บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 121

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2554 09:13:19 น.
รัฐสภากรีซลงมติด้วยคะแนนเสียง 154 ต่อ 144 ให้การรับรองมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ เพื่อแลกกับเงินกู้เบิกจ่ายจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยการลงมติรับรองมาตรการดังกล่าวมีขึ้นแม้ประชาชนออกมาประท้วงอย่างรุนแรงในกรุงเอเธนส์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน

มาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ครอบคลุมถึงการลดการใช้จ่าย การลดค่าแรง การขึ้นภาษี ปลดข้าราชการพลเรือนหลายพันคน และปรับเปลี่ยนสิทธิในการต่อรองด้านแรงงานในบางกรณี

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การลงมติรับรองมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่มีขึ้นท่ามกลางการประท้วงรุนแรงบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา จนนำไปสู่การปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุมประท้วง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 74 คน
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 122

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2554 15:43:21 น.
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เผยฝรั่งเศสมีแนวโน้มว่าจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ ขณะที่สเปน อิตาลี ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส ก็น่าจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 1 หรือ 2 ขั้น หากเศรษฐกิจขยายตัวในระดับต่ำและเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำ

นักวิเคราะห์จาก S&P กล่าวว่า ยอดขาดดุลงบประมาณและต้นทุนการเพิ่มทุนของธนาคารจำนวนมหาศาล มีแนวโน้มว่าจะทำให้รัฐบาลต้องกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของประเทศร่วงลงอย่างหนัก

S&P ระบุว่า การลงทุนภาคอุตสาหกรรมและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยซ้ำ ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Tier-1 ratio) ของธนาคาร 20 แห่ง

ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง เป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งทางการเงิน
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 123

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2554 16:54:56 น.
ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือนในเดือนตุลาคม เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปย่ำแย่ลงทำให้มีความเสี่ยงสูงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

สถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจซึ่งได้จากการสำรวจผู้บริหาร 7,000 ราย ร่วงลงสู่ระดับ 106.4 จุดในเดือนตุลาคม จากระดับ 107.4 จุดในเดือนกันยายน โดยตัวเลขล่าสุดถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553

ขณะเดียวกันดัชนีสภาพการณ์ปัจจุบันลดลงสู่ระดับ 116.7 จุด จาก 117.9 จุด ส่วนดัชนีความคาดหวังของผู้บริหารขยับลงแตะ 97 จุด จาก 97.9 จุด

โดยก่อนหน้านี้ เพิ่งมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีซึ่งร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีในเดือนตุลาคม ขณะที่ดัชนี DAX ของเยอรมนีร่วงลง 21% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
J.Livermore
Verified User
โพสต์: 144
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 124

โพสต์

ผมว่าครั้งนี้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจไม่เลวร้ายเท่าเลห์แมน เพราะตอนนั้น เป็นเศรษฐกิจฟองสบู่ ขนาดหนี้ที่ต้องตัดสูญก็เยอะกว่า แต่ครั้งนี้ ปัญหา คือ EU เป็นการรวมกันของหลายประเทศ การแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบบที่ US เคยทำ ไม่เกิดขึ้น และยิ่งลากปัญหาไปนาน ผลเสียยิ่งขยายวง เพราะ วิกฤติหนี้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความเชื่อมั่น ยิ่งคนไม่เชื่อมั่น วิกฤติยิ่งรุนแรง ถ้าสร้างความเชื่อมั่นได้ วิกฤติกก็เบาบางลง หรือ อย่างน้อยก็ยื้อต่อไปได้ เหมือนกับที่ผ่านๆมา
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 125

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2554 09:19:23 น.
ในวันเสาร์ที่ผ่านมา บรรดารัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป (อียู) เห็นพ้องต้องกันว่า ต้องใช้เงินสูงสุด 1 แสนล้านยูโรในการเพิ่มทุนให้กับธนาคารยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้กรีซ และคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงอย่างเป็นทางการในเรื่องดังกล่าวในการประชุมสุดยอดผู้นำอียูวันอาทิตย์นี้

อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินดังกล่าวน้อยกว่าจำนวนเงินที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องแบบครึ่งต่อครึ่ง

ทั้งนี้ อียูกำลังพยายามช่วยธนาคารรายใหญ่ในยูโรโซนในการเพิ่มอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเป็น 9% หรือสูงกว่านั้นภายใน 6-9 เดือน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 126

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2554 09:40:21 น.
ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) แสดงความเชื่อมั่นเมื่อวานนี้ว่า จะสามารถมีการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนแบบเบ็ดเสร็จเพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้ภายในวันพุธ ขณะที่การประชุมสุดยอดสภายุโรปเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

นายเฮอร์แมน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรปปฏิเสธความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่างฝรั่งเศส-เยอรมนี โดยกล่าวว่า "ผมเห็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสและนายกรัฐมนตรีเยอรมนีมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกัน และร่วมมือกับสมาชิกอื่นๆของยูโรโซน เพื่อแก้วิกฤตหนี้"

นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนีกล่าวว่า "เรากำลังเตรียมการประชุมในวันพุธ ยังไม่มีการตัดสินใจในขณะนี้ จะมีการตัดสินใจในวันพุธ"

ในขณะเดียวกัน นางแมร์เคลเปรยว่า จำเป็นต้องมีการดำเนินมาตรการมากขึ้น หลังการประชุมในวันพุธ

"การประชุมวันพุธจะไม่ใช่ขั้นตอนสุดท้าย มีอีกหลายขั้นตอนที่เราจำเป็นต้องดำเนินการ การเพิ่มทุนธนาคารเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่สิ่งที่สมเหตุสมผล หากไม่มีแผนที่เหมาะสมสำหรับกรีซ" นางแมร์เคลกล่าว

ขณะที่ยังไม่มีผลที่สำคัญในการแก้วิกฤตหนี้ในขณะนี้ แต่กลุ่มประเทศอียูได้บรรลุข้อตกลงในการเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจระยะยาว

ข้อสรุปส่วนใหญ่ที่มีการเปิดเผยหลังการประชุมสุดยอดผู้นำอียูมุ่งไปที่มาตรการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้รวมถึงการใช้ประโยชน์จากตลาดเดียว, การลดภาระในการบริหารจัดการ และการลดภาระด้านกฎระเบียบโดยรวม และประเด็นอื่นๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 127

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 09:18:13 น.
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ในภาคอุตสาหกรรมของเขตยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น

รายงานของยูโรสแตทระบุว่า หากไม่นับรวมหมวดอุปกรณ์เรือบรรทุกสินค้า รถไฟ และ อากาศยาน ซึ่งมีแนวโน้มผันผวนสูง ยอดสั่งซื้อใหม่ในเขตยูโรโซนจะเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนสิงหาคม


หากเปรียบเทียบเป็นรายเดือน ยอดสั่งซื้อใหม่สำหรับสินค้าทุนจะเพิ่มขึ้นอย่างมากที่ 2.7% ในเดือนสิงหาคม ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าไม่คงทนเพิ่มขึ้น 1.2% ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.8% และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในระดับปานกลางเพิ่มขึ้น 1.1%

ในการเปรียบเทียบเป็นรายปี ยอดสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนสิงหาคม

สำหรับกลุ่มประเทศสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ ยอดคำสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน

ในบรรดาประเทศสมาชิกทั้งหมดที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้ ยอดการผลิตและสั่งซื้อเพิ่มขึ้นใน 15 ประเทศ และลดลงใน 7 ประเทศ เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยประเทศที่มียอดเพิ่มขึ้นสูงที่สุดได้แก่ สโลวัค ที่ 12.6% และยอดการผลิตและสั่งซื้อที่ลดลงมากที่สุดได้แก่ เดนมาร์ก ที่ 8.0% สำนักข่าวซินหัวรายงาน
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 128

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 09:18:13 น.
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ในภาคอุตสาหกรรมของเขตยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น

รายงานของยูโรสแตทระบุว่า หากไม่นับรวมหมวดอุปกรณ์เรือบรรทุกสินค้า รถไฟ และ อากาศยาน ซึ่งมีแนวโน้มผันผวนสูง ยอดสั่งซื้อใหม่ในเขตยูโรโซนจะเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนสิงหาคม


หากเปรียบเทียบเป็นรายเดือน ยอดสั่งซื้อใหม่สำหรับสินค้าทุนจะเพิ่มขึ้นอย่างมากที่ 2.7% ในเดือนสิงหาคม ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าไม่คงทนเพิ่มขึ้น 1.2% ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.8% และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในระดับปานกลางเพิ่มขึ้น 1.1%

ในการเปรียบเทียบเป็นรายปี ยอดสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนสิงหาคม

สำหรับกลุ่มประเทศสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ ยอดคำสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน

ในบรรดาประเทศสมาชิกทั้งหมดที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้ ยอดการผลิตและสั่งซื้อเพิ่มขึ้นใน 15 ประเทศ และลดลงใน 7 ประเทศ เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยประเทศที่มียอดเพิ่มขึ้นสูงที่สุดได้แก่ สโลวัค ที่ 12.6% และยอดการผลิตและสั่งซื้อที่ลดลงมากที่สุดได้แก่ เดนมาร์ก ที่ 8.0% สำนักข่าวซินหัวรายงาน
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 129

โพสต์

chom13 เขียน:ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 09:18:13 น.
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ในภาคอุตสาหกรรมของเขตยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น

รายงานของยูโรสแตทระบุว่า หากไม่นับรวมหมวดอุปกรณ์เรือบรรทุกสินค้า รถไฟ และ อากาศยาน ซึ่งมีแนวโน้มผันผวนสูง ยอดสั่งซื้อใหม่ในเขตยูโรโซนจะเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนสิงหาคม


หากเปรียบเทียบเป็นรายเดือน ยอดสั่งซื้อใหม่สำหรับสินค้าทุนจะเพิ่มขึ้นอย่างมากที่ 2.7% ในเดือนสิงหาคม ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าไม่คงทนเพิ่มขึ้น 1.2% ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.8% และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในระดับปานกลางเพิ่มขึ้น 1.1%

ในการเปรียบเทียบเป็นรายปี ยอดสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนสิงหาคม

สำหรับกลุ่มประเทศสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ ยอดคำสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน

ในบรรดาประเทศสมาชิกทั้งหมดที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้ ยอดการผลิตและสั่งซื้อเพิ่มขึ้นใน 15 ประเทศ และลดลงใน 7 ประเทศ เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยประเทศที่มียอดเพิ่มขึ้นสูงที่สุดได้แก่ สโลวัค ที่ 12.6% และยอดการผลิตและสั่งซื้อที่ลดลงมากที่สุดได้แก่ เดนมาร์ก ที่ 8.0% สำนักข่าวซินหัวรายงาน
ขอโทษครับส่งซ้ำ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 130

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 16:38:07 น.
ผลการสำรวจของ Dfk พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคล่วงหน้าของเยอรมนี ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ถึงแม้ว่าความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจะยังคงเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สถาบันวิจัย Gfk ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นล่วงหน้าสำหรับเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นสู่ 5.3 จุด จาก 5.2 จุด ในเดือนตุลาคม

นอกจากนี้ Gfk ระบุเพิ่มเติมว่า ผู้บริโภคยังมีมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากเกี่ยวกับรายได้และมีความเต็มใจที่จะซื้อ เนื่องจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำและเงินเดือนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 131

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 16:45:19 น.
นายหยาง เจียฉือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า จีนสนับสนุนความพยายามของสหภาพยุโรป (อียู) ในการจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะ และหวังว่าอียูจะใช้มาตรการเป็นที่รูปธรรมในการฟื้นความมั่นใจในตลาด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหยางแสดงความเห็นดังกล่าวระหว่างที่พบกับนางแคเธอรีน แอชตัน ผู้แทนระดับสูงด้านกิจการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงของอียู ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้วย

นายหยางกล่าวว่า จีนและอียูควรจะขยายความร่วมมือในทางปฏิบัติให้กว้างและลึกยิ่งขึ้น เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็มีเป้าหมายและยุทธศาสตร์การพัฒนาที่คล้ายคลึงหรือเหมือนกัน

นอกจากนี้นายหยางยังบอกด้วยว่า จีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอียู และสนับสนุนความพยายามของอียูในการจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะ

ขณะที่นางแอชตันกล่าวว่า อียูกำลังหารือว่าจะแก้วิกฤตหนี้อย่างไร พร้อมกล่าวขอบคุณจีนที่เข้าใจและคอยสนับสนุน พร้อมกับย้ำว่า อียูให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่ายอย่างจริงจัง

นางแอชตันยังกล่าวด้วยว่า อียูชื่นชมความสำเร็จของจีน และพร้อมจะให้ความร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลกและส่งเสริมการพัฒนาพื้นฐาน
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 132

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 ตุลาคม 2554 07:00:13 น.
สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) โดยในระหว่างวันนั้น ยูโรดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากรมว.คลังกลุ่มยูโรโซนได้ยกเลิกการประชุมในวันนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า ผู้นำยุโรปจะยังไม่สามารถสรุปมาตรการขั้นเด็ดขาดในการแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะได้

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3924 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3925 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6014 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5990 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.25% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 75.890 เยน จากระดับ 76.080 เยน และดิ่งลง 0.33% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8778 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8807 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0457 ดอลลาร์สหรัฐ 1.0469 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.33% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7968 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8075 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ในระหว่างวัน หลังจากรมว.คลังกลุ่มยูโรโซนได้ยกเลิกการประชุมในวันนี้ แม้กลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ยังคงเดินหน้าจัดการประชุมตามกำหนดการก็ตาม ซึ่งความเคลื่อนไหวในด้านลบเช่นนี้ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นว่าที่ประชุมอียูจะสามารถสรุปมาตรการขั้นเด็ดขาดในการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปได้

อย่างไรก็ตาม ยูโรสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดได้ หลังจาก GfK เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนีปรับขึ้นสู่ระดับ 5.3 จุดสำหรับเดือนพ.ย. จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 5.2 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 5.1 จุด โดย GfK ได้จัดทำดัชนีความเชื่อมั่นด้วยการสุ่มสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคชาวเยอรมัน 2,000 คน

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 39.8 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2551 เนื่องจากผู้บริโภควิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ส่วนค่าเงินฟรังค์สวิสอ่อนตัวลงหลังจากนายฟิลิปป์ ฮิลเดอบรานด์ ประธานธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์คาดว่า ค่าเงินฟรังค์สวิสจะค่อยๆอ่อนค่าลง จากระดับเฉลี่ยในปัจจุบันที่ 1.23 ฟรังก์สวิส/ยูโร

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.,ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 โดยมีการคาดการณ์ว่า จีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐจะขยายตัว 2.5% เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.3% ของไตรมาส 2

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 133

โพสต์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 ตุลาคม 2554 07:46:31 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 103.09 จุด หรือ 1.18% แตะที่ 8,659.22 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป และการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้

โบรกเกอร์กล่าวว่า ตลาดหุ้นโตเกียวได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า รมว.คลังกลุ่มยูโรโซนได้ยกเลิกการประชุมในวันนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าการประชุมสุดยอดผู้นำอียูซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ อาจจะไม่สามารถสรุปมาตรการขั้นเด็ดขาดในการแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรปได้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 134

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 ตุลาคม 2554 08:39:36 น.
การประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนซึ่งกำหนดจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันนี้ (26 ต.ค.) ได้ถูกยกเลิกแล้ว เนื่องจากรัฐมนตรีคลังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแผนการแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรป แต่การประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิมในวันนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยุโรป และการเพิ่มศักยภาพในการปล่อยกู้ของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)

อย่างไรก็ตาม การยกเลิกประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกว่า อาจจะทำให้ที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูในช่วงเย็นวันนี้ ไม่สามารถสรุปมาตรการขั้นเด็ดขาดในการแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรปได้

นอกจากนี้ ตลาดการเงินทั่วโลกยังได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวว่า เยอรมนีไม่เห็นด้วยกับข้อความที่ระบุในแถลงการณ์การประชุมสุดยอดผู้นำอียูที่ระบุว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ควรเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอต่อไปในตลาดรอง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 135

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 ตุลาคม 2554 12:14:00 น.
นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงเบอร์ลินว่า รัฐบาลของประเทศต่างๆในสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ควรตัดสินใจให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เข้ามามีบทบาทในการจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน

"เราต้องการให้อีซีบีแสดงออกอย่างชัดเจนมากกว่านี้ว่า อีซีบีต้องการอะไรจากมุมมองของตนเอง และจากนั้นเราจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว เราไม่ต้องการสร้างความเข้าใจผิดว่านักการเมืองคาดหวังบางสิ่งบางอย่างจากอีซีบี" นางแมร์เคลกล่าว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของนางแมร์เคลมีขึ้นหลังจากมีการเปิดเผยร่างแถลงการณ์การประชุมของอียูเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลอียูให้การสนับสนุนอีซีบี "อย่างเต็มที่" ให้เดินหน้าใช้ "มาตรการพิเศษ" เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคาในยูโรโซน

ผู้สื่อข่าวและตลาดเชื่อว่า "มาตรการพิเศษ" ดังกล่าวนั้น หมายถึงการที่อีซีบีเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศต่างๆที่ประสบปัญหาหนี้ในตลาดรอง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถูกมองว่าอาจจะสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของอีซีบีในระยะยาว

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น รัฐบาลของนางแมร์เคลได้ปกป้องความเป็นอิสระของอีซีบี โดยยืนกรานว่าอีซีบีไม่ควรถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับวิกฤตหนี้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 136

โพสต์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2554 06:47:22 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) ขานรับความคืบหน้าของการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) โดยมีรายงานว่าผู้นำยุโรปตกลงกันว่าจะกดดันธนาคารพาณิชย์ให้เพิ่มทุนมากขึ้นภายในเดือนมิ.ย.ปีหน้า เพื่อป้องกันการขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้กรีซ และข่าวที่ว่าเยอรมนีตกลงที่จะเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยกู้ให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดว่าผู้นำอียูจะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะได้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 162.42 จุด หรือ 1.39% แตะที่ 11,869.04 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 12.95 จุด หรือ 1.05% แตะที่ 1,242.00 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 12.25 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 2,650.67 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในขณะที่ผู้นำอียูกำลังประชุมกันอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์นั้น ก็มีรายงานความคืบหน้าออกมาเป็นระยะๆ รวมถึงข่าวที่ว่าผู้นำยุโรปตกลงกันว่าจะดันธนาคารพาณิชย์ให้เพิ่มทุนมากขึ้นภายในเดือนมิ.ย.ปีหน้า เพื่อป้องกันการขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้กรีซ และเพื่อพยายามที่จะควบคุมวิกฤติหนี้

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รัฐสภาเยอรมนีมีมติด้วยคะแนนเสียง 503 ต่อ 89 ให้เพิ่มขนาดของกองทุน EFSF ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยกู้ให้กับกองทุน และยังทำให้นักลงทุนเชือมั่นว่าที่ประชุมอียูจะสามารถตกลงกันในเรื่องดังกล่าวได้ ในระหว่างการประชุมครั้งนี้

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า จีนได้ตกลงที่จะให้การสนับสนุนกองทุน EFSF รวมทั้งรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง 1.7% ในเดือนก.ย.

หุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้นเกือบ 4.5% หลังจากโบอิ้งรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นอเมซอนร่วงลงกว่า 12% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 4

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 137

โพสต์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2554 07:48:42 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้น ก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ขณะที่มีข่าวความคืบหน้าว่าที่ประชุมพยายามที่จะใช้มาตรการควบคุมปัญหาหนี้ รวมถึงการผลักดันให้มีการเพิ่มทุนให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 27.70 จุด แตะที่ 5553.24 จุด
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมผู้นำอียูที่กรุงบรัสเซลส์ แต่ก็มีข่าวคืบหน้าว่าผู้นำอียูพยายามที่จะใช้มาตรการควบคุมปัญหาหนี้ รวมถึงการผลักดันให้มีการเพิ่มทุนให้กับกองทุน EFSF โดยหุ้นบีจี กรุ๊ปที่เป็นผู้ผลิตก๊าซพุ่งขึ้น 1.2% หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ซึ่งเป็นผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่อันดับสองของโลกพุ่งขึ้น 1.5% หลังจากทางบริษัทรายงานว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 7 % ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 138

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2554 09:43:29 น.
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ที่ประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปสามารถบรรลุข้อตกลงแก้ไขวิกฤตหนี้ได้ โดยประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส เผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมในกรุงบรัสเซลส์ว่า กองทุนกู้วิกฤตยูโรโซนจะขยายวงเงินเพิ่มเป็น 1 ล้านล้านยูโร (1.4 ล้านล้านดอลลาร์) ขณะที่แบงก์เอกชนซึ่งถือตราสารหนี้กรีซยอมที่จะปรับลดมูลค่าหนี้กรีซลง 50%

นายซาร์โกซีประเมินว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่รัฐบาลของประเทศต่างๆในยุโรปเห็นชอบมาตรการเพิ่มวงเงินค้ำประกันถึง 5 เท่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 139

โพสต์

เริ่มมีข่าวดีเข้ามาแล้วครับ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 140

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2554 12:17:21 น.
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ที่ประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปสามารถบรรลุข้อตกลงแก้ไขวิกฤตหนี้ได้ โดยประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส เผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมในกรุงบรัสเซลส์ว่า กองทุนกู้วิกฤตยูโรโซนจะขยายวงเงินเพิ่มเป็น 1 ล้านล้านยูโร (1.4 ล้านล้านดอลลาร์) ขณะที่แบงก์เอกชนซึ่งถือตราสารหนี้กรีซยอมที่จะปรับลดมูลค่าหนี้กรีซลง 50%

นายซาร์โกซีประเมินว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านล้านยูโร หลังจากที่รัฐบาลของประเทศต่างๆในยุโรปเห็นชอบมาตรการเพิ่มวงเงินค้ำประกันถึง 4-5 เท่า

ด้านนายเฮอร์แมน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรป กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมที่กินเวลานานตั้งแต่เย็นวันพุธมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ว่า เราสามารถตกลงกันเรื่องแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนให้กับกรีซได้แล้ว

ภายใต้ข้อตกลงที่การประชุมสุดยอดยูโรโซนนั้น กองทุนกู้วิกฤต EFSF วงเงิน 1 ล้านล้านยูโร จะพร้อมดำเนินการได้ภายในช่วงสิ้นปีนี้ เพื่อช่วยให้กรีซลดหนี้สาธารณะลงเหลือ 120% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในปี 2563

นายรอมปุยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวนั้น ความร่วมมือโดยสมัครใจของเจ้าหนี้เอกชนที่ปล่อยกู้ให้กับกรีซถือเป็นเรื่องที่จำเป็น ซึ่งภาคเอกชนที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลกรีซได้เห็นชอบที่จะปรับลดมูลค่าหนี้กรีซลง 50%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 141

โพสต์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2554 15:08:25 น.
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้พุ่งสูงขึ้น หลังจากที่ผู้นำสหภาพยุโรปเห็นชอบข้อตกลงในการคลี่คลายวิกฤตหนี้ที้เกิดขึ้นในภูมิภาค โดยให้มีการขยายกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป ขณะที่ภาคธนาคารยอมรับการปรับลดมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลกรีซลงเพื่อแลกเปลี่ยนกับการปรับโครงสร้างเงินทุน

หุ้นในตลาดลอนดอนดีดตัวขึ้น 1.9% ส่วนหุ้นในตลาดเยอรมนีพุ่ง 3.5% และตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดตัว 2.55

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 142

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2554 16:21:09 น.
บรรดาผู้นำทั้งในและนอกยุโรปต่างขานรับข้อตกลงครั้งสำคัญในที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ที่บรัสเซลส์ เพื่อจัดการวิกฤตหนี้สาธารณะในกรีซ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันนเดรอูของกรีซเรียกข้อตกลงฉบับใหม่ ซึ่งเกิดขึ้นหลังการประชุมมาราธอนของสุดยอดผู้นำอียูนี้ว่าเป็น “ยุคใหม่ บทใหม่" ของกรีซ ซึ่งมีหนี้สินท่วมท้น

“จะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับเรา แต่ก็ยังคงต้องทำงานกันต่อไป" นายกฯกรีซกล่าว

สำหรับข้อตกลงดังกล่าวเป็นการหารือร่วมกันกับตัวแทนเจรจาจากธนาคาร โดยระบุว่า หนี้สินของกรีซ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 3.50 แสนล้านยูโร (4.90 แสนล้านดอลลาร์)นั้น คาดว่าจะลดลงไปได้ 1 แสนล้านยูโร (1.40 แสนล้านดอลลาร์) และอัตราส่วนหนี้สินต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะลดลงจาก 160% เหลือ 120% ภายในปี 2563

หลังเสร็จสิ้นการประชุม ซึ่งกินเวลามาตั้งแต่ช่วงเย็นวันพุธล่วงเข้าสู่เช้าวันพฤหัสบดี นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนีกล่าวว่า “ฉันคิดว่าเราจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และเราก็ได้ลงมือทำในเรื่องที่จำเป็นแล้ว"

ขณะที่ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีกล่าวว่า “เราได้นำองค์ประกอบจากมาตราการต่างๆมาปรับใช้เพื่อตอบโต้กับวิกฤตกำลังคืบคลานไปทั่วยูโรโซน"

ด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษแสดงความเห็นพ้องกันว่า “การเพิ่มเงินทุนให้กับธนาคารนั้นคืบหน้าไปอย่างดี ไม่ใช่แค่การประนีประนอม แต่พวกเราเห็นพ้องต้องกันเลยทีเดียว"

นายกรัฐมนตรีจูเลีย กิลลาร์ด ของออสเตรเลียขานรับข้อตกลงนี้เช่นกัน แต่เตือนว่าเศรษฐกิจโลกอาจผันผวนยิ่งขึ้นจนกว่าจะมีการนำแผนการไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 143

โพสต์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2554 09:43:30 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าพุ่งขึ้น 121.81 จุด หรือ 1.36% แตะที่ 9,048.35 จุดในวันนี้ (28 ต.ค.) โดยดชนีทะยานขึ้นเหนือระดับ 9,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลหลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป (อียู) ลงมติใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขนาดของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)


ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเกือบทุกกลุ่มจากทั้งหมด 33 กลุ่ม โดยหุ้นกลุ่มประกัน กลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า และกลุ่มสารสนเทศ พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุด ขณะที่หุ้นกลุ่มกระดาษและเยื่อกระดาษ กลุ่มขนส่งทางอากาศ กลุ่มไฟฟ้าและก๊าซ ปรับตัวลดลง

โบรกเกอร์กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 339.51 จุด หรือ 2.86% ปิดที่ 12,208.55 จุดเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูมีมติให้ใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะไม่ให้ลุกลามไปยังประเทศอื่นๆที่มีความสำคัญในเชิงระบบของยูโรโซน เช่นอิตาลี โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการเพิ่มขนาดให้กับกองทุน EFSF เป็น 1 ล้านล้านยูโร (1.37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) และปรับลดมูลค่าพันธบัตร หรือการทำ haircut ของรัฐบาลกรีซซึ่งถือครองโดยธนาคารเอกชนลงในสัดส่วน 50%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐขยายตัว 2.5% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัวเพียง 1.3%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 144

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2554 14:00:14 น.
นักวิเคราะห์มองว่า การประชุมสุดยอดยูโรโซนครั้งที่ 2 ซึ่งยืดเยื้อมาจนกระทั่งถึงเช้าวันพฤหัสบดีนั้น ถือเป็นอีกครั้งที่ผู้นำยุโรปไม่สามารถนำเสนอมาตรการกู้วิกฤตที่ชัดเจนและเด็ดขาดในการสกัดวิกฤตไม่ให้ลุกลามออกไปได้

ความหวังที่ว่า จีนและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ อาจจะเข้ามาช่วยกอบกู้วิกฤตนั้น ถือเป็นเรื่องเก่าที่นำมาเล่าใหม่ ในขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญบางรายแนะให้ระมัดระวัง เนื่องจากข้อตกลงจากการประชุมสุดยอดอาจจะเป็นการยัดเยียดข้อเสนอให้ประเทศเหล่านี้เข้าร่วมในมาตรการกู้วิกฤต มากกว่าที่จะเป็นเข้ามามีส่วนร่วมโดยสมัครใจ

ภายใต้แผนการที่ผู้นำยูโรโซนได้ให้ความเห็นชอบเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานั้น หนี้ของกรีซจะลดลง ขณะที่ธนาคารของยุโรปจะได้รับการปรับโครงสร้างเงินทุน และกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะมีวงเงินเพิ่มขึ้นเพื่อให้กองทุนมีศักยภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ใบสั่งยาที่ผู้นำยุโรปจ่ายมานี้ ดูเหมือนว่าจะก่อให้เกิดปัญหามากกว่าที่จะแก้ปัญหา

การลดมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลกรีซที่เจ้าหนี้ภาคเอกชนถือครองอยู่ลง 50% นั้น จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตอยู่แล้ว ดังนั้น จึงมีการคาดการณ์กันว่าผู้นำของยุโรปคงจะต้องมางัดข้อกันอีกในเรื่องรายละเอียดของการปรับโครงสร้างเงินทุน ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังไม่ได้มีการตัดสินใจ

การที่แต่ละฝ่ายยังคงลังเลและรีรอที่จะแบ่งปันทรัพยากรในส่วนของตนเพื่อแก้ปัญหานั้น ไม่เพียงแต่จะเป็นภัยคุกคามความอยู่รอดของยุโรปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจโลกโดยรวมด้วย ทั้งนี้ ยูโรโซนกำลังพิจารณาที่จะหันไปพึ่งเงินทุนจากจีนและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ ด้วยการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) ขึ้นมาแห่งหนึ่ง หรือมากกว่านั้น

การสร้างเสถียรภาพในยูโรโซนถือเป็นเรื่องของจีนด้วยเช่นกัน เนื่องจากยุโรปเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของจีน และจีนก็ได้แสดงความเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) จะมีปัญญาและความสามารถในการคลี่คลายวิกฤตได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม เซียง โหว นักวิจัยของสถาบันสังคมศาสตร์จีน (CASS) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยชั้นนำของประเทศ กล่าวว่า การที่จีนจะเสนอตัวเข้าช่วยหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับมาตรการกู้วิกฤตว่าเป็นเช่นไร

"จะเป็นอย่างไรถ้าหากมีการผิดนัดชำระหนี้ขึ้นในอนาคต หรือหากประเทศอื่นๆเผชิญวิกฤตซ้ำรอยกรีซ ผู้คนจำนวนมากก็คงจะตั้งคำถามทำไมเราจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงเช่นนี้ด้วย" นายเซียงกล่าว "กุญแจที่จะแก้ไขวิกฤตหนี้และเส้นชีวิตของเศรษฐกิจยุโรปนั้น อยู่ในกำมือของยุโรปเอง มากกว่าที่จะอยู่ในกำมือของจีน"

เขากล่าวต่อไปว่า คงจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้หากปล่อยให้ประเทศกำลังพัฒนาอย่างจีนมาคอยตามล้างตามเช็ด ในขณะที่ยุโรปนั่งอยู่เฉยๆ "มันก็เหมือนกับการที่ใครคนหนึ่งทำให้เกิดรูขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วต้องขอให้อีกคนเข้าอุดรูโหว่นั้น"

ในระยะสั้นนั้น ยูโรโซนจะต้องสรุปแผนการที่ชัดเจนกว่านี้ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน และป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้ลุกลามออกไปอีก สำหรับในระยะยาว "ยูโรโซนควรจะจัดระเบียบภายในบ้านของตัวเองด้วยการปฏิรูปแม้ว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดก็ตาม รวมทั้งใช้นโยบายการเงินและการคลังอย่างรับผิดชอบ" นายเซียงกล่าว

ในขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์ของยุโรปบางรายก็มองว่า ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ควรจะเข้ามาช่วยเหลือ เพราะการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวที่เปราะบางของเศรษฐกิจโลก

ฟาเบียน ซูลีก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของศูนย์นโยบายยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยที่ตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ กล่าวกับซินหัวผ่านทางอีเมลว่า ประเทศในกลุ่ม BRICS ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้นั้น ควรจะมองในระยะยาว รวมถึงซื้อพันธบัตรและเข้าลงทุนในประเทศเหล่านี้

ซูลีกกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกไม่สมควรจะได้รับความบอบช้ำจากภาคการเงินอีกแล้วในช่วงเวลานี้ นอกจากนี้ กองทุนความมั่งคั่งก็มีเงินทุนจำนวนมหาศาลที่จะลงทุนในทางเลือกที่มีอยู่ไม่มากนักในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม เซียงกล่าวว่า การตัดสินใจเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ลำบาก และนักลงทุนก็ต้องการความเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ตัวเองลงทุนไปนั้นปลอดภัย และให้ผลตอบแทนกลับคืนมา

จาง เจิงฟู จากสำนักข่าวซินหัวรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 145

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2554 16:43:06 น.
สำนักงานสถิติแห่งชาติสเปนเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของประเทศขยายตัวขึ้นแตะ 21.5% ในไตรมาสสาม เทียบกับระดับ 20.9% ในไตรมาสสอง ซึ่งตัวเลขล่าสุดถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี และสูงสุดในบรรดากลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร

ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติรายงานว่า ราคาผู้บริโภคของสเปนขยายตัว 3% ในเดือนต.ค. จากปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัว 3% ในเดือนก.ย.

ทั้งนี้ รัฐบาลสเปนได้ใช้มาตรการรัดเข็มขัดจนส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลคาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ระดับ 1.3% ส่วนหนี้สินของประเทศ คาดว่าจะขยายตัวขึ้นแตะ 67% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งสูงกว่าระดับหนี้สินในปี 2550 ถึงเกือบ 2 เท่า

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 146

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2554 16:43:06 น.
สำนักงานสถิติแห่งชาติสเปนเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของประเทศขยายตัวขึ้นแตะ 21.5% ในไตรมาสสาม เทียบกับระดับ 20.9% ในไตรมาสสอง ซึ่งตัวเลขล่าสุดถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี และสูงสุดในบรรดากลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร

ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติรายงานว่า ราคาผู้บริโภคของสเปนขยายตัว 3% ในเดือนต.ค. จากปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัว 3% ในเดือนก.ย.

ทั้งนี้ รัฐบาลสเปนได้ใช้มาตรการรัดเข็มขัดจนส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลคาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ระดับ 1.3% ส่วนหนี้สินของประเทศ คาดว่าจะขยายตัวขึ้นแตะ 67% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งสูงกว่าระดับหนี้สินในปี 2550 ถึงเกือบ 2 เท่า

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 147

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2554 09:02:28 น.
สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) หลังจากที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยยูโรได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลพันธัตรได้น้อยเกินคาด ซึ่งข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข้อตกลงการใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้ของผู้นำสหภาพยุโรป


ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.20% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4161 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4190 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ขยับขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6113 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6102 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.30% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 75.720 เยน จากระดับ 75.950 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.31% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8623 ฟรังค์ จากระดับ 0.8596 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0713 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0727 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.02% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8225 ดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อวันพฤหับดีที่ผ่านมา สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแข็งแกร่งกว่า 2% หลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูมีมติให้ใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขนาดให้กับกองทุน EFSF เป็น 1 ล้านล้านยูโร (1.37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) และปรับลดมูลค่าพันธบัตร หรือการทำ haircut ของรัฐบาลกรีซซึ่งถือครองโดยธนาคารเอกชนลงในสัดส่วน 50%

แต่ยูโรอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลพันธัตรได้น้อยเกินคาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อรายงานของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ระบุว่า ปริมาณการปล่อยกู้ให้กับภาคเอกชนในยูโรโซนมีอัตราการเติบโตทรงตัวที่ 2.5 % ต่อปี สู่ระดับ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ระดับ 2.6% ต่อปี และคาดว่าริมาณการปล่อยกู้อาจลดลงอีกในขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัว

ค่าเงินเยนถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากนายจุน อาซุมิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่าจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินเตรา หากสกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นจนถึงระดับที่จะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายอาซุมิกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงโตเกียวเมื่อวานนี้ว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์-เยน ควรเปลี่ยนแปลงตามเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นจากภาวะชะลอตัว พร้อมกับเตือนว่าอาจมีการแทรกแซงตลาดเพื่อทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง

"สถานการณ์ในสหรัฐดูเหมือนจะดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ ดังนั้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศควรเปลี่ยนแปลงตามเศรษฐกิจที่แท้จริง เราจะจับตาดูตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิด และรัฐบาลจะเข้าแทรกแซงเมื่อถึงคราวจำเป็นจริงๆ" เขากล่าว

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากธอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 60.9 จุด จากระดับ 59.4 ของเดือนก.ย. ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า รายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.6%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 148

โพสต์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2554 07:10:41 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) มีมติใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขนาดของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถแก้ไขวิกฤตหนี้ได้หรือไม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 22.56 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 12,231.11 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.49 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 1,285.08 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 1.48 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 2,737.15 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 4.4 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วนเกือบ 1 ต่อ 1

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูมีมติให้ใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะไม่ให้ลุกลามไปยังประเทศอื่นๆที่มีความสำคัญในเชิงระบบของยูโรโซน เช่นอิตาลี โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการเพิ่มขนาดให้กับกองทุน EFSF เป็น 1 ล้านล้านยูโร (1.37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) และปรับลดมูลค่าพันธบัตร หรือการทำ haircut ของรัฐบาลกรีซซึ่งถือครองโดยธนาคารเอกชนลงในสัดส่วน 50%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวในเดือนส.ค. เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดการใช้จ่ายด้านสินค้าคงทน รวมถึงรถยนต์ ส่วนรายได้ส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. หลังจากที่ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า กองทุน EFSF จะมีศักยภาพมากพอที่จะควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะได้ นอกจากนี้ ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลีที่ปรับตัวสูงขึ้น ยังทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินของประเทศยูโรโซนมากขึ้นด้วย

หุ้นเวิร์ลพูล คอร์ป ร่วงลง 14% หลังจากบริษัทประกาศลดการจ้างงาน 5,000 ตำแหน่ง ขณะที่หุ้นเคเบิลเทเลวิชัน ซิสเต็มส์ คอร์ป ร่วงลง 12.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิร่วงลงอย่างหนักในไตรมาส 3

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 149

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2554 08:11:53 น.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขยายตัวได้ดีเกินคาด และหลังจากที่ประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) มีมติใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้


สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลบ 50 เซนต์ หรือ 0.03% แตะที่ 1,747.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 17.6 เซนต์ ปิดที่ 35.288 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.4 เซนต์ ปิดที่ 3.706 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 668.35 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 10.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,651.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในตลาดว่า นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำหลังจากที่กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มลดน้อยลง หลังจากธอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 60.9 จุด จากระดับ 59.4 ของเดือนก.ย. ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า รายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.6%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียู ลงมติใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขนาดของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และการเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น

โพสต์ที่ 150

โพสต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2554 10:11:52 น.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคล (PCE) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนส.ค.ถึง 3 เท่า เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดการใช้จ่ายสินค้าคงทน รวมถึงรถยนต์ และยอดการใช้จ่ายของสินค้าที่ไม่คงทน รวมถึงอาหาร ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น หลังจากเศรษฐกิจส่งสัญญาณการฟื้นตัว

ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. ส่วนอัตราการออมเดือนก.ย.ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2550 จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 4.5%

ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลและรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.บ่งชี้ถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นของสหรัฐ โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ขยายตัว 2.5% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบหนึ่งปี

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวดีเริ่มเข้ามาเรื่อยๆแล้วครับ :D