 2.726 แสนล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นคอมเมิร์ซ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของเยอรมนี ดิ่งลง 5.2% หุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของกรีซ ร่วงลง 9.5% หุ้นอัลฟา แบงก์ ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของกรีซ ร่วงลง 9.4% และหุ้นอีเอฟจี ยูโรแบงก์ เออร์กาเซียร์ส ร่วงลง 9.3%
หุ้นซาบ (Saab) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสวีเดน ร่วงลง 8.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิ 413 ล้านโครเนอร์ (62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 474 ล้านโครเนอร์
หุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ ซึ่งเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 12% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2555 ขณะที่หุ้นโททาล ร่วงลง 1.4% หลังจากบริษัทวางแผนปรับลดการลงทุนในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2 หมื่นล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 30.68 จุดหลังรัฐสภากรีซไฟเขียวแผนรัดเข็มขัด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 07:40:09 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้น 30.68 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 8,977.85 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซและผลกระทบที่จะมีต่อระบบการเงินทั่วโลก หลังจากรัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดในช่วงเช้าวันนี้
นักลงทุนขานรับรายงานข่าวที่ว่า รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ตามที่พรรคร่วมรัฐบาลของกรีซได้ทำข้อตกลงร่วมกันเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อปูทางให้กรีซสามารถรับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึงจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนหน้า
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 06:36:10 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเลื่อนการตัดสินใจเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสอง ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดในเดือนหน้านี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.9% ปิดที่ 261.24 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6692.96 จุด ลบ 95.84 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3373.14 จุด ลบ 51.57 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5852.39 จุด ลบ 43.08 จุด
ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้เลื่อนการตัดสินใจเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 โดยระบุว่า รัฐบาลกรีซยังดำเนินการไม่มากพอที่จะโน้มน้าวให้สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อนุมัติการให้ความช่วยเหลือรอบใหม่ได้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานศุลกากรแห่งจีน (GAC) ที่ระบุว่า ยอดการส่งออกของจีนในเดือนม.ค.ลดลง 0.5% เทียบรายปี มาอยู่ที่ระดับ 1.4994 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดการนำเข้าร่วงลง 15.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 1.2266 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนลดลง 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 2.726 แสนล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นคอมเมิร์ซ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของเยอรมนี ดิ่งลง 5.2% หุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของกรีซ ร่วงลง 9.5% หุ้นอัลฟา แบงก์ ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของกรีซ ร่วงลง 9.4% และหุ้นอีเอฟจี ยูโรแบงก์ เออร์กาเซียร์ส ร่วงลง 9.3%
หุ้นซาบ (Saab) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสวีเดน ร่วงลง 8.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิ 413 ล้านโครเนอร์ (62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 474 ล้านโครเนอร์
หุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ ซึ่งเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 12% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2555 ขณะที่หุ้นโททาล ร่วงลง 1.4% หลังจากบริษัทวางแผนปรับลดการลงทุนในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2 หมื่นล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 30.68 จุดหลังรัฐสภากรีซไฟเขียวแผนรัดเข็มขัด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 07:40:09 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้น 30.68 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 8,977.85 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซและผลกระทบที่จะมีต่อระบบการเงินทั่วโลก หลังจากรัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดในช่วงเช้าวันนี้
นักลงทุนขานรับรายงานข่าวที่ว่า รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ตามที่พรรคร่วมรัฐบาลของกรีซได้ทำข้อตกลงร่วมกันเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อปูทางให้กรีซสามารถรับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึงจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนหน้า
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 144
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 72.81 จุดหลังกรีซไฟเขียวแผนรัดเข็มขัด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 06:35:02 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) ขานรับข่าวรัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกกับความช่วยเหลือครั้งที่สองจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ตามกำหนดในเดือนหน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 72.81 จุด หรือ 0.57% แตะที่ 12,874.04 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 9.13 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 1,351.77 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 27.51 จุด หรือ 0.955 ปิดที่ 2,931.39 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากรัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการลดค่าแรงขั้นต่ำลง 22% และลดตำแหน่งงานในภาคสาธารณะ 150,000 ตำแหน่ง เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาดูความคืบหน้าในเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 อย่างใกล้ชิด เนื่องจากรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดซึ่งทวีความรุนแรงในกรุงเอเธนส์ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับความไม่สงบทางสังคม และอาจจะทำให้รัฐบาลประสบกับความยากลำบากในการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัด โดยนายจอร์จ คามินิส นายกเทศมนตรีเอเธนส์เปิดเผยว่า กลุ่มประท้วงหัวรุนแรงได้ลอบวางเพลิงอาคาร 17 แห่งในกรุงเอเธนส์ ซึ่งรวมถึงสาขาของธนาคาร 5 แห่ง หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงได้ใช้กำลังปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภา
นักลงทุนจับตาดูการประชุมรอบที่ 2 ของรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนในวันพรุ่งนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยที่ประชุมจะตัดสินใจว่ากรีซใช้ความพยายามมากพอหรือไม่ในการที่จะได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่ ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมได้เลื่อนการตัดสินใจเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 โดยระบุว่า รัฐบาลกรีซยังดำเนินการไม่มากพอที่จะโน้มน้าวให้อียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติการให้ความช่วยเหลือรอบใหม่ได้
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวของไชน่า อินเวสเมนท์ คอร์ปอเรชัน (CIC) ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งของจีน หลังจาก CIC ระบุว่าทางกองทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลยุโรป แต่ทางกองทุนก็ยังคงแสวงหาโอกาสที่จะลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคและอุตสาหกรรมในยุโรปต่อไป
หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดถึง 2.2% ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดีดขึ้น 1.8%
หุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 1.9% ปิดที่ 502.60 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปิดเหนือระดับ 500 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก ขณะที่นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าเกี่ยวกับข่าวที่ว่า แอปเปิล อิงค์ ยังคงเดินหน้าฟ้องบริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ โดยได้ยื่นฟ้องต่อศาลในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อให้สั่งระงับการขาย กาแล็กซี่ เนซัส ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของซัมซุงที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เนื่องจากมีรูปแบบการทำงานคล้ายกับไอโฟน ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนของแอปเปิล
หุ้นบริดจ์สโตน ร่วงลง 4.99% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงมาอยู่ที่ระดับ "hold" จากเดิมที่ระดับ "buy"
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค. วันพุธธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.พ.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 53.31 จุดรับมาตรการรัดเข็มขัดกรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 07:23:01 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) โดยดัชนีดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว เพราะได้แรงหนุนจากข่าวกรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกกับความช่วยเหลือครั้งที่สองจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู)
ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 53.31 จุด หรือ 0.9% ปิดที่ 5,905.7 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนหลังจากรัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากไอเอ็มเอฟและอียู วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
หุ้นโวดาโฟน ซึ่งผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 1% และหุ้นเคเบิล แอน์ ไวร์เลส ทะยานขึ้น 45% หลังจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์สรายงานว่า โวดาโฟนกำลังประเมินความเป็นไปได้ที่จะเทคโอเวอร์กิจการเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส มูลค่า 700 ล้านปอนด์ หรือ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้นริโอ ทินโต พุ่งขึ้น 2%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก หลังกรีซไฟเขียวแผนรัดเข็มขัด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 07:44:13 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) โดยตลาดปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากรัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัด เพื่อแลกกับความช่วยเหลือครั้งที่สองจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ตามกำหนดในเดือนหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 0.7% ปิดที่ 263.17 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีดีดขึ้น 45.51 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 6,738.47 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 11.41 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 3,384.55 จุด และดัชนี FTSE 100 บวก 53.31 จุด หรือ 0.91 % ปิดที่ 5,905.70 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากรัฐสภากรีซมีมติอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการลดค่าแรงขั้นต่ำลง 22% และลดตำแหน่งงานในภาคสาธารณะ 150,000 ตำแหน่ง เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากไอเอ็มเอฟและอียู วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า อิตาลีขายตั๋วเงินคลังได้ตามเป้าหมายที่ 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.59 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการประมูลเมื่อวานนี้ ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมลดลงจากการประมูลครั้งก่อน สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลอิตาลีขายตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปี ได้ 8.5 พันล้านยูโร ที่อัตราดอกเบี้ย 2.230% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และลดลงจากระดับ 2.735% ในการประมูลเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการซื้อพันธบัตรสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูลอยู่ 1.09 เท่า เทียบกับ 1.47 เท่าในการประมูลเดือนที่แล้ว
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดีดขึ้น 1.2% หุ้นริโอ ทินโต้ พุ่งขึ้น 2% และหุ้นแองโกล อเมริกา พุ่งขึ้น 2.6%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 1.6% และหุ้นลอยด์ แบงกิง ดีดตัวขึ้น 2.3%
หุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่สุดของฝรั่งเศส ดิ่งลง 1.9% หลังจากนักวิเคราะห์ของโซซิเอเต เจเนอรัล (ซอคเจน) ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ ลงมาอยู่ที่ระดับ "sell" จากระดับ "hold"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: เยน/ยูโรแข็ง ฉุดนิกเกอิเปิดลบ 20.46 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 08:13:49 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดลดลง 20.46 จุด แตะที่ 8,978.72 จุดในวันนี้ (14 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออก หลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร
นักลงทุนวิตกกังวลว่าการแข็งค่าของเงินเยนจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น โดยสกุลเงินยูโรร่วงลงต่ำกว่าระดับ 102 เยนในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 06:35:02 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) ขานรับข่าวรัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกกับความช่วยเหลือครั้งที่สองจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ตามกำหนดในเดือนหน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 72.81 จุด หรือ 0.57% แตะที่ 12,874.04 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 9.13 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 1,351.77 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 27.51 จุด หรือ 0.955 ปิดที่ 2,931.39 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากรัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการลดค่าแรงขั้นต่ำลง 22% และลดตำแหน่งงานในภาคสาธารณะ 150,000 ตำแหน่ง เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาดูความคืบหน้าในเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 อย่างใกล้ชิด เนื่องจากรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดซึ่งทวีความรุนแรงในกรุงเอเธนส์ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับความไม่สงบทางสังคม และอาจจะทำให้รัฐบาลประสบกับความยากลำบากในการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัด โดยนายจอร์จ คามินิส นายกเทศมนตรีเอเธนส์เปิดเผยว่า กลุ่มประท้วงหัวรุนแรงได้ลอบวางเพลิงอาคาร 17 แห่งในกรุงเอเธนส์ ซึ่งรวมถึงสาขาของธนาคาร 5 แห่ง หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงได้ใช้กำลังปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภา
นักลงทุนจับตาดูการประชุมรอบที่ 2 ของรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนในวันพรุ่งนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยที่ประชุมจะตัดสินใจว่ากรีซใช้ความพยายามมากพอหรือไม่ในการที่จะได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่ ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมได้เลื่อนการตัดสินใจเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 โดยระบุว่า รัฐบาลกรีซยังดำเนินการไม่มากพอที่จะโน้มน้าวให้อียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติการให้ความช่วยเหลือรอบใหม่ได้
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวของไชน่า อินเวสเมนท์ คอร์ปอเรชัน (CIC) ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งของจีน หลังจาก CIC ระบุว่าทางกองทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลยุโรป แต่ทางกองทุนก็ยังคงแสวงหาโอกาสที่จะลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคและอุตสาหกรรมในยุโรปต่อไป
หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดถึง 2.2% ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดีดขึ้น 1.8%
หุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 1.9% ปิดที่ 502.60 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปิดเหนือระดับ 500 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก ขณะที่นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าเกี่ยวกับข่าวที่ว่า แอปเปิล อิงค์ ยังคงเดินหน้าฟ้องบริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ โดยได้ยื่นฟ้องต่อศาลในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อให้สั่งระงับการขาย กาแล็กซี่ เนซัส ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของซัมซุงที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เนื่องจากมีรูปแบบการทำงานคล้ายกับไอโฟน ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนของแอปเปิล
หุ้นบริดจ์สโตน ร่วงลง 4.99% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงมาอยู่ที่ระดับ "hold" จากเดิมที่ระดับ "buy"
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค. วันพุธธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.พ.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 53.31 จุดรับมาตรการรัดเข็มขัดกรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 07:23:01 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) โดยดัชนีดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว เพราะได้แรงหนุนจากข่าวกรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกกับความช่วยเหลือครั้งที่สองจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู)
ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 53.31 จุด หรือ 0.9% ปิดที่ 5,905.7 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนหลังจากรัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากไอเอ็มเอฟและอียู วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
หุ้นโวดาโฟน ซึ่งผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 1% และหุ้นเคเบิล แอน์ ไวร์เลส ทะยานขึ้น 45% หลังจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์สรายงานว่า โวดาโฟนกำลังประเมินความเป็นไปได้ที่จะเทคโอเวอร์กิจการเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส มูลค่า 700 ล้านปอนด์ หรือ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้นริโอ ทินโต พุ่งขึ้น 2%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก หลังกรีซไฟเขียวแผนรัดเข็มขัด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 07:44:13 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) โดยตลาดปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากรัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัด เพื่อแลกกับความช่วยเหลือครั้งที่สองจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ตามกำหนดในเดือนหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 0.7% ปิดที่ 263.17 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีดีดขึ้น 45.51 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 6,738.47 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 11.41 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 3,384.55 จุด และดัชนี FTSE 100 บวก 53.31 จุด หรือ 0.91 % ปิดที่ 5,905.70 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากรัฐสภากรีซมีมติอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการลดค่าแรงขั้นต่ำลง 22% และลดตำแหน่งงานในภาคสาธารณะ 150,000 ตำแหน่ง เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากไอเอ็มเอฟและอียู วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า อิตาลีขายตั๋วเงินคลังได้ตามเป้าหมายที่ 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.59 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการประมูลเมื่อวานนี้ ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมลดลงจากการประมูลครั้งก่อน สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลอิตาลีขายตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปี ได้ 8.5 พันล้านยูโร ที่อัตราดอกเบี้ย 2.230% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และลดลงจากระดับ 2.735% ในการประมูลเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการซื้อพันธบัตรสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูลอยู่ 1.09 เท่า เทียบกับ 1.47 เท่าในการประมูลเดือนที่แล้ว
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดีดขึ้น 1.2% หุ้นริโอ ทินโต้ พุ่งขึ้น 2% และหุ้นแองโกล อเมริกา พุ่งขึ้น 2.6%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 1.6% และหุ้นลอยด์ แบงกิง ดีดตัวขึ้น 2.3%
หุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่สุดของฝรั่งเศส ดิ่งลง 1.9% หลังจากนักวิเคราะห์ของโซซิเอเต เจเนอรัล (ซอคเจน) ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ ลงมาอยู่ที่ระดับ "sell" จากระดับ "hold"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: เยน/ยูโรแข็ง ฉุดนิกเกอิเปิดลบ 20.46 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 08:13:49 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดลดลง 20.46 จุด แตะที่ 8,978.72 จุดในวันนี้ (14 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออก หลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร
นักลงทุนวิตกกังวลว่าการแข็งค่าของเงินเยนจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น โดยสกุลเงินยูโรร่วงลงต่ำกว่าระดับ 102 เยนในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 145
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 4.24 จุด แต่ตลาดยังกังวลหนี้ยุโรป
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 06:34:17 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่าผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมของกรีซจะให้การสนับสนุนข้อกำหนดของกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน โดยดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยและดัชนี S&P 500 ปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้เลื่อนการประชุมเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซ และมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 6 ประเทศยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากยอดค้าปลีกของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 4.24 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 12,878.28 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.27 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 1,350.50 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 0.44 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 2,931.83 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงมาอยู่ที่ A3 จาก A2 ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือของสเปนถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ A3 จาก A1 และโปรตุเกสถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ Ba3 จาก Ba2 ขณะเดียวกัน มูดีส์ยังได้ปรับลดอันดับเครดิตของมอลต้า สโลเวเนีย และสโลวาเกีย ลงมา 1 ขั้น
นอกจากนี้ มูดีส์ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรีย ลงสู่ระดับ "เชิงลบ" ซึ่งหมายความว่าอันดับความน่าเชื่อถือของ 3 ประเทศนี้อาจจะถูกปรับลดลงในอนาคตข้างหน้า โดยมูดีส์ระบุว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจมหภาคในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศในยุโรปมีความไม่แน่นอนมากขึ้น
ตลาดได้รับปัจจัยลบมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่ารัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้เลื่อนการประชุมเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซออกไปจากกำหนดเดิมในวันพุธ โดยคาดว่าอาจจะใช้วิธีการประชุมทางโทรศัพท์แทนการจัดประชุมอย่างเป็นทางการ และปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ขยับขี้นเพียง 0.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยน้อยลง โดยเฉพาะยอดซื้อรถยนต์ที่ลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในช่วงท้าย หลังจากนายอันโตนิส ซามาราส ผู้นำพรรคนิว เดโมเครซี ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมของกรีซได้สั่งให้สมาชิกพรรคของเขาลงมติสนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัด และมีการคาดการณ์ว่านายซามาราสจะส่งหนังสือยืนยันความมุ่งมั่นต่อไอเอ็มเอฟ/อียู ซึ่งเป็นผู้ปล่อยเงินกู้
ทั้งนี้ พรรคนิว เดโมเครซีเป็นพรรคที่ได้คะแนนนิยมสูงสุดในขณะนี้ จึงทำให้นายซามาราสได้รับการหมายตาว่าจะเป็นตัวเก็งสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกรีซคนใหม่ หลังจากนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซคนปัจจุบันลาออกจากตำแหน่งเมื่อกรีซได้รับความช่วยเหลือทางการเงินและทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนพันธบัตรในอนาคตแล้ว
หุ้นกู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ ดิ่งลง 5.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ที่น้อยเกินคาด และยังได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุตสาหกรรมยางรถยนต์ทั่วโลก
หุ้นเอวอน โพรดักส์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงาม พุ่งขึ้น 1.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และยังได้ประกาศแผนลดจำนวนพนักงานและลดต้นทุน
หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 3.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลงมาอยู่ที่ระดับ “neutral” ขณะที่หุ้นยาฮู อิงค์ ดิ่งลง 4.7% อย่างไรก็ตาม หุ้นโบอิ้งดีดตัวขึ้น 1% หลังจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินมูลค่ารวม 2.24 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.พ.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 5.83 จุดมูดีส์ขู่ลดเครดิตอังกฤษ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 07:26:17 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสประกาศเตือนว่าจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษและฝรั่งเศส และหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 5.83 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 5,899.87 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนอ่อนแรงลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรีย ลงสู่ระดับ "เชิงลบ" ซึ่งหมายความว่าอันดับความน่าเชื่อถือ AAA ของ 3 ประเทศนี้อาจจะถูกปรับลดลงในอนาคตข้างหน้า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ขยับขี้นเพียง 0.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่าย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นริโอทินโตปิดลบ 3.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 0.5% หลังจากราคาโลหะพื้นฐานปรับตัวลดลง
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารอ่อนแรงลงเช่นกัน โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ร่วงลง 5.2% หุ้นลอยด์ แบงกิง กรุ๊ป ดิ่งลง 2.9% และหุ้นธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ปรับตัวลง 0.5%
อย่างไรก็ตาม หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดตัวขึ้น 1.5% หลังจากราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเบรนท์ของอังกฤษพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันทำการ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ข่าวมูดีส์หั่นเครดิตปท.ยูโรโซน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปร่วง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 07:45:14 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 6 ประเทศในยูโรโซน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะลุกลามรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในกรอบแคบๆ เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีที่ฟื้นตัวขึ้นในเดือนก.พ.
ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 0.2% แตะที่ 262.56 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง 10.28 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 6,728.19 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง 8.91 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 3,375.64 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดอ่อนลง 5.83 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 5,899.87 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงมาอยู่ที่ A3 จาก A2 ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือของสเปนถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ A3 จาก A1 และโปรตุเกสถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ Ba3 จาก Ba2 พร้อมกับปรับลดอันดับเครดิตของมอลต้า สโลเวเนีย และสโลวาเกีย ลงมา 1 ขั้น โดยระบุว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจมหภาคในระดับที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสถาบัน (ZEW) ของเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนพุ่งขึ้น 27 จุด แตะที่ 5.4 จุดในเดือนก.พ. หลังจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมาตัวเลขอยู่ที่ระดับ -21.6 จุด
หุ้น ThyssenKrupp ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของเยอรมี ร่วงลง 3.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4
ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นริโอทินโตปิดลบ 3.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 0.5% หลังจากราคาโลหะพื้นฐานปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม หุ้นโนเกียพุ่งขึ้น 2.1% และหุ้นลอรีอัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางค์รายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้น 3.8%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนครั้งถัดไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.พ. หลังจากที่รัฐมนตรีคลังได้ยกเลิกแผนการที่จะจัดประชุมรอบพิเศษในวันพุธนี้ และตัดสินใจหารือกันทางโทรศัพท์แทน เพื่อหารือเรื่องแผนช่วยเหลือกรีซ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: เงินเยนอ่อนหนุนนิกเกอิเปิดบวก 56.77 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 07:54:09 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดบวก 56.77 จุด แตะ 9,108.84 จุดในวันนี้ (15 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศขยายโครงการซื้อสินทรัพย์เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคาร
สกุลเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากบีโอเจประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ด้วยการขยายโครงการซื้อสินทรัพย์จากสถาบันการเงินภายในประเทศอีก 10 ล้านล้านเยน เป็น 65 ล้านล้านเยน โดยมีเป้าหมายที่จะหนุนสภาพคล่องในระบบการเงินและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 06:34:17 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่าผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมของกรีซจะให้การสนับสนุนข้อกำหนดของกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน โดยดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยและดัชนี S&P 500 ปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้เลื่อนการประชุมเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซ และมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 6 ประเทศยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากยอดค้าปลีกของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 4.24 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 12,878.28 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.27 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 1,350.50 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 0.44 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 2,931.83 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงมาอยู่ที่ A3 จาก A2 ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือของสเปนถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ A3 จาก A1 และโปรตุเกสถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ Ba3 จาก Ba2 ขณะเดียวกัน มูดีส์ยังได้ปรับลดอันดับเครดิตของมอลต้า สโลเวเนีย และสโลวาเกีย ลงมา 1 ขั้น
นอกจากนี้ มูดีส์ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรีย ลงสู่ระดับ "เชิงลบ" ซึ่งหมายความว่าอันดับความน่าเชื่อถือของ 3 ประเทศนี้อาจจะถูกปรับลดลงในอนาคตข้างหน้า โดยมูดีส์ระบุว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจมหภาคในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศในยุโรปมีความไม่แน่นอนมากขึ้น
ตลาดได้รับปัจจัยลบมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่ารัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้เลื่อนการประชุมเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซออกไปจากกำหนดเดิมในวันพุธ โดยคาดว่าอาจจะใช้วิธีการประชุมทางโทรศัพท์แทนการจัดประชุมอย่างเป็นทางการ และปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ขยับขี้นเพียง 0.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยน้อยลง โดยเฉพาะยอดซื้อรถยนต์ที่ลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในช่วงท้าย หลังจากนายอันโตนิส ซามาราส ผู้นำพรรคนิว เดโมเครซี ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมของกรีซได้สั่งให้สมาชิกพรรคของเขาลงมติสนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัด และมีการคาดการณ์ว่านายซามาราสจะส่งหนังสือยืนยันความมุ่งมั่นต่อไอเอ็มเอฟ/อียู ซึ่งเป็นผู้ปล่อยเงินกู้
ทั้งนี้ พรรคนิว เดโมเครซีเป็นพรรคที่ได้คะแนนนิยมสูงสุดในขณะนี้ จึงทำให้นายซามาราสได้รับการหมายตาว่าจะเป็นตัวเก็งสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกรีซคนใหม่ หลังจากนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซคนปัจจุบันลาออกจากตำแหน่งเมื่อกรีซได้รับความช่วยเหลือทางการเงินและทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนพันธบัตรในอนาคตแล้ว
หุ้นกู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ ดิ่งลง 5.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ที่น้อยเกินคาด และยังได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุตสาหกรรมยางรถยนต์ทั่วโลก
หุ้นเอวอน โพรดักส์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงาม พุ่งขึ้น 1.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และยังได้ประกาศแผนลดจำนวนพนักงานและลดต้นทุน
หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 3.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลงมาอยู่ที่ระดับ “neutral” ขณะที่หุ้นยาฮู อิงค์ ดิ่งลง 4.7% อย่างไรก็ตาม หุ้นโบอิ้งดีดตัวขึ้น 1% หลังจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินมูลค่ารวม 2.24 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.พ.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 5.83 จุดมูดีส์ขู่ลดเครดิตอังกฤษ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 07:26:17 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสประกาศเตือนว่าจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษและฝรั่งเศส และหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 5.83 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 5,899.87 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนอ่อนแรงลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรีย ลงสู่ระดับ "เชิงลบ" ซึ่งหมายความว่าอันดับความน่าเชื่อถือ AAA ของ 3 ประเทศนี้อาจจะถูกปรับลดลงในอนาคตข้างหน้า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ขยับขี้นเพียง 0.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่าย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นริโอทินโตปิดลบ 3.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 0.5% หลังจากราคาโลหะพื้นฐานปรับตัวลดลง
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารอ่อนแรงลงเช่นกัน โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ร่วงลง 5.2% หุ้นลอยด์ แบงกิง กรุ๊ป ดิ่งลง 2.9% และหุ้นธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ปรับตัวลง 0.5%
อย่างไรก็ตาม หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดตัวขึ้น 1.5% หลังจากราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเบรนท์ของอังกฤษพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันทำการ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ข่าวมูดีส์หั่นเครดิตปท.ยูโรโซน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปร่วง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 07:45:14 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 6 ประเทศในยูโรโซน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะลุกลามรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในกรอบแคบๆ เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีที่ฟื้นตัวขึ้นในเดือนก.พ.
ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 0.2% แตะที่ 262.56 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง 10.28 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 6,728.19 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง 8.91 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 3,375.64 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดอ่อนลง 5.83 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 5,899.87 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงมาอยู่ที่ A3 จาก A2 ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือของสเปนถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ A3 จาก A1 และโปรตุเกสถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ Ba3 จาก Ba2 พร้อมกับปรับลดอันดับเครดิตของมอลต้า สโลเวเนีย และสโลวาเกีย ลงมา 1 ขั้น โดยระบุว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจมหภาคในระดับที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสถาบัน (ZEW) ของเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนพุ่งขึ้น 27 จุด แตะที่ 5.4 จุดในเดือนก.พ. หลังจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมาตัวเลขอยู่ที่ระดับ -21.6 จุด
หุ้น ThyssenKrupp ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของเยอรมี ร่วงลง 3.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4
ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นริโอทินโตปิดลบ 3.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 0.5% หลังจากราคาโลหะพื้นฐานปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม หุ้นโนเกียพุ่งขึ้น 2.1% และหุ้นลอรีอัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางค์รายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้น 3.8%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนครั้งถัดไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.พ. หลังจากที่รัฐมนตรีคลังได้ยกเลิกแผนการที่จะจัดประชุมรอบพิเศษในวันพุธนี้ และตัดสินใจหารือกันทางโทรศัพท์แทน เพื่อหารือเรื่องแผนช่วยเหลือกรีซ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: เงินเยนอ่อนหนุนนิกเกอิเปิดบวก 56.77 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 07:54:09 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดบวก 56.77 จุด แตะ 9,108.84 จุดในวันนี้ (15 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศขยายโครงการซื้อสินทรัพย์เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคาร
สกุลเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากบีโอเจประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ด้วยการขยายโครงการซื้อสินทรัพย์จากสถาบันการเงินภายในประเทศอีก 10 ล้านล้านเยน เป็น 65 ล้านล้านเยน โดยมีเป้าหมายที่จะหนุนสภาพคล่องในระบบการเงินและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 146
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: วิตกปัญหาหนี้กรีซฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 97.33 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 06:34:40 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) โดยดาวโจนส์ทำสถิติปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.เป็นต้นมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากมีรายงานว่ารัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนได้ประกาศเลื่อนการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือรอบสองสำหรับกรีซ ซึ่งอาจจะทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นแอปเปิล อิงค์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 97.33 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 12,780.95 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 7.27 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 1,343.23 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 16.00 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 2,915.83 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนจะยังคงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนต่อไป และจีนยังคงเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโร และในความสามารถของประเทศสมาชิกยูโรโซนในการแก้ไขปัญหาหนี้ของตนเองได้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนในช่วงแรกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.พ.ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 19.53 จุด จากระดับ 13.48 จุดในเดือนม.ค. สูงกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 15.0 จุด และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2553
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตลาดก็เริ่มอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลว่ากรีซอาจจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือรอบที่สอง หลังจากนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ปเปิดเผยว่า รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการในประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) แต่ได้ลดระดับการประชุมป็นเพียงแค่การประชุมทางโทรศัพท์ และได้เลื่อนการประชุมอย่างเป็นทางการออกไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. เนื่องจากผู้นำพรรคการเมืองของกรีซยังไม่ได้ท่าทีว่าจะดำเนินการตามเงื่อนไขของยูโรกรุ๊ป
ทั้งนี้ ยูโรกรุ๊ปได้เรียกร้องเงื่อนไข 3 ข้อจากกรีซ โดยเงื่อนไขแรกคือ รัฐสภากรีซควรจะอนุมัติมาตรการที่เป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างกรีซและกลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) สหภาพยุโรป (อียู) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่วนเงื่อนไขที่ 2 คือ รัฐบาลกรีซต้องเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างเพิ่มเติม เพื่อลดการใช้จ่ายมูลค่า 325 ล้านยูโรในปี 2556 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่ากรีซสามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณ และเงื่อนไขที่ 3 คือ กรีซต้องรับประกันว่าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 3 พรรคจะสนับสนุนมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการซื้อขายที่ผันผวนอย่างหนักของหุ้นแอปเปิล อิงค์ โดยหุ้นแอปเปิลปิดตลาดร่วงลง 2.3% ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวที่ว่า แอปเปิลได้ขอให้อเมซอนซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ ยุติการขายผลิตภัณฑ์ iPad ในประเทศจีน เนื่องจากอเมซอนไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตให้ขาย iPad ในจีนหรือในสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม หุ้นเคลล็อกก์ พุ่งขึ้น 5.1% หุ้นไดมอน ฟู๊ดส์ ดีดตัวขึ้น 5.2% หลังจากบริษัทพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี) เปิดเผยว่า พีแอนด์จีจะยกเลิกดีลการขายธุรกิจขนมขบเคี้ยว "พริงเกิลส์" ให้กับไดมอน ฟู๊ดส์ แต่จะขายธุรกิจดังกล่าวให้กับเคลล็อกก์แทน เป็นวงเงิน 2.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นพีแอนด์จีปิดบวก 0.1%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 7.71 จุดหลังยูโรโซนเลื่อนช่วยเหลือกรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 07:42:58 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) หลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนได้ประกาศเลื่อนการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือรอบสองสำหรับกรีซ อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากการที่จีนส่งสัญญาณว่าจะสนับสนุนยูโรโซน
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5892.16 จุด ลบ 7.71 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงอย่างหนักหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการในประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) ออกไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. แต่หลังจากนั้นแรงกดดันในตลาดเริ่มลดน้อยลงเมื่อนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนจะยังคงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนต่อไป พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโรโซน
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นธนาคารเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดีดขึ้น 2.9%
หุ้นมอร์แกน ครูซิเบิล ทะยานขึ้น 8.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 4 มูลค่า 73 ล้านปอนด์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 70 ล้านปอนด์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกรับข่าวจีนส่งสัญญาณอุ้มยูโรโซน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 08:03:37 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าจีนจะยื่นมือช่วยเหลือยูโรโซนในการกู้วิกฤตหนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทบีเอ็นพี พาริบาส์ และไฮเนเกนส์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.6% ปิดที่ 264.16 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้น 29.75 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 6,757.94 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 14.71 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 3,390.35 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนจะยังคงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนต่อไป พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่า จีนและประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงบราซิลและอินเดีย กำลังรอเวลาที่เหมาะสมในการให้ความช่วยเหลือยูโรโซน นอกจากนี้ จีนยังได้แสดงความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโรและยังมั่นใจว่ายูโรโซนจะสามารถแก้ปัญหาหนี้สาธารณะได้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่ภาวะการซื้อขายค่อนข้างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน หลังจากสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลง 0.3% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2552 ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวลง 0.2% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2554
หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 4.1% หลังจากธนาคารเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 4 ลดลงมาอยู่ที่ 765 ล้านยูโร แต่ตัวเลขดังกล่าวยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นโซซิเอเต เจเนอรัล (ซอคเจน) พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นธนาคาร HSBC พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นธนาคารบังคา มอนเต เดอ ปาชี เดอ เซียนา ทะยานขึ้น 11% และหุ้นธนาคารยูนิเครดิตพุ่งขึ้น 2.2%
หุ้นไฮเนเกนซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก พุ่งขึ้น 3.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีในปี 2554 พุ่งขึ้น 2.8% สู่ระดับ 2.7 พันล้านยูโร พร้อมกับเปิดเผยเป้าหมายการลดต้นทุนในปีนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดลบ 27.96 จุดหลังดาวโจนส์ร่วง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 08:10:27 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดปรับตัวลง 27.96 จุด แตะที่ 9,232.38 จุดในวันนี้ (16 ก.พ.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นโตเกียวช่วงเช้านี้ด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ยังได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นโตเกียวด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 97.33 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 12,780.95 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนได้ประกาศเลื่อนการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือรอบสองสำหรับกรีซ ซึ่งอาจจะทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนหน้า
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 06:34:40 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) โดยดาวโจนส์ทำสถิติปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.เป็นต้นมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากมีรายงานว่ารัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนได้ประกาศเลื่อนการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือรอบสองสำหรับกรีซ ซึ่งอาจจะทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นแอปเปิล อิงค์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 97.33 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 12,780.95 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 7.27 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 1,343.23 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 16.00 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 2,915.83 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนจะยังคงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนต่อไป และจีนยังคงเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโร และในความสามารถของประเทศสมาชิกยูโรโซนในการแก้ไขปัญหาหนี้ของตนเองได้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนในช่วงแรกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.พ.ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 19.53 จุด จากระดับ 13.48 จุดในเดือนม.ค. สูงกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 15.0 จุด และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2553
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตลาดก็เริ่มอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลว่ากรีซอาจจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือรอบที่สอง หลังจากนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ปเปิดเผยว่า รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการในประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) แต่ได้ลดระดับการประชุมป็นเพียงแค่การประชุมทางโทรศัพท์ และได้เลื่อนการประชุมอย่างเป็นทางการออกไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. เนื่องจากผู้นำพรรคการเมืองของกรีซยังไม่ได้ท่าทีว่าจะดำเนินการตามเงื่อนไขของยูโรกรุ๊ป
ทั้งนี้ ยูโรกรุ๊ปได้เรียกร้องเงื่อนไข 3 ข้อจากกรีซ โดยเงื่อนไขแรกคือ รัฐสภากรีซควรจะอนุมัติมาตรการที่เป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างกรีซและกลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) สหภาพยุโรป (อียู) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่วนเงื่อนไขที่ 2 คือ รัฐบาลกรีซต้องเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างเพิ่มเติม เพื่อลดการใช้จ่ายมูลค่า 325 ล้านยูโรในปี 2556 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่ากรีซสามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณ และเงื่อนไขที่ 3 คือ กรีซต้องรับประกันว่าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 3 พรรคจะสนับสนุนมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการซื้อขายที่ผันผวนอย่างหนักของหุ้นแอปเปิล อิงค์ โดยหุ้นแอปเปิลปิดตลาดร่วงลง 2.3% ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวที่ว่า แอปเปิลได้ขอให้อเมซอนซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ ยุติการขายผลิตภัณฑ์ iPad ในประเทศจีน เนื่องจากอเมซอนไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตให้ขาย iPad ในจีนหรือในสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม หุ้นเคลล็อกก์ พุ่งขึ้น 5.1% หุ้นไดมอน ฟู๊ดส์ ดีดตัวขึ้น 5.2% หลังจากบริษัทพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี) เปิดเผยว่า พีแอนด์จีจะยกเลิกดีลการขายธุรกิจขนมขบเคี้ยว "พริงเกิลส์" ให้กับไดมอน ฟู๊ดส์ แต่จะขายธุรกิจดังกล่าวให้กับเคลล็อกก์แทน เป็นวงเงิน 2.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นพีแอนด์จีปิดบวก 0.1%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 7.71 จุดหลังยูโรโซนเลื่อนช่วยเหลือกรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 07:42:58 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) หลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนได้ประกาศเลื่อนการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือรอบสองสำหรับกรีซ อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากการที่จีนส่งสัญญาณว่าจะสนับสนุนยูโรโซน
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5892.16 จุด ลบ 7.71 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงอย่างหนักหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการในประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) ออกไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. แต่หลังจากนั้นแรงกดดันในตลาดเริ่มลดน้อยลงเมื่อนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนจะยังคงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนต่อไป พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโรโซน
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นธนาคารเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดีดขึ้น 2.9%
หุ้นมอร์แกน ครูซิเบิล ทะยานขึ้น 8.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 4 มูลค่า 73 ล้านปอนด์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 70 ล้านปอนด์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกรับข่าวจีนส่งสัญญาณอุ้มยูโรโซน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 08:03:37 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าจีนจะยื่นมือช่วยเหลือยูโรโซนในการกู้วิกฤตหนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทบีเอ็นพี พาริบาส์ และไฮเนเกนส์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.6% ปิดที่ 264.16 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้น 29.75 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 6,757.94 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 14.71 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 3,390.35 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนจะยังคงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนต่อไป พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่า จีนและประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงบราซิลและอินเดีย กำลังรอเวลาที่เหมาะสมในการให้ความช่วยเหลือยูโรโซน นอกจากนี้ จีนยังได้แสดงความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโรและยังมั่นใจว่ายูโรโซนจะสามารถแก้ปัญหาหนี้สาธารณะได้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่ภาวะการซื้อขายค่อนข้างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน หลังจากสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลง 0.3% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2552 ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวลง 0.2% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2554
หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 4.1% หลังจากธนาคารเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 4 ลดลงมาอยู่ที่ 765 ล้านยูโร แต่ตัวเลขดังกล่าวยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นโซซิเอเต เจเนอรัล (ซอคเจน) พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นธนาคาร HSBC พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นธนาคารบังคา มอนเต เดอ ปาชี เดอ เซียนา ทะยานขึ้น 11% และหุ้นธนาคารยูนิเครดิตพุ่งขึ้น 2.2%
หุ้นไฮเนเกนซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก พุ่งขึ้น 3.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีในปี 2554 พุ่งขึ้น 2.8% สู่ระดับ 2.7 พันล้านยูโร พร้อมกับเปิดเผยเป้าหมายการลดต้นทุนในปีนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดลบ 27.96 จุดหลังดาวโจนส์ร่วง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 08:10:27 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดปรับตัวลง 27.96 จุด แตะที่ 9,232.38 จุดในวันนี้ (16 ก.พ.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นโตเกียวช่วงเช้านี้ด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ยังได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นโตเกียวด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 97.33 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 12,780.95 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนได้ประกาศเลื่อนการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือรอบสองสำหรับกรีซ ซึ่งอาจจะทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนหน้า
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 147
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 123.13 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 06:38:00 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี และตัวเลขสร้างบ้านที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางหลายแห่งในประเทศยูโรโซนจะช่วยแบกภาระหนี้สินของกรีซผ่านการทำธุรกรรมสว็อปหนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 123.13 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 12,904.08 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 14.81 จุด หรือ 1.10% ปิดที่ 1,358.04 จุด ดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 44.02 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 2,959.85 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นตั้งแต่เปิดทำการซื้อขาย หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ. ร่วงลง 13,000 ราย แตะที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี และเปิดเผยตัวเลขการสร้างบ้านเดือนม.ค.ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.699 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 0.675 ล้านยูนิต
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางหลายแห่งในยุโรป รวมทั้งธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตรียมช่วยรับภาระหนี้สินของกรีซผ่านการทำธุรกรรมสว็อปหนี้ หรือการยอมรับการปรับลดมูลค่าพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางเหล่านั้นถือครองอยู่ โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และเพื่อไม่ให้วิกฤตหนี้ลุกลามเป็นวงกว้าง
ราคาหุ้นทะยานขึ้นเกือบทั่วทั้งกระดาน โดยหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดถึง 9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรปี 2554 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.6 พันล้านดอลลาร์
หุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้น 4.1% ปิดที่ 31.29 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554 ขณะที่หุ้นอเมซอนดิ่งลง 2.5% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นแม้มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงมอร์แกน สแตนลีย์ และโกลด์แมน แซคส์ ก็ตาม โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 4% และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดตัวขึ้น 1.2%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 0.3% นอกจากนี้ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค. เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น 0.5%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกปัญหาหนี้กรีซ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 6.78 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 07:48:24 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า หลังจากรัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้เลื่อนการตัดสินใจที่จะให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สอง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ดัชนี FTSE 100 ขยับลง 6.78 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 5,885.38 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงอย่างหนักหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการในประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านยูโรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า
แต่ตลาดสามารถดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันและปิดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ. ร่วงลง 13,000 ราย แตะที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
หุ้นบีเออี ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายยุทธปัจจัยทางทหารรายใหญ่สุดของยุโรป ร่วงลง 2.3% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่า ตลาดในอุตสาหกรรมประเภทดังกล่าวจะชะลอตัวลงในปีนี้ ขณะที่หุ้นแอฟริกัน แบร์ริค โกลด์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองทองคำในแทนซาเนีย ดิ่งลง 14% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 4 ร่วงลง 33%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังมูดีส์ขู่หั่นเครดิตแบงก์ชั้นนำ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 08:03:29 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงธนาคารของยุโรป อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ดัชนี Euro Stoxx 50 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 2,489.35 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีขยับลง 5.98 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 6,751.96 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 2.90 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 3,393.25 จุด ดัชนี FTSE 100 ลดลง 6.78 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 5,885.38 จุด
มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงธนาคารยูบีเอส เอจี, เครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี, มอร์แกน สแตนลีย์, โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป, ดอยช์ แบงก์ เอจี, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, ซิตี้กรุ๊ป, ธนาคารบาร์เคลย์ส, บีเอ็นพี พาริบาส์, เครดิต อากริโคล, เอชเอสบีซี โฮลดิงส์, แมคควอรี กรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา, รอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ และโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน)
ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการในประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านยูโรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ. ร่วงลง 13,000 ราย แตะที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นธนาคารบังโค ซานตานเดร์ ของสเปน ดิ่งลง 2.6% หุ้นธนาคารบังโค บิลบาว วิซคายา อาร์เจนตาเรีย ร่วงลง 4.1% และหุ้นบังเกีย ร่วงลง 7.3%
หุ้นแอ็กซ่า ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ร่วงลง 1.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรร่วงลงอย่างหนัก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิพุ่ง 165.63 จุดเช้านี้ รับข้อมูลศก.สหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 08:16:08 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวทะยานขึ้น 165.63 จุด หรือ 1.79% แตะที่ 9,403.73 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (17 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่น หลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 123.13 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 12,904.08 จุดเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ. ร่วงลง 13,000 ราย แตะที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี และตัวเลขการสร้างบ้านเดือนม.ค.ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.699 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 0.675 ล้านยูนิต
ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น หลังจากสกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 06:38:00 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี และตัวเลขสร้างบ้านที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางหลายแห่งในประเทศยูโรโซนจะช่วยแบกภาระหนี้สินของกรีซผ่านการทำธุรกรรมสว็อปหนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 123.13 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 12,904.08 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 14.81 จุด หรือ 1.10% ปิดที่ 1,358.04 จุด ดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 44.02 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 2,959.85 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นตั้งแต่เปิดทำการซื้อขาย หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ. ร่วงลง 13,000 ราย แตะที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี และเปิดเผยตัวเลขการสร้างบ้านเดือนม.ค.ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.699 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 0.675 ล้านยูนิต
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางหลายแห่งในยุโรป รวมทั้งธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตรียมช่วยรับภาระหนี้สินของกรีซผ่านการทำธุรกรรมสว็อปหนี้ หรือการยอมรับการปรับลดมูลค่าพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางเหล่านั้นถือครองอยู่ โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และเพื่อไม่ให้วิกฤตหนี้ลุกลามเป็นวงกว้าง
ราคาหุ้นทะยานขึ้นเกือบทั่วทั้งกระดาน โดยหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดถึง 9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรปี 2554 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.6 พันล้านดอลลาร์
หุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้น 4.1% ปิดที่ 31.29 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554 ขณะที่หุ้นอเมซอนดิ่งลง 2.5% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นแม้มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงมอร์แกน สแตนลีย์ และโกลด์แมน แซคส์ ก็ตาม โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 4% และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดตัวขึ้น 1.2%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 0.3% นอกจากนี้ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค. เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น 0.5%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกปัญหาหนี้กรีซ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 6.78 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 07:48:24 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า หลังจากรัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้เลื่อนการตัดสินใจที่จะให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สอง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ดัชนี FTSE 100 ขยับลง 6.78 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 5,885.38 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงอย่างหนักหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการในประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านยูโรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า
แต่ตลาดสามารถดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันและปิดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ. ร่วงลง 13,000 ราย แตะที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
หุ้นบีเออี ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายยุทธปัจจัยทางทหารรายใหญ่สุดของยุโรป ร่วงลง 2.3% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่า ตลาดในอุตสาหกรรมประเภทดังกล่าวจะชะลอตัวลงในปีนี้ ขณะที่หุ้นแอฟริกัน แบร์ริค โกลด์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองทองคำในแทนซาเนีย ดิ่งลง 14% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 4 ร่วงลง 33%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังมูดีส์ขู่หั่นเครดิตแบงก์ชั้นนำ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 08:03:29 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงธนาคารของยุโรป อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ดัชนี Euro Stoxx 50 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 2,489.35 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีขยับลง 5.98 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 6,751.96 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 2.90 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 3,393.25 จุด ดัชนี FTSE 100 ลดลง 6.78 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 5,885.38 จุด
มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงธนาคารยูบีเอส เอจี, เครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี, มอร์แกน สแตนลีย์, โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป, ดอยช์ แบงก์ เอจี, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, ซิตี้กรุ๊ป, ธนาคารบาร์เคลย์ส, บีเอ็นพี พาริบาส์, เครดิต อากริโคล, เอชเอสบีซี โฮลดิงส์, แมคควอรี กรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา, รอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ และโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน)
ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการในประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านยูโรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ. ร่วงลง 13,000 ราย แตะที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นธนาคารบังโค ซานตานเดร์ ของสเปน ดิ่งลง 2.6% หุ้นธนาคารบังโค บิลบาว วิซคายา อาร์เจนตาเรีย ร่วงลง 4.1% และหุ้นบังเกีย ร่วงลง 7.3%
หุ้นแอ็กซ่า ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ร่วงลง 1.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรร่วงลงอย่างหนัก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิพุ่ง 165.63 จุดเช้านี้ รับข้อมูลศก.สหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 08:16:08 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวทะยานขึ้น 165.63 จุด หรือ 1.79% แตะที่ 9,403.73 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (17 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่น หลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 123.13 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 12,904.08 จุดเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ. ร่วงลง 13,000 ราย แตะที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี และตัวเลขการสร้างบ้านเดือนม.ค.ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.699 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 0.675 ล้านยูนิต
ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น หลังจากสกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้
โพสต์ที่ 148
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก 45 จุด ขณะรอข้อตกลงกรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 06:04:43 น.
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทางชัดเจนเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ในขณะที่นักลงทุนรอคอยข้อตกลงหนี้กรีซขั้นสุดท้ายอย่างระมัดระวัง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กบวก 45.79 จุด หรือ 0.35% มาที่ 12,949.87 จุด ดัชนีสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) 500 บวก 3.19 จุด หรือ 0.23% มาที่ 1,361.23 จุด และดัชนี Nasdaq ลบ 8.07 จุด หรือ 0.27% มาที่ 2,951.78 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทัศนะแง่บวกเพิ่มขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางต่างๆในยูโรโซนตกลงที่จะสว็อปพันธบัตรกรีซที่ถือครองอยู่กับพันธบัตรชุดใหม่ โดยได้มีการคาดกันในวงกว้างว่า กรีซจะได้รับความช่วยเหลือรอบ 2 ในสัปดาห์หน้า เมื่อรมว.คลังยุโรปประชุมกันในวันจันทร์ เพื่อหารือข้อเสนอปฏิรูปเศรษฐกิจล่าสุด แต่นักลงทุนยังระมัดระวังก่อนที่จะมีการบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้าย โดยจำเป็นต้องมีการอนุมัติดังกล่าว เพื่อที่ว่ากรีซจะได้รับความช่วยเหลือหลายพันล้านยูโร เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่ยุ่งเหยิงเมื่อถึงกำหนดชำระคืนหนี้ 1.45 หมื่นล้านยูโรในวันที่ 20 มี.ค.
ในด้านข้อมูลเศรษฐกิจนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับขึ้น 0.2% ในเดือนม.ค. โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ปรับขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อย
ทั้งนี้ ตลาดการเงินสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ เนื่องในวันประธานาธิบดี และจะเริ่มการซื้อขายอีกครั้งในวันอังคาร
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน:ฟุตซี่บวก 19 จุด คาดใกล้บรรลุข้อตกลงช่วยกรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 08:36:44 น.
ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน ในขณะที่นักลงทุนคาดว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลอาจจะใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงสำหรับกรีซและเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 บวก 19.69 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 5,905.07 จุด โดยบวกขึ้นต่อเนื่องจากการปรับตัวขึ้น 0.9% ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางทัศนะแง่บวกที่ว่า กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด
หุ้นกลุ่มธนาคารนำโดยเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ดึงดัชนี FTSE 100 ขึ้น หุ้นแองโกล อเมริกันเดินหน้า 1.1% หลังจากที่รายงานผลประกอบการที่สูงเกินคาด
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวขึ้นและค่าครองชีพเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ ดัชนีแนวโน้มช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าของ Conference Board เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. หลังการเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนธ.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับขึ้น 0.2% ในเดือน
ม.ค. หลังจากที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เฉลี่ยที่ 0.3% ของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยบลูมเบิร์ก
ยอดค้าปลีกของอังกฤษเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนม.ค. ในขณะการลดราคาของร้านขายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าครัวเรือนดึงดูดลูกค้า โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า ยอดขายซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนธ.ค. เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น 0.6% โดยก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์คาดถึงการลดลง 0.3% จากประมาณเฉลี่ยในการสำรวจ
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ทะยาน 3.2% หุ้นบาร์เคลย์สบวก 1.4% และหุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป บวก 3.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากคาดการณ์กรีซรับความช่วยเหลือ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 06:38:27 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ก.พ.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า รัฐมนตรีคลังยูโรโซนจะบรรลุข้อตกลงเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซ
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6848.03 จุด พุ่งขึ้น 96.07 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3439.62 จุด บวก 46.37 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5905.07 จุด บวก 19.69 จุด
นักลงทุนจับตาดูรมว.คลังยูโรโซนจะประชุมเพื่ออนุมัติมาตรการช่วยเหลือกรีซวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโรในวันจันทร์ ซึ่งมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่ากรีซอาจจะได้รับเงินช่วยเหลือครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า
หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นโซซิเอเต เจเนอรัล (ซอคเจน) หุ้นบังโค ซานตานเดร์ และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุด
หุ้นแองโกล อเมริกัน ซึ่งเป้นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ พุ่งขึ้น 1.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในปี 2554 และยังได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลในปีดังกล่าวด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยชั้นนำระดับโลกเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% แตะ 94.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2551 และทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ต่อเนื่องจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนธ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดพุ่ง 149.86 จุด หลังเงินเยนอ่อน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 07:52:11 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดพุ่งขึ้น 149.86 จุด แตะที่ 9,534.03 จุดในวันนี้ (20 ก.พ.) โดยนิกเกอิทะยานขึ้นเหนือระดับ 9,500 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนครึ่ง เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น หลังจากสกุลเงินเยนอ่อนค่าลง
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกทะยานขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเที่ยบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 06:04:43 น.
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทางชัดเจนเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ในขณะที่นักลงทุนรอคอยข้อตกลงหนี้กรีซขั้นสุดท้ายอย่างระมัดระวัง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กบวก 45.79 จุด หรือ 0.35% มาที่ 12,949.87 จุด ดัชนีสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) 500 บวก 3.19 จุด หรือ 0.23% มาที่ 1,361.23 จุด และดัชนี Nasdaq ลบ 8.07 จุด หรือ 0.27% มาที่ 2,951.78 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทัศนะแง่บวกเพิ่มขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางต่างๆในยูโรโซนตกลงที่จะสว็อปพันธบัตรกรีซที่ถือครองอยู่กับพันธบัตรชุดใหม่ โดยได้มีการคาดกันในวงกว้างว่า กรีซจะได้รับความช่วยเหลือรอบ 2 ในสัปดาห์หน้า เมื่อรมว.คลังยุโรปประชุมกันในวันจันทร์ เพื่อหารือข้อเสนอปฏิรูปเศรษฐกิจล่าสุด แต่นักลงทุนยังระมัดระวังก่อนที่จะมีการบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้าย โดยจำเป็นต้องมีการอนุมัติดังกล่าว เพื่อที่ว่ากรีซจะได้รับความช่วยเหลือหลายพันล้านยูโร เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่ยุ่งเหยิงเมื่อถึงกำหนดชำระคืนหนี้ 1.45 หมื่นล้านยูโรในวันที่ 20 มี.ค.
ในด้านข้อมูลเศรษฐกิจนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับขึ้น 0.2% ในเดือนม.ค. โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ปรับขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อย
ทั้งนี้ ตลาดการเงินสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ เนื่องในวันประธานาธิบดี และจะเริ่มการซื้อขายอีกครั้งในวันอังคาร
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน:ฟุตซี่บวก 19 จุด คาดใกล้บรรลุข้อตกลงช่วยกรีซ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 08:36:44 น.
ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน ในขณะที่นักลงทุนคาดว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลอาจจะใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงสำหรับกรีซและเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 บวก 19.69 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 5,905.07 จุด โดยบวกขึ้นต่อเนื่องจากการปรับตัวขึ้น 0.9% ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางทัศนะแง่บวกที่ว่า กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด
หุ้นกลุ่มธนาคารนำโดยเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ดึงดัชนี FTSE 100 ขึ้น หุ้นแองโกล อเมริกันเดินหน้า 1.1% หลังจากที่รายงานผลประกอบการที่สูงเกินคาด
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวขึ้นและค่าครองชีพเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ ดัชนีแนวโน้มช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าของ Conference Board เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. หลังการเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนธ.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับขึ้น 0.2% ในเดือน
ม.ค. หลังจากที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เฉลี่ยที่ 0.3% ของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยบลูมเบิร์ก
ยอดค้าปลีกของอังกฤษเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนม.ค. ในขณะการลดราคาของร้านขายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าครัวเรือนดึงดูดลูกค้า โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า ยอดขายซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนธ.ค. เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น 0.6% โดยก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์คาดถึงการลดลง 0.3% จากประมาณเฉลี่ยในการสำรวจ
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ทะยาน 3.2% หุ้นบาร์เคลย์สบวก 1.4% และหุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป บวก 3.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากคาดการณ์กรีซรับความช่วยเหลือ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 06:38:27 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ก.พ.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า รัฐมนตรีคลังยูโรโซนจะบรรลุข้อตกลงเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซ
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6848.03 จุด พุ่งขึ้น 96.07 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3439.62 จุด บวก 46.37 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5905.07 จุด บวก 19.69 จุด
นักลงทุนจับตาดูรมว.คลังยูโรโซนจะประชุมเพื่ออนุมัติมาตรการช่วยเหลือกรีซวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโรในวันจันทร์ ซึ่งมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่ากรีซอาจจะได้รับเงินช่วยเหลือครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า
หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นโซซิเอเต เจเนอรัล (ซอคเจน) หุ้นบังโค ซานตานเดร์ และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุด
หุ้นแองโกล อเมริกัน ซึ่งเป้นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ พุ่งขึ้น 1.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในปี 2554 และยังได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลในปีดังกล่าวด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยชั้นนำระดับโลกเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% แตะ 94.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2551 และทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ต่อเนื่องจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนธ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดพุ่ง 149.86 จุด หลังเงินเยนอ่อน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 07:52:11 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดพุ่งขึ้น 149.86 จุด แตะที่ 9,534.03 จุดในวันนี้ (20 ก.พ.) โดยนิกเกอิทะยานขึ้นเหนือระดับ 9,500 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนครึ่ง เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น หลังจากสกุลเงินเยนอ่อนค่าลง
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกทะยานขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเที่ยบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้