ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 11:33 pm
โอ้ พระเจ้า
ผมไม่ค่อยได้เข้ามาสักเท่าไรอะนะครับ
แต่พอเหนการเติบโตของกระทู้นี้ก็ตกใจมาก
ไม่นึกว่าจะมีคนโพสเรื่อยๆขนาดนี้
ยังไงผมขอบอกในมุมมองของผมบ้างนะครับ
ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายอาจจะดีสำหรับคน30%
แต่อาจจะไม่ดีกับคนอีก70%เหมือนกับการศึกษาน่ะครับ
คือถ้าคน30%แล้วมาถามผมว่าคนที่เหลือนั้นโง่รึเปล่า?
ผมคงตอบว่าไม่หรอกเค้าไม่โง่เลย แต่สิ่งที่เค้าเรียนนั้น
มันไม่เหมาะกับเค้าเท่านั้นเอง
เหมือนกับธุรกิจเครือข่ายเช่นกันที่ต้องมีคนที่เหมาะและไม่เหมาะ
เนื่องจากโอกาศของแต่ละคนนั้นมีเท่ากัน
แต่ประสบการณ์และมุมมองของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน
ทำให้คนมีความแตกต่างกัน และมีสิ่งที่ถนัดแตกต่างกัน
ถ้าผมถามทุกคนนะครับว่า ถ้าเราไม่เคยเล่นหุ่น ไม่เคยมองอสังหาริทรัพย์
ไม่รู้ว่าทองซื้อเพื่ออะไร ไม่เคยเจอธุรกิจเครือข่าย
และไม่เคยเห็นโอกาสทางธุรกิจอื่นๆที่มีอยู๋
วันธรรมดาของคุนก็คงผ่านไปอย่างธรรมดาเหมือนคนทั่วไป
แต่วันนี้คุณเจอทุกอย่าง รู้จักเกือบทั่งหมด และมีประสบการณ์กับมัน
ทำให้คุณมีความสามารถที่จะเลือกไงครับ
เลือกสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดและมองว่ามันเหมาะกับคุณรึเปล่า
ผมมองว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นโอกาสหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ไม่ว่ามันจะทำได้หรือไม่ก็ตามแต่ แต่มันทำให้ผมมองโลกกว้างขึ้น
(อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้จักธุรกิจหรือสิ่งที่เรียกว่าแผนการตลาดของบริษัทใหญ่ๆละนะ)
และทำให้ผมเข้าใจถึงมุมมองอีกมุมมองหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับเพื่อนและเงิน
มันเป็นมุมมองง่ายๆครับคือ ผมมองว่าธุรกิจเครือข่าย
เป็นธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกิจอื่นตรงที่ว่ามันเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับคน
เกือบจะเรียกได้ว่า100%เลยทีเดียวดังนั้น
มันจึงเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะผมมองว่าเรื่องงธุรกิจกับเพื่อน
มันไม่น่าจะไปด้วยกันได้เลย ผมขอยกตัวอย่าง่ายที่สุดเลยนะครับ
ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ คือผมเชื่อนะครับว่าคนส่วนใหญในที่นี้ต้องเคยให้เพื่อนยืมเงิน
ผมอยากถามว่าขอคืนง่ายไหมครับ? ถ้าคืนง่ายก็ดีแล้วคนที่ทวงยากละ
ก็ตื้อทวงสิใช้ไหมครับแล้วถ้าตื้อทวงมากๆเพื่อนมันมันด่าไหมครับ?
เงินแค่นี้ทวงไรนักหนาว่ะ? ประโยคคุ้นเคยสำหรับหลายคนเลยทีเดียวที่เป็น
ควิกแคชทั้งที่กระเป๋าแบนต้องทวงตังเพื่อนคืน น่าเศร้านะครับ?
แล้วทั้งหมดมันเกี่ยวกับธุรกิจยังไง ขอให้มองนะครับว่าการกูยืมเงินก็เป็นธุรกิจ
ประเภทหนึ่งถ้าคุณยังไม่สามารถให้เพื่อนยืมเงินและทวงเพื่อนคุนได้โดยสวัสดิภาพแล้วละก็
ลองมองดูนะครับว่าคุณจะทำธุรกิจกับเพื่อนคุณยังไงไม่ให้เพื่อนคุณเกลียด
มันอาจจะต้องลองมองอะไรหลายๆอย่างคิดอะไรหลายๆอย่างถ้าจะทำ
ผมมองว่าคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณต้องการอะไรจากมันคุณถึงจะทำมัน
เพราะถ้าคุณทำธุรกิจเป็นผมว่านอกจากจะเสียเพื่อนแล้วมันอาจจะได้เพื่อนก็ได้
เพราะว่ามันลำบากมาด้วยกัน เหนื่อยมาด้วยกัน(คิดสภาพว่าเปิดร้านอะไรสัก
อย่างกับเพื่อนแล้วพยายามด้วยกันทั้งคู่และก็ไม่โกงกันมีปัญหาก็พูดกัน)
แต่ถ้าคุณทำไม่เป็นล่ะก็คุณคงไม่เสียแค่เพื่อนละผมว่ายิ่งสำหรับธุรกิจเครือข่ายแล้ว
ผมเชื่อว่าคุณจะต้องเสียทุกคนที่คุณรู้จักเลยทีเดียว
เพราะไม่ว่าคุณจะคุยกับใครทำอะไรก็แตกดังโพละ(ดั่งเช่นการทำธุรกิจกับ
เพื่อนแล้วต่างคนต่างอิจฉาต่างคนต่างโกงมานคงไม่เหลืออะไรนอกจาก...
เสียเพื่อน หรือเสียเงินและเสียอะไรอีกหลายอย่าง)
ที่ผมเขียนมาตั้งมากมายเพื่ออะไรครับ ผมอยากจะบอกว่าธุรกิจเครือข่ายก็คือ
ธุรกิจๆหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับคนและคนๆนั้นไม่ใช้ใครอื่นคือเพื่อนคุณคนที่คุณ
รู้จักดังนั้นผมขอพูดเลยละกันว่ามันไม่ใช้เรื่องง่ายๆที่แค่เสียเงินแล้วจะทำกันได้
แต่ยังไงเสียผมเชื่อนะครับว่าคนที่จริงจังกับสิ่งที่ชอบต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
ไม่ว่าจะเปนเรื่องหุ่น หรือการลงทุนใดๆก็ตามแต่
ปล.สิ่งที่ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายแตกต่างจากธุรกิจอื่นคือ
ความเป็นผู้นำ คนที่จะทำมันให้ถึงจุดสูงสุดได้ผมเชื่อว่าคนๆนั้นต้องมีความเป็นผู้นำสูงมาก
กล่าวคือเขาต้องนำพาผู้ที่ทำงานร่วมกับเขาฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้
ดังนั้นถ้าผมจะทำธุรกิจชนิดนี้กับใคร
ผมจะเลือกคนที่มีความคิดและความเป็นผู้นำสูงมากพอที่จะทพให้ผมเคารพ
ในความคิดของเขาได้โดยไม่เอนเอียงหรือลังเล
เพราะธุรกิจนี้คือธรกิจของคนกับคนดังนั้นถ้าผมจะติดดตามใครผมขอติดตาม
คนที่ผมเชื่อในความคิดของเค้า
เชื่อในสิ่งที่เขาและมั่นใจในสิ่งที่เขาเป็น
จบแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
ปลอีกนิดนึง.ใครอ่านถึงตรงนี้ผมขอบคุณมากครับที่ฟังผมเพ้อจนจบ :D
ผมไม่ค่อยได้เข้ามาสักเท่าไรอะนะครับ
แต่พอเหนการเติบโตของกระทู้นี้ก็ตกใจมาก
ไม่นึกว่าจะมีคนโพสเรื่อยๆขนาดนี้
ยังไงผมขอบอกในมุมมองของผมบ้างนะครับ
ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายอาจจะดีสำหรับคน30%
แต่อาจจะไม่ดีกับคนอีก70%เหมือนกับการศึกษาน่ะครับ
คือถ้าคน30%แล้วมาถามผมว่าคนที่เหลือนั้นโง่รึเปล่า?
ผมคงตอบว่าไม่หรอกเค้าไม่โง่เลย แต่สิ่งที่เค้าเรียนนั้น
มันไม่เหมาะกับเค้าเท่านั้นเอง
เหมือนกับธุรกิจเครือข่ายเช่นกันที่ต้องมีคนที่เหมาะและไม่เหมาะ
เนื่องจากโอกาศของแต่ละคนนั้นมีเท่ากัน
แต่ประสบการณ์และมุมมองของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน
ทำให้คนมีความแตกต่างกัน และมีสิ่งที่ถนัดแตกต่างกัน
ถ้าผมถามทุกคนนะครับว่า ถ้าเราไม่เคยเล่นหุ่น ไม่เคยมองอสังหาริทรัพย์
ไม่รู้ว่าทองซื้อเพื่ออะไร ไม่เคยเจอธุรกิจเครือข่าย
และไม่เคยเห็นโอกาสทางธุรกิจอื่นๆที่มีอยู๋
วันธรรมดาของคุนก็คงผ่านไปอย่างธรรมดาเหมือนคนทั่วไป
แต่วันนี้คุณเจอทุกอย่าง รู้จักเกือบทั่งหมด และมีประสบการณ์กับมัน
ทำให้คุณมีความสามารถที่จะเลือกไงครับ
เลือกสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดและมองว่ามันเหมาะกับคุณรึเปล่า
ผมมองว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นโอกาสหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ไม่ว่ามันจะทำได้หรือไม่ก็ตามแต่ แต่มันทำให้ผมมองโลกกว้างขึ้น
(อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้จักธุรกิจหรือสิ่งที่เรียกว่าแผนการตลาดของบริษัทใหญ่ๆละนะ)
และทำให้ผมเข้าใจถึงมุมมองอีกมุมมองหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับเพื่อนและเงิน
มันเป็นมุมมองง่ายๆครับคือ ผมมองว่าธุรกิจเครือข่าย
เป็นธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกิจอื่นตรงที่ว่ามันเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับคน
เกือบจะเรียกได้ว่า100%เลยทีเดียวดังนั้น
มันจึงเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะผมมองว่าเรื่องงธุรกิจกับเพื่อน
มันไม่น่าจะไปด้วยกันได้เลย ผมขอยกตัวอย่าง่ายที่สุดเลยนะครับ
ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ คือผมเชื่อนะครับว่าคนส่วนใหญในที่นี้ต้องเคยให้เพื่อนยืมเงิน
ผมอยากถามว่าขอคืนง่ายไหมครับ? ถ้าคืนง่ายก็ดีแล้วคนที่ทวงยากละ
ก็ตื้อทวงสิใช้ไหมครับแล้วถ้าตื้อทวงมากๆเพื่อนมันมันด่าไหมครับ?
เงินแค่นี้ทวงไรนักหนาว่ะ? ประโยคคุ้นเคยสำหรับหลายคนเลยทีเดียวที่เป็น
ควิกแคชทั้งที่กระเป๋าแบนต้องทวงตังเพื่อนคืน น่าเศร้านะครับ?
แล้วทั้งหมดมันเกี่ยวกับธุรกิจยังไง ขอให้มองนะครับว่าการกูยืมเงินก็เป็นธุรกิจ
ประเภทหนึ่งถ้าคุณยังไม่สามารถให้เพื่อนยืมเงินและทวงเพื่อนคุนได้โดยสวัสดิภาพแล้วละก็
ลองมองดูนะครับว่าคุณจะทำธุรกิจกับเพื่อนคุณยังไงไม่ให้เพื่อนคุณเกลียด
มันอาจจะต้องลองมองอะไรหลายๆอย่างคิดอะไรหลายๆอย่างถ้าจะทำ
ผมมองว่าคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณต้องการอะไรจากมันคุณถึงจะทำมัน
เพราะถ้าคุณทำธุรกิจเป็นผมว่านอกจากจะเสียเพื่อนแล้วมันอาจจะได้เพื่อนก็ได้
เพราะว่ามันลำบากมาด้วยกัน เหนื่อยมาด้วยกัน(คิดสภาพว่าเปิดร้านอะไรสัก
อย่างกับเพื่อนแล้วพยายามด้วยกันทั้งคู่และก็ไม่โกงกันมีปัญหาก็พูดกัน)
แต่ถ้าคุณทำไม่เป็นล่ะก็คุณคงไม่เสียแค่เพื่อนละผมว่ายิ่งสำหรับธุรกิจเครือข่ายแล้ว
ผมเชื่อว่าคุณจะต้องเสียทุกคนที่คุณรู้จักเลยทีเดียว
เพราะไม่ว่าคุณจะคุยกับใครทำอะไรก็แตกดังโพละ(ดั่งเช่นการทำธุรกิจกับ
เพื่อนแล้วต่างคนต่างอิจฉาต่างคนต่างโกงมานคงไม่เหลืออะไรนอกจาก...
เสียเพื่อน หรือเสียเงินและเสียอะไรอีกหลายอย่าง)
ที่ผมเขียนมาตั้งมากมายเพื่ออะไรครับ ผมอยากจะบอกว่าธุรกิจเครือข่ายก็คือ
ธุรกิจๆหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับคนและคนๆนั้นไม่ใช้ใครอื่นคือเพื่อนคุณคนที่คุณ
รู้จักดังนั้นผมขอพูดเลยละกันว่ามันไม่ใช้เรื่องง่ายๆที่แค่เสียเงินแล้วจะทำกันได้
แต่ยังไงเสียผมเชื่อนะครับว่าคนที่จริงจังกับสิ่งที่ชอบต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
ไม่ว่าจะเปนเรื่องหุ่น หรือการลงทุนใดๆก็ตามแต่
ปล.สิ่งที่ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายแตกต่างจากธุรกิจอื่นคือ
ความเป็นผู้นำ คนที่จะทำมันให้ถึงจุดสูงสุดได้ผมเชื่อว่าคนๆนั้นต้องมีความเป็นผู้นำสูงมาก
กล่าวคือเขาต้องนำพาผู้ที่ทำงานร่วมกับเขาฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้
ดังนั้นถ้าผมจะทำธุรกิจชนิดนี้กับใคร
ผมจะเลือกคนที่มีความคิดและความเป็นผู้นำสูงมากพอที่จะทพให้ผมเคารพ
ในความคิดของเขาได้โดยไม่เอนเอียงหรือลังเล
เพราะธุรกิจนี้คือธรกิจของคนกับคนดังนั้นถ้าผมจะติดดตามใครผมขอติดตาม
คนที่ผมเชื่อในความคิดของเค้า
เชื่อในสิ่งที่เขาและมั่นใจในสิ่งที่เขาเป็น
จบแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
ปลอีกนิดนึง.ใครอ่านถึงตรงนี้ผมขอบคุณมากครับที่ฟังผมเพ้อจนจบ :D